คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Inside สภาเวทย์
Inside สภาเวทย์
สภาเวทย์แห่งเกรลาเชีย
เคลย์ ไธนอส เป็นผู้ใช้อาคมที่เก่งมาก เมื่อสามร้อยปีก่อน เขาได้รวบรวมบรรดาผู้ใช้อาคมมาอยู่ภายใต้อาณัติ แรกๆพวกนั้นก็ไม่ยอม เคล์ยยังหนุ่มและใช้อาคมได้ยอดเยี่ยม แต่ขณะเดียวกันก็อ่อนโยนด้วย พวกที่มาเข้าพวกกับเคล์ยได้เล่าต่อๆ กันมาว่า เคล์ยไม่ฆ่าใครพร่ำเพรื่อ แม้จะมีพวกห้วเก่าไม่ยอมฟัง แต่เขาก็ไม่ฆ่าใครทิ้งทั้งๆที่เขาก็มีพลังพอที่จะทำ
สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้ใช้อาคมศิโรราบอย่างสิ้นเชิง คือตอนที่เบทรีด จอมเวทย์แห่งเพลิงที่ตั้งตัวขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อต่อสู้กับเคลย์ ทำให้เกิดการแตกแยกขึ้น
ขณะนั้นพวกผู้ใช้อาคมถ้าไม่สังกัดกลุ่มเคลย์ก็ต้องเป็นกลุ่มเบทรีด เมื่อผู้ใช้อาคมของทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกันก็มักจะจบลงที่บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็ฆ่ากันให้ตายลงไปขั้นหนึ่งเสมอ เคลย์ทนไม่ได้ที่จะมีการฆ่ากันตายเกิดขึ้น จึงพยายามจะห้ามปรามลูกน้อง ผิดกับเบทรีดที่ไม่เพียงแต่ยุยง อีกทั้งยังออกคำสั่งให้ฆ่าครอบครัวของผู้ใช้อาคมที่เป็นพวกเดียวกับเคลย์อีกด้วย ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ล้มตายมากมาย เคลย์เองก็รู้ว่าแม้เขาจะตายก็ไม่ยุติความเกลียดชังและความบ้าอำนาจของเบทรีดลงได้ จึงตัดสินใจที่จะฆ่าเบทรีดแล้วสลายกลุ่มของเบทรีดซะ แต่กว่าจะมาถึงจุดแตกหักก็เกือบจะสายเกินไป...
ฝ่ายของเบทรีดเมื่อเห็นเคลย์ตัดสินใจที่จะลุกขึ้นต่อต้าน กว่าครึ่งกลับมาเข้าข้างเคลย์ ทำให้เคลย์ได้เปรียบ กลุ่มของเบทรีดจึงสลายไป แต่ตัวเบทรีดนั้นหลบหนีไปได้ พร้อมกับความแค้นที่มีต่อเคลย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ เอร่า คนรักของเบทรีดเข้าร่วมกับเคลย์หลังจากรู้ข่าวว่าเบทรีดแพ้ หล่อนทอดสะพานให้เคลย์เต็มที่เพื่อหวังซึ่งอำนาจที่เคลย์มี เอร่าไม่ได้ทำอะไรผิด เคลย์ไม่สามารถขับไล่นางออกไปได้ เมื่อนางเห็นว่ายั่วเคลย์ไม่ได้ผล จึงตัดสินใจกลับไปหาเบทรีดอีกครั้งพร้อมกับยอมเป็นไส้ศึกให้แก่เบทรีด..
แผนของเอร่ายอดเยี่ยมมาก นางได้ปลุกปั่นคนในสภาให้เคลือบแคลงกันเอง วางยาเหล่าผู้ใช้เวทย์ระดับสูง ให้ตายอย่างทรมาน แอบผสมไอปีศาจลงไปขณะทำการชำระล้างเนินหินผาทางตอนเหนือของเมืองเซลโก้ ทำให้เกิดเหล่านักรบปีศาจ ซึ่งนางก็ส่งนักรบนั่นไปเป็นข้ารับใช้ของเบทรีด อีกทั้งเบทรีดได้ฉวยโอกาสนั้นสังเวยเมืองเซลโก้ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เพื่อสร้างดาบพฤกษาขึ้น และตามหาอัญมณีแห่งชีวิต โดยหวังที่จะครอบครองชีวิตที่ไม่แก่ไม่ตาย
อาคมที่เบทรีดใช้นั้นทำได้แค่ดูดกลืนรวมร่างกับเหล่านักรบปีศาจ คงความเป็นหนุ่มและไอเวทย์ของตนเท่านั้น
นับว่าการกระทำของเอร่าเป็นจุดเริ่มต้นของความเดือดร้อนเลยทีเดียว ยิ่งกว่านั้นยังทำให้ชาวบ้านผู้ซึ่งไร้เวทย์มนตร์ไม่เชื่อถือในตัวเคลย์ เหล่าข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเคลย์ก็ถูกวางยาพิษไปมาก
เมลานี ข้ารับใช้ของเอร่า นางเป็นคนรักของเคลย์ ทนการกระทำของนายตนไม่ไหว จึงยอมเสียสละตัวเองกลับคำสาบานที่ว่าจะจงรักภักดีต่อเอร่า เมลานีเปิดเผยความผิดของเอร่า ในวันแต่งงานของตัวนางและเคล์ย ทำให้เคลย์สามารถเอาผิดเอร่าได้
ซึ่งกำลังพลที่เอร่ารวบรวมให้เบทรีดจำนวนมากพอที่จะถล่มเคลย์ได้บุกเข้ามาในงานแต่งงานของทั้งคู่ เกิดกลียุคขึ้นอีกครั้ง เอร่าถือได้ว่าเป็นตัวประกันในมือเคลย์ แต่เบทรีดก็ไม่ได้สนใจนางเลยซักนิด หนำซ้ำยังต้องการตัวเมลานีกลับไปแทน
การต่อสู้ของเบทรีดและเคล์ยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้บรรดาชาวบ้านและเหล่านักเวทย์กลับมาเข้าใจและเชื่อมั่นในตัวเคลย์อีกครั้ง แต่อัญมณีแห่งชีวิตได้ปรากฏขึ้นขณะที่ทั้งสองต่อสู้อยู่ เพื่อนของเคล์ยคนหนึ่งได้ปลุกอัญมณืแห่งชีวิตขึ้นก่อนที่มันจะรวมตัวกับดาบพฤกษาแล้วหายไปในที่สุด...
ความหวังของเบทรีดสูญสลายอีกครั้ง เอร่าฉวยโอกาสที่ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การรวมตัวของของวิเศษทั้งสองอย่าง หันปลายดาบเข้าหาเคล์ย เมลานีได้เอาตัวมารับดาบแทน นางตายในอ้อมแขนของเคล์ยพร้อมทั้งคำมั่นสัญญาว่านางคือเจ้าสาวของเขา แม้จะมีสมัครพรรคพวกมากมายแต่ไร้ซึ่งนางในดวงใจเคียงข้าง เคลย์ก็ยังคงทำการกวาดล้างพวกของเบทรีดในที่นั้นอย่างราบคาบ
ด้านเบทรีดที่กำลังตกใจเรื่องของวิเศษได้ถูกเอร่าฆ่าด้วยความแค้นอย่างไม่ทันตั้งตัว จากนั้นนางก็ฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการชดใช้ความผิดแก่เมลานี
สงครามสิ้นสุดลง
เคลย์ได้สลักชื่อบนหลุมศพของเมลานี ว่า เมลานี ไธนอส สาวน้อยผู้บริสุทธิ์งดงามแด่ภรรยาผู้อาภัพแห่งเคล์ย ไธนอส
ทุกวันเคล์ยจะต้องไปเยี่ยมหลุมศพของเอร่าและเมลานีก่อนเสมอ ไม่นานหลังจากวางรูปแบบให้แก่สภาเวทย์แล้วเคล์ยก็จากไป
...แม้จะผ่านไป 300 ปี แต่บรรดาพ่อมดก็ไม่มีใครเชื่อว่าเคลย์ตายแล้ว ทุกคนคิดว่าเคลย์ยังอยู่ ...ที่ไหนซักแห่ง เฝ้ามองสภาพ่อมดที่ตนสร้างขึ้น ส่วนเมืองเซลโก้กลับกลายเป็นเมืองร้าง ไม่มีใครอยากสนใจสถานที่แห่งนั้น สถานที่ที่เคยเป็นฐานกำลังให้กับเบทรีด ราวกับต้องการที่จะลืมความมีตัวตนของเซลโก้ไปหมดสิ้นพร้อมๆกับความสูญเสียจากสงคราม
สภาเวทย์ที่เคลย์สร้างแบ่งออกเป็น 5 ฝ่ายตามสายการใช้พลัง มีชุดและตราสัญลักษณ์แบ่งอย่างชัดเจน ได้แก่
สายลม-ไฟ
ชุดคลุมสีเพลิงลายพาดสีขาว
ตราสัญลักษณ์ : มังกรไฟ
ผู้ดูแล : ไวน์เบิร์น วีเนสล่า
ดิน-น้ำ
ชุดคลุมสีน้ำเงินลายพาดสีน้ำตาล
ตราสัญลักษณ์ : เอลาส(งูดินมีครีบ)
ผู้ดูแล : ผู้เฒ่าซาวีน วีเนสล่า
แสง-ความมืด
ชุดคลุมสีทองพาดลายสีเงิน
ตราสัญลักษณ์ : เธีย (ลูกแก้วมีตาสีทองอยู่ข้างใน เป็นสัตว์เวทย์ใช้นำทาง
ตอนกลางคืน แต่เมื่อไหร่ที่ตาสีทองปิดลง จะมีกลิ่นอาย
ความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาเมือนเหรียญสองด้าน)
ผู้ดูแล : ฟาเซล ลอร์เซน
พฤกษา-มอนสเตอร์
ชุดคลุมสีเขียวลายพาดสีม่วง
ตราสัญลักษณ์ : เกลน
ผู้ดูแล : เดร่า อาร์คทีออต
ไม้เท้าเวทย์ : สำหรับผู้ที่ถนัดในเวทย์หลากหลายหรือยังหาสายเวทย์ของตนไม่เจอ
ชุดคลุมสีดำไม่มีลายพาด
ตราสัญลักษณ์ : ไม้เท้าเวทย์
ผู้ดูแล : คาล เซเรีย
สำหรับพวกที่ข้ามสาย หรือเป็นพวกสายผสมจะให้เลือกว่าจะอยู่สายไหนเป็นสายหลัก หากเลือกผิดก็มักจะใช้สายรองเก่งกว่าสายหลักแต่ไม่มีปัญหาอะไรในการเรียนอาคม
จำนวนตราสัญลักษณ์ยิ่งมีจำนวนน้อยยิ่งแสดงว่ามีพลังเวทย์แกร่ง แต่ละสายจะมีผู้ดูแลสาย ทว่าไม่มีผู้นำสูงสุดราวกับต้องการคงที่ว่างในตำแหน่งนี้ไว้เพื่อรอเคล์ย
ปัจจุบันสภาเวทย์ก็เหมือนกับแหล่งรวบรวมอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นสถานศึกษาขนาดใหญ่ที่รับผู้เข้าศึกษาจำนวนมาก ไม่จำกัดจำนวนปีที่ศึกษาเพราะการศึกษาจะสิ้นสุดเมื่อไม่มีตราสัญลักษณ์บนเสื้อคลุม
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง มีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนมาก แต่ละคนประจำอยู่ในราชสำนักที่บ้านเมืองที่ตนเกิด เป็นการตอบแทนบ้านเมืองและสภาเวทย์ บางคนก็ทำงานให้กับสภา สอนเด็กใหม่หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกที่อ่อนกว่า
ส่วนพวกผู้ใช้อาคมที่ไม่ได้เข้าสภามักไม่ได้รับการยอมรับให้ทำหน้าที่สำคัญๆ สภาแห่งนี้จึงเป็นที่สร้างกองกำลังทางอาคมที่เข้มแข็งที่สุดของเกรลาเชียเลยทีเดียว
สำหรับการเรียนนั้น
หากได้สัญลักษณ์ 8-9 อันถือว่าเป็นปี 1 ถ้าเข้าทำงานในราชสำนัก จะได้ยศขั้นอัศวินปราบปีศาจขั้น 3 (ซึ่งยศปราบปีศาจมี 3 ขั้น)
ถ้าขึ้นปี 2 สัญลักษณ์ 4-5 อัน จะเทียบได้กับยศขั้น 1 (ส่วนขั้นสองจะเป็นของผู้ที่เป็นหัวหน้าอัศวินปราบปีศาจขั้น 3)
ปี 3 สัญลักษณ์ 2-3 อัน เทียบขั้นผู้ใช้เวทย์ขั้นต้น
ปี 4 สัญลักษณ์ 1 อัน เทียบขั้นผู้ใช้เวทย์ชั้นสูง
เมื่อไม่มีจำนวนสัญลักษณ์เป็นศูนย์ ตีความได้ 2 ลักษณะคือ ยังไม่ได้รับการฝึก หรือเข้าขั้นจอมเวทย์
สำหรับการจะได้ตำแหน่งตอมเวทย์นั้นต้องเดินทางไปประลองยังสถานที่ที่จัดแยกสายขึ้นเพื่อชิงตำแหน่งจอมเวทย์
ส่วนตราสัญลักษณ์ 6-7 อัน เป็นข้อยกเว้นพิเศษ หมายถึงตำแหน่งผู้นำทุกชั้นปีในสายนั้น ซึ่งผู้ที่จะได้สัญลักษณ์ 6-7 อันจะต้องมีความสามารถพิเศษจริงๆ และได้รับการรับรองจากผู้ดูแลสายซึ่งจะเป็นของสายไหนก็ได้
ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้สัญลักษณ์ 6-7 อันมักจะเป็นพวกปีสาม แต่บางทีก็มีพวกปีหนึ่งบ้าง หากได้รับตำแหน่งนี้ตอนปีหนึ่งมักจะเรียกเป็นการภายในว่าผู้ตรวจการ แต่สำหรับนอกสภาแล้ว ตำแหน่งนี้แม้จะไม่มีบริวารหรือนักเวทย์รับใช้ก็ยังได้รับความเคารพมากกว่าพวกปีสี่ นอกจากนี้ตำแหน่งนี้มักไม่เป็นที่เผยตัว จะใช้จำนวนสัญลักษณ์ต่างๆเหมือนทั่วๆไป และเลือกได้ด้วยว่าจะอยู่สายไหน จึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครเป็นผู้ตรวจการ
ผลการสอบ
ทุกคนสามารถเรียกดูได้ทุกเมื่อ โดยจะมีการประกาศที่ห้องอาหารอย่างละเอียด
สำหรับการนำสัตว์เข้ามา
สามารถทำได้หากไม่ใช่สัตว์ที่หายาก และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
การท้าประลอง
กฏมีอยู่ว่า เมื่อมีการท้าสู้ถ้าได้รับคำท้าแล้ว มีการต่อสู้เกิดขึ้น หากคู่ต่อสู้คนใดคนหนึ่ง หรือทั้งหมด ไม่หลับหรือไม่สลบปางตาย ห้ามระงับการแข่งไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม และห้ามให้มีการตายเกิดขึ้น หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้น ผู้ที่เป็นฝ่ายได้ชัยถือว่ามีความผิดให้ตายตกตามกัน ส่วนผู้ที่เป็นกรรมการผู้คุมต้องถูกกักพลังเวทย์ไปตลอดชีวิตเว้นแต่จะสามารถฟื้นพลังได้ด้วยตัวเองเท่านั้น
***************
ความคิดเห็น