ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้นฉบับบารามอส

    ลำดับตอนที่ #1 : ซินเดอเฟลิโอน่า

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 59


    **หมายเหตุ

                    สมมติเอาเน่าๆว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นขณะตัวละครที่รักยิ่งของเราอยู่ปีห้า และนาย เฟริน เดอเบอโรว์ ยังคงต้องกลายร่างเป็นสัตว์หน้าขนอยู่ในทุกค่ำคืน เพื่อความสะใจในการดำเนินเรื่องต่อไปนะแจ๊ะ

    ++**++**++**++**++

    ณ ห้องนักเล่นของชาวป้อมอัศวินปีห้า เสียงอึกทึกคึกโครมอย่างตื่นเต้นของหลายๆคนกับข่าวใหม่ล่าสุดจากคาโนวาล

    “โห .. ครบรอบยี่สิบปีเจ้าชายคาโล วาเนบลี ขอเชิญร่วมการเฉลิมฉลองใหญ่ของคาโนวาล”

    “อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อหรอกคาโล ว่าพอแกไม่รักแก”

    “ขนาดครบรอบยี่สิบปียังจัดขนาดนี้ แซยิดจะขนาดไหนวะแก”

    รายการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชาวบ้านอันเป็นงานถนัดของชาวป้อมอัศวินดังอื้ออึงลั่นห้องนั่งเล่น งานเลี้ยงใหญ่ขนาดนี้ เหล่าชายหนุ่มกลัดมันต่างรู้สึกกระชุ่มแระชวยที่จะได้เป็นแขกผู้มีเกียรติในการสร้างสีสันในงานเลี้ยงดังกล่าว บรรยากาศช่างสดใสดั่งต้นไม้หน้าแล้งเพิ่งเห็นฝนแรกของฤดูกาล

    บัตรเชิญสีทองอร่ามลายธงชาติคาโนวาลกำลังถูกแจกให้กับบรรดาพระสหายของเจ้าชายน้ำแข็ง บนซองจดหมายระบุชื่อและนามสกุลของแต่ละคนอย่างชัดเจน แสดงเกียรติอันสูงสุดที่ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงที่ดินแดนนักรบและเข้าเฝ้ากษัตริย์แห่งคาโนวาล ชาวป้อมอัศวินเปิดอ่านเนื้อความในจดหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความยินดีปรีดาอย่างสุดซึ้งที่จะได้ไปงานเลี้ยงใหญ่ระดับกระทบไหล่เจ้าหญิงเจ้าชายคนดัง

    “ละไง.. สำนักพระราชวังคาโนวาลกับนักเรียนดีเด่นของชั้นปีจะเป็นตัวตั้งตัวตีให้พวกเราโดดเรียนเหรอ? งานจัดที่พระราชวังคาโนวาลนี่” คำถามสำคัญจากนายครี๊ด ดังขึ้นท่ามกลางความเอิกเกริกในห้องนั่งเล่น

    ดวงตาสีฟ้าสวยของเจ้าชายคาโลหันไปสบตาเพื่อนร่วมชั้นปีที่รวมใจกันเงียบไปชั่วอึดใจเพื่อรอคำตอบ เจ้าชายน้ำแข็งถอนหายใจเบาๆหนึ่งครั้งก่อนเอ่ยคำตอบที่เรียกเสียงเฮให้ดังคับห้องนั่งเล่น

    “ไม่ต้องห่วง ทางพระราชวังติดต่อขออนุญาตทางโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว ”

     

     

    ++**++**++**++**++**++

    ณ ห้องหัวหน้าชั้นปี ที่ประชุมดั้งเดิมของสามสหาย

    “เป็นไรไปแก เห็นซึมๆมาตั้งแต่ได้ข่าวงานวันเกิดคาโล” คิลมัส ฟีสมัสถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงขณะนอนกลิ้งเล่นในห้องหลังมื้ออาหารเย็น

                    มันเงียบๆไปแบบนี้ เป็นห่วงโลกจะวิบัติเอา !

                    ...นักฆ่าแห่งซาเรสได้แต่คิดในใจ

    “คาโล ...เอ่อ คือ ฉันไม่ไปได้ไหม ?? “ แทนที่จะตอบคำถามของนักฆ่าแห่งซาเรส หัวขโมยตัวยุ่งกลับพลิกตัวไปถามบุรุษเจ้าของห้องอีกคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือย่างสงบอยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง

    “อะไรของแกวะ งานช้างเลยนะเว้ย ...” คิลพลิกตัวขึ้นนั่งอย่างสงสัยในอาการประหลาดของเพื่อนอย่างอดไม่ไหว

    “ฉันคิดว่า บางที...ฉันอาจไปงานกับพวกนายไม่ได้” เฟรินเอ่ยเสียงเศร้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของคิลไปทางอื่น

    “ทำไมล่ะ นายมีปัญหาอะไร ? “

    “ ก็ มันเป็นงานเต้นรำตอนกลางคืน .. พวกนายอย่าลืมสิว่าฉันยังต้องเป็นหมาอยู่ทุกคืนน่ะ จะไปได้ยังไง” หัวขโมยอธิบายยังไม่ทันขาดคำ ร่างก็แปรเปลี่ยนเป็นหมาน้อยขนสีน้ำตาลทำหน้าหิวกระดูกแทน

    “ไข่มุกแสงจันทร์ไง !! คาโล ....นายให้เฟรินมันยืมก่อนได้ไหม ? “ คิลหันไปร้องขอบุรุษเพียงหนึ่งเดียวในห้องนี้ที่มีไข่มุกแสงจันทร์ให้เพื่อนรักยืมเสมอ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหานี้

     

                    เอ๊ะ หรือมันจะดึ้อแพ่งไม่ยอมไปงานเลี้ยงในชุดสุภาพสตรีอีก

                    เรื่องมากจริงเหวย .... คิลสบถในใจกับคนเรื่องมากที่ยังคงซบหน้าเป็นหมาหงอยอยู่

    “ขอโทษนะ งานนี้ท่านพ่อไม่ได้จัดเพื่อฉลองวันเกิดให้ฉันอย่างเดียว แต่จัดเพื่อหาคู่อภิเษกให้ฉันด้วย ไข่มุกฉันถูกเก็บไว้ที่คาโนวาลเพื่อรอให้ฉันสวมให้คู่หมั้นในคืนพรุ่งนี้” คาโลเอ่ยเรียบๆ นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยฉายแววเห็นใจไม่แพ้กัน

                    คืนพรุ่งนี้เขาจะต้องสวมไข่มุกให้ใครสักคน ...นี่เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

                    แต่ใครซักคนที่เขาต้องการ กลับไปงานของเขาไม่ได้

                    คาโลได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ....

    “พวกนายไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน ต่อให้มีไข่มุกแสงจันทร์ฉันก็ไปไม่ได้” เสียงหัวเราะอย่างฝืนเต็มทีมาจากหมาน้อยจอมอวดดีบนเตียง

    “ทำไมปัญหานายมันเยอะจังวะ”

    “ คือว่า ฉันต้องสอบซ่อมวิชาของอาจารย์ชามัลด้วยการส่งรายงานสี่ร้อยหน้าก่อนคืนพรุ่งนี้ นี่ก็ยังไม่ได้เริ่มเลย...” เจ้าหมาน้อยเอาขาหน้าเกาหัวแกรกๆแก้เขิน “ถ้าฉันไม่ทำก็คงต้องเรียนซ้ำชั้น ... พวกนายคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ” เฟรินเอ่ยอย่างแจ่มใสในประโยคสุดท้ายก่อนมุดตัวลงใต้ผ้าห่มอันเป็นสัญญาณขอสิ้นสุดการสนทนา

                    ใครดูไม่ออกก็บ้าแล้วว่ามันน่ะอยากไปจะตาย ...

    “ทำหน้าเครียดกันทำไม นี่เฟรินนะโว้ย เฟริน เดอเบอโรว์เลยนะเว้ย !! แค่สีร้อยหน้าในวันเดียว สบาย” คนอาการน่าเป็นห่วงยังไม่วายลุกขึ้นมาตบไหล่เพื่อนรักปุๆแสดงความมาดแมนว่าตนเองไม่เป็นไรที่จะถูกทิ้งไว้คนเดียวที่ปราสาทเอดินเบิร์กในคืนพรุ่งนี้

                    อาการนี้..น่าเป็นห่วงกว่าเก่าอีก

                    มันเคยทำรายงานทั้งเล่มคนเดียวซะที่ไหน !!

    ท่ามกลางความเงียบแห่งราตรีกาล สองบุรุษได้แต่เก็บปัญหาของเพื่อนรักหมาน้อยที่ชิงนอนหลับไปก่อนบนเตียงไว้ในใจ นัยน์ตาสีม่วงคู่สวยหันสบกับนัยน์ตาสีฟ้าอย่างมีความหมาย

                    ...แผนการบางอย่างเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรักจึงถูกวางขึ้น                   

     

    ++**++**++**++**++

    วันต่อมา

    เกวียนสุดหรูสองเล่มจากคาโนวาลเข้าเทียบที่ป้อมอัศวินอย่างตรงเวลา เหล่าทโมนที่วันนี้ลอกคราบเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายเพื่อร่วมฉลองวันเกิดให้กับเจ้าชายคาโลทยายขึ้นเกวียนกันตามลำดับ ส่วนเจ้าของวันเกิดและเพื่อนรักนักฆ่าได้ล่วงหน้าไปที่คาโนวาลตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว

                    ป้อมอัศวินดูเงียบเหงาลงไปนิดหน่อยเมื่อขาดนักเรียนไปหนึ่งชั้นปี

                    ..เหลือก็แต่หัวขโมยแห่งบารามอสที่หลบไปหมกตัวอยู่ในห้องสมุดตั้งแต่เช้าเช่นกัน

    “เฮ้อ ....” เสียงถอนหายใจจากคนเหงาที่ไม่มีใครเข้าใจจากมุมหนึ่งในห้องสมุด เฟรินหัวเราะขื่นๆให้กับตนเองเมื่อจินตนาการถึงเพื่อนๆของเขาที่คงสนุกสนานกันอยู่ในงานเลี้ยง

    เวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งตะวันใกล้ตกดิน อันเป็นสัญญาณว่าเขาควรยืมหนังสือที่ต้องการกลับไปทำงานต่อที่ห้อง มิเช่นนั้นบรรณารักษ์อาจจะพบกับหมาน้อยขนสีน้ำตาลผู้ใฝ่เรียนแทนหัวขโมยสุดหล่อคนนี้

                    หัวขโมยผู้น่าสงสารนึกสงสารตัวเองเหลือคณานับ

                    ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป ...แต่ว่าไปไม่ได้

                    ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วง โดยเฉพาะตัวเจ้าของงานเองที่มันควรจะมีความสุขกับครอบครัวอย่างเต็มที่

    คิดแล้วขอบตาหัวขโมยผู้อ่อนไหวก็ร้อนผ่าว นึกน้อยใจในโชคชะตาเหลือเกิน ทำไม่เธอไม่เกิดมาปกติเหมือนคนอื่นเขา ? ทำไมฟ้าดินช่างกลั้นแกล้งเธอได้ถึงเพียงนี้  เสียงร่ำรองในใจของหัวขโมยหนุ่มดังก้องท่ามกลางความเงียบสงัดของห้องสมุด

     

    “องค์หญิงของกระหม่อม !!!!”  เสียงนางฟ้า ? นั่นไง !!

    “เจ้ากวาง !!”  เฟรินอุทานเรียกอย่างตกใจ

                    นี่ฟ้ายังลงโทษไม่พอใจอีกหรือ ? ถึงได้ส่งเจ้ากวางลิเกนี่มาซ้ำเติมเขาอีก ??

                    เอาวะ ...อย่างน้อยอยู่กับเจ้ากวางนี่ มีมันเป็นเพื่อนคืนนี้คงไม่เซ็งเท่าไหร่

    “นายมาได้ไง โกโดม...” เฟรินถอนหายใจเฮือกอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ ไหนๆจะซวยแล้ว เอาให้สุดๆไปเลยแล้วกัน

    “ถวายบังคมองค์หญิงของกระหม่อม ....” โคมุสผู้ซื่อสัตย์ วันนี้ได้รับบทเป็นนางฟ้าทูนหัวผู้ใจดีก้มตัวลงถวายบังคมองค์หญิงอย่างสง่างามเข่าแทบติดพื้นก่อนเอ่ยรายงาน “ทางคาโนวาลได้เชิญท่านจ้าวไปที่คาโนวาลด้วยพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมและท่านจ้าวไม่พบองค์หญิงที่นั่น ท่านคิลบอกว่าองค์หญิงติดภารกิจที่ต้องการความช่วยเหลือจากกระหม่อม กระหม่อมเลยขออนุญาตท่านจ้าวมารับองค์หญิงถึงที่นี่”  โกโดมอธิบาย

                    บางทีฟ้าอาจจะได้ยินเขาบ่นจนรำคาญ ...แต่ไอ้กวางนี่ติดลิเกจนน่ารำคาญกว่า

                    ตกลงคิลมันหวังดีจริงๆแน่เหรอวะ  !

    “องค์หญิงทรงมีปัญหาอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”  โกโดมเอ่ยเข้าประเด็นอย่างรวดเร็วพลางชะเง้อคอสั้นๆไปทางด้านหลังเพื่อดูกองหนังสือมากมายที่เธอค้นมาเพื่อทำรายงาน “ถ้าองค์หญิงไม่รังเกียจ ..กระหม่อมจะเป็นผู้รับผิดชอบงานขององค์หญิงเอง ได้โปรดไว้ใจกระหม่อม”

                    เฟรินพยักหน้าให้กับคำอาสาอย่างมีน้ำใจของโคมุสที่เป็นดั่งนางฟ้าแม่ทูนหัวของเขาในคืนนี้

                    เอาเถอะ...ถึงมันจะดูบ๊องๆและปัญญาอ่อน อย่างน้อยมันก็เป็นเสนาอำมาตย์สูงศักดิ์ในพระราชวังเดมอส

                    รายงานสี่ร้อยหน้าแค่นี้น่าจะธรรมดา จิ๊บๆ

    “องค์หญิงยังทรงมีงานอะไรอีกหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ บอกกระหม่อมได้ อย่าได้เกรงใจ กระทั่งต้องเสี่ยงเอาชีวิตน้อยๆของกระหม่อมไป กระหม่อมก็ยินยอม” โกโดมเอ่ยถามองค์หญิงหนึ่งเดียวในใจด้วยความเป็นห่วง เฟรินได้แต่ยิ้มแหยอย่างไม่รู้ว่าควรตอบรับในไมตรีจิตของเจ้าโคมุสน้อยด้วยประโยคใด

                    มันตื้นตันไปหมด ....

                    มันจะเรียกองค์หญิงไปถึงไหน ทั้งๆที่ตอนนี้เขาก็ยังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ....

                    ....อีกซักพักจะกลายเป็นหมาอีกด้วย

    “คืองี้เจ้ากวาง ....” เฟรินบอกถึงชนักติดหลังสุดท้ายที่ทำให้เขาไปร่วมงานวันเกิดของเจ้าชายน้ำแข็งไม่ได้ ถึงแม้จะรักกันแค่ไหนก็เถอะ ไม่มีใครรับประกันได้ว่าชาวเมืองจะรับได้ที่เจ้าชายจะมีพระสหายเป็นหมา หมาจริงๆนะ !!

    โกโดมกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ นึกย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้วตอนนี้มาพบองค์หญิงครั้งแรกและอาสาแก้คำสาปจากมงกุฏให้องค์หญิง แต่ส่วนผสมที่ผิดพลาดจากเจ้าชายแห่งคาโนวาลและพระสหายนักฆ่า ทำให้องค์หญิงต้องประทับในร่างครึ่งคนครึ่งสุนัขทุกค่ำคืนจนระทั่งทุกวันนี้

                    มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมดหรอก โกโดมคิด ..

                    พ่อมดจอมขมังเวทแห่งเดมอสได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับองค์หญิงพลางนึกสำนึกผิดกับคดีที่ตัวเองได้ทำไว้

    “กระหม่อจะช่วยเหลือองค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ ...” โกโดมเอยด้วยสีหน้าอันมุ่งมั่น หวังจะช่วยลบล้างความผิดครั้งเก่าก่อนที่ตนเองเคยได้ทำไว้ “ แต่เวทมนต์ของชาวเดมอสได้เอเดนจะเสื่อมถอยลงจากเดิมมาก เวทมนต์ของกระหม่อมในตอนนี้เพียงพอที่จะทำให้องค์หญิงคืนร่างเดิมได้เพียงหนึ่งราตรีเท่านั้น ...”  โกโดมอธิบายพลางเรียกคทามาถือในมือ

    “...หลังจากเที่ยงคืน องค์หญิงจะต้องรีบกลับมา ก่อนเวทมนต์ของกระหม่อมจะหมดไป”  โกโดมเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนเริ่มรายเวทมนต์

                    แสงสว่างจากปลายคทาของโคมุสน้อยเข้าไปห่อหุ้มร่างของหัวขโมยแห่งบารามอสเอาไว้

                    ...ดับตะวัน คืนจันทรา... พ่อมดแห่งเดมอสกำลังแผลงฤทธิ์

     

     

     

     

     

     

    “....ทำไมฉันกลับมาอยู่ในร่างผู้หญิง !”  ธิดาแห่งความมืดปราดเข้าไปคว้าคอคนแคระเขากวางอย่างโกรธจัดทันที่ที่แสงสว่างจากปลายคทาดับลง และพบกว่าเพศสภาพของตนเองเปลี่ยนแปลง กินหัวได้ก็คงกินไปแล้ว !

    “ ก็องค์หญิงเป็นผู้หญิงนี่กระหม่อม ...”  เจ้ากวางแบะหน้าราวจะร้องไห้

                    เฟรินถอนหายใจเฮือกใหญ่ ....

                    วันนี้จะมีความโชคดีบ้างไหมเนี่ย ?

    “ชุดละชุด นายรู้ไหมชุดผู้หญิงนี่มันแพงนะ !! เสกอะไรแหกตาดูก่อนสิ ...” หัวขโมยผู้ที่สนใจแต่เรื่องเงินๆทองๆเอ่ยปากด่ากวางน้อยที่ตัวหดอย่างน่าสงสาร  คนแคระเขากวางที่หูตกเหมือนหมาโดนดุหมุนตัวออกมาจากกองหนังสือมากมายที่เตรียมมุดเข้าไปเพื่อทำรายงานต่อให้องค์หญิงสุดที่รัก ก่อนจะเริ่มรายมนต์อีกครั้ง

    ชุดหัวขโมยชุดเก่ง ...ที่ตั้งชื่อว่าชุดเก่งเพราะว่าใส่มาตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก เป็นชุดหากินที่ล้วงที่ไหนก็มือขึ้นที่นั่น พ่อมาดัสซื้อให้จากร้านขายของมือสอง เสื้อกับกางเกงที่เก่าจนปะแล้วปะอีกกำลังจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีขาวตามสมัยนิยม สีขาวบริสุทธิ์สมราวกับชุดเจ้าสาวในเทพนิยาย

                    และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ รองเท้าแก้วคู่สวยที่สวมกับเท้าเธอได้พอดี

    ธิดาแห่งความมืดก็ดูไม่เหมือนธิดาแห่งความมืดอีกต่อไป ดวงหน้ารูปไข่ล้อมด้วยผมสีน้ำตาลไหม้ที่ยาวไปจนถึงกลางหลัง ใบหน้าที่สวยน่ารักโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางใดๆ  ผิวขาวอมชมพูตัดกับชุดกระโปรงสีขาวดั่งเจ้าหญิงในนิทาน บวกความหรูหราของรองเท้าแก้วไปอีก

                    ตอนนี้เธอดูเหมือนซินเดอเรลล่าไม่มีผิด

                    เฟรินคิดในใจ

    “องค์หญิงทรงพระสิริโฉมยิ่งนัก ...”  โกโดมถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปิติในผลงานชิ้นเอกของตนจนเฟรินนึกอยากให้กำปั้นเป็นรางวัลซักทีสองที ก่อนพ่อมดแห่งเดมอสจะคว้าผลแอปเปิ้ลที่องค์หญิงเสวยเหลือกขึ้นมาเสกคาถา

    แอปเปิ้ลลูกโตๆที่แอบเอาเข้ามากินในห้องสมุดค่อยๆขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆตามผลเวทมนต์ของพ่อมดแห่งเดมอส แอปเปิ้ลสีแดงดสดบัดนี้กลายเป็นรถม้าสีแดงไปซะแล้ว ....

    “นายจะให้ฉันนั่งรถแอปเปิ้ลนี่ไปเรอะ? “

    “พ่ะยะค่ะ” 

    “...แกจะให้ฉันลากรถเองหรือไง ? “ เฟรินเอ่ยถามอย่างสงสัย พยายามนึกปลอบใจตัวเองว่าเจ้ากวางบ้านี่พึ่งพาได้มากขนาดนี้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว ยังไม่ทันหายปวดหัวดี พอหันไปอีกที เจ้ากวางก็หายไปซะแล้ว

    “นี่ไงองค์หญิง ...เดี๋ยวไอ้ตี๋น้อยนี่จะลากองค์หญิงไปถึงปราสาทคาโนวาล” โกโดมกลับมาอย่างเริงร่าในไม่กี่นาทีให้หลัง พลางจูงสิ่งของที่หาเจอมาโชว์องค์หญิงคนงาม

                    เฟรินกลืนน้ำลายอย่างหนืดคอกับภาพตรงหน้า....

                    ไอบ้านั่นเอาอะไรคิด....

                    เอาหมาสามหัวมาลากรถให้เธอเนี่ยนะ !!

    เคลเบลอสที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูโรงเรียนอยู่ทุกคืนๆ เมื่อห้าปีก่อนโดนดูดเลือดจากนักฆ่าไร้หัวคิดท่านหนึ่งเพื่อมาแก้คำสาปให้เธอ วันนี้ยังต้องมาทำหน้าที่กะพิเศษ ลากรถให้ธิดาแห่งความมืดไปยังคาโนวาล

                    มันจะใช้ตัวละครคุ้มไปแล้ว !!

    โกโดมไม่ได้ดูสีหน้าช็อคซีนีม่าใดๆขององค์หญิงแห่งความมืดอีกต่อไป คนแคระเขากวางจัดการเทียมเคลเบลอสให้กับรถม้าแอปเปิ้ลด้วยสีหน้าภูมิใจ ฮีโร่ในดวงใจองค์หญิงคืนนี้คือเราเอง โกโดม โคมุส !

    เฟลิโอนน่าก้าวขึ้นรถม้าอย่างไร้ความมั่นใจพลางโบกมือลาแม่ทูนหัวอย่างลำบากใจ ก่อนรถม้าเคลเบลอสจะห้อตะบึงออกเดินทางสู่คาโนวาล ในช่วงเวลานี้ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าฮัมเพลงทัมใจอย่างเดียวเท่านั้น

                    ถึงก็ได้ ไม่ถึงก็ได้..

                    อย่าพาไปตายกลางทางก็พออออออออออ ....

     

    ++**++**++**++**++

     

    ภายในปราสาทโอ่โถงของคาโนวาล บริเวณจัดงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าชายคาโล

    “เป็นห่วงมันว่ะคาโล ส่งเจ้ากวางไปอยู่เป็นเพื่อนแบบนั้นจะดีเหรอ” นักฆ่าแห่งซาเรสเอ่ยถามเจ้าชายถึงอีกคนที่มางานเลี้ยงในวันนี้ไม่ได้ เรียกให้นัยน์ตาสีฟ้ากระตุกวูบก่อนกลับมาเรียบเฉย

    “...”  ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก แปลว่ากำลังใช้ความคิดอยู่ หรือตัวเขาเองก็ไม่มีคำตอบให้กับเรื่องนี้เช่นกัน

    “...อ่ะ แล้วนายคิดไว้หรือยังว่าคืนนี้จะสวมไข่มุกให้ใคร ถ้ามันไม่มาจริงๆ” คำถามที่เรียกความเครียดของเจ้าชายน้ำแข็งอย่างเก็บไม่มิด ใบหน้ารูปสลักปรากฏร่องรอยแห่งความหนักใจฉายชัด

                    คนที่จะสวมไข่มุกให้ยังไงก็ต้องเป็นมันสินะ ....

                    หึ.... คาโลหนอคาโล

                    ทั้งๆที่วันน้ำมีเจ้าหญิงสวยๆจากนานาประเทศทั่วเอเดนที่สนใจมัน แต่มันกลับไม่สนใจใครเลย

     

    ทันใดนั้นเอง บริเวณจัดงานเลี้ยงก็เงียบสงัด ด้วยมนต์เสน่ห์ของหญิงสาวปริศนา ชุดราตรีสีขาวสะอาดที่ยาวกรอมพื้นช่วยทำให้ผิวขาวอมชมพูดูสว่างมากขึ้น เส้นผมสีน้ำตาลที่ยาวไปถึงกลางหลังล้อมกรอบใบหน้ารูปไข่ที่น่ารักจนไม่จำเป็นต้องแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางใดๆ  เสียงรองเท้าแก้วกระทบพื้นเป็นจังหวะกังวานน่าฟัง สะกดให้ทุกคนมองแต่เธอ

    ระหว่างที่แขกในงานกำลังอยู่ในอาการตะลึง ..คนที่ตะลึงยิ่งกว่าคือนักฆ่าแห่งซาเรสที่ได้แต่สบถในใจที่มีเพื่อนรักตายยากขนาดนี้ เอ่ยปุ๊บมาปั๊บ ปุบปับทันใจกว่าใครทั้งสิ้น

                    ตอนนี้ไอ้บ้านี่ควรจะเป็นหมาอยู่ที่เอดินเบิร์ก โดยมีเจ้ากวางเป็นเพื่อนแก้เหงา

                    ทำไมมันมาปรากฏตัวครบสามสิบสอบ โดยไม่มีไข่มุกแสงจันทร์ซักเม็ด ... ชุดพร้อมอีกต่างหาก

                    ไม่ตกใจก็บ้า .. เหมือนเห็นผีก่อนเที่ยงคืนชัดๆ !! ….

    แขกในงานต่างพากันซุบซิบถึงที่มาของเธอคนนั้น  จะมีไม่กี่คนที่ทราบว่า นี่คือธิดาแห่งความมิด ราชธิดาองค์เดียวแห่งจ้าวปีศาขเอวิเดสที่ยืนเม้ามอยกับคิงบาโรอยู่ทางด้านโน้น

    เฟรินรีบเดินไปหาพ่ออันเป็นที่รักหวังแก้เขินกับสายตาจำนวนมากที่กำลังจับจ้อง กว่าความตกตะลึงพรึงเพริดในพระสิริโฉมอันงดงามของธิดาแห่งความมืดจะเงียบหายก็ใช้เวลาไม่น้อย เหตุการณ์เหมือนจะเข้าสู่ปกติอย่างไม่มีปัญหา เว้นเสียแต่เสียงจังหวะหัวใจของเจ้าชายเจ้าของวันเกิดที่เต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอกเสียเดียวนั้น

    “โห เคลิ้มเลยว่ะ ...กะมาเป็นนางเอกก็ไม่บอกนะ “ เพื่อนๆชาวป้อมอัศวินเริ่มส่งเสียงทักทายเพื่อนรักอย่างเป็นกันเอง บรมครูครี๊ด ผู้น่ารัก ถึงกับรีบเอาศอกกระทุ้งสีข้างเจ้าชายหอคอยงาช้างผู้ตกอยู่ในภวังค์รัก

     

    “ชักช้าเดี๋ยวอดนะโว้ยยย คนต่อคิวเยอะแน่คืนนี้อ่ะ ...” ครี๊ดกระซิบให้คำแนะนำพร้อมยักคิ้วแผล่บ หันไปอีกทีเจ้าชายน้ำแข็งก็เดินตัวปลิวไปโน่นแล้ว

     

                    ...สงสัยหัวใจจะหล่นหาย

     

    ++**++**++**++**++**++

    ตัดภาพกลับมาที่เจ้าหญิงเฟลิโอน่าที่อาศัยร่มเงาท่านจ้าวปีศาจหลบอาจารย์ชามัลที่ลืมนึกไปเลยว่า ท่านก็ได้รับเชิญมางานนี้ด้วยเหมือนกัน ถ้ามีเหตุการณ์พบหน้าและสบตากัน เธอคงโดนเตะโด่งเอดินเบิร์กอย่างไม่ต้องสงสัย

    ระหว่างที่กำลังชำเลืองมองสถานการณ์อยู่นั่นเอง คนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องโผล่มาที่นี่ก็สาวเท้าเข้ามาใกล้ ร่างสูงเจ้าชองเรือนผมสีเงินสะดุดตาในชุดราชนิกูลสีขาวเต็มยศค้อมตัวลงตรงหน้าเจ้าปีศาจเอวิเดสที่มีหญิงสาวหน้าตารักเกาอยู่ด้านหลัง ก่อนเอ่ย

    “ได้โปรด ... ให้เกียรติกระหม่อมซักเพลง”

    ท่านจ้าวเอวิเดสอมยิ้มขบขัน ก่อนส่งมือหญิงสาวที่เกาะอยู่ด้านหลังให้กับราชบุตรเขยแห่งเดมอส พลางนึกภูมิอกภูมิใจในตัวเองที่มองคนไว้ไม่ผิดตั้งแต่แรก ก่อนธิดาแห่งความมืดจะถูกลาดแถ่ดๆไปยังฟลอร์เต้นรำ

    “ทำไมไม่มารับให้เร็วกว่านี้วะ !” ประโยคเอ่ยด่าแก้เขินจากเจ้าหญิงที่ไม่เคยทำตัวสมหญิงซักครั้งในชีวิต ดนตรีไพเราะเริ่มบรรเลงท่ามกลางสายตาอิจฉานับร้อยคู่ของผู้หยิงทั่วเอเดิน เสียงเป่าปากแซวของเหล่าเพื่อนๆ และเสียงชื่นชมยินดีจากแขกในงานถึงความเหมาะสมของทั้งสอง

     “...”  ไม่มีคำตอบจากร่างสูง มีเพียงนัยน์ตาสีฟ้าที่ดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งและมีแต่ความอบอุ่นอย่างปิดไม่มิด ธิดาแห่งความมืดถูกรวบเอวเข้าไปใกล้มากขึ้นพร้อมกับใบหน้ารูปสลักที่ขยับเข้ามาจนชิด

                    อันนี้แปลได้ว่า

                    พูดมากกว่านี้จูบแน่ ....

    เจ้าหญิงเฟลิโอน่าเลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาเป็นคู่เต้นรำที่ดี ทั้งๆที่จริงแค่ขยับเท้าตามจังหวะของคนตรงหน้าที่เป็นผู้นำได้เป็นอย่างดี คิ้วเข้มจะขมวดเป็นบางครั้งเวลารองเท้าแก้วคู่สวยพลาดไปเหยียบพระบาทของเจ้าชายบ้างบางครั้ง

    แต่โดยรวมเป็นบรรยากาศที่งดงามสำหรับผู้พบเห็น ไม่มีคู่ใดจะเหมาะสมไปกว่า ธิดาแห่งความมืดและเจ้าชายแห่งคาโนวาลอีกแล้ว แขกกิตติมศักดิ์ในงานมองภาพตรงหน้าด้วยความปลื้มปิติ และคาดหวังข่าวดีระหว่างเอเดนและเดมอสเร็วๆนี้ นักฆ่าแห่งซาเรสได้แต่สูดหายใจกับบรรยากาศแห่งความสุขนี้ราวกับลูกโป่งที่กำลังอัดก๊าซ

                    ผู้คนในงานจะมีความสุขกว่านี้มั้ยนะ

                    ถ้ารู้ว่าจริงๆแล้วคู่เต้นรำในงานมันก็นอนในห้องเดียวกันทุกคืน  ... รวมเขาด้วย

                    แหม่ ...มีความสุขจริงๆ

     

     

     

    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เจ้าชายน้ำแข็งคิดว่าเป็นเวลาอันสมควร และนี่เป็นโอกาสอันมีเกียรติ ที่เขาจะได้พูดความในใจต่อผู้หญิงที่เขาอยากใช้ชีวิตร่วมไปตลอดหลังจากนี้ ระหว่างที่แสงจันทร์สาดส่อง สายลมเย็นๆกำลังพัดคลายร้อน ...แต่โชคชะตาเหมือนจะไม่ได้เป็นใจเท่าไหร่นัก

     

    หง่าง !!!

     

    เสียงสัญญาณบอกเวลาเที่ยงคืนดังขึ้นครั้งแรก ก่อนมันจะดังครบสิบสองครั้ง ธิดาแห่งความมืดจะต้องกลับไปให้ถึงเอดินเบิร์ก !!

     

    หง่าง !!!

     

    ไม่มีเวลาให้บอกลาใครทั้งนั้น  .... เฟรินรีบวิ่งออกจากงาน ต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะคืนร่างเป็นหมา !!

     

    หง่าง !!!

     

    เวลาเพียงเสี้ยวนาทีก็มีค่า ในงานเริ่มโกลาหล .... แต่เธอไม่มีเวลาอธิบายอะไรให้ใครฟังทั้งนั้น แม้แต่เจ้าชายคาโลที่ยังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ธิดาแห่งความมืดได้แต่เฆี่ยนเจ้าเคลเบลอสอย่างแรกให้มันออกแรงวิ่ง ...

    ไม่ทันได้หันกลับไปมองถึงใครบางคนที่ส่งสายตาอาวรณ์อย่างถึงที่สุด ...

     

    หง่าง !!!

     

    เสียงตะโกนโหวกเหวกในงานไล่หลังมา เธอได้ยินเสียงเรียกจากเพื่อน ภาพเบื้องหน้าคือประตูวังคาโนวาลกำลังจะปิด แต่เคลเบลอสความเร็วสูงจากมนต์เดมอสก็ผ่านไปได้

     

    หง่าง !!!

     

    เหลือสัญญาณอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะเริ่มเวลาเที่ยงคืนหนึ่งนาที ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอต้องไปให้ถึงเอดินเบิร์ก ...

     

     

    ........................

     

     

    ......................................................................

     

     

    ...............................................................................................

     

    ณ ประตูหน้าปราสาทเอดินเบิร์ก หมาน้อยขนสีน้ำตาลตัวหนึ่งกำลังเดินเข้าป้อมอัศวินอย่างหมดแรง ...

     

    ++**++**++**++**++**++**++

     

    ตัดภาพกลับมาที่ปราสาทคาโนวาล หลังจากเฟรินกลับไปถึงเอินเบิร์กแล้ว

    “เอาน่า ...แกไม่ต้องเครียดไป ยังไงกลับไปก็เจอมัน”

    “มันอาจจะมีธุระด่วน แบบ ต้มม่าม่าทิ้งไว้ไรงี้”

    “อย่าคิดมากเว้ย ...”

    นานาเสียงปลอบใจมอบแด่เจ้าชายแห่งคาโนวาลที่ยังช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ใบหน้ารูปสลักปรากฏร่องรอยความเสียใจฉายชัดเมื่อไม่ได้เอ่ยคำสำคัญก่อนเธอจะกลับไป

    “แกจะป่าวประกาศรักของแกตอนไหนก็ได้น่า ถ้าแกรักมันจริงๆน่ะ..” หนึ่งประโยคกินใจจากนักฆ่าแห่งซาเรส

    “องค์ชาย องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ...” นายทหารประตูวังวิ่งเข้ามาขัดกลางวงสนทนาอย่างตื่นตนกใจ “กระหม่อมพบสิ่งนี้อยู่ที่หน้าบันไดวัง ...” นายทหารยื่นรองเท้าแก้วคู่สวยที่มองเห็นปราดเดียวก็จำได้ว่าใครเป็นเจ้าของ

                    สิ่งที่เพื่อนๆเห็นแล้วต้องอมยิ้ม

                    เฟรินก็คือเฟริน .....

                    มิน่าเมื่อกี้วิ่งเร็วเชียว ...เพราะถอดไอ้นี่ไว้สินะ 

    “...เหมือนในเรื่องซินเดอเรลล่าเลยนะครับ “ ซีบิลเอ่ยอย่างติดตลก

                    จะว่าไปมันก็ใช่ ... อยู่ๆก็โผล่มาในงานไม่มีปี่มีขลุ่ย นึกว่าโดนผีหลอก

                    ได้เต้นรำกับเจ้าชายซะด้วย พอถึงเวลาเที่ยงคืนก็รีบกลับไป

                    แถมทิ้งรองเท้าแก้วไว้อีกต่างหาก ....

                    ....แต่พอคิดว่าเจ้าหญิงปากเบาที่รู้จักกันดีคนนั้น จะมาเป็นซินเดอเรลล่า

                    มันก็อดฮาไม่ได้ กร๊ากกกกกกกกกกกกก !!!!

    “เอาไงต่อล่ะเจ้าชาย ..เรื่องมันปูมาขนาดนี้แล้ว” เจค วินสเลคเอ่ยจุดประกายให้คาโล ก่อนเพื่อนๆจะได้เห็นเจ้าชายน้ำแข็งแย้มรอยยิ้มหายาก พร้อมประกาศก้อง

    “ ...หากหญิงใดใส่รองเท้าคู่นี้ได้พอดี ฉันยินดีจะแต่งงานกับคนๆนั้น !!

     

     

     

     

    ++**++**++**++**++**++**++

     

    วันต่อมา

    ขบวนแห่รองเท้าแก้วก็ได้เดินทางมาถึงเอดินเบิร์กตามความประสงค์ของเจ้าชายคาโล การเดินทางจากคาโนวาลมาถึงเอดินเบิร์กและประกาศหาสตรีผู้เป็นเจ้าของรองเท้า กว่าจะมาถึงโรงเรียนพระราชาก็ค่ำมืด

                    เจ้าของรองเท้าตัวจริงได้แต่นั่งกัดเล็บอย่างเคร่งเครียดอยู่ในห้องตัวเอง ...

                    ไอ้เขินก็เขินอยู่หรอก  /////

                    ไอบ้านั่นลืมแล้วใช่ไหมว่าตอนนี้เป็นหมา จะได้ทำยังไงเล่า !!!

    ในตอนนี้สาวๆจากปราการปราชญ์กำลังทยอยสวมรองเท้ากันทีละคน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครใส่รองเท้าได้พอดี ถัดมาก็คงเป็นปราสาทขุนนาง ตามด้วยแผ่นดินประชาชนและป้อมอัศวิน สาวๆทั่วโรงเรียนพระราชากำลังไปรวมตัวที่ลานตะวันเพื่อชิงตำแหน่งราชธิดาสะใภ้แห่งคาโนวาล

                    ก๊อกๆๆๆๆ

    เสียงเคาะประตูก่อนนักฆ่าปัญญาอ่อนจะเปิดประตูผลัวะเข้ามาโดยไม่รอคำอนุญาต คิลเหวี่ยงกระเป๋าลงเตียงก่อนเอ่ยทักทายหมาน้อยที่นั่งเครียดอยู่ริมหน้าต่างอย่างอารมณ์ดี

    “ไง ซินเดอเรลล่า เค้าจัดขบวนมารับนายยิ่งใหญ่เลยนา ลงไปหน่อยไหม”

    “ดีกะผีดิแก แห่รองเท้าบ้าอะไรป่านนี้ ....ก็รู้อยู่ว่าฉันใส่ไม่ได้”

    “แกไม่รู้จริงดิว่าทำไมคาโลถึงเลือกมาตอนกลางคืนอย่างนี้ ? “ คิลยักคิ้วแผล่บ ก่อนจะเห็นเจ้าหมาขมวดคิ้วเครียดกว่าเดิม “ถ้ามาตอนกลางวัน แกเป็นคนก็จริง แต่แกจะไม่มีสิทธิ์ใส่... เพราะแกเป็นผู้ชาย ...แต่ถ้ามากลางคืนละก็ ...”

    “...ฉันก็เป็นหมา...” เฟรินเอ่ยขัด

    “อุวะ ....แกนี่มัน  ... ฟังให้จบก่อนดิวะ เพราะงี้ไงฉันถึงมานี่ คาโลส่งฉันมาช่วยนายขณะที่มันอยู่ในพิธีข้างล่าง” คิลว่าแล้วชูไข่มุกแสงจันทร์ที่คุ้นเคยขึ้น  “...มันฝากมาให้นาย แต่งตัวสวยๆแล้วลงไปเจอกันข้างล่างละกัน” คิลว่าพลางวางไข่มุกไว้บนเตียงแล้วเผ่นแผล็วไปจากห้อง

     

    “ แล้วเจอกันนะ ซินเดอเรลล่า ...”

     

     

    ++**++**++**++**++

     

    “ต่อไปเป็นคนของป้อมอัศวิน เชิญ ....” เสียงประกาศอย่างห้าวหาญจากนายทหารผิวเกรียมจากคาโนวาล เป็นสัญญาณให้สาวๆจากป้อมอัศวินี่มีจำนวนไม่มากตั้งแต่แรกลงมาลองสวมรองเท้าที่สามารถเปลี่ยนชะตาผู้หญิงคนหนึ่งได้ทั้งชีวิต

     

    หญิงสาวคนแล้วคนเล่าจากป้อมอัศวินไม่มีใครสามารถใส่รองเท้าได้พอดีซักคน แต่ว่าคนที่ใครๆต่างเฝ้ารอคอยกลับยังไม่ปรากฏตัวซักที  ....สร้างความสงสัยให้กับกองเชียร์ที่รอตอนจบเป็นอันมาก

     

    สีหน้าของเจ้าชายคาโลดูเครียดขึ้นเรื่อยๆเมื่อแม่ตัวยุ่งที่เขาต้องการมารับตัวไม่ยอมโผล่หน้ามาซักที ท่ามกลางควาลุ้นระทึกของเพื่อนๆว่าซินเดอเรลล่าเรื่องนี้จะจบอย่างแฮปปี้หรือไม่ ...

     

     

    ++**++**++**++**++**++**++

     

    ตัดภาพกลับมาที่เจ้าหญิงเฟลิโอน่า ...

     

                    ไอ้โกโดมมมมม ... ไอ้กวางเวรรรรรรรรร กรรรรรรรรรร

                    ถ้าฉันเจอแกเมื่อไร แกได้ตายคาพระบาทสมใจแน่ !!

                    รางวัลอะไรไม่ต้องเอาแล้ว ...

                    เอาผ่าปฐพีไปกินก่อนแล้วกัน !!!

    เฟรินบ่นอย่างหัวเสียเมื่ออุส่าห์แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างดี ยังไม่ทันได้ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง อาจารย์ชามัลก็เรียกตัวไปซะก่อน

    เรื่องรายงานประวัติศาสตร์เอเดนสี่ร้อยหน้าที่โกโดทำให้นั่นแหละ นี่เห็นมันเกิดมาตั้งนาน มีอายุก็ตั้งหลายร้อยปี รายงานแค่นี้น่าจะไม่เหลือบ่ากว่าแรงถึงได้ยอมให้ทำ ไม่นึกว่า

     

                    รายงานที่ประกอบด้วยกระดาษสี่ร้อยหน้าประกอบด้วยตัวหนังสือสั้นๆบรรทัดเดียว

                    ....ประวัติศาสตร์เอเดินไม่มีอะไรน่าจดจำ...

                    เธอโดนไอ้กวางโคมุสหักหลังเข้าอย่างจัง รู้ทั้งรู้ว่ามันเกลียดเอเดนเข้าไส้

                    ไอ้โคมุสงี่เง่า !!

     

    ธิดาแห่งความมืดนั่งฟังเทศนาถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์เอเดน เรื่องกิริยามารยาทและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร้อยแปดพันสารพันเรื่องเท่าที่อาจารย์เจ้าชายชามัลจะทรงนึกได้ ทั้งที่ใจของเธอไปอยู่ที่ลานตะวันเรียบร้อยแล้ว

    “นี่เธอก็อยากลงไปลองรองเท้าเป็นเจ้าสาวของเจ้าชายคาโลด้วยหรือ ..” อาจารย์ชามัลเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าหลานสาวสุดพิสดารที่ถูกเลี้ยงมาแบบชายทั้งแท่งจะสนใจเรื่องแบบนี้กับเค้าด้วย

     

                    สงสัยจะโตเป็นสาว....

                    อุวะ!! เจ้าชายคาโลนี่มันแน่...เอาเจ้าหญิงสองแดนซะอยู่หมัด

    “...ถ้ารองเท้านั่นเป็นของเธอ แปลว่ารายงานนี่ก็ไม่ได้ทำเองด้วยใช่ไหม เฟลิโอน่า“ เจ้าชายชามัลเอ่ยถามอย่างเพลียใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้โกรธเคืองเพราะพอจะนึกออกว่าใครกันที่เป็นเบื้อหลังของรายงานสี่ร้อยหน้านี่ ธิดาแห่งความมืดได้แต่ยิ้มจืดหน้าหดลงไปสามนิ้วครึ่ง ภาพที่คนเป็นอาจารย์จะนึกโกรธก็โกรธไม่ลง ได้แต่โบกไม้โบกมือไล่ให้จอมยุ่งไปไหนก็ไปเถอะ

                    เดี๋ยวค่อยเรียกมาซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้...

    สัญญาณอนุญาตที่ไม่คิดจะได้รับทำให้หัวขโมยในคราบเจ้าหญิงดีใจเป็นล้นพ้นโดยไม่นึกเลยว่าเดี๋ยวก็ต้องตามมาสอบซ่อมทีหลัง เจ้าหญิงสองดินแดนกระโดดลงบันไดทีละสามขั้นลงไปที่ลานตะวันอย่างรวดเร็วจนอาจารย์ต้องส่ายหัวพร้อมอมยิ้มในใจ

     

                    เอาเหอะ ...ถึงเรื่องกิริยามันจะยังไม่ได้เรื่องเท่าไหร่

                    อย่างน้อยคาโนวาลก็มั่นใจได้ว่าได้ผู้หญิงไปเป็นสะใภ้แน่ๆ ...

     

    ++**++**++**++**++**++**++**++

     

    “คิล! ปกติมันแต่งตัวนานขนาดนี้เลยเหรอวะ ทำไมมันยังไม่ลงมาอีก ...” เสียงโวยวายจากเพื่อนๆที่เริ่มเรียกหาเจ้าตัวยุ่งประจำป้อมเมื่อยังไม่เห็นลงมาซักที เจ้าชายคาโลนี่นั่งลุ้นจนเหงื่อแตก

    “น่า...มันต้องไม่เบี้ยวสิวะ “  นักฆ่าแห่งซาเรสตอบทั้งๆที่ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก

     

                    หรือตอนนี้มันคิดมากเรื่องเพศสภาพตัวเองอีกแล้ววะ ...

                    ไม่สิ ...เมื่อคืนมันยังออกไปเต้นรำหน้าระรื่นเลย

                    รีบๆลงมาสิโว้ยยย !!!

     

    ไม่เพียงแต่นายนักฆ่าปัญญาอ่อนที่เริ่มเครียด คนที่รับบทหนักใจที่สุดคือเจ้าชายแห่งคาโนวาลที่นั่งมองผู้หญิงนับร้อยพยายามสวมรองเท้าแก้วคู่นั้นทีละคน แต่ก็ไม่เห็นแม่ตัวยุ่งมาซักที

    “ที่เอดินเบิร์กไม่มีหญิงอื่นใดอีกแล้วใช่ไหม ..” นายทหารผิวเกรียชาวคาโนวาลเอ่ยถามหลังจากลองรองเท้าให้กับหญิงสาวคนสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย เหล่าชาวบ้านชาวเอดินเบิร์กต่างผิดหวังที่หญิงในฝันของเจ้าชายคาโลไม่ได้อยู่ที่นี่ สำหรับเจ้าชายน้ำแข็งถือเป็นเรื่องน่าเศร้ายิ่งนักสำหรับแผนการเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานที่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วย

    ขบวนแห่รองเท้ากำลังจะเคลื่อนตัวต่อไปที่บารามอส คาโนวาล และไปอีกทั่วเอเดนจนกว่าจะเจอเจ้าชอง ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเขาก็จะรอ ...เธออาจจะปรากฏตัวและยอมมาสวมรองเท้าที่เกาะสวรรค์แดนใต้ก็เป็นได้ เจ้าชายคาโลคิดในใจ

    ขณะที่ขบวนกำลังจะเคลื่อนอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยตะโกนเรียกให้ใจของเจ้าชายน้ำแข็งต้องกระตุกวูบ

     

    “รอก่อนโว้ยยย !!!

     

    นายทหารแห่งคาโนวาลรีบกุลีกุจอเอารองเท้าแก้วคู่สวยมาสวมให้กับเจ้าหญิงสองแผ่นดินที่ยืนหอบจนตัวโยน หมดสภาพความสวยลิบลับจากเมื่อคืนที่ท้องพระโรงคาโนวาล รองเท้าที่ใส่เท่าไหรก็ไม่เข้าซักทีเนื่องจากคนถูกสวมก็หอบแฮ่กด้วยความเหนื่อย เดือดร้อนถึงนายนักฆ่าผู้มีน้ำใจต้องเช้าไปให้ความช่วยเหลือ

    คิลเดินเขาไปแทนที่นายทหารร่างใหญ่ ก่อนนั่งลงสวมรองเท้าให้เพื่อนรัก นานๆทีจะมีบทอวยให้คู่พระนางโดยที่ไม่ถูกโยนบทกขคตลอดกาลมาให้ เขายินดีทำเพื่อความสุขของเพื่อนรัก มันควรจะแต่งงานกันซักที รำคาญ !!

    ด้วยความพยายามของคิลที่ตั้งใจจะชดใช้กรรมเก่าทั้งหมดในชาตินี้ที่ขัดขวางทั้งคู่มาโดยตลอด รองเท้าคู่สวยก็ถูกสวมลงไปในที่สุด นายทหารจากคาโนวาลรีบกุลีกุจอเข้ามาตรวจสอบว่าผู้หญิงคนนี้คือตัวจริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว  ...ตัวช่วยก็รีบโผล่มา

    “องค์หญิงของกระหม่อมมม ... โอ้ ท่านราชบุตรเขย ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ “  เสียงลิเกคุ้นหูปรากฏพร้อมกับร่างโคมุสน้อยที่มีเขามโหฬารบนหัว

    “...แกกกกกกกก แกอีกแล้วเรอะ !! ไอ้กวางงี่เง่า ....“  จากคนกำลังจะได้เป็นเจ้าสาวถึงกับหลุดมาดเมื่อนึกถึงรายงานสี่ร้อยหน้าที่เพิ่งถูกเรียกไปด่าเมื่อกี้นี้ แต่ก็ได้แต่ส่งสายตาอาฆาตเมื่อสายตาหลายร้อยคู่กำลังรอคอยจังหวะสำคัญอันเป็นประวัติศาตร์หน้าใหม่ของเอเดนและเดมอส

    “รองเท้าของกระหม่อมมีปัญหาอะไรเหรอพ่ะย่ะค่ะ” โคมุน้อยหลบสายตาเนื่องจากพอรู้ว่าองค์หญิงต้องไม่พอใจเรื่องรายงานสี่ร้อยหน้าแน่ๆ แต่เขาก็เขียนด้วยความสัตย์จริงและมีใจความสำคัญไม่ได้บิดพลิ้ว โคมเปลี่ยนเรื่องไปยังรองเท้าแก้วที่ตนเสกอีกครั้ง “...มันหายไปข้างนึงเหรอองค์หญิง? กระหม่อมจะเสกให้ใหม่เองพ่ะย่ะค่ะ”

    พ่อมดน้อยแห่งเดมอสร่ายมนต์ไม่นานก็ปรากฏรองเท้าแก้วอีกข้างนึงที่เหมือนกับคู่เดิมทุกประการ หัวขโมยตัวยุ่งที่ยังไม่ทันอ้าปากด่าก็ต้องหุบปากเงียบสนิท รองเท้าแก้วอีกข้างที่มีกลิ่นอายเวท์เหมือนกันทุกประการ ไม่ต้องเป็นพ่อมดก็ดูรู้ว่ามากจากผู้ผลิตเดียวกัน

     

                    เฟรินกลืนน้ำลายเอื้อกพลางสบตาสีม่วงของเพื่อนรักที่ยิ้มแห้งไม่แพ้กัน

                    งานนี้สรุปมันเป็นแม่ทูนหัวจริงๆเหรอวะเนี่ย ....

     

     

     

     

     

     

     

    ++**++**++**++**++**++**++

     

    งานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่แด่เจ้าชายแห่งคาโนวาล และเจ้าหญิงแห่งเดมอส จัดขึ้นท่ามกลางความปิติยินดีของทึกฝ่าย เจ้าหญิงสองดินแดนที่กลายเป็นซินเดอเรลล่าชั่วข้ามคืนกำลังโบกพระหัตถ์และส่งยิ้มให้ประชาชนชาวคาโนวาล เคียงข้างเจ้าชายคาโล

     

                    ... และแล้ว เจ้าหญิงและเจ้าชายก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ....

     

     

     

     

    บันทึกผู้แต่ง

    1.     เขียนครั้งแรกราวๆ พ.ศ. 2551  เป็นเรื่องแรกที่ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง คอมเม้นมาจะแก้ไขให้นะคะในเรื่องถัดไป จะพยายามให้มากขึ้นและพยายามอัพให้ตรงเวลาด้วยค่ะ

    2.     อีดิตครั้งที่สอง 29/5/2559 โปรเจคอีดิธมีมานานแล้วแต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้ทำซักที ต่อจากนี้จำเข้ามาเรื่อยๆค่ะ มีทั้งแก้ไขคำผิดและปรับเนื้อเรื่องให้สมูทกว่าเดิม แต่จะไม่มีการแก้ไขโครงเรื่องใดๆทั้งนั้นครัช สบายใจได้ หากมีแรงกายและแรงใจที่มากพอ ทุกคนจะได้เห็นตอนใหม่อย่างแน่นอน จุ๊บๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×