ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บศพ

    ลำดับตอนที่ #1 : [Cloud] เมฆที่หม่นหมอง [FFVII] ตอนแรก

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 51


    บทความเจาะลึกตัวละครนี้ ผมเขียนไว้เพื่อแปะในเวปอื่น และในบลอกของตัวเองครับ เลยถือโอกาส เอามาฝากไว้ที่นี่ด้วย โดยตอนที่หนึ่งนั้น เป็นเรื่องราวของตัวละครสุดมืดมนตัวหนึ่งของซีรีย์ไฟนอล แฟนตาซี และเป็นตัวละครที่เพื่อนๆในนี้ให้คะแนนโหวตความนิยมไว้สูงน่าดู...นายหัวโบะของเรานั่นเอง :D

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Charactor in Vision

    " Cloud "

    กว่า 20 ปีที่ผ่านมา ไฟนอล แฟนตาซี หลายต่อหลายภาคนั้น มีตัวละครต่างๆ ปรากฏออกมาแสดงบทบาทมากมายนับไม่ถ้วน ต่างเพศ ต่างวัย ต่างอาชีพ ต่างสายพันธ์...และแต่ละคน ก็ล้วนมี”เหตุผล” มี”เรื่องราว” ที่จะทำให้ต้องจับอาวุธ ทำให้ต้องต่อสู้ และทำให้ต้องหลั่งเลือดด้วยกันทั้งสิ้น...อาจเพี่อแก้แค้นให้คนสำคัญที่เสียชีวิตไป เพื่อปกป้องโลกหรือคนรัก เพื่อปิดฉากการกระทำแต่ครั้งกาลก่อนของตนเอง...และอีกสารพัดจะยกมากล่าวอ้าง ซึ่งล้วนผลักดันให้เหล่าผู้คนต้องดิ้นรนไปจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทาง

    แต่หากจะมองให้ลึกๆแล้ว กว่าที่ไฟนอล แฟนตาซี จะได้สร้างสรรค์ตัวละครที่มี”เรื่องราว” ที่ลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน ชัดเจน และมีที่มาที่ไปอย่างแท้จริงนั้น...ก็ผ่านเนิ่นนานมาถึงไตรภาคที่ 3 ด้วยกัน

    ...มาถึงภาคที่เปิดตัว หนึ่งในตัวละครที่มืดมนได้สมจริงมากที่สุดตัวหนึ่งในซีรีย์...ทหารชั้นเฟิร์สคลาส ผู้กวัดแกว่งดาบยักษ์ใหญ่...นามว่า “ คลาวด์ สไตรฟ์ “

    “ Cloud “ – ช่วงชีวิตดุจเมฆหม่น [บทแรก]

    คลาวด์ สไตรฟ์ เกิดที่นีเบลไฮม์ หมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา ซึ่งตลอดชีวิตวัยเด็กของเขา ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเสมอมา เนื่องด้วยอุปนิสัยส่วนตัว ที่เป็นคนเงียบขรึม เก็บตัว และชอบแยกตนเองจากผู้อื่น ทำให้เด็กๆคนอื่น และคนในหมู่บ้าน รู้สึกว่า เด็กน้อยหงิมๆคนนี้ “แปลกประหลาด” และ “ไม่น่าคบ” เอาเสียเลย

    เหตุผลส่วนตัว ในมุมมองของเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยวคนนี้ก็คือว่า คนอื่นๆนอกจากตัวเองนั้น ช่างดูเด็ก ไร้แก่นสาร และไม่คู่ควรจะมาข้องเกี่ยวกับทีฟา สาวน้อยน่ารักน่าชังที่เขาอยากทำความรู้จักเอาเสียเลย

    เหตุผลที่กล่าวอ้างนั้น จะมาจากความเป็นผู้ใหญ่ที่เกินตัว หรือมาจากความขลาดเขลาจากเยาว์วัยก็แล้วแต่...กว่าที่คำตอบของมันจะปรากฏเด่นชัด ก็มาถึงวันที่ ชีวิตของคลาวด์ สไตรฟ์ ต้องเปลี่ยนแปลงไปไม่หวนคืน...

    ทีฟาประสบอุบัติเหตุตกจากเขา โดยที่เขาซึ่งเป็นคนๆเดียวที่แอบติดตามไป ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้แม้แต่น้อย !!

    เมื่อตระหนักถึงความอ่อนแอของตัวเองเป็นครั้งแรก และเข้าใจว่า เหตุผลต่างๆที่เคยยกมากล่าวอ้าง ไม่ได้บดบังความเป็นจริงที่ว่า ตนเป็นคนที่ไร้ซึ่งพลัง และโดดเดี่ยวมากเพียงไร...เด็กน้อยจึงมุ่งเข้าหาข้อสรุปที่ว่า ตนเองต้องการ”พลัง” ที่ยิ่งใหญ่ ตนเองอยากได้”ความแข็งแกร่ง” ที่ใช้ปกป้องคนสำคัญของตนได้อย่างแท้จริง และเมื่อถึงเวลานั้น ภาพของตัวเองที่ยกไว้สูง และภาพของคนอื่นที่อยู่ต่ำกว่า ก็จะชัดเจนจับต้องได้ในที่สุด

    การแสวงหา “ Model ” หรือก็คือบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจของตนเองนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก...ในช่วงชีวิตของคนเรา ตั้งแต่เกิดจนตาย ต่างต้องพบเจอบุคคลที่จะเป็นแบบอย่างให้เรายึดถือปฎิบัติตาม ไม่มากก็น้อย ทั้งแนวความคิด อาชีพ หรือกระทั่งแบบแผนการดำเนินชีวิต...โดยเฉพาะสำหรับช่วงวัยเด็กประมาณ 10 ขวบปีเช่นนี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่จะเริ่มต้นค้นหาผู้เป็น Ideal ให้กับตัวเอง...คุณพ่อ อาจารย์ นักแสดง นักวิทยาศาสตร์ หรืออะไรก็สุดแล้วแต่...

    สำหรับคลาวด์แล้ว ผู้ที่เป็นต้นแบบของ”ความแข็งแกร่ง”...ผู้ที่เป็นสัญลักษณ์ของ”พลัง” ที่เขาจะใช้ปกป้องคนสำคัญได้นั้น มีเพียงคนเดียว...เซฟิรอธ...โซลเยอร์ชั้นเฟิร์สคลาส...ตำนานที่ยังมีชีวิต

    โซลเยอร์ เป็นกองกำลังพิเศษ ขึ้นตรงต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ ชินระ...ซึ่งทำหน้าที่ปฎิบัติภารกิจเสี่ยงอันตรายต่างๆ โดยจุดสูงสุดของยอดคนเหล่านั้น ก็คือชายหนุ่มผมสีเงินยาว กับฝีมือดาบที่ไร้ก้นบึ้ง นามว่าเซฟิรอธนั่นเอง...

    อาจกล่าวได้ว่า เซฟิรอธ เป็นถึง Symbol of Absolute Power สำหรับผู้คนทั่วไป...โดยเฉพาะกับเด็กน้อยที่ไขว่คว้าหาพลังแล้วล่ะก็...เขาเป็นทั้งฮีโร่ เป็นทั้งแรงบันดาลใจ และเป็นทั้งเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง

    เด็กน้อยจากบ้านมาด้วยความมุ่งมั่น พร้อมคำสัญญาว่า จะกลับไปปกป้องทีฟา เมื่อถึงเวลาที่เธอประสบอันตราย...คลาวด์กระตือรือร้นไล่ตามภาพอันยิ่งใหญ่ของตัวเองในอนาคต เหมือนที่หลายๆคนเคยทำ และน่าเสียดาย ที่เขาก็ต้องประสบกับปัญหาเหมือนที่หลายๆคนเคยพานพบ...ผ่านมาหลายต่อหลายปี คลาวด์ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงสูงใหญ่ เข้ามาเป็นโซลเยอร์ชั้นเฟิร์สคลาสได้เหมือนที่ตั้งใจไว้

    คนหลายคน วิ่งหนีออกจากบ้านมาด้วยความคิดใหญ่โต และจบลงด้วยการซมซานกลับไปตายรังด้วยความเจ็บใจ...คลาวด์ไม่อยากทำเช่นนั้น ทว่า ด้วยหน้าที่ เขาต้องกลับไปสำรวจเตาปฎิกรณ์ที่บ้านเกิดของตัวเองในที่สุด กลับไปด้วยสภาพที่เป็นเพียงพลทหารธรรมดา...กลับไปพร้อมกับโซลเยอร์ชั้นเฟิร์สคลาสทั้งสองคน เซฟิรอธ-เป้าหมายที่ยังไม่สามารถเข้าใกล้ และแซ็ค-เพื่อนสนิทผู้เป็นกำลังใจตลอดมา

    ที่นีเบลไฮม์ คลาวด์แอบซ่อนตัวตนภายใต้หมวกและเครื่องแบบของชินระ และพยายามหลีกหนีไม่พบหน้าทีฟา ...แต่เขาไม่ได้เอะใจเลยซักนิดว่า การกลับมาครั้งนี้ จะทำให้เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง...แม้แต่ตัวตนของเขาเอง

    ณ ที่แห่งนี้ เซฟิรอธได้ค้นพบความจริงเบื้องหลังชาติกำเนิดของตัวเอง และทำให้เขาเสียสติไปโดยสิ้นเชิง...ยอดนักรบกวัดแกว่งดาบเข่นฆ่าผู้คน และเผาทำลายทั้งหมู่บ้านจนพินาศสิ้น ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังเตาปฏิกรณ์ เพื่อค้นหาเศษซากที่เหลืออยู่ของ”เจโนวา” สิ่งมีชีวิตต้นแบบ ที่ทำให้เกิดตัวเขาขึ้นมา

    จากทฤษฎีจิตเวชเด็กและวัยรุ่น...ช่วงวัยรอยต่อระหว่าง “วัยเด็ก” กับ ”วัยผู้ใหญ่”นั้น ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ...เป็นวัยแห่งการ ”ค้นหาตัวเอง” เพื่อที่เด็กน้อยในช่วงวัย 16-20 ปี จะต้องแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า “อัตลักษณ์” ( Identity ) หรือก็คือ “ความเป็นตัวเอง” / “เอกลักษณ์ของตัวเอง” ให้พบ ภายในเวลาที่จำกัดนั้น

    โดยปกติแล้ว หากเด็กน้อยเติบโตไปตามลำดับขั้นอย่างถูกต้อง เมื่อถึงช่วงวัยรุ่น จะเริ่มมองเห็นถึงความเหมือนและความแตกต่างของตัวเองกับคนรอบข้าง...พวกเขาจะเห็นถึงสิ่งที่คนอื่นมี และตัวเองไม่มี พร้อมกันนั้น ก็จะไขว่คว้าหา”เอกลักษณ์”ของตัวเอง ให้ตัวเองเป็นจุดเด่น ให้ตัวเองไม่เหมือนใคร...คนที่โชคดีหาได้เจอ ก็อาจจะพัฒนาสิ่งนั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไป แต่หลายคนก็โชคร้าย เคว้งคว้างวนเวียนอยู่กับการหาความหมายในการมีอยู่ของตัวเอง และอาจถึงขั้นเสียผู้เสียคนไปเลย

    สำหรับคลาวด์ผู้โดดเดี่ยวและอ่อนแอแล้ว “อัตลักษณ์” ที่ตัวเขาคาดหวัง คือการเป็นผู้ที่เข้มแข็งเท่าเทียมกับฮีโร่ในดวงใจ...ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาเคยเข้าใจว่า ตัวเองเข้าใกล้ “คลาวด์” ในอุดมคติมากขึ้นทีละขั้นแล้ว

    แต่ฉับพลัน เป้าหมายนั้นก็หายไป...ตัวตนของเขา ลอยล่องอยู่กลางเส้นทางชีวิต...โดยไม่มีแม้แต่คำเตือน ไม่มีแม้แต่ทางหลบหนี !!

    ...ก่อนที่จะได้ทันตั้งหลัก คิดถึงการค้นหาเส้นทางชีวิตเส้นใหม่...คลาวด์เองได้ใช้แรงฮึดอย่างบ้าคลั่ง กำจัดเซฟิรอธให้ร่วงลงไปในเตาปฎิกรณ์ได้สำเร็จ...แต่ทั้งเขาและแซ็ค ก็ถูกบริษัทชินระจับไปทดลอง และฉีดเซลล์ของเจโนว่าเข้ากับตัว...
    ....
    .....
    .......
    เวลาผ่านมาถึง 4 ปี...แซ็คพาคลาวด์ที่เริ่มถูกปฎิกิริยาจากเซลล์เจโนวาเล่นงาน หนีออกไปเพื่อหาอิสรภาพ...ทั้งคู่หลบหนีไปได้กลางทาง...ทว่า แซ็คกลับถูกทหารของชินระที่ติดตามมา สังหารทิ้ง และปล่อยให้ตายลงช้าๆ ข้างๆร่างของคลาวด์เพื่อนรัก ที่แทบจะหมดสภาพไปตามๆกัน...

    แซ็คส่งมอบดาบบัสเตอร์ซอร์ดเล่มโต ซึ่งเขาเองก็ได้รับมาจากคนสำคัญ ให้กับคลาวด์ และฝากฝังให้สืบทอดชีวิต เจตจำนง และความภาคภูมิใจให้สืบเนื่องไป....ก่อนที่จะจากไปอย่างสงบ...

    ...เรื่องราวของแซ็คจบลง แต่ของคลาวด์เพิ่งจะเริ่มต้น...

    การไล่ตามความฝันที่ไม่สำเร็จ การปกป้องคนสำคัญไม่ได้เป็นครั้งที่สอง การสูญเสียคนอันเป็นที่รักไปเพราะความอ่อนแอของตัวเอง การเปลี่ยนแปลงไปของบุคคลที่เป็นแบบอย่างในอุดมคติ และการส่งมอบความนึกคิดอันใหญ่หลวง ให้กับตัวเขาเพียงคนเดียว....ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ หนักหนา และยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ชายวัย 20 กว่าปีจะพึงรับได้…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อความทรงจำสุดท้ายของเขา คือการสูญเสียเป้าหมาย ”ปลายทาง”ของชีวิตไป อย่างผิดความคาดหมายโดยสิ้นเชิง

    คนเราทุกคน จะมีสิ่งที่เรียกว่า “กลไกป้องกันตัวเอง” (Defence mechanism) อยู่ ไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง...หน้าที่ของมัน คือทำการปกป้อง”จิตใจ” อันแสนอ่อนแอของเจ้าของ ไม่ให้เสียหาย หรือแหลกเหลวไปกับปัจจัยภายนอก...ซึ่งการแสดงออกของมัน ก็ต่างออกไป แล้วแต่พื้นเพ แล้วแต่ตัวเรา แล้วแต่สถานการณ์ ดังเช่น

    Denial – การปฏิเสธ ไม่ยอมรับความจริง เช่นผู้ที่เพิ่งได้รับแจ้งว่า ตนเป็นโรคร้าย
    Rationalization – การหาเหตุผล เพื่อรองรับความผิดพลาดของตัวเอง เช่น องุ่นเปรี้ยว/คลาวด์วัยเด็ก
    Projection – การกล่าวโทษ หาเป้าหมายอื่นมารับผิดแทน เช่น รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
    Suppression – การระงับ พยายามกดเก็บการรับรู้ความเป็นจริง เช่น ไม่นึกถึงเรื่องของการสอบ จวบจนใกล้ตัว
    ฯลฯ

    ในกรณีของคลาวด์ แม้เซลล์ของเจโนวา จะมีส่วนในการปรับเปลี่ยนรูปแบบความทรงจำให้ต่างออกไป แต่อีกสิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ ตัวเขาเอง ซึ่งเพิ่งจะเผชิญกับสภาพบีบคั้นที่สุด ทั้งร่างกายและจิตใจ…“กลไกป้องกันตัวเอง” จึงทำงานรุนแรงเป็นพิเศษ เป็นชนิดที่เรียกว่า Dissociation – การแยกตัวออก เป็นการเปลี่ยนแปลงบุคลิก ความทรงจำ สติสัมปชัญญะ และรูปแบบอารมณ์ของคนๆหนึ่ง (ซึ่งมักอ่อนแอ ไร้พลัง) ไปเป็นอีกหนึ่งบุคลิกหนึ่ง (ซึ่งมักเข้มแข็ง และพึ่งพาได้)...และเมื่อมันพัฒนาไปมากขึ้น อาจเกิดเป็นโรคทางจิตที่เรียกว่า Multiple Personality Disorder…ที่เรียกโดยทั่วกันว่า “บุคลิกภาพซ้อน” นั่นเอง

    เปลือกที่ชื่อว่า “คลาวด์” โดดเดี่ยว ขลาดเขลา และอ่อนแอเกินกว่าที่จะป้องกัน “แก่น” ที่เปราะบางข้างในตัวได้
    ...แต่ถ้าหากเป็นเปลือกที่ชื่อว่า “แซ็ค” ซึ่งเข้มแข็ง อ่อนโยน และมุ่งมั่นแล้ว...มันก็อีกเรื่องหนึ่ง

    คลาวด์ ปฎิเสธที่จะรับรู้เรื่องราว และไม่ยอมมองไปยังปัญหาและหน้าที่จากอดีต...เขาเลือกที่จะหนีไปรับความทรงจำของเพื่อนรัก ที่ผูกพันและเชื่อใจกันมานาน ผสมผสานเข้ากับความทรงจำของตัวเอง ซึ่งถูกสร้างโดยเซลล์ของเจโนวา...

    ...และแล้ว...

    “คลาวด์” โซลเยอร์เฟิร์สคลาส ผู้เข้มแข็ง เก่งกาจ และเป็นนักรบรับจ้างผู้ปลีกวิเวก ไม่รับรู้สังคม ก็ได้หยิบดาบเล่มโต สะพายบ่า...และเดินจากไป

    ...ทิ้งไว้เพียงอดีตที่แสนห่างไกล และคำสัญญาที่อยู่ในซอกหลืบของความทรงจำ...

    ...To be continued...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×