คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 5 ต้องการตัว
ตอนที่ 5 ต้องการตัว
"ท่านลาเซ่"
"คาล ได้เวลาแล้วสินะ"
"ครับ แล้วทางท่านล่ะครับ"
"อืม ก็หากันต่อไปเรื่อยๆ" ชายหนุ่มมีทีท่าสบายใจเสียจนคนสูงวัยหมั่นไส้
"รู้อยู่แล้วแต่ยังแกล้งให้พวกเขาต้องหาอีกหรือครับท่านนี่มัน.." คาลจนด้วยคำพูดเพราะถ้าพูดไม่แน่ว่าจะโดนอะไรจากชายหนุ่มผู้นี้
"หึๆ คนพวกนี้จะได้เก่งขึ้นยังไงล่ะ อีกอย่างพวกเราต้องป่วนที่นี่สองเดือนหากไม่มีคนมีฝีมือก็น่าเบื่อน่ะสิ"
"แล้วไลน์ล่ะครับ เห็นด้วยกับท่านงั้นหรือ"
"ไลน์น่ะไม่เหมือนเจ้าหรอกนะ คาล หึๆๆๆ" เสียงหัวเราะอันสยดสยองแทรกซึมเข้าถึงจิตใจผู้ฟังได้ดีทีเดียว ผู้เฒ่าชราขนลุกเกลียวมองอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ
"ทะท่านคะคิดจะให้ไลน์ทำ ทำอะไรกันแน่ครับ"
"หึ ไม่เอาน่าคาล ไลน์น่ะขอพัก ก็ต้องให้เขาพักสิ ข้าเองก็มีหน้าที่ช่วยทำให้ราจีฟ ทางสะดวกขึ้น เจ้าแค่ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ"
*************
"ลาซิโอกับฟาล่า พวกเจ้าเจอสองคนนี้บ้างไหม" ยานีลหันมาถามเพื่อนตน
"เห็นครั้งสุดท้ายคือเมื่อคืนก่อนนอนนั่นแหล่ะ ไปสำรวจสายไม้เท้าเวทย์ไม่ใช่หรือ" เซคพูดขึ้นอย่างงัวเงีย วันนี้วันหยุด เขาตื่นสาย ยานีลมาปลุกเขาแท้ๆ
"พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วยานีล ข้าไม่รู้สึกถึงพวกเขาเลย ข้าเองก็ตามหาพวกเขาเช่นกัน" อานาเมลบอก
"เจ้าไปหาท่านผู้เฒ่าคาลหรือยังล่ะ" ยานีลนึกขึ้นได้ว่าลาซิโอเคยพูดถึงความสนิทสนมระหว่างคาลกับอานาเมล
"อ่า..ยัง ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ"
"ข้าไปด้วยสิ" ลาเซ่เดินตามอานาเมลไป
"เจ้าไม่ไปด้วยหรือ เซค"
"ทำไมข้าต้องไปด้วยล่ะ" ชายหนุ่มพลิกตัวกลับมาถามด้วยความงัวเงีย
"ก็..ก็อานาเมลจะเป็นสัตว์เวทย์ให้เจ้าไม่ใช่รึ"
"สัตว์เวทย์ก็ส่วนสัตว์เวทย์สิ เวลานอนของข้า ก็คือเวลานอนของข้า" ยานีลมองคนที่หลับอย่างสบายใจด้วยความงุนงงก่อนจะตามอีกสองคนไป
*************
แต่ระหว่างทางการชิงตัวก็เกิดโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ตาข่ายอาคมสร้างกักยานีลแยกกับอีกสองคนทันที
"เดี๋ยว ไลน์ มันเป็นกับดัก" อานาเมลรีบเข้าไปชิงตัวชายหนุ่มแต่ถูกกระแทกออกมา เดร่านั่นเอง ผู้ที่ได้ชื่อว่าสร้างข่ายอาคมได้แข็งแกร่งสุดในสภาแห่งนี้ ลาเซ่กระซิบข้างหูอานาเมลทันที ก่อนที่อานาเมลจะเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าสีเงินเข้าโจมตีเดร่า กำแพงดินใช้ป้องกันการโจมตี แต่ก็ช้าไป อานาเมลถูกดันออกมาด้วยน้ำที่อยู่หลังกำแพง ลาเซ่ลอบเข้าไปด้านหลังข่ายอาคม ส่วนยานีลใช้พลังเพื่อทำลายจากข้างในแต่ไม่สำเร็จ
"สร้างเกราะอาคมสำหรับตัวเจ้า เร็ว! ยานีล" ลาเซ่ที่ใกล้จะเข้าถึงตัวเดร่ารีบตะโกนบอกชายหนุ่มก่อนที่จะโดนพลังที่เขาเตรียมปล่อยออกมา
"ข้า.. ข้าสร้างไม่เป็น" ยานีลเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก ลาเซ่สลายพลังของตัวเองอย่างหัวเสีย กลิ่นอายน่าสะพรึงแผ่กระจายทีละนิด เดร่าที่ได้ยินเสียงลาเซ่ ตั้งแต่ตอนที่ชายหนุ่มตะโกน ได้ใช้น้ำซัดใส่ทันที แต่อานาเมลก็เอาตัวป้องกัน ก่อนที่น้ำแข็งจากมือลาเซ่จะพุ่งเข้าทำลายตาข่ายที่กักตัวยานีลไว้ เดร่าใช้อาคมน้ำขังลาเซ่และอานาเมลไว้ภายในทันที ยานีลสร้างสายฟ้าผ่าใส่เดร่า ชายหนุ่มหลบทัน
"หึ ฝีมือพอตัวนี่ เจ้าหนุ่ม"
"หึ" ยานีลหลบพลังน้ำที่ซัดใส่หลายลูก พลางสร้างดาบขึ้นจากเวทย์พฤกษา
"เจ้าติดกับแล้ว" ตาข่ายอีกอันที่อยู่ด้านบนตกลงมากักตัวยานีลอีกครั้ง ยานีลไม่สามารถฝ่าออกไปได้ เดร่าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากขึ้น ไอเย็นจากน้ำที่กักลาเซ่แผ่กระจายออกมาจนทั้งคู่ต้องหันไปมอง แต่น้ำที่กักลาเซ่และอานาเมล กลายเป็นน้ำแข็งก่อนที่จะแตกออก ทั้งคู่ยังปลอดภัยและไม่เปียกแม้แต่น้อย
"นี่ นี่เจ้า เจ้าสร้างอาคมสองชั้นได้เชียวรึ ไม่ ไม่น่าเชื่อ" เดร่าชะงักด้วยความตกใจ ลาเซ่สร้างอาคมชั้นแรกเพื่อจู่โจมทำลายที่กักขัง ส่วนอีกอันสร้างขึ้นเพื่อป้องกันตัวเองจากอาคมที่ตนได้ใช้
"ฝีมือเจ้าน่ะ แค่นี้หรอกรึ เจ้าทำให้สัตว์เลี้ยงที่น่ารักของข้าต้องบาดเจ็บ หึ เตรียมใจไว้เถอะ" พริบตาเดียวเดร่าลงไปกองอยู่กับพื้น เลือดอาบทั้งกาย ตาข่ายที่ขังยานีลหายไป
"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มันไม่ตายหรอก ทั้งๆ ที่สมควรตายแท้ๆ" ชายหนุ่มพึมพำด้วยความโมโห ก่อนจะอุ้มหมาป่าสีเงินเดินไปยังห้องคาล พร้อมทั้งใช้เวทย์รักษาไปด้วย ลาเซ่ได้พันธนาการพลังของตนไว้ก่อนที่จะเข้ามายังสภาทำให้สามารถใช้ได้แค่อาคมขั้นต้นเท่านั้น ส่วนไลน์เนอร์หรืออานาเมลเองก็เช่นกัน แม้จะไม่มีนายแต่ไม่ได้หมายความว่าพลังของหมาป่าหนุ่มจะอ่อนแอ หากเป็นพลังที่นักเวทย์น้ำปล่อยออกมาไม่มีทางทำร้ายหมาป่าหนุ่มได้ ทว่าเดร่าเป็นถึงระดับจอมเวทย์..
**************
"อ้าว..เชิญ" คาลชะงักด้วยความตกใจเมื่อเห็นหน้าถมึงทึงของลาเซ่ และอานาเมลที่อยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่ม
"นี่นี่ใครทำเจ้ากัน" คาลรับอานาเมลจากลาเซ่แล้วพาไปนอนยังเตียงเขาในห้องนอนทันที โดยมีลาเซ่และยานีลตามเข้าไปด้วย เวทย์รักษาของคาลทำให้บาดแผลทั่วร่างอานาเมลหายไปหมด ยานีลมองด้วยความตะลึง อาคมรักษาชั้นสูง ยากนักที่จะได้เห็นชัดๆ ขนาดนี้
"อา ท่านคาล"
"เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม ละ อา อานาเมล"
"ไม่ครับ ขอบคุณครับที่ช่วย"
"นอนพักไปก่อน อานาเมล" ผู้เฒ่าบอกแก่หมาป่าหนุ่มก่อนจะพาทั้งสองมาอีกห้องหนึ่ง
"ใครทำให้อานาเมลเป็นเช่นนี้หรือ" คาลเก็บอารมณ์เต็มที่
"ท่านเดร่าแห่งเอลาสครับ" ยานีลเป็นผู้ตอบ เพราะลาเซ่ เอาแต่ทำหน้าบึ้งมองออกไปข้างนอกลูกเดียว
"ทำไมกัน นี่กล้าถึงขนาดมาที่นี่โดยที่ข้าไม่อนุญาตเชียวหรือ"
"เอ่อ พวกเขาจะมาจับตัวข้าครับ"
"...มีเหตุผลอะไรที่ต้องจับตัวเจ้าด้วย"
"ข้า..ข้าถูกวัดระดับความสมดุล แล้ว..ผ่าน อีกทั้งไอเวทย์ของข้าสูง.."
"เข้าใจล่ะ เฮ้อ เจ้าต้องระวังตัวให้มาก แม้ว่าที่นี่จะเป็นสายของข้า แต่ข้าก็ดูแลได้ไม่ทั่วถึงนัก เจ้าเองก็คงจะรู้มาบ้างว่ามีบางคนก็เป็นสายให้กับสายอื่นหรือลอบเข้ามา แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะเอาเรื่องกับเดร่าให้ถึงที่สุด"
"ไม่ต้อง" เสียงของลาเซ่เย็นยะเยือก สีหน้าชายหนุ่มไม่เปลี่ยนซักนิด สายตายังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง
"มันเกือบตาย 'เท่านั้น' ก็คงพอ"
"แล้วเจ้าล่ะ ยานีล"
"ครับ ข้า ข้าก็เห็นด้วยกับลาเซ่ เอ่อ อาจารย์ครับ เห็นลาซิโอกับฟาล่าไหมครับ" ยานีลถามผู้เฒ่า เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกตนมาที่นี่ทำไม
"ข้าให้พวกเขารีบไปทำงานบางอย่างให้ข้าน่ะ อีกพักใหญ่กว่าจะกลับ อาจจะเลยช่วงสอบไป"
"อาจารย์ครับ ข้าอยากให้ท่านช่วยสอนวิธีสร้างเกราะอาคมน่ะครับ"
"เจ้าสร้างไม่เป็นหรือ ยานีล" คาลมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ
"ครับ ข้าสร้างไม่เป็น อ่า..นี่คือสาเหตุที่ข้าไม่สามารถกักพลังของตัวเองได้ จึงเลือกที่จะสอบเข้ามาที่สุดท้ายครับ ไม่นึกว่าจะมีคนมาสนใจตรวจไอเวทย์ของข้า ข้าใช้เป็นแต่พลังโจมตี แล้วถ้าถูกขังอยู่ในข่ายอาคมอีก ก็คงออกมาไม่ได้เช่นเดิม แผนถ่วงเวลาเพื่อทำอะไรซักอย่างของพวกท่านอาจจะช้าลงก็ได้นะครับ " ยานีลมองทั้งคู่อย่างรู้ทัน เพียงแค่เห็นความสนิทสนมของลาเซ่และคาลก็เข้าใจได้ทันทีว่าคาลเองก็คงรู้จักกับอานาเมลด้วยเช่นกัน ...ยานีลรู้มากเกินไป คาลรู้สึกเช่นนั้นแต่ลาเซ่ยังคงมีท่าทีเช่นเดิม ยกเว้นดวงตาคมที่ปรายตามองมาเท่านั้น ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
"แล้วสายที่เจ้าถนัดล่ะ"
"พฤกษาครับ ข้าชอบและถนัดเป็นพิเศษ ส่วนที่ไม่ถนัดคือ ดินครับ"
"อืม.. ข้าสอนเจ้าไม่ได้หรอก ยานีล การสร้างเกราะนั่นเป็นพลังเฉพาะของข้า แต่เซอร์เรสอาจจะช่วยเจ้าได้" คาลมองลาเซ่อย่างไม่มั่นใจ แม้นี่จะเป็นสิ่งที่ลาเซ่บอกให้เขาทำก็ตามที แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าลาเซ่จะสอนอะไรให้ชายหนุ่มผู้นี้กัน
"..คะครับ" ยานีลลอบกลืนน้ำลาย กลิ่นอายความตายที่ติดตัวลาเซ่ดูเหมือนจะเริ่มแผ่กระจายอีกครั้ง
"ตอนแรก ข้านึกว่าเจ้าจะเป็นทุกอย่างซะอีก" น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมและสายตาที่มองมาตรงๆทำให้ยานีลหยุดหายใจไปชั่วขณะ หรือว่าเขาจะคิดผิด
************
ทางด้านลาซิโอ
"พวกเราหามาตั้งหลายวันแต่ยังไม่เห็นแหวนที่ท่านว่าเลยแม้แต่น้อย ท่านแน่ใจนะว่ามันอยู่ที่เซลโก้จริงๆ" ลาซิโอถามชายหนุ่มที่ยังคงเดินหาแหวนอยู่
"ข้าแน่ใจ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนในเซลโก้" ราจีฟตอบด้วยน้ำเสียงปกติ เขาเริ่มชินซะแล้วกับความผิดหวัง
"เราพักกันซักครู่เถอะค่ะ ฟาลเหนื่อยแล้ว"
"ตกลง" ทั้งสามเลือกที่จะยืนพัก
"ไม่มีวิธีไหนหรือครับที่จะทำให้รู้ตำแหน่งแหวนได้"
"เอาเถอะ คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง ข้าจะลองดู ต้องใช้แสงจันทร์ไม่งั้นจะหามันไม่เจอ"
"แล้วจะทำพิธีที่ไหนล่ะคะ"
"ใจกลางเมืองเซลโก้น่ะ"
"งั้นต้องเดินไปอีกหน่อยสินะครับ"
"อืม"
***********
"ท่านราจีฟ พระจันทร์ขึ้นแล้วค่ะ"
"พวกเจ้าถอยออกไปไกลๆหน่อย ระวังเกร็ดวารีด้วย มันชอบออกมาอาบแสงจันทร์น่ะ" ลาซิโอและฟาล่าถอยห่างออกไปไกลตามที่ราจีฟต้องการ ทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นหัวแหวนของราจีฟหายไป เสียงอาคมของชายหนุ่มแผ่วเบาจนจับใจความไม่ได้ ขณะเดียวกันพวกเกร็ดวารี ก็ชอนไชขึ้นจากดิน ลาซิโอสร้างเกราะคุ้มกันทันที
"แล้วท่านราจีฟล่ะ ลาซิโอ"
"คงไม่เป็นไรหรอก"
ดินสีทองพุ่งขึ้นจากใต้ดินขึ้นไปยังท้องฟ้าก่อนจะกระจายปรกคลุมทั่วเซลโก้ ไม่นานดินสีทองก็กลายเป็นสีดำเละ เช่นเดียวกับดินที่พบได้ทั่วไปในเซลโก้ แสงสีเทาอ่อนจางๆ เรืองรองขึ้นสู่ท้องฟ้า
"เรน ตรงนั้น..." พริบตาเดียวก็หายไป
"ไม่ทันแล้วครับ มันหายไปเร็วมาก" แมวลายหินอ่อนกลายร่างเป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง พยุงราจีฟที่อ่อนแรง พร้อมกับสร้างเกราะคุ้มกันไม่ให้เกร็ดวารีเข้ามาใกล้ได้
"ยังไม่พอสินะ พลังข้า.." ราจีฟสลบไปในที่สุด
"อย่างน้อยพวกเราก็รู้ว่าต้องค้นหาที่ไหน ความพยายามของท่านที่ผ่านมาไม่สูญเปล่าแน่ครับ" แมวหนุ่มในร่างมนุษย์พูดกับคนที่สลบลงแผ่วเบา ลาซิโอและฟาล่าหลบพวกเกร็ดวารีที่ดิ้นพล่านจากการถูกดินสีทองตกใส่เข้ามาสมทบทันที
"เอ่อ พวกข้าช่วยครับ" ทั้งสามพยุงราจีฟกลับไปยังที่พัก
"ข้า คือเรน แมวที่ท่านราจีฟบอกพวกเจ้าไงล่ะ"
"...เมื่อกี้" หญิงสาวไม่แน่ใจว่าควรถามแมวหนุ่มดีหรือไม่
"เป็นการเรียกหาแหวนน่ะ แต่เพราะดินที่เซลโก้นี่เป็นอย่างนี้ การตอบรับจึงไม่ชัดเจน โดยปกติก็ตอบรับยากอยู่แล้ว.."
"เป็นการสร้างแหวนโดยใช้อาคมเรียกขานแทรกเข้าไปหรือครับ" ลาซิโอถามด้วยความทึ่ง
"ไม่ใช่ แต่เป็นหัวแหวนที่มีอาคมเรียกขานหล่อหลอมตัวเองมาเป็นแหวนน่ะ" ทั้งสองมองเรนตาค้าง ทำได้ง่ายๆซะที่ไหน
"คะใครเป็นผู้สร้างหรือคะ"
"หึๆ หลายร้อยปีแล้วล่ะที่มันถูกสร้างขึ้นน่ะ มีเพียงวงเดียว เป็นแค่การลองสร้างดู แต่จากที่พวกเจ้าเห็น มันเป็นผลงานที่สร้างความลำบากให้ซะมากกว่า คนสร้างก็หายสาบสูญไปตอนที่สร้างแหวนวงนี้สำเร็จนั่นแหล่ะ"
"แล้วอาจารย์ราจีฟมาเกี่ยวข้องอะไรด้วยหรือครับ"
"คนสร้าง.. หลังจากที่สร้างแหวนแล้ว มันก็ได้ตกมายัง..เพื่อนสนิทของราจีฟน่ะ ทีนี้คนผู้นั้นถูกดูดเข้าไปในแหวนน่ะสิ"
"วะแหวนดูดคน..มะไม่น่าเชื่อ" ลาซิโอสบตาเรนเพื่อให้แน่ใจว่าตนได้หูฝาด
"ใช่ เป็นแหวนที่มีคนอยู่ข้างในนั้น หรืออีกชื่อ 'ลูกแก้วสีหมอก' ยังไงล่ะ"
******************
ยานีลเรียนการสร้างและทำลายข่ายอาคมจากลาเซ่ โดยมีอานาเมลเป็นผู้แนะนำ ส่วนเซคก็ถูกลาเซ่จับมาเรียนด้วย เพราะชายหนุ่มมักส่งเสียงดังจนน่ารำคาญ แต่ไม่นานทั้งคู่ก็สามารถทำลายและสร้างข่ายอาคมได้
"พวกเจ้าเรียนรู้ได้ไวดี" น้ำเสียงของชายหนุ่มแสดงความพอใจขณะที่ใบหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
".." ยานีลอดรู้สึกไม่ได้ว่ามันง่าย..ง่ายจนเกินไป
"แน่นอนอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ"
"งั้นอานาเมล เจ้าเริ่มได้เลย"
"ครับ"
"ลาเซ่เจ้าให้อานาเมลทำอะไรหรือ" นัยน์ตากลมโตมองชายหนุ่มทั้งสองด้วยความสงสัย
"เซค เจ้าอยากจะลองสร้างข่ายอาคมทั้งคืนไหม"
"อ่า..ไม่"
"งั้นเจ้าก็เงียบเถอะ"
"แล้วถ้า..คราวนี้มีคนที่เก่งกว่าเดิมล่ะ" ยานีลถามอย่างเลือกระวังคำถามไม่ให้เซครู้มากนัก
"วิธีที่ข้าสอนนั่นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว หากพวกเจ้าอยากจะผ่าน ก็ลองกับข่ายอาคมที่อยู่รอบสายไม้เท้าเวทย์นี่ก็ได้" ลาเซ่หายตัวไปพร้อมกับอานาเมลโดยไม่สนว่าเขาทั้งสองจะลองทำดูหรือไม่
***********
"พูดอย่างนั้น ก็ต้องขอลองดูหน่อยล่ะ" เซคใช้พลังเพลิงที่ตนถนัดโดยที่ยานีลไม่ห้ามแม้แต่น้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเบิกตากว้าง
"อย่า..." ช้าไปเสียแล้ว ข่ายอาคมที่ลาเซ่สอนให้ ใช้ได้ผลจริงๆด้วย
**********
"ตอนนี้ล่ะไลน์"
"ครับ" เสียงกู่ก้องของหมาป่าหนุ่มดังขึ้นและด้วยความสามารถของลาเซ่ ทำให้หมู่สัตว์ต่างกระจายกันพา 'เสียงของไลน์' ดังไปทั่วทั้งเกรลาเชีย
***********
"อะอะไรนะ คนที่ชื่อว่าลาเซ่ออกมาประกาศตัวเลยรึ"
"ครับ ท่านฟาเซล ชายผู้นั้นออกมาบอกว่าตนเองมีความสมดุลแห่งพลังสูง ไม่ได้ออกมาประกาศโดยตรงแต่เป็นข่าวลือที่เกิดขึ้นทั่วทั้งเกรลาเชียน่ะครับ" ชายหนุ่มในชุดคลุมก้มโค้งตรงหน้าผู้ดูแลสายเธีย
"อืม แล้วยานีลล่ะ ข้าคิดว่าคนผู้นี้น่าจะใช่มากกว่านะ" ฟาเซลมองไปยังเดร่าที่ยังไม่รู้สึกตัว และคงต้องหลับไปอีกหลายเดือน แม้ว่าเขาจะใช้เวทย์เพื่อรักษาแล้วก็ตามที เดร่าไม่สามารถนำตัวยานีลกลับมาได้ และยังถูกทำร้ายอีกต่างหาก นั่นแสดงว่ายานีลมีฝีมือดีทีเดียวที่สามารถทำลายเกราะเวทย์ของเดร่าได้
"ยานีลเองก็พักอยู่ห้องเดียวกันกับลาเซ่ครับ"
"หรือว่าลาเซ่รู้ว่าใครคือคนที่จะได้ครองเกรลาเชีย หึ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นยานีลไม่ผิดแน่ ฮ่าๆๆๆ แค่นี้เกรลาเชียก็ตกเป็นของข้า หึๆๆๆๆ"
ข่าวที่ว่าลาเซ่จะได้เป็นผู้ครองเกรลาเชียแพร่กระจายไปทั่ว ถึงกับมีผู้มาขอท้าสู้กับลาเซ่เลยทีเดียว กฏการประลองมีอยู่ว่าหากมีผู้ท้า จะรับคำท้าหรือไม่ก็ตามใจ ผู้ตัดสินคืออาจารย์ที่ได้รับใบอนุญาตแล้วเท่านั้น ส่วนการต่อสู้จะใช้วิธีไหนก็ได้ ขอเพียงให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้หรือสลบไปเท่านั้น ห้ามฆ่าคู่ต่อสู้เด็ดขาดมิฉะนั้นจะต้องตาย
ด้านคาลเองก็ถูกสั่งให้กระจายข่าวลือไปทั่วทั้งสภาเวทย์และนอกเกรลาเชียเพื่อให้มั่นใจว่าลาเซ่เป็นที่สนใจมากขึ้น ขณะที่ยานีลกลับเขม่นมองลาเซ่
"เจ้ามีอะไรจะพูดอย่างนั้นหรือ"
"เจ้าชอบทำตัวให้ผู้อื่นสนใจหรือไงกัน"
"หึๆๆ อิจฉาข้ารึ"
"เปล่า..."
"ก็อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหล่ะ" สายตาคมมองอีกฝ่ายทะลุปรุโปร่งทีเดียว ยานีลหลบสายตาชายหนุ่มอย่างอึดอัด
"พวกเจ้ามีเรื่องอะไรกันแน่ เห็นจับคู่กันทำงานก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ แล้วลาเซ่ยังสอนเรื่องเกราะอาคมให้ด้วย"
"เซค เจ้าอย่าไปยุ่งเรื่องพวกเขาเลย งานที่ข้าบอกให้เจ้าทำนั่นเสร็จหรือยังล่ะ" อานาเมลให้เซคไปสืบเรื่องกองกำลังต่างๆที่ลุกล้ำเข้ามายังเกรลาเชียแห่งนี้ เพราะเซคมีเพื่อนต่างสายมาก ถึงไม่ได้ออกไปนอกสภาก็รู้ข่าวคราวภายนอกเป็นอย่างดี
"อือ เสร็จแล้ว ตอนนี้มีกำลังจากหลายเมือง แทรกเข้ามาที่เกรลาเชียแล้ว"
"แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อล่ะยานีล" ลาเซ่เอ่ยกับอีกฝ่าย ท้าทายไปในตัว
"เจ้าตั้งใจจะให้ข้าเป็นตัวหมากตั้งแต่แรกแล้วมิใช่หรือ" ลาเซ่เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะฉีกยิ้มด้วยความพอใจ
"แต่เจ้าก็ยอมไม่ใช่หรือ"
"แล้วยังไงต่อล่ะ หลังจากที่พวกนั้นจะหาวิธีพาข้าไปน่ะ"
"หึ ข้าต้องการเวลา เพื่อช่วยเพื่อนของข้าคนหนึ่ง ซึ่งมีกำหนดเวลาไม่แน่นอน ตอนแรกข้าคิดว่าจะเริ่มจากสายเกลน แต่ในเมื่อมาอยู่ที่สายนี้ ข้าจึงต้องทำแบบนี้ เพราะพวกทางเหนือได้บุกเข้ามาโดยที่สภาไม่ทันได้ตั้งตัว เพื่อนข้า อยู่กับลาซิโอและฟาล่า เพื่อทำบางสิ่ง แต่เมื่อสำเร็จแล้ว หลังจากนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ตามใจ ถึงตอนนั้นข้าก็ต้องออกจากสายนี้อยู่ดี" ลาเซ่มองยานีลด้วยความขอบคุณ
"..เจ้าเองก็ต้องรับภาระมากกว่าข้า แต่ไม่นึกเลยว่าเพื่อนเจ้าจะอยู่กับสองคนนั่นด้วย คงมีคนอื่นอีกสินะ" ยานีลเบือนหน้าไปทางอื่น เขาไม่ค่อยชินกับการได้รับคำขอบคุณจากใคร
"ข้าไม่รู้หรอก เพราะผู้เฒ่าคาลเป็นคนส่งไป เจ้าก็ต้องระวังสายเธียและเอลาสให้ดีล่ะ"
"แล้วจะยอมโดนจับเมื่อไหร่ล่ะ" สายตาชายหนุ่มเป็นประกาย
"อีกสองเดือน รอจนข้าย้ายสายจะดึงคนไปจับตามองที่สายอื่น หรือนานกว่านั้น เจ้าจะได้มีเวลาหาทางรับมือกับพวกที่จะพาตัวเจ้าไป"
*************
"เจ้าชื่อ ยานีลใช่ไหม" หญิงสาวผู้ครองตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งชั้นปีของเขานี่เอง น่าตาน่ารัก แต่ท่าทางจะมีไอเวทย์สูงใช่ย่อย และก็เป็นคนที่ลาเซ่เคยบอกไว้ว่ามีสมดุลแห่งพลังเช่นกัน แล้วทำไมต้องมาหาเขาด้วยล่ะ ยานีลระวังตัวในทันที นี่พวกสายเอลาสจะไม่ยอมให้เขาพักเลยรึไง
"ใช่ มีอะไรหรือ" ...สะสายตา...ยานีลถูกสะกด ชายหนุ่มเดินตามหญิงสาวไปด้วยอาการเลื่อนลอย จนเข้าไปยังเขตมังกรไฟ
เป๊าะ
ยานีลสะดุ้งสุดตัว มองรอบด้านด้วยอาการมึนงง เขาถูกสะกด และอาคมที่ใช้ก็เป็น..อาคมต้องห้าม
"เจ้ามาอยู่ที่สายมังกรไฟแล้ว ยานีล" ผู้ที่เป็นเจ้าหญิงยืนอยู่ข้างๆ บุคคลผู้หนึ่ง สวย คำนี้วาบขึ้นมาในความคิด ยานีลสะบัดหัวเบาๆ นี่คงเป็นเพราะมนต์ต้องห้ามบ้าๆ นั่นแน่เลย เขาจะมาชมพวกคนที่จับเขามาทำไมกัน เจ้าหญิงแห่งชั้นปีออกไปแล้ว ในห้องนี้เหลือเพียงเขาสองคน
"ข้าคือผู้ดูแลแห่งสายมังกรเพลิง ไวน์เบิร์น" ไวน์เบิร์น ผู้ดูแลสายมังกรเพลิง ซึ่งเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาเหล่าผู้ดูแลทั้งห้าสาย ในสายนี้จะมีผู้ที่ใช้อาคมด้านลมและไฟ แต่..ผู้ดูแลคนนี้อยากเจอเขามากจนถึงกับให้เด็กในสายตนฝ่าฝืนใช้อาคมต้องห้ามเชียวรึ
"ผู้หญิงคนเมื่อกี้นางถูกข้าสะกด และนางก็อยู่สายเธีย หากเจ้าสงสัย ที่ข้าอยากพบเจ้าเพราะเจ้าเองก็มีสมดุลแห่งพลังเช่นกัน" อา..นางอ่านสีหน้าของเขาออก
"แค่พบหรือครับ"
"อยากให้เจ้ามาช่วยข้า มาอยู่สายของข้า คาลเป็นกลางคงช่วยเจ้าไม่ได้แน่ หากมีคนต้องการแย่งชิงตัวเจ้า"
"เช่นท่าน" สายตาของชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างรู้ทัน
"ข้าแค่อยากให้เจ้าช่วย"
"ยังไงล่ะ ข้าเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เป็นผู้ครองเกรลาเชียแห่งนี้หรอกนะครับ"
"ข้าเองก็มีสมดุลแห่งพลัง"
"หรือท่านเพียงแค่ต้องการรวมผู้ที่มีสมดุลแห่งพลังกันล่ะ"
"..ใช่"
"หากข้าไม่ต้องการ ท่านจะใช้อาคมต้องห้ามนั่นหรือ"
"ข้ารู้มาจากสาวน้อยคนเมื่อกี้ว่าเจ้าเองก็มีสมดุลแห่งพลังและมีไอเวทย์สูง เจ้ามีโอกาสมากทีเดียวนะ ยานีล" น้ำเสียงหญิงสาวอ่อนลง
"...หากท่านได้ครองเกรลาเชียแล้ว ท่านจะทำอะไรกับมันล่ะครับ" สายตาคมของชายหนุ่มไม่ทำให้ไวน์เบิร์นสะเทือนแม้แต่น้อย
"ข้าจะปกครองมัน ..หากเป็นข้า ข้า..แล้วเจ้าล่ะ"
"ข้าหรือครับ อาจจะทำลายแทนก็ได้นะครับ ข้าชอบที่จะหยุดสงครามด้วยสงครามซะด้วยสิ" ไวน์เบิร์นชะงักไปชั่วขณะ
"ข้าเชื่อว่าหากพบคนที่ครองเกรลาเชียได้แล้วจริงๆ สงครามจะหยุดได้ แต่อันที่จริงแล้วมันคือจุดเริ่มต้นของสงคราม ท่านก็รู้ใช่ไหมครับ" ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"รู้"
"ข้าไปนะครับ ส่วนเรื่องร่วมมือนั่น ไว้ท่านแน่ใจว่าข้าหรือท่านได้ขึ้นครองเกรลาเชียก่อนแล้วค่อยชวนข้าไหมละกันครับ" ยานีลกลับออกไปทันที เขา..หาทางออกได้แล้ว ไวน์เบิร์น อย่าเพิ่งเบื่อข้าซะก่อนล่ะ
***********
ความคิดเห็น