ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พลิกตำนานราชาปีศาจที่กลายเป็นผู้กล้า?!

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 54


    มาคุยกันก่อนจะอ่านเรื่องนี้นะ^^
    คือว่าตรงขอโทษด้วยที่อัฟช้าเพราะบ้านน้ำท่วม เครือข่ายเน็ตที่ใช้อยู่เลยล่มT^T
    และมีอีกเหตุผลหนึ่งเหมือนกันทีอัฟช้า
    คือโครงเรื่องไปซ้ำกับคนอื่นเขาเลยต้องแก้โครงเรื่องใหม่หมดเลยT^T(โดนว่าด้วยT T)
    แต่ก็ไม่ได้ส่งประกวดแล้วเพราะเน็ตใช้ไม่ได้ก็เลยอด
    เพราะฉะนั้นจะแต่งไปเรื่อยๆมีอะไรผิดตรงไหนขอให้บอกเพราะจะได้แก้ถูก
    และสิ่งที่จะบอกอีกอย่างหนึ่งคือ...
    คนแต่งเรื่องนี้มีเซนต์ในการตั้งชื่อห่วยมาก!!!
    กรุณาทำใจก่อนอ่านนะ^^


    คำเตือน
    คนแต่งเรื่องนี้มันบ้า(ขั้นสุดยอด)กรุณาเตรียมใจก่อนอ่านเพราะว่าคุณอาจจะบ้าไปกับเขาด้วย(เพราะเพื่อนติดเชื้อบ้าไปหลายคนแล้ว= =;;)

    <<บทนำ>>

     

             ราชาปีศาจ...นั้นคือคำที่ใช้เรียกผู้นำของปีศาจทั้งมวล

             ผู้กล้า...คือคำที่ใช้เรียกคนที่เป็นผู้นำของสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า...มนุษย์...

             เพราะมีราชาปีศาจจึงมีผู้กล้า...เพราะมีผู้กล้าจึงมีราชาปีศาจ...นั้นคือสิ่งที่ควรจะเป็น

             แต่เมื่อผู้กล้าคนแรกได้กำจัดราชาปีศาจตนแรกไป  เหล่ามนุษย์จึงไม่อาจจะรู้ได้ว่าราชาปีศาจนั้นได้ถูกกำจัดไปเพียง “กายเนื้อ” เท่านั้น

     

             เหล่าปีศาจที่เป็นบริวาน พาดวงวิญญาณของราชาปีศาจนั้นไปใส่ในร่างของมนุษย์ที่ชีวิตล่วงลับแล้วเพื่อให้ดวงวิญญาณนั้นคงอยู่ต่อไป  รอคอยวันเวลาที่จะได้พบ ร่างทรงที่สามรถทำให้วิญญาณของราชาปีศาจนั้นแสดงพลังที่แท้จริงออกมา

             เหล่าปีศาจทั้งหลายทำอย่างนี้ครั้งแล้วครั้งเหล่าแต่ก็ต้องถูกผู้กล้าจัดกำจัดร่างทรงของราชาปีศาจทุกครั้งไป

             เพราะ มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าโปรดปรานไม่ว่าจะทำอะไร มนุษย์ถูกต้องเสมอ...เพราะอย่างนั้นปีศาจเป็นสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชัง  จึงไม่อาจมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ได้  พวกมันจึงเกลียดชัง มนุษย์ 

    เพราะทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้  ปีศาจจึงรอคอยราชาปีศาจซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สามารถต่อกรกับมนุษย์ได้

             แต่นั้นก็เป็นเรื่องเล่าเท่านั้นเพราะในตอนนี้ร่างทรงของราชาปีศาจคือร่างของผู้กล้าที่ถูกเลือก  และร่างของผู้กล้าในตอนนี้นั้นถูกราชาปีศาจครอบครองแล้วเรียบร้อย  มนุษย์จึงไม่สามารถต่อกรกับราชาปีศาจได้

     

             ท่าน ผบ. จะเอายังไงดีครับ!” เสียงหนึ่งในที่ประชุมดังขึ้น ตอนนี้กำลังของเราโดนราชาปีศาจกำจัดไปสามในสี่แล้วนะครับ!”

             ท่าน ผบ. ตอนนี้เสบียงของเราแทบไม่เหลือแล้วนะครับ!”

             ท่าน ผบ. เมืองหน้าด่านถูกตีแตกแล้วนะครับ!”

             เสียงเรียกท่าน ผบ. ดังขึ้นไม่หยุดจนในตอนนี้ไม่อาจจะเรียกได้ว่ากำลังประชุมเรื่องสำคัญได้แล้ว

             ท่าน ผบ.!”

             หยุดเลย!...ไม่ต้องรายงานอะไรแล้ว…” ท่าน ผบ. ได้ยินการรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็อดกุมขมับไม่ได้

             ก็ใครใช้ให้ผู้กล้ากำลังหลักของเราโดนจับไปเป็นร่างทรงของราชาปีศาจ!

             ตอนที่ ผบ. ได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกแถบจะเป็นลมตาย  ก็ไอ้คนที่เป็นผู้กล้าเป็นเพื่อนสนิทของเขา  แล้วก็ไม่น่าจะโดนจับไปง่ายขนาดนี้เพราะว่าวิชากวนอวัยวะเบื้องล่างของมันไม่ว่าใครเจอเข้าไปก็ต้องเผ่นภายในสิบนาทีแน่! (ยกเว้น ท่าน ผบ. เพราะมันกวนพอๆกันก็เลยรับได้)

             เขาอยากจะเห็นหน้าของไอ้คนที่จับผู้กล้าไปจะตายชัก!

             แต่ถึงจะเห็นหน้าของคนที่จับผู้กล้าไปตอนนี้ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้แล้ว...เพราะว่าตอนนี้ราชาปีศาจได้ควบคุมร่างของผู้กล้าไว้หมดแล้ว

             ตอนนี้กำลังเราคงสู้กำลังของราชาปีศาจไม่ไหวแน่  เพราะอย่างนั้นพระสังฆราชมีวิธีอะไรบ้างที่พอจะรับมือกำลังของราชาปีศาจได้ ท่าน ผบ. แทบจะไม่รู้แล้วว่าจะทำยังไงเลยหันไปถามพระสังฆราชของโบสถ์ที่เหลืออยู่แห่งเดียว

             ในตอนนี้คงไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ พระสังฆราชทำหน้าจริงจังไม่เข้ากับหน้าของเด็กอายุยี่สิบเลย

    ร่างทรงของราชาปีศาจในตอนนี้น่าจะใกล้เคียงหรืออาจเป็นร่างทรงเที่ยงแท้ ...คงต้องส่งใครซักคนไปในอดีตเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างทรงนั้นกลายเป็นราชาปีศาจ

             แล้วจะเอาใครล่ะ? ท่าน ผบ. ถามกลับ

             ท่านต้องเลือกแล้วท่าน ผบ.

             ท่าน ผบ. พยักหน้า เข้าใจแล้ว

     

             ท่าน ผบ. เดินไปตามระเบียงที่ทอดยาว  พลางคิดว่าควรจะเอาใครดีที่จะไปอดีตแล้วพอมีกำลังไม่ให้ผู้กล้ากลายเป็นราชาปีศาจได้

             ทุกคนอยู่ที่นี่เป็นเด็กและผู้หญิงเกือบทั้งหมด  ส่วนคนที่น่าจะพอทำอย่างที่พระสังฆราชบอกก็พากันตายไปในสนามรบกันหมดแล้ว  หรือจะเอาตัวเองไปในอดีตดี?!  แต่อย่างนั้นใครจะคอยดูแลสถานการณ์ตอนที่กำลังจะออกรบล่ะ?

             ท่าน ผบ. ถอนหายออกทีหนึ่งเพราะไม่รู้จะเอาใครไม่แก้ไขอดีตดี  จึงหันกลับมาตรวจดูว่าตอนนี้ทุกชีวิตที่เหลือเป็นยังไงกันบ้าง

             บนระเบียงแห่งนี้มีคนวิ่งไปมากันอย่างวุ่นวายเพราะแต่ละคนก็มีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำ

             ท่าน ผบ. จึงเดินไปเรื่อยพร้อมกับมองดูว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง  แต่สุดท้ายเขาก็ต้องหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง

             ลูกิไปช่วยคนอื่นบ้างเถอะน่า เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดอย่างเหนื่อยใจ

             ไม่เอา เสียงของเด็กวัยประมาณสิบสมสิบสี่ที่น่าจะชื่อ ลูกิ ตอบอย่างสั้น ง่าย ได้ใจความ

             เมื่อท่าน ผบ. ได้ยินก็เลยแอบแง้มประตูออกนิดหนึ่งเพื่อจะดูเหตุการณ์ในห้องนั้นได้

             เดี๋ยวท่าน ผบ. จะโกรธเอานะ เสียงของผู้หญิงดูเหมือนจะจนปัญญาที่จะทำให้ลูกิไปช่วยงานคนอื่นได้

             ไม่เห็นเป็นไรเลย  ท่าน ผบ. ที่แก่ขนาดนั้นแล้วจะคงโกรธไม่เป็นแล้วล่ะมั้ง ลูกิที่นอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ทำเป็นไม่สนใจ

             ท่าน ผบ. ที่ฟังอยู่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้

             แต่ว่า...

             ท่าน ผบ. แค่ชมนิดหน่อยก็หายโกรธแล้ว  แถมแก่ขนาดนั้นแล้วคงลืมไปแล้วมั้งว่าอารมณ์โกรธมันเป็นยังไง  นี่ถ้าทำหน้าตาน่าสงสารอีกหน่อย  แล้วก็แกล้งมันเป็นว่าได้รับแผลจากสงครามมา  จากนั้นก็พูดว่า คือว่าผมเจ็บแผลน่ะครับ  ไม่อาจจะทำงานอะไรก็อยู่เฉยๆเพื่อไม่ให้เป็นตัวเกะกะเขา  เมื่อแผลผลหายเมื่อไรเดี๋ยวผมจะรีบไปทำงานทันทีเลยครับ แค่นี้ก็จัดการได้แล้ว ลูกิพูดอย่างไม่สนใจอะไร  ทั้งที่ตอนนี้ผู้หญิงที่เขาผู้ด้วยเมื่อกี้จับชายเสื้อเขาอย่างสั่นเหมือนกลัวอะไรบ้างอย่าง

             ล...ลู...กิ... เธอพยายามเรียกเด็กชายทั้งที่สั่นอยู่

             อะไร ลูกิยังคงอ่านหนังสือการ์ตูนต่อไป

             ด...ดูนั้น... เธอชี้ไปทางประตู

             อะไรนักหนาเนี่ย!” ลูกิพูดอย่างรำคาญก่อนที่จะเลิกอ่านการ์ตูนแล้วหันไปทางที่ผู้หญิงชี้

             ท่าน ผบ. ที่รู้จักดียืนอยู่หน้าประตูห้องที่ถูกเปิดออก  ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย  แต่บรรยายกาศที่อยู่รอบตัวกลับไม่เหมือนเคย

             ลูกิ ช่วยมาด้วยกันหน่อยสิ ท่าน ผบ. พูดด้วยรอยยิ้ม

             ผ...ผมเปล่าพูดอะไรไม่ดีใส่ท่านเลยนะครับ!” ลูกิพยายามปฏิเสธเต็มที่ แต่ใบหน้าของท่าน ผบ. ยังคงเหมือนเดิม

             ฉันบอกว่า ช่วย-มา-ด้วย-กัน-หน่อย ท่าน ผบ. พยายามพูดโดยเน้นที่ล่ะคำ

             เปล่านะ  ผมไม่ได้... ไม่ทันที่ลูกิจะพูดจบก็โดนท่าน ผบ. ที่เคารพรักจับคอเสื้อ ลาก ออกมาจากห้องมาแล้ว

             ท่าน ผบ. ลากลูกิออกมาเดินต่อไปตามทางที่ทอดยาวของระเบียงโดยไม่สนใจสายตานับร้อยคู่ที่จ้องมองมาที่ตัวเองอย่างแปลกๆ

             และในที่สุดก็ได้มาถึงที่หมายซักที...ห้องของพระสังฆราชนั้นเอง

             พระสังฆราชข้าเลือกได้แล้วว่าจะเอาใครไป ท่าน ผบ. พูดด้วยรอยยิ้มอัน อบอุ่น

             ทำไมเร็วจัง นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ พระสังฆราชอดถามไม่ได้

             คือว่า... ยังไม่ทันที่ท่าน ผบ. จะพูดจบก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาก่อน

             เดี๋ยวๆๆ ลูกิที่โดน ลาก มาพูดขึ้นมาก่อน นี่มันเรื่องอะไรกัน? แล้วจะเอาใคร?ไปที่ไหน? ลูกิเห็นท่าน ผบ. พูดแบบนั้นก็งงกับเหตุการณ์อยู่ เขาแค่ว่าท่าน ผบ. หน่อยเดียว(?)เอง ทำไมเรื่องมันงงๆขึ้นทุกทีแล้วเนี่ย!

             ก็หาคนไปในอดีตเพื่อไม่ให้ผู้กล้ากลายเป็นราชาปีศาจไง ท่าน ผบ. หันมาตอบคำถามของลูกิ

             อ๋อ...แล้วใครไปล่ะ?

             ท่าน ผบ. ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก็แกไง

             หา!!!”
    GG ..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×