คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Im Here I N T R O -
I’m Here – I N T R O -
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางกรุงปักกิ่ง อากาศหนาวเย็นเริ่มปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ละอองหิมะตกลงมาค้างบนยอดหญ้าสะท้อนแสงอาทิตย์ต้อนรับวันใหม่ เสียงพูดคุยจ๊อกแจ๊กจอแจดังขึ้นจากสี่พ่อแม่ลูกแฝด คนเป็นพ่อเดินนำออกมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบโตสองใบ ตามด้วยลูกชายฝาแฝดคนพี่ที่เดินตามบ่นอุบอิบโวยวายคัดค้านไม่ขาดเสียง ถัดมาเป็นภรรยาของแบคบอมที่เดินตามทั้งสองคนมาพร้อมๆกับลูกชายฝาแฝดคนเล็กที่กอดแขนคุณแม่สุดที่รักเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
วันนี้ป๋ายเซียนกับแพคฮยอนต้องไปเกาหลีเพื่อไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในโซล
ติดอยู่ที่ว่าทั้งสองคนไม่อยากไป อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว...ไม่อยากไปในที่ๆไม่คุ้นเคยเลย
“พ่อครับ...ไม่ไปไม่ได้หรอ ผมกับพี่ป๋ายเซียนเราเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งก็ได้”
แพคฮยอนขอร้องคุณพ่อเสียงแผ่ว ไม่กล้าจะคัดค้านอะไรมากนักแต่ก็ต้องลองพูดไป ไม่อยากให้พี่ป๋ายเซียนพยายามคัดค้านอยู่คนเดียว ไม่ใช่ว่าที่เกาหลีไม่ดี แต่เขากับพี่ป๋ายเซียนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือว่าอยู่ยากลำบาก เป็นใครก็ไม่อยากไปไหนหรอก
แพคฮยอนก็แค่เป็นคนติดแม่ อยากอ้อนแม่ทุกๆวัน...อยากอยู่ที่นี่
“แพคฮยอนไม่อยากไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าหรอ...ท่านทั้งสองอยากให้ลูกไปอยู่ที่โน่นนะ อีกอย่างพ่อกับแม่ก็ไม่มีเวลาดูแลลูกๆด้วย ที่โน่นอะไรๆเขาก็โอเคกว่า”
“แต่อั๊วกับแพคฮยอนไม่ใช่เด็กๆที่ต้องคอยมีคนดูแลแล้วนาอาป๊า อั๊วโตแล้วดูแลตัวเองได้น่า”
ป๋ายเซียนแย้งคนเป็นพ่ออีกรอบ ทำหน้ามุ่ยกอดอกเอาแต่ใจจนวินาทีสุดท้าย หงุดหงิดใจกับการตัดสินใจของป๊ากับม๊า คิ้วสวยขมวดมุ่นรู้สึกขัดใจ แพคฮยอนก็อีกคน ไหนตกลงกันแล้วไงว่าจะช่วยกันพูดช่วยกันแย้ง ไหงไปกอดแขนหลบหลังม๊าพูดเสียงอ่อย แบบนี้จะเปลี่ยนใจอาป๊าได้รึไง - -/
“ลื้ออย่าดื้อหน่อยเลยอาป๋าย ใช่ว่าอั๊วจะพาพวกลื้อสองคนไปปล่อยกลางเกาะกลางทะเลซะเมื่อไหร่ จะกลับมาเที่ยวที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้”
คุณนายซินหลิวพูดพลางลูบหัวแพคฮยอนลูกชายคนเล็กไปด้วย หล่อนทั้งรักและเอ็นดูลูกชายทั้งสองมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้แสดงออกไปมากนัก ไม่อย่างนั้นเจ้าลูกชายคนเล็กจะยิ่งเปราะบางเข้าไปใหญ่ หล่อนต้องการให้ลูกชายทั้งสองคนเติบโตยิ่งกว่านี้
ถึงแม้ป๋ายเซียนและแพคฮยอนจะเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เกิดห่างกันไม่กี่นาที แต่นิสัยก็ต่างกันไปคนละแบบ
ป๋ายเซียน...พี่ชายฝาแฝดคนโต ดื้อรั้น ไม่ฟังใคร เอาแต่ใจ เถียงคำไม่ตกฟากหากมั่นใจว่าตัวเองถูก ใจร้อน แต่มีนิสัยเป็นผู้นำ เพราะว่าเกิดก่อน...เป็นพี่คนโตจึงมีความเด็ดขาด แน่วแน่ เข้มแข็ง เพราะถูกสอนให้ปกป้องน้องชายมาตลอดจึงต้องทำตัวให้แพคฮยอนไว้วางใจว่าสามารถปกป้องได้ สามารถเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งปกป้องกันภัยให้แพคฮยอน ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นสายลมอุ่นๆคอยประคองให้แพคฮยอนเติบโตขึ้นอย่างงดงาม
แพคฮยอน...น้องชายฝาแฝดคนเล็ก อ่อนโยน โอนอ่อนตามคนง่าย ใจดี ร่าเริง เข้ากับคนง่าย เพราะว่าเกิดทีหลัง...เลยถูกปกป้องและดูแลถนอมยิ่งกว่าไข่ในหินจากพี่ชายและครอบครัว ใสซื่อและบริสุทธิ์ ไม่ค่อยทันคน แถมยังขี้อายยิ่งกว่าอะไรดี เพราะคนเป็นพี่สามารถจัดการทุกอย่างให้น้องชายได้หมดทุกเรื่อง แพคฮยอนเลยไม่มีความกล้าในการเผชิญปัญหาใดๆ คอยยืนอยู่ข้างหลังพี่ชายมาตลอด...
ถึงแม้ว่าฝาแฝดคู่นี้จะต่างกันมากแค่ไหน...แต่จิตใจของเขาทั้งสองคนเชื่อมกันอยู่เสมอ...
แค่มองตาก็รู้และเข้าใจว่าต่างคนต่างคิดอะไร
เป็นจิตสัมผัสพิเศษที่มีแต่คนเป็นฝาแฝดเท่านั้นที่มี หากอีกฝ่ายเกิดอะไรขึ้น อีกคนจะรู้สึกได้...
“อั๊วไม่ไป ถ้ารักอั๊วก็เอากระเป๋ากลับไปไว้ที่เดิมเลยอาป๊า -3-“
แฝดพี่ยื่นคำขาดพลางก้าวขา(ที่คิดว่ายาว)ไปดึงกระเป๋าของตัวเองแล้วลากมันเดินเข้าคฤหาสน์ไป แบคบอมส่ายหัวเอือมกับความเอาแต่ใจของป๋ายเซียน คิดโทษตัวเองว่าคงจะเลี้ยงดูตามใจมากเกินไปเลยดื้อรั้นได้ขนาดนี้ ป๋ายเซียนเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องชะงักเพราะแบคบอมเดินไปขวางเอาไว้ คิ้วเรียวยักขึ้นลงอย่างกดดัน คิดว่าคราวนี้พ่อของเขาคงจะยอมอ่อนข้อให้ตามเคย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครขัดใจป๋ายเซียนได้ซักครั้ง
“พ่อรักลูกนะป๋ายเซียน...”
ผลั่ก!!
เป็นการบอกรักลูกชายคนโตด้วยการยันเท้าถีบให้ป๋ายเซียนเข้าไปในรถ -________-
คุณนายซินหลิวกับแพคฮยอนมองสองพ่อลูกแสดงความรักกันด้วยแววตาอึ้งและตกใจ ก็พอจะรู้ๆอยู่ว่าพ่อลูกคู่นี้เขารักกันด้วยวิธีฮาร์ดคอร์ แต่ยังไงก็ไม่ชินซักที...
โดนลูกถีบเข้าไปซะขนาดนี้ เจ็บมากมั๊ยล่ะนั่น...
“มองอะไรอยู่ล่ะแพคฮยอน ตามพี่เข้าไปในรถได้แล้ว”
“ค...ครับพ่อ”
แพคฮยอนได้แต่พยักหน้าหงึกหงักแล้วรีบขึ้นรถตามไปดูอาการพี่ชายตามคำสั่งของพ่อ คนเป็นพี่นั่งโอดโอยอยู่ข้างๆพลางบ่นอุบอิบ มือเล็กยื่นเข้าไปประคองให้พี่ชายนั่งดีๆแล้วบีบๆนวดๆให้หวังจะให้ป๋ายเซียนหายปวด
“ไม่ดื้อไม่ซนกับคุณปู่คุณย่านะ โชคดี แล้วเดี๋ยวอั๊วกับป๊าของลื้อจะตามไปทีหลัง”
คุณนายซินหลิวโบกมือลาและสั่งเสียลูกชายทั้งสอง รถเคลื่อนออกไปจากคฤหาสน์จนหายไปลับตา ระหว่างทางป๋ายเซียนทำหน้าบูดยิ่งกว่าอะไร จนแพคฮยอนต้องคอยพูดปลอบใจไม่ให้คิดมาก
“เอาน่าพี่ป๋าย ผมว่าเราอย่าไปเครียดหรือว่าต่อต้านอะไรอีกเลยนะ”
“ก็เป็นซะอย่างนี้ ถ้าน้องแพคไม่ยอมเถียงยอมโต้แย้งซะบ้าง แล้วจะได้ทำในสิ่งที่ต้องการได้ยังไง ไปอยู่ที่โน่นจะต้องปรับตัวอะไรบ้างก็ไม่รู้ น้องแพคนั่นแหละจะโดนใครเขารังแก”
“ผมก็มีพี่ป๋ายอยู่ไงครับ พี่ป๋ายคอยปกป้องดูแลผมมาตลอดนี่นา ไม่เป็นไรหรอกนะ ผมจะพยายามปกป้องตัวเองเท่าที่จะทำได้ ผมโตแล้วนี่ ( . .)”
“แต่ก็นะ น้องแพคยังอ่อนต่อโลกเกินไปที่จะรู้ว่าใครดีใครร้าย อาป๊าก็เหลือเกิน ถีบพี่ซะแรง...เจ็บไปหมดแล้ว นี่ลูกชายเชียวนะลูกชาย ไม่มีออมแรงเลยอาป๊า L”
“งั้นผมนวดให้นะ เชื่อมือผมได้เลย คิกๆ J”
ป๋ายเซียนเบ้ปากกับความระบมตรงที่โดนฝ่าเท้าประทับ แต่แพคฮยอนกลับหัวเราะร่าแล้วลงมือบีบๆนวดๆให้พี่ชาย เสียงพูดคุยดังไปตลอดทาง วิธีการเรียกแทนตัวเองอย่างสนิทสนม พี่ป๋าย น้องแพค มีแค่คนสองคนนี้เท่านั้นที่เรียกอีกฝ่ายแบบนั้น ความหงุดหงิดในใจของแฝดพี่หายไปเพียงเพราะได้เห็นรอยยิ้มของแฝดน้อง รอยยิ้มของแพคฮยอนมันสดใสเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงของดวงตะวัน มันทำให้จิตใจของป๋ายเซียนมีชีวิตชีวาขึ้นหลายเท่าตัว
น้องใครกันนะ น่ารักเว่อร์ -.,-
ถ้าพี่ป๋ายไม่ใช่พี่ชายฝาแฝด ก็คงจะฉุดเอาไปเป็นแฟนนานแล้ว พี่ป๋ายเมะนะครับเมะ
หน้าตาจะเหมือนกันเป๊ะทุกระเบียดนิ้วก็จริง แต่พอได้มองจะรู้เลยว่าใครคือป๋ายเซียน ใครคือแพคฮยอน
เดาได้จากสายตา รอยยิ้ม และคำพูด...
ถ้าแพคฮยอนจะเป็นเทวดาที่ล่องลอยอยู่ในสวนเอเดน....
ป๋ายเซียนก็คงจะเป็นมารจอมป่วนอยู่ในนรกล่ะมั้ง...
******************************
แวะมาอัพอินโทรค่ะ แต่งแปลกๆมั๊ยเนี่ยแนะนำด้วยนะเออ
ซึ้งค่ะมีคนคอยตามฟิคเรื่องนี้ตั้งแต่ยังไม่ลงอินโทร .ปาดน้ำตา
ขอบคุณนะคะสำหรับการติดตามตั้งแต่ฟิคเรื่องก่อนจนมาถึงเรื่องนี้
เอนจอยรีดดิ้งค่ะ <3
ความคิดเห็น