ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [CHANBAEK] Return To Tears.

    ลำดับตอนที่ #1 : Return 1

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 57





    Return To Tears

     

     

    ว่าด้วยเรื่องของความรัก

    ขึ้นอยู่กับคนสองคน..ว่าจะเปลี่ยนไปรึเปล่า

    ฝ่ายนึงยังรอ คนนึงยังรัก

    ซักวันเมื่อได้พบกัน...ทำไมจะรักกันตลอดไปไม่ได้?

     

     

                “แค่กๆๆๆ อ่อก...ตายๆ แค่กๆ”

    แป้งขนมเค้กคละคลุ้งไปทั่วห้องครัวเล็กๆในบ้านหลังหนึ่ง บ้านที่ไม่ได้หรูหราอลังการมากมาย แต่ก็อบอวลไปด้วยความสดใสและความสุข เจ้าของบ้านตัวเล็กปิดจมูกไอแค่กๆหน้าดำหน้าแดงอยู่ใกล้ๆส่วนผสมเค้กที่เลอะเทอะเต็มโต๊ะไปหมด ใบหน้าจิ้มลิ้มเปรอะไปด้วยแป้งขนมเค้กที่ตั้งใจตวงส่วนผสมมาตั้งแต่เช้าแต่ก็ยังไม่ได้สัดส่วนที่ลงตัวซักที นึกหัวเสียไปหลายรอบ อยากจะล้มเลิกความคิดที่จะทำเค้กเองแล้วสั่งซื้อมาซะจะได้สิ้นเรื่อง แต่เพราะวันนี้จะได้เจอใครบางคน...คนที่เขารอมาตลอดหนึ่งปี อยากใส่ใจกับทุกๆอย่าง เลยฮึดสู้ตั้งใจทำอีกครั้ง

     

    แต่พอมองอุปกรณ์กลาดเกลื่อนบนโต๊ะตัวเองแล้ว...

     

    “เห้อ จะรอดป่ะวะ”

     

    แต่ถ้าทำสำเร็จ คนๆนั้นจะต้องดีใจแน่ๆเลย เค้กที่บยอนแบคฮยอนตั้งใจทำเชียวนะ!

     

    ยกกำปั้นชูขึ้นฟ้า ฮึดสู้อีกครั้งแล้วตั้งใจทำใหม่ ค่อยๆร่อนแป้งอย่างใจเย็น ผสมเนื้อแป้งทุกอย่างให้เข้ากัน แต่งสี เติมกลิ่นเข้าไปอีกหน่อยก็พอไหว แบคฮยอนไม่ถนัดงานครัว ใครๆเขาก็ว่าอย่างนั้น แต่มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นแหละที่ยอมผูกผ้ากันเปื้อนจับตะหลิวหยิบทัพพีเข้าห้องครัว เพียงเพราะอยากทำอะไรให้คนพิเศษของเขาได้กิน...

     

    ไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งปี...จะเปลี่ยนไปมากรึเปล่านะ

     

    สูงขึ้นมั๊ย...หล่อขึ้นมั๊ย...ดูดีขึ้นแน่ๆเลย

     

    เจอกันแล้วแบคฮยอนจะต้องดีใจจนน้ำตาทะลักแน่ๆ คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆของใครอีกคนจัง

     

    อยากให้มาไวๆ....

     

    อยากสบตาคนที่ทำให้เขาใจสั่นได้แม้เพียงอยู่นิ่งๆไม่ขยับเขยื้อน คนที่บยอนแบคฮยอนคนนี้ตกหลุมรักได้แม้เพียงสบตาในช่วงเวลาสั้นๆ

     

    เลื่อนถาดอบขนมเค้กเข้าเตาอบด้วยอาการลุ้นสุดขีด ปรับระดับบนเตาอบแล้วเดินไปเดินมาอยู่ตรงนั้น ภาวนาขอให้คราวนี้สำเร็จซักที เพราะมีอีกหลายๆอย่างที่ต้องทำต่อ รอได้ไม่นานเสียงเตือนก็ดังขึ้น คนตัวเล็กวิ่งไปดูด้วยความตื่นเต้น กลิ่นเค้กหอมๆลอยมาแตะจมูกพร้อมๆกับสีเค้กนวลสวย จิ้มๆแตะๆดูแล้วประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

    ปาดเนื้อครีมลงไปอย่างใจเย็น...

    จับสตอเบอร์รี่ลูกโตวางแปะบนหน้าเค้กอย่างระมัดระวัง

    โรยผงน้ำตาไอซิ่งลงไปอย่างตั้งใจ

     

    ในที่สุดเค้กฝีมือบยอนแบคฮยอนก็สำเร็จ!!

     

    “เค้กหนึ่งก้อน แลกกับทำห้องครัวพัง มันคุ้มมั๊ยเนี่ย ฮ่าๆ”

     

    หัวเราะให้กับห้องครัวตัวเองที่พังไม่เป็นท่า เก็บเค้กเอาไว้ในตู้เย็นอย่างปลอดภัย เก็บกวาดห้องครัวที่กลายเป็นสมรภูมิรบให้เข้าที่กลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้ง ฮัมเพลงร้องคลอตามเบาๆอย่างอารมณ์ดี ดวงตาเรียวเหลือบมองนาฬิกาบนผนังบ้านเป็นระยะๆกะเวลาที่ใครอีกคนกำลังจะมาถึง

     

    “ตายล่ะ ! กับข้าวยังไม่ได้ทำ โอ๊ยๆทำไมเป็นแบบนี้วะแบคฮยอน”

     

    ทึ้งหัวตัวเองแล้วรีบจับตะหลิวอีกครั้ง คราวนี้ต้องเร่งเวลาอีกนิดเพราะอีกไม่นานอีกคนคงจะมาถึง อาหารเมนูง่ายๆหลากหลายถูกวางเรียงเต็มโต๊ะอาหารเล็กๆสำหรับคนสองคนอย่างเป็นระเบียบ ไม่ได้จบเชฟโรงแรมห้าดาวมากับเขาหรอก ความรู้อันน้อยนิดอย่างเขาจะไปทำอะไรได้ขนาดนั้น แต่แบคฮยอนเป็นคนหัวครีเอทีฟ หยิบนั่นเติมนี่ อาหารก็ดูน่ากินขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    ปีก่อนๆ...คนๆนั้นยังชมเลยว่าน่ากิน

     

    คนๆนั้นนั่งอยู่ตรงหน้าเขา กินข้าวกับเขาอย่างเอร็ดอร่อย...เรามีความสุขกันตลอดทั้งวัน

     

    จนมาถึงตอนนี้ แบคฮยอนเองก็อยากให้ภาพๆนั้นกลับมาเกิดขึ้นอีกไวๆ

     

    น้ำตาใสไหลลงอาบแก้มเนียน...

     

    มือเรียวรีบปาดมันออกไป

     

    “ร้องทำไม...เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว ฮึก...”

     

     

     

    แบคฮยอนเดินวุ่นไปรอบบ้านไม่หยุด...

     

    กวาดบ้าน เช็ดบ้าน ปัดฝุ่น จัดห้อง จัดของบนโต๊ะ หยิบดอกไม้มาปักใส่แจกัน หันซ้ายหันขวาหารูปคู่ของตัวเองกับคนๆนั้น กะจะเอามาปัดฝุ่นให้ใสกิ๊งซะหน่อย เอาไปไว้ไหนนะ...

     

    “อ่า...ไม่ได้อยู่ที่เรานี่นา พ่อคนติดแฟนเอาไป ฮ่าๆ”

     

    หัวเราะให้กับความขี้ลืมของตัวเองก่อนจะจัดบ้านต่อไป อะไรๆก็ดูจะสนุกสนานไปหมด ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็คงไม่เท่ากับความตื่นเต้นดีใจที่จะได้เจอกันอีกครั้ง รอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ใบหน้าจิ้มลิ้มไม่ขาด ในที่สุดกว่าจะพอใจก็ทำเอาเหงื่อตกเหมือนกัน

     

    ก็อยากให้บ้านดูสบายตา...คนกลับมาจะได้รู้สึกสบายใจ

     

     

     

    แบคฮยอนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ...เดินมายังตู้เสื้อผ้าที่ถูกรื้อหาชุดสวมใส่จนไม่เป็นระเบียบ

     

    เลือกชุดตั้งแต่ก่อนอาบน้ำแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอชุดที่ถูกใจซักที หยิบชุดโน้นมาใส่กับชุดนี้ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกก็ยังไม่พอใจ ยื่นปากพ่นลมออกมาอย่างหงุดหงิด ริมฝีปากจิ้มลิ้มงอง้ำลงมาแลดูน่ารัก สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยกลับมาเลือกชุดอีกที

     

    เหลือบไปเห็นเสื้อยืดลายน่ารักๆเป็นเสื้อคู่ที่คนรักของเขาซื้อให้เมื่อหลายปีก่อน มือเรียวหยิบมันออกมาจากตู้แล้วใส่ดู คู่กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้มที่ชอบใส่ประจำ มันดูเข้ากันอย่างประหลาด แบคฮยอนมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้มให้อย่างพออกพอใจ ประแป้งนิดหน่อยพอให้หอมอ่อนๆเป็นกลิ่นประจำกาย

     

     

    เอ...จะกรีดตาซักหน่อยดีรึเปล่านะ

     

    ไม่เอาดีกว่า แฟนตัวสูงไม่อยากให้แบคฮยอนกรีดตา..

     

    บอกว่าชอบแบคฮยอนน่ารักๆแบบนี้มากกว่า เอาล่ะ จะตามใจก็แล้วกัน เห็นแก่ที่ไม่ได้เจอกันนานหรอกนะ

     

     

    ปีนึงเชียว...ทรมานแทบทนไม่ไหว แต่แบคฮยอนก็ผ่านมาได้ทุกปี

     

    ต้องรอ 365 วันเชียวนะ...แต่ก็รอมาแล้ว

     

    จะได้เจอกันแล้วนะ...อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า

     

    “อยากเจอจัง....”

     

     

    นี่ก็นานแล้วนะ...

     

    แบคฮยอนชะเง้อคอมองประตูบ้านบ่อยยิ่งกว่ามองรายการทีวีที่กำลังเปิดอยู่ซะอีก

     

    หรือว่าจะยังมาไม่ถึง...หรือว่ารถติด

     

    .......หรือว่าปีนี้จะไม่มา......

     

     

    กอดหมอนอิงรอคนบางคนอย่างทรมาน ฟังเสียงเข็มของนาฬิกาที่มันเดินไปแต่ละวินาทีอย่างเชื่องช้า จะได้เจอกันเพียงแค่วันเดียวของปีทำไมชักช้านัก แบคฮยอนอยากตะโกนด่าให้ลั่นบ้านเลย

     

    คนรอมันทรมานรู้มั๊ย....แบคฮยอนเป็นคนรอ โดยที่ไม่รู้ว่าอีกคนจะเปลี่ยนไปรึเปล่า

     

    อีกคนก็คงรอแบคฮยอนเหมือนกันใช่มั๊ย...รอที่จะเจอกันเหมือนทุกๆปี

     

    “โทรมาก็ยังดีว่าอยู่ไหนแล้ว...แต่นี่อะไร....ใจร้ายไปแล้วนะ L

     

    ดวงตาเรียวเปลี่ยนไปจ้องโทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตายราวกับว่ามันมีความรู้สึกอย่างนั้นล่ะ มีอย่างที่ไหนไม่ส่งข่าวอะไรมาเลยซักนิด อยากรู้ว่าเป็นยังไงบ้างแทบตายแต่ก็ติดต่อไม่ได้เลย มีแต่ใจวัดใจเท่านั้นในแต่ละปี แล้วปีนี้...แบคฮยอนก็กำลังวัดใจคนรักของเขาอีกปี

     

    ออด....ออด...

     

    พรึ่บ!!!

     

    เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ราวกับว่าร่างกายของแบคฮยอนมันตอบรับเสียงกริ่งโดยอัตโนมัติ ขาเรียวรีบวิ่งลงจากโซฟาไปยังหน้าบ้านทันที รีบร้อนจนแทบจะสะดุดขาตัวเองล้มลงไป ดวงตาเล็กเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น รอเจอใครบางคนที่อยู่อีกฟากของรั้วบ้านอย่างใจจดใจจ่อ...

     

    “ย๊า!!! รออยู่ตั้งนานทำไมมา....”

     

    เสียงหวานตะโกนลั่นเงียบลงไปเมื่อไม่พบใครยืนอยู่หน้าบ้านเหมือนทุกที...

     

    ไม่มีใคร...

     

    แบคฮยอนหันซ้ายหันขวามองหาคนที่ตัวเองรอมาตลอดหนึ่งปี แต่ก็ไม่เจอคนที่ต้องการเหมือนกับทุกครั้ง

     

    “อยู่ไหน...อย่ามาแกล้งนะ อยู่ที่ไหน นายอยู่ไหน!!!

    แบคฮยอนตะเบ็งเสียงลั่นอย่างไม่อายใคร ท่ามกลางความหนาวเย็นหมอกตกแทบจะมองอะไรข้างหน้าไม่เห็น ตะโกนจนเส้นเอ็นปูดขึ้นตรงต้นคอ น้ำตาใสเอ่อคลอหน่วงที่ขอบตา เอ่ยประโยคเรียกใครคนนั้นซ้ำๆซากๆอย่างไม่รู้จักพอ จนในที่สุดก็ลงไปนั่งฟุบหน้ายองๆกับพื้น แทบไม่เหลือแรงลากตัวเองกลับเข้าไปในบ้าน

     

    ปีก่อนก็สัญญากันแล้วแท้ๆ ทำไมไม่มา...คนผิดสัญญา ถ้าไม่มาจะปล่อยให้เขารอทำไม จะบอกให้รอทำไมตั้งหนึ่งปี หนึ่งปีไม่ใช่เล่นๆเลยนะ...คนรอมันไม่สนุกซักนิด

     

    เสียงรองเท้าหนังดังขึ้นในโสตประสาทของคนที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่...

     

    ในที่สุดก็เห็นปลายรองเท้าหนังสีดำหยุดอยู่ตรงหน้า พร้อมๆกับมือหนาที่วางแหมะลงบนกลุ่มผมนิ่มที่เริ่มเย็น

     

     

     

     

    “มานั่งอะไรตรงนี้ หนาวจะตายตัวหดหมดแล้วไอ้เตี้ย”

     

    เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นให้แบคฮยอนได้ยินหลังจากที่ไม่ได้ฟังมาตลอด 365 วันที่ผ่านมา...

    สัมผัสอุ่นๆของฝ่ามือร้อนที่กำลังลูบผมของแบคฮยอนอย่างอ่อนโยนมันทำให้เขาใจเต้นอย่างประหลาด

     

    แต่คิดหรอว่าทำแบบนี้แล้วแบคฮยอนจะใจอ่อนน่ะ!!

     

     

    “โอ๊ย!! อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาทำไมเนี่ย เจ็บนะเว้ยหมา”

    คนตัวสูงร้องซี๊ดโอดโอยเมื่ออยู่ๆคนตัวเล็กก็ลุกพรวดขึ้นเอาหัวมาโหม่งใส่จมูกเขาซะชาไม่รู้สึก คนขี้แกล้งกำลังจะก้มไปประคองลุกขึ้นมาแท้ๆดันมาทำให้เขาเจ็บตัวซะได้ ร้ายกาจจริงๆเจ้าหมาเตี้ยนี่

     

    “ใครให้แกล้งก่อนเล่า ไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลย ควรแกล้งมั๊ย รอมาตั้งนาน!

    “ร้ายกาจจริงๆตัวแค่เนี้ย”

    “ถึงจะตัวแค่นี้แต่ก็ทำร้ายคนตัวสูงๆอย่างนายได้ก็แล้วกัน ปาร์คชานยอล!!

     

    คนตัวสูงโย่งที่แบคฮยอนเรียกว่า ปาร์คชานยอล หัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจที่แหย่ลูกหมาน่ารักๆให้แยกเขี้ยวได้สำเร็จ ลูบจมูกแดงๆของตัวเองก่อนจะส่งมืออีกข้างไปโยกหัวอีกคนไปมาอย่างหมันเขี้ยวแล้วโอบไหล่อีกคนเข้าบ้านเล็กๆของแบคฮยอนไป

     

    ไม่ใช่เพียงแค่แบคฮยอนที่คิดถึงเขา...ชานยอลเองก็คิดถึง

    ไม่ใช่แค่แบคฮยอนที่เป็นคนรอ...ชานยอลเองก็เป็นคนรอมา 365 วันเหมือนกัน

    ต่างฝ่ายต่างรอที่จะได้เจอกันในวันพิเศษนี้...

     

    ฤดูหนาวเดือนธันวาคมเป็นอะไรที่มหัศจรรย์จริงๆเลยนะ

     

    ชานยอลได้เจอกับแบคฮยอนอีกครั้งนึงแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในปีที่แสนโศกเศร้านี้

     

     

     

    จะมีซักกี่คู่ที่จับมือกันไว้ไม่ปล่อย...

    จะมีซักกี่คู่ที่ต่างคนต่างใจตรงกันไม่ลดน้อยลงไป

    จะมีซักกี่คู่ที่...รักกันไม่มีเงื่อนไขแม้แต่อุปสรรค์ที่เรียกว่าความตายมาขวางกัน

    รักน่ะ....ถ้ามองในทางที่ดีมันก็ทำให้คนเรามีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไปได้

    แต่ถ้าไม่...ความรักมันก็เป็นเหมือนมีดอาบยาพิษดีๆนี่เอง

    ไม่แปลกที่ใครๆต่างก็โหยหาและต้องการความรัก

    เพราะว่ามันหอมหวาน...แม้อีกด้านมันจะมืดมนจนยากจะหยั่งถึง

    แต่เพราะคนเรามองแต่ด้านสีขาวบริสุทธิ์ของความรักนั่นแหละ...

    ไม่ทันคิดว่าเวลาที่เสียใจมันจะทรมานขนาดไหน

    ทุกวันนี้จึงมีความเสียใจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

    “ยอล...คิดถึงว่ะ”

    “คิดถึงเตี้ยเหมือนกัน”

    “นี่จะหวานซักนาทีบ้างได้ป่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานยังปากเสียเหมือนเดิม -3-“

    “เป็นเหมือนเดิมเพราะว่ารักเหมือนเดิมไง...ไม่ดีหรอ?”

    -/-

    แบคฮยอนถึงกับก้มหน้างุดแก้เขินเมื่อโดนคนตัวสูงหยอดมุกเข้าให้ มันก็จริงที่ว่าเราทั้งสองคนเป็นคนรักที่ไม่ค่อยหวานกันเท่าไหร่ พอจะเริ่มหวานก็โดนขัดเข้าให้ สุดท้ายก็ได้แต่ไล่ตีแขวะกันแก้เขินทุกที มือหนาเชยคางอีกคนขึ้นมามองหน้าให้ชัดๆ ให้สมกับที่ไม่ได้มองมาตลอดหนึ่งปี แบคฮยอนเองก็เลื่อนมือมากอบกุมใบหน้าหล่อคมเอาไว้เช่นกัน มองภาพกันและกันเอาไว้ให้นานที่สุด

     

    “ยอลผอมลงรึเปล่า...ดูซูบๆไปนะ พักผ่อนน้อยใช่ป่ะเนี่ย?”

     

    ชานยอลเลื่อนมือมากอบกุมมือเรียวที่ใบหน้าตนเองเอาไว้แล้วส่ายหน้ายิ้มๆ

     

    “สูงขึ้นอีกแล้วนะยอล จะสูงไปไหน บอกว่าให้เลิกกินเสาไฟฟ้าบ้าง”

     

    มือหนาก็ยังกุมมือเล็กๆเอาไว้เหมือนเดิม จับกระชับเอาไว้แล้วมองคนตัวเล็กที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด

     

    “ทำงานเป็นไงบ้าง...อยากรู้ข่าวบ้าง แต่ก็ไม่เลย...แบคแทบไม่รู้เรื่องอะไรของยอลเลย”

     

    แบคฮยอนลอยหวือเข้าไปปะทะอกอุ่นๆของชานยอล อ้อมแขนแกร่งโอบกอดรัดร่างเล็กเอาไว้ให้จมอยู่ในอ้อมกอด ไม่ใช่ว่าชานยอลเป็นคนพูดน้อย แต่พูดไม่ออกซะมากกว่า มันดีใจ มันมีความสุขจนพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่างที่มีให้คนรักผ่านอ้อมกอดของตัวเอง

     

    “แบคของยอลก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ...”

    ในที่สุดก็เค้นหาเสียงของตัวเองเจอ แต่เสียงทุ้มออกจะสั่นๆและมาพร้อมกับน้ำตาใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตากลมโตน่าหลงใหล แบคฮยอนรู้สึกได้เนื่องจากแผ่นหลังของตัวเองมันเปียกๆ ชานยอลน่ะอ่อนไหว...เห็นตัวโตๆแบบนี้ร้องไห้กับเรื่องเล็กน้อยๆบ่อยนักล่ะ...

     

    มือเล็กลูบหลังปลอบคนตัวโต กอดอยู่อย่างนั้นจนพอใจ...ให้หายคิดถึงลงบ้างสักนิด ให้คุ้มที่รอมาทั้งปี

     

    ชานยอลก็ได้แต่คิด...ทำยังไงถึงจะรักษารอยยิ้มนี้ของแบคฮยอนเอาไว้ทุกๆวันนะ...ชานยอลอยากจะทำทุกวิธีเพื่อที่จะรั้งแบคฮยอนเอาไว้ให้อยู่กับเขาทุกๆวัน อยากให้แบคฮยอนอยู่กับเขาตลอดทั้งปีที่ไม่ใช่แค่วันเดียว ไม่อยากจินตนาการหารอยยิ้มของแบคฮยอน อยากเห็นแบคฮยอนยิ้มให้ทุกๆวัน

     

    เส้นขนานทั้งสองเส้นได้มาบรรจบกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว...

     

    อยากให้เวลาหยุดเอาไว้แค่ตรงนี้

     

    ให้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่นั้นมีเพียงแค่ ปาร์คชานยอล กับ บยอนแบคฮยอน เท่านี้ก็พอแล้ว

     

    “กินข้าวก่อนมั๊ยยอล แบคทำไว้เยอะเลย รอตั้งนานกว่าจะมา ป่านนี้มันคงเย็นหมดแล้ว”

    “กินได้หรอ?”

    “ย๊า!!!! เชฟแบคฮยอนนะครับ กินแล้วอย่าขอเพิ่มอีกจานล่ะ”

     

    แบคฮยอนนั่งมองคนเจริญอาหารที่ตักนั่นกินนี่อย่างเอร็ดอร่อย พอถึงโต๊ะอาหารชานยอลก็แอบแซวๆแบคฮยอนบ้าง แต่สุดท้ายก็ชมว่าน่ากิน แบคฮยอนเองก็ชวนคุยเจื้อยแจ้ว บรรยากาศสีชมพูแผ่กระจายออกมาจนรู้สึกสดใส ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหน...ความเหงาที่ผ่านมาถูกลบออกไปจนหมดเพียงเพราะมีใครอีกคนมานั่งอยู่ตรงหน้า ที่ประจำของชานยอล เป็นที่ๆแบคฮยอนจะได้นั่งมองหน้าคนรักของตัวเองได้ชัดๆ

     

    “เป็นไงล่ะยอล อร่อยจนไม่วางช้อนเลยดิ”

    “เห็นว่าทำเยอะหรอก เลยช่วยกิน”

    “ฟอร์มจัดนักนะ”

    แบคฮยอนเบ้ปากให้กับคนปากแข็ง จะชมก็ไม่ชมซักที วางฟอร์มอยู่ได้ เดี๋ยวเถอะปีหน้าจะไม่ทำให้กินอีกแล้วคอยดู!!!

     

    คนตัวเล็กลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็น หยิบเอาไฮไลท์ของวันนี้ขึ้นมาเซอร์ไพร์สชานยอลที่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่ เค้กหน้าตาน่ารักวางอยู่บนโต๊ะ ชานยอลยื่นมือออกไปจะหยิบสตอเบอร์รี่กินแต่ก็ถูกมือบางตีเข้าให้พร้อมกับทำหน้าดุ

     

    “อ่านก่อนสิ พ่อคนตะกละ เดี๋ยวค่อยกิน”

     

    ชานยอลกวาดสายตาอ่านข้อความบนเค้กแล้วยิ้มออกมา...

     

    I’m happy when I meet you. PCY

     

     

    “Me too, My Puppy

     

    ชานยอลตอบออกมาพลางลุกขึ้นหอมแก้มนิ่ม คนตัวเล็กโวยวายใหญ่แก้เขิน แต่ก็นั่งมองอีกคนกินข้าวต่อไปจนอิ่ม ถือจานชามไปล้างจนเสร็จ ตลอดเวลาทั้งสองคนไม่ห่างกันไปไหนเลย อยากมีกันและกันอยู่ในสายตาให้นานๆ หยอกล้อกันเล่นตามประสาคนรัก เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย เสียงบ่น เสียงงอแง อะไรก็ตามแต่ที่มาจากแบคฮยอน ชานยอลล้วนอยากเก็บเอามันไว้ในความทรงจำให้หมด

     

    เสียงหัวเราะของแบคฮยอน ชานยอลคิดว่ามันเพราะยิ่งกว่าเสียงดนตรีชนิดไหน

     

    ใบหน้าจิ้มลิ้มของแบคฮยอน ชานยอลคิดว่ามันสวยงามยิ่งกว่าใคร

     

    นิสัยน่ารักๆของแบคฮยอน ชานยอลคิดว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำได้อย่างนี้

     

    แบคฮยอนทำยังไง...ชานยอลถึงได้หลงรักหัวปักหัวปำขนาดนี้กัน

     

     

     

     

    “แบค...อยู่คนเดียวเหงามั๊ย?”

    “เหงาดิ ไม่มียอลเหงาจะตายอะ อะไรๆก็น่าเบื่อ ได้แต่รอๆๆๆๆ จนกว่าจะครบหนึ่งปี แล้วเราก็เจอกัน”

    ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น ชานยอลที่นอนหัวหนุนตักคนตัวเล็กก็ถามขึ้น อยากจะรู้ว่าเวลาที่แบคฮยอนไม่มีเขาเป็นยังไง...แบคฮยอนของปาร์คชานยอลจะเหงามากแค่ไหน แบคฮยอนที่เกลี่ยผมหนาเล่นก็ตอบออกไปตามความจริง เสียงรายการทีวีแทบไม่เข้าโสตประสาทของทั้งคู่เลยด้วยซ้ำ

     

    แบคฮยอนเป็นคนตรงๆ ไม่เคยโกหก คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น นี่คือเสน่ห์ของแบคฮยอน...

     

    หนึ่งในร้อยเหตุผลที่ชานยอลรักแบคฮยอน

     

    “แล้วชานยอลล่ะ เหงามั๊ย”

    “อื้อ...เหงา กอดใครก็ไม่นิ่มเท่าไอ้หมาตัวนี้เลย”

    “นี่!!! แอบไปกอดกิ๊กหรอ”

    “เปล่า เพื่อนต่างหาก”

     

    เป็นคำถามที่ทำร้ายตัวเองอย่างแรง แบคฮยอนน่ะไม่มีสิทธิ์อะไรจะไปห้ามชานยอลหรอก...ถ้าชานยอลจะมีคนใหม่ ก็คงโทษใครไม่ได้ แบคฮยอนยอมรับและเข้าใจดี พร้อมที่จะจากไปได้ทุกเมื่อหากอีกคนไม่ต้องการ แต่ชานยอลกลับยึดมั่นในตัวเขา ไม่เคยทิ้งไปไหน ยังกลับมาหาแบคฮยอนทุกปี...กลายเป็นว่าเราทั้งสองคนก็ยังรักกันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

     

    ความรักของชานยอลก็ยังดึง ความคิดถึงของแบคฮยอนก็ยังรั้ง

     

    แม้อะไรๆจะเปลี่ยนไปมากก็ตาม....

     

     

    “แบค...จูบหน่อยดิ”

    “ก็จูบดิ...รออะไร”

     

    เหมือนแม่เหล็กต่างขั้ว...ทั้งสองคนพุ่งเข้าหากันอัตโนมัติ แบคฮยอนก็รอชานยอล ชานยอลก็ต้องการแบคฮยอนมานาน มือหนากดหัวทุยลงมาบดจูบละเมียดละไมก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่คุ้นชิน ชานยอลไม่เคยรีบร้อนถึงแม้จะต้องการมากเพียงไหน เพราะยังไง...คืนนี้แบคฮยอนก็ต้องเป็นของเขาทั้งคืน

     

    “อืออ...”


     

     ************************************************

    อะแฮ่มๆๆ รู้นะว่าอยากคลิ๊กอ่านอะไร

    ใบ้ให้ มันอยู่ในไบโอทวิตเตอร์ไรท์เองค่ะ

    จิ้มๆจึ๊กๆหาเอาเน้อ 

    ฝากสกรีมแท็ก
    #รีเทิร์นชานแบค



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×