ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] I'm Here! Always By Your Side [HunBaek,ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #14 : I'm Here -12-

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 58




    { Winter Dark Theme }

    I’m Here -12-

     

     

     

    นี่มันอะไรกัน...

     

    ขาเรียวก้าวเข้ามาในห้องๆหนึ่งอย่างประหลาดใจ บรรยากาศเงียบสนิท ห้องนี้ไม่มีใครอยู่ แต่มีข้าวของทุกอย่างวางอยู่ครบ สะอาดสะอ้านไร้ฝุ่นจับราวกับว่าห้องๆนี้เจ้าของดูแลมันเป็นอย่างดี แพคฮยอนเหลือบสายตามองไปเรื่อยๆก็เจอกับโพสอิทลายมือน่ารักๆแปะไว้เต็มห้องตามจุดต่างๆ ถึงแม้รอยหมึกจะจางลงไปบ้างตามกาลเวลาแต่มันก็ไม่ทำให้ความหมายที่คนเขียนลงไปนั้นจืดจางไปเลย ดวงตากลมโตไล่อ่านเรื่อยไปตั้งแต่หน้าประตูห้อง อ่านแผ่นต่อแผ่นด้วยหัวใจที่กำลังเต้นรัวสุดขีด

     

    ที่มันกำลังเต้นรัว....เพราะว่ากลัวสิ่งที่กำลังจะได้รู้ต่อจากนี้

     

    กลัว...ว่าพี่เซฮุนกำลังคบใครอีกคน

     

    แพคฮยอนกลัวพี่เซฮุนจะทิ้งเขาไป

     

     

    ทำไมโลกใบนี้ต้องมีความลับ...ผู้คนทำสิ่งใดเอาไว้เหตุใดจึงต้องปิดบัง เพราะว่าปิดบัง มันทำให้คนบางคนรู้สึกไม่สบายใจ อยากจะรู้ความจริงที่เขาไม่ได้บอก และ...ใครคนนั้นที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยกำลังเสียใจ

     

     

    หน้าฝนอย่าลืมพกร่มนะเซฮุนนา

    อ่านหนังสือให้มากๆ อย่ามัวแต่เล่นเกม

    ตั้งใจเรียนนะไอ้เด็กดื้อ พี่จะคอยมองดูนายนะเซฮุน

    เข้าครัวแล้วก็ล้างจานชามเก็บไว้ให้เป็นระเบียบด้วย

    ก่อนออกจากห้องอย่าเปิดฮีทเตอร์ทิ้งไว้ล่ะ!

     

    มองตามตำแหน่งโพสอิทย่อยๆไปอีกแค่สามสี่อันก็เจอกับผนังสีขาวที่มีโพสอิทจำนวนมากมายแปะรวมกันเป็นตัวอักษรย่อ สั้นๆได้ใจความ

     

     

     

    BH SH

     

     

     

    BH คือใครกันนะ....

     

    ยอมรับว่าแค่อ่านโพสอิทเหล่านี้ก็รู้สึกใจเสียไปมากกว่าครึ่ง ชื่อพี่เซฮุนถูกเขียนลงไปในโพสอิท แสดงว่าเรื่องที่เขาคิดเอาไว้คงไม่ผิด ถึงแม้จะเสียใจแต่แพคฮยอนก็ยังตามอ่านไปเรื่อยๆจนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ข้างในของร่างเล็กตอนนี้มันเจ็บไปหมดเหมือนกับมีคนยื่นมือเข้ามาบีบหัวใจเขาแน่นแทบจะแหลก แข้งขาถึงแม้จะเหมือนไร้เรี่ยวแรงแต่ก็ยังขยับไปเรื่อยๆอัตโนมัติ ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นรูปพี่เซฮุนถ่ายโพลารอยด์แปะติดผนังเอาไว้พร้อมกับโพสอิทแนบข้างๆรูปเป็นแคปชั่นว่า

     

    คนนี้หวง จองแล้ว

     

    มีเจ้าของแล้วแบบนี้มาขอเขาคบทำไมนะ...พี่เซฮุน

    พี่ไม่สงสารกันบ้างหรอ พี่ทำแบบนี้ทำไม

     

    คิดแค่นั้นก็ทำเอาน้ำตารื้นเอ่อ กลั้นใจพยายามไม่ร้องไห้ แพคฮยอนเงยหน้าขึ้นราวกับว่าจะทำให้น้ำตาที่ปริ่มขอบตานั้นไหลกลับเข้าไป ภาพตรงหน้าพร่ามัวไปหมดเนื่องจากน้ำตาไหลออกมาบดบัง สะอึ้นฮักไร้เสียงซักพักก่อนจะกลับลงมามองรูปภาพรูปนั้นอย่างเศร้าสร้อย ยกมือเรียวที่กำลังสั่นเทาขึ้นแตะรูปภาพนั้นเบาๆ ก่อนจะเอะใจกับบางอย่าง

     

    ทำไม....ดูเด็กจังเลยนะ?

     

    ใช่...ทำไมดูเหมือนตอนที่ถ่ายรูปนี้ยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่เลย แถมรูปนี้ก็ยังซีดมากไม่เหมือนรูปที่เพิ่งถ่าย แพคฮยอนมองด้วยความแปลกใจก่อนจะเดินหารูปอื่นๆในห้องเพิ่มเติม

     

    รูปนี้ด้วย...

    รูปนั้นก็ใช่

    ตรงนั้นอีก

     

    ทุกรูปที่แพคฮยอนเห็นล้วนเป็นรูปเซฮุนอายุประมาณเข้ามหาลัย หลายรูปที่ถ่ายกับยูนิฟอร์มมหาลัยชื่อดัง หลายโพสอิทที่เขียนเกี่ยวกับการเรียนและการสอบ มันทำให้คนตัวเล็กมั่นใจว่ารูปพวกนี้พี่เซฮุนต้องถ่ายเก็บไว้สมัยมัธยมอย่างแน่นอน แต่ว่านะ...พี่เซฮุนเรียนจบและทำงานมาหลายปีแล้วนี่นา

    ถึงแม้โครงหน้าจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยตามกาลเวลา แต่แววตาที่เศร้าสร้อยนั่นไม่เคยเปลี่ยนไปเลย...

     

    ลายมือในโพสอิทไม่ใช่ของพี่เซฮุน...

     

    คนเขียนโพสอิทเรียกพี่เซฮุนว่าพี่ แสดงว่าต้องมีอายุมากกว่า

     

    แล้ว....คนๆนั้นคือใครกันนะ

     

     

    แพคฮยอนเดินตามหารูปอื่นๆเผื่อว่าจะได้เห็นอีกคนที่พี่เซฮุนมาหา ความอยากรู้เข้ามาแทนที่ความเสียใจเกินกว่าครึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าไม่เศร้า ยอมรับว่าตอนแรกก็ตกใจจนแทบไม่อยากรู้อะไร แต่พอมาถึงตอนนี้แล้วเรื่องราวมันยังไม่ประติดประต่อ คนตัวเล็กเริ่มจะเจอจิ๊กซอว์ตัวอื่นเรื่อยๆแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องราวอยู่ดี

     

    ถ้าเข้าได้เห็นคนๆนั้น...

     

    อยากจะเห็นคนๆนั้น คนที่พี่เซฮุน....เห้อ

     

    คิดไปก็ปวดหัวใจไป เดินไปหาจนทั่วแล้วก็ยังไม่เจอรูปอีกคนอยู่ดี จะมีก็แต่....รูปเดี่ยวของพี่เซฮุนที่ถ่ายเว้นข้างๆเอาไว้...เหมือนกับจำลองว่าใครบางคนกำลังอยู่ตรงนั้น

     

    คนอะไรอินดี้ชะมัด ถ่ายรูปคนเดียว แคปชั่นเสี่ยว หรือบางทีมันอาจจะกลับตาลปัตรก็ได้

    แบบว่าทั้งห้องนี้เป็นห้องของพี่เซฮุนคนเดียว แล้วแอ๊บเขียนให้กำลังใจตัวเองงี้...

    ก็ยังจะเข้าข้างตัวเองจนวินาทีสุดท้าย ฮ่ะๆ......

     

     

    แกร๊กๆ...แกร๊กๆ

     

    “ทำไมเปิดไม่ออก....ห้องอะไรนะ”

    มือเรียวกำลูกบิดประตูหมุนๆแต่ปรากฏว่าเปิดไม่ออก คิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความแปลกใจ คิดในใจสงสัยเป็นห้องนอนล่ะมั้ง ห้องนี้มันก็กว้างพอสมควรนะ แบ่งเป็นล็อคๆ ห้องนั่งเล่นอยู่ข้างหน้า มีระเบียง มีห้องครัว มุมโต๊ะหนังสือ ที่เหลือก็คงมีแต่ห้องนอนที่ยังไม่เคยเข้าไปดู

     

    ก้าวก่ายเกินไปรึเปล่านะเรา....

     

    ไม่หรอกมั้ง เขาคิดว่ามันคือสิทธิ์...ที่เขาจะต้องรู้ แฟนกันแต่ปิดบังแบบนี้ ต่อให้เป็นคนดีแค่ไหนก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก

     

    ถึงแม้ว่า...คำว่าแฟนของแพคฮยอนกับเซฮุนนั้นจะมีคนที่รู้จริงๆเพียงแค่ไม่กี่คนก็ตาม

     

    มาคิดดูดีๆแล้ว...ตัวเขาเองรึเปล่าที่กลายเป็นคนในความลับ

     

    เจ็บ....จังเลยหัวใจ ทำร้ายมันบ่อยไปแล้ววันนี้

     

     

    เมื่อเปิดไม่ได้แพคฮยอนก็ต้องถอดใจ หันหลังกลับไปยังประตูห้องเตรียมเดินออก ถึงแม้จะรู้มากแค่ไหนเขาก็ยังหลอกตัวเองไม่ยอมเชื่ออยู่ดี จนกว่าความจริงจะออกจากปากของคนที่เขารักนั่นแหละ ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน...

     

     

    ตุ๊บ.....

     

    “อ๊ะ...”

     

    ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากันด้วยความเจ็บเมื่อจู่ๆก็หันไปเตะชั้นวางของเตี้ยๆประมาณเอวเข้าโดยที่แพคฮยอนก็ไม่รู้ว่ามันวางอยู่ตรงนี้ เพราะมัวแต่เหม่อดูรอบๆตัวเลยไม่ทันได้ก้มมอง กรอบรูปหนึ่งอันคว่ำหน้าลงเพราะแรงเตะเมื่อกี๊เลยเอื้อมมือไปปลุกให้ตั้งขึ้นเหมือนเดิม

     

    แต่ว่ามือดันชะงักเพราะเห็นคนในกรอบรูปซะก่อน...

     

    รูปนี้....พี่เซฮุนยังใส่ชุดมัธยมปลายอยู่เลย

     

    กำลังยิ้มอยู่ด้วย...รอยยิ้มสดใสชะมัด

     

    ดวงตานั่น...ก็กำลังยิ้มอยู่สินะ ยิ้มออกมาจากหัวใจ

     

    และคนข้างๆ........

     

    “มะ....ไม่จริง ไม่อยากจะเชื่อเลย” แพคฮยอนพูดวนซ้ำๆอยู่กับประโยคเดิม ดวงตาเบิกกว้างขึ้นยืนช็อคอยู่กับที่

     

    คนที่ถ่ายรูปกับพี่เซฮุน คือคน....ที่หน้าเหมือนกับแพคฮยอนและป๋ายเซียนอย่างกับฝาแฝด

     

     

     

    ร่างสูงเดินออกมาจากร้านดอกไม้ร้านประจำ มือถือกระถางดอกไม้เหมือนเดิมแล้วขึ้นรถขับไปยังสุสานที่ๆมีคนพิเศษนอนหลับใหลอยู่ เซฮุนเหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้ประมาณหกโมงครึ่ง หลังจากที่ออกมาจากหอพักห้องเดิมแล้วเขาก็รีบตรงมาเลย เดือนนี้งานยุ่งมาก ไหนจะวิศวกรงานหลักและไหนจะมีงานถ่ายปกนิตยสารอื่นๆอีกเล็กน้อย แถมเขาก็ตัดสินใจขอแพคฮยอนเป็นแฟนไปแล้วด้วย ตามติดเขาแจไม่ว่างไปกันใหญ่

     

    อย่างอนผมนะพี่แบคฮยอน....

     

    พูดขอโทษในใจพลางยกยิ้มอ่อนโยนที่มุมปาก ดวงตาคมเหลือบมองไปยังกระถางต้นไม้ที่วางอยู่บนเบาะข้างๆคนขับ มันรู้สึกสงบใจอย่างบอกไม่ถูก...ทิ้งเรื่องงาน เรื่องวุ่นวายทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วไปหาคนที่เขาอยากเจอมาตลอดทั้งเดือน

     

    แต่แล้วคิ้วหนาก็ต้องขมวดชนกันเมื่อนึกถึงบางเรื่องได้

     

    จะกลับไปรับแพคฮยอนทันรึเปล่านะ....

     

    เพียงแค่คิด โทรศัพท์ก็สั่นอยู่ในกระเป๋า มือใหญ่ล้วงมันออกมาดูก็พบว่าคนที่ตัวเองกังวลเมื่อกี๊ส่งไลน์มาบอกว่าวันนี้ไม่ทำงาน กลับไปคอนโดแล้ว เซฮุนกดส่งสติ๊กเกอร์รูปโอเคกลับไปแล้วกลับไปสนใจถนนต่อ

     

    โดยที่ไม่ได้อ่านข้อความถัดไปที่แพคฮยอนส่งมา

     

    รีบกลับมานะครับ ผมอยากจะเจอพี่เซฮุนไวๆจังเลย

     

     

     

    เวลาเย็นๆพลบค่ำๆแบบนี้บางทีมันก็สวยงามอย่างบอกไม่ถูก เสียงนกเริ่มทยอยบินกลับรัง ขอบฟ้าสีแดงส้มๆตัดกับรูปเนินเขาน้อยใหญ่ ในสุสานแห่งนี้มีเพียงตัวเซฮุนเองที่กำลังเดินถือกระถางดอกไม้เข้ามา เดินลัดเข้าไปลึกเรื่อยๆก็เจอกับกลุ่มดอกฟอร์เก็ตมีนอทที่ตัวเองปลูกเป็นเนินอยู่ไม่ไกล ขายาวๆเร่งเดินเข้าไปหาป้ายหลุมศพแล้วก้มเคารพ

     

    “ไง...พี่หมาเตี้ย เหงาบ้างรึเปล่า โอเซฮุนมาหาแล้วนะ”

     

    แน่นอนว่าไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา เซฮุนยักไหล่หนึ่งทีแล้วถอดสูทวางไว้แถวนั้นก่อนจะไปหยิบจอบที่ซ่อนเอาไว้แถวนั้นลงมือปลูกดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมา ลงต้นไม้เอาไว้ใกล้ๆกันให้เป็นทุ่งดอกไม้สวย เสียงฝีเท้าของใครอีกคนดังเข้ามาใกล้ยังจุดที่เซฮุนอยู่ ใบหน้าหล่อคมหันกลับไปก็เจอกับคู่แข่งสมัยอดีตของเขา .... พี่ชานยอล

     

    “ฮ่าๆๆๆ มาช้ากว่านายอีกจนได้นะเซฮุน”

    “หึ...พี่ก็มาหาพี่แบคฮยอนเหมือนกันหรอ”

    “อืม...นานแล้วที่ไม่ได้มา”

     

    ชานยอลปัดๆเศษหญ้าเศษใบไม้ออกจากป้ายหลุมศพแบคฮยอนแล้ววางช่อดอกไม้ช่อใหญ่เอาไว้ให้ มองรูปคนน่ารักที่อยู่บนแผ่นหินยิ้มแย้มราวกับว่าดีใจที่มีคนมาหา ใบหน้านี้ที่ไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไป...ก็ไม่เคยเลิกรักซักที

     

    หันไปจะช่วยเซฮุนปลุกดอกไม้ก็พบว่าอีกคนกลบดินเสร็จแล้ว เซฮุนนำอุปกรณ์ไปเก็บก่อนจะเดินกลับมาหาพี่ชายที่หน้าหลุมศพ ชานยอลโยนสูทที่เซฮุนถอดทิ้งไว้คืนให้เจ้าของ อีกคนก็รับมาถือไว้พร้อมกับยักคิ้วกวนบาทาไปหนึ่งที

     

    “ยังมาหาพี่แบคฮยอนของผมแบบนี้...แสดงว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมสินะครับ”

    “ให้มันน้อยๆหน่อย แบคฮยอนของนายซะที่ไหน ไอ้เด็กเมื่อวานซืน”

    “ฮ่าๆ ถ้า...ถ้าพี่แบคฮยอนยังอยู่ พี่ก็คงรู้ว่าพี่เขาจะเลือกใคร”

    “อืม...แต่นั้นก็แค่เรื่องสมมติล่ะนะ”

     

    ชานยอลกับเซฮุนมองไปยังหลุมศพของแบคฮยอน ยืนคุยกันโดยที่สายตาของทั้งคู่กำลังมองคนที่กุมหัวใจของทั้งคู่เอาไว้ รอยยิ้มของคนที่จากไปมันยังสดใสเสมอ กี่ปีมาแล้วที่พวกเขาเอาแต่ทำแบบนี้ ยืนนิ่งราวกับกำลังทบทวนเรื่องราวในอดีตให้กลับมาในความทรงจำอีกครั้ง มองอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดชานยอลเลยเปิดประเด็นพูดขึ้นมาก่อน

     

    “ได้ข่าวว่าคบกับแพคฮยอนแล้วสินะ”

    “อืม...ครับ”

    “หึ...ไวกว่าชั้นไปหนึ่งก้าวตลอด”

    “พี่เอง...ก็จะทำแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ พี่ชานยอล?”

    “อยู่ๆ...พระเจ้าก็โยนสิ่งที่พวกเราต้องการมาไว้ตรงหน้าขนาดนี้...นายคิดว่าไงล่ะเซฮุน?”

    “คงไม่ลังเลที่จะคว้าเอาไว้”

     

    สิ้นเสียงของเซฮุน แววตาของชานยอลกลับวูบไหวไปเล็กน้อย ใบหน้าดูเศร้าลงเห็นได้ชัด เขารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับแบคฮยอนก็จริง แต่ยังไงความสุขในความทุกข์มันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ดี นับตั้งแต่วันนั้นที่พวกเขาเจอกับพี่น้องฝาแฝดครั้งแรก ความคิดนี้ก็เข้ามาในหัวเป็นฉากๆ สิ่งที่เขาคิด...แน่นอนว่าเซฮุนเองก็คิด

     

    ตราบใดที่ไม่มีใครรู้...เขากับเซฮุนเองก็จะมีความสุข ที่ได้รู้สึกเหมือนแบคฮยอนกลับมาหาอีกครั้ง

    ตราบใดที่ไม่มีใครรู้...แพคฮยอนกับป๋ายเซียนเองก็จะมีความสุข...

     

    ความสุขที่รู้สึกว่ามีตราบาปติดหลังน่ะ มันจะใช่ความสุขที่ดีรึเปล่า...?

     

    “เซฮุน...ที่เราทำมันดีแล้วจริงๆหรอ”

    “ไม่รู้สิ ผมแค่ต้องการความสุขของผมคืนมา” โดยการใช้อีกคนเป็นตัวแทนอย่างนั้นหรอเซฮุน

    “อืม...นานแล้วที่เราไม่ได้มายืนคุยกันแบบนี้ ฮ่ะๆ”

    “พี่แบคฮยอนคงจะดีใจน่าดู”

     

    ทั้งสองคนยืนคุยกันอีกซักพักก็แยกย้ายกันกลับ ตลอดเวลาที่อยู่บนรถ เซฮุนคิดมาตลอดทางถึงเรื่องที่ได้คุยกับพี่ชานยอลไปเมื่อครู่ แต่ในเมื่อเรื่องมันเริ่มขึ้นมาแล้ว จะหยุดและทิ้งไป...คงทำไม่ได้หรอก

     

    นี่เขา...กำลังหลอกใช้ความเชื่อใจของเด็กคนนึง

     

    เพื่อที่จะหลอกตัวเอง

     

    เรื่องนี้มันก็แค่เรื่องสมมติ...ที่ใช้คนจริงๆมาแสดง คนที่เจ็บ..คือคนที่รู้ และพร้อมจะเจ็บและมีความสุขพร้อมๆกัน

     

     

     

    ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก เซฮุนเดินเข้ามาในห้องก็ต้องแปลกใจว่าทำไมบรรยากาศมันเงียบๆ หันซ้ายหันขวามองหาคนตัวเล็กที่น่าจะรีบวิ่งออกมารับเขาแล้วแท้ๆ

     

    “แพคฮยอน...อยู่ไหน”

    “แพคฮยอน....นอนแล้วหรอ”

     

    เซฮุนเปิดประตูห้องนอนออกมาก็ไม่เจอใคร เดินตามหาเรื่อยๆก็เจอกับคนตัวเล็กๆนอนกอดหมอนขดอยู่บนโซฟา ใบหน้าจิ้มลิ้มหลับตาพริ้ม คิ้วเรียวขมวดราวกับว่ากำลังฝันอะไรซักอย่าง มือหน้าเอื้อมไปเขย่าตัวปลุกให้อีกคนตื่นขึ้นมา

     

    “มานอนอะไรตรงนี้หืม?”

    “พ...พี่เซฮุนกลับมาแล้วหรอครับ”

     

    แพคฮยอนขยี้ตาตื่นเมื่อรู้สึกถึงแรงเขย่าแขน รีบเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งแล้วมองไปยังอีกคนที่ยืนอยู่ ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่นั่งรออยู่ห้องนั่งเล่น เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้...

     

    “คิดถึงจังเลย มากอดทีสิตัวเล็ก”

     

    พูดจบ เซฮุนก็รีบพุ่งเข้ามากอดคนตัวหอมๆทันที ใบหน้าคมรีบกดจมูกลงบนแก้มนุ่มที่มีกลิ่นสบู่อ่อนๆลอยออกมาแตะจมูก ก้มหอมหลายฟอดให้ชื่นใจ ก็พบว่าใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นแดงก่ำไปถึงใบหูเรียบร้อย เรียกเสียงหัวเราะในลำคอให้เซฮุนยิ้มกริ่มได้ใจทันที

     

     

    “พอแล้วน่า...หอมเยอะไปแล้วนะพี่เซฮุน”

    “คิดถึงนี่นา พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ง่วงก็ไปนอนก่อนได้เลย”

    “ครับ...เอ่อ พี่เซฮุน”

     

    ร่างสูงชะงักแล้วหันกลับมามองแพคฮยอนที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าอย่างแปลกใจ วันนี้คนตัวเล็กแปลกไปจริงๆ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าเนี่ย

     

    “มีอะไรหรอ?”

    “เอ่อ....เปล่าครับ รีบอาบน้ำนะ ^^

     

    ในที่สุดแล้ว...แพคฮยอนก็ไม่กล้าถามมันออกไป แผ่นหลังกว้างหายเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าที่ก้มต่ำของแพคฮยอนก็เริ่มสั่น น้ำตามากมายที่กักเก็บเอาไว้ก็ไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แพคฮยอนคนขี้ขลาด...แค่นี้ทำไมไม่กล้า ถามออกไปตรงๆเลย ไอ้เรื่องที่อยากรู้น่ะ

     

    คำตอบมันก็มีอยู่ไม่กี่อย่างเอง...

     

    นั่งสะอื้นอยู่ซักพักก็รีบปาดน้ำตาเดินเข้าห้องนอน แต่แล้วสายตาก็สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างที่หล่นอยู่บนพื้น คนตัวเล็กก้มลงไปหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นก้านดอกไม้อะไรซักอย่าง...คงจะติดมากับอีกคน ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา แต่ดอกไม้แบบนี้เขาไม่เคยเห็นมันเลย ไม่ใช่ดอกไม้ที่พี่เซฮุนซื้อเข้าไปในหอพักด้วย

     

    สีม่วง ออกสีครามๆหน่อย...สวยจัง

     

    แพคฮยอนสะบัดหน้าสองสามทีเรียกสติก่อนจะนำเศษดอกไม้ไปทิ้ง เช็ดคราบน้ำตาออกให้หมดแล้วรีบเข้าไปในห้องนอน ปิดไฟคลุมโปงหันหน้าเข้ากับผนัง ไม่นานอีกคนก็ตามเข้ามานอนกอดเขาเอาไว้ทั้งคืน

     

    “ฝันดีนะพี่แบคฮยอน....”

     

    เซฮุนกระซิบบอกฝันดีให้กับคนที่คิดว่าหลับไปแล้ว แต่ความจริงเพียงแค่นอนหลับตาก็แค่นั้น พี่แบคฮยอนอะไรนั่นก็คือคนที่อยู่ในห้องนั้นสินะ คือคนที่หน้าตาเหมือนแพคฮยอนคนนี้... ทั้งๆที่ชื่อนั่นควรจะเป็นชื่อของเขาสิ



    คบเขาไว้เป็นแฟน...รึว่าเป็นตัวแทนของใครบางคนกันแน่




    *********************************************************************************************************************


    กลับมาแล้วค่าาาาาาาาา คิดถึงกันมั้ยยยยยยย 55555555555 ช่วงนี้มหาลัยมีมิดเทอมอะ เพิ่งเสร็จไปหมาดๆก็มาลงฟิคกันเลย ฝากติดตามฝากคอมเม้นและสตรีมแท็กกันด้วยนะ อย่าเพิ่งลืมฟิคเค้าเลย ฮือออออ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×