ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF/OS WE NEED TO TALK ABOUT DANIEL #วีนีดแดเนียล

    ลำดับตอนที่ #3 : daniel x woojin : CAN WE WRITE A SICK SCENE AGAIN?

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 60


               

     

     

     

     

     

     

     

     

    CAN WE WRITE A SICK SCENE AGAIN?
    Couple : คังแดเนียล x อีอูจิน
    Hashtag : 
    #วีนีดแดเนียล 
    Note : ถ้าอ่านแล้วไม่ไหวข้ามได้นะคะ ไม่โกรธ

                   

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



              1)

     

    เขาคั่วแก้วเครื่องดื่มสีอำพันเป็นครั้งที่หนึ่งร้อยสามสิบห้าจุดห้า

    จุดห้าเพราะตอนนี้เขายังวนไม่ถึงรอบ

     

    มือยังคงกอบกุมจากจากปากไว้หลวมๆ ดวงตาของชายหนุ่มลอยนิ่ง เขาคิดว่าตัวเองคงจะล้มไปในอีกไม่ช้าแล้วก็คงมีเด็กเก็บร่างของเขาไปตามวางที่หน้าถนนอีกตามเคย แต่เขาหวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะสูทและกางเกงแสลคราคาสูงลิ่วที่เขาพึ่งใส่ไปงานแต่งพี่ชายของเขาคงไม่เป็นมิตรกับพื้นคอนกรีตหน้าร้านเท่าไร

     

    เขาเคยนึกสงสัยเมื่อสมัยยังเด็กว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงได้ชอบนึกชอบนักหนา ไอ้เหล้ารสขมที่ได้กลิ่นทีไรก็แทบวิ่งออกไปอ้วก ยิ่งเมื่ออีทงเฮ คนที่แม่บอกว่าให้เรียกว่าพ่อนั้นเดินเป๋เข้ามาในบ้านพร้อมเสื้อผ้ารุงรังนั่น อี๋ แค่นึกภาพกลิ่นฉุนกึกของเหล้าขาวยังปรี๊ดขึ้นมาในหัว

     

             แต่พอขึ้นมาจนล่วงเข้าเลขสองปลายๆถึงได้เข้าใจ

     

    ของอย่างนี้มันมาพร้อมกับความแก่และอายุที่มากขึ้นมั้ง ไม่รู้ว่าทางวิทยาศาสตร์อธิบายไว้ว่ายังไงกับการที่คนเราอยู่ๆโตมาก็เริ่มกินเหล้าเมาบุหรี่ กินกาแฟต่างน้ำ ทั้งที่มันไม่ได้น่าพิสมัยนักในวัยเด็ก

     

             แก่แล้วต่อมรับรสทำงานน้อยลงหรอ...ก็อาจจะเป็นไปได้

     

             และก็น่าจะเป็นเหตุผลเดียวกับที่เขาเริ่มมารอใครบางคนที่นี่ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน

     

    เขากับแดเนียลเราเลิกกันที่นี่ด้วยเหตุผลโคตรไร้สาระจนลำบากที่จะนึกว่าเพราะอะไร เขาจำได้แต่เพียงความรู้สึกบางๆที่ยังลอยวนอยู่ว่าเขาไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่นิด และไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียใจแบบนี้ด้วยซ้ำ

     

             แต่นั่นเป็นอีอูจินเมื่อ 12 ปีที่แล้ว

            

             อีอูจินในวัย 27 ยังคงรอคังแดเนียลแบบลมๆแล้งๆอยู่ที่นี่...ทุกคืน...มาตลอดสองปี

     

     

     

     

     

     

             2)

     

     

             เขาคิดถึงแนนซี่

     

    เสียงของเธอทำให้เขาหวั่นไหวได้เสมอ ร้านนี้ไม่ค่อยเล่นเพลงนี้บ่อยนัก แต่ไม่รู้คุ้มดีคุ้มร้ายอย่างไรที่มายเบบี้ชอทมีดาวน์กลับถูกเล่นที่นี่ แสงสีจากเวทีปาดไปปาดมาจนเขาเริ่มรู้ปวดหนึบในลูกตาแม้ว่าไม่ได้หันไปมองตรงๆ ขนาดว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่คงกำลังสำแดงเดชเต็มที่ยังต้านทานไม่อยู่ แต่เขาก็ยังคงลืมตามองแสงที่กระทบขวดเหล้าใสทึบบนบาร์ไล่มาจนถึงแก้วตรงหน้าเขา

    แล้วเสียงเพลงอื้ออึงก็จบลง เขาแกล้งทำท่าเหมือนคนถูกยิง กระตุกร่างกายเล็กน้อย แล้วลงไปฟุบกับบาร์เพื่อล้อกับเพลงที่พึ่งจบไปเมื่อครู่

     

    Bang bang, she shot me down
    Bang bang, I hit the ground
    Bang bang, that awful sound
    Bang bang, my baby shot me down

     

    เขาหัวเราะขื่นๆกับแก้วเหล้าของเขา ก็ไม่รู้จะไปยิ้มกับใครที่ไหนเพราะมาคนเดียว หวังแค่ซักวันที่คังแดเนียลกลับมา ได้เห็นว่าเขายังคงไม่มีใครและตัดสินใจกลับออกไปจากที่นี่พร้อมกันโดยไม่หวนกลับมาอีก

     

             โดยที่ผมไม่ต้องคิดถึงแนนซี่อีก

     

     

     

     

     

     

             3)

     

     

             “มาคนเดียวหรอคะ”

             “ครับ”

     

    ศีรษะของเขาหนักอึ้งราวกับเนื้อสมองถูกแทนที่ด้วยเหล็กกล้าเรียบไร้รอยหยักจนเต็ม เขาพยายามโฟกัสสายตาอย่างหนักกับร่างที่พึ่งเข้ามานั่งข้างๆ ตอนนี้เข้าเห็นแต่เพียงทรวงอกคู่โตที่ถูกรัดรึงไว้ด้วยเชือกสีแดง

    โอเค หล่อนเป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่มาพร้อมกับชุดหนังแก้วรัดรูปสีแดงเลือด เนื้อวัสดุเงานั้นพอดีกับหล่อนไปเสียทุกส่วนแม้กระทั่งช่วงเนินนูนระหว่างขาที่ก็กระชับเข้าไปจนเห็นร่องรอยโค้งเว้าของความเป็นหญิง

    ลอนผมทองที่ม้วนเป็นฟาร่าของเธอทำให้เขาหวั่นไหว หล่อนเหมือนแนนซี่เหลือเกิน

            

             “ไม่คิดจะมองหน้ากันหน่อยหรอคะ”

             “ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ พอดีผม...เอ่อ...ค่อนข้างหนัก”

             “เห็นแล้วหล่ะคะ” หล่อนเอียงคอขำ “ว้าว คอแข็งใช้ได้นะคะเนี่ย”

     

    แม้ว่าการดึงแก้วเหล้าของคนที่ไม่น่าจะรู้จักไปดู ดมหรืออะไรก็แล้วแต่จะเป็นเรื่องเสียมารยาท แต่อีอูจินก็ไม่คิดจะห้ามปรามอะไร เพราะลำพังนั่งให้หลังตรงยังลำบาก เจ้าหล่อนมองแก้วเหล้าแล้วก็ยิ้มอยู่อย่างนั้น อูจินนึกอยู่ในหัวแวบว่าหล่อนคงโดนของดีอะไรมาก่อนหน้านี้แน่ๆ

     

             “ฉัน...เอ่อ...ขอนั่งดื่มกับคุณตรงนี้ได้มั้ยคะ”

             “ตามสะดวกเลยครับ แต่ผมไม่เลี้ยงคุณหรอกนะ”

             “ว้า...เสียดายจัง แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ชั้นมีเงิน”

     

    หลังจากนั้นอูจินก็ไม่ได้รับรู้อะไรจากเธออีก หล่อนคงจะหันไปสั่งเหล้ากับเด็กหน้าบาร์ หยิบแก้วของเขาไปดูอีกรอบ แอบจิบมันไปนิดหน่อย ส่งคืนกลับมาก่อนจะคีบบุหรี่ขึ้นมาติดไฟสูบ อ๊ะ นึกถึงบุหรี่ เขาก็ชักเสี้ยนขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

     

             “เอ่อ...คุณครับ พอจะขอบุหรี่ซักหน่อยได้มั้ยครับ”

             “ได้สิคะ” เจ้าหล่อนคีบบุหรี่จากซองส่งมาให้ “ปกติชั้นไม่แบ่งใครง่ายๆหรอกนะ”

     

             “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”

             “....”

             “ผมอยากจะขอดูจากคุณแค่ซักฟืดนึง ดูดทั้งมวนไม่ไหวหรอก”

     

    เขาเห็นหล่อนยักไหล่พลางเอียงคอก่อนจะส่งบุหรี่ที่ไหม้ไปแล้วบางส่วนมา อูจินสูบควันร้อนเข้าปอดจากทางปาก กลิ่นจากเม็ดบลูเบอรี่ในมวนหอมเย็นฉ่ำไปทั่ว เจ้าหล่อนคงมีเงินไม่เบาเพราะบุหรี่ดีอย่างนี้ราคาก็เอาเรื่อง รู้อย่างนี้ขอมาเต็มมวนคงช่วยให้โล่งขึ้นเยอะ แต่ก็ได้แค่คิดแล้วก็คืนมวนยาสูบให้เจ้าของไป

     

             “บุหรี่หอมดีนะครับ”

             “ไม่ใช่แค่บุหรี่หรอกค่ะที่หอม”

     

    สองสายตาเลื่อนขึ้นประสานกัน อูจินไม่ใช่เด็กน้อยหรือพวกทึ่มตายด้านที่จะไม่รู้นัยของประโยคเมื่อครู่ เขารู้ดีว่าหล่อนต้องการอะไรจากเขาในค่ำคืนนี้ และจริงๆแล้วก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรเพราะเขาเองก็...แข็งขันพร้อมพรักตั้งแต่เห็นทรวงอกทรงโตกลมกลึงนั่นแล้ว และอีกอย่าง...

     

             ตลอดเกือบปี...คังแดเนียลก็ไม่เคยมาที่นี่อยู่แล้ว

             และคืนนี้ก็คงไม่ต่างจากเดิม

     

     

             “งั้นขอลองนะครับ”

     

    เขากดริมฝีปากอุ่นเข้ากับเรียวปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดของเจ้าหล่อนที่ตั้งรับรออยู่แล้ว

    แล้วสัมผัสด้วยมืออุ่นเข้ากับความเป็นหญิงของเธอ

     

     

             4)

     

     

     

    หล่อนคั่วแก้วเครื่องดื่มสีอำพันเป็นครั้งที่หนึ่งร้อยสามสิบห้า

    แล้วหล่อนก็กระดกมันเข้าไป

     

    หล่อนยกมือซ้ายซึ่งว่างอยู่จับขนตาปลอมที่หลุดออกมาจากที่ที่ควรอยู่ให้หลุดออกไปพ้นรำคาญ ก่อนจะวางมือลงบนร่างที่สลบไสลไม่ได้สติอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มในร่างกายโตเต็มวัยนอนคว่ำหน้า ซุกซ่อนท่อนล่างเปลือยเปล่าไว้ใต้ผ้าห่มราคาถูก หล่อนและเขากลับมาจบที่ม่านรูดแห่งนี้หลังจากบาร์ปิดเมื่อคืน

     

             นับว่าเป็นกิจกรรมที่หอมหวานพอใช้ได้ทีเดียว

    ผ้าปูที่นอนยับยู่ไปหมดจนอดสงสัยไม่ได้ว่าแม่บ้านจะสาปแช่งอะไรในใจบ้าง แต่สิ่งเป็นที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลีลาท่วงท่าของเขาเมื่อคืนมันรุนแรงเอาเรื่อง แอบนึกว่าเด็กน้อยคนนี้จะมีของซักแค่ไหน

            

     

             12 ปีที่ไม่เจอกัน...ใช้ได้เลยนี่อีอูจิน

     

     

    เพราะสัมผัสของเธอ ทำให้ร่างในห้วงนิทราลืมตาตื่นขึ้น

     

     

             “คุณตื่นแล้วหรอครับ” ชายหนุ่มยังคงงัวเงียและอ่อนล้า

             “ค่ะ...ก็ซักพัก”

     

     

    หล่อนว่ายิ้มๆแล้วอัดควันยาสูบเข้าปอด ก่อนจะพ่นออกมาโขมง

     

             “เมื่อคืนเครียดอะไรรึเปล่า...ดูไม่ค่อยเอ็นจอยเลยนะ”

             “ถ้าให้พูดความจริงก็...”

     

     

    “...ผมรู้สึกผิดนิดหน่อย”

     

     

     

             “ที่มาเอากับกะหรี่อย่างฉันนะหรือคะ...ฉันสะอาดนะเอาเข้าจริง”

     

     

    ใบหน้ามนสะอึกกับคำพูดตรงไปตรงมาเมื่อครู่ หล่อนหัวเราะ

     

     

             “ผมไม่ควรทำแบบนี้ทั้งที่...ผมยังรอใครบางคนอยู่” เขาหลุบตาลง

             “รอคนชื่อคังแดเนียลนะหรอคะ”

     

     

    ประโยคเมื่อครู่ทำให้อีอูจินตาตั้งขึ้นมาทันที

     

     

             “โอ๊ะ...คุณรู้จักเขาด้วยหรอครับ”

             “แน่นอน”

     

     

    หล่อนคว้าเอากระเป๋าคลัชแชแนลปลอมที่ได้มาจากตลาดมืดมาคุ้ยหาอะไรบางอย่าง อูจินยังคงตีความอะไรไม่ออกเพราะสิ่งที่หล่อนพูดมันซับซ้อนรวมกับอาการหน้ามืดจากกิจกรรมร้อนรักเมื่อคืน

     

     

             “อันที่จริงเขาตายไปแล้ว...ตั้งแต่เมื่อซัก” หล่อนเว้นช่วงดูดบุหรี่ “สิบปีที่แล้ว”

             “ได้ยังไง...ที่ไหนครับ”

     

     

             “ห้องผ่าตัดแปลงเพศที่นิวยอร์กหน่ะค่ะ” หล่อนว่าพลางยื่นบัตรประชาชนให้อีกคน

     

    บนบัตรนั้นไม่มีข้อมูลอะไรน่าสนใจไปมากกว่ารูปถ่ายหน้าบัตรที่อูจินน่าจะจดจำได้ดี หรือถ้าเขายังจำไม่ได้เพราะมันนานเกินไปก็ยังมีทั้งชื่อและนามสกุลย้ำให้อีกที

     

    Surname
    Kang

    Given names
    Daniel

     

     

     

    “ตอนนี้มีแต่คังดานิเท่านั้นแหละค่ะ...ที่ใช้ชีวิตแทนคังแดเนียลอยู่”

     

     

    ดวงตากลมเบิกกว้างชวนให้ร่างอรชรที่เปลือยเปล่าอยู่ยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ พอเห็นอูจินที่กำลังช็อกกับภาพที่ไม่คุยเคยกับคังแดเนียลที่เขาไม่คุ้ยเคยก็ยิ่งอยากจะหัวเราะใหญ่

     

     

             “คุณแกล้งผมใช่มั้ยครับ...”

             “...”

    “คังแดเนียลอยู่ที่ไหน!! คุณบอกผมมา”

     

     

     

    “คุณฆ่าเขาแล้วจริงๆใช่มั้ย!!

     

     

    เส้นสติของอูจินขาดสะบั้น เขาคว้าไหล่กว้างได้แล้วเขย่ามันอย่างแรง หน้าอกทรงโตกระเพื่อมตามแรงมือของชายหนุ่ม น้ำตาของเขาเริ่มหลั่งออกมาอาบพวงแก้ม แต่เจ้าหล่อนก็ยังคงยิ้ม ไม่ใช่เพราะมันตลกอะไรหรอกนะ แต่เพราะฤทธิ์ของยาสูบผสมกัญชามวนนั้นต่างหาก

     

             “ใจเย็น”

             “มึงเอาพี่แดเนียลไปไว้ที่ไหน!!...มึงฝังเขาไว้ที่ไหน บอกกูมา!!

     

     

             “เราจำพี่ไม่ได้จริงหรออูจิน...หยุดแล้วมองหน้าพี่อีกทีได้ไหม”

             “ฮึก”

     

    ดานิเลิกใช้เสียงสองแล้วหันมามองหน้าอูจินตรงๆ อูจินที่น้ำตาอาบแก้มนิ่งลงแล้วพินิจใบหน้าตรงหน้าชัดๆอีกครั้ง พอทุกอย่างสงบลง เธอใช้มือคว้าวิกผมปลอมสีทองสังเคราะห์นั่นออกไปข้างเตียง เหลือแต่เพียงเรือนผมสีน้ำตาลที่ถูกรวบไว้ภายใต้ตาข่าย

     

     

             “พี่แดเนียล...พี่จริงๆด้วย”

     

             “รอพี่นานมั้ยไอ้ตัวเล็ก มากอดทีมา”

     

     

    คังดานิหรือคังแดเนียลรวบคนเคยเล็กแนบเข้ามาที่อกนิ่ม 380 ซีซีของตัว คนในอ้อมกอดสะอึกสะอื้นไม่หยุด หล่อนยังคงมองเขาคล้ายๆกับอูจินเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ต่างกันนิดหน่อยตรงที่...

     

     

             เธอยังไม่เคยลืมแผ่นหลังอันเย็นชาของอูจินที่จากไปในวันนั้น

                และเธอไม่แน่ใจว่าจะยอมให้มันเกิดขึ้นอีกดีหรือไม่

     

     

     

             “ผมคิดถึงพี่มากเลยรู้มั้ย ผมไป...ฮึก!...รอพี่ทุกวัน...ที่บาร์นั่น...เลยนะ”

            

    “พี่รู้...พี่ก็เห็น”

     

     

             “ไม่สงสารผมหรอ”

             “เอาแบบไม่เกรงใจเลยนะ...ไม่”

     

     

    อูจินผงะหน้าออกมาจากอ้อมอกของคังดานิ

     

     

     

             “พี่แดเนียล...”

             “ขอโทษที่ขัดนะ...แต่รบกวนเรียกพี่ว่าดานิด้วย มันดูไม่ค่อยให้เกียรติกันเท่าไร”

     

     

     

             “พี่แดเนียล”

     

     

     

     

             “เราพอจะมาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม”

     

     

     

    ดานิสะอึกไปชั่วครู่กับคำถามของของอูจินเมื่อครู่ ถ้าตอบแบบไม่เกรงใจเลย...ไม่ แต่ไม่ใช่เพราะเธอหมดสิ้นทุกอย่างกับอีอูจิน ทิ้งทุกอย่างไว้ในห้องผ่าตัดอย่างที่พูดไปหรอกนะ

    สิ่งที่เดียวที่คังแดเนียลทิ้งไว้ให้ดานิคือความทรงจำเกี่ยวกับอีอูจิน ไม่ว่าเธอจะเป็นผู้ชาย เป็นคนที่ทำหน้าที่ผู้ชายให้พ่อ ให้แม่ ให้อีอูจิน หรือวันที่เธอกลายเป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์ให้ตัวเธอเอง

     

     

    อีอูจินไม่เคยหายไป

    ยังเป็นกลีบกุหลาบที่คงอยู่พร้อมกับหนามแหลมยอกอกเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

     

     

    หลายครั้งที่เธอกลับมาจากนิวยอร์กแล้วกลับมาทำงานเป็นนางโชว์ที่บาร์เส็งเคร็งนั่น เธอเห็นอีอูจินทุกวันมาตลอดสองปี การปรากฎตัวของเขาทำให้เธอเริ่มคุ้ยเคยกับระยะห่างระหว่างโซลและนิวยอร์กที่หดสั้นเหลือแค่บนเวทีกับหน้าบาร์ เธอคิดว่ามันโอเคสำหรับเธอ แต่เธอก็ยังไม่พอใจ

     

     

    วันนี้เธอตัดสินใจหดมันให้เหลือแค่เพียงระยะลมหายใจแทรกผ่าน

     

     

    และเธออ่อนไหวเกินไปจริงๆด้วย

     

     

     

             “ถ้าถามแดเนียล คำตอบคือเขาตายไปตั้งแต่ที่เราแยกจากกันแล้ว”

             “...”

    “แต่ถ้าถามดานิ...ก็...”

     

     

     

     

     

     

     

    “อาจจะไม่”

     

     

    ดานิเก็บบัตรประชาชนลงแล้ววางกระเป๋าของเธอไว้บนโต๊ะหัวเตียงเหมือนเดิม เธอขยี้มวนบุหรี่ผสมที่แทบชิดก้นกรองกับถ้วยกระเบื้อง แล้วบิดร่างกลับมาหาชายหนุ่มที่จับจ้องเธออยู่วางตา

     

     

             “ผมรู้ว่าผมอยู่ในฐานะไม่ควรจะขออะไรอีก แต่...”

     

     

             “ผมขอให้พี่เป็นแดเนียลให้ผมวันสุดท้ายได้ไหม”

     

     

     

     

     

     

             “ถ้าพี่บอกว่าไม่ได้ล่ะ”

     

     

     

     

     

     

             “หรือพี่จะเป็นอะไรก็ได้ แล้วแต่พี่เลย”

     

     

     

    “แต่ช่วยกลับมาเป็นคนที่ผมรักเถอะนะ”

     

    “อีกซักชั่วโมงเดียวก็พอ”

     

     

     

     

             “เรามาเริ่มกันอีกครั้ง ในฐานะที่พี่เป็นคนของผมเถอะนะ”

     

     

     

     

     

     

             “ก็ได้”

     

     

     

    สองริมฝีปากพุ่งประกบเข้าหากันอีกครั้งพร้อมกับมือที่คว้าเข้ากับทรวงอกโตอย่างไม่รอช้า

    ภายใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจากขอบฟ้า สองร่างยังแนบชิดนัวเนียกันอยู่ในห้องม่านรูดราคาถูกอย่างโหยกระหาย ลืมเวลา ลืมทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่าตอนนั้นพวกเขาเคยเป็นใคร มีแค่ตอนนี้ เวลานี้ เท่านั้น

     

             มีแค่คังดานิและอีอูจินเท่านั้นที่จะก้าวข้ามคืนโหดนี้ไป

             อย่างน้อยก็อีกซักชั่วโมง

     

     

     

     

     












     

    LOVE WINS








    คนที่สู้มาจนถึงจุดนี้คุณคือ Survivor ที่แท้ค่ะ
    คือฟิคมันค่อนข้างบ้ามากจริง เราได้รับอิทธิพลมาจาก
    Pedro Almodovar เยอะมากๆค่ะ

    อย่างที่โปรยไปหัวคลังแล้วว่ามันคือเรื่องของแดเนียลเราเองก็อยาก explore ว่าแดเนียลเป็นอะไรได้บ้าง
    ไม่ชอบไม่โกรธนะคะ จริงๆจากใจเลย แต่เราอยากแต่งมากจริงๆ

    ไม่รู้ว่าจะเคลมคู่ยังไงไม่ให้หลอก 5555 แต่สำหรับเรามันคือแดจินค่ะ
    ไม่ว่าพี่แดนจะเป็นยังไง อยู่ในร่างไหน พี่แดนก็คือพี่แดน พี่แดนของน้องอูจินเสมอค่ะ

    ด่าได้นะคะ แต่ถ้าด่าแบบไม่วางถุงกาวลงก่อน เราขออนุญาตลบนะคะ


    ขอบคุณมากๆค่ะที่อยู่กันมาถึงตัวอักษรสุดท้าย
    ถ้ายังไงติชมกันได้นะคะหรือไปคุยกันต่อที่  #วีนีดแดเนียล ก็ได้ค่ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×