คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เกาะเริ่มต้น 4 : ชาจีนกับการแก้แค้น 1
เกาะเริ่มต้น 4 : ชาจีนกับการแก้แค้น 1
<กฎของการแก้แค้น :: 1.สืบหาข้อมูลศัตรู>
หลังจากที่การต่อสู้จบลง สิ่งที่หลงเหลือคือคราบเลือดและของที่ผู้เล่นสูญเสีย
ชาจีนรู้มาจากเจ้าไข่ว่า เวลาตายนอกจากจะโดนลดระดับ 1 ระดับแล้ว ยังจะต้องสูญเสียไอเทมอีกด้วย ซึ่งส่วนมากไอเทมที่สูญเสียจะเป็นพวกอาวุธซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่าหากขืนตายทุกรอบแล้วเสียของทุกรอบก็คงจะไม่คุ้มสักเท่าไร ทางบริษัทจึงออกกฎแทรกเข้าไปอีกคือ หากถูกสังหารโดยอสูรชั้นราชาหรือผู้เล่นด้วยกัน จะสูญเสียอาวุธและเครื่องป้องกันในครอบครองทันที ไม่ว่าอาวุธนั้นจะทำสัญญากับเจ้าของหรือไม่ก็ตาม คนที่เอาไปส่วนมากจะใช้อาวุธที่ทำสัญญาไม่ได้ แต่สามารถเอาไปขายที่ร้านแล้วโขกราคาแพงๆให้เจ้าของที่ตามมาซื้อคืน ร้องไห้น้ำตาท่วมทุ่ง
นอกจากนี้กรณีถูกผู้เล่นด้วยกันฆ่าตาย นอกจากจะเสียอาวุธและเครื่องป้องกันแล้ว ยังสูญเสียไอเทมที่ถือครองอยู่ครึ่งหนึ่งของกระเป๋าโดยทางระบบจะทำการสุ่มสิ่งของที่ผู้เล่นต้องเสีย ส่วนเงินก็จะหักออกจากกระเป๋าครึ่งหนึ่งเช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าหรือติดตัวผู้เล่นเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสิ่งของที่ฝากไว้ในคลังเก็บของ
ซึ่งชาจีนก็ถามกลับไปว่า ‘อย่างนี้คนทั่วไปก็ไม่ PK กันน่ะสิ’
ซึ่งเจ้าไข่ก็บอกว่า ‘ทำแบบนี้เกมมันจะไปรุ่งได้ไงล่ะ ถ้าอยากจะสู้กับผู้เล่นโดยที่ไม่เสียไอเทมเลย ต้องไปสู้กันที่ลานประลอง แล้วจะไม่เสียอะไรเลยนอกจากค่าประสบการณ์เล็กน้อย’
‘แล้วจะออกกฎแบบนั้นออกมาทำไม’
‘เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเอะอะก็ตีกันเลยน่ะสิ นอกจากทำลายทรัพย์สินโดยรอบแล้ว ยังทำให้เกมดูป่าเถื่อนด้วย’
แต่ดูเหมือนกฎข้อนี้มันจะไม่ค่อยอยู่ในการพิจารณาในการตีของพวกนี้เลย ชาจีนถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกมาจากที่ซ่อน แล้วเริ่มทำการ เก็บของ
ใช่คุณได้ยินไม่ผิดหรอก เริ่มทำการเก็บของนั่นเอง
ชาจีนเป็นพวกขี้งก แม้ว่าครอบครัวของเธอจะถือว่ามีอันจะกินมาก แต่นิสัยนี้มันสันดานเดิมที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่เป็นคนจีน
ชาจีนได้นิสัยตรงนั้นมาเต็มเปา เธองกทุกอย่าง ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง รอบคอบ ดังนั้นไม่ว่าเห็นอะไรที่พอมีค่าถูกทิ้งไว้เธอก็จะไม่รีรอที่จะเก็บ
นอกจากนี้การอ่านหนังสือวรรณกรรม นิยาย หรือไม่ก็หนังสือความรู้ ทำให้เธอค่อนข้างคิดว่า ของที่เก็บอยู่สักวันหนึ่งอาจจะพอมีคุณค่าขึ้นมาก็ได้ เธอจึงไม่ค่อยจะยอมทิ้งของที่ดูเก่าๆแล้ว หรือไม่ก็หมดประโยชน์แล้ว
แม้ว่าจะกลัวๆอยู่ว่าถ้าเกิดคนข้างนอกรู้ว่าการต่อสู้ข้างในสงบลงแล้วจะเดินกลับเข้ามาเห็นเธอเก็บของอยู่ แต่ดูเหมือนคนข้างนอกจะไม่กล้าจะเข้ามาเสี่ยงกับคมดาบของพิทักษ์ธรรมและวิหคลม ทำให้ยังไม่กล้าเข้ามาดูสถานการณ์ในร้านสักที เป็นเหตุให้ชาจีนเก็บของใส่กระเป๋าเป้ได้หมด
แล้วชาจีนก็ได้รับรู้ข้อมูลอีกอย่างว่า ไม่ว่าของจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนแต่เมื่อจับมันยัดใส่กระเป๋าแล้วมันจะย่อส่วนโดยอัตโนมัติเพื่อจะได้เข้าไปอยู่ในกระเป๋าได้อย่างสบาย แถมเมื่อหิ้วแล้วยังไม่รู้สึกหนักอีกต่างหาก หญิงสาวหยิบของใส่จนหมด ของที่ตกอยู่นั้นเรียกว่าเยอะมาก ทำให้ชาจีนชักอยากรู้ซะแล้วว่าเป้ของคนระดับสูงๆมันใส่ได้เท่าไรกันเนี่ย
ความจริงลำพังแค่เป้สำหรับผู้เริ่มต้นของชาจีนไม่มีทางที่จะใส่ของทั้งหมดได้พอ เพราะของที่ตกออกมามีจำนวนเยอะมาก แต่เพราะในบรรดาของเหล่านั้นมี เป้อีกใบหนึ่ง ซึ่งชาจีนไม่ได้รายละเอียดมันเท่าไรนัก เห็นแต่ว่าช่องของมันมีตั้ง 500 ช่องทำให้ชาจีนยิ้มอย่างผ่อนคลาย เธอหยิบของที่เหลือใส่เป้ทันที แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ ลองยกก๋วยเตี๋ยวทั้งชามใส่ลงไปในกระเป๋าที่เธอเพิ่งได้มาพบว่า มันลงไปอยู่อย่างง่ายดายและไม่มีทีท่าว่าจะหกเลย หญิงสาวเลยได้ทีกวาดซาลาเปากับน้ำดื่มมาใส่กระเป๋า
โชคดีที่เธอจ่ายเงินไปแล้ว ไม่งั้นคงจะรู้สึกผิดแย่ถ้าเอาของไปแล้วไม่ได้จ่าย ชาจีนเริ่มมองหาทางหนีทีไล่ เป็นจังหวะที่คนภายนอกเริ่มจะเข้ามาดูข้างในแล้ว หญิงสาวหันหลังไปมองอย่างตกใจ ก่อนสมองจะประมวลผลอย่างเร็วจี๋
เถ้าแก่ร่างอ้วน ค่อยๆแย้มประตูที่ปิดไว้เมื่อตอนเผ่นออกจากร้านเข้ามาข้างใน เมื่อมองเห็นสภาพที่เละเทะของร้านก็แทบจะร้องไห้
“เถ้าแก่ๆ พวกนั้นมันไปกันยัง” เสียงของลูกค้าคนหนึ่งถาม
“อั้วว่าไปเหลี่ยวล่ะ อั้วไม่เห็นใครเลยสักคนเลียว ฮือๆ ร้านอั้ว เละหมดเลี้ยว” เถ้าแก่ตอบพลางหลบให้คนข้างนอกได้เข้ามาข้างใน
“เฮ้ย นึกว่าฆ่ากันตายซะอีก ไหงมันถึงไม่มีไอเทมเลยสักชิ้นว่ะ” เสียงของลูกค้าคนหนึ่งตอบ
“อาจจะมีคนรอดแล้วเก็บไอเทมหนีไปแล้วมั้ง”
“ก็อาจจะใช่ แต่พวกเราก็อยู่กันข้างนอกตลอดเลยนะ ทำไมถึงไม่เห็นมีใครออกไป”
“แกนี่มันไม่รู้อะไร ผู้ชายหน้าตาเถื่อนๆนั่นคือ วิหคลมจากกิลด์จักพรรรดิ์ใต้หล้า เลเวลเขาตั้งเกือบ 60 แล้ว ส่วนอีกสองคนที่เข้าไปหาเรื่องคือ คู่พี่น้อง พิทักษ์บุปผา ที่มีฝีมือพอตัวอยู่ คนพี่เล่นอาชีพนักรบสายเผ่าพันธุ์มังกร ส่วนคนน้องเล่นอาชีพนินจา แค่สามคนนี้ก็มีกำลังพอที่จะออกไปจากที่นี่โดยที่พวกเราไม่รู้ตัวอยู่แล้ว”
“ป่ะ เล่นเผ่นไปกันแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าใครชนะน่ะสิ”
“นั่นสิ แต่ฉันภาวนาให้คู่พี่น้องนั่นชนะ ไอ้เจ้าวิหคลมนั่นมันเลวเกินคนแล้ว”
“ใช่ ไม่มีใครทนสิ่งที่มันทำได้หรอก แต่พวกเรามันก็เป็นแค่น้ำน้อย ไฉนจะไปสู้ไฟได้”
“เฮ้อ... โลกนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนะ”
ผู้เล่นสองคนนั้นพูดกันต่อไป ส่วนชาจีนที่แอบฟังอยู่ก็พลอยจะเข้าใจไปด้วยว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง
ชาจีนนั้นเข้าไปหลบอยู่ที่หลังเคาเตอร์ ที่เข้าออกได้สองด้าน คอยที่จะแทรกออกไปกับผู้เล่นคนอื่นที่กลับเข้ามาในร้าน ชาจีนใช้ความมืดและความบอดของสิ่งของบวกกับการอาศัยหลักจิตวิทยาเล็กน้อยผสมกับดวง ทำให้ผู้เล่นคนอื่นไม่สนใจเท่าไรนัก ส่วนเถ้าแก่ทันทีที่เห็นสภาพร้านอย่างเต็มที่ก็ร้องไห้เป็นน้ำพุ ร้อนถึงเสี่ยวเอ้อร์ต้องคอยปลอบเจ้านาย ทำให้ไม่มีใครมาสนใจบริเวณเคาเตอร์เลย ชาจีนรอให้ผู้เล่นเข้ามากันมากหน่อยก็ค่อยหลบมาอย่างแนบเนียน ทำตัวเป็นไทยมุงอยู่กับกลุ่มฝูงชน
จากนั้นก็หลบออกไปจากกลุ่มอย่างเนียนๆ โชคดีที่คนทั่วไปเอาแต่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้ไม่มีใครมาสนใจชาจีนที่หิ้วเป้มาทำอะไรตั้งสองใบ
หญิงสาวค่อยๆหลบเข้าตรอกเล็กๆที่ไม่มีคน จากนั้นเธอก็ทดลองเอาเป้ที่เธอได้มาตอนเข้าเกมใส่เข้าไปในเป้ที่เพิ่งได้มา เพื่อทดสอบสมมุติฐานบางอย่าง
เมื่อใส่เข้าไปแล้ว เธอก็เหลือเป้แค่ใบเดียว
เมื่อชาจีนลองตรวจสอบสถานะของเป้ดู ปรากฎว่าใช้พื้นที่แค่ช่องเดียวเท่านั้น ทำให้ชาจีนยิ้มแก้มปริเท่านี้ก็แก้ไขปัญหาช่องเก็บไม่พอได้แล้ว
“นี่เจ้า ไปเก็บของเขามาทำไม”
“ก็มันน่าเสียดายนี่” ชาจีนบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมจะต้องเสี่ยงเข้าไปเก็บสิ่งของที่ตกอยู่ด้วย
“เจ้านี่” เจ้าไข่ถอนหายใจ ก่อนจะเลิกถามในสิ่งที่มันไม่น่าจะได้คำตอบ แล้วถามคำถามใหม่ว่า “แล้วเจ้าจะเอายังไงต่อไป”
ชาจีนนิ่งไปสักพัก บอกตามตรงตอนที่เธอเก็บมาไม่ได้คิดจะเอาของพวกนี้ไปทำอะไรเลย คิดแต่ว่าเก็บมาไว้ก่อนก็ดี พอมาให้คิดตอนนี้แล้ว อืม... จะทำยังไงดี
“นี่เจ้า แสดงว่ายังไม่ได้คิดสินะ” เจ้าไข่ถามอย่างรู้สึกหดหู่
“แหะๆ ก็ใช่”
“เฮ้อ สวรรค์ใครใช้ให้ข้ามาเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าเนี่ย” มันพูดอย่างหดหู่ ส่วนชาจีนก็ค้อนมันไปหนึ่งทีในใจ ‘ใครเขาอยากจะอยู่กับเจ้าไข่ปากเสียแบบแกล่ะ เชอะ’
หลังจากคิดอยู่สองนาที สาวน้อยก็ดีดนิ้วดังเปาะ ก่อนจะบอกว่า
“รู้ล่ะ เดี๋ยวพวกเราไปรอที่จุดฟื้นคืนชีพกัน”
เจ้าไข่งง ถามว่า “เจ้าจะไปทำไม... เฮ้ย หรือว่า...”
“ฉันจะไปรอพวกคุณพิทักษ์ธรรมฟื้นไง จะได้คืนอาวุธกับเครื่องป้องกันให้กับเขา”
ถ้าชาจีนเห็นสีหน้าเจ้าไข่ตอนนี้ได้ มันคงเป็นภาพการอ้าปากค้างอึ้งไปแล้วแน่นอน
“เจ้าจะไปคืนให้เขาเอามาฆ่าเจ้าหรือยังไง”
“เฮ้ย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันหมายถึงคุณพิทักษ์ธรรมกับคุณบุปผาสายลมคลั่งต่างหากเล่า นายนี่มันฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดจริงๆ” ชาจีนอธิบายพร้อมกับกัดเจ้าไข่ไปในตัวด้วย
“เออ ข้ามันผิด แล้วเจ้าจะไปคืนอาวุธกับเครื่องป้องกันให้เขาทำไม ไม่อยากได้หรือไง”
“ไอ้อยากได้มันก็อยากได้ แต่ของพวกนี้ยังไงมันก็ไม่ใช่ของฉัน เจ้าของฉันก็เห็นหน้าอยู่ทนโท่แล้วจะยึดไปได้ยังไง อีกอย่างนะ พวกคุณพิทักษ์ธรรม เขาก็พิทักษ์ธรรมสมชื่อจริงๆ กล้าสู้กับคนที่เลเวลสูงกว่าตัวเองตั้งหลายเท่า”
“จะคนดีไปไหนเนี่ย” เจ้าไข่บ่น
“ฉันไม่ใช่คนดีหรอก เจ้าไข่ ฉันแค่สำนึกในความดีเท่านั้น”
“เฮอะ แล้วทำไมถึงไม่คืนอาวุธกับเครื่องป้องกันให้กับเจ้าวิหคลมนั่นด้วยเลยล่ะ”
ชาจีนยิ้มหวาน แม้เจ้าไข่อาจจะไม่เห็น เพราะการมองเห็นของเจ้าไข่ที่อยู่ในช่องไอเทมติดตัวจะเห็นเหมือนกันมุมมองของเธอทำให้ไม่เห็นใบหน้าของชาจีน แต่น้ำเสียงที่ได้ยิน ไม่รู้ทำไมทำให้เจ้าไข่รู้สึกหนาวสันหลังวูบๆ
“ก็เพราะฉันยังไม่ใช่คนดียังไงล่ะ”
คุณคิดว่าในโลกนี้ใครที่ไม่สมควรจะไปหาเรื่องมากที่สุด?
หลายคนคงตอบว่า คงเป็นไอ้นักเลงโตที่มัดกล้ามใหญ่ สูงเป็นยักษ์ปักหลั่น หรือไม่ก็พวกหน้าโหดๆ อย่างมาเฟีย หรืออะไรสารพัดที่คุณจะนึกออกในบรรดาบุคคลที่ทำงานผิดศีลธรรมจรรยา
แต่เราขอเตือนด้วยความหวังดี บุคคลข้างต้นที่คุณนึกถึงไม่ใช่บุคคลที่ไม่ควรจะไปหาเรื่องมากที่สุดหรอก อย่างมากก็เป็นแค่บุคคลที่ไม่ควรไปหาเรื่องธรรมดาสามัญ ส่วนอันดับมากที่สุดน่ะเหรอ...
ก็บุคคลอย่าง ชาลิสา นิวัฒตานนท์ ยังไงล่ะ
ชาจีนมาปักหลักรอการฟื้นคืนชีพที่โรงแรมใกล้ๆกับจุดฟื้นคืนชีพ
จุดฟื้นคืนชีพของเกมคือน้ำพุที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเริ่มต้น แม้จะมีคนเดินออกมาสายน้ำพุอยู่บ่อยๆ แต่บรรยายกาศที่นี่ก็คือว่าโรแมนติกและรมรื่นดี ทำให้บรรดาพ่อค้าต่างมาตั้งร้าน เปิดโรงแรมกันแถบนี้ซะมาก
ค่าห้องของที่นี่คือคืนล่ะ 3000 เหรียญทองแดงต่อคืน ถือว่าขูเลือดขูดเนื้อมาก
แต่เพราะชาจีนดันลาภลอยได้เงินมาจากการต่อสู้ที่ร้านอาหารทำให้ค่าห้องนี่เธอสามารถจ่ายได้อย่างสบาย แม้ว่าจะแอบปาดน้ำตาปอยๆเมื่อเงิน 3000 เหรียญทองแดงลอยจากกระเป๋าไป
เจ้าไข่ส่ายหัว จนใจในความงกของชาจีน
ทันทีที่เข้ามาในห้องพร้อมกับล็อคกุญแจเรียบร้อย ชาจีนก็เริ่มต้นสำรวจสิ่งของที่ตัวเองเก็บมา ตอนแรกรีบเก็บทำให้ชาจีนไม่ทันได้สำรวจไอเทมเท่าไร แต่พอมาเห็นจริงๆแล้วตาแทบจะค้าง สิ่งของที่ได้มานั้นถือว่าคุ้มค่ามาก
“เยอะมาก แล้วดูแต่ละอย่างสิ”
“อ่าหะ” เสียงเจ้าไข่ร้องตามมา “มีทั้งชุดธรรมดา แล้วก็เครื่องป้องกันด้วย”
“ฉันงงกับคำว่าชุดกับเครื่องป้องกันแล้ว แบบไหนถึงเรียกว่าชุดล่ะ”
“ชุดคือเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่ได้อะไรเลยนอกจากความสวยงามไง ส่วนเครื่องป้องกันคือใส่แล้วมีความสามารถมากขึ้น ส่วนมาก เขาจะชอบใส่ชุดแล้วถึงจะใส่เครื่องป้องกัน เพราะมันมีโอกาสที่จะเสียเครื่องป้องกัน พอเกิดใหม่เนื้อตัวก็จะล่อนจ้อนไม่มีอะไรเลยน่ะสิ”
“แต่มันจะมีพวกไอเทมพันธะสัญญาที่จะเป็นกึ่งชุดและเครื่องป้องกัน” เจ้าไข่อธิบายต่อ “ดูอย่างชุดไอเทมชุดเซตนินจานี่สิ อันนี้จะถือว่าเป็นชุดธรรมดาก็ได้ ถ้ามองโดยคนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ทำพันธะสัญญา แต่สำหรับผู้ใส่มันจะมีคุณสมบัติที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้”
“งั้นนี่ก็เป็นชุดที่คุณบุปผาสายลมคลั่งใส่น่ะสิ แล้วแบบนี้เวลาเกิดใหม่ไม่ลำบากเหรอ”
“บริษัทเกมยังไม่อยากจะทำอนาจารนะ” เสียงเจ้าไข่แห้วมา “ถ้าเป็นผู้หญิงส่วนมาจะมีชุดให้เปลี่ยนตอนรอฟื้นคืนชีพ แต่กับผู้ชายมันไม่ใช่ เฮ้อ... โลกนี้ช่างโหดร้ายกับชายหนุ่มตาดำๆแบบข้าจริงๆ”
“แหม เจ้าไข่ ฉันน่ะว่านายอาจจะไม่ใช่ตัวผู้ก็ได้นะ คิกๆ ก็แหมตอนนี้นายยังอยู่ในไข่ ไม่แน่ว่า ถ้าฝักออกมาบริษัทเกมอาจจะให้นายเป็นผู้หญิงก็ได้” ชาจีนกัดมันกลับ
“เฮ้ย เจ้าจะบ้าหรือยังไง ข้าน่ะชายทั้งแท่งนะ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้คิดอะไรประหลาดแบบนี้ทุกคนเลยหรือยังไง”
ชาจีนลอยหน้าลอยตา ตอบอย่างสุดกวนว่า “ไม่รู้สิ เดี๋ยวนี้ผู้ชายหายากจะตาย มีแต่ชายครึ่งหญิงครึ่ง โลกสมัยนี้อะไรมันก็เป็นไปได้หมดแหละ”
“ว่าแต่เมื่อไรนายจะฝักเป็นตัวสักทีอ่ะ” ชาจีนบ่น “ฉันไม่อยากเป็นคนบ้าคุยกับไข่นะ”
“ไม่รู้เฟ้ย” เสียงเจ้าไข่ตอบกลับมา “ข้ารู้สึกว่ามองเจ้าผิดไปชาจีน เจ้าไม่เห็นจะดูเรียบร้อยตรงไหนเลย” เจ้าไข่บ่นกลับมา ตอนแรกมันเห็นหน้าชาจีน มันคิดว่าเจ้านายของมันอาจจะเป็นแค่สาวน้อยธรรมดาที่ฆ่าไม่ได้แม้กระทั่งมอนเตอร์สักตัวเลย
“ตรงไหนล่ะ ที่นายว่าฉันไม่เรียบร้อย”
“ตรงคำพูดกับท่าทางของเจ้าน่ะสิ เฮ้อออ เหมือนกับน้องสาวข้าไม่มีผิด ชอบกวนประสาทชาวบ้าน”
“คิกๆ เพิ่งรู้นะว่านายมีน้องสาวด้วย ว่าแต่คนอื่นนายเองก็เหมือนกันแหละ ไม่เห็นจะน่ารักเหมือนเจ้าไข่ใบเล็กที่ฉันได้มาเลย พูดมาก แถมชอบด่าด้วย”
“ก็เจ้ามันโง่”
“เอ้า!! ตะกี้ยังว่าฉันกวนประสาทอยู่เลย เป็นเจ้าไข่ที่อารมณ์แปรปรวนดีจัง อิอิ” ชาจีนหัวเราะ
“ช่างข้าสิ แล้วเจ้าจะทำไงต่อ ของที่เจ้าเอามามันไม่ใช่ของที่เจ้าจะใช้ได้เลยนะ”
“ไม่รู้สิ คงต้องรอพวกคุณพิทักษ์ธรรมฟื้นก่อนล่ะมั้ง อ่ะ จริงด้วย ฉันยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย” หญิงสาวว่า ก่อนจะหยิบก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ออกมาจากเป้ใบใหม่ของเธอ
หลังจากจัดการกับก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่เสร็จ เธอก็กลับมาสนใจไอเทมอีกที สิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดคือชุดสายลมพริ้มพราย ที่เป็นไอเทมพันธะสัญญา แต่ยังไม่มีใครทำพันธะสัญญาด้วย
“ไอ้นี่สวยจังเลยเนอะ ว่าไหม”
“อือ” เจ้าไข่อดเห็นด้วยไม่ได้ ชุดสายลมพริ้มพราย เป็นชุดคลายกับชุดของนางฟ้าชาวจีน มีสีเขียวอ่อนๆ ยิ่งมองใกล้ๆเหมือนจะเห็นพลังของสายลมอ่อนๆที่พัดผ่านมา ให้ความรู้สึกสดชื่น
“มันทำอะไรได้บ้างล่ะเนี่ย”
“ถ้าเจ้าอยากรู้ เจ้าก็ลองเอานาฬิกาข้อมือไปแตะกับตัวเสื้อ กดปุ่มที่ใช้แสดงสถานะของเจ้าค้างไว้ มันจะตรวจสอบข้อมูลของชุดเอง ความจริงเรื่องนี้มันก็มีบอกไว้ในคู่มือเกมนะ หัดอ่านหน่อยสิ” เจ้าไข่อธิบายพลางด่าไปด้วย
“จ้า จ้า” ชาจีนขี้เกียจเถียงต่อ เธอทำตามที่เจ้าไข่บอก หลังจากนั้นก็มีจอสีใสๆ ขนาดประมาณเอสี่ได้ แสดงรายละเอียดเหนือหน้าจอนาฬิกาข้อมือ มันเขียนไว้ว่า
ชุดสายลมพริ้มพราย
ชุดที่ได้มาจากถ้ำสายลมสลาตัน ทำจากผ้าชั้นดีต่างๆ 25 ชนิด เป็นชุดที่จะเลือกผู้สวมใส่ด้วยตัวของมันเอง
คุณสมบัติ
-หลังจากทำพันธะสัญญาแล้ว จะเพิ่มพลังให้กับผู้เล่นตามความสามารถของผู้เล่น
-เป็นชุดที่หลังจากทำพันธะสัญญาแล้วจะติดตัวผู้เล่นตลอด ไม่สามารถถอดได้ แต่สามารถล่องหนหายตัวเหมือนไม่ได้สวมได้ ชุดนี้สามารถใส่เสื้อตัวอื่นปิดทับได้ แต่เวลาที่ใช้คุณสมบัติพิเศษของชุด จะแสดงร่างชุดออกมา
-คุณสมบัตอื่นๆยังไม่เปิดเผย
“โอ้ ไอเทมระดับแรร์เลยนะเนี่ย” เจ้าไข่อุทาน
“จริงอ่ะ แล้วไอ้ความหมายของคำว่าเลือกผู้ใส่เองมันหมายความว่ายังไง” ชาจีนถามเจ้าไข่ พลางพลิกดูชุดไปมา
“ชุดแบบนี้เป็นพวกช่างเลือกยังไงล่ะ เพราะถ้าคุณสมบัติไม่ถูกใจมัน ก็อย่าหวังว่าจะทำพันธะสัญญาได้ แต่ถ้าทำพันธะสัญญาได้ มันจะอยู่ติดตัวตลอดเวลา ยกตัวอย่าง ไอเทมที่เจ้าเก็บได้ มีพวกไอเทมพันธะสัญญาอยู่ด้วยใช่ไหมล่ะ ไอเทมพวกนี้แม้จะขายหรือโอนไม่ได้ แต่เวลาสู้กับผู้เล่นหรือสัตว์อสูรระดับราชา ถ้าเกิดตาย มันจะหลุดจากตัวผู้เล่นโดยอัตโนมัติยังไงล่ะ แต่ถ้าเป็นชุดแบบพวกเรื่องมากนี่ ต่อให้เจ้าตายสักกี่ล้านรอบ มันก็ยังอยู่ติดตัวเจ้าไปตลอด ไม่หลุดหายไปไหน” เจ้าไข่อธิบายรวดเดียว ก่อนจะสูดหายใจเข้าเพื่ออธิบายต่ออีกว่า “แต่ชุดพวกนี้มีข้อเสีย ตรงที่ว่ามันอัพเกรดหรือเพิ่มคุณสมบัติอีกไม่ได้ นอกจากคุณสมบัติที่มันให้มา”
“แต่แค่คุณสมบัติที่มันให้มาก็ยอดแล้วนะ”
“อย่ามองโลกในแง่ดี ชาจีน มันไม่ได้ดีอย่างที่เจ้าคิด” เจ้าไข่ตอบกลับมา
ชาจีนไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอเอานาฬิกาขึ้นมาดูเวลา เวลาที่เกิดเรื่องเป็นเวลาเกือบทุ่ม ถ้าคำนวนตามเวลาในเกม จะต้องรอถึงประมาณตีหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเธอไม่อยากจะนั่งตาค้างรอนานขนาดนั้น
“นี่เจ้าไข่” ชาจีนเรียกเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากในเกมอีกรอบหลังจากเงียบไปสักครู่
“อะไร”
“ตอนนี้ สองทุ่มครึ่ง ยังต้องรออีกหลายชั่วโมง คิดว่าจะทำอะไรดี”
“ข้าจะไปรู้กับเจ้าหรือยังไง”
“แต่ฉันรู้แล้ว ในตำราพิชัยยุทธ เขาว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ชาจีนเริ่มต้น “ฉันว่าการที่เราจะแก้แค้นเจ้าสี่คนนั่น เฮ้ยไม่ใช่... เขาเรียกว่าการผดุงความยุติธรรมสำหรับแก่ผู้เล่น มันคงจะต้องหาข้อมูลของศัตรูก่อน ว่าไหม?”
“นี่เจ้าจะเอาจริงใช่ไหมเนี่ย” เจ้าไข่ถอนหายใจ “อย่าซ่าส์ให้มันมากไปชาจีน เจ้าเพิ่งจะเริ่มเล่นเกมได้ไม่กี่ชั่วโมง ระดับเลเวลแค่ 4 เองนะ”
“มันก็จริงอย่างที่นายว่านั่นแหละ แต่ฉันไม่ชอบไอ้พวกที่เกิดมาหาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น อีกอย่างนะ สุภาษิตประจำตระกูลฉันคือ บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ หึหึ” ชาจีนหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ฉันเกลียดความอยุติธรรมทั้งปวง ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์พวกมันเอง”
“...” ไร้การตอบรับจากเจ้าไข่ คาดว่าถ้ามันมาอยู่ตรงนี้ คงนั่งกุมขมับให้แก่เจ้าของสโลแกนตัวแทนแห่งดวงจันทร์ เป็นแน่แท้ “แล้วเจ้าจะทำยังไง แค่ระดับก็สู้กันไม่ได้แล้ว หรือจะสู้กันด้วยสมอง” เจ้าไข่ถามอย่างหมดแรง
“สมองฉันก็สู้ไม่ได้หรอก ฉันไม่ฉลาดเท่าไร” ชาจีนยักไหล่อย่างไม่สนใจ
“เฮ้ย แล้วจะเอาอะไรไปสู้กับเขากัน”
ชาจีนยิ้มหวานอีกรอบ “ก็หนังสือไง”
“หา” เจ้าไข่อุทานอย่างงงงวย มันไปเกี่ยวอะไรกับหนังสือได้ไงกันล่ะเนี่ย
“นายนี่ท่าจะเป็นพวกที่ติดคอมพิวเตอร์เน็ตนะ แต่บังเอิญฉันไม่ใช่” หญิงสาวตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “แต่ก่อนจะถึงขั้นใช้หนังสือเป็นอาวุธ เกมนี้มันมีช่องสื่อสารสากลไหม หรือไม่ก็พวกบอร์ดประกาศข่าวของพวกผู้เล่นอ่ะ”
“ไอ้มันจะมีก็มีล่ะนะ กดช่องสื่อสาร แล้วกดลูกศรลง มันจะมีให้เลือกแบบการติดต่อ ให้กดที่ช่องสื่อสารสากล”
“ได้ล่ะ”
ทันทีที่ชาจีนกดเลือก ก็ปรากฎหน้าจอสีฟ้าขึ้นมาตรงหน้า ขนาดประมาณเอสี่ได้ หน้าจอนั้นเป็นหน้าต่างของห้องแชท มีผู้คนออนไลน์ทั่วทุกที่หลายล้านคน หญิงสาวลองกดไปกดมา ในที่สุดก็จำกัดวงให้แคบได้แค่เกาะเริ่มต้น ซึ่งทำให้หน้าจอดูลดความจดแจไปบ้าง
แม้จะมีคนอยู่น้อย แต่ก็ยังมีคนพูดคุยกันอย่างคึกคัก แม้จะเป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆประมาณ 5 คน หน้าจอนั้นมีตัวอักษรขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนวิธีการที่จะพิมพ์ตัวอักษรเข้าไปนั้น แค่กดเลื่อนปุ่มมากดที่ปุ่มคีย์บอร์ด ก็จะปรากฎคีย์บอร์ดให้พิมพ์ข้อความลงไป คล้ายๆกับคอมพิวเตอร์ในสมัยก่อน แต่ทันสมัยและพกพาได้ง่ายกว่า หรือจะให้โหมดที่แปลงจากข้อความเสียงเป็นตัวอักษรก็ได้ ถ้าขี้เกียจพิมพ์
ชาจีนจ้องมองหัวข้อไปเรื่อยๆ มือบางวางบนแป้นพิมพ์ราวกับจะหาจังหวะที่จะแทรกเข้าไปเหมาะๆ
“นี่ๆ คำเมือง รู้หรือเปล่า เมื่อตอนหัวค่ำ มีคนตีกันล่ะ” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“ไม่รู้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“เอ่อ มีเรื่องอะไรกันหรือคะ?” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“อ้าว นี่ไม่รู้เหรอ เอ๋ๆ ฉันไม่เคยเห็นเธอเลยนะ ผู้เล่นใหม่เหรอ” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“ค่ะ ^^ ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันหรือคะ? ตอนหัวค่ำฉันเพิ่งโดนสัตว์อสูรฆ่าตาย เพิ่งจะออกจากห้องฟื้นคืนชีพไม่นานเองค่ะ” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“ก็จะอะไรซะอีกล่ะ ก็คู่พี่น้องพิทักษ์บุปผา ไปหาเรื่องกับพวกกิลด์จักรรพรรดิใต้หล้าน่ะสิ แถมยังเป็นถึงหัวหน้าหน่วยเมืองเริ่มต้น วิหคลมอีกต่างหาก” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“จริงป่ะ ข้ารู้แต่ว่าไปหาเรื่องกับกิลด์จักรพรรดิใต้หล้า นึกไม่ถึงว่าจะไปหาเรื่องวิหคลมนะเนี่ย” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“เอ่อ กิลด์จักรพรรดิใต้หล้านี่ดังมากเลยหรอคะ?” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“อ้าวๆ ไม่รู้จักกิลด์จักรพรรดิใต้หล้าเหรอ” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“ไม่รู้เลยค่ะ แหะๆ เพิ่งเล่นได้ไม่นานเองค่ะ ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาด้วย” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“อ่า... งั้นเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเอง เฮ้ยๆ มาแนะนำตัวกันก่อนดีป่ะพวกเรา” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“ดีเหมือนกัน ผมชื่อลูกลิงน้อย เรียกว่าลิงเฉยๆก็ได้ครับ” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“ฉันวาดนภาจ้า เลเวล 15 เพิ่งเล่นได้ไม่นานเหมือนกัน ^^” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“ข้าชื่อคำเมือง ยินดีที่ได้รู้จัก” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“ผมชื่อ Kinza เรียกว่าคินก็ได้ฮับ เฮ้ยๆ ไอน่าๆ มาแนะนำตัวกันหน่อยดิ” <เกาะเริ่มต้น>
“ฉันไอน่า” <เกาะเริ่มต้น> ไอน่า
“555+ อย่าไปถือสาไอน่านะ ไอน่าไม่ค่อยพูดน่ะ” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“ฉันชื่อชาจีนค่ะ เพิ่งเล่นได้สองวันค่ะ แหะๆ ทุกคนเล่นกันมานานแล้วเหรอคะ” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“ไม่เท่าไรหรอก ผมกับไอ้ลิงน้อยเล่นค่อนข้างนานกว่าอีกสามคนที่เหลือน่ะ แต่พวกเราเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกันหมด ก็เลยสนิทกัน แล้วก็มาป่วนห้องแชทในเกาะเริ่มต้นนี่แหละ ความจริงผม ลิง แล้วก็คำเมือง ได้อาชีพกันหมดแล้ว ตอนนี้รอพวกสองสาวได้อาชีพกันน่ะ เลยยังไม่ไปไหนจากเกาะเริ่มต้นสักที” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“ก็ใครใช้ให้พวกนายเล่นก่อนพวกฉันล่ะ เชอะ” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“55+ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็อายุมากกว่าสินะค่ะ ชาเพิ่งจะเรียนมหาลัยปีสองเอง ขอเรียกทุกคนว่าพี่จะได้ไหมคะ?” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“ได้เลยครับ ^_^” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“แหมๆ อยู่ๆก็ได้น้องสาว ปลื้มจัง >< เนอะไอน่า” วาดนภา
“อือ” <เกาะเริ่มต้น> ไอน่า
“55+ ว่าแต่น้องชาจีน อยากรู้เรื่องอะไรบ้างล่ะ เดี๋ยวพวกพี่ช่วยตอบ” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“ก็อยากรู้ว่ากิลด์ในเกมนี้มีกิลด์อะไรบ้างหรือคะ?”
“อ้อ ในเกมนี้นะ ก็มีอยู่หลายกิลด์แหละ ขอแค่มีคนครบ 100 คนก็ตั้งกิลด์เองได้แล้วล่ะ” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“แต่กิลด์เด่นๆก็มีอยู่ไม่กี่กิลด์” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“มีกิลด์อะไรบ้างคะ?” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“จักรพรรดิใต้หล้า” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“เมฆาสวรรค์” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“สกายด์แอนด์ซัน Sky&Sun มีแค่สามกิลด์นี้แหละที่ดังๆ” Kinza
“แต่กิลด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้าย มีแค่กิลด์เดียว คือ...” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“จักรพรรดิใต้หล้า” <เกาเริ่มต้น> ไอน่า
“โหดมากเลยหรือคะ” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“มาก อย่าเรื่องหนนี้ที่คู่พี่น้องพิทักษ์บุปผาไปหาเรื่องก็เพราะเหตุนี้แหละ ว่าแต่ รู้จักคู่พี่น้องพิทักษ์บุปผาไหมเนี่ย” Kinza
“ไม่เลยค่ะ พวกเขาเป็นใครหรือคะ?” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“คู่พี่น้องที่ขึ้นชื่อเรื่องความยุติธรรม มีชื่อเสียงมากในทวีปหลัก อ้อ ที่เราอยู่ตอนนี้น่ะเขาเรียกว่าทวีปน้อยนะ มีแค่เกาะเริ่มต้นแค่เกาะเดียว แต่ถ้าเข้าไปในทวีปหลัก จะมีอยู่ทั้งสิ้น 6 เกาะจ้า” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“รวมทั้งหมดก็เป็น 7 เกาะมหาสมุทร ว่ากันว่า ในแต่ละเกาะจะมีปริศนาให้ไขเพื่อหาคำตอบ แห่งโลกครีเชอร์ด้วย” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“เอาเป็นว่า คู่พี่น้องคู่นี้ แม้จะอยู่แค่ระดับ 30 กว่าๆ แต่สามารถสู้กับคนที่มีระดับเหนือตัวเองได้อย่างสูสีเลยทีเดียว เป็นพี่น้องที่มีทักษะในการต่อสู้สูงมาก ไม่ว่าต่อสู้เป็นทีม หรือต่อสู้แบบเดียวก็เก่งกาจมาก” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“คนพี่ชื่อ พิทักษ์ธรรม ส่วนคนน้องชื่อ บุปผาสายลมคลั่ง เป็นผู้ที่รักและผดุงความยุติธรรมอย่างแท้จริง” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“แล้วพวกเขาไปหาเรื่องอะไรกับกิลด์จักรพรรดิใต้หล้าหรือคะ” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“เพราะพวกกิลด์จักรพรรดิใต้หล้า หลอกพวกสัตว์อสูรระดับราชามาฆ่าพวกผู้เล่นใหม่ หรือผู้เล่นที่มีระดับต่ำ เพื่อที่จะเก็บไอเทมเวลาที่คนพวกนั้นตายน่ะสิ” <เกาะเริ่มต้น> ไอน่า
“โหยๆ ไอน่า ใจเย็นนนนนนนน” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“ไอน่าน่ะ เคยโดนพวกกิลด์จักรพรรดิใต้หล้าเล่นงาน จนไปเข้าเฝ้าห้องพื้นคืนชีพน่ะ ตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มเล่นเอง แล้วพวกพี่เองก็ดันลืมไอน่าไว้ในป่าเริ่มต้น” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“เพราะนายแหละ ไอน่าถึงเป็นแบบนี้ ไอ้ชั่ว” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“เจ้านี่ช่างชั่วจริงๆคิน” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“นั่นสิ” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“ว๊ากก อะไรเนี่ย ไหงมารุมฉันหมดแบบนี้” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“555+” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“ไม่มีใครชอบกิลด์จักรพรรดิใต้กล้าหรอก แต่ก็ว่าแหละ คนที่มันมีสันดานเลวๆมันก็มีอยู่นะ เฮ้อ” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“แล้วสรุปแล้วใครชนะล่ะคะ ระหว่างคู่พี่น้องพิทักษ์บุปผากับกิลด์จักรพรรดิใต้หล้า” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“ไม่มีใครรู้หรอก มันประหลาดมาก คือหลังจากที่เสียงการต่อสู้สงบ พอเปิดประตูเข้าไปแล้วก็ไม่เหลืออะไรในนั้นเลย มีแค่คราบเลือดเป็นกอง แต่ไม่รู้ว่าใครชนะ ไอเทมที่ควรตกไว้ก็ไม่มี” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“เจ้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเหรอ ลิง” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“ก็ใช่น่ะสิ ผมกับคินรอพวกสองสาวทั้งหลายไปรับภารกิจ แล้วก็บังเอิญเจอเรื่องพอดี” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“แล้วทำไมไม่เล่าให้ฟังตั้งแต่แรกวะ” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“ก็กำลังจะเล่านี่ไง ว่าแต่ตั้งแต่หัวค่ำหายหัวไปไหน คำเมือง” <เกาะเริ่มต้น> ลูกลิงน้อย
“ไปทำภารกิจอยู่ - - ข้ากำลังจะกลับไปแล้วตอนนี้น่าจะใกล้ถึงเมืองแล้ว” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“แล้วพี่คำเมืองไม่ได้อยู่ด้วยกันกับพี่คินหรือคะ?” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“เปล่า ข้าไปทำภารกิจอยู่” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“ไอ้คำเมืองนะ หายหัวไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ไม่บอกกันก่อนด้วยว่าจะไปไหน แถมยังปิดระบบสื่อสารด้วย” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“โทษที มันเป็นภารกิจที่ต้องรีบทำและใช้สมาธิมากด้วย นี่เสร็จแล้ว พวกเจ้ารออยู่ไหนกัน” <เกาะเริ่มต้น> คำเมือง
“อยู่ที่ลานน้ำพุ” <เกาะเริ่มต้น> ไอน่า
“จริงสิ น้อชาจีน มาแลกชื่อเป็นเพื่อนกันไหม เพื่ออยากรู้อะไรจะได้มาถามกันได้ ส่วนใหญ่ถ้ายังไม่ออกจากเกาะเริ่มต้น พวกพี่ก็สิงกันอยู่ที่แชทของช่องสื่อสารสากลนี่แหละจ้า ^^” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
หลังจากที่ทั้งหมดแลกชื่อกันเสร็จ ชาจีนก็อยู่ถามรายละเอียดของกิลด์ต่างๆ จนประมาณเที่ยงคืน สหายทั้งห้าก็ขอตัวไปทำภารกิจของไอน่าและวาดนภา
“น้องชาจีนไม่ไปกับพวกพี่เหรอ เพิ่งเลเวล 4 เอง ไปเก็บระดับเลเวลด้วยกัน” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“แหะๆ ชารอให้ไข่ของชาฟักอยู่ค่ะ เดี๋ยวถ้ามันฟักเป็นตัวแล้วจะติดต่อไปนะค่ะ ^^” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
“เอางั้นก็ได้นะ งั้นพวกพี่ไปก่อนล่ะ เฮ้อ ภารกิจบ้าอะไรก็ไม่รู้ ให้ไปทำตอนเที่ยงคืน ง่วงตาย” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“อย่าบ่นนายคิน เดี๋ยวเจอฝ่ามืออรหันต์ซะนี่ นายอยู่ข้างๆฉันนะ” <เกาะเริ่มต้น> วาดนภา
“คร้าบๆ ไม่บ่นแล้วคร้าบบบ ไปก่อนนะชาจีน” <เกาะเริ่มต้น> Kinza
“บายค่ะ ^^” <เกาะเริ่มต้น> ชาจีน
หลังจากที่ช่องสื่อสารสากลเงียบไป ก็ไม่มีการอัพเดทอะไรอีก ดูท่าที่พวกห้าสหายบอกว่าเป็นเจ้าของช่องสื่อสารสากลในเกาะเริ่มต้นก็ไม่ใช่การโม้
“นี่ เจ้าคิดจะทำอะไรกันเนี่ย” เสียงกวนๆของเจ้าไข่ลอยมา
“ก็หาข้อมูลไง ถ้าอยากได้ข้อมูลถามจากผู้เล่นด้วยกันน่ะ มันได้อะไรที่ดีกว่าไปถาม GMแบบนายนะ แถมยังได้เพื่อนๆมาอีกด้วย” ชาจีนตอบพลางหยิบสมุดจดที่ซื้อจากพ่อค้าหน้าโรงแรมก่อนจะเข้าเช็คอินในโรงแรมขึ้นมาจดข้อมูลที่ได้
มาจากห้าสหาย
ตำนานเทพธิดาแห่งความแค้น กำลังจะเริ่มต้นแล้ว...
...............................................................................................................
ลองปรับขนาดตัวอักษรค่ะ คงทำให้อ่านง่ายขึ้นนะค่ะ ^^ ขอให้อ่านให้สนุกนะค่ะ ><
ความคิดเห็น