คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เกาะเริ่มต้น 3 : ชาจีนกับประสบการณ์การออนไลน์ครั้งแรก 3
เกาะเริ่มต้น 3 : ชาจีนกับประสบการณ์การออนไลน์ครั้งแรก 3
การตาย,ฟื้นคืนชีพและหนี้แค้น
“รีบหนีเร็ววววววววววววววววววว” เสียงตะโกนของเจ้าไข่เรียกสติของชาจีนกลับคืนมาได้ แต่ก็เกือบจะสายเกินไปเมื่อกรงเล็บของราชาสุนัชป่าจันทราวาดวืดลงมา
วืดดดด
ชาจีนกระโดดหลบทันได้อย่างหน้าวาดเสียว ปอยผมเล็กที่โดนมันเฉี่ยวเอาเรียกความกลัวขึ้นมาจากขุมนรกลึกสุด หญิงสาวกอดตะกร้าที่มีเจ้าไข่สองใบ แล้วหันหลังวิ่งหนีเอาตัวรอดทันที
“หลบซ้าย” เสียงเจ้าไข่ร้องบอก ชาจีนรีบหลบไปทางซ้ายทันที รอดพ้นจากพญามัจจุราชไปได้ทันท่วงที แต่หายนะใช่จะพ้นไป ชาจีนนั้นถ้าเป็นเรื่องของทักษะด้านกีฬาแล้ว เธอจะเสียเปรียบอย่างมาก เพราะเธอมีร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไร ถ้าเทียบกับคนอื่น เช่นคนทั่วไปวิ่งสองรอบรู้สึกเหนื่อยธรรมดา สองรอบของชาจีนก็คือเหนื่อยโคตร
และเกมครีเชอร์นี้ จะจำลองค่าทักษะ ความคงทนของสภาพร่างกายในเกมจากความเป็นจริง ดังนั้นคงไม่ต้องบอกเลยว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นรองแค่ไหน ยิ่งชาจีนต้องอุ้มเจ้าไข่สองใบนี่ด้วยแล้วทำให้เป็นการลำบากมากขึ้น
“แฮ่กๆ” หญิงสาวหอบหัก สปีดความเร็วเริ่มจะลดลงตามลำดับ ซึ่งเจ้าไข่เองก็รับรู้ได้แล้วเช่นกัน มันออกคำสั่งทันทีว่า
“รีบเอาตะกร้าใส่ไปในช่องไอเทมติดตัวเร็วเข้า นอกจากเจ้าจะวิ่งได้ไวขึ้นแล้วข้าก็จะปลอดภัยด้วย”
แม้จะสงสัยว่าทำแบบนั้นได้ด้วยหรือยังไง แต่ยังไงก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว “ต้องทำยังไงล่ะ ฉันไม่เคยเก็บของติดตัวเองเลยนะ ถ้าเก็บธรรมดาแล้วมันจะอยู่ได้ยังไง เจ้าไข่ นายใบใหญ่กว่าฉันอีกนะ”
“ข้าให้เก็บธรรมดาซะทีไหน อีกอย่างไอเทมติดตัวมันคือ... เฮ้ยมันมาแล้ว เลี้ยวขวา ว้ากกกกกกกกกกกกกกกก เลี้ยวด่วนเลย” เจ้าไข่ร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าราชาสุนัชวิ่งมาทันแบบชนิดประชิดติดตัว
เคราะห์ดีที่ชาจีนเลี้ยวหลบทันได้อย่างหวุดหวิดชนิดที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่เชื่อว่ารอดมาได้ยังไง แต่เจ้าราชาสุนัชที่เสียหลักไปหลายก้าว ก็ช่วยให้พอทิ้งระยะห่างให้หายใจหายคอได้บ้าง
“เจ้าไม่ต้องถามอะไรแล้ว รีบเอามือข้างที่ใส่นาฬิกาผู้เล่นมาใกล้ๆกับตะกร้า แล้วกดปุ่มภารกิจค้างไว้ จากนั้นรอมันเรืองแสง แล้วพูดว่า เก็บติดตัว”
ชาจีนทำตามที่เจ้าไข่บอก เมื่อนาฬิกาเรืองแสง ชาจีนรีบพูดทันทีว่า “เก็บติดตัว”
ตะกร้าวางไข่หายแวบเข้าไปในเสื้อของเธอ เสียงของเจ้าไข่ดังออกมาว่า “ดีมาก รีบเผ่นกันได้แล้ว”
แม้จะยังงงๆอยู่ แต่ยังไงซะตอนนี้การเผ่นเอาชีวิตรอดมันสำคัญกว่า
ชาจีนตั้งตนวิ่งอีกรอบ เสียงร้องของเจ้าราชาสุนัชจันทราวิ่งไล่มาและคงจะตามมาถึงในไม่ช้า
“เจ้าไข่ ฉันวิ่งกลับเข้าเมืองได้ไหม”
“ได้ แต่มันจะตามเจ้าเข้าไปด้วย ทีนี้เมืองเริ่มต้นได้บรรลัยแน่”
ชาจีนอ้าปากค้างจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย หญิงสาวรีบเปลี่ยนเส้นทางจากจะวิ่งเข้าเมืองเป็นเลาะไปใกล้ๆแถวเขตเมืองแทน หวังว่าจะมีผู้เล่นสักคนมาช่วยเหลือเธอบ้าง แต่ต่อให้มีก็คงเป็นพวกมือใหม่ที่คงจะไม่แส่มาหาเรื่องตายตรงนี้หรอก
“แย่ละมันจะทันแล้ว เจ้ามีดาบอยู่ใช่ไหม รีบหยิบออกมาเร็วเข้า”
“จะบ้าหรือไง ฉันสู้มันไม่ไหวหรอกนะ” เธอไม่ใช่ตัวเอกเหมือนในหนังสือที่เธอชอบอ่านนะ จะได้ทักษะพิเศษมาต่อสู้ด้วย เธอมันคนธรรมดาของแท้เลยล่ะ
“ก็ดีกว่ายอมแพ้ตรงนี้แล้วโดนมันฆ่าตาย โดยที่ไม่ทำอะไรเลย”
เสียงของเจ้าไข่ลอยสวนกลับมา ทำให้ชาจีนกัดฟัดกรอด หยิบดาบที่พกติดตัวขึ้นมา หันหลังไปเผชิญหน้ากับราชาของป่าเริ่มต้น ปรากฎว่า โชคหรืออะไรไม่ทราบดลบันดาลมันตามมาทันเธอพอดีและอยู่ประชิดติดตัวเธออีกต่างหาก มันเงือมมือหมายจะตะปปในชาจีนตายในครั้งเดียว แต่นั่นทำให้มันพลาดไป เพราะชาจีนเป็นคนที่รูปร่างเล็กยิ่งเมื่ออยู่ติดกับร่างที่สูงใหญ่แบบนี้ ทำให้โจมตีได้ง่าย และชาจีนก็ใช้สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดแทงดาบเข้าไปที่กลางหน้าอกของราชาสุนัชป่าจันทราทันทีก่อนที่กรงเล็บของมันจะโดนตัวเธอเพียงเสี้ยววินาที
กรงเล็บของมันชะงักค้าง เสียงเจ้าไข่ลอยมากระทบประสาทที่ค้างแข็งไปแล้วของชาจีนในตื่นขึ้น
“จังหวะนี่แหละ รีบหนีเร็ว”
ชาจีนดึงดาบออกจากตัวของราชาสุนัชป่าจันทรา เลือดสีแดงกระเซ็นเต็มหน้า พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนของสุนัชป่าจันทรา
หญิงสาวรีบเรียกสติกลับมา พร้อมกับหันหลังวิ่งอีกรอบหนึ่ง ระหว่างนั้น เสียงระบบก็ประกาศว่า
ผู้เล่นชาจีน ปฎิบัติตามเงื่อนไขลุล่วง ได้รับทักษะเริ่มต้นทักษะใหม่ ได้แก่ ทักษะแทงระดับ 1 ทักษะหลบหลีกระดับ 1 ทักษะเคลื่อนที่ระดับ 1
จะมาประกาศทำหอยอะไรตอนนี้ฟระ ตรูจะตายอยู่แล้วเนี่ย ชาจีนแทบจะร้องไห้พราก ขณะที่วิ่งต่อ ส่วนเจ้าราชาสุนัชป่า ที่ดูเหมือนจะโดนจุดสำคัญเข้าไปจังๆ ก็ไม่ตายสมกับตำแหน่งราชา ดูเหมือนมันจะแค้นยิ่งกว่าเก่ายิ่งอยู่ใสสถานะคลั่งแล้ว ยิ่งแล้วใหญ่ มันไม่สนความเจ็บปวด เข้ามาโจมตีชาจีนที่เพิ่งวิ่งหนีไปได้แค่หน่อยเดียวอย่างโกรธจัด เจ้าไข่ร้องเตือนอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าเจ้าราชาสุนัชป่าจันทราจะตั้งตนได้เร็วขนาดนี้
“ระวังงงงงงงงงงงง”
แต่สายไปเสียแล้ว กรงเล็บของราชาสุนัชป่าโดนเข้าที่หลังของชาจีนแบบเต็มแรง
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ชาจีนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเจียนตาย ก่อนที่ร่างของเธอจะแตกสลายกลายเป็นประกายสีขาวระยิบระยับ
สติของชาจีนค่อยๆกลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง สิ่งแรกที่เธอรู้สึกคือความเจ็บปวดที่แสนสาหัสเกินคำบรรยาย
“เจ็บ” หญิงสาวบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะยันตัวขึ้นจากพื้นหินอ่อนเย็นๆ ที่พอจะช่วยทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้บ้าง ความเจ็บปวดจากกรงเล็บของราชาสุนัชป่าจันทรายังคงติดตราตรึงอยู่จนถึงตอนนี้
ผู้เล่นชาจีน ถูกราชาสุนัชป่าจันทรา สังหาร ระดับเลเวลลดลงจากระดับ 5 เป็น 4 สูญเสียดาบมือใหม่ระดับเลเวล 1 ต้องรอฟื้นคืนชีพในเวลาเกมอีก 6 ชม. เนื่องจากผู้เล่นเพิ่งเสียชีวิตเป็นครั้งแรก ระบบจึงลดเวลารอฟื้นคืนชีพเป็น 4 ชม. ค่ะ ระหว่างนี้ผู้เล่นสามารถคุยกับสัตว์เลี้ยงของตน หรือทำกิจกรรมอื่นๆได้ค่ะ เมื่อครบ 4 ชม. จะมีประตูขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ โดยตำแหน่งที่จะฟื้นคืนชีพคือ เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด
สติของชาจีนกลับเข้ามาอย่างช้าๆ ก่อนจะสำรวจสถานที่ที่ตัวเองอยู่ มันเป็นห้องกว้างๆ คล้ายกับห้องรับแขก มีสีขาวสว่าง มีโซฟาสีดำสนิทตั้งอยู่ตรงกลางห้อง และมีชั้นหนังสือที่มีหนังสือจำนวนหนึ่ง ชาจีนข่มความเจ็บปวดลุกขึ้นจากพื้นแล้วไปนั่งที่โซฟาอย่างยากลำบาก
“เฮ้ยเจ้า เป็นไงบ้าง” เสียงของเจ้าไข่ลอดมาจากตัวช่องไอเทมติดตัว
“ถามได้” ชาจีนพูดด้วยความยากลำบาก “ก็เจ็บน่ะสิ”
“เจ้าต้องรออีกประมาณสองชั่วโมงในเกม ความเจ็บปวดถึงจะลดลง ตอนนี้ก็ทนๆไปก่อนล่ะกัน”
“อูย นี่ถ้าตายทุกรอบ ต้องเจ็บอย่างนี้ทุกรอบเลยหรือยังไง”
“ไม่ ถ้าเจ้ามีเงิน เจ้าสามารถซื้อน้ำยาคลายความเจ็บปวดหลังการตายได้ ทีนี้พอเจ้ากินความเจ็บปวดจะหายเป็นปลิดทิ้ง ใช้เฉพาะเวลาที่ตัวเองตายเท่านั้น”
ชาจีนคิดในใจ สงสัยเราอาจจะต้องไปซื้อมาตุนไว้บ้างซะแล้ว ก่อนจะถามเจ้าไข่ต่อว่า
“ทำไมนายถึงรู้เรื่องต่างๆดีจัง”
“ก็บอกไปแล้ว เพราะข้าเป็น GM ยังไงล่ะ ถ้าไม่รู้แล้วจะมาทำงานได้ยังไง”
“ถ้านายเป็น GM จริง แล้วมาช่วยฉันแบบนี้ มันจะดีหรือไง จะยุติธรรมกับผู้เล่นคนอื่นเหรอ”
เจ้าไข่เงียบ ใช่ มันเป็นเรื่องจริง GM มักจะรู้ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ ซึ่งข้อนี้เจ้าไข่เองก็ทราบดี ถ้าบอกความลับไปหมดแล้ว มันจะยุติธรรมหรือเปล่ากับผู้เล่นคนอื่นที่ไม่ได้รู้ความลับ แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าคนอื่นรู้ความลับกันหมดมันจะไปสนุกอะไรกันล่ะ
“ข้าลืมไป” เจ้าไข่บอกเสียงอ่อย
แม้ชาจีนจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่ามันเป็น GM จริงหรือเปล่า แต่ยังไงก็ตามถ้าเป็นแค่ข้อมูลเกมธรรมดาเจ้าไข่นี่ก็คงจะอธิบายได้ล่ะมั้ง
“งั้นถ้านายอธิบายเรื่องธรรมดาๆให้ฉันล่ะ ฉันเพิ่งเล่นเกม ยังไม่รู้อะไรเท่าไรเลย”
“ก็ได้นะ ความจริงข้าเองก็ผิดกฎที่ตั้งไว้กับทางบริษัทหลายข้อแล้วด้วย คงช่วยอะไรเจ้าอีกไม่ได้มากแล้วล่ะ” เหมือนมันจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป มันรีบเบี่ยงประเด็นทันที “เฮ้ย ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้านะ แต่ห่วงว่าข้าจะมีเลเวลลดลงเพราะเจ้าขยันตายเยอะๆนี่แหละ”
ชาจีนยิ้ม เจ้าไข่ปากจัดนี่ก็มีข้อดีเหมือนกันนะ ปากแข็ง แต่ก็คิดดีกับคนอื่น
“งั้น ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย คุณ GM ลับ” ชาจีนประชดเล็กน้อย “ฉันชาจีน ฝากตัวด้วยนะ”
“เช่นกัน แต่ข้าไม่มีชื่อ เจ้าตั้งให้ข้าเลยละกัน” มันบอกอย่างปัดความรับผิดชอบ
“เจ้าไข่” ชาจีนหัวเราะร่า
“สะเหร่อ” มันด่ากลับมา
“ได้ไง ฉันยังไม่รู้เลยว่านายจะฝักออกมาเป็นตัวอะไรแล้วจะตั้งชื่อเท่ๆให้ได้ยังไงล่ะค่ะ” ชาจีนตอบยิ้มๆ เธอแค่แกล้งเจ้าไข่เล่นไปงั้นแหละ ความจริงเธอเองก็มีชื่ออยู่ในใจอยู่แล้ว “จริงสิ แล้วนายจะฝักออกมาเป็นตัวอะไร”
“ความลับทางวิชาชีพ” มันบอกอย่างปัดความรับผิดชอบอีกรอบ
ชาจีนจิจ๊ะในคออย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์ ก่อนจะถามว่า “ถ้านายเป็น GM นายก็ต้องใช้เครื่องออนไลน์ด้วยใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นถ้าฉันออนไลน์มาไม่เจอนายหรือออนไลน์ไม่ตรงกันจะเป็นยังไงอ่ะ”
“เจ้าก็จะไม่สามารถเรียกข้าออกมาได้ ส่วนข้าถ้าไม่เจอเจ้าก็ถูกขังอยู่ในมิติของสัตว์เลี้ยง ทำงานที่คนอื่นเอามาโยนให้ข้า ถ้าเป็นไปได้เจ้าช่วยขยันออนไลน์ก็จะดีมาก ข้าขี้เกียจทำงาน”
ชาจีนหัวเราะอีกรอบ แม้จะยังเจ็บอยู่ก็ตาม ความจริงแล้วการรอพื้นคืนชีพก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไร เพราะเวลาในเกม 1 วันเท่ากับ 1 ชม. ถ้ารอภายในเวลาในเกม ก็ตกแค่ประมาณ10นาที แต่ไม่รู้ว่าจะให้คำรู้สึกเหมือนอยู่ในเกมไหม แต่ชาจีนเริ่มรู้สึกความเจ็บปวดค่อยๆลดลง คาดว่าระบบน่าจะต่างกับตอนอยู่ในเกม ก่อนจะถามเจ้าไข่ในเรื่องที่เธอสงสัยว่า
“นี่ เจ้าไข่”
“มีอะไร”
“ปกติสัตว์อสูรทั่วไปสถานะมันเป็นยังไงอ่ะ”
“ก็ปกตินะ ถ้าไม่ได้มีอะไรไปรบกวนมันจนติดสถานะคลั่ง โดยเฉพาะพวกราชาติดสถานะคลั่งได้ง่ายมาก”
“แล้วทำไมไอ้ตัวที่โจมตีพวกเรามันเป็นสถานะคลั่งอ่ะ”
คำถามของชาจีนทำให้เจ้าไข่เงียบไปพักหนึ่ง พอๆกับสมองของชาจีนที่ประมวลผลคำตอบของเจ้าไข่
‘อะไรที่ไปรบกวน หรือว่า...’ สมองชาจีนเริ่มที่จะคิดคำตอบได้ พอๆกับเจ้าไข่ที่เริ่มจะรู้แล้วเหมือนกัน
“มีอะไรไปรบกวนมัน” ชาจีนพูดออกมาช้าๆ
“ทำให้มันคลั่ง” เจ้าไข่ต่อประโยค
“อาละวาด และฆ่าพวกเราตาย แถมยังเสียอาวุธไปด้วย” ชาจีนสรุปเรื่อง “นายคิดว่าอะไรไปกวนมัน”
“ผู้เล่นน่ะสิ” เจ้าไข่ตอบ น้ำเสียงดูเครียดๆ “เพราะสัตว์อสูรด้วยกันไม่มีทางที่จะไปหาเรื่องราชาแห่งป่าได้หรอก”
“นายว่าผู้เล่นคนนั้นตายหรือหนีไปได้”
“ไม่รู้เหมือนกัน” เจ้าไข่ตอบกลับ “เจ้าคิดว่าไง”
“ไม่รู้เหมือนกัน” ชาจีนส่ายหัวเช่นกัน อาการเจ็บปวดเริ่มจะหายแล้ว ชาจีนยกมือขึ้นกดปุ่มบนนาฬิกา เพื่อเช็คทักษะและสิ่งที่เหลือจากการเสียชีวิตครั้งนี้ พลางถามเจ้าไข่ว่า “นี่เจ้าไข่ ทำไมเวลาสัตว์อสูรโจมตีแล้ว ฉันถึงหนีเข้าเมืองไม่ได้ล่ะ”
“ตามปกติแล้วหนีได้ แต่ไม่ใช่สำหรับอสูรคลั่งแบบนี้ เมื่อมันกำหนดเหยื่อของมันได้แล้ว ต่อให้เจ้าหนีไปสุดหลาฟ้าเขียวก็หนีมันไม่พ้น”
“หมายความว่าถ้ามันกำหนดเหยื่อแล้วก็จะตามไปทุกที่ใช่ไหม”
“ใช่ มันจะจับกลิ่นอายของผู้เล่นไว้ตลอด เจ้าคงไม่รู้สินะว่าสิ่งที่เป็นจุดเด่นของสัตว์อสูรในเกมนี้คือประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยเฉพาะกลิ่นอายเฉพาะตัวของผู้เล่น ยิ่งเป็นอสูรระดับราชายิ่งไม่ต้องพูดถึง ต่อให้เจ้าหนีไปจากเกาะเริ่มต้น มันก็หาทางไปฆ่าเจ้าได้แน่นอน”
“ถ้ามันไม่ล็อกเป้าหมาย ก็จะไม่เข้าไปในเขตเมืองสินะ”
“ใช่ มันเป็นกฎของระบบ”
‘ระบบบ้าเอ้ย’ ชาจีนด่าในใจ
“งั้นถ้ามันฆ่าเป้าหมายได้แล้วมันจะหยุดสินะ”
“ใช่”
“งั้นเจ้าผู้เล่นนั่นคงตายไปแล้วมั้ง”
เจ้าไข่นิ่งไปนิดก่อนจะบอกว่า “ความจริงที่ร้ายขายของถ้าผู้เล่นที่พอจะมีเงินหน่อย ส่วนมากจะซื้อน้ำยาลบกลิ่นอาย เพื่อไม่ให้อสูรจับกลิ่นอายของตนได้ และจับกลิ่นอายของผู้เล่นที่อยู่ใกล้ที่สุดแทน”
ชาจีนอ้าปากค้าง ระบบเกมนี่มันยังไงกันแน่เนี่ย
ผู้เล่นชาจีนอยู่จนครบเวลารอพื้นคืนชีพ ระบบจะเปิดประตูให้ผู้เล่น ขอให้เล่นเกมอย่างสนุกนะค่ะ
เสียงของระบบดังขึ้น ชาจีนไม่รู้สึกว่านานเลย คงเป็นเพราะห้องโล่งๆนี่คงไม่เหมือนกับสภาพในเกมน่ะสินะ
“ไปกันเถอะ” ความเจ็บปวดทั้งหมดหายไปแล้วชาจีนรู้สึกดีกว่าเดิมเยอะ หญิงสาวลุกขึ้นยืน หลังจากที่เธอตรวจสอบแล้ว ไอเทมอย่างเดียวที่เสียไปคือดาบ นอกจากนั้นการต่อสู้เมื่อกี้ก็ได้ทักษะย่อยมา ซึ่งชาจีนไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือ
โครก ครากกกก
เสียงกระเพาะของชาจีนร้อง เรียกใบหน้านวลขึ้นขึ้นสีแดงเรื่อ ขณะที่เจ้าไข่บ่นกระปอดกระแปดมาว่า
“ไม่มีความอดทนเอาซะเลย”
ใช่ซี้ ฉันไม่ได้ถึกเหมือนแกซะหน่อยเจ้าไข่ปากเสีย
ก่อนที่จะไปกินข้าว ชาจีนคิดว่าน่าจะไปเปลี่ยนชุดสักหน่อย เกมอะไรก็ไม่รู้แค่รอยเปื้อนและรอยขาดของชุดก็ไม่ซ่อมให้ หญิงสาวเดินเข้าร้าน แล้วซื้อชุดแบบจีนของผู้หญิง ลักษณะเหมือนชุดกี่เผ้า แต่ยาวเพียงแค่ต้นขาแล้วใส่กางเกงขายาวไปจนถึงตาตุ่ม เป็นสีขาวล้วน ส่วนตัวเสื้อก็ปกลายดอกไม้ของจีนเอาไว้
ชุดนี้เป็นชุดที่ค่อนข้างเรียบ แต่สวยงาม โดยคงราคาของมันไว้ที่ 1000 เหรียญทองแดง ซึ่งเป็นราคาที่เถ้าแก่เนี่ยของร้านลดราคาไว้ราคาจริงคือ 5000 เหรียญทองแดง
แต่สภาพการเงินของชาจีนยังไม่ถือว่าใช้ทิ้งใช้ขว้างได้ หญิงสาวเลยงัดฝีปากมาต่อราคา ชนิดเจ้าไข่ที่หลบอยู่ในช่องไอเทมติดตัวยังอ้าปากค้าง
‘ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเหลือเกิน’ มันเริ่มคิดเป็นครั้งแรก
ผลสรุปของการต่อราคาอันเมามันส์คือ ชุดสวยนี้ขายเพียง 500 เหรียญทองแดง ซึ่งเถ้าแก่เนี่ยน้ำตาร่วงแล้วร่วงอีก คงจะช็อคจิตใจเป็นเวลานาน
ชาจีนไปอาบน้ำชำระคราบเลือดที่ติดตัวเธอที่โรงอาบน้ำ ดีนะที่เมืองเริ่มต้นไม่ค่อยจะมีคน ไม่งั้นหญิงสาวคงไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนด้วยชุดที่เปื้อนเลือดนี่หรอก
แล้วชาจีนก็ได้รู้จากเจ้าไข่ว่า ไอเทมติดตัว ไม่ใช่ไอเทมที่ติดกับเสื้อผ้าของผู้เล่น เป็นเป็นเหมือนกับไอเทมที่ฝากอยู่ในมิติหนึ่งเหมือนกับกระเป๋าที่เธอได้ แต่จะดีกว่าก็คือ ไอเทมติดตัวเวลาจะใช้ ก็สามารถเรียกชื่อสิ่งของนั้นมาได้เลย ต่างกับที่ชาจีนคิดไว้ตอนแรกว่าจะเป็นช่องใส่ไอเทมของชุด ซึ่งเจ้าไข่ก็ด่าให้แล้วอกว่า
“โง่จริง ช่องแบบนั้นเขาจะบอกไว้ในรายละเอียดของชุด ไม่เรียกไอเทมติดตัว แต่เรียกว่าช่องในกระเป๋า ซึ่งจะใส่ได้แค่เฉพาะเครื่องป้องกันเล็กๆกับน้ำยาต่างๆเท่านั้น”
เอาเป็นว่าเธอโดนด่าอีกแล้ว...
ในโรงอาบน้ำมีล็อกเกอร์ฝากของซึ่งในเงิน 10 เหรียญทองแดง ชาจีนเอาเจ้าไข่ออกมาจากช่องไอเทมติดตัว แล้ววางไว้ในล็อกเกอรกับกระเป๋าของเธอ ดูเหมือนเจ้าล็อกเกอร์จะรู้ว่าสัมภาระของเธอมีขนาดใหญ่จึงปรับขนาดให้พอดีกับเจ้าไข่
“เจ้าไข่ แล้วเทคนิคที่นายสอนชั้น เรื่องเก็บไอเทมติดตัวน่ะ ผู้เล่นคนอื่นรู้ไหม”
“รู้สิ ถ้าคนที่อ่านคู่มือเกมมาดีๆ หรือไม่ก็ไปถาม NPC ก็รู้อยู่แล้ว อีกอย่างตอนที่เข้ามาในเกม เจ้าไปที่อาคารเริ่มต้นจะต้องได้รับข้อมูลจาก NPC ไม่ใช่จาก GM” ประโยคหลังๆเจ้าไข่บ่นจนไม่รู้ศัพท์ทำให้ชาจีนฟังไม่ทันแล้วปล่อยผ่านไป หญิงสาวเดินเข้าโรงอาบน้ำที่มีลักษณะเหมือนบ่อน้ำพุร้อนในประเทศญี่ปุ่น
การอาบน้ำและเปลี่ยนชุดใหม่ ทำให้ชาจีนรู้สึกชดชื่น หญิงสาวเก็บตระกร้าไข่เข้ามาในไอเทมติดตัว แล้วเดินไปที่ร้านอาหาร
ตำแหน่งที่หญิงสางนั่ง เป็นโต๊ะที่ติดกันหลายโต๊ะ มีแผ่นไม้แกะเป็นช่องหลายๆช่องกั้นไว้กับโต๊ะอีกตัวที่อยู่ใกล้ๆ และด้วยชาจีนตัวเล็ก ทำให้หัวของเธอไม่พ้นช่องไม้นั่น และยิ่งเธออยู่ติดกับพนังด้านในสุดทำให้ถ้าไม่มองจากด้านข้างของร้าน ก็จะไม่เห็นเธอเลย
ชาจีนสั่งก๋วยเกี๋ยวเรือเส้นเล็กชามละ 60 เหรียญทองแดง 1 ชาม เพื่อเป็นอาหารเย็นของเธอ
และสั่ง น้ำเปล่าขวดละ 10 เหรียญทองแดง 10 ขวด กับซาลาเปาลูกละ 5 เหรียญทองแดง 10 ลูกเพื่อเอาไว้ใช้ประทังชีวิตภายในเกม
ด้วยเวลาที่ชาจีนตาย กับเวลาในเกมสอดคล้องกัน ทำให้ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมาก ลูกค้ามากันค่อนข้างแน่นร้าน ขณะที่ชาจีนกำลังนั่งตักเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก นี่นั่งข้าหลังเธอ ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่คาดว่าน่าจะมีประมาณ 4 คนเข้ามานั่ง
คนกลุ่มนั้นคุยกันเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แต่ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะเบาเท่าไร ทำให้ชาจีนพลอยได้ยินไปด้วย
“วันนี้ ได้รายได้เป็นกอบเป็นกำเลย” คนหนึ่งในพวกมันพูด
“ใช่ วันนี้ดวงดีชิบ” อีกคนตอบ
“นั่นสิ เป็นเพราะแผนการของรุ่นพี่วิหคลมแท้ๆ พวกเราถึงได้มีรายได้กันเป็นกอบเป็นกำแบบนี้” คนแรกเอ่ยชมหัวหน้ากลุ่มของตน
คนที่ถูกเรียกว่าวิหคลมหัวเราะร่ารับคำชมของลูกน้อง
“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าแค่ออกแรงสู้นิดหน่อยเอง ถ้าจะขอบคุณต้องไปขอบคุณพวกที่โดนเจ้าราชาสุนัชป่าจันทรา ฆ่าตายนั่น”
“นั่นสิ ไอเทมที่พวกมันทิ้งไว้ขายได้อื้อซ่าเลย”
“เฮ้ย ไอ้เทพวิทย์ เอ็งเห็นเหยื่อคนสุดท้ายป่ะ”
เทพวิทย์ตอบรับคำของเพื่อนทันที “เห็นสิว่ะไอ้มายา น่าเสียดายจริง เป็นผู้หญิงซะด้วย”
“เสียดายอะไรว่ะ หน้าตาก็ยังไม่เห็นเลย หรือถ้าเห็นแกจะเอามาทำเมียหรือไง”
“เรื่องสิ แต่มันออกจะน่าสงสารไปหน่อย รู้สึกจะเพิ่งตายครั้งแรก เลยได้แค่ดาบมาอันเดียว”
“หึ พวกอ่อนหัดส่วนใหญ่ก็เป็นงี้แหละ”
ชาจีนย่อยข้อมูลที่ได้รับมาอย่างตกใจ นี่มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย?
“พี่วิหคลม ผมว่าพวกเราเลิกใช้แผนยั่วอสูรระดับราชามาฆ่าผู้เล่นแบบนี้สักทีเถอะครับ พวกเราอาจจะโดนพวกผู้เล่นรุมประชาทัณฑ์ก็ได้นะ” ลูกน้องอีกคนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัว แต่ก็แฝงความเด็ดเดี่ยวเอาไว้
“ไม่ต้องมาทำเป็นคนดีหรอก ไอ้คล้อยตาม” เทพวิทย์ด่าเข้าให้
“ใช่ อย่ามาวางมาดคนดีแถวนี้เลย เอ็งก็ทำแบบเดียวกับพวกข้าไม่ใช่หรือยังไง” มายาสำทับ
“นั่นเพราะ...” ยังไม่ทันที่คล้อยตามจะพูดจบ เสียงของวิหคลมก็แทรกขึ้นมาว่า
“งั้นแกก็ออกจากกิลด์ไปเลย คล้อยตาม กิลด์จักรพรรดิใต้หล้าไม่ต้องการคนอ่อนแอแบบแก”
เหมือนคล้อยตามจะสะอึกไปสักพักก่อนจะตอบว่า “ผมขอโทษครับ”
วิหคลมเค้นเสียงเย้ยคล้อยตาม “อีกอย่างนะพวกแกไม่ต้องกลัวไป ไม่มีใครกล้ามาแตะคนของกิลด์จักรพรรดิใต้หล้าหรอก”
“ผมนี่แหละจะแตะ” เสียงประกาศกร้าวจากผู้เล่นที่อยู่ติดโต๊ะของพวกกิลด์จักรพรรดิใต้หล้า และอยู่ห่างจากโต๊ะชาจีนไปสองโต๊ะ คาดว่าคงพอจะได้ยินบทสนทนานี้เหมือนกัน
ชาจีนหันไปมอง ก็เห็นชายหนุ่มผมสีดำยาวถึงกลางหลังรวบไว้แบบลวกๆ แต่งกายด้วยเกราะเหล็กที่มีลวดลายโบราณน่าเกรงขาม สะพายดาบใหญ่ไว้ข้างหลัง คล้ายกับพวกนักรบในกรีกโบราณ ผิวสีน้ำตาลอ่อน กล้ามเนื้อไม่ใหญ่บึกบึนแต่ก็ดูสมส่วนน่าเกรงขาว ดวงตาสีแดงสดราวกับทัมทิมจ้องมองมาที่โต๊ะของพวกวิหคลมอย่างโกรธจัด
ข้างๆชายหนุ่มเป็นหญิงสาวผมสีทองยาวถึงกลางหลัง รวบไว้เป็นทรงหางม้า ดวงหน้าขาวนวลรูปไข่ แต่งกายด้วยชุดนินจาสีดำสนิทตัดกับสีผมโดยสิ้นเชิง ทำให้ร่างนั้นดูเด่นและสง่างาม ดวงตาสีฟ้าสว่างจ้องมองมาที่วิหคลมด้วยความเคียดแค้น
“พวกแกเป็นใครกัน” วิหคลมตวาดอย่างโกรธจัด
“ผมชื่อพิทักษ์ธรรม” ชายหนุ่มตอบ
“ฉันคือ บุปผาสายลมคลั่ง” หญิงสาวอีกคนตอบ “เราจะไม่ยอมให้พวกแกทำชั่วไปมากกว่านี้ ไม่ว่าพวกแกจะเป็นคนจากกิลด์อะไรก็ตาม”
“เหอะ” วิหคลมเค้นเสียง “ที่แท้ก็คู่พี่น้องพิทักษ์บุปผานี่เอง ไม่ทราบพวกแกมีธุระอะไรกับพวกข้า”
“ธุระอย่างนั้นเหรอ” พิทักษ์ธรรมกล่าวอย่างแค้นเคือง “ธุระของพวกเราก็คือกำจัดเศษเดนขยะอย่างพวกคุณยังไงล่ะ”
“หึ พวกข้าไม่ได้อ่อนแอหรอกนะ พิทักษ์ธรรม อย่าทรนงตัวเองเกินไป” วิหคลมลุกขึ้นยืน “ข้าคือวิหคลมจากกิลด์จักรพรรดิใต้หล้า คงพอจะรู้จักกันดีอยู่กระมัง”
“แน่นอน แต่ผมคงทนดูพวกคุณ รังแกผู้เล่นต่อไปไม่ไหวแล้ว” พิทักษ์ธรรมโต้กลับ “ยังไงวันนี้ผมคงต้องสั่งสอนคุณ”
“หึ ใครสั่งสอนใครกันแน่ พิทักษ์ธรรม แกมันแค่เลเวล30 ต้นๆ ต่อให้มีบุปผาสายลมคลั่งมาสู้ด้วย ก็ไม่คณามือข้าอยู่ดี รีบก้มหัวขอโทษแล้วไสหัวไปซะ ไม่งั้นแล้วจะหาว่าไม่เตือน!” วิหคลมพูดจบ บรรดยากาศในร้านอาหารก็อึดอัดขึ้นมา ชาจีนแม้จะไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ แต่จะให้วิ่งหนีไปแบบนี้ก็ไม่เอาเหมือนกัน ในเมื่อเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับเธอที่เป็นผู้เสียหายโดยตรง
หญิงสาวลอบสังเกตวิหคลมที่ตอนนี้เธอตั้งสถานะในใจว่าเป็นศัตรูไปแล้วเรียบร้อย
วิหคลมเป็นชายหนุ่มรูปร่างใกล้เคียงกับพิทักษ์ธรรม แต่ดูท่าทางฝีมือและระดับของวิหคลมคงจะเหนือกว่าพิทักษ์ธรรมอยู่หลายขุมเลยทีเดียว วิหคลมมีผมสีแดงเข้มกับดวงตาสีเขียวสดตัดกัน ส่วมเกราะที่ดูดีกว่าของพิทักษ์ธรรม พร้อมกับเหนบดาบไว้ที่เอว
“คิดหรือว่าผมจะกลัว” พิทักษ์ธรรมโต้ ก่อนจะหยิบอาวุธของตัวเองออกมา
“เหอะ ไอ้อ่อนหัดอย่างแกมีหรือจะเทียบกับข้า” วิหคลมพูดจบร่างของเขาก็หายไปด้วยความเร็วที่คนทั่วไปมองไม่ทัน
เคร้ง
เสียงดาบของพิทักษ์ธรรมที่เอี้ยวตัวไปสกัดดาบของวิหคลมไว้อย่างทันท่วงที วิหคลมแสยะยิ้ม ก่อนจะดีดตัวออกมาตั้งหลัก พร้อมกับพูดว่า
“มีฝีมือเหมือนกันนี่”
“ผมไม่ได้มีดีแค่นี้หรอกครับ”
“ปากดีระวังจะไม่ได้ตายดีนะ พิทักษ์ธรรม” วิหคลมเอ่ยเสียงเหี้ยม “เข้ามา”
ทั้งสองคนเข้าปะทะกันอีกครั้ง ผู้คนในร้านไม่ว่าจะทั้งเถ้าแก่ทั้งเสี่ยวเออร์ต่างวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น มีเพียงแต่ชาจีนเท่านั้นที่หลบลงไปใต้โต๊ะ ดูการต่อสู้อยู่ อย่างที่บอกโต๊ะของชาจีนนั้นอยู่หลบมุม แม้ว่าจะอยู่ติดกับโต๊ะของพวกวิหคลม แต่มันก็เป็นพื้นที่น้อยมาก ทำให้วิหคลมกับพิทักษ์ธรรม เลือกที่จะไปสู้อยู่กลางร้านมากกว่า ส่วนพวกที่เหลือของวิหคลม ต่างตั้งท่าจะเข้าไปช่วยวิหคลม อ้อ ยกเว้นคล้อยตาม ที่มองเหตุการณ์ด้วยความดีใจอยู่ลึกๆ
บุปผาสายลมคลั่งอ่านแผนการของเทพวิทย์กับมายาออก เธอรีบสกัดสองคนนั่นทันที
“พวกแกต้องเจอกับฉัน” บุปผาสายลมคลั่งบอกเสียงเรียบ ก่อนจะเริ่มโจมตี เธอไม่โจมตีคล้อยตามเพราะรู้ว่าคล้อยตามคงจะไม่เข้ามายุ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งมันก็จริงอย่างที่บุปผาสายลมคลั่งคาด คล้อยตามแค่ยืนมองอยู่เฉยๆเท่านั้น
ความจริงชาจีนเองก็อยากจะหนีเหมือนกัน แต่เพราะสถานการณ์ไม่อำนวย เพราะเธอยู่มุมสุดนี่เองทำให้หนีไม่ได้ ไม่งั้นอาจจะเสี่ยงโดนคมดาบของวิหคสายลมและพิทักษ์ธรรมเป็นแน่
“ชาจีน เจ้าจะทำยังไงต่อ” เจ้าไข่ถามเบาๆ
“รอดูสถานการณ์ต่อไปก่อน” ชาจีนเองก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
ชาจีนไม่รู้ว่าวิหคลมนั้นเลเวลเท่าไร แต่จากคำที่มันโอ้อวดก็พอจะรู้อยู่ว่าเลเวลน่าจะเหนือกว่าพิทักษ์ธรรม
การต่อสู้ของวิหคลมกับพิทักษ์ธรรมนั้นดุเดือด ทั้งสองไม่ยอมลงให้กัน และไม่ยอมพลาดจังหวะเล็กน้อยเลย ส่วนคู่บุปผาสายลมคลั่งนั้น ด้วยเวลาเพียงแค่ 5 นาที เธอจัดการส่งเทพวิทย์กับมายาไปเกิดใหม่เป็นที่เรียบร้อย
“อ้ากก พี่วิหคลม ช่วยด้วย” มายาตะโกนร้องก่อนจะโดนคมดาบของบุปผาสายลมคลั่งดับลมหายใจไป
วิหคลมถอยออกมาตั้งหลัก สบถออกมาว่า “พวกอ่อนหัด”
“ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับคุณเท่านั้น” พิทักษ์ธรรมเอ่ยเสียงเรียบ
“แก” วิหคลมกัดฟัน หันมามองคล้อยตามที่ยืนดูอยู่เฉยๆ แล้วพูดว่า “รีบจัดการบุปผาสายลมคลั่งซะคล้อยตาม ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
คล้อยตามกัดฟัน เขาไม่อยากจะทำตามคำสั่งของวิหคลม ความจริงเขาต้องการจะไปจากตรงนี้เลยด้วยซ้ำ กิลด์บ้าๆแบบนี้ไม่น่าอยู่เลยสักนิด ถ้ามีติดว่า... คล้อยสบถในใจอย่างไร้ทางเลือก ก่อนจะชักกระบี่ของตัวเองออกมาจากเอว
“รับมือ” คล้อยตามวิ่งเข้าปะทะกับบุปผาสายลมคลั่ง ขณะที่พิทักษ์ธรรมเข้าประทะกับวิหคลมอีกรอบ
คล้อยตามอาจจะไม่ใช่คนที่รูปร่างบึกบึน แต่เรื่องความเร็วนั้นเป็นเลิศ เมื่อเทียบกับบุปผาสายลมคลั่งเป็นนินจาที่ใช้ความเร็วเป็นหลักแล้ว นับเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีเลยทีเดียว
แต่ว่าแม้ว่าด้านความสามารถการต่อสู้ของวิหคลมและพิทักษ์ธรรมจะสูสีกัน แต่นี่คือเกม สิ่งที่จะวัดความแข็งแกร่งของผู้เล่นคือระดับเลเวล แม้พิทักษ์ธรรมจะเก่งมากแค่ไหน แต่ทักษะในเกมเมื่อเทียบกับวิหคลมแล้วถือว่าด้อยกว่ามาก และนั่นทำให้ผู้ที่กุมชัยชนะคือ วิหคลม
“แสนยาทะลวงรบ” วิหคลมใช้ทักษะเฉพาะตัว เกิดเป็นดาบนับรอบนับพันเข้าโจมตีทุกทิศทางของพิทักษ์ธรรม แม้ว่าพิทักษ์ธรรมพยายามที่จะสกัดแต่ก็ไม่เป็นผล ดาบพุ่งเข้าทะลุตัวเขาจนพรุน ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ถึงขั้นตาย
ส่วนทางด้านบุปผาสายลมคลั่งก็ย่ำแย่พอกัน ฝีมือของเธออ่อนกว่าคล้อยตามมาก อาวุธในมือถูกกระบี่ของคล้อยตามปัดกระเด็น และกระบี่คล้อยตามก็จ่ออยู่ที่คอของบุปผาสายลมคลั่ง
“นี่แหละคือความแตกต่างล่ะ พิทักษ์ธรรม” วิหคลมหัวเราะร่วนอย่างสะใจ เตรียมตัวจะใช้ดาบปลิดชีพพิทักษ์ธรรม ก่อนที่ปลายดาบจะถึงตัวพิทักษ์ธรรมเพียงเสี้ยววินาที ชายหนุ่มอึดใช้แรงเฮือกสุดท้ายใช้ดาบของตนแทงทะลุจุดตายของวิหคลมที่เผลอเปิดช่องโหว่ให้
“อ๊ากกกก” วิหคลมร้อง เลือดไหลทะลั่กอย่างหยุดไม่อยู่ “แก พิทักษ์ธรรม” มันตะโกนอย่างโกรธแค้น
จังหวะที่วิหคลมร้อง ทำให้คล้อยตามละสมาธิจากบุปผาสายลมคลั่งไปชั่วครู แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงนิดเดียวแต่ก็เป็นเหตุให้บุปผาสายลมคลั่งใช้ทักษะเฉพาะตัวทันที
“ผูกพันชีวิต” ทันทีที่ทักษะนี้เอ่ยจบ ก็ปรากฎเส้นที่ทองพุ่งเข้ามาหาคล้อยตาม แทงทะลุหัวใจไป แต่ไม่มีเลือดและไม่มีความเจ็บปวด คล้อยตามมองบุปผาสายลมคลั่งอย่างตกใจ พอดีกับบุปผาสายลมคลั่ง เอ่ยขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวว่า
“ไปตายด้วยกัน” แล้วมือบางก็จับปลายกระบี่ของคล้อยตามแทงทะลุคอตัวเอง
ที่น่าตกใจคือ คล้อยตามที่ไม่ได้โดนอะไรกับมีเลือดพุ่งออกมาจากคอ แล้วความเจ็บปวดแสนสาหัสยากจะบรรยายพุ่งเข้าใส่คล้อยตาม
“อ้ากกกกก”
ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะสลายกลายเป็นประกายแสงสีขาวระยิบระยับ
“นี่แก” วิหคลมเอ่ยอย่างเคืองแค้น แม้ว่าจะมีน้ำยาฟื้นพลังชีวิตอยู่ แต่เพราะบาดแผลใหญ่เกินไปทำให้น้ำยาทำงานไม่ทัน บวกกับวิหคลมไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะแพ้ให้กับคล้อยตาม สติของวิหคลมขาดสะบั้นเต็มไปด้วยความแค้นเพียงอย่างเดียว แทนที่จะฟื้นฟูร่างกายตัวเอง กลับหยิบดาบขึ้นมาหมายจากเรียกเลือดจากพิทักษ์ธรรม จนทำให้บาดแผลปริออกมาขึ้น จนในที่สุดร่างของวิหคลมกลายเป็นประกายแสงสีขาวตามคล้อยกับบุปผาสายลมคลั่งไป
ส่วนพิทักษ์ธรรมเมื่อเป็นวิหคลมตายแล้ว ก็หลับตาลงก่อนที่ร่างกายจะสลายไปเช่นเดียวกัน
การต่อสู้ที่ดุเดือดจบด้วยการนองเลือดของทั้งสองฝ่าย
รู้สึกว่าเด็กดีเปลี่ยนหน้าอัพนิยายใหม่ - - ไม่รู้ว่าจะดีกว่าเดิมหรือเปล่า 55+ อัพตอนเก่าเพราะมีบางส่วนเปลี่ยนแปลง(คำผิด+บทพูดบางตอน) ส่วนตอนใหม่ กำลังนั่งเขียนอยู่เจ้าค่าาาา ตอนนี้ติดสอบ คงหายหัวไปจากคอมสักสองอาทิตย์นะเออ (อาจจะเข้ามาเช็คนิดหน่อย 55+)
ปล.บ้านไรเตอร์เน็ตเกรียนมาก ไรเตอร์ใช้ไวไฟล์ของโน๊ตบุ๊ค ยิ่งหนักข้อเข้าไปใหญ่ T_T ใครมันขยับโน๊ตบุ๊คไรเตอร์จนรับสัญญาณไม่ได้ก็ไม่รู้ ฮือออออออออออออออออออออออออออ
ความคิดเห็น