ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] I'm Here! Always By Your Side [HunBaek,ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #13 : I'm Here -11-

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 58




    { Winter Dark Theme }

    I’m Here -11-

     

     

    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

    “ป๋ายเซียน โทรศัพท์ดัง”

    “รู้แล้วคร้าบบบ หาววว..”

     

    เสียงทุ้มพูดงัวเงียเนื่องจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ของป๋ายเซียนดังนานเกินไปแต่ก็ยังไม่มีใครรับสาย คนตัวเล็กกำลังสลึมสลืออยู่บนเตียงควานๆหาโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงรบกวนการนอนของเขามาดู กดรับสายเมื่อเบอร์ที่โชว์อยู่เป็นแพคฮยอน

     

    โทรมาทำไมแต่เช้า มีเรียนตอนบ่ายแท้ๆ...

     

    “ฮันโหลว”

    “พี่ป๋าย!! น้องแพคมีเรื่องจะบอก”

     

    ปลายสายมีน้ำเสียงตื่นเต้นทำให้ป๋ายเซียนตื่นเต็มตา กลัวจะมีอะไรเกิดขึ้นกับน้องชายอีก แขนข้างที่พลัดตกบันไดเพิ่งหายดีได้ไม่นาน กลัวแพคฮยอนจะเป็นอะไรไป

     

    “มีอะไร ใครทำอะไรน้องแพค!

    “โห ไม่เห็นต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นเลยอ้ะ น้องแพคมีข่าวดีจะมาบอกต่างหาก”

    “ดีแล้ว...ว่าแต่มีอะไรหืม”

    “น้องแพค...เป็นแฟนกับพี่ฮุนแล้วน้า ท๊าด๊า!!!!!

     

    ห้ะ......เมื่อกี๊สงสัยได้ยินผิด

     

    “ขออีกทีซิ...”

    “น้อง แพค คบ กับ พี่ ฮุน ครับ!!!!

     

    ฟังแล้วแทบหงายหลัง ปากคอรู้สึกแห้งผากทันที คบกันแล้ว...คบกันแล้ววววววววววว

     

    “อ่ะ....เอ่อ”

    “ทำไมพี่ป๋ายไม่พูดอะไรเลยอ่ะ ... หรือว่าพี่ป๋ายไม่ชอบ”

    เปล่าๆ คือหมอดูทักพี่มา ว่าช่วงนี้น้องแพคอาจจะมีอุบัติเหตุได้ ดวงตก”

    “บ้า พี่ป๋ายเชื่ออะไรแบบนี้ด้วยหรอ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเชื่อเลย คิกๆ”

    “ก็ได้ๆ....พี่ดีใจด้วยนะ ถ้าถูกพี่ฮุนรังแก มาบอกพี่เลย”

    “ไม่หรอกครับบบบบ พี่ฮุนน่ารักจะตาย”

    “คบกันแล้ว น้องแพคไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ ต้องใจเย็น ห้ามงอแง เป็นกำลังใจให้พี่ฮุนเยอะๆ เข้าใจพี่ฮุนให้มากๆ พี่เป็นกำลังใจให้นะน้องแพคของพี่ป๋าย”

     

    ร่างเล็กบอกน้องชายในโทรศัพท์อย่างเป็นห่วง รู้สึกดีใจไม่น้อยที่ในวันนี้ก็มีคนที่สามารถดูแลน้องชายเพียงคนเดียวของเขาได้ ถึงแม้จะห่วงไม่น้อยกับปัญหาใหญ่ที่มีเพียงเขารู้เพียงคนเดียว แต่ยังไงพี่เซฮุนคงจะไม่ปล่อยให้แพคฮยอนเป็นอะไรไปเด็ดขาด ป๋ายเซียนมั่นใจ

     

    ฝากน้องชายผมด้วยนะพี่เซฮุน

     

     

    แค่เพียงได้เห็นรอยยิ้มของแพคฮยอน ถึงแม้จะไม่ใช่พี่ชายคนนี้ที่เป็นเจ้าของรอยยิ้มอีกแล้วก็เถอะ

     

    หวงน้องอะ -3-

     

     

     

    “ไอ้ฮุนกับน้องแพคคบกันแล้ว เมื่อไหร่จะถึงคิวของเราบ้างล่ะ?”

     

    “อ้ะ! อะไรเนี่ยพี่ยอล แค่นี้ก่อนนะน้องแพค”

     

    จู่ๆคนที่นอนเงียบมาตลอดการสนทนาก็ยื่นคางมาเกยไหล่พร้อมกอดคนตัวเล็กจากด้านหลัง กระซิบเสียงแหบพร่าข้างๆจนใบหูเล็กร้อนฉ่า ป๋ายเซียนรีบวางสายจากแพคฮยอนก่อนที่อีกคนจะแกล้งเขาไปมากกว่านี้ กำปั้นเล็กก็ทุบไหล่กว้างอีกคนดังปั่กแล้วดันคนตัวโตออก

     

    “บ้า!! ถึงคงถึงคิวอะไร ไม่มีทั้งนั้นแหละ -/-“

     

    “ปากแข็งนะเรา หึหึ”

     

    “ไปอาบน้ำดีกว่า พี่นอนต่อไปเลย ผมจะไปมหาลัย”

     

    ป๋ายเซียนมองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่กก่อนจะพูดตัดประโยคเดินออกจากห้องนอนไปทิ้งให้ชานยอลนั่งขำท่าทางน่ารักๆอยู่คนเดียว บทจะเขินก็น่ารักดีไม่หยอก ชานยอลล่ะอยากจะให้มีวันที่เขากับป๋ายเซียนคบกันไวๆจังเลย จะได้แกล้งคนปากแข็งให้สมใจอยาก

     

    “ป๋ายเซียน เลิกซึนได้แล้วน่า หึหึ”

     

     

     

     

    คนตัวเล็กอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง ชานยอลก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิม ดวงตากลมโตนั้นถูกปิดซ่อนไว้ใต้เปลือกตาสนิท ใบหน้าหล่อเหลาแม่กระทั่งเวลานอน ป๋ายเซียนไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนเพอร์เฟกต์ขนาดนี้อยู่บนโลก ขาเรียวเดินเข้าไปใกล้ๆก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นคลุมคนตัวสูงเบาๆ ไม่อยากรบกวนการนอนเพราะเมื่อคืนกว่าจะกลับมาจากการทำงานคงดึกน่าดู ร่องรอยความเหนื่อยล้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม แต่พักซักเดี๋ยวก็คงดีขึ้น

     

    มือเรียวเขียนโพสอิทแล้วแปะไว้บนหน้าผากชานยอลก่อนจะเดินออกไป

     

    อย่าถีบผ้าห่มออก เดี๋ยวก็ไม่สบายพอดี

    กับข้าวอยู่ในตู้เย็น ตื่นมาก็อุ่นกินด้วย

    ไปเรียนแล้วนะครับ เย็นๆกลับ

     

     

     

    ใช้เวลาไม่นาน ป๋ายเซียนก็มาถึงมหาวิทยาลัย...

    เดินลงจากรถแท็กซี่แล้วรีบมุ่งไปยังตึกเรียน เดินลัดเลี้ยวไปยังตึกต่างๆอย่างชำนาญเพราะเรียนมาเกือบจะเทอมนึงแล้ว เพราะพี่ชานยอลไม่ได้มีเวลามาส่งทุกๆเช้าจึงต้องมามหาลัยเอง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับป๋ายเซียนนัก โตแล้วควรทำอะไรเป็นด้วยตัวเอง

     

    ใกล้จะถึงตึกเรียนก็เจอแพคฮยอนเดินมาจากมุมตึกอีกมุมพอดี

     

    “แพคฮยอนอา” ป๋ายเซียนตะโกนเรียกน้องชายก่อนจะวิ่งไปหา แพคฮยอนก็ยิ้มตอบแล้ววิ่งเข้ามาหาพี่ชายเหมือนกัน

     

     

    โดยที่แพคฮยอนไม่รู้ว่ามีกระถางต้นไม้หล่นลงมาจากบนตึก...

     

     

    “แพคฮยอน!!! ระวัง!!!

    จากสีหน้าดีใจที่ได้เจอน้องชายกลับตื่นตระหนก ดวงตาเล็กของป๋ายเซียนเบิกกว้างมองกระถางต้นไม้ร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วง แพคฮยอนยืนนิ่งไม่กล้าขยับตัวเพราะไม่รู้ว่าป๋ายเซียนให้ระวังอะไร ได้แต่หันซ้ายหันขวามองรอบๆตัว วินาทีนั้นราวกับร่างกายของป๋ายเซียนมันขยับเอง สัญชาตญานของคนเป็นพี่ชายสั่งให้ป๋ายเซียนวิ่ง วิ่งให้เร็วที่สุดไปช่วยแพคฮยอน กระโจนกอดน้องชายแล้วผลักให้ล้มหลบรัศมีของกระถางดอกไม้ที่ตกลงมาได้ทันพอดี

     

    เพล้ง!

     

    เศษกระถางเศษดินตกเกลื่อนกระจาย หนังสือในอ้อมแขนของแพคฮยอนก็ตกพื้นผสมกับดินจนเลอะ ทั้งสองคนกลิ้งไปสองสามรอบก่อนจะหยุดนิ่ง แพคฮยอนกอดพี่ชายแน่นจนตัวสั่น ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่ กลัว... ส่วนป๋ายเซียนก็ยกคอขึ้นมองเศษกระถางที่แตกกระจายอยู่ห่างจากเขาไปเพียงนิดเดียวแล้วก็ถอนหายใจ มาช่วยไว้ทัน

     

    “พี่ป๋าย...เมื่อกี๊มัน...”

    “ไม่มีอะไรนะ อุบัติเหตุ”

    “ฮึก...น้องแพคกลัว ตกใจหมดเลยอะ ถ้ามันหล่นลงมาโดนน้องแพคล่ะ”

     

    มือเรียวลูบผมปลอบน้องชายที่กอดเขาแน่นอย่างขวัญเสีย มุมตึกที่ค่อนข้างเปลี่ยวแบบนี้จะมีกระถางตกลงมาได้ยังไง....ป๋ายเซียนขมวดคิ้วแน่นคิดปะติดปะต่อเรื่องราว

     

    ถ้าไม่เป็นอุบัติเหตุจริงๆก็คงมีคนจงใจทำมันตกลงมา

     

    นี่มันจะเล่นแรงไปละ!!

     

    “ไม่ต้องกลัวนะ...พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”

     

    นั่งปลอบกันอยู่นานจนแพคฮยอนเริ่มหายกลัว เรียนคาบแรกคงต้องปล่อยไป ป๋ายเซียนประคองน้องชายไปนั่งม้าหินอ่อนข้างๆตึกก่อนจะไปเก็บหนังสือเรียนมาให้ แพคฮยอนนั่งนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก รู้ตัวอีกทีก็เห็นพี่ชายเข้ามาผลักให้ล้มลงกับพื้น ได้ยินเสียงอะไรซักอย่างแตก

     

    ถ้าพี่ป๋ายเซียนไม่เข้ามาช่วย ป่านนี้คง....

     

    นึกภาพตัวเองเลือดอาบตัวหัวแตกได้สยองมากเลย

     

    เขาอาจจะตายอย่างน่าสงสารอยู่ข้างตึกเรียนที่ไม่มีใครค่อยเดินผ่านนี่ก็ได้

     

    วันนี้เข้าใจแล้วว่าทำไม...มันอันตรายแบบนี้นี่เองถึงไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน

     

    โชคดีของแพคฮยอนแล้ว...

     

     

    ป๋ายเซียนหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไปหาแบมแบม ว่าเช้านี้คงไม่เข้าเรียนกันทั้งคู่ สภาพแพคฮยอนเป็นแบบนี้เขาคงจะปล่อยไว้คนเดียวไม่ไหว แต่ยังไม่ทันได้กดส่ง เสียงนึงก็ดังขึ้นซะก่อน

    “แพคฮยอน ป๋ายเซียน มาทำอะไรตรงนี้ สายแล้วนะทำไมยังไม่ไปเรียน”

     

    แบมแบมเดินถือไอศกรีมเดินตรงมาหาจากตึกฝั่งตรงข้าม สีหน้าดูสงสัยปนเป็นห่วงเมื่อเห็นแพคฮยอนนั่งหน้าซีด

     

    “อาจารย์เข้าตั้งนานแล้ว ไม่เห็นพวกนายมาซักที ฉันก็รอตั้งนาน เลยออกมาหาอะไรกิน”

    “มีเรื่องนิดหน่อยน่ะแบม”

    “เรื่องอะไรหรอ”

    “กระถางต้นไม้มันตกมาจากบนตึกน่ะ สงสัยลมพัดแรงไปหน่อย”

    “เห้ยยยย เป็นอะไรรึเปล่า?”

     

    แบมแบมจับป๋ายเซียนพลิกซ้ายขวาหาบาดแผลแต่ก็ไม่พบอะไร รีบไปถามแพคฮยอนที่ตอนนี้นั่งหน้าซีดอยู่ก็ส่ายหัวแล้วยิ้มแห้งๆ เท่านั้นแหละเพื่อนตัวเล็กก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่

     

    “พระเจ้าคุ้มครอง...ดีแล้วที่ไม่มีใครบาดเจ็บ”

     

    แบมแบมกอดแพคฮยอนแน่นแล้วโยกไปมา นั่งชวนคุยจนแพคฮยอนหายตกใจกลับมาเป็นปกติ สรุปคือทั้งเช้าทั้งสามคนไม่ได้เข้าเรียน โดดไปตามระเบียบ...

     

    ใครกันใจร้ายมาก แพคฮยอนออกจะบอบบางขนาดนี้...ทำไมไม่ทำป๋ายเซียนคนนี้แทน

     

     

    “ตอนบ่ายมีเรียนมั๊ยหืม”

    “มีสิ แบมมีเรียนแต่คนละวิชากับป๋ายเซียนแล้วก็แพคฮยอน -3-

    “อ่า...งั้นไปกินข้าวกันเถอะ น้องแพคหิวแล้ว”

    แพคฮยอนกอดแขนแบมแบมแน่นแล้วเอนหัวซบไหล่เพื่อนคนน่ารักก่อนจะหัวเราะร่า ลากแขนแบมแบมเดินนำหน้าไปยังโรงอาหารที่ใกล้ที่สุด

     

     

     

    บนดาดฟ้าของตึก ดวงตาหวานเหลือบมองเห็นแพคฮยอนเดินถือหนังสืออยู่ตรงทางเดินข้างล่างเดินเข้ามาใกล้ ริมฝีปากยกยิ้มเย็นๆแล้วผลักกระถางต้นไม้ร่วงหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก หลับตาลงเพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงกระถางตกกระทบลงบนพื้น แอบชะโงกหน้ามองลงไปก็เจอสองพี่น้องกอดกันกลมบนพื้นห่างจากจุดที่กระถางตกลงไปสองสามก้าว

    “ชิ...ดันพลาดจนได้”

     

    คนโมโหร้ายได้แต่เม้มปากแน่นระงับความโมโหให้ลดลง เปิดประตูดาดฟ้าเดินลงไปเงียบๆ เมื่อเริ่มได้สติเลยหยุดเดินแล้วนั่งพิงราวบันไดเอาไว้ ยกมือสองข้างที่กำลังสั่นเทาขึ้นมาดูอย่างไม่อยากจะเชื่อ

     

    นี่เขา...ทำอะไรลงไป

     

    เขาทำอะไรกับแพคฮยอน...

     

    เพราะขาดสติ ขาดความยั้งคิด มันทำให้ตัวตนลึกๆของตัวเองถูกปลุกขึ้นมา ลืมความเป็นเพื่อน ความเป็นมนุษย์จนหมด ทำเพื่อความสะใจ ทำเพื่อตัวเอง โดยที่ไม่มีแม้แต่ความสงสาร

     

    ราวกับว่ายังมีใครอีกคนอยู่ข้างในจิตใจของตัวเอง เฝ้ารอวันแสดงตัวตนเพื่อ...จะทำลายทุกสิ่ง

     

    ภาพในวัยเด็กย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง...

     

    “เรากลับมาป่วยอีกแล้วงั้นหรอ ไม่นะ...”

     

     

     

    “น้องแพค วันนี้พี่ไม่เข้าร้านได้มั๊ยอะ ต้องไปทำรายงาน...”

    ป๋ายเซียนเก็บกระเป๋าพลางบอกน้องชายว่าวันนี้ขอโดดงาน มันช่วยไม่ได้นี่นาก็เขายังทำรายงานไม่เสร็จ คนเป็นน้องก็ได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง จะไปขัดก็ไม่กล้าหรอก เดี๋ยวงานไม่เสร็จขึ้นมาจะโดนอาจารย์หักคะแนนเอา อีกอย่างนะ วันนี้หลังเลิกงานพี่เซฮุนจะมารับเขากลับคอนโดด้วยล่ะ -/-

     

    เพราะช่วงนี้พี่เซฮุนงานยุ่ง เลยต้องไปไหนมาไหนคนเดียว เจอกันก็ตอนกลับคอนโด

     

    ถ้ามีโอกาสก็อยากอยู่ด้วยกันนานๆ...

     

    เราไม่มีทางรู้ได้หรอก ว่าความสุขมันจากเราไปรึยัง...จะรักก็รักให้สุด ทุ่มให้เต็มแรง

     

    “อย่าเถลไถลนะครับ ไม่งั้นผมฟ้องผู้จัดการร้านนะ -3-

    “ด้วยเกียรติแห่งลูกมังกรเลยน้องชาย ระวังตัวดีๆนะพี่เป็นห่วง จุ๊บ!

    “บ้า! ผมโตแล้วนะพี่ป๋าย เลิกจุ๊บหน้าผากผมซักที -///-“

     

    เมื่อแพคฮยอนตอบตกลง ป๋ายเซียนก็ก้มจุ๊บหน้าผากน้องชายด้วยความเคยชินทันที เห็นน้องโวยวายตัวเองดันหัวเราะร่าแล้ววิ่งออกจากห้องเรียนไป คนตัวเล็กเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเดินออกจากห้องตามคนอื่นๆ เดินเรื่อยๆไปตามทางเดิน

    ชีวิตของแพคฮยอนไม่มีอะไรผาดโผน ไม่มีเรื่องตื่นเต้น ถึงแม้มันจะเรียบง่าย แต่เขาก็ชอบมัน

     

    ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีด้วยเถอะ...

     

    สองขาเดินเรื่อยเปื่อยตรงไปยังร้านกาแฟร้านเล็กๆที่ทำงานอยู่ ถึงแม้จะเล็ก แต่เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ลูกค้าจึงมีมาไม่ขาดสาย สองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านรวงเล็กๆตกแต่งมีของสวยงามมากมาย แพคฮยอนชอบมัน ถ้าเขาได้เป็นเจ้าของร้านพวกนี้ คงจะมีความสุขมากแน่ๆ

     

    แต่แล้วคิ้วเรียวก็ต้องขมวดมุ่นเมื่อเห็นใครซักคนเดินเข้าไปในหอพักหอหนึ่ง ถ้าสายตาเขาไม่ผิดพลาดไป คนๆนั้นคือพี่เซฮุนแน่นอน โดยที่ไม่ทันได้คิด แพคฮยอนก็เดินตามเข้าไปเงียบๆ

     

    มาทำอะไรที่นี่นะ...น่าจะทำงานอยู่ไม่ใช่หรอ

     

    ในมือของพี่เซฮุนมีช่อดอกไม้...ดอกกุหลาบสีขาว พี่เขาถือมาให้ใคร

     

    ดวงตาคมแสนเศร้า แต่ริมฝีปากของเขาช่างยิ้มออกมาอย่างมีความสุข...พี่เขากำลังคิดถึงใคร

     

    นี่มันอะไร...พี่เซฮุนเพิ่งขอเขาเป็นแฟนไม่นาน แล้วนี่...มันเกิดอะไร ความคิดในหัวของแพคฮยอนตีกันวุ่นไปหมด พยายามคิดถึงเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่สิ่งที่หัวใจกำลังฟ้องในตอนนี้ ไม่มีทาง พี่เซฮุนมีคนอื่น....เป็นไปไม่ได้หรอก

     

    พี่เซฮุนเป็นแฟนเขา ไม่มีทางนอกใจไปหาคนอื่นหรอก...

     

    ว่าแต่มีอะไรยืนยันล่ะ...ว่าแพคฮยอนคนนี้เป็นแฟนของพี่เซฮุน..เพียงคนเดียว

     

    บางทีนะ...เขาอาจจะไม่ใช่แฟนคนแรกของพี่เซฮุนด้วยซ้ำ

     

     

    ขาเรียวเดินตามหลังคนตัวสูงขึ้นไปอย่างระมัดระวัง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ หัวใจมันยอมรับไม่ได้ ถ้าเจอกับความจริงที่เขาต้องใจสลายจะทำยังไง แต่สมองมันก็อยากรู้ความจริงอยู่ดี...เลยเลือกเดินตามขึ้นมาแบบนี้ ขอแค่เพียงพิสูจน์ หรือไม่...ก็ขอให้เขาได้เข้าใจสถานะของตัวเอง

     

    ใจเย็นๆไว้แพคฮยอน...พี่เซฮุนอาจจะมาเที่ยวหาเพื่อน หาญาติก็ได้....

     

    เซฮุนเดินมาหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่ง คนตัวสูงก้มลงไปที่กระถางต้นไม้หน้าห้องแล้วหยิบกุญแจไขประตูเข้าไป แพคฮยอนยืนหลบอยู่มุมบันไดเนิ่นนาน ไม่มีทีท่าว่าคนข้างในจะออกมาซักที ร่างเล็กรู้สึกมือเย็นเฉียบ ในความคิดมีแต่คำว่าไม่ๆๆๆๆเต็มไปหมด รักกันต้องเชื่อใจ อาจเป็นเพราะว่าเขาคิดมากเกินไปก็ได้

     

    ตามมาทำบ้าบออะไรตรงนี้...กลับไปทำงานได้แล้วแพคฮยอน

     

     

    แกร๊ก....

     

    เสียงประตูห้องเปิดออกทำเอาแพคฮยอนหลบแทบไม่ทัน เซฮุนล็อคประตูเก็บกุญแจไว้ที่กระถางต้นไม้เหมือนเดิมก่อนจะลงลิฟต์ไป ร่างเล็กเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องปริศนา ก้มหากุญแจที่ถูกซ่อนไว้จนเจอ ความคิดด้านดีและด้านร้ายกำลังเถียงกันวุ่นไปหมด จะเปิดเข้าไป...หรือไม่เปิดดีนะ

     

    เปิดเข้าไปสิ...จะได้รู้ว่าข้างในนั้นมีใครอยู่รึเปล่า

    เสียมารยาทน่า...เขาเป็นใครเราก็ไม่รู้จักซะหน่อย

    ถ้าเป็นห้องของแฟนอีกคนล่ะ จะยอมถูกหลอกรึไงแพคฮยอน เปิดสิ!

    ไม่ต้องเปิดหรอก ถ้าเกิดไม่ใช่อย่างที่คิดขึ้นมา นายจะโดนดุเอานะ

    ขี้ขลาด!! อย่ากลัวจนกลายเป็นคนโง่แบบนี้ เปิดเลย

     

    สุดท้ายแล้ว แพคฮยอนก็เอื้อมมือขึ้นไปเสียบกุญแจแล้วไขประตูออกมา เสียงปลดล็อคดังขึ้น  ภาพในห้องๆนั้นปรากฏสู่สายตาของแพคฮยอนทีละนิดจนเต็มตา

     

    มันทำให้ผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก...

     

     

    “นี่มัน...อะไรกัน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×