ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "FALL IN LOVE" เอาล่ะสิ! ตกหลุมรักเธอซะแล้ว

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 :: ปริศนา

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 57





    ตอนที่ 1


    ปริศนา




     

         
         อึก อึก อึก

         ฉันกำลังกระดกแก้วแอลกอฮอร์สีสวยหมดไปหลายแก้วจนจำไม่ได้แล้ว และไม่คิดที่จะจำเลยด้วยซ้ำ

         "พี่คะ...อีกแก้วค่ะ" ฉันบอกกับพี่สาวบาร์เทนเดอร์ผมสีน้ำตาลแดง ใบหน้าหวานจนฉันงี้ยังเผลอมองเธอนานๆเลยล่ะ ตอนนี้เธอมองฉันอย่างเลิ่กลั่กก่อนจะพูดออกมาว่า

         "น้องคะ พี่ว่าน้องพอเท่านี้เถอะนะคะ น้องมาคนเดียวแล้วเมามันจะไม่ดีค่ะ เดี๋ยวตอนกลับจะเป็นอันตรายเอานะคะ" พี่สาวคนนี้ชื่อ 'มันนี่' น่ะ เธอเป็นบาร์เทรเดอร์ที่ต่างจากคนอื่น ฉันรู้สึกอย่างนั้น

         "งั้นหรอค่ะ... ก็ได้ค่ะ" ฉันบอกพี่มันนี่อย่างยอมแพ้เพราะตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเวียนหัวแบบสุดๆแล้ว "เช็คบิลเลยค่ะ..." ฉันยื่นบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินให้กับพี่มันนี่เพราะฉันไม่สามารถหยิบธนบัตรออกมาให้เธอได้ เธอแสดงอาการอึ้งอย่างเห็นได้ชัดที่เห็นบัตรเครดิตฉัน

         "เอ่อ...เรียบร้อยแล้วค่ะ กลับบ้านระวังๆด้วยนะคะ" พี่มันนี่บอกอย่างหวังดี เธอมาส่งฉันถึงหน้าร้านเหมือนทุกทีเพราะกลัวฉันจะล้มหน้าคว่ำ

         "..." ฉันพยักหน้ารับแต่ไม่ได้หันไปมองเธอเท่าไหร่นัก ฉันค่อยก้าวไปทีละก้าวอย่างระวังที่สุดไม่ให้สะดุดแม้แต่ขี้แมว ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือมันบอกว่าตอนนี้กำลังจะห้าทุ่มแล้ว 

         ฉันใช้ไอโฟนโทรเรียกรถแท็กซี่ให้มารับ ตอนนี้ฉันยืนอยู่ริมฟุตบาธอย่างเหม่อลอย ฉันไม่ต้องการที่จะคิดอะไรเลย บางทีฉันอยากจะหลับไปสักสิบปี หรือไม่ก็ตายๆไปเลยก็ได้ ... ฉันไม่อยากจะเห็น ไม่อยากจะรับรู้ อยากจะอยู่ให้พวกนั้นเห็นหน้า อยากหนีไปไกลๆซะ...




         ปึก!

         ฮ...เฮ้ย! เฮ้ย! 

         ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาชนเข้าเต็มที่หลังฉันแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเพราะสติสัมปชัญญะฉันตอนนี้มันล่องลอยสุดๆ ฉันพาตัวเองให้ยันตัวลุกขึ้นจากพื้น แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าเข่ามันแสบๆกันนะ...

         ฉันยันตัวให้ตัวเองลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่ก็ต้องชะงัก...




         ปี้ดดดด ปี้ดดดด

         ฉันหันไปมองที่ต้นเสียงก็ต้องตกใจ มันคือรถบรรทุกที่วิ่งตรงมาโดยไม่คิดจะเบรกเลยสักนิด แสงไฟของรถคันสูงใกล้เข้ามาเรื่อยๆฉันอึ้งจนขยับไม่ได้

         "กรี้ดดดด..."
     














         โอยย... ปวดหัวชะมัด...

         ฉันพยายามอย่างยากลำบากที่จะปรือตาที่ติดกันเหนียวแน่นราวกับราดกาวตราช้างเอาไว้ให้มองเห็นสิ่งรอบข้าง

         


         


         ที่ไหนล่ะเนี่ย... 






         นี่คือสิ่งเดียวที่ผุดขึ้นในสมองของฉันทันทีที่ดาวงตาฉันปรับโฟกัสกับแสงที่สาดเข้ามาได้แล้ว ที่ที่ฉันอยู่มันไม่ใช่คอนโดฯของฉันไง!!

         "ไฟล์! ตื่นแล้วหรอ!" เสียงแบบนี้นี่มันคุ้นหูจริงๆเชียว อย่าบอกนะว่า...

         "คุณอา..." ฉันพึมพำชื่อของคนที่แสนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีที่ตอนนี้กำลังเดินมานั่งบนเตียงที่ฉันกำลังยันตัวลุกขึ้นมานั่งน่ะเอง

         "อาเอง..." 

         คุณอาหรืออาจารย์วาทีเซีย คุณอาเป็นครูที่สวยมากค่ะ อายุ 27 ปีเอง อายุน้อยกว่าคุณพ่อของฉันตั้งสิบกว่าปีแน่ะ คุณอาเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนที่ฉันเรียนอยู่แต่ว่าสอนแผนก ม.ต้น เลยมีโอกาสเจอกันน้อยมากเลย นานๆทีเลยล่ะ เวลาฉันมีปัญหาอะไรก็จะได้คุณอานี่แหละที่ให้คำปรึกษา แล้ว...ฉันมาอยู่นี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย วาร์ปมาหรอ? คงไม่มีอะไรแบบนั้นบนโลกนี้หรอกนะ มันเป็นอะไรที่เพ้อเจ้อพอตัวอยู่

         "ทำไมหนูถึงได้มาอยู่นี่ได้ล่ะคะ..." ฉันถามคุณอาหลังจากที่พยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออกสักที 

         "ออ...เรื่องนั้น" คุณอาพูดขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานที่สามารถละลายใจหนุ่มหลายคนมาให้ฉัน อ้าวแล้วคุณอาจะยิ้มทำไมกันล่ะ??

         "คุณอาคะ??" ฉันถามเรียกคุณอาอีกครั้งนึงคุณอาสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมายิ้มบางๆให้ฉัน
     
         "ฮ่าๆๆ ไฟล์ลุกไปอาบน้ำดีกว่าแล้วมากินข้าวกันอาทำไว้แล้ว" คุณอาหัวเราะก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไป ฉันพยักหน้ารับอย่างยอมๆเพราะถามไปคุณอาคงไม่บอกถ้าจะบอกคุณอาน่าจะบอกแล้วล่ะ ช่างเหอะ...

         ฉันรับชุดมาจากคุณอาชุดหนึ่ง มันเป็นชุดที่น่ารักมากเลยล่ะ ก็นะ...คุณอาน่ารักขนาดนี้นี่นา ชุดที่คุณอาเอามาให้ฉันเป็นชุดกระโปรงสีครีมออกเหลืองใสยาวถึงหัวเข่าแบบพอดิบพอดี เป็นผ้าบางซ้อนกันหลายชั้นแต่ไม่ได้ซ้อนจนหนานะ แขนเป็นแขนยาวถึงข้อศอกสบายๆเหมือนชุดตุ๊กตา 


         บอกได้เลยว่า...น่ารักสุดๆอ่ะ


         ฉันเดินออกจากห้องนอนไปส่วนห้องรับแขก อ้อ...คุณอาเองก็อยู่คอนโดฯอยู่คอนโดฯเดียวกันด้วย ถัดไปอีกหกห้องก็เป็นห้องของฉันแล้วล่ะ ใกล้มากๆ

         "เห...ไฟล์ใส่ชุดนี้แล้วเหมาะมากเลยล่ะ งั้น...ไม่ต้องเอาชุดนี้มาคืนอานะ อาให้ เหมาะดีเหมือนตุ๊กตาเลยเนี่ย" คุณอาลากเสียงยาวๆอย่างแซวๆ

         "จะดีหรอคะ" ฉันถามเพราะชุดนี้มันน่ารักมากจริงๆนี่นา

         "ดีสิ ดีมากด้วย! ใส่ทั้ังวันเลยนะตอนเย็นค่อยอาบน้ำแล้วเปลี่ยน" คุณอาบอกด้วยน้ำเสียงแกมบังคับ งื้ออ

         "ก็ได้ค่ะ..."

         "มาจ่ะ กินข้าวดีกว่า กินข้าวเช้าตอนสิบโมงให้ตายสิแฮรี่!" ฮ่าๆๆ ฉันนั่งหัวเราะกับคำต่อท้ายของคุณอา คือคุณอาชอบแฮรี่ พอตเตอร์มากๆเลยล่ะ 

         "เลิกหัวเราะอาเลยนะ! หลานคนนี้กินข้าว กินข้าว" คุณอารีบชวนเปลี่ยนเรื่องฉันเลยกลั้นหัวเราะสักพักก่อนจะลงมื้อกินข้าวฝีมือคุณอาที่นานๆทีจะได้กิน อร่อยมากๆเลยล่ะ

         

         หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็ขอบคุณคุณอาที่ให้ชุดแถมยังทำอาหารให้กินอีกแล้วก็ขอตัวกลับไปที่ห้องแล้วก็คิดว่าเมื่อเช้าไปอยู่กับคุณอาได้ยังไงกัน...








        
       



         ฉันกำลังเอามือก่ายหน้าผากเหม่อมองเพดานเหยียดขาไปตามโซฟายาวแล้วคิดว่าฉันไปอยู่ที่ห้องคุณอาได้ยังไง แถมยังมีแผลที่หัวเข่าอีกต่างหาก ไปได้แผลตอนนั้น แล้วที่ฉันเห็นรถบรรทุกวิ่งมาจะชนฉันล่ะ มันคืออะไร? ฉันงงไปหมดแล้วเนี่ยยยย !


         ฉันยันตัวขึ้นนั่งพิงผนักโซฟาแล้วหยิบรีโมตเพื่อกดเปิดโทรทัศน์ เปิดไปอย่างนั้นเองแหละ ไม่ได้ตั้งใจดูขนาดนั้นหรอก ทำไมช่วงนี้มีแต่เรื่องให้คิดเยอะแยะอย่างนี้กันนะ หึย!


         ครืดดดด ครืดดดด

         ครืดดดด ครืดดดด

         ครืดดดด ครืดดดด

         ครืดดดด ครืดดดด


         ฉันนั่งมองไอโฟนที่ยังคงสั่นอยู่ที่เดิมและยังแสดงมิสคอลขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะไม่ได้กดรับ คนปลายสายนั่นฉันเกลียด!


         ครืดดดด ครืดดดด 

         ครืดดดด ครืดดดด


         ฉันเริ่มรำคาญแล้วนะ ได้! ฉันรับก็ได้...


         "..."

     
         (ฮัลโหล...ไฟล์ ไฟล์รับโทรศัพท์ธีแล้ว) ปลายสายพูดมาด้วยน้ำเสียงดูดีใจ


         "มีอะไร" ฉันถามเสียงห้วนด้วยการกดอารมณ์ไว้เต็มที่แต่ดูเหมือนจะกดไม่อยู่


         (ธี...ธีอยากขอโทษ) เขาเปลี่ยนจากน้ำเสียงดีใจตอนแรกเป็นเสียงเศร้า เสียงแบบนี้มักทำให้ใจฉันอ่อนลงเสมอเลย แต่สำหรับตอนนี้มันไม่ใช่หรอกนะ!

     
         "แล้วไง" ฉันไม่มีทางยกโทษให้คนกระล่อนอย่างนายหรอกธี


         (ไฟล์ยกโทษให้ธีได้มั้ยครับ ธีผิดไปแล้ว ธีจะไม่ทำอีกแล้ว ธี...ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ไฟล์...หายโกธรธีเถอะนะ) ธีพูดออกมารัวๆจนฉันแถบจับใจความไม่ได้


         "..." ฉันเงียบไม่ได้ตอบอะไร "ได้สิ..."


         (จริงหรอครับ เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ยครับ) ธีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงที่เขาชอบใช้เสมอๆ ไม่ว่ากับใคร...


         "เปล่า...ไม่เหมือนเดิม ฉันยกโทษให้นาย ฉะนั้นนายไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก พอแค่นี้"            


         (ไฟล์...) แล้วฉันก็กดตัดสายทันที 







    ...............................................................


    ตอนนี้เอาไว้เท่านี้ละกันนะครับ ไม่รู้ว่าสั้นไปเปล่านะ <3
         


       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×