ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] I'm Here! Always By Your Side [HunBaek,ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #15 : I'M HERE -13-

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 58




    { Winter Dark Theme }

    I’m Here -13-

     

     

    สำหรับเรื่องที่แพคฮยอนได้ไปเจอมา...ถามว่าเป็นเรื่องใหญ่มั๊ย

    ถ้าสำหรับใครคนอื่น คงมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

    แต่กับผู้ชายตัวเล็กๆคนนึง มันคงจะหนักหนาเกินไป...

     

    หัวใจยังไม่ทันพองโตเลย ก็โดนทุบจนมันแหลกหมดแล้ว

    ถามว่ายังรักพี่เซฮุนมั๊ย...

     

     

    รักสิ...

     

    รักทั้งๆที่มันเจ็บมากๆน่ะ หลายคนคงเข้าใจ

     

    “จะปรึกษาพี่ป๋ายเซียนดีรึเปล่านะ....”

    ร่างเล็กถอนหายใจก่อนจะพูดเบาๆในห้องนอน วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้เขาสามารถตื่นสายกี่โมงก็ได้ และแน่นอน อีกคนคงจะออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ

    มือเรียวสไลด์หน้าจอไปมาราวกับว่ากำลังตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ตั้งแต่ที่รู้ความจริงมา เขาก็ไม่เคยบอกใครเลยแม้แต่พี่ชายของตัวเอง แพคฮยอนไม่อยากให้พี่ป๋ายเซียนต้องมาเศร้ากับความรักของตัวเอง หลายสิ่งหลายอย่างที่เมื่อก่อนพี่ชายเคยช่วยเหลือตลอดมา แต่ครั้งนี้คงจะไม่มีใครช่วยได้

     

    รู้มากก็ใช่ว่าจะดี...

     

    มันจุกข้างใน อยากมีคนที่คอยระบายเรื่องราวให้ฟัง...อยากระบายความเศร้าให้ใครซักคนได้รับรู้

          




    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

    ‘BAMBAM is calling’

     

    เสียงรอสายดังขึ้น แพคฮยอนมองหน้าจอก็เห็นเพื่อนรักโทรมา เม้มริมฝีปากบางเล็กน้อยก่อนกดรับสายเสียงหงอยๆ

    “ฮัลโหล....แบมอ่า คือแพคฮยอนมีเรื่องจะปรึกษา เป็นความลับนะ.....คืองี้......อย่าไปบอกใครเลยนะ แพคฮยอนไม่อยากให้ใครรู้”

     

     

     

    ทุกเรื่องราวได้ถ่ายทอดให้บุคคลที่อยู่ปลายสายได้ฟัง คนตัวเล็กย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามบอกใคร อีกคนก็ได้แต่ตอบรับขันแข็งว่าจะให้เป็นความลับ...

     

    แพคฮยอนกำลังเครียด...

    ส่วนอีกคนได้แต่ยิ้มเยาะ...

     

     

     

     

    อีกด้านหนึ่ง วันหยุดทั้งที ป๋ายเซียนกำลังจัดห้องให้เรียบร้อยเนื่องจากทำรกมาทั้งอาทิตย์ เก็บนั่นเก็บนี่ให้เข้าที่เข้าทาง เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบความสะอาดอะไรมากมาย เวลากลับห้องมาก็เขี่ยๆเขวี้ยงๆข้าวของกองไว้มุมๆห้อง หนึ่งอาทิตย์ถึงจะมาเก็บกวาดที

    แน่นอนว่าเป็นแค่ผู้อาศัย มาทำให้ห้องรกแบบนี้ เจ้าของห้องต้องบ่นจนเบื่อเลยล่ะ

     

    “ทำความสะอาดเก็บของให้เข้าที่เลยนะป๋ายเซียน ไม่งั้นจะโดนดี อ้อ ฝากเก็บของให้พี่ด้วยนะ ต้องทำงานทุกวันเลยไม่มีเวลาเก็บ”

     

    นั่นคือคำสั่งทิ้งท้ายของเจ้าของห้องก่อนที่ชานยอลจะเก็บตัวเงียบเข้าไปในห้องทำงานตั้งแต่เขาตื่นนอน แถมโดนดีดแปะเข้าที่หน้าผากอีกหนึ่งทีเป็นการส่งท้าย เคยเถียงไปว่าทำไมไม่จ้างแม่บ้านมาทำ แต่พ่อคนตัวสูงก็บอกว่าอยากประหยัดตังค์ มาอยู่คอนโดเขาก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อย

     

    แกล้งกันชัดๆ....เขาอยู่บ้านที่จีนนะ ป๊ากับม๊ายังไม่เห็นรังแกกันขนาดนี้เลย TT

     

    ป๋ายเซียนได้แต่ถอนหายใจถือไม้ปัดฝุ่นปัดๆบนโต๊ะบนตู้เรื่อยๆ เก็บปากกาสมุดหนังสือกองเป็นตั้งๆแล้วจัดแยกใส่ในลิ้นชัก กองแล้วกองเล่าจนมันเริ่มสะอาดตา


    ดวงตารีเล็กเหลือบไปเห็นกีต้าร์ที่เจ้าของหวงนักหวงหนา มองไปยังประตูห้องทำงานที่ปิดสนิทก่อนจะเดินไปหยิบมันลงมาทำความสะอาด ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป อยากจะดีดเล่นฮัมเพลงเบาๆแต่ก็เกรงใจเจ้าของที่ดุอย่างกับจงอางหวงไข่



    คิดแล้วก็หันไปแยกเขี้ยวหมันไส้ให้พี่ชานยอลหนึ่งที

     


    “เช็ดๆถนอมหน่อยก็แล้วกัน เจ้าของหวงแกยิ่งกว่าอะไร”


    มือเล็กหยิบผ้ามาเช็ดกีต้าร์ปัดฝุ่นออกให้มันสะอาด ความจริงมันก็ไม่ได้เปื้อนอะไรมาก แต่ก็อยากทำความสะอาดให้มันดูใหม่อยู่ตลอดเวลาอยู่ดี

     

    อยู่ๆหางตาก็เหลือบไปเห็นตัวอักษรที่เขียนเอาไว้ข้างในตัวกีต้าร์....

     

    Always love BAEKHYUN

     

     

    BAEKHYUN ใครกัน.....

     

    คิ้วเรียวขมวดมุ่นสงสัยกับชื่อปริศนา นึกย้อนไปในวันแรกๆ พี่ชานยอลบอกว่ามีคนที่แอบชอบอยู่ คนๆนั้นคงจะชื่อแบคฮยอนล่ะมั้ง...

     

    เหอะ...บอกว่าจะขอจีบเขาแท้ๆ แล้วทำไมถึงดูแลของที่มีชื่อคนที่ตัวเองชอบตอนสมัยเรียนโน้นอย่างดีด้วยล่ะ มันหมายความว่ายังไงห๊า!!

     

    แล้วเราจะหงุดหงิดทำไม...ยังไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย

     

    แต่มันก็ไมแฟร์อ้ะ!!

     

    แต่ปัจจุบันเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับคนที่ชอบเมื่อก่อนโน้นแล้วนี่นา จะโมโหโวยวายอะไรเนี่ยป๋ายเซียน

     

    ร...รึว่าเราเองที่เป็นฝ่ายไปชอบพี่ชานยอลก่อน  โอ้ม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

     

    ทึ้งหัวตัวเองอยู่พักใหญ่ก็สงบสติตัวเองลง ยู่ปากทำท่าขัดใจถึงแม้อีกคนจะไม่เห็นก็ตาม เดินไปวางกีต้าร์ไว้บนตู้ตามเดินแล้วเดินกระทืบเท้าไปหยิบไม้ขนไก่ไปปัดฝุ่นบนตู้ถัดไปต่อ

     

     

    “อารมณ์เสียอะไรเนี่ย บ้าเอ้ย!

     

    เคร้ง!

     

    เพราะว่ากำลังโมโหอยู่เลยปัดไม้ขนไก่ไปโดนกล่องอะไรซักอย่างที่ตั้งอยู่บนตู้ตกลงมาบนพื้น กล่องกำมะหยี่สีแดงตกลงมาแล้วกระแทกพื้นห้องแล้วเปิดฝาออก สิ่งของมีลักษณะกลมๆกลิ้งหลุนๆออกมาจากกล่องแล้วกลิ้งหายลับเข้าไปพื้นตู้นั้น

    ทุกอย่างมันเกิดขี้นเพียงแค่เสี้ยววินาที มันทำให้ป๋ายเซียนเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ทัน ยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานหลายวินาที ก่อนจะทิ้งไม้ขนไก่ในมือแล้วก้มลงไปเก็บกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมาดู

     

    หงายฝากล่องขึ้นมาก็เจอกับ...ที่ใส่แหวนสองวง

    แหวนวงหนึ่งยังอยู่ที่เดิม ส่วนอีกวงนั้นกลิ้งเข้าพื้นตู้วางของไปแล้ว

     

    มันเป็นแหวนที่ดีไซน์เรียบๆนะ แต่ก็ดูหรูหราดี ข้างในแหวนสลักตัวอักษร CY เอาไว้ ขนาดแหวนใหญ่พอดู ถ้าให้เดาคงเป็นแหวนวงที่พี่ชานยอลใส่...

     

    จำใด้ว่าแหวนอีกวงที่กลิ้งตกลงไปมันเล็กกว่านี้...

     

    แหวนคู่....งั้นหรอ

     

    เฮ้อ...นอกจากวันนี้จะเจอกีต้าร์สารภาพรักแล้วยังจะต้องมาเจอแหวนคู่หวานแหววอะไรแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย เฟลจนไม่รู้จะเฟลยังไงแล้วอะ

     

    ป๋ายเซียนกรอกตาไปมาอย่างหน่ายใจก่อนจะก้มลงไปหาแหวนที่ตกอยู่ข้างใต้ตู้วางของ เอื้อมมือเข้าไปควานหาดูก็ไม่เจอ ก้มๆเงยๆหาจนในที่สุดก็เจอแหวนวงนั้น มันอยู่ข้างในสุดติดผนังห้องเลยทำให้ป๋ายเซียนเอื้อมมือเข้าไปไม่ถึง

     

    “เกลียดตัวเองแขนสั้นก็วันนี้ล่ะวะ....”

     

    พยายามอยู่นานก็ต้องยอมแพ้ คิดๆอยู่ว่าจะแอบปิดฝากล่องแหวนแล้วเอาไปเก็บไว้ที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีรึเปล่า แต่มันก็รู้สึกผิดที่ไปทำของเขาตกหายแล้วไม่เอาไปคืน ในที่สุดป๋ายเซียนก็ต้องเดินไปเคาะห้องทำงานของชานยอลให้ออกมาช่วยเก็บแหวน

     

    ก๊อกๆๆๆๆๆๆ

     

    “พี่ชานยอล ออกมาหน่อย”

     

    “มีอะไรหืม?”

     

    ชานยอลโผล่ออกมาพร้อมกับแว่นตาหนาเตอะที่เขาเอาไว้สำหรับใส่ทำงานโดยเฉพาะ ถึงแม้จะอยู่ภายใต้แว่นตาเฉิ่มๆแต่เขาก็ยังดูดี ไม่ได้แต่งหน้าออกไปไหนก็ยังหล่อ ทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่บนปกนิตยสารต่างๆก็ยิ่งน่าหลงไหลเข้าไปอีก ป๋ายเซียนแอบสงสัยว่าใช่คนรึว่าเทพบุตร!

     

    “คือ...ผมปัดกล่องแหวนของพี่ชานยอลตกลงมาแล้วแหวนมันกลิ้งเข้าไปใต้ตู้น่ะ ผมเอาออกมาไม่ได้”

     

    ได้ยินแบบนั้นชานยอลถึงกับถลึงตามองอย่างตกใจและรีบเดินยาวๆไปก้มๆเงยๆดูใต้ตู้ที่ป๋ายเซียนบอกทันที ความรู้สึกตอนที่คนตัวสูงเดินผ่านมันรู้สึกเย็นชาเหมือนตอนที่เขาแย่งกีต้าร์ไปจากเขาเลย มัน...รู้สึกเหมือนเขาเป็นตัวปัญหายังไงก็ไม่รู้

     

    “อยู่ไหนนะ...”

     

    “อยู่ติดผนังชิดๆริมขวาอะครับ...เอาออกมาได้รึเปล่า”

     

    ชานยอลเอื้อมมือเข้าไปใต้ตู้วางของควานๆดูตามตำแหน่งที่ป๋ายเซียนบอก เพราะว่าแขนยาวเลยเข้าไปได้ลึกกว่า ไม่นานก็เอาแหวนสีเงินวงเล็กออกมาได้ ใบหน้าคมยกยิ้มมุมปากน้อยๆก่อนจะเป่าฝุ่นที่ติดอยู่บนแหวนออก เช็ดๆมันเล็กน้อยอย่างทะนุถนอมก่อนจะนำมันไปวางคู่กันกับแหวนวงใหญ่ในกล่องเหมือนเดิม

     

    ในเมื่อแหวนวงใหญ่สลัก CY เอาไว้...

    แหวนวงเล็กก็สลักตัวอักษร BH เช่นกัน...

     

    BH … BAEKHYUN สินะ

     

     

    “แหวน...แหวนคู่กับคนที่ชอบหรอ คนที่เคยบอกน่ะพี่ชานยอล”

     

    เสียงหวานพูดขึ้นทำเอาชานยอลที่กำลังเก็บแหวนไว้บนตู้ดังเดิมชะงักมือชั่วขณะ แววตาวูบไหวเมื่อคิดถึงทุกๆปีที่ผ่านมา เขาเองก็เหมือนกับคนบ้าที่ทำแหวนเอาไว้สองวง ทั้งๆที่รู้ว่ามีแค่เขาเอง..ที่มีโอกาสได้สวมมัน

     

    “อืม...ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก”

     

    “ไม่ได้สำคัญแล้วทำไมเก็บมันเอาไว้อย่างดีขนาดนั้นล่ะ เล่าให้ผมฟังได้เปล่า...ทำไมถึงไม่เอาแหวนไปให้คนที่พี่ชอบล่ะ”

     

    ป๋ายเซียนถามคำถามจี้ใจดำชานยอลอย่างจัง ร่างสูงหันมามองหน้าคนตัวเล็กที่เหมือนกับคนที่เขารักมาตลอด ใบหน้าเย็นชาที่พยายามปกปิดความเจ็บปวดนั้น...กำลังเศร้าอยู่ใช่รึเปล่า

     

    “เขาตายไปแล้วน่ะ ตั้งนานแล้ว เอาให้...เขาไม่ทัน”

    “อ่า...ถ้าเขายังไม่ตาย พี่ชานยอลคงได้เป็นแฟนกับคนๆนั้น”

    “ไม่หรอก...ยังไงเขาก็ไม่ได้ชอบพี่อยู่แล้ว พี่แค่แอบชอบเขา”

    “พี่เสียใจรึเปล่า...”

    “อื้ม แต่มันก็ผ่านมานานแล้วล่ะ พี่ไม่คิดมากหรอก ตอนนี้พี่ก็กำลังจีบป๋ายเซียนอยู่ ถ้ายังไงก็...”

    “พี่ชานยอล ผมไม่รู้นะว่าพี่รักเขาคนนั้นมากแค่ไหน...แต่ตอนนี้ผมรู้ว่าพี่กำลังรู้สึกไม่โอเค...ถ้ายังไงกอดผมได้นะ”

     

    เพียงแค่นั้น...ร่างทั้งร่างของป๋ายเซียนก็ตกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงของชานยอล

     

    “ขอบคุณนะ...ป๋ายเซียน แล้วก็ขอโทษด้วย พี่อาจจะทำให้นายรู้สึกแย่”

     

    เสียงกระซิบขอโทษแผ่วเบาแต่ความรู้สึกมันชัดทุกถ้อยคำ บ่งบอกความรู้สึกของชานยอลว่ากำลังอ่อนไหวต่อคนตรงหน้านี้ เป็นเพราะปกติมีแต่จิกกัดด่ากันไปมาไม่เคยเห็นความอ่อนโยน มันทำให้ป๋ายเซียนหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศสุก เลยพูดหยอกคนตัวโตออกไปแก้เขิน

     

    “ตัวก็โตยังจะขี้แย 555555”

     

    “ดีใจ...ที่พี่มีป๋ายเซียนอยู่ตรงนี้ ตอนนี้พี่ชอบป๋ายเซียนมากนะ พี่อยากเป็นแฟนเราจริงๆ”

    “แต่พี่ก็ยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่หนิ ไม่ต้องมาเห็นแก่ได้เลยนะ!

    “ฮ่ะๆ เปล่าซักนิด ก็แค่นึกถึง...ยังไงปัจจุบันก็สำคัญที่สุด จริงมั้ย”

     

    มือหนาเอื้อมมายีผมนุ่มเบาๆอย่างหมันเขี้ยว เรียกรอยยิ้มอายๆจากผู้ชายปากแข็งได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ประโยคนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหวยร้อยล้าน ดีใจลึกๆที่พี่ชานยอลเห็นเขาสำคัญมากกว่าคนในอดีต

     

    เขาจะไม่กังวลกับคนในอดีตที่ไม่มีจริงอีกต่อไปแล้ว...

     

    ในใจเขาเต้นแรงแบบนี้ ก็แสดงว่าเขาก็ตกหลุมรักพี่ชานยอลเข้าแล้วน่ะสิ...

     

    เหลือก็แค่...ให้พี่ชานยอลทำสถานะของเรา...ชัดเจน

     

    “แล้วที่จีบอยู่เนี่ย เมื่อไหร่จะติดซักทีหืม?”

    “จ...จีบอะไรล่ะ คนจีบกันที่ไหนใช้ให้มาเก็บห้อง ส่วนตัวเองก็เข้าไปนั่งทำงานสบายๆ!

    “นั่นสินะ...งั้นเรามาช่วยกันทำความสะอาดดีมั๊ย?”

    “ดีมากกกกกกกกกกก”

     

    ถึงแม้ตอนนี้ป๋ายเซียนจะยังปากแข็ง...แต่หัวใจมันอ่อนลงไปมากกว่าครึ่งแล้วล่ะ

     

     

    *********************************************************************************************************************


              สวัสดีค่ะ แวะมาอัพก่อนสอบไฟนอล 555555555 อาจจะมึนๆนะคะ ไรท์เองก็เมาหนังสือ ไรท์สัญญานะว่าจะไม่ทิ้งฟิคทุกๆเรื่องที่แต่ง ยอมรับค่ะว่าบางทีอาจจะเนื้อหาไม่ต่อเนื่องเพราะห่างไปนาน แต่เค้าก็มีความรับผิดชอบพอที่จะมาต่อจนจบ รักทุกคนนะคะ เป็นกำลังใจ คอมเม้นท์ ติดแท็ก สกรีม อะไรก็แล้วแต่ ขอบคุณจริงๆค่ะที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×