คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10
Chapter 10
Luhan Said…
ลานฝึกธนู
“ฮ้าดชิ่ว!!!! ใครนินทา - -“
ลู่หานกับแบคฮยอนจามออกมาพร้อมกัน มองซ้ายขวาอย่างจับผิด จู่ๆก็จามอย่างไม่มีสาเหตุแบบนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากจะมีคนนินทาเขากับแบคฮยอนอยู่แหงๆ
“ฉันเปล่านะ” คยองซูรีบพูด
“ฉันก็เปล่า” จงอินสมทบอีกคน
“ฉันด้วย” เซฮุนรีบปฏิเสธ
“อย่าให้รู้นะว่าใคร ไม่งั้นล่ะก็... - -“ เสียงแบคฮยอนขู่ก่อนจะยกกำปั้นขึ้นมาชกอากาศโชว์
ร่างบางได้แต่ยักไหล่ทำนองว่าช่างมันเถอะ กะอีแค่เรื่องนินทายังเอามาเป็นประเด็นถกเถียงกันได้ เหลือเชื่อจริงๆเลย
“เมื่อไหร่เราจะได้กลับบ้านอะ...” คยองซูพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า
“นี่เรามาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้วนะ ป่านนี้พ่อแม่เราคงประกาศตามหาคนหายไปทั่วโลกแล้วมั้ง” เซฮุนพูดขึ้นพลางนั่งถอนหายใจไปเบาๆ นั่นสินะ...พวกเรามาอยู่ที่นี่นานมากแล้ว
และก็ไม่มีวี่แววความแน่นอนที่จะได้กลับไปแบบดีๆซะด้วยสิ
“สองเดือนกว่าแล้วล่ะ...เกือบๆจะสามเดือนแล้ว” จงอินพูดขึ้นทำลายบรรยากาศให้มันเครียดหนักกว่าเดิม
“ถ้างั้นก็แสดงว่าใกล้วันสุริยุปราคาแล้วล่ะสิ แล้วเรา...จะต้องต่อสู้จริงๆน่ะหรอ มันจะเกินกำลังของพวกเราไปมั๊ย ความจริงเราก็แค่วัยรุ่นธรรมดาๆเองนะ ถ้ากลับไปบ้านของเราแล้วบอกกับทุกคนว่าพวกเราเคยจับดาบจับหอกไปสู้รบกับกองทัพทหาร ใครมันจะไปเชื่อวะเนี่ย” แบคฮยอนบ่นออกมาอย่างปลงตก
นั่นสิ พวกเราก็แค่วัยรุ่นธรรมดาคนนึงเท่านั้น
แล้วทำไมพวกเราถึงต้องมาอยู่ท่ามกลางสงครามบ้าบออะไรพวกนี้ด้วยนะ!
ถ้าเกิดพลาดพลังถูกฟันแขนขาดขาขาดขึ้นมาล่ะ! ประกันที่ไหนมันจะรับผิดชอบ TT
“แต่ถึงแบบนั้นก็ขัดขืนอะไรไม่ได้อยู่ดี” ลู่หานพูดสรุปประเด็น ทั้งลานฝึกกลับมาเงียบอีกครั้งจนแทบได้ยินเสียงหายใจ ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง ใบหน้ามีแววเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วจะมาพูดเรื่องเครียดกันทำไมล่ะเนี่ย เลิกๆๆๆๆ ฉันไปฝึกปรุงยาต่อล่ะ เพิ่งศึกษาเจอยาพิษตัวใหม่” คยองซูเดินออกไปจากวงสนทนา ทุกคนหันมาพูดคุยกันอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“อย่าคิดมากนะ” เซฮุนพูดยิ้มๆพลางยื่นมือมายีผมของลู่หานเล่นจนเสียทรงไปหมด
“รู้แล้วล่ะน่า -3-“
ร่างบางทำหน้ามุ่ยใส่ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปเดินเล่นข้างนอก บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างจะเย็นสบาย บนท้องฟ้ามีก้อนเมฆน้อยใหญ่ลอยอยู่ประปราย ลมพัดเอื่อยๆไม่แรงจนเกินไป บรรดาผีเสื้อแมลงปอน้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์กำลังบินดอมดมดอกไม้อยู่นับร้อยนับพันต้น ช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ
“ทำไมมาเดินเล่นคนเดียวล่ะ?”
“ก็เห็นว่ามากับใครรึไงล่ะเซ....อ้าว โยซอบ”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง วินาทีนั้นลู่หานคิดว่าเซฮุนคงจะเดินตามาก่อกวน ปากมันดันไปไวกว่าสายตาทำให้เกือบเผลอหลุดชื่อของคนๆนั้นไปซะแล้ว
แอบแปลกใจที่ไม่ใช่ตาบ้านั่น แต่กลับกลายเป็นโยซอบแทน
แล้วทำไมเขาต้องคิดถึงเซฮุนเป็นคนแรกด้วยนะ...ไม่เข้าใจตัวเองเลย
“ถ้าไม่รังเกียจ ข้าขออยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้ไหม?”
“อ่า พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ! ผมจะรังเกียจนายไปทำไม” ลู่หานโบกไม้โบกมือปฏิเสธโยซอบพัลวัน ท่าทางเปิ่นๆของลู่หานทำให้โยซอบหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ข้าก็ขอไปตามมารยาทนั่นแหละ ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมวันนี้มาเดินเล่นคนเดียวล่ะ?” ร่างโปร่งถามพลางมองมาทางคนตัวบางยิ้มๆ ลู่หานทำท่าคิดซักแป๊บก่อนจะตอบออกไปว่า
“ก็วันนี้มันเบื่อๆน่ะ...ปกติไม่เห็นนายออกมาจากตำหนักเท่าไหร่นี่ วันนี้ว่างหรอ?”
“อื้อ...ความจริงก็ไม่ได้ว่างหรอก ข้าแอบหนีออกมาเที่ยวเล่นน่ะ ฮ่าๆๆ”
“นายเกเรเป็นกับเขาด้วยหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ”
หลากหลายคำถามและคำตอบผลัดออกมาจากปากของลู่หานกับโยซอบ ทั้งสองคนเดินคุยกันไปเรื่อยๆท่ามกลางอุทยานดอกไม้นานาพรรณ บ่อยครั้งที่ลู่หานแอบลอบมองหน้าของรัชทายาทโดยไม่รู้สาเหตุ ทุกอย่างในตัวของโยซอบล้วนถูกสรรสร้างขึ้นมาแบบไร้ที่ติ ทั้งนิสัยที่เป็นกันเอง ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาพร้อมๆกับความแข็งแกร่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนๆนี้ถึงสามารถแบกภาระของคนทั้งประเทศเอาไว้ได้ เพราะอะไรราษฎรถึงไว้วางใจให้เขาปกครอง วันนี้ลู่หานได้คำตอบแล้วล่ะ
“นี่...ดอกไม้พวกนี้น่ะ ผมเด็ดมันได้รึเปล่า?”
นิ้วเรียวของลู่หานชี้ไปที่ดอกไม้ในอุทยาน ดวงตากลมโตของฉันกำลังมองโยซอบออนุญาต โยซอบตีหน้าเข้มขรึมไม่พอใจ ชวนให้เขาใจแป้ว คงจะไม่ได้สินะ....
“เจ้ารู้หรือไม่ กฎของที่นี่ ห้ามไม่ให้ใครเด็ดดอกไม้ในอุทยานเด็ดขาด...”
“อ่า..เข้าใจแล้วล่ะ ( . .)”
“แต่สำหรับเจ้า...ดอกไม้ทั้งอุทยานข้าก็ให้เจ้าได้น่า ฮ่าๆๆๆๆ”
“งั้นก็แปลว่า สามารถเด็ดดอกไม้ดอกไหนก็ได้ใช่ป้ะ? ( ‘ ‘)”
“ถูกต้องแล้วล่ะ”
“ปัดโถ่! แล้วตอนแรกจะมาตีหน้าเข้มทำไมเล่า นายมันขี้แกล้งชะมัด”
ฝ่ามือเรียวตีเข้าเต็มแรงที่แขนแกร่งอีกฝ่ายด้วยความหมันไส้ในความเจ้าเล่ห์ของร่างโปร่ง โยซอบปัดป้องหนีด้วยความชอบใจ ลู่หานก็ไม่ยอมแพ้วิ่งไล่ตีเข้าไปเรื่อยๆจนกลายเป็นการวิ่งไล่จับกันภายในอุทยานซะงั้น
“โอ๊ยๆๆ เจ้านี่มือหนักชะมัด เจ็บนะเนี่ย” โยซอบนิ่วหน้าร้องบอก ไอ้ที่ฟาดลงมาแต่ละทีน่ะ...เจ็บจริงนะเนี่ย
“ใครใช้ให้นายมาแกล้งผมก่อนเล่า”
เมื่อทำร้ายร่างกาย(?)โยซอบจนพอใจ ก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า...นี่เขากำลังไล่ตีรัชทายาทเชียวนะ! 0.0
“เฮ้ย...คือ ผมลืมไป นายจะโกรธผมมั๊ยอะ นายจะสั่งประหารหัวสุนัขรึเปล่า ผมขอโทษนะที่ลืมตัวไปนิด ผมไม่ควรทำร้ายร่างกายองค์รัชทายาท TOT”
“เจ้าเพิ่งจะรู้ตัวหรอ...ไม่รอให้เจ้ากระทืบข้าเละก่อนค่อยรู้ตัวล่ะ - -“
น้ำเสียงนิ่งๆของคนตรงหน้าทำเอาลู่หานอยากจะนั่งคุกเข่าเอาหัวเขกพื้นสำนึกผิดซักพันครั้ง ในหัวตอนนี้เริ่มจะจินตนาการเครื่องประหารหัวสุนัขของเปาบุ้นจิ้นขึ้นมาตงิดๆ หว๋า~ คอของเขากำลังจะโดนฟันงั้นหรอ ไม่เอานะ!
“คิดไปไหนแล้วนั่น... - -“ โยซอบก้มลงมามองลู่หานที่ตอนนี้ทำท่าคิดไปไกลจนกู่ไม่กลับซะแล้ว
“ได้โปรดประทานอภัยให้ผมด้วย ผิดไปแล้ว แง๊! อย่าประหารผมเลยนะ”
ลู่หานคุกเข่าลงพร้อมกับอ้อนวอนโยซอบต่างๆนานาจนอีกฝ่ายตกใจนั่งลงประคองร่างบางลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“เฮ้ย! เจ้าก็คิดไปได้ ข้าไม่ได้จะว่าอะไรเจ้าทั้งนั้นเลยนะ” โยซอบทำหน้าเหลอหลาพลางพูดปลอบ
“ก็นายทำท่าเหมือนจะดุผมนี่นา...”
“ข้าก็แค่ล้อเจ้าเล่นน่า ข้าอยากจะให้เจ้ามองข้าเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนนึงมากกว่า ข้าอยากจะเป็นคนธรรมดาที่เจ้าสามารถหัวเราะกับข้าได้ สามารถไล่ตีข้าได้ สามารถเป็นที่ระบายให้กับเจ้าได้ ข้าอยากจะรู้จักกับเจ้าแล้วก็เพื่อนกับพวกเจ้าให้ได้มากขึ้น ในฐานะเพื่อน... ข้าไม่ต้องการให้เจ้ากับเพื่อนของเจ้ามาเกรงใจข้า มามองข้าในฐานะองค์รัชทายาทหรืออะไร ข้าอยากเป็นเพียงคนๆนึงในสายตาของเจ้า แค่นี้แหละ...จะได้หรือไม่”
“ได้อยู่แล้วล่ะ...ผมไม่ได้มองนายเป็นองค์ชายองค์รัชทายาทอะไรตั้งแต่แรกแล้วนี่ ผมกับนายคือเพื่อนกัน J”
วินาทีที่ลู่หานพูดคำว่าเพื่อนออกไป แววตาของโยซอบคล้ายกับจะแฝงความเศร้าที่ไม่สามารถรู้ได้ออกมาแวบนึง แววตาเหมือนกำลังผิดหวังอะไรซักอย่าง หลังจากนั้นก็กลายเป็นความดีใจแทน
ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่ดีล่ะ...หรือว่าเขาไม่อยากให้โยซอบเป็นเพื่อนกันแน่นะ
เกิดอาการไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองอีกแล้วสิ....
“อื้ม...ขอบใจนะที่ยอมเป็นเพื่อนกับข้า J”
ทำไมรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝืนยิ้มแปลกๆนะ บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไปทุกที ไม่ได้การล่ะ ต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง
“งะ...งั้นผมไปเก็บดอกไม้ก่อนดีกว่า”
ร่างบางรีบหลบสายตาก่อนจะเดินเข้าไปในกลุ่มดอกไม้ เลือกเด็ดดอกไม้สีสวยๆออกมาหลายกำมือ นำดอกไม้หลากสีเหล่านั้นไปร้อยๆเข้าด้วยกันจนกลายเป็นมงกุฎดอกไม้แสนสวยในที่สุด
“โยซอบ! เป็นไง มันสวยรึเปล่า?”
ลู่หานตะโกนเรียกโยซอบให้มาดูผลงานของตัวเอง ร่างโปร่งพยักหน้าแล้วยิ้มบางๆเป็นเชิงว่ามงกุฎดอกไม้สวย ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเดินเข้าไปหาโยซอบแล้วเอื้อมสวมมงกุฎดอกไม้บนหัวของโยซอบเบาๆ
“เจ้าให้ข้า? ฮ่ะๆ ข้าใส่ไม่เหมาะหรอกมั้ง ข้าไม่ใช่ผู้หญิงนะ -0-”
“นายใส่แล้วดูดีออก ถือซะว่าเป็นของขวัญจากผมก็แล้วกัน ^^” ลู่หานพูดพลางเอียงคอมองอย่างน่ารัก
“งั้นข้าทำให้เจ้าบ้างดีกว่า ฮ่ะๆ”
โยซอบเดินเข้าไปเลือกเด็ดดอกไม้ด้วยความตั้งใจแล้วนำมาทำเป็นมงกุฎดอกไม้ตามฉบับของเขา ใบหน้าคมเวลามุ่งมั่นจะทำอะไรนั่นมันดูมีเสน่ห์อย่างประหลาดราวกับละสายตาไปไหนไม่ได้
นี่ไม่ได้กำลังหลงใหลโยซอบหรอกนะ.....ใช่มั๊ย
“อ่ะ..เสร็จแล้ว ข้าให้เจ้า ถือว่าแลกกันก็แล้วกันนะ” มงกุฎดอกไม้ที่ไม่ได้ถือว่าสวยงามมากนักตามฉบับฝีมือผู้ชายถูกวางลงบนหัวของลู่หานอย่างเหมาะเจาะ ดูจากผลงานแล้วคาดว่าคงจะเป็นผลงานชิ้นแรกที่เขาทำอย่างแน่นอน พยายามจริงเลยนะนาย...
ผู้ชายละเอียดอ่อน..ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น นี่แหละพ่อของลูกในอนาคต *^*
ไม่เหมือนอีตาบ้าเซฮุน นิสัยไม่ได้เรื่อง ชอบกวนประสาท น่าเตะออกนอกโลกชะมัด!
อีกแล้วอีกแล้ว...จะไปนึกถึงเซฮุนทำไมนะสมองบ้า!
“ขอบใจนะ เป็นไงบ้าง ผมดูดีบ้างรึเปล่า? ฮ่าๆ” ลู่หานยิ้มพลางหมุนตัวให้โยซอบดู จู่ๆโยซอบก็หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุซะงั้น แถมยังหลบตาไม่มองตรงๆอีกต่างหาก อะไรของเขานะ
“ก็..สวยดี เจ้าใส่อะไรก็สวยหมดแหละ ( ‘////’)”
“แล้วหลบสายตาทำไมเล่า เขินผมอะดิ๊ ฮ่าๆๆๆ”
“ถ้าบอกว่าข้าเขินล่ะ...”
เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งของวันนี้ ลู่หานมองโยซอบอย่างไม่เชื่อสายตาและไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แต่แล้วสิ่งที่เห็นมันก็ฟ้องว่าสิ่งที่เขาพูดมันเป็นความจริง โยซอบกำลังเขิน!
“อ่า ผมคิดว่าผมออกมาเดินเล่นคนเดียวนานเกินไปแล้วอะ ชักอยากจะกลับไปนอนพักผ่อน...ขอตัวก่อนนะ แล้วคุยกันใหม่วันหลัง ไปล่ะ”
“อื้ม...ให้ข้าไปส่งไหม?”
“ไม่ต้องๆๆๆๆ เกรงใจอะ ไปนะ..บาย ^^” ลู่หานเดินลิ่วออกมาจากอุทยานแล้วตรงดิ่งกลับมายังห้องของตัวเองทันที ไม่ว่ายังไงก็ไม่ชินกับสถานการณ์ชวนใจเต้นแบบนี้ ตอนนี้หัวใจของเขามันแทบจะเต้นเป็นจังหวะแทงโก้บวกฮิปพอพแล้ว
ร้ายกาจ ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจมาก เข้าใกล้บ่อยๆไม้ได้ซะแล้วสิ =____=
และถ้าลู่หานจะหันกลับไปมองโยซอบอีกซักนิด...ก็คงจะได้เห็นรอยยิ้มและสายตาของโยซอบที่มองตามมาแล้วล่ะ
“ไปไหนมา”
“อะ...อ้าว มานั่งทำเอ็มวีตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะหนอนฮุน?”
สิ้นเสียงของลู่หาน เซฮุนก็หันขวับมามองจิกๆด้วยหางตาทันทีเชิงว่าเลิกเรียกเขาด้วยถ้อยคำหยาบคายสำหรับเขาได้แล้ว เซฮุนทักระหว่างทางกลับไปยังห้องของตัวเอง รอบๆบริเวณเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีดอกบัวบานอยู่มากมาย เซฮุนนั่งอยู่ในศาลากลางน้ำคนเดียว ในมือของเขาถือก้อนหินขนาดไม่ใหญ่นักหลายก้อนเอาไว้ด้วย นี่เขาคงจะมานั่งปาก้อนหินเล่นแก้เบื่อใช่มั๊ยเนี่ย - -/
“ยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ นายไปไหนมา?” เซฮุนถามย้ำอีกครั้ง
“ก็ไปเดินเล่นแถวๆอุทยานฝั่งโน้นมา จะอยากรู้ไปทำไม” ลู่หานตอบคำถามของเซฮุนหลังจากเดินเข้ามานั่งในศาลากลางน้ำตรงข้ามกัน
“มงกุฎดอกไม้บนหัวนายน่ะ ทำเองหรอ?” จู่ๆเซฮุนก็ถามคำถามที่เขาต้องอึกๆอักๆตอบไปว่าทำเอง
“อะ...อ้อ ไอ้นี่น่ะหรอ ก็ทำเองน่ะสิ ใครจะมาทำให้ล่ะ...แล้วถามทำไมล่ะเนี่ย?”
ก็แค่คำถามธรรมดา ทำไมเขาต้องปิดบังด้วยว่าโยซอบเป็นคนทำให้...
เซฮุนพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเริ่มปาก้อนหินในมือให้กระโดดบนผิวน้ำเล่นอีกครั้ง
“ก็ไม่ทำไม อยากรู้เฉยๆผิดด้วยหรอ”
“ก็ไม่ได้ว่านายผิดซะหน่อย วันนี้อารมณ์แปรปรวนง่ายนะนาย ประจำเดือนมาไม่ปกติหรอ?”
“อื้อ เดือนนี้ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลย เฮ้ย! ฉันจะไปมีประจำเดือนได้ยังไงล่ะคนบ๊อง -0-“
ลู่หานหัวเราะร่วนกับท่าทางราวกับจะงับหัวของเซฮุน อะไรกัน มุกแค่นี้ยังจะหลงกลได้อีก ไปหลอกเด็กอนุบาลมันยังไม่หลงกลเลยเถอะ เชื่อเขาเลยคนๆนี้ J
“คิมบับ*นี่นา น่าจะอร่อยแฮะ” ( *คิมบับ=ข้าวห่อสาหร่าย) เหลือบไปเห็นถาดขนมขนาดพอดีที่คาดว่าเซฮุนน่าจะไปขอที่ห้องเครื่องมากินเล่น ก่อนที่เขาจะโวยวายไปมากกว่านี้ ลู่หานก็จัดการเปลี่ยนเรื่องซะก่อน คิมบับขนาดพอดีคำถูกส่งเข้าปากเล็กอย่างรวดเร็ว รสชาติของมันอร่อยจนบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ... *^*
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ เรื่องอะไรจะยอมให้นายหลอกว่าฟรีๆล่ะ...อุ๊บ!”
“ดูท่านายจะหิวนะ กินคิมบับซะจะได้ไม่พูดมาก”
ไม่ปล่อยโอกาสให้เซฮุนได้บ่นพล่ามอะไร ลู่หานก็จัดการยัดขนมสุดอร่อยป้อนให้เขาทันที
“นี่นายแกล้งฉันหรอ...อ๊อก..!”
“ปากน่ะเค้ามีไว้กินอาหารนะ มัวแต่พูดมากก็ไม่อิ่มซักทีสิ เอ้า! เอาไปอีกชิ้น”
“ไอ้บ้า..ฉันไม่ได้ เอื๊อก!”
ตอนนี้สภาพของเซฮุนแทบจะเรียกได้ว่า...ลิ้นแทบจะจุกปาก - -‘เนื่องจากเขาพยายามอย่างมากในการจะทะเลาะกับลู่หานให้เป็นเรื่องเป็นราว ส่วนคนตัวบางก็ไม่ได้ดูฟ้าดูฝนอะไร จับคิมบับกรอกปากเขาอย่างเดียวจนตอนนี้ใบหน้าของเขาคล้ำๆพะอืดพะอมคล้ายคนกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย อ่า...มันทำให้ลู่หานนึกถึงหนังฆาตกรรมขึ้นมาตงิดๆ
“อิ่มรึยัง คิมบับยังเหลืออีกตั้งหลายชิ้น”
ร่างบางหยิบคิมบับขึ้นมาถือไว้ในมืออย่างทะนุถนอมราวกับเพชรล้ำค่า เซฮุนมองคิมบับในมือของลู่หานราวกับว่ามันคืออาหารเคลือบด้วยยาพิษก็ไม่ปาน มือใหญ่ยกขึ้นมาโบกไปมาปฏิเสธพัลวันพร้อมกับเดินถอยห่างไปเรื่อยๆ
“ฉันอยาก...อ้วก!” ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ เซฮุนก็เกิดอาการตาเหลือกค้างกว่าเดิมแล้ววิ่งไปอ้วกเอาคิมบับมรณะออกตรงข้างศาลา รอยยิ้มชั่วร้ายของลู่หานได้เผยออกมาก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะลั่นเพราะท่าทางของเซฮุนมันช่างน่าแกล้งจริงอะไรจริง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
“ไหวมั๊ยเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆ ฉันขอโทษๆๆๆๆๆ” ทำตัวเป็นผู้ร้ายประสงค์ดีเดินเข้าไปลูบหลังเซฮุนจนเขาอ้วกคิมบับออกมาจนหมด ร่างสูงเดินโซซัดโซเซเหมือนคนไม่สบายหนักเข้าไปยังในศาลากลางน้ำอีกครั้ง ซึ่งลู่หานก็พยายามคอยประคองเขาเดินเข้าไปข้างในศาลาด้วยความทุลักทุเล เมื่อไปถึงเขาก็ล้มลงนอนบนที่พักศาลาอย่างหมดแรงข้าวต้ม
“ลู่หาน...ฉันจะต้องเอาคืนนายให้หนักกว่านี้ ฝากไว้ก่อนเถอะ! - -“ เซฮุนพูดหอบๆเนื่องจากเหนื่อยที่ต้องโก่งคออ้วกของที่จุกอยู่ในลำคอออกมาจนหมดเป็นเวลานาน
“แรงนั่งยังจะไม่มีอยู่แล้ว จะมาอาฆาตกันได้อีกนะนาย ฮ่าๆๆ” ไม่พูดเปล่า ลู่หานนั่งลงข้างๆเขาพลางยื่นนิ้วไปดีดหน้าผากของเซฮุนด้วยความหมันไส้ ถ้าถามว่ารู้สึกผิดมั๊ยก็รู้สึกผิด ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่ทำไงได้ล่ะ ก็คนมันเขินจนไม่กล้าขอโทษนี่นา เลยได้แต่แสดงออกด้วยวิธีแบบนี้
เขากำลังโอ๋อยู่นะ รู้ตัวมั๊ยเซฮุน! -////-
“งอนแล้ว -3-“
คุณพระ...บอกที มันไม่จริงใช่มั๊ย คนตัวโตเท่าควายป่ากำลังอมลมทำแก้มป่องๆปากจู๋ๆแล้วบอกว่างอน!
มันก็น่ารักอยู่หรอก...แต่นายอย่าทำมันจะดีกว่านะเซฮุน - -
“งอนบ้าอะไรของนาย แค่นี้ก็ต้องทำตัวเป็นเด็กอนุบาลเลยรึไง โตเท่าหมีควายแล้วเนี่ย”
“หมีควายแล้วไง งอนไม่ได้หรอ ฉันกำลังงอนนายอยู่นะลู่หาน ง้อสิ!”
ตบหน้าผากตัวเองเบาๆหนึ่งทีอย่างไม่ไหวจะทน เซฮุนคงจะกู่ไม่กลับแล้วล่ะสิ แล้วฉันจะทำยังไงกับเด็กชายเซฮุนคนนี้ดีนะ ตบหัวหลุดเลยดีมั๊ยเนี่ย ข้อหาทำตัวปัญญาอ่อนไม่สมกับอายุเกินไป -0-
“แล้วจะให้ง้อยังไงล่ะ ฉันง้อไม่เป็นโว้ยครับ - -“
“จุ๊บฉันสิ แล้วจะหายงอนนายทุกอย่างเลยลู่หาน”
หา...อะไรนะ 0.0!
“นี่นาย! อีตา...โอ๊ย ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเนี่ย” ลู่หานแทบจะลมออกหู จู่ๆก็รู้สึกว่าเลือดทั้งตัวมันมากองรวมกันอยู่ที่บนใบหน้าทำให้รู้สึกร้อนผะผ่าวอย่างคนเลือดลมไม่ดี โอ๊ย เขาไม่ได้กำลังเขินใช่มั๊ยเนี่ย -//-
“เร็วสิ”
แน่ะ...มีขู่ให้เร็วๆซะด้วย...เดี๋ยวก็จับหัวโขกเสาซะหรอก -////3////-
แต่แล้วความคิดๆนึงก็แว้บเข้ามาในสมองอย่างไม่ทันได้กลั่นกรองถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ ใบหน้าหวานยกยิ้มอย่างมีแผนการอยู่ในใจ ก้มหน้าลงไปหาคนตัวสูงช้าๆ...สายตาของลู่หานกับเซฮุนกำลังจ้องสอดประสานกันไม่ละไปไหน เซฮุนแทบจะเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ด้วยเนื่องจากไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำตามที่บอกจริงๆ
หารู้ไม่...ลู่หานจะทำให้เซฮุนผิดหวังด้วยการยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆแล้วใช้กำปั้นทุบหน้าท้องของเขาจนจุกต่างหากล่ะ ข้อหาที่คิดอะไรอกุศลแบบนี้กับคนหน้าตาดีอย่างลู่หาน J
จุ๊บ!
แต่อะไรๆมันมักจะไม่เป็นดั่งใจของเราเสมอไป....
ลู่หานก้มหน้าลงไปใกล้เซฮุนแล้วก็จริง..แล้วก็หยุดหน้าของตัวเองเอาไว้ใกล้ๆ ย้ำว่าหยุดแล้วนะ แต่แล้วเซฮุนก็กลับเป็นฝ่ายยกหน้าเข้ามาจุ๊บเอง! ดวงตาคมของเขากำลังฉายแววยิ้มราวกับผู้ชนะ ในขณะที่ลู่หานกำลังนิ่งค้างไปแล้ว =[]=
“หึหึ...นึกว่าฉันไม่รู้หรอว่านายกำลังคิดอะไร เอาเป็นว่าหายงอนนายแล้วล่ะ ^0^”
“ง่ะ...แหงล่ะ! ถ้านายไม่หายงอนนะน่าดู ชิ!”
เหมือนมือไม้มันกำลังสั่นไปหมด แม้แต่ใบหน้าของหมอนั่นก็ยังมองตรงๆไม่ได้เลย ลู่หานลุกขึ้นยืนตรงก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวออกมาจากศาลาริมน้ำที่เซฮุนนอนอยู่ นึกอยากตบแก้มตัวเองแรงๆหลายๆทีให้ตัวเองตื่นออกมาจากความฝันประหลาดๆนี่ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่านี่คือความจริง วันนี้มันวันอะไรของลู่หานกันนะเนี่ย!
เอะใจตั้งแต่จามตอนเช้าแล้วเชียว....
การเอาคืนของเซฮุนประสบผลสำเร็จอย่างล้นหลามเลยทีเดียว...
เพราะตอนนี้หัวใจของลู่หานกำลังเต้นไม่เป็นส่ำกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้อย่างควบคุมไม่ได้
แต่น่าเสียดาย...ที่อาการแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับนายแค่คนเดียว
ดีโอกับโยซอบ...พวกนายคือบุคคลอันตรายที่สุดในชีวิตของลู่หานเลย T^T
“ฟังจากที่แกเล่ามา ฉันว่าแกได้กำไรเห็นๆเลยว่ะลู่หาน -0-“
“กำไรอะไรตรงไหนล่ะ ฉันโดนแกล้งไม่เห็นรึไงแบคฮยอน”
ลู่หานบ่นง้องแง้งพร้อมเล่าเหตุการณ์ที่ได้เจอมาในวันนี้ให้กับเพื่อนสนิทอย่างแบคฮยอนฟัง ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีอย่างมาก...ฟังไปแอบหลับสัปหงกไป แลดูเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนดีจริงๆ ซาบซึ้งน้ำใจของมันยิ่งนัก - -/
หลังจากวิ่งออกมาจากศาลาริมน้ำ ลู่หานก็ตรงดิ่งมายังห้องของแบคฮยอนทันที โชคดีไม่น้อยที่แบคฮยอนกำลังนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในห้องพอดีเลยถือโอกาสเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง แทนที่มันจะสงสารเพื่อนอย่างเขา มันกลับมาบอกว่าเขาน่ะได้กำไรเห็นๆ กำไรตรงไหนแว้ TOT
“หนึ่ง แกได้ไปสวีทกับโยซอบ สอง แกได้สวีทกับเซฮุน สาม แกได้จุ๊บกับเซฮุน สี่ แกน่าอิจฉาที่สุดในโลกกกกกก”
“ถ้าฉันเล่าแล้วแกจะมาล้อฉันแบบนี้ วันหลังแกอย่าได้ฟังอะไรอีกเลย ชิ -3-“
“อ้าว...ฉันก็พูดไปตามความจริงนี่นา”
“ถ้าแกเป็นฉัน แกจะไม่พูดแบบนี้เลย!”
“โทษที แต่ฉันเป็นแกไม่ได้ เลยไม่ได้รู้สึกอะไร ฮ่าๆๆ”
“พูดแบบนี้แกเอาเท้ามาตบหน้าฉันเลยดีกว่า ไอ้เพื่อนบ้า - -/”
“เอาน่าๆ พูดไปแกก็เครียดเปล่าๆ เราออกไปข้างนอกสูดอากาศบริสุทธิ์ตามฉบับเพื่อนรักกันดีกว่า ^^;“
เพื่อนปากมอมเห็นท่าเขาจะโกรธจัดเลยทำตัวเนียนเดินมาโอบไหล่แล้วพาออกไปเดินข้างนอก ลู่หานเลยต้องเดินตามมันไปอย่างช่วยไม่ได้ ตากลมโตของเขาเสมองใบหน้าแบคฮยอนให้ชัดๆก็พบถึงความผิดปกติของแบคฮยอนเข้า
“นี่แกตัดผมมาใหม่อีกแล้วใช่มั๊ยเนี่ย?”
“อืม”
“แกนี่น้า แค่นี้ก็จะเกรียนติดหนังหัวแล้วเนี่ย”
“เรื่องของฉันน่า ผมยาวๆมันเกะกะออก ไม่ถนัดน่ะ”
“แล้วทำไมตาแกดูช้ำๆไปเหมือนคนร้องไห้มาอะ...เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าแก?”
“ก็..ชั้นซ้อมหนักไปหน่อย นอนไม่ค่อยหลับ แกนี่ถามมากจริง”
เพื่อนตัวสูงเบนสายตาไปทางอื่นก่อนจะตอบฉันด้วยความรำคาญใจ มันต้องมีอะไรผิดปกติจริงๆด้วยสินะ ถ้าไม่อย่างนั้นคนที่มีความมั่นใจอยู่ในตัวเองเสมออย่างแบคฮยอนคงจะไม่หลบสายตาของเขาหรอก
“เมี้ยว....เมี้ยว...”
ก่อนที่ลู่หานจะได้ซักไซ้ถามอะไรต่อ เสียงร้องเมี้ยวๆของแมวสีขาวตัวน้อยก็ดังขึ้นมาจากกิ่งไม้ใหญ่ราวกับว่ากำลังร้องขอความช่วยเหลือ ลู่หานกับแบคฮยอนเงยหน้ามองมันตาปริบๆ โถ...คงจะขึ้นไปเล่นซนบนนั้นแล้วลงมาไม่ได้สินะ ไม่ได้การล่ะ คนหน้าตาดีต้องมีใจรักสัตว์ ให้ความเมตตากับทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ >_<
“แกๆ..มันกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากพวกเราป่ะ?” ลู่หานใช้ศอกสะกิดถามแบคฮยอน
“คงจะใช่ล่ะมั้ง ฉันฟังมันพูดไม่รู้เรื่องหรอก -0-“
“ฉันก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ว่าสายตามันเว้าวอนมากเลยอะแก รอฉันแป๊บนะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้องแมวลงมา *O*”
พูดจบลู่หานก็จัดการถอดรองเท้าไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่แล้วปีนตะเกียกตะกายขึ้นต้นไม้ทันที เจ้าแมวเหมียวอยู่ซะข้างบนโน่นเลย แกขึ้นไปได้ยังไงฟะ ทีตอนขึ้นล่ะไม่รู้จักคิด ตอนลงล่ะมาร้องขอความช่วยเหลือเชียวนะ - -
“มามะ เมี้ยวๆๆๆๆ มาทางนี้ๆ พี่จะพาลงไปข้างล่างเอง”
เมื่อลู่หานปีนขึ้นไปถึงยังกิ่งไม้ที่เจ้าแมวเหมียวอยู่ก็พยายามเรียกให้มันมาหา แต่แล้วเจ้าเหมียวกลับจ้องเขานิ่งๆไม่ขยับไปไหน ลู่หานเลยค่อยๆเขยิบไปหาเจ้าเหมียวนั่นด้วยความใจเย็น
“ระวังตกนะเว้ยไอ้หาน -0-“แบคฮยอนตะโกนขึ้นมาเตือน
“วางใจเถอะน่า เดี๋ยวฉันก็ลงไปหาแกแล้ว เจ้าเหมียว! เขยิบเข้ามาสิ”
เพราะมัวแต่สนใจเจ้าเหมียวที่อยู่ถัดไปเพียงไม่กี่ก้าว สายตาของลู่หานเลยไม่ทันเหลือบไปเห็นรังมดที่ทำรังอยู่ใกล้ๆเท้า เมื่อเขาค่อยๆขยับเท้าลากไปตามกิ่งไม้ มันเลย...เผลอไปสะกิดรังมดแตก
“เอาล่ะ..จับเจ้าแมวจอมซนได้แล้ว >_<” มือเล็กคว้าเจ้าแมวเข้ามากอดไว้
ฉึก!
วินาทีนั้นเหมือนมีเข็มนับร้อยนับพันกำลังขยันกระหน่ำแทงขาและเท้า แถมมันยังไต่ขึ้นมาเรื่อยๆด้วย
“เฮือก! 0[]0!”
ร่างของลู่หานกำลังตกลงมาเรื่อยๆตามแรงโน้มถ่วงของโลกที่นักวิทยาศาสตร์บางคนได้ค้นพบ เขาไม่น่าพลาดชักเท้าหนีเจ้ามดพวกนั้นเลย ลืมตัวนึกว่าตัวเองยืนอย่างมั่นคงบนแผ่นดินบนพื้นโลก แต่ไหนได้ ความจริงเขากำลังยืนอยู่บนต้นไม้สูงๆนี่กับแมวหนึ่งตัวที่อยู่ในอ้อมกอด!
ตุ้บ!
เสียงวัตถุบางอย่างกระแทกพื้นจนดังลั่น แบคฮยอนที่กำลังอ้าปากค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รีบวิ่งเข้ามาดูอาการฉันอย่างเป็นห่วง เจ้าแมวตัวต้นเหตุก็วิ่งออกจากอ้อมกอดของลู่หานแล้ววิ่งเข้าไปในพุ่มไม้ใกล้ๆอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ยแก!!! เป็นอะไรมากรึเปล่าลู่หาน 0.0” แบคฮยอนวิ่งเข้ามาเขย่าซะจนตัวโยน
“กะ...แก ฉันจุก หยุดเขย่าตัวฉันซักที T^T”
“ขอโทษๆ...เจ็บตรงไหน เกิดอะไรขึ้นทำไมจู่ๆแกก็ดิ่งพสุธาลงมาแบบนี้”
“ฉะ...ฉันถูกมดกัด” เป็นเพราะความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมาตามกระดูกสันหลังทำให้เขาทำได้เพียงแค่พูดกระท่อนกระแท่นเบาๆออกไปเท่านั้น อ่า..แทบไม่เป็นภาษาคนเลยแฮะ L
“ห้ะ!! อะไรนะ แกก้นหัก พระเจ้าช่วย.. แกทำใจดีๆนะแกอย่าตาย TOT” แบคฮยอนที่ได้ยินไม่ชัดก็ตีโพยตีพายว่าเขาตกต้นไม้ก้นหัก น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงเรียวรีของมัน แถมยังมาเขย่าตัวเขาแรงๆอย่างคนเสียสติอีกต่างหาก
“ไม่ใช่...ฉันถูกมดกัด...โว้ย!”
“แกไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว แกก้นหักเชียวนะ เดี๋ยวฉันเรียกคนมาช่วย แกห้ามขยับไปไหน เดี๋ยวมาๆ”
ว่าเสร็จแล้วไอ้เพื่อนกระต่ายตื่นตูมก็ออกตัววิ่งไปตามคนมาช่วยทันที ไม่สนใจคำทักท้วงของเขาเลยซักนิด
เขาบอกมดกัด...แกฟังยังไงเป็นเขาก้นหักวะ!!! - -;
เขาผิดที่พูดไม่ถนัด หรือแกผิดที่แกฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดเองกันแน่เนี่ย
คนหล่อปวดหัว! ปวดก้นด้วย... ฮือๆๆ
“ช่วยด้วย..ใครก็ได้ โยซอบ!! ชะ..ช่วยลู่หานด้วยๆๆ T^T” ร่างเล็กของแบคฮยอนวิ่งร้องไห้ฟูมฟายไปตามทางเดิน หวังให้ใครก็ได้ผ่านมาทางนี้ โชคดีที่สายตาอันเฉียบคมของแบคฮยอนเหลือบไปเห็นโยซอบกำลังถือหนังสือเดินมากับอำมาตย์พอดีเลยตะโกนเรียกพร้อมกับเดินไปเขย่ามือขอความช่วยเหลือทันที
“เป็นอะไร..ใจเย็นๆ ลู่หานเป็นอะไรรึ?” ร่างสูงพยายามควบคุมสติของตัวเองและปลอบแบคฮยอนด้วย ทั้งๆที่ในใจของเขากำลังร้อนรุ่มด้วยความเป็นห่วงลู่หาน
“ลู่หานตกต้นไม้ก้นหักอยู่ทางโน้น รีบไปช่วยทีเถอะ ลู่หานไม่ไหวแล้ว”
“ห้ะ..ลู่หานตกต้นไม้ก้นหักงั้นรึ? ไม่ได้การ เจ้าสองคนรีบไปตามหมอหลวงที่เก่งที่สุดเอาไว้ ส่วนเจ้ารีบไปเตรียมห้องให้นักรบแห่งตำนานพักผ่อน เดี๋ยวข้าจะไปพาลู่หานมาเอง” โยซอบสั่งอำมาตย์ให้ไปทำตามหน้าที่ที่ได้มอบหมาย ส่วนประโยคหลังโยซอบได้พูดกับแบคฮยอน พอร่างเล็กได้บอกสถานที่ให้ร่างสูงไป เขาก็ไม่รอช้ารีบวิ่งไปหาลู่หานทันที
ขออย่าให้เป็นอะไรไปเลยนะลู่หาน...ดวงใจของเขา
“ดีโอๆ!! ฉันดีใจจริงๆที่ได้เจอนายตอนนี้ T^T” ร่างเล็กๆของแบคฮยอนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเซฮุนที่กำลังเดินกลับไปยังลานฝึกหลังจากที่ไปอู้(?)อยู่ที่ศาลาริมน้ำตั้งนานสองนาน
“แบคฮยอนเป็นอะไร? ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ?” เซฮุนขมวดคิ้ว ร้อยวันพันปีคนๆนี้ไม่เคยร้องไห้เสียสติแบบนี้นี่นา
“ลู่หาน..ฮือ..ลู่..ตก”
“ใจเย็นๆ พูดอะไรฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย ลู่หานทำไม?” เซฮุนมองแบคฮยอนที่กำลังเล่าเรื่องด้วยอาการหอบๆ
“ลู่หานตกต้นไม้ก้นหักอะ นายรีบไปช่วยเร็ว L” แบคฮยอนค่อยๆพูดทีละคำจนจบประโยค ทำเอาเซฮุนอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว อะไรกัน...เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง
“ห้ะ! ที่ไหน ลู่หานเป็นยังไงบ้าง?”
“ตรงต้นไม้ทางโน้นอะ ลู่หานอาการแย่มากเลย พูดเหมือนกับว่าจะทนไม่ไหวแล้ว นายรีบไปช่วยลู่หานเร็วๆสิ”
เซฮุนพยักหน้ารับคำก่อนจะออกตัววิ่งอย่างรวดเร็วไปหาทันที ใบหน้าหล่อเหลาแสดงอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ฟังจากอาการที่แบคฮยอนเล่ามา ลู่หานดูท่าจะเจ็บหนักเลยทีเดียว
อดทนไว้นะลู่หาน..ฉันจะไปช่วยนายเอง
“ลู่หาน! เป็นไงบ้าง?/ลู่หาน! อาการเจ้าเป็นอย่างไร”
หลังจากเขานอนชักดิ้นชักงออยู่นานสองนาน(?) เสียงทุ้มของคนที่เขาคุ้นเคยก็ดังขึ้นด้วยความตกใจ เซฮุนและโยซอบวิ่งกระหืดกระหอบมาหาลู่หานที่กำลังนอนอยู่บนพื้น วินาทีนั้นแทบจะร้องไห้โฮออกมาเลยทีเดียว
ไอ้ดีใจที่มีคนมาช่วยน่ะมันก็ดีใจอยู่หรอก...แต่ทำไมต้องเป็นสองคนนี้ด้วยฟะ!
ไปตามใครไม่ตามนะแบคฮยอน เอาสองคนนี้มาเดี๋ยวก็เกิดสงครามเย็นขึ้นหรอก สองคนนี้ถูกชะตากันซะที่ไหน...
รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างกำลังถ่ายทอดออกมาจากดวงตาของเซฮุนกับโยซอบดังเปรี๊ยะๆเลยแฮะ T^T
“จะจ้องตาจนท้องไปข้างเลยมั๊ย! มาช่วยฉันไม่ใช่หรอ ฉันนอนเจ็บอยู่นี่ก็ช่วยสิ L”
ทั้งสองคนหันกลับมาสนใจลู่หานอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครทำอะไรอยู่ดี
“ข้าจะอุ้มลู่หานไปเอง เจ้าถอยไป” โยซอบพูด
“ฉันจะอุ้มลู่หาน คนที่วันๆเอาแต่อ่านหนังสือท่องตำราอย่างนายจะไปมีแรงอุ้มคนรึไง?” เซฮุนแขวะกลับ
“ทำอย่างกับว่าเจ้าหุ่นล่ำเยี่ยงชายชาตรีเสียเมื่อไหร่” เซฮุนกับโยซอบเริ่มเกมส์จ้องตากันอีกครั้ง
“โว้ย เถียงกันแบบนี้ฉันว่าฉันไปให้หมอหลวงรักษาเองดีกว่า รู้งี้ไม่น่ารอให้คนมาช่วยเลยจริงๆ - -“ ลู่หานทนไม่ไหวเลยตะโกนออกมาห้ามมวยคู่เอกอีกครั้ง ทำเอาผู้หวังดีทั้งสองหางลู่หูตกกันเลยทีเดียว
“ขอโทษ..ก็แค่อยากจะเป็นคนช่วยนาย/ขอโทษ..ข้าอยากจะเป็นคนช่วยเจ้า” บทจะสามัคคีกันก็นะ..พร้อมกันจริงจริ๊ง สองคนนี้ แล้วเขาจะทำยังไงกันดีล่ะเนี่ย
“เอาเป็นว่าก็ช่วยพยุงฉันทั้งสองคนเลยสิ ไม่เห็นจะยาก” เมื่อเห็นว่าปัญหาเราสองสามคนไม่จบสิ้นซะที พาลจะทำให้เขาเจ็บหนักกว่าเดิมซะไม่ว่า ลู่หานเลยตัดสินใจบอกให้เซฮุนกับโยซอบช่วยกันพยุงไปหาหมอหลวงแทน
วิธีนี้น่าจะไม่ทำร้ายน้ำใจใครทั้งสองฝ่าย....
ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้ามาพยุงแขนทั้งสองข้างด้วยความระมัดระวัง ค่อยๆพยุงลู่หานเดินไปหาหมอหลวงอย่างช้าๆ ความเจ็บแล่นริ้วเข้ามาตามกระดูกสันหลังอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องนิ่วหน้าตลอดเวลา แต่เขาก็พยายามปั้นหน้าเหมือนปกติ ไม่อยากให้เซฮุนกับโยซอบไม่สบายใจ ทั้งๆที่มันโคตรเจ็บเลยให้ตาย - -‘
“ถ้าไม่ไหวก็ซบไหล่ฉันก็ได้นะ” เซฮุนกระซิบข้างๆหูด้วยความห่วงใย
“ซบไหล่ข้าดีกว่านะลู่หาน” โยซอบพูดพร้อมกับหันขวับส่งสายตาอำมหิตใส่เซฮุนอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร...แค่มดกัดเอง” แค่มดทั้งรังมันรุมกัดแค่นั้นเอง.... T___T
เห็นทีจะได้เจ็บหนักกว่าเดิมเพราะว่าเป็นคนกลางระหว่างสายตาทิ่มแทงของผู้ชายทั้งสองคนนี้ล่ะมั้ง คนหน้าตาดีเพลีย แบคฮยอนนะแบคฮยอน! เจอตัวจะเฉ่งให้ขี้หูเต้นระบำเลย T^T โทษฐานนำความลำบากใจมาให้
กว่าจะไปถึงมือหมอหลวงก็ทำเอาหายใจหายคอไม่สะดวกไปหลายรอบเลย
ผู้ชายเวลาทำตัวดาร์กๆนี่มันน่ากลัวจริงๆ...ลู่หานฟันธง -3-
“เป็นไงบ้างแม่นางสีดา พ่อคนสวยเลือกได้ ฮ่าๆ”
“สวยเลือกได้อะไร...แกอย่ามาทำเหมือนรู้ดี”
“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ฉันเพื่อนแกนะ ทำไมจะดูไม่ออกว่าแกกำลังมีความรัก แถมยังมีความรักกับหนุ่มหล่อสองคนซะด้วย แล้วดูท่าสองหนุ่มก็ดันมาหลงรักแกหัวปักหัวปำซะด้วยสิ เพื่อนกันแค่มองตาก็รู้แล้ว แล้วนี่แกหายเจ็บยัง?”
“ไม่ต้องมาทำเป็นถามไถ่อาการเลยนะแบคฮยอน เดี๋ยวเถอะๆ”
ตอนนี้ฉันกำลังนอนซมอยู่บนเตียงตัวเองพลางค้อนเพื่อนตัวดีเบาๆ ซึ่งบุคคลที่เขากล่าวหาก็ยังนั่งไขว้ห้างอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร ส่วนเซฮุนกับโยซอบลู่หานขอร้องให้พวกเขาออกไปก่อนหลังจากที่มาส่งเรียบร้อยแล้ว
“แกควรจะขอบคุณฉันนะลู่หาน อุตส่าห์วิ่งไปตามหวานใจแกทั้งสองคนมาช่วยแกน่ะ”
“ตามมาทำให้ฉันเจ็บกว่าเดิมล่ะไม่ว่า กว่าจะช่วยพยุงฉันมาที่นี่นะ เถียงกันจนฉันแทบจะดิ้นตายอยู่แล้ว”
“แสดงว่าแกฮอตมาก โอ้วๆ เพื่อนฉันนี่ไม่ธรรมดาเลย” แบคฮยอนทำหน้าตาตกใจโอเว่อร์จนน่าเตะ
ช่วงนี้เขาดวงตกจริงๆสินะ คราวก่อนก็ตกน้ำป๋อมแป๋มคยองซูมานั่งเฝ้า คราวนี้ก็ตกต้นไม้แบคฮยอนก็ยังมาช่วยซ้ำอีก
ถ้ากลับบ้านไปได้คงต้องทำบุญ 99 วัดให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ดวงซวยดีนัก - -/
“เอาน่าๆอย่าทำหน้ามหาโหดแบบนั้นสิ แล้วก้นแกเป็นยังไงบ้าง?” แบคฮยอนถามกลบเกลื่อนอีกครั้งหลังจากสังเกตได้ว่าเขากำลังโมโหมันอยู่
“ดีขึ้นแล้ว ที่สำคัญฉันบอกแกว่ามดกัดโว้ย ไม่ใช่ก้นหัก ฟังยังไงของแก - -“
“อ้าวๆ มาโทษฉันก็ไม่ได้นะ แกพูดไม่ชัดเองนี่”
“เอาเป็นว่าผิดทั้งคู่ก็แล้วกัน จบนะเรื่องนี้” ลู่หานสรุปก่อนที่แบคฮยอนจะพยักหน้าเห็นด้วย
“ถามจริงเถอะลู่หาน เอาตรงๆนะ ระหว่างเซฮุนกับโยซอบแกจะเลือกใครอะ?” จู่ๆแบคฮยอนก็ถามขึ้นทำเอาเขาที่กำลังจะดื่มน้ำอยู่เกือบจะสำลักน้ำจุกคอหอยตาย 0x0
“พรวด! แค่กๆ แกถามตรงไปนะ -0-”
“เพื่อนกันมันต้องถามกันตรงๆจะได้เปิดใจคุยกันไง แล้วสรุปแกว่าไงล่ะ?”
“มะ...ไม่รู้ ฉันตอบแกไม่ได้ว่ะ” ใบหน้าสวยก้มหน้าหลบสายตาแบคฮยอนอย่างไม่รู้จะทำยังไง ก็คนมันไม่รู้จริงๆนี่นา...
“มัวแต่อ้ำอึ้งไม่ชัดเจนแบบนี้มันไม่ดีทั้งสองฝ่ายนะเว้ย ปล่อยไว้ก็คาราคาซังเปล่าๆ”
“ปัญหานี้มันไม่ใช่โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์นี่นา ใครจะไปตอบได้รวดเร็วทันใจล่ะ”
“เฮ้อ...ถามตัวเองให้ดีๆ อยู่กับใครแล้วใจเต้นมากกว่ากัน”
แทนที่ลู่หานจะตอบคำถามแบคฮยอนเป็นคำพูด กลับยกมือขึ้นมาสองนิ้วแทน ก็มันใจเต้นเท่าๆกันนี่นา TT
“ถ้างั้น..เวลาแกคุยกับใครแล้วมีความสุขมากกว่า ใครทำให้แกยิ้มได้มากกว่า ใครทำให้แกสบายใจมากกว่า ใครที่อยู่ข้างๆแกมากกว่า ใครที่คอยปลอบแกเวลาที่เศร้าได้มากกว่า ใครที่แกชอบหลบสายตามากกว่าเวลามองตากัน อ้อ!ใช้หัวใจของแกตอบนะ ห้ามใช้สมองเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแกจะเลือกผิดแน่ๆ” แบคฮยอนพูดจบพร้อมกับเอามือบางๆของมันมาตบไหล่เขาอย่างให้กำลังใจเบาๆ
นั่นสิ...ใครกันนะ
ภาพเก่าๆผุดขึ้นมาอย่างมากมายราวกับดอกเห็ด ภาพของเขากับเซฮุน ภาพของเขากับโยซอบต่างสลับกันไหลย้อนเข้ามาในความคิดมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันจะปกป้องนายเองลู่หาน”
“ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายไปไหนหรอกน่า”
“นายจะต้องปลอดภัย เชื่อฉันสิ”
“นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว...”
จู่ๆคำพูดต่างๆของเซฮุนกลับลอยเคว้งเข้ามาในความคิดของลู่หานอย่างไม่หยุดหย่อน เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ตลอดเวลาที่ท้อแท้ คนๆนั้นจะคอยอยู่ข้างๆเสมอ นับไม่ถ้วนเลยทีเดียวที่ตัวเองเผลอแอบมองเสี้ยวใบหน้าของเขาโดยที่ไม่ทันได้รู้สึกตัว บ่อยครั้งที่เผลอเป็นห่วงเขาจนแทบจะบ้า ถึงแม้จะทะเลาะกัน แกล้งกัน...แต่ก็ไม่เคยเกลียดเขาเลยซักครั้ง
หัวใจของเขาเลือกคนๆนี้สินะ...เซฮุน
เมื่อได้คำตอบลู่หานก็ลุกพรวดกระชากผ้าห่มออกจากตัวแล้วลุกเดินกะเผลกๆออกจากห้องไป ทิ้งให้แบคฮยอนโวยวายตามหลังมาติดๆ
“เฮ้ยๆ แกจะไปไหน หายเจ็บแล้วรึไง -0-”
“ไปให้คำตอบหัวใจกับคนที่ใช่สำหรับฉัน ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไร”
หลังจากนั้นไม่นานทั่วทั้งห้องก็เกิดความเงียบงันขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่แบคฮยอนหายงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันแล้ว แบคฮยอนก็ได้แต่ผุดยิ้มขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
บทจะเสี่ยวก็เสี่ยวตัวแม่เชียวนะไอ้ลู่หาน คำตอบหัวจงหัวใจ...หึหึ
ขอให้แกโชคดีละกันนะเพื่อนรัก...
หลังจากที่มาส่งลู่หานแล้ว ร่างสูงโปร่งทั้งสองก็เดินออกมานอกห้อง ระหว่างที่เดินเกิดแรงกดดันมหาศาลขึ้นจนเซฮุนเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเลยเรียกโยซอบไว้
“เดี๋ยวโยซอบ ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย”
“หึ...ข้าก็มีเรื่องจะคุยกับเจ้าเหมือนกัน”
ทั้งสองหนุ่มเดินไปคุยกันที่มุมตำหนักมุมหนึ่ง ไม่รอช้าโยซอบรีบพูดเปิดประเด็นทันที
“ข้าชอบลู่หาน และข้าคิดว่าเจ้าก็คงจะเหมือนกันใช่หรือไม่?”
“หึ...เดาถูกนี่ ชั้นชอบลู่หาน ชอบมากด้วย” เซฮุนแค่นเสียงตอบมาด้วยน้ำเสียงยียวน
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ...ชอบคนๆเดียวกัน แถมยังชอบมากๆเหมือนกันซะอีกแน่ะ” โยซอบพูดยิ้มๆ
“ชั้นก็จะทำให้ลู่หานมารักฉันให้ได้ นายน่ะถอยไปซะเถอะโยซอบ”
“ทำไมข้าต้องถอย? เพราะข้าก็มีสิทธิ์ไม่ต่างอะไรจากเจ้า”
“โอ๊ะโอ..นายคงจะลืมไปอย่าง ชั้นน่ะมีสิทธิ์เหนือนายอยู่อย่างนึง ชั้นกับลู่หานน่ะ มาจากที่เดียวกัน โลกเดียวกัน และนาย..คือโลกอดีตของพวกเรา ถึงนายกับลู่หานจะรักกันได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ไม่แน่ว่าลู่หานกับชั้นอาจจะต้องกลับมายังโลกที่พวกชั้นอยู่ และแน่นอน...นายกับลู่หานก็ต้องจากกัน”
ความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงถูกเซฮุนเอ่ยออกมากัดกร่อนหัวใจของโยซอบ ไม่ใช่ว่าโยซอบไม่รู้กฎข้อนี้หรอกนะ แต่เขากำลังพยายามลืมๆมันไปต่างหาก ใช่แล้วล่ะ..เมื่อถึงเวลา ทุกคนที่มาจากแดนไกลจะต้องกลับไปยังที่ๆเขาอยู่
“ข้ารู้ดี...ผิดหรอที่ข้าอยากจะอยู่กับคนที่ข้าชอบ ข้าอยากมีความสุขกับคนที่ข้าหลงรัก” โยซอบพูดน้ำเสียงเศร้าๆ
“ถ้านายคิดแบบนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไม่ใช่แค่นายเสียใจ ลู่หานเองก็จะเสียใจ นายคงไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่นายบอกว่ารักนักรักหนาหรอกนะ ชั้นรู้ว่านายเองก็เป็นคนที่ดี นายดีพร้อมทุกอย่างโยซอบ ถ้าหากนายจะเกิดมาในยุคของชั้นกับลู่หาน ฉันจะไม่ขัดขวางนายเลย”
“นั่นสินะ...ข้าเองก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ข้ามัวแต่คิดถึงความสุขของตัวเอง” โยซอบพูดพร้อมๆกับพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา ถึงจะรักมากเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องเห็นคนที่ตัวเองรักมีน้ำตา เขาก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน
“ฉันเองก็ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่มีให้ฉันนะโยซอบ”
“ลู่หาน!!!” ทั้งเซฮุนและโยซอบต่างหันมามองบุคคลในหัวข้อสนทนาอย่างพร้อมเพรียงกัน ร่างบางเดินออกมาจากมุมของอีกฟากตำหนักและเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยความทุลักทุเล
“ฉันกลับไปคิดๆทบทวนดูแล้วล่ะ ฉันคิดว่า...ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันน่าจะดีกว่า..” ลู่หานเดินเข้าไปจับมือโยซอบเบาๆพร้อมกับเปล่งคำพูดเสียดแทงจิตใจของคนฟัง มันเจ็บยิ่งกว่าโดนมีดแหลมๆแทงตรงหัวใจซะอีก
“อ่า...อืม...ถ้าเจ้าต้องการแบบนั้นข้าก็ไม่ขัด ฮ่ะๆ” โยซอบยิ้มฝืนๆ
อกหักซะแล้วสิเรา...คนอย่างข้าอกหักแฮะ ฮ่ะๆ
“ขอโทษนะโยซอบ...” ลู่หานพูดเสียงสั่นด้วยความรู้สึกผิด โยซอบยักไหล่ราวกับว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆทั่วไป
“ช่างเถอะ..เรื่องแบบนี้ไม่มีใครสามารถบังคับมันได้หรอก มีอะไรให้ช่วยก็บอกข้าได้นะ...ถึงแม้จะบอกข้าในฐานะคนรักไม่ได้...แต่ฐานะเพื่อน ข้ายังมีให้เจ้าเสมอ J ข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวราชกิจไม่เสร็จกันพอดี ไปล่ะ”
โยซอบกล่าวลาลู่หานกับเซฮุนด้วยรอยยิ้มที่มองดูก็รู้แล้วว่าฝืน ร่างโปร่งหันหลังเดินออกมาอย่างรวดเร็ว ก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจกำลังบีบรัดอย่างเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ต่อจากนี้ข้าจะพยายามเป็นเพื่อนกับเจ้า...ลาก่อนความรักของข้า
ขอบคุณที่เจ้ามาทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป สามารถรักได้..อกหักได้
เรื่องราวระหว่างเจ้ากับข้า จะไม่มีวันลืมเลือนไปจากใจ
“เซฮุน เฮ้! เป็นอะไร ช็อคอยู่รึไง”
“ห้ะ..ห๊า! มีอะไร”
ร่างบางๆโบกมือเรียกสติของร่างสูงให้กลับเข้าร่าง เพราะดูเหมือนว่าเซฮุนคนนี้จะสติหลุดไปไกลแล้ว....
“ไม่มีอะไร..ก็แค่จะบอกว่าชอบนายอะ” ‘////////’
“อืม....ห๊ะ!!! อะไรนะขออีกที” เซฮุนอึ้งครับพี่น้อง =[]=
“ของดีมีครั้งเดียว ฟังไม่ทันก็เรื่องของนายสิ!”
“เอ่อ...ชั้นก็ชอบนายเหมือนกันนะ วุ้ย! นายบอกชอบชั้นก่อนมันไม่โรแมนติกเลย -3-“
“ฉันไม่ชอบโรแมนติกอะ ทำไม...กลัวว่าฉันจะแมนกว่านายรึไง?”
“ไม่กลัว! กลัวที่ไหน -0-“
“แล้วนี่สรุปนายไม่กลัวแน่นะ”
“เออ”
“นายจะแมนกว่าฉันใช่มะ?”
“เออ”
“สรุปนายจะเป็นแฟนฉันใช่มะ?”
“เออ เฮ้ย! อะไรของนาย เล่นทีเผลอนี่ -3-”
“ฮ่าๆๆๆๆ นายเป็นแฟนฉันแล้ว”
นี่แค่เริ่มขอเป็นแฟนยังมึนขนาดนี้แล้ว...ต่อไปมันจะมึนขนาดไหนล่ะเนี่ย คิกๆ
************************************
ความคิดเห็น