ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    behave a good boy ? : จะให้กูเป็นเด็กดี? (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1 : คนคุมความประพฤติ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 53


    behave a good boy ?
    Chapter 1 : คนคุมความประพฤติ

     

     

     

     

     

    สวัสดีค่ะ  อีเตี้ยเสียงดัดจริต  ยียวนกวนตีนขนาดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอีตุ๊ดเพื่อนรัก

    สวัสดีครับ  อีตุ๊ดมึงทักกูมายังไงกูก็ทักมึงอย่างงั้นแหละ

    ล้อเลียนเหรออีเตี้ยโรงเกลือ

    กูเปล่าเหอะ  เห็นมึงเกิดอาการอยากทักทายแบบสุภาพชนกูก็เลยจัดไง

    หุปปากเถอะเตี้ย!  แล้วมึงทำเลขมารึยัง

    ขี้เกียจ...เหอะๆ  ตอบง่ายๆแบบนี้เลยนะกู

    ไอ้ทริคคคคคคคคคคคคค!”เสียงแหลมปรี๊ดแบบไม่แคร์สื่อของไอ้เงาะหน้าขน(?)หนึ่งในชายที่เหลืออยู่สองคนของห้องผมดังขึ้น

    มีเชี่ยไรวะ

    มึงไปมีเรื่องอีกป่ะวะไอ้เงาะพูดไปหอบไป  แม่งไปฟัดกับหมามาเหรอวะ

    เท่าที่จำได้  ช่วงนี้ไม่...

    แน่ใจเหรอวะ

    อื้อ

    งั้นวันนี้เรื่องก็มีแล้วล่ะมึง

    วิชชุอยู่มั๊ย?พอจบเสียงไอ้เงาะปุ๊บก็มีเสียงของอีกคนดังขึ้นมาเรียกให้คนทั้งห้องต้องหันไปมอง

    อยู่นี่...ผมตอบเสียงเบา  แม่งเดินมาแบบโคตรหาเรื่อง  แล้วเสือกมากันทั้งโคตรอีกตะหาก

    มานี่...

    วีมาทำอะไรเนี่ย?เสียงใสๆของผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

    เอ่อ  พอดีเรามาทำธุระให้อาจารย์นิดหน่อยน่ะ

    ธุระอะไรเหรอ?  วีให้เราช่วยมั๊ย

    ไม่เป็นไร  เราไม่อยากรบกวนเจี๊ยบ

    วิชชุเรามีเรื่องต้องคุยกับแก

    หือ?ผมได้แต่งง  เพราะอยู่ดีๆแม่งเดินมาคุยกับสาว  แล้วไหงมันกลับมาหากูได้วะ

    ผมเลยตัดสินใจเดินตามมันไปช้าๆ  ไม่อยากมีเรื่อง  เพราะแม่งเดี๋ยวมีงานเข้ามันไม่ได้มาคนเดียว  ต่อให้ผมเทพแค่ไหนก็คงโดนสอยได้ง่ายๆ  อีกอย่างมันบอกว่าทำธุระให้อาจารย์บางทีอาจจะแค่เรียกผมไปคุยกับอาจารย์อะไรสักคนก็ได้มั้ง

    วีจะเรียกวิชชุไปทำไมน่ะ...ผมแอบได้ยินเสียงเจี๊ยบไล่หลังมาเบาๆ  เหมือนไม่พอใจ  เจี๊ยบคงไม่พอใจที่แฟนตัวเองมาหาคนที่ตัวเองไม่ชอบมั้ง  จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้อะไรกับเจี๊ยบเลยนะ  แต่ดูเหมือนว่าเจี๊ยบจะไม่ชอบผมอย่างแรง

     

     

     

    เราชื่อ ณัฐวีร์  เรียกว่าวีก็ได้แล้วนายล่ะหลังจากที่ผมเดินตามมันมาจนถึงหลังโรงเรียนมันก็เริ่มเปิดปากพูด

    เอ่อ...หวัดดี  กูชื่อทริคผมพูดก่อนจะฉีกยิ้มให้มัน  มาดี  กูก็ตอบดี

    รู้เรื่องที่อาจารย์ขจรศรีจะให้เรามาคุมความประพฤติแกแล้วใช่มั๊ยอ่า...คือ  แม่งคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนวะ

    อ่า...รู้

    งั้นก็ดี  อาจารย์บอกว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ห้ามมีเรื่องโดยเด็ดขาด  หมายความว่านอกโรงเรียนก็เหมือนกัน  เพราะฉะนั้น  ไม่ว่าจะในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียนเราก็จะต้องคอยคุมความประพฤติของแกตลอด  เข้าใจมั๊ย

    เอ่อ...อื้อผมตอบรับแบบส่งๆ  เพราะตลอดที่มันร่ายยาวมาทั้งหมดสมองผมมันจับใจความได้แค่  มันจะคุมความประพฤติผม  แค่นั้นแหละ

    งั้นในห้องตั้งใจเรียนด้วย  เพราะอาจารย์บอกให้ช่วยอัพคะแนนแกขึ้น  ตอนเที่ยงจะพาไปกินข้าว

    กูไม่ใช่เด็กนะเว้ยจะต้องให้มึงมาพาไปกินข้าวน่ะ...เฮ้ย!”แต่ดูเหมือนจะช้าไปแล้ว  เพราะแม่งพูดจบก็เดินหนีไปเลย  นี่ใจคอมึงกะไม่ให้กูได้ผุดได้เกิดกันเลยช่ะ  ชิชะ!

     

     

     

    เฮ้ย! เชี่ยตุ๊ด  ทำไมมึงเก็บของช้าจังวะ!”ผมรีบเร่งไอ้ตุ๊ดที่แม่งไม่รู้ว่าจะเก็บของช้าไปไหน  เฮ้ยเร็วๆดิ  กูรีบ  ผมกวาดสายตาไปทางประตูห้องเรียนตลอดเวลา  ไม่รู้ว่ามันจะโผล่มาเมื่อไหร่

    รีบไปไหนคะ  อีเตี้ยไอ้บรูซพูดแต่มือมันก็ยังเก็บของแบบเร่งรีบ  คือจริงๆแล้วมันก็แขวะผมไปงั้นแหละ  จริงๆแล้วมันก็ทำตามที่ผมเร่งนั่นแหละ

    เดี๋ยวคนแม่งเยอะ  แถวยาวแม่งอึดอัดผมบ่น  โรงเรียนผมนะ  พอถึงเวลาพักเที่ยงทีไรแม่งคนอย่างกับหนอน  ตึกใหม่มันก็ใช่จะเล็กๆ  อย่างกับโรงบาลคนยังล้นเลย

    อึดอัด  หรือคนข้างหน้าสูงบังทัศนวิสัยยะ

    หูยแรง...กูหิวเว้ยอีนี่แม่งแรงตลอดอ่ะ

    กูก็หิวเหมือนกันแหละ

    กูว่ามึงไม่...

    มุกอะไรของมึงวะเตี้ย

    ก็มึงไม่กินข้าวช่ะ

    แล้วมึงจะให้กูกินอะไรวะ?

    บรูซซี่กินปู้จาย~”ผมพูดก่อนจะรีบโกยออกจากห้องทันที  เพราะว่าเมื่อกี้ตุ๊ดเก็บของเสร็จแล้ว  เดี๋ยวแม่งได้วิ่งไล่กระทืบผมแบนกันพอดี  เดี๋ยวความสูงน้อยกว่าเดิม...

    ปึก!

    โอ๊ย!”แต่ขณะที่ผมกำลังวิ่งหนีตุ๊ดอย่างเมามันส์(?)อยู่นั้น  ก็รู้สึกว่าชนเข้ากับอะไรแข็งๆทำให้ผมหงายตึง  ก้นจ้ำเบ้าอย่างน่าอนาถใจเป็นที่สุด

    เดินเชี่ยไรวะ!”ขอให้กูได้ด่าเหอะ!

    แกนั่นแหละวิ่งบนทางเดินทำไม  รู้มั๊ยว่าเขาห้ามวิ่งบนทางเดินเอ๊ะไอ้นี่!

    เรื่องของกู...ผมเอ่ยก่อนจะเงยหน้ามองไอ้คนที่แม่งเดินมาชนผม(?)

    ทำไมไม่รอในห้อง

    แล้วทำไมกูต้องรอมึง

    เพราะเราเป็นคนคุมความประพฤติทริคไง...หูย...ไอ้นี่แม่งเล่นจุดอ่อน

    อีเตี๊ยยยยย!!!”เอ้าเอาเข้าไป  ยังไม่ทันได้หนีเสือ  จระเข้กระเทยก็มา  เจริญเลยไอ้ทริค

    อุ๊ยตาย!  มีเพื่อนหล่อก็ไม่บอกบรูซพูดพร้อมกับทำสายตาวิบวับมองวีตั้งแต่หัวจรดเท้า  เสียใจด้วยว่ะไอ้วี  การเป็นเป้าหมายของไอ้ตุ๊ดนี่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เลย

    สวัสดี  เราชื่อวี  ยินดีที่ได้รู้จัก เธอชื่อบรูซ  สินะหืม?  เข้าใจหาสรรพนามเอาใจตุ๊ดเนอะมึง

    สวัสดีจ้า  ยินดีที่ได้รู้จักวีนะ  แล้วมีอะไรกับไอ้เตี๊ย  เอ้ย!  ทริคเหรอแหมแอ๊บแบ๊วเชียวนะมึง  แล้วเมื่อกี้ล่ะเปลี่ยนสรรพนามกูเชียว  เฟคเป็นคนดีจนหน้าตบเชียว

    ไม่ต้องมาด่ากูในใจนะเตี้ย...มันหันมาพูดกับผม  ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้กับไอ้วีต่อ  ใช่ซี่!  กูไม่หล่อ(น้อย)เหมือนมันนี่  ความสูงกูก็ไม่ได้สูง(น้อย)เหมือนมันนี่...

    เรายืมตัวเพื่อนเธอหน่อยนะไอ้วีพูดพร้อมกับส่งยิ้มการค้าให้กับบรูซ

    ...หมั่นไส้ว่ะ!

    จ้าๆบรูซพูดยิ้มๆก่อนจะเดินจากไป  ทิ้งผมไว้กับไอ้วีสองคน

    อ่าวเฮ้ย!  กลับมาก่อนดิตุ๊ด! อย่าทิ้งกูดิ!”ผมทำท่าเหมือนจะวิ่งตามบรูซไปแต่ไอ้วีดันคว้าข้อมือผมไว้ก่อน

    ปล่อยกูดิ!  แค่คุมความประพฤติไม่เห็นจะต้องตามติดกูเป็นปลิงแบบนี้เลยว่ะผมโวยวายใส่มัน  หนีมึงไม่พ้น  เพื่อนทิ้ง!  เข้าใจมั๊ยว่ากูเครียด

    เดี๋ยวคลาดสายตาที  ทริคก็ไปก่อเรื่องอีกอ่ะดิ  อาจารย์บอกว่าทริคน่ะจอมก่อเรื่องตัวพ่อ...ดีใจที่ได้เป็นตัวพ่อ...ซะเมื่อไหร่ล่ะ! กูไปก่อเรื่องอะไรเมื่อไหร่มิทราบ  แม่งมีแต่มาหากูทั้งนั้นแหละ

    มาเกาะกูหนึบแบบนี้ไม่กลัวแฟนหึงเหรอ...แม่บอกว่าผู้ชายมักกลัวเมีย  แต่แฟนก็คงใช้ได้  ขู่แม่งซักหน่อยจะได้ไม่ต้องมาหือ  หึหึ(?)

    เจี๊ยบรู้แล้ว  เจี๊ยบไม่ว่าหรอก  สบายใจได้มันพูดพร้อมกับออกแรงดึงผมให้ออกเดินตามมันไป  ผมก็ต้องเดินตามสิครับ  คนอย่างไอ้ทริคทำได้มากกว่านั้นด้วยเรอะ!

     

     

     

    กูกลับบ้านก่อนนะตุ๊ด!”ผมบอกลาบรูซก่อนออดเลิกเรียนจะดังขึ้นด้วยซ้ำ  ไม่อยากเจอไอ้วีมัน  ระหว่างที่ผมรีบเดินผ่านห้องสี่  ผมก็แอบชำเลืองมองมันผ่านกระจกที่ประตูห้องด้วย  เหอะๆ  เด็กเลขไม่เลิกเร็วแบบกูหรอก  มึงไม่ทันกูแน่...

    แล้วผมก็วิ่งออกนอกโรงเรียนด้วยความเร็วสูงเกินบรรยายทันที  วันนี้ตอนนี้กูมีความสุขม๊ากมาก  ฮ่าๆๆ

    ผมเดินอ้อยอิ่งไปเรื่อยๆตามทางเดิน  จริงๆแล้วผมควรกลับบ้าน  แต่ไม่มีทางซะหรอก  คนอย่างไอ้ทริคน่ะ  ไม่มีแวะก่อนกลับบ้านก็ไม่ใช่ไอ้ทริคสิครับ  ผมเลยตัดสินใจเดินทอดน่องไปตามทางใต้รางบีทีเอส  จนเดินเรื่อยๆมาแถวๆเอกมัย

    ...ว่าแต่ทำไมกูเดินไกลจังวะ!

    พอคิดได้ก็เหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเมื่อยโคตรพ่อโคตรแม่  ผมเลยมองซ้ายมองขวาหาที่นั่งก่อนจะไปเจอกับร้านกาแฟเล็กๆตรงหัวมุมถนน  เอานั่นแหละ!  เมื่อได้ที่สิงสถิตไอ้ทริคเลยก้าวฉับๆเข้าไปตากแอร์ทันที

    รับอะไรดีคะ?พอก้าวเข้าไปในร้าน  ยังไม่ทันได้หย่อนตูดเสียงเพราะๆของพี่สาวพนักงานก็เอ่ยทักเสียก่อน

    อืม...

    ผมไล่สายตาไปตามเมนู  มือก็พลิกไปด้วย  ผมไม่เข้าร้านกาแฟที่มีเมนูเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย  ก่อนสายตาของผมจะไปสะดุดเข้ากับเมนูหนึ่ง  และรูปภาพอันแสนน่ากิน

    เอาอันนี้ครับ...ผมพูดพร้อมกับจิ้มไปที่รูปนั้น  พี่พนักงานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินจากไป  โต๊ะที่ผมนั่งมันเป็นโต๊ะที่อยู่ติดกระจกของร้านทำให้ผมสามารถมอเห็นภาพขางนอกได้อย่างชัดเจน  แล้วสายตาผมก็ดันไปสะดุดเข้ากับร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมแสนคุ้นเคย

    ...แพร...

    เธอกำลังเดินเข้ามาในร้าน  สายตาของเธอจ้องมาที่ผมอย่างแปลกใจ  เธอยิ้มให้น้อยๆก่อนจะเดินมาที่โต๊ะของผม

    นั่งด้วยนะผมพยักหน้าน้อยๆ  ในท้องผมรู้สึกว่าแปลกๆซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  แต่รู้สึกอึดอัดที่ต้องมานั่งมองหน้าเธอเหมือนที่เรา เคยทำด้วยกัน

    เรียนเป็นไงบ้างเป็นคำถามที่รู้สึกห่างเหินจนผมแทบใจหาย  ผมยอมรับว่าเรื่องครั้งนั้นผมเป็นคนผิด  แต่ผมก็ไม่ได้อยากทำให้เธอเสียใจ  เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งเลยล่ะ

    ก็ดีอ่ะ...แล้วแพรล่ะแพรกับผมเราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน  แพรอยู่โรงเรียนหญิงล้วนใกล้ๆโรงเรียนผม  เราเคยเจอกันตอนงานโรงเรียนเมื่อสีปีที่แล้ว  แล้วผมก็ชอบเธอ  เราคบกันได้ซักพัก  ผมก็รู้สึกว่าเราเข้ากันไม่ได้  ผมเลยบอกเลิกเธอไป  ตั้งแต่วันที่ผมบอกเลิกเธอเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย  เราเหมือนเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน  จนมาวันนี้ที่ผมได้เจอเธอ

    ก็เรื่อยๆแหละ...แต่ดูเหมือนคะแนนจะตกไปเยอะเลยล่ะ  แล้วนี่ทริคเรียนแผนอะไรอ่ะเธอเอ่ยถามผมด้วยรอยยิ้ม  ดูเหมือนว่าเธอยังพยายามทำตัวให้เป็นปกติเหมือนที่เราเคยเป็น

    เราเรียนเอกภาษาอังกฤษน่ะผมบอก  ก่อนจะยิ้มฝืนๆไปให้  บางทีผมคงต้องขอตัวแยกกับเธอแล้วล่ะ  ไม่งั้นผมคงอึดอัดตาย

    เอ่อ...คือเรามีธุระน่ะ  ต้องขอตัวก่อน  ไว้วันหลังเจอกันนะผมพูดก่อนจะทิ้งเงินไว้บนโต๊ะแล้วตั้งท่าจะลุกออกไป  แต่ข้อมือของผมก็ถูกแพรคว้าไว้ก่อน

    ทริค...แพรยังรักทริคอยู่นะ  เรากลับมาเหมือนเดิมได้มั๊ย  ขอร้องนะทริคเสียงของแพรสั่น  เธอเอ่ยทั้งๆที่ยังไม่ได้มองหน้าผมด้วยซ้ำ  ผมรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่ข้อมือราวกับว่ากลัวผมจะหายไปอย่างนั้น  ไม่ใช่ผมไม่อย่างกลับไปคบกับเธอหรอกนะ  แต่เหตุผลที่ผมเลือกที่จะไม่คบนั้นมันก็ชัดเจนตอนที่บอกเลิกเธอแล้ว  เราเลิกกันมาได้เกือบครึ่งปี  ผมไม่ได้คิดถึงการกลับไปคบกับเธอเลยแม้แต่น้อย  เพราะตอนนั้นผมได้ทำตามที่หัวใจของผมต้องการแล้ว

    ผมแค่ชอบเธอแต่ไม่ได้รัก  การอยู่ด้วยกันไป มันจะเป็นการทำให้เจ็บกันทั้งสองฝ่ายมากกว่า  ผมยังพร้อมที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเสมอ

    ขอโทษนะแพร  คำตอบเราก็เหมือนตอนนั้นแหละผมพูออกไปก่อนจะค่อยๆ  แกะมือของแพรออกแผ่วเบาแล้วเดินออกมาจากร้านทันที

     

     

     

    ผมเดินโต๋เต๋ไปเรื่อยๆ  ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มาก  รู้สึกว่าตัวเองได้ทำร้ายแพรเยอะเหลือเกิน  ตลอดเวลาที่เราคบกัน  แพรดีกับผมมาก  เธอช่วยแม้กระทั่งเรื่องเรียนของผม  เธอไม่เคยโวยวายหรือว่าเรียกร้องความสนใจจากผมเลยแม้แต่น้อย

    ทั้งๆที่ผมเป็นคนจีบเธอ  แต่ผมก็เป็นคนบอกเลิกเธอเช่นกัน  ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเล่นตลกกับความรู้สึกของแพรเลยแฮะ

    ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะต้องเบิกตากว้าง  นี่ผมเดินมานานขนาดนี้เลยเหรอ  ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลากว่าหกโมงครึ่งแล้ว!  ผมเลยตัดสินใจเดินจ้ำๆกลับบ้านทันที  เพราระตอนนี้ผมก็เดินมาจนเกือบจะถึงบ้านแล้ว

    ในระหว่างที่ผมกำลังเดินรีบๆกลับบ้านอยู่นั้น  ดวงตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง  นั่นมัน...

     

     

     

    ไอ้วี!!!!

    และที่สำคัญมันกำลังเดินเข้าไปในผับแห่งหนึ่งทั้งๆที่ใส่ชุดนักเรียน!

    ผมเลยตัดสินใจเดินตามมันเข้าไปทันที  สองหัวดีกว่าหัวเดียววะ  เอาไงเอากัน  ขนาดเด็กเรียนอย่างมึงยังเข้าได้  เด็กไม่เรียนอย่างกูก็เข้าได้เหมือนกันเว้ย!

    ผมเดินอาดๆเข้าไปผ่านการ์ดสองคนที่ยืนอยู่  พวกเขาแค่ชายตามองผมเท่านั้น  แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้เข้า  อีกสองเดือนกูก็สิบแปดแล้วเว้ย!

    ภายในมีแต่ความมืด  แสงสีมากมายวิบวับไปมาจนน่าปวดหัว  เพลงเปิดดังกระหึ่ม  ไม่เน้นให้ฟังรู้เรื่องผมว่ามันเน้นเบสมากกว่า  แล้วยังไอ้กลิ่นเหม็นๆชวนวิงเวียนแบบนั้นอีก  ผมรู้สึกเหมือนเมาๆ  แต่ก็ต้องตั้งสติให้ได้  เพราะผมมานี่  ก็เพื่อมาดูให้รู้ว่าไอ้วีมาทำอะไร! ผมไม่ได้เสือกนะ  แค่อยากรู้ว่าเด็กเรียนอย่างมันมาทำอะไรในที่แบบนี้  ขนาดเด็กไม่เรียนอย่างกูยังเคยเข้าที่แบบนี้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเว้ย!

    ผมกระชับจาคอบที่หนีบไว้ให้แน่นขึ้นก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปเพื่อหาที่นั่ง  ตลอดทางที่ผมเดินผ่าน  ผู้คนต่างหนมามองผม  อาจเป็นเพราะผมอยู่ในชุดนักเรียนแถมยังดูตัวเล็ก(ไม่อยากพูดถึงเลย)เกินกว่าจะอายุสิบแปดละมั้ง  อ้อ  อีกอย่างคงเป็นเครื่องหมายโรงเรียนที่ติดอยู่ที่อกเสื้อของผมก็ด้วยล่ะ  โรงเรียนผมดังนะเออ(ในหลายๆความหมาย)

    ผมเดินมาจนด้านในสุด  ก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วแต่ไม่ว่าจะพยายามมองหายังไงก็ไม่เจอที่นั่ง  และที่สำคัญ...

    ไม่เจอไอ้วี!!!

    ชาติที่แล้วมึงเกิดเป็นนินจาเหรอวะ  แม่งหายหัวไปไหนแล้วเนี่ย  ผมได้แต่หันซ้ายทีขวาที  อย่างไม่รู้จะทำไง  แล้วกูเข้ามาทำไมวะ  ถ้าหามึงไม่เจอเนี่ย

    หาอะไรอยู่เหรอครับน้องชายในระหว่างที่ผมกำลังมึน  ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง  พบกับผู้ชายหน้าตาพอใช้  ท่าทางกระเป๋าหนัก  กำลังยืนส่งยิ้มละไมมาให้ผมอยู่

    เอ่อ...เปล่าครับผมบอกปฏิเสธ  อย่ามายุ่งกับกูตอนกูกำลังอารมณ์บ่จอยได้มั๊ยเนี่ย!

    เหมือนจะมองหาที่นั่งอยู่  ไปนั่งกับพี่มั๊ยครับ ไอ้เหี้ย!!!!  กูก็บอกว่าไม่มีอะไรไงวะ!

    ไม่เป็นไรเสียงผมเริ่มแข็ง

    มาเถอะครับมันพูดก่อนจะออกแรงดันให้ผมเดินไปตามทางที่มันกำหนด  ผมพยายามยื้อตัวสุดชีวิต  แต่ไอ้นี่มันก็ยังคงลากผมไปได้อย่างสบาย  นี่ถ้ากูอ้วนกว่านี้สักหน่อยล่ะก็  มึงคงลากกูไม่ไปช่ะ! งั้นกลับบ้านกูจะไปเพิ่มน้ำหนัก

    ปล่อย!”

    อย่างดื้อสิครับ  แค่ไปนั่งด้วยกันหน่อยเดียวเอง

    ปล่อยกูสิวะ!!!”ผมตะโกนใส่หน้ามันก่อนจะกระทืบเท้ามันอย่างแรง  จนหน้าเขียว  ผมรีบใช้โอกาสนี้เผ่นแน่บเข้าไปในฝูงชนที่กำลังดิ้นตามเพลงกันอย่างเมามันส์

    เฮ้ย!”ผมอุทานออกมาเมื่อจู่ๆก็รู้สึกถึงแรงดึงที่แขน  ทำให้เซไปตามแรงดึงทันที

    ไอ้เชี่ย...

    ชู่!”แต่ก่อนที่ได้ด่าจบประโยคเจ้าของแรงดึงก็ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปากไม่ให้ผมโวยวาย  และที่สำคัญมันคือ

    ไอ้วี!!!

    มึงมาทำอะไรที่นี่เนี่ย!!”ไอ้วีตะโกนถามผมแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

    กูตามมึงมา!”ผมก็ตะโกนกลับไปเช่นกัน  วีทำหนาตกใจเล็กน้อยก่อนจะกึ่งจูงกึ่งลากผมออกมาจากผับนั้น

    มึงตามกูมาทำไม!  เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก  อยากโดนไล่ออกเหรอไง!”ไอ้วีตะคอกผมพร้อมกับบีบข้อมือผมแน่นขึ้น

    โอ๊ย! เชี่ย  กูเจ็บ!  กูไม่ได้อยากโดนไล่อก  แล้วมึงเหอะ  มาที่นี่มีคนเห็นเดี๋ยวเขาก็เอาไปฟ้องอาจารย์หรอกว่ะ!”ผมตะคอกใส่มันเหมือนกัน  มันดูอึ้งๆ  คงไม่คิดว่าผมจะตะโกนใส่มันล่ะสิ  เหอะ  ไม่รู้จักไอ้ทริคซะแล้ว

    หึหึ  พูดอย่างงี้  แสดงว่ามึงเป็นห่วงกู เอ้าไอ้ห่า!  ทำไมกูด่าแล้วมันกลายเป็นกูเป็นห่วงมึงได้ล่ะวะ

    พ่อมึง!”ผมพูด  ยิ่งเห็นหน้ายิ้มๆของมันแล้วยิ่งหมั่นไส้

    เจอแล้วนั่นไง!”



    TBC.


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×