ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โครงงานสุขศึกษา ม. 4

    ลำดับตอนที่ #16 : โครงงาน ออกกำลังกาย พัฒนากาย พัฒนาสมอง ด้วยวิธีอัจฉริยะตาราง 9 ช่อง

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 55


    อัจฉริยะตาราง 9 ช่อง
     
     อะไรหนอ? ตาราง 9 ช่อง...
     
                หลายคนอาจจะยังคงฉงน งง งวย กับเจ้าตาราง 9 ช่องที่ว่านี้... แต่ไม่ต้องแปลกใจค่ะ เพราะนี่เป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ที่ช่วยฝึกสมาธิ ฝึกทักษะการคิดอย่างมีระบบ การคิดอย่างมีเหตุผลและการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตาราง 9 ช่อง ที่ว่านี้ยังสามารถผสมผสานการเคลื่อนไหวประกอบกับจังหวะดนตรีเพื่อออกกำลังกายแบบแอโรบิก รำเซิ้ง รำฟ้อน ลีลาศ และเต้นรำเพื่อสุขภาพได้ แถมยังเพิ่มความสนุกสนานเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี
     
                ก่อนที่จะมาออกกำลังกายด้วยตาราง 9 ช่อง เราต้องมีเจ้าตาราง 9 ช่อง อุปกรณ์ชิ้นเอกซะก่อน วิธีทำ ก็ง่ายนิดเดียว....เพียงแค่เตรียมอุปกรณ์อาจเป็นกระดาษหรือแผ่นไม้ก็ได้ตามความสะดวก ขนาด 75 X 75 เซนติเมตร หรืออาจจะมีขนาดเล็กกว่านี้เล็กน้อย แล้วแบ่งออกเป็น 9 ช่องเท่าๆกัน เพียงแค่นี้เราก็จะได้อุปกรณ์ในการออกกำลังกายแบบใหม่แล้ว
     
                เมื่อถึงเวลานี้ คุณพร้อมแล้วหรือยัง... ที่จะมาออกกำลังกายกับเรา...
     
               แต่ละท่าใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติประมาณ 10-15 วินาทีต่อรอบ และต้องมีการฝึกซ้ำ 3-5 รอบ โดยมีการเคลื่อนไหวพื้นฐานที่สำคัญเป็นแบบ 3 มิติ คือ ซ้าย-ขวา,หน้า-หลังและบน-ล่าง เท่านั้นเอง
     
     
     
     
     
     
     
     
     แบบที่ 1
     
                 อย่ารอช้าเริ่มต้นแบบที่ 1 “ก้าวขึ้น-ลง” ด้วยการวางเท้าซ้ายที่ช่องหมายเลข 2 เท้าขวาอยู่ที่ช่องหมายเลข 3 จากนั้นก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 6 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายต่อไปที่ช่องหมายเลข 8 เท้า ก้าวขวาก้าวต่อไปที่ช่องหมายเลข 9 จากนั้นถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 5 ถอยเท้าขวาไปที่ช่องหมายเลข 6 ถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 2 สุดท้ายถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 3
     แบบที่ 2
                ต่อด้วยแบบที่ 2 “ก้าวออกด้านข้าง” ท่าเตรียมวางเท้าทั้งสองข้างยืนอยู่ที่ช่องหมายเลข 2 จากนั้นเริ่มต้นก้าวเท้าซ้ายไปที่ช่องหมายเลข 1 ก้าวเท้าขวาไปที่ช่องหมายเลข 3 ก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 2 พร้อมทั้งก้าวเท้าขวากลับมาที่ช่องหมายเลข 2 ด้วย
     
     
     
     
     
     
     แบบที่ 3
                และแบบที่ 3 “ก้าวเป็นรูปกากบาท” ท่าเตรียมวางเท้าซ้ายไว้ที่ช่องหมายเลข 1 เท้าขวาอยู่ที่ช่องหมายเลข 3 จากนั้นก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 5 พร้อมกับก้าวเท้าขวาต่อไปที่ช่องหมายเลข 5 ด้วย ก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 9 ต่อด้วยถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 5 ถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 5 และถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 1 สุดท้ายถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 3
     แบบที่ 4
                แบบที่ 4 นั้น “ก้าวเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด” ท่าเตรียมเท้าทั้งสองข้างวางอยู่ที่ช่องหมายเลข 2 จากนั้นก้าวเท้าซ้ายไปที่ช่องหมายเลข 4 ก้าวเท้าขวาไปที่ช่องหมายเลข 6 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายไปที่ช่องหมายเลข 8 ตามด้วยก้าวเท้าขวาไปที่ช่องหมายเลข 8 เช่นกัน จากนั้นถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 4 ถอยเท้าขวาไปที่ช่องหมายเลข 6 สุดท้ายถอยเท้าซ้ายลงไปที่ช่องหมายเลข 2 ตามด้วยถอยเท้าขวาลงไปที่ช่องหมายเลข 2 เช่นกัน เป็นอันจบท่าแบบที่ 4
     
     
     
     
     แบบที่ 5
                ต่อกันเลยด้วยแบบที่ 5 “ก้าวทแยงมุมแบบไขว้เท้า” เริ่มต้นท่าเตรียม ยืนอยู่แถวล่างสุดของตาราง โดยวางเท้าซ้ายไว้ที่ช่องหมายเลข 1 เท้าขวาวางไว้ที่ช่องหมายเลข 3 จากนั้นเริ่มด้วยก้าวเท้าซ้ายเฉียงขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 9 ก้าวเท้าขวาไขว้ข้ามไปที่ช่องหมายเลข 7 ต่อด้วยถอยเท้าซ้ายลงมาที่ช่องหมายเลข 1 และถอยเท้าขวาลงมาที่ช่องหมายเลข 3
     แบบที่ 6
                สำหรับแบบที่ 6 “ก้าวทแยงมุมแบบรัศมีดาว” ท่าเตรียมเท้าทั้งสองข้างยืนอยู่ที่ช่องหมายเลข 5 จากนั้นเริ่มต้นด้วยก้าวเท้าซ้ายเฉียงลงไปที่ช่องหมายเลข 1 ก้าวเท้าขวาเฉียงขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 9 และก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 5 พร้อมด้วยก้าวเท้าขวากลับไปที่ช่องหมายเลข 5 เช่นกัน ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายเฉียงขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาเฉียงลงไปที่ช่องหมายเลข 3 จากนั้นก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าขวากลับมาช่องหมายเลข 5
     
     
     
     
     
    แบบที่ 7
                แบบที่ 7 “ก้าวเฉียงเป็นรูปตัว v” ท่าเตรียมยืนด้วยเท้าทั้งสองข้างอยู่ที่ช่องหมายเลข 2 เริ่มต้นด้วยก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่หมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 9 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 2 และสุดท้ายก้าวเท้าขวากลับมาที่ช่องหมายเลข 2
     แบบที่ 8
                ตามด้วยแบบที่ 8 “ก้าวสามเหลี่ยม” ท่าเตรียมยืนด้วยเท้าทั้งสองข้างในช่องหมายเลข 2 จากนั้นเริ่มต้นก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 8 ตามด้วยก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 8 จากนั้นถอยเท้าซ้ายลงมาที่ช่องหมายเลข 1 ถอยเท้าขวาลงมาที่ช่องหมายเลข 3 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายกลับมาที่ช่องหมายเลข 2 และก้าวเท้าขวากลับมาที่ช่องหมายเลข 2 ด้วย
     
     
     
     
     
     
     
     
     แบบที่ 9
                สุดท้ายคือแบบที่ 9 “ก้าว-ชิด สามเหลี่ยมซ้อน” เริ่มด้วยท่าเตรียมยืนด้วยเท้าทั้งสองข้างอยู่ที่ช่องหมายเลข 2 ก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 4 ก้าวเท้าขวาไปที่ช่องหมายเลข 6 ต่อด้วยก้าวเท้าซ้ายเข้ามาที่ช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าขวาเข้ามาช่องหมายเลข 5 ด้วย จากนั้นก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 9 ก้าวเท้าซ้ายเข้ามาที่ช่องหมายเลข 8 พร้อมกับก้าวเท้าขวาเข้ามาที่ช่องหมายเลข 8 ด้วย จากนั้นทำย้อนกลับลงไปสู่ช่องเริ่มต้นหมายเลข 9ที่ช่องหมายเลข 5 ก้าวเท้าขวาเข้ามาช่องหมายเลข 5 ด้วย จากนั้นก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปที่ช่องหมายเลข 7 ก้าวเท้าขวาขึ้นไปที่ช่อ
     
                หวังว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะลองฝึกปฏิบัติกับเจ้าตาราง 9 ช่องดู ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน พื้นที่เล็กๆก็ก่อให้เกิดประโยชน์ได้ แถมยังเสริมสร้างสุขภาพ พัฒนาทักษะด้านต่างๆ ลองฝึกปฏิบัติกันดูนะคะ อีกหนึ่งทางเลือกดีๆที่ไม่แพ้การออกกำลังกายแบบอื่นเลย....
     
      
    เรื่องโดย : วีรญาน์  จันทร์นวล Team Content www.thaihealth.or.th
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ ตาราง 9 ช่องกับการพัฒนาสมอง โดย (รองศาสตราจารย์เจริญ กระบวนรัตน์) และแผนงานส่งเสริมนวัตกรรมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สสส.

     ทุกที่กว้างพอจะออกกำลังกาย

     
    •  ออกกำลังกาย    เครื่องออกกำลังกายที่ดีที่สุด คือ ร่างกายคุณเอง
     
     
              "อยากจะออกกำลังกายจังเลย.....แต่ไม่มีเวลา ว่างเมื่อไหร่ไปแน่นอน"
     
              "อยากออกกำลังกายมากๆ.....แต่ไม่มีเงิน"
     
              "อยากออกกำลังกายมากเลย.....แต่ไม่มีสถานที่ ที่บ้านแคบนิดเดียว"
     
              นี่ไม่ใช่เหตุผล แต่เป็นข้ออ้างของคนที่ไม่รักสุขภาพต่างหาก การออกกำลังกายแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที คุณจะไม่สามารถหาเวลา 30 นาที จาก 1,440 นาทีในหนึ่งวัน เพื่อการออกกำลังกายได้เชียวหรือ? และการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้เงินหรือใช้เงินเพียงเล็กน้อยไม่มีบ้างหรืออย่างไร? สำหรับข้อจำกัดเรื่องสถานที่นั้น ในความเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกายทำได้ทุกสถานที่ แม้แต่ในพื้นที่เล็กๆ ก็สามารถทำได้เพราะทุกที่กว้างพอที่จะออกกำลังกายเสมอ
     
              เชื่อหรือไม่ว่า คนไทยออกกำลังกายเพียง 34% เท่านั้นเมื่อเทียบกับคนชาติอื่นๆ ด้วยข้ออ้างว่า ไม่มีเวลาและไม่มีสถานที่ ซึ่งจริงๆ แล้วที่ไหนก็ออกกำลังกายได้ เช่น การออกกำลังกายที่เรียกว่า "กระดาน 9 ช่อง" ใช้พื้นที่เล็กๆ เพียง 90 คูณ 90 ซ.ม. หรือถ้าจะเล็กกว่านี้ก็ยังได้ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการออกกำลังกายในพื้นที่จำกัด ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายตามแบบวิถีชีวิตพอเพียง เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ ไม่ต้องลงทุนสูงไม่ต้องเสียค่าสมัครฟิตเนสแพงๆ ปีละหลายหมื่นบาท ใช้เพียงกระดานแผ่นเล็กๆ และใช้พื้นที่แค่เพียง 3 ก้าวเดินก็เพียงพอแล้ว
     
              รศ.เจริญ กระบวนรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพละศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวว่า "กระดาน 9 ช่องใช้พื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ ตีเป็นตีตาราง 9 ช่อง มิติของการเคลื่อนไหวมีทั้งหน้า-หลัง, ซ้าย-ขวา, บน-ล่าง ซึ่งจำลองการเคลื่อนไหวของมนุษย์ไว้ครบหมด แต่ต้องรู้หลักการก่อนว่า สมองซีกซ้ายควบคุมร่างกายซีกขวา สมองซีกขวาควบคุมร่างกายซีกซ้าย แล้วจึงเคลื่อนไหวไปตามรูปแบบที่กำหนดหรือสร้างขึ้นเอง นอกจากได้ออกกำลังกายแล้วยังได้ฝึกเรื่องสมองด้วย"
     
              การออกกำลังกายด้วยกระดาน 9 ช่องนั้น สามารถนำการเต้นแอโรบิค การกระโดด หรือการเลี้ยงลูกบอลมาร่วมด้วยได้ รวมทั้งยังสามารถเต้นอย่างสนุกสนานไปพร้อมกับเสียงเพลง โดยจุดเริ่มต้นนั้นสร้างมาเพื่อใช้ฝึกการเคลื่อนไหวของนักกีฬา แต่ปัจจุบันมีการนำไปกับคนทั่วไป และในวงการสุขภาพ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ใช้กับผู้สูงอายุ และคนที่มีปัญหาทางสมอง ถ้านำมาใช้กับเด็กเล็กก็จะช่วยเรื่องการพัฒนาทั้งร่างกาย ส่วนสูงและการพัฒนาสมอง
     
              สำหรับหลักการการออกกำลังกายที่ดีนั้น รศ.เจริญ กล่าวว่า "จะต้องทำด้วยความหลากหลาย ไม่ทำซ้ำซากอยู่อย่างเดียว บางคนเข้าใจผิดว่างเดินทุกวันวิ่งทุกวันจะทำให้สุขภาพดี จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะเป็นการออกกำลังกายซ้ำซากเพียงอย่างเดียวได้ผลแค่อย่างเดียวไม่ครบทุกมิติที่ร่างกายต้องการ เช่นถ้าเลือกออกกำลังประเภทแอโรบิค อย่าง วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ก็จะได้ผลกับปิดและหัวใจเท่านั้น แต่ไม่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง สังเกตง่ายๆ ก็คือ การออกกำลังกายนั้นๆ ต้องไม่นำมาซึ่งปัญหาการบาดเจ็บการออกกำลังกายที่ถูกต้องจะต้องได้สุขภาพ ไม่ใช่เสียสุขภาพ"
     
              เครื่องออกกำลังกายที่ดีที่สุด ก็คือร่างกายของคุณเอง ไม่ต้องเสียเงินฟุ่มเฟือยในการซื้อหา และพื้นที่เพียงเล็กๆ ก็สามารถใช้ออกกำลังกายได้เพราะทุกที่กว้างพอเสมอที่จะออกกำลังกาย หากใจคุณพร้อม
     
              สนใจเรื่อง "กระดาน 9 ช่อง" สอบถามได้ที่ ภาควิชาพละศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และติดตามชมภาพยนตร์โฆษณารณรงค์เรื่อง "การออกกำลังกาย" หนึ่งในโฆษณารณรงค์ ชุด สุข 8 "สุขภาวะยั่งยืน ด้วยวิถีชีวิตพอเพียง" ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้ทาง www.porpeanglife.com สอบถามข้อมูล 0-2298-0500
     
     

     ++“ตาราง 9 ช่อง” ออกกำลังกายพัฒนาสมอง ++

     
    *“ตาราง 9 ช่อง” ออกกำลังกายพัฒนาสมอง *
     “สมอง” ถือได้ว่าเป็นศูนย์บัญชาการหลักที่ใช้ในการสั่งการระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งการทำงานของสมองจะประกอบด้วยเซลล์ประสาทส่วนต่างๆ
    ที่ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบที่จะควบคุมพฤติกรรมทุกอย่างของมนุษย์
           
           สมองเองจึงแบ่งหน้าที่การทำงานหลักๆ ออกเป็น 2 ข้าง สมองซีกซ้าย ทำหน้าที่ในการคิดวิเคราะห์ ในเรื่องต่างๆ การเรียนรู้ การคำนวณ การจัดลำดับ ควบคุมพฤติกรรมต่างๆ การตัดสินใจ การรับรู้ ส่วน สมองซีกขวา ทำหน้าที่ในการสร้างจินตนาการ สัญชาตญาณ การสังเคราะห์ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ
     การแก้ปัญหาต่างๆ

           แต่ปัจจุบันนี้ศูนย์บัญชาการของร่างกายกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป และไม่ดูแลรักษาร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอวัยวะที่สำคัญอย่างสมอง
    นั่นเองเป็นผลให้โรคสมองเสื่อม เข้ามาใกล้เรามากยิ่งขึ้น

           
       ** “ตาราง
    9 ช่อง
    ” เสริมพัฒนาการสมอง
           
    นอกจากการให้ความสำคัญในการบริโภคแล้วนั้น การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาของโรคสมองเสื่อม อีกทั้งยังช่วยพัฒนาศักยภาพในการเรียนได้เช่นกัน เหมือนอย่างที่ ร.ร.อนุบาลพนัสศึกษาลัย อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
    ซึ่งนำเอารูปแบบการออกกำลังกายด้วย “ตาราง 9 ช่อง” มาใช้กับการออกกำลังกายของนักเรียน

           
           อ.จินตนา อยู่อำไพ หรือ ครูเดฟ ได้อธิบายถึงที่มาและประโยชน์ของการใช้ตาราง
    9 ช่อง ว่า ก่อนนั้นจะใช้ตาราง
    9 ช่อง ในการเสริมสร้างพัฒนาการกับเด็กพิเศษ เด็กออทิสติก หรือเด็กไฮเปอร์ ที่จะมีลักษณะหรือพฤติกรรมที่ไม่อยู่นิ่ง หรือนิ่งจนเกินไป จนทำให้พวกเขาสามารถที่จะอยู่ในระบบระเบียบได้ จากนั้นจึงมีการนำตาราง 9 ช่องขยายเข้าสู่โรงเรียนเพราะสามารถนำมาปรับใช้กับเด็ก และบูรณาการกับการเรียนการสอนในทุกวิชา

           สำหรับการนำไปใช้นั้น สามารถแบ่งการใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เพราะขณะที่เด็กกำลังเครียดกับวิชาการเรียน ครูผู้สอนก็จะสั่งให้นักเรียนลุกขึ้น โดยที่ตาราง 9 ช่องจะวางไว้ข้างโต๊ะ เพื่อทำท่าทางประกอบตาราง 9 ช่อง นอกจากนั้นบนโต๊ะก็ยังมีการตีตารางไว้ให้เด็กสามารถใช้ตารางด้วยมือ
     เป็นการแทรกการออกกำลังกายระหว่างการเรียนการสอนเพื่อไม่ให้เด็กเบื่อ
     ขณะเดียวกัน ได้มีการประยุกต์โดยการนำเนื้อหาในวิชาเรียนเข้ามาใส่ เช่น การท่องสูตรคูณ ท่องอาขยาน บทกลอน ศัพท์ภาษาอังกฤษ เป็นการท่องตามจังหวะ เด็กจะสามารถท่องได้อย่างถูกต้อง และง่ายที่เขาจะจดจำในเรื่องนั้นๆ อีกทั้งยังสร้างความกระตือรือร้นต่อการเรียนให้แก่เด็ก ซึ่งจะมีการแทรกในลักษณะนี้อยู่ทุกวิชา
           
           ในส่วนของการออกกำลังกายด้วยตาราง
    9 ช่องนั้น จะเริ่มจากหน้าเสาธงในทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เพราะบริเวณหน้าเสาธงนั้นจะทำแนวอิฐบล็อกไว้เป็นตาราง 9 ช่อง แล้วให้เด็กยืนในตารางจากนั้นเปิดเพลงเพื่อทำกายบริหารประกอบท่าทาง ทั้งท่าของแอโรบิกและยังสามารถผสมผสาน
    ด้วยการนำท่ารำ และท่าทางต่างๆ มาประยุกต์ได้

           “เมื่อเด็กออกกำลังกายพร้อมกันแล้ว จะเกิดความพร้อมเพรียงเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นแล้ว ก็เพื่อเป็นการปลุกให้สมองตื่นตัวเพื่อเตรียมความพร้อม ความกระฉับกระเฉง ก่อนเข้าห้องเรียน ไม่ให้เด็กเกิดความเครียด และเข้าห้องเรียนได้อย่างมีความสุข ที่สำคัญเป็นเหมือนการสกัดกั้นพลังของเด็กที่มักจะมีความซุกซนอยู่ในตัวเอง ทำให้พฤติกรรมเด็กเปลี่ยนจากที่เด็กเคยก้าวร้าวกลับนิ่งและมีสมาธิมากขึ้น” ครูเดฟ ชี้แจง
    ** ความจำดี เรียนเพลิน ด้วยตาราง 9 ช่อง
     
    วันที่ อาทิตย์ มกราคม 2551
     

    ++“ตาราง 9 ช่อง” ออกกำลังกายพัฒนาสมอง ++

     
    *“ตาราง 9 ช่อง” ออกกำลังกายพัฒนาสมอง *
     “สมอง” ถือได้ว่าเป็นศูนย์บัญชาการหลักที่ใช้ในการสั่งการระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งการทำงานของสมองจะประกอบด้วยเซลล์ประสาทส่วนต่างๆ
    ที่ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบที่จะควบคุมพฤติกรรมทุกอย่างของมนุษย์
           
           สมองเองจึงแบ่งหน้าที่การทำงานหลักๆ ออกเป็น 2 ข้าง สมองซีกซ้าย ทำหน้าที่ในการคิดวิเคราะห์ ในเรื่องต่างๆ การเรียนรู้ การคำนวณ การจัดลำดับ ควบคุมพฤติกรรมต่างๆ การตัดสินใจ การรับรู้ ส่วน สมองซีกขวา ทำหน้าที่ในการสร้างจินตนาการ สัญชาตญาณ การสังเคราะห์ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ
     การแก้ปัญหาต่างๆ

           แต่ปัจจุบันนี้ศูนย์บัญชาการของร่างกายกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป และไม่ดูแลรักษาร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอวัยวะที่สำคัญอย่างสมอง
    นั่นเองเป็นผลให้โรคสมองเสื่อม เข้ามาใกล้เรามากยิ่งขึ้น

           
       
    ** “ตาราง 9 ช่อง” เสริมพัฒนาการสมอง
           นอกจากการให้ความสำคัญในการบริโภคแล้วนั้น การออกกำลังกายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาของโรคสมองเสื่อม อีกทั้งยังช่วยพัฒนาศักยภาพในการเรียนได้เช่นกัน เหมือนอย่างที่ ร.ร.อนุบาลพนัสศึกษาลัย อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
    ซึ่งนำเอารูปแบบการออกกำลังกายด้วย “ตาราง 9 ช่อง” มาใช้กับการออกกำลังกายของนักเรียน

           
           อ.จินตนา อยู่อำไพ หรือ ครูเดฟ ได้อธิบายถึงที่มาและประโยชน์ของการใช้ตาราง 9 ช่อง ว่า ก่อนนั้นจะใช้ตาราง 9 ช่อง ในการเสริมสร้างพัฒนาการกับเด็กพิเศษ เด็กออทิสติก หรือเด็กไฮเปอร์ ที่จะมีลักษณะหรือพฤติกรรมที่ไม่อยู่นิ่ง หรือนิ่งจนเกินไป จนทำให้พวกเขาสามารถที่จะอยู่ในระบบระเบียบได้ จากนั้นจึงมีการนำตาราง 9 ช่องขยายเข้าสู่โรงเรียนเพราะสามารถนำมาปรับใช้กับเด็ก และบูรณาการกับการเรียนการสอนในทุกวิชา

           สำหรับการนำไปใช้นั้น สามารถแบ่งการใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เพราะขณะที่เด็กกำลังเครียดกับวิชาการเรียน ครูผู้สอนก็จะสั่งให้นักเรียนลุกขึ้น โดยที่ตาราง 9 ช่องจะวางไว้ข้างโต๊ะ เพื่อทำท่าทางประกอบตาราง 9 ช่อง นอกจากนั้นบนโต๊ะก็ยังมีการตีตารางไว้ให้เด็กสามารถใช้ตารางด้วยมือ
     เป็นการแทรกการออกกำลังกายระหว่างการเรียนการสอนเพื่อไม่ให้เด็กเบื่อ
     ขณะเดียวกัน ได้มีการประยุกต์โดยการนำเนื้อหาในวิชาเรียนเข้ามาใส่ เช่น การท่องสูตรคูณ ท่องอาขยาน บทกลอน ศัพท์ภาษาอังกฤษ เป็นการท่องตามจังหวะ เด็กจะสามารถท่องได้อย่างถูกต้อง และง่ายที่เขาจะจดจำในเรื่องนั้นๆ อีกทั้งยังสร้างความกระตือรือร้นต่อการเรียนให้แก่เด็ก ซึ่งจะมีการแทรกในลักษณะนี้อยู่ทุกวิชา
           
           ในส่วนของการออกกำลังกายด้วยตาราง
    9 ช่องนั้น จะเริ่มจากหน้าเสาธงในทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เพราะบริเวณหน้าเสาธงนั้นจะทำแนวอิฐบล็อกไว้เป็นตาราง 9 ช่อง แล้วให้เด็กยืนในตารางจากนั้นเปิดเพลงเพื่อทำกายบริหารประกอบท่าทาง ทั้งท่าของแอโรบิกและยังสามารถผสมผสาน
    ด้วยการนำท่ารำ และท่าทางต่างๆ มาประยุกต์ได้

           “เมื่อเด็กออกกำลังกายพร้อมกันแล้ว จะเกิดความพร้อมเพรียงเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นแล้ว ก็เพื่อเป็นการปลุกให้สมองตื่นตัวเพื่อเตรียมความพร้อม ความกระฉับกระเฉง ก่อนเข้าห้องเรียน ไม่ให้เด็กเกิดความเครียด และเข้าห้องเรียนได้อย่างมีความสุข ที่สำคัญเป็นเหมือนการสกัดกั้นพลังของเด็กที่มักจะมีความซุกซนอยู่ในตัวเอง ทำให้พฤติกรรมเด็กเปลี่ยนจากที่เด็กเคยก้าวร้าวกลับนิ่งและมีสมาธิมากขึ้น” ครูเดฟ ชี้แจง
    ** ความจำดี เรียนเพลิน ด้วยตาราง 9 ช่อง
    ด้านผู้ใช้โดยตรงอย่าง “น้องเฟรม” ด.ญ.ปิยธิตา ประเสริฐทวีโชติ ชั้น ป.6 บอกว่า การออกกำลังกายด้วยตาราง 9 ช่องนั้น ช่วยพัฒนาทางด้านสมอง ทำให้รู้จักแยกแยะ มีสมาธิในการเรียน เพราะการเรียนในห้องเรียนที่มีการนำตาราง 9 ช่องเข้าไปใช้ร่วมกับวิชาเรียนนั้นทำให้สามารถจดจำเนื้อหาได้ง่าย เช่น การท่องสูตรคูณหรือเล่นต่อคำ ที่ต้องใช้ความรวดเร็วและไหวพริบในการตอบคำถาม ทำให้เกิดความสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ นอกจากนั้นเมื่อท่องแล้วยังสามารถเต้นประกอบจังหวะตามได้ด้วย ซึ่งก็เป็นการออกกำลังกายทางหนึ่ง 
           

           “เมื่อก่อนที่โรงเรียนก็มีการออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิก แต่เมื่อนำตาราง 9 ช่องเข้ามาใช้เด็กนักเรียนก็จะมีใจที่จดจ่ออยู่กับตารางทำให้เกิดสมาธิขึ้นได้ และความสนุกสนานนี้ คุณครูยังนำปรับใช้ในการเรียนการสอนทุกวิชาอีกด้วย”น้องเฟรม กล่าวถึงประโยชน์
           
            หวังให้ทุกบ้านใช้ ตาราง 9 ช่อง
        

           “ในอนาคตโรงเรียนยังมีโครงการที่จะเชื่อมโยงถึงผู้ปกครองที่บ้าน เพื่อให้เด็กนำการเล่นตาราง 9 ช่องไปฝึกกับผู้ปกครอง และจะเชิญตัวแทนของแต่ละครอบครัว แต่ละชั้นปี มาโชว์ความสามารถกันว่าแต่ละครอบครัวมีความสามารถในการใช้ตาราง 9 ช่องมากแค่ไหน เพื่อเป็นการบูรณาการความรู้ร่วมกันระหว่างโรงเรียน นักเรียน และผู้ปกครอง และยังเป็นการขยายเครือข่ายการป้องกันโรคสมองเสื่อมอีกทางหนึ่ง”ครูเดฟ ฝากปิดท้าย
    ครูเดฟ ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ตาราง 9 ช่องถือได้ว่าเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่นำมาใช้กับเด็กในการสร้างวินัยในตนเอง จากนั้นเด็กก็จะได้รับความแข็งแรงของร่างกาย พร้อมทั้งสมองจะได้รับการพัฒนาทั้งสองข้างไปพร้อมๆ เพราะหากสมองพัฒนาแต่ไอคิว อย่างเดียวเด็กจะ เครียดง่าย จึงมีข่าวเด็กฆ่าตัวตายเกิดขึ้นเพราะเขาตัดสินใจอะไรไม่ได้ และหากสมองส่วนของอีคิวได้พัฒนาควบคู่ไปด้วยจะทำให้เขารู้จักการแก้ปัญหา การตัดสินใจที่ถูกต้อง ไม่เครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น จะรู้จักจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้
    ขอขอบคุณสาระดีดี..จาก
    ++ และที่นี่ดอทคอม++
     
     
     
    แอโรบิก ตาราง 9 ช่อง ออกกำลังกาย...เพิ่มพูนสมาธิ
    ภายในงานมหกรรมกีฬามหามงคลที่จัดขึ้นโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรุงเทพมหานคร เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษา 80 พรรษานั้น มีรูปแบบการออกกำลังกายที่น่าสนใจมานำเสนอมากมาย

    หนึ่งในนั้นก็คือ “แอโรบิก ตาราง 9 ช่อง” ซึ่งแม้หลายคนอาจไม่คุ้นหูกับชื่อนัก แต่ต้องบอกว่า เป็นกีฬาที่น่าสนใจที่สามารถเรียกเหงื่อและได้ประโยชน์กับทุกส่วนไม่ว่าจะเป็น ร่างกาย จิตใจ ระบบประสาท และสามารถช่วยพัฒนาทักษะรอบด้าน ให้กับผู้ที่ออกกำลัง ไม่แพ้กีฬาประเภทอื่นๆ ทีเดียว ที่สำคัญคือ เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยและสามารถเล่นเองได้ที่บ้านได้
    แอโรบิก ตาราง 9 ช่อง ออกกำลังกาย...เพิ่มพูนสมาธิ
    ภายในงานมหกรรมกีฬามหามงคลที่จัดขึ้นโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรุงเทพมหานคร เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษา 80 พรรษานั้น มีรูปแบบการออกกำลังกายที่น่าสนใจมานำเสนอมากมาย

    หนึ่งในนั้นก็คือ “แอโรบิก ตาราง 9 ช่อง” ซึ่งแม้หลายคนอาจไม่คุ้นหูกับชื่อนัก แต่ต้องบอกว่า เป็นกีฬาที่น่าสนใจที่สามารถเรียกเหงื่อและได้ประโยชน์กับทุกส่วนไม่ว่าจะเป็น ร่างกาย จิตใจ ระบบประสาท และสามารถช่วยพัฒนาทักษะรอบด้าน ให้กับผู้ที่ออกกำลัง ไม่แพ้กีฬาประเภทอื่นๆ ทีเดียว ที่สำคัญคือ เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยและสามารถเล่นเองได้ที่บ้านได้

    อาจารย์สมพงษ์ วัฒนาโภคยกิจ จากโรงเรียนอนุบาลจังหวัดเพชรบุรี เล่าว่า ที่โรงเรียนจะมีการเต้นแอโรบิก ตาราง 9 ช่องกันทั้งโรงเรียนในวันจันทร์ วันพุธและวันศุกร์ ตั้งแต่เวลาบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 โมงครึ่ง โดยทางโรงเรียนทำกิจกรรมอย่างนี้มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 จนถึงทุกวันนี้ก็ประมาณ 5 ปีแล้ว

    “การเต้นแอโรบิกตาราง 9 ช่อง ทำให้เด็กเกิดความจำ ทำให้เก่งในด้านของการเรียนโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ที่ผมสอนอยู่ เด็กจะสามารถจำ และเข้าใจได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วทำให้เด็กมีความคล่องแคล่ว ว่องไว และมีรูปร่างที่ได้สัดส่วน มีการเจริญเติบโตได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้เล่นกีฬาถึง 10 เซนติเมตร และโรงเรียนของเรายังมีการแข่งขันแอโรบิก ตาราง 9 ช่องภายในโรงเรียนอีกด้วย”



    มาถึงน้องๆ คนเก่งที่มาโชว์ลีลาการเต้นแอโรบิก ตาราง 9 ช่อง ในวันนี้กันบ้างเริ่มที่ ด.ญ.มินตรา พจนมณี อายุ 12 ปี จากชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

    “ทางโรงเรียนจะมีการฝึกกีฬาประเภทนี้ให้กับทุก ๆ คนในโรงเรียนค่ะ การเต้นแอโรบิก ตาราง 9 ช่องนี้สามารถช่วยให้เรามีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง คิดเลขได้เร็วขึ้น มีความจำที่ดีและยังช่วยให้พวกเรามีสมาธิมากขึ้นอีกด้วยค่ะ ก็อยากให้เพื่อน ๆ หันมาสนใจกีฬาประเภทนี้ เพราะนอกจากจะเป็นกีฬาใหม่แล้วยังสามารถช่วยเสริมสร้างทักษะทั้งทางด้านร่างกาย และสติปัญญาอีกด้วยค่ะ”

    ส่วน น้องแพท - ด.ญ. ศุภนุช นงนุช อายุ 12 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บอกว่า “กีฬาแอโรบิก ตาราง 9 ช่อง เป็นกีฬาที่ดี ง่าย และสามารถออกกำลังกายได้ด้วยตัวเองค่ะ เพียงแค่เราตีตารางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 9 ช่อง แล้วก้าวเท้าสลับไปมาในแต่ละช่อง ถ้าเริ่มชำนาญแล้วก็อาจประกอบท่าทางเพิ่มเติม กีฬานี้ทำให้มีสมาธิมากขึ้น มีความจำที่ดีและยังทำให้เรียนเก่งขึ้นด้วยค่ะ เมื่อก่อนน้องแพทไม่ค่อยแข็งแรง ไม่สบายบ่อย ๆ แต่พอมาเล่นกีฬาแอโรบิก ตาราง 9 ช่องทำให้ร่างกายของน้องแพทแข็งแรงขึ้น อาการไม่สบายก็ค่อย ๆ หายไปค่ะ จึงอยากจะชวนให้เพื่อนๆ ทุกคนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และแอโรบิก ตาราง 9 ช่องนี้ ก็สามารถช่วยให้เพื่อน ๆ มีความจำ มีสมองที่พัฒนาและเรียนเก่งขึ้นด้วยค่ะ”

    ...ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า ประโยชน์ของ “แอโรบิก ตาราง 9 ช่อง” มีมากมายจริง ๆ เพราะนอกจากจะช่วยทางด้านร่างกายที่แข็งแรงแล้ว น้อง ๆ จากโรงเรียนอนุบาลจังหวัดเพชรบุรีก็ยืนยันอีกด้วยว่าช่วยให้มีความสมาธิ ความจำที่ดี เพราะทุกครั้งที่เต้นแอโรบิก ตาราง 9 ช่อง นอกจากจังหวะแล้ว เท้าและสมองจะต้องสอดคล้องกันเป็นอย่างดี จึงทำให้น้อง ๆ มีสมองที่พัฒนามากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้ว กีฬาที่ง่าย และมีประโยชน์รอบด้านอย่างนี้ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่เยาวชนและคนทุกเพศทุกวัยจะได้ลองนำไปปฏิบัติกัน
    แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
    โพสต์เมื่อ : 2007-05-15
     
       
     
     
    home / blog / pdrelax / 166519
    pa_daeng
    รับราชการ

    ศูนย์พัฒนาคุณภาพความคิดและจิตใจ
    อ่าน: 1540
    ความเห็น:
    20

    สักวันหนึ่งเราต้องแข็งแรงด้วยตาราง 9 ช่องและยางยืด

    ยางยืด เป็นอุปกรณ์ช่วยในการยืดคลายกล้ามเนื้อ ที่อาจารย์เจริญ กระบวนรัตน์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ประสบความสำเร็จในการนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหา การติดของข้อต่างๆ
             ยางยืด เป็นอุปกรณ์ช่วยในการยืดคลายกล้ามเนื้อ ที่อาจารย์เจริญ กระบวนรัตน์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ประสบความสำเร็จในการนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหา การติดของข้อต่างๆ และที่สำคัญ ทีมเบาหวาน
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×