ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยายสไตล์ลาเวนเดอร์

    ลำดับตอนที่ #2 : (Sent) ตะลุยดินแดนต่างมิติ ภาค 1 "การรุกรานของคาออส" -- เทพแห่งท้องฟ้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 98
      4
      23 ก.ค. 61



    เรื่อง :: ตะลุยดินแดนต่างมิติ ภาค 1 "การรุกรานของคาออส"


    นามปากกา :: เทพแห่งท้องฟ้า

    ลิงก์ :: https://my.dek-d.com/5610326/writer/view.php?id=1449385




    เอาล่ะค่ะ ต่อไปจะเริ่มบทวิจารณ์แล้วนะคะ  ~




    ด้านการบรรยาย/การเล่าเรื่อง

    การบรรยายในที่นี้รวมไปถึงการใช้คำต่าง ๆ ด้วย เห็นผู้เขียนบอกว่าต้องการให้เราเน้นตรงจุดนี้ เพราะฉะนั้นพาร์ทนี้จะละเอียดเป็นพิเศษเลยนะคะ


    เรื่องเริ่มต้นมาที่เด็กหนุ่มผู้หนึ่งตื่นขึ้นมาตามด้วยการบรรยายรูปพรรณสัณฐานไปตลอดจนเสื้อผ้าที่สวมใส่อีกสองประโยคกว่าจะกลับมาต่อว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ทำอะไรต่อ 


    คือการบรรยายลักษณะตัวละครไม่จำเป็นต้องละเอียดขนาดนี้ก็ได้น่ะค่ะ แล้วไม่จำเป็นต้องใส่มาพร้อมกันก็ได้ เราสามารถแยกการบรรยายตัวละครและเสื้อผ้าหน้าผมแทรกไปในหลาย ๆ ฉากได้ ตัวอย่างเช่น ตอนแรกอาจบอกแค่ว่าเด็กหนุ่มสีผมสีตาอะไร แล้วการบรรยายส่วนอื่นค่อยไปแทรกในฉากอื่น อาจเป็นฉากที่พระเอกประหม่าแล้วลูบคลำตัวเองค่อยบรรยายเสื้อผ้า หรือเรื่องหน้าตาอ่อนหวานไปแทรกในฉากที่คุยกับท่านเทพก็ได้


    และประโยคบางประโยค เว้นวรรคได้ก็ดีนะคะ เขียนติดกันเป็นพรืดแล้วมันอ่านลำบาก เช่น




    ต่อมาพระเอกก็ได้เจอกับท่านเทพอามาเทระสึ 


    บทสนทนารวมทั้งการบรรยายฉากที่คุยกับท่านเทพให้ความรู้สึกค่อนข้างแปลกเล็กน้อย โดยเฉพาะการใช้ -- มากจนเกินไป บางทีอาจเปลี่ยนมาใช้ ... บ้างก็ได้ และในบางฉากไม่จำเป็นต้องใช้ -- เสียด้วยซ้ำ เช่น 



    สีแดงคือไม่จำเป็นต้องใช้ สีเขียวคือน่าจะเปลี่ยนเป็น "..." มากกว่า 


    ถ้าลองอ่านทวนอีกครั้ง จะเห็นได้ว่า การตัด -- ที่เรากาออกไป ไม่ได้ทำให้รูปประโยคหรืออารมณ์ของเรื่องเปลี่ยนไปเลย


    //ขอแก้ให้เฉพาะฉากนี้นะคะ ส่วนฉากอื่น ๆ ที่ใช้ -- มากเกินกว่าเหตุขออนุญาตให้กลับไปพิจารณาและแก้เองนะ ไม่งั้นบทวิจารณ์คงไม่ได้ไปต่อแน่ 5555555




    (จริง ๆ เรื่องคำผิดไม่ค่อยอยากแก้เท่าไหร่ แต่อันนี้ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ ค่ะ


    "วงเวท" สะกดเช่นนี้ค่ะ


    'เวทย์' แปลว่าควรรู้ พึงรู้ 

    เวท แปลว่าถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์


    เพราะฉะนั้น "วงเวท" ต้องเขียนแบบนี้ ถ้าเป็นวงเวทย์จะกลายเป็นวงความรู้ อันได้แก่จดเลคเชอร์เป็นวงกลมไป...)




    แล้วบทสนทนา ไม่จำเป็นต้องเคาะขึ้นบรรทัดใหม่เสียทุกครั้งก็ได้ค่ะ พอเคาะขึ้นบรรทัดใหม่บ่อย ๆ แล้วมันให้ฟีลเหมือนกำลังอ่านบทละครอยู่น่ะ ถ้าเป็นการบรรยายที่เกี่ยวเนื่องกับประโยคคำพูด ก็สามารถนำมาเขียนต่อกันได้เลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่นฉากนี้




    สามารถเขียนเป็น 

    ซุบารุดึงตัวกลับมาตั้งตรงเหมือนเดิมพร้อมกับสะบัดหัวเพื่อเรียกสติกลับมา แล้วถามกลับไปว่า "ท่านครับ... ถ้าที่นี่ไม่ใช่สวรรค์แล้วมันคือที่ไหนเหรอครับ"


    (อ้า ขอแทรกเล็กน้อย หากเป็นประโยคที่มีคำที่ใช้แทนคำถามอยู่แล้ว เช่น เหรอ ที่ไหน อย่างไร ใคร ไม่จำเป็นใส่ ? นะคะ)


    ท่านกางแขนออกมาทั้งสองข้างก่อนที่จะตอบไปว่า "ที่นี่ คือภพภูมิที่อยู่เหนือกว่าสวรรค์...."




    และจากบทสนทนากับท่านเทพ เราชักสงสัยว่านิยายเรื่องนี้เป็น pov 3 หรือ pov 1 กันแน่ เพราะหลายประโยคมันคือ pov 1 ชัด ๆ เลยค่ะ แต่การบรรยายที่อื่นกลับเป็น pov 3 เช่นตรงนี้ 




    (1)

    "ทำหน้างอนตุ๊บป่องเลยนะ" มันกลายเป็นการบรรยายในรูปแบบความคิดของพระเอก ซึ่งเป็นลักษณะของ pov 1 ไป หากเป็น pov 3 ประโยคควรเป็น

    "ซุบารุลอบยิ้มเมื่อเห็นท่านเทพทำหน้างอนตุ๊บป่อง"

    หรือ

    "ท่านเทพพูดเสร็จก็ทำหน้างอนตุ๊บป่อง"



    (2)

    "ใครกัน ที่เป็นบุคคลที่แม้แต่ท่านอามาเตระสึยังต้องเรียกท่าน--"

    นี่ก็กลายเป็น pov 1 ไปแล้วเช่นกัน ถ้าจะทำให้เป็น pov 3 อย่างที่ควร น่าจะลองเขียนเป็น 

    "ซุบารุได้ยินเช่นนั้นก็แปลกใจ/ตกตะลึง/สงสัย ใครกันที่เป็นบุคคลที่แม้แต่ท่านอามาเตระสึยังต้องเรียกท่าน" 




    (ส่วนเรื่อง "ๆ" จริง ๆ แล้วตามที่ราชบัณฑิตกำหนด (และใช้ในเอกสารราชการ) ต้องเว้นวรรคหน้าหลังระหว่างเครื่องหมาย ๆ แต่เนื่องจากเวลาพิมพ์มันอาจทำให้บรรทัดตกไป หลายที่จึงอนุโลมให้วรรคแค่ด้านหลังก็พอ เช่น 'ฉันรู้สึกงงจริงๆ ว่าเธอทำไปเพื่ออะไร' เป็นต้น


    นอกจาก ๆ แล้ว () กับ [] ก็ต้องเว้นวรรคหน้าหลังนะคะ เช่น ข้ามีนามว่า [อามาเทระสึ] เป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์)





    อะ กลับมาต่อ ท่านผู้นั้นก็ได้เหาะลงมาหาซุบารุและท่านเทพอามะ (เรียกสั้น ๆ) ขัดใจการบรรยายที่มี () ตามหลังพอสมควรค่ะ ตรงเสื้อเกราะ... ลวดลายสีฟ้าเกือบทั้งตัว (ยกเว้นหัว) ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมี () ก็ได้กระมังคะ มันดูแปลก ๆ และทำให้เยิ่นเย้อโดยใช้เหตุ


    ต่อมา ท่านอาพีเรียลก็แสดงโลก Multiverse ให้ซุบารุได้เห็น ตรงนี้เราว่าควรเน้นการบรรยายมากกว่าแปะภาพนะคะ เพราะนี่คือนิยายมิใช่หนังหรือ art book ดังนั้นนักเขียนต้องใช้ทักษะในการเขียนบรรยายเพื่อให้คนอ่านเห็นภาพตาม ไม่ใช่เอารูปมาแปะเหมือนจะบอกว่า "ดูเอาเองละกันว่าเป็นยังไง" 




    สรุปท่านอาพีเรียลจะส่งพระเอกไปที่โลกแห่งมนตรา และต่อมาบทสนทนาที่ตอนแรกก็คล้ายบทละครอยู่แล้ว ก็ได้เปลี่ยนเป็นบทละครโดยสมบูรณ์...




    นี่อะค่ะ ไม่ว่ามองมุมไหนมันก็คือบทละครรรรรรรร เพียงแค่เอาชื่อคนพูดไว้ไว้ด้านหลังเฉย ไม่มีการบรรยายน้ำเสียง อารมณ์ หรือกิริยาท่าทางใด ของผู้พูดเลย (ขนาดบทละครมันยังมีเลยนะคะ!) 




    อันนี้เห็นว่าเป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นเราจะช่วยแก้ให้ดูเป็นนิยายให้ค่ะ


    (ปล. ที่พิมพ์ ... คือขี้เกียจพิมพ์ทั้งประโยคค่ะ)


    "แล้วเธอ... ไม่คิดที่จะหาความสุขใส่ตัวบ้างเหรอ" อามาเทราสึถามด้วยความรู้สึกทึ่งจัดที่เจอเด็กหนุ่มผู้ไม่เห็นแก่ตัวเช่นนี้

    "ผมก็หา..." 

    "เอ๊ะ?"

    "ก็ความสุขที่สุดของผม..."

    คำพูดของเขาไม่มี...

    'ข-- เขาเป็นเด็กแบบไหนกันแน่เนี่ย ไม่มีความเห็นแก่ตัวเลยสักนิดเดียว' อามาเทระสึยิ่งตกใจหนักกว่าเก่าเมื่อได้ยินคำตอบของเด็กหนุ่ม


    (ขอแทรกนิด " " ใช้กับบทสนทนานะคะ ถ้าเป็นความคิดจะไม่ใช่ " " แต่ใช้เป็น ' ' พร้อมตัวเอียงแทน หรือเป็นตัวเอียงเฉย ๆ ก็ได้)


    แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้น 

    "หึ..."

    "เอ๊ะ!?" อามาเทระสึและซุบารุร้องออกมาพร้อมกัน (ร้องเอ๊ะด้วยสาเหตุอะไรอะคะ น่าจะบอกไว้หน่อยนะ จู่ ๆ ร้องเอ๊ะนี่เรางงนะเออ)

    "ฮึ ๆๆๆ เป็นเด็กที่น่าสนใจจริง ๆ ..." ท่านอาพีเรียลแย้มสรวลพร้อมตรัสอย่างเมตตา

    'ท่านอาพีเรียล... ทรงพระสรวลงั้นเหรอ' เทพีได้แต่สงสัยในใจ 'ถึงขั้นทำให้ท่านอาพีเรียลแย้มสรวลออกมาได้ ต้องเป็นเด็กที่น่าสนใจขนาดไหนนะ'


    จากนั้น ท่านอาพีเรียลก็ลอยเข้ามาใกล้ ๆ ซุบารุ "ถ้าเธอมีความคิดเช่นนั้นละก็..."

    "ผมจะสามารถ..." ซุบารุถามด้วยความรู้สึกตื่นเต้น/ยินดี/คาดหวัง หรือจะเป็นอย่างเลื่อนลอยก็ได้ แล้วแต่อดีตของพระเอกว่าเคยมีปมอะไรกับประโยคนี้หรือเปล่า

    "ถ้าเป็นเธอล่ะก็ จะต้องทำได้แน่นอน" ท่านอาพีเรียลตรัสอย่างหนักแน่น 



    ซุบารุหยุดคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับไปว่า "ถ้างั้น... ผมรับข้อเสนอครับ"


    ที่ให้หยุดคิด เพราะอิงมาจาก -- ของคุณ มันแสดงถึงการหยุดพูดไปครู่หนึ่ง แต่ถ้าตัด -- ออก ประโยคอาจจะเปลี่ยนเป็น


    "ถ้างั้นผมรับข้อเสนอครับ!" ซุบารุตอบกลับไปทันทีโดยไม่มีแม้แต่ความลังเล





    และเราขอเสนอนิดหน่อยนะคะ การเขียนบทสนทนาในบางครั้ง ไม่จำเป็นต้องบอกว่าใครเป็นคนพูดก็ได้ค่ะ หากรูปประโยคหรือเหตุการณ์ที่อธิบายก่อนหน้าได้สื่อออกมาแล้วว่าใครเป็นผู้พูดและผู้ตอบ เช่น




    ประโยคที่สาม "เอ๊ะ?" ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ค่ะว่าใครพูด เพราะมันหากดูจากประโยคก่อนหน้าและตัวคำพูดนี้เอง มันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นคำพูดของเทพี





    ส่วนเรื่องสุดท้ายที่เราจะวิจารณ์สำหรับบทที่ 1 ในส่วนของการบรรยายคือ "คำราชาศัพท์" ค่ะ เห็นว่าคุณใช้คำราชาศัพท์กับท่านอิมพีเรียล แต่หลายคำก็ไม่ได้ใช้หรือใช้ผิด เช่น


    ทรงดีดนิ้ว --> ทรงดีดนิ้วพระหัตถ์



    ทรงหัวเราะ --> ทรงพระสรวล

    ขอบพระคุณ --> ขอบพระทัย

    โบกมือข้างขวา --> โบกพระหัตถ์ขวา




    อยากจะบอกตรง ๆ ว่ากว่าจะวิจารณ์จบบทแรกได้นี่แทบกระอักเลือดเลยค่ะ TT





    ต่อที่บท  2-16 

    เท่าที่อ่านมา มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากบทแรกที่เราได้วิจารณ์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นจะขอวิจารณ์แบบผ่าน ๆ นะคะ


    ที่เพิ่มเติมจากบทหนึ่งคือ

    ไม่จำเป็นต้องเอาคำอธิบายแทรกในเนื้อเรื่องค่ะ 

    และอย่างที่บอก ประโยคความคิดแบบสากลคือ ' ' ตัวเอียง



    และอย่าใส่ความคิดของคนเขียนลงไปในนิยายค่ะ เช่น 



    มันไม่ใช่อะะะะะะ มันตลกแถมขออภัยที่พูดตรง ๆว่าน่ารำคาญ ทำให้เวลาอ่านรู้สึกสะดุดด้วย




    และที่สำคัญมากถึงมากที่สุด ควรฝึกทักษะการบรรยายลักษณะของสิ่งของ, ผู้คน และสัตว์ต่าง ๆ นะคะ เพราะมันไม่ใช่ art book ที่จะเอาภาพมาแปะให้คนอ่าน มันคือนิยายค่ะ ต้องเขียนอธิบายออกมาให้คนนึกภาพตามได้ แบบนี้เรียกมักง่ายค่ะ 




    ข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ควรใส่มาโดด ๆ ในนิยายแบบนี้นะคะ มันให้ความรู้สึกเหมือนอ่านโพสต์อิทที่จู่ ๆ ก็มาแปะกลางหน้ากระดาษอะแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอะ






    มันมีหลายวิธีแทรกไปกับบทบรรยายหรือบทสนทนาในเนื้อเรื่องนะคะ เช่น ให้ลูกถามพ่อตอบ หรือลูกเคยอ่านเจอมาในหนังสือ พอเห็นเลย อ้อ ........ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ทำนองนี้ก็ได้




    อ้า แล้วอีกเรื่องคือพวกเสียงตู้มต้าม เฟี้ยวฟ้าว วิ้งงงง เนี่ย ไม่ต้องมีมากก็ได้ค่ะ มันดูประหลาดอะ เสียง effect ควรมีบ้างตามโอกาสที่เหมาะสม ไม่ใช่ใส่มาเสียเยอะจนอ่านแล้วสะดุ้ง




    พาร์ทการบรรยายคงต้องจบเพียงเท่านี้ก่อน ไปต่อที่พาร์ทความสมเหตุสมผลกัน






    ความสมเหตุสมผล

    ไม่มีอะไรจะติเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะมันดีมากจนหาข้อติไม่ได้นะ แต่มันไม่รู้จะเอาฉากไหน ประโยคไหน สถาการณ์ไหนมาติเลยค่ะ คือคุณเขียนมาซะเป็น dialogue ละครแบบนี้แล้วเราจะไปเอาฉากจากไหนมาวิจารณณณณณณณ์ (นี่ตอนอ่านแล้วพยายามวิเคราะห์นี่แทบจะทึ้งหัวตัวเองอยู่แล้วนะะะะ ฮือออออ) แถมเรื่องยังดำเนินไปเร็วมากกก แบบตัดฉากปุ๊บปั๊บ ยังไม่ทันจะได้เข้าใจอะไรเลย เช่น ฉากที่ 1 มี 2 ย่อหน้าสั้น ๆ (หรือประโยค dialogue ที่ลอยมาแบบจับต้นชนปลายไม่ถูก เหมือนมีห้องสีขาวแล้วก็มีเสียงคนสลับกันพูดอะ คือมันจินตนาการอะไรไม่ออกจริง ๆ ) แล้วก็ตัดไปฉากที่ 2 ฉากที่ 3 เลย ใจเย็นก่อนเถิดท่าน 


    ส่วนเรื่องตัวละคร เรายังไม่เห็นฉากไหนที่ซุบารุ (aka ไซกะ) เป็นคนดี ไม่เห็นแก่ตัว ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างที่บอกไว้ในบทแรกเลยนะคะ ก็เป็นคนปกติทั่วไป


    อ่า เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะติดีหรือเปล่า แต่ครอบครัวไซกะเป็นมนุษย์ใช่ไหมคะ เอาตามจริงแล้ว ในโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์มากมายที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ การที่ครอบครัวมนุษย์จะขึ้นเป็น 1 ในมหาอำนาจหลักนี่ยากมากกกกกกกกกเลยนะคะ แถมคุณพ่อคุณปู่คุณย่ายังเป็นยอดฝีมือระดับ top 10 อีก… มันดูแปลก ๆ น่ะค่ะ





    สรุป 


    1ฝึกการบรรยายให้มาก ๆ ภาพเอามาเป็น reference ได้แต่ไม่ควรนำมาแปะในนิยาย เพราะมันไม่ใช่ photo book

    2. ลองอ่านงานเขียนแบบมีคุณภาพของคนอื่นดูว่า มีวิธีการแทรกข้อมูลในนิยายได้อย่างไรโดยไม่ต้องเอามาแปะโดดๆ 

    3. ฝึกการเขียนบทสนทนาใหลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มีอารมณ์/ท่าทางของตัวละคร ไม่ให้เป็น dialogue บทละคร

    4. ลด ละ เลิก การใช้ --

    5. งดการแทรกความเห็นของผู้เขียนในนิยาย

    6.คำผิดบานเลยค่ะ แต่อย่างที่บอก เราไม่รับแก้ทำผิดให้ยกเว้นจะขัดใจมากจริง ๆ (เช่นเวทย์มนต์ ต้องสะกดว่า "เวทมนตร์" นะคะ)

    7. ลดการใช้ sound effect ที่ไม่จำเป็น




    ส่วนเรื่องวิจารณ์ไอเดียที่ขอมา คงต้องขอข้ามนะคะ ขออภัยด้วย เพราะตามหลักของเราแล้ว จะไม่วิจารณ์พลอตหรือไอเดียค่ะ 




    **การวิจารณ์ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่มาใช้บริการร้านของเรา และขอลาก่อนค่ะ ^^**




    ____________________________________________________________




    แบบฟอร์มรับคำวิจารณ์


    ชื่อเรื่อง :: 

    นามปากกา ::

    วันที่รับ ::

    อ่านคำวิจารณ์แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ :: 

    มีอะไรจะบอกกับเราไหมคะ บอกได้ เราใจดี~ ::



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×