คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ไปด้วยกัน
ไปด้วยกัน
ร่างบางของไอซิสสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ในชีวิตหญิงสาวได้พบกับความตายหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เฉียดเข้าใกล้เธอเหมือนในครั้งนี้ เพียงแค่เสี้ยววินาที เธออาจกลายเป็นศพนอนกองอยู่ตรงนั้นก็ได้
หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มที่เรียกได้ว่าพยายามลากเธอออกจากจุดที่วุ่นวายนี้รวดเร็ว
“ขอโทษด้วยนะครับ” เขาก้มลงมากระซิบ ท่ามกลางเสียงวุ่นวายของผู้คนรอบด้าน
“ค่ะ?” ไอซิสยังมึนงง
“ได้เอารถมาไหมครับ” เขาถาม ในที่สุดพวกเธอก็ออกมายืนอยู่หน้าร้านอาหารจนได้
ไอซิสส่ายหัว หัวใจของเธอเต้นระรัวราวจังหวะเพลงในผับ ลมหายใจหอบรุนแรงเสียยิ่งกว่าผ่านการวิ่ง 5 กิโล ดวงตาของเธอหวั่นไหว หันกลับไปมองพนักงานที่เหลือ ที่ยังคงวิ่งออกมาจากร้านอาหาร
“เขาจงใจยิงคุณ” หญิงสาวเอ่ยออกมาในที่สุด
ชายหนุ่มเคียงข้างเธอตอบกลับไอซิสด้วยรอยยิ้มเย็น รอยยิ้มที่ไอซิสจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมาจากผู้ชายที่ยิ้มแย้มอารมณ์ดีอย่างนิโค แล้วภาพที่เธอเห็นนั้นมันคืออะไรกัน เขา เลือด และปืน นั้นเป็นชีวิตที่เขาดำรงอยู่อย่างนั้นหรือ
“รถผมมาแล้วครับ” รถสีขาวถูกจอดเทียบหน้าฟุตบาตห้ามจอด ร่างสูงใหญ่พาไอซิสไปยีงรถคันนั้น “เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านนะครับ”
“ปัง!”
“ว้าย!” เสียงปืนที่ดังขึ้นกระทันหัน ทำให้ไอซิสโผเข้ากอดร่างแกร่งอย่างไม่รู้ตัว
ดวงตาคมกริบจ้องเข้าไปภายในร้าน เสียงปืนที่เขาได้ยิน ไม่ได้ดังมาทางเขา คงจะเปลี่ยนจากลอบฆ่าเป็นปล้นสินะ
หากทำงานไม่สำเร็จ ก็ต้องเปลี่ยนเป้าหมายให้รับโทษเบาที่สุด...
“ไม่เป็นไรนะครับ” นิโคลัสกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พาร่างบางเข้าไปนั่งในเบาะหลังเคียงคู่กับเขา
ร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงัก ดวงตายังคงจับจ้องไปยังร้านอาหารด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่รถรีบเคลื่อนออกจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว
“ไปส่งเธอที่บ้านก่อน” ชายหนุ่มสั่งการเป็นภาษาอังกฤษ
“คุณรู้จักบ้านฉันได้ยังไงค่ะ” ไอซิสเอ๊ะใจ เพียงคำตอบที่เธอได้รับ กลับเป็นเพียงรอยยิ้มของเขาเท่านั้น
“คุณจำคำพูดที่คุณพูดในร้านอาหารได้ไหม” เขาถามกลับ คำถามที่ยิ่งสร้างความกังวลให้คนตัวเล็ก
“ดะ ได้ค่ะ”
“มันคืออะไรครับ”
“ฉะ ฉัน...” ไอซิสสูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด ราวกับต้องการที่จะสร้างความกล้าให้ตัวเอง ตลอดทั้งชีวิตของเธอมีเพียงผู้เป้นย่าเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แล้วเธอต้องมาบอกให้คนนอกได้รับรู้ เขาจะคิดว่าเธอเป็นประสาทหรือเปล่า
“ผู้หญิงผมสั้น ที่มักใส่โค้ทยาวอยุ่เสมอ ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาวคนนั้น เป็นศัตรูกับผมเอง” นิโคลัสนำร่องพูดออกมาเสียก่อน เป็นข้อยืนยันได้ว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
“บางครั้งเวลาที่ฉันได้สัมผัสร่างกายของคนอื่น ฉันจะสามารถมองเห็นอนาคตที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ได้ค่ะ” ไอซิสเอ่ยออกมาในที่สุดหลังจากที่รวบรวมคำพูดเสียนาน
“แสดงว่าตอนนี้คุณไม่ได้สัมผัสอะไรใช่ไหมครับ” นิโคถาม ยกมือของตัวเองขึ้น มันคงไม่ได้เรียกอุณหภูมิร่างกายของหญิงสาวให้ขึ้นสูงหากมือที่เขายกขึ้นมาโชว์นั้นไม่ได้มีมือของเธอประสานอยู่
“อ๊ะ!” หญิงสาวอุทานเมื่อพยายามดึงมือออก แต่คนข้างเธอกับกอบกุมไว้แนบแน่นกว่าเดิม
“ผมคงต้องไปแล้ว” นิโคเอ่ยทำลายความเงียบมาในที่สุด บางทีเขาอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาพบเธออีก “คุณยังไม่ได้เลี้ยงข้าวผมเลย”
“อะ เอ่อ” ไอซิสไม่รู้จะตอบเขาว่าอะไร อนาคตอันใกล้ที่เธอเห็น อาจเป็นคืนนี้ก็ได้ เธอเพิ่งสังเกตว่ากางเกงที่เขาสวมอยู่น่าจะเป็นกางเกงตัวเดียวกันที่เธอเห็นในนิมิตร “คุณจะบินคืนนี้หรือค่ะ”
รถจอดเทียบหน้าบ้านของเธอแล้ว แม้จะใช้เวลาเกือบชั่วโมงขับรถมาส่งเธอที่อยู่เกือบชานเมืองเช่นนี้ แต่ทำไมกันนะ หญิงสาวกลับรู้สึกว่าทันไวเหลือเกิน หรือท้องถนนในช่วงค่ำคืนนี้ไม่วุ่นวายอย่างที่ควรจะเป็น
“พรุ่งนี้เช้าครับ” เขาเปิดประตูรถ...เป็นการเปิดประตูรถที่ทำให้ไอซิสรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
“คะ...คุณคิดว่าคนพวกนั้นจะตามฉันมาไหมค่ะ?”
คำถามของหญิงสาวที่กำลังจะตามเขาออกมาทำให้นิโคอดใจตัวเองเอาไว้ไม่ได้ เขาก้มลงจุมพิตหน้าภาพที่อุ่นร้อนของไอซิส กลิ่นหอมละมุนจากกลุ่มผม ชวนให้เขาค้างร่องรอยของเขาเอาไว้อย่างนั้นเนิ่นนาน
รัคซาร์มองเห็นผู้มีพระคุณของเธอจากระเบียงชั้นบน เธอรีบผลุบตัวเองเข้าไปในห้อง ดูเหมือนว่าเธอออกไปเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นเสียแล้ว ใบหน้าของเธอแดงกล่ำ ด้วยความเขินอาย
“ไหนว่าไม่มีแฟน แต่หวานกันจัง” ร่างเล็กพึมพำ ก่อนจะกระโดดขึ้นบนที่นอน แล้วหยิบเฮดโฟนมาสวมหัว ก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารเชื่อมต่อกับเฮดโฟนของเธอ เปิดเพลงคลอ แล้วเปิดนิยายรักอ่าน ปล่อยให้เจ้าของบ้านและแฟนของเธอใช้เวลาอย่างหวานชื่น โดยไม่มีตัวเองเข้าไปรบกวนจะดีกว่า...คิดแบบนั้นก็ยิ้มออกมา แล้วปล่อยใจไปกับเสียงเพลง
“ไม่หรอกครับ” นิโคลัสตอบ เมื่อถอนริมฝีปากออกจากหน้าผากมนนั้นได้แล้ว
ใบหน้าของหญิงสาวแดงฉานเสียยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศ หูของเธอร้อนระอุเสียยิ่งกว่ากาต้มน้ำ ไม่เคยมีใครอ่อนโยนกับเธอเท่านี้ สิ่งที่ชายหนุ่มทำไม่สามารถเรียกได้ว่าเป้นการฉวยโอกาส แต่เป็นการปลอบโยนที่ออกมาจากหัวใจของเขา...และนั่นทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว
เพียงแค่รั้งเขาไว้ได้ จนผ่านค่ำคืนนี้ไป เขาอาจจะปลอดภัย นั่นเป็นวิธีเดียวที่ผุดเข้าไปในห้วงความคิดของไอซิสในตอนนั้น
“เข้าไปดื่มน้ำก่อนไหมค่ะ” เธอมองรถของเขาที่คนขับรถยังจอดเทียบอยู่ “ยังไงเราสองคนก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งคู่” เสียงไอซิสเบาราวกระซิบ แต่แน่นอนว่านั้นก็เป็นข้ออ้างเพียงพอให้นิโคลัสได้ก้าวเท้าเข้าไปในบ้านของเธอแล้ว
...และเขาก็อยากทำเช่นนั้นใจจะขาด
แรงสั่นสะเทือนของเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงของเขาทำให้แพลนในคืนนี้ต้องพับลงไปอีกครั้ง
“ขอโทษนะครับ ขอผมรับสายนี้ก่อน” ชายหนุ่มปล่อยมือเธอให้เป้นอิสระ กลับเข้าไปนั่งในรถ เพื่อคุยโทรศัพท์อยู่ในนั้น
ภาพหัวของเขาที่เต็มไปด้วยเลือด ไหลวนเข้ามาในสมองของไอซิสอีกครั้ง หากผู้หญิงคนนั้นลั่นไก นิโคลัสจะเป็นอย่างไร เธอจะช่วยเหลือเขาไว้ได้ไหม ชีวิต...คนทั้งคน เธอจะช่วยเอาไว้ได้ไหม
“ขอโทษด้วยนะครับ ที่แม้แต่น้ำเปล่าผมก็เข้าไปรับน้ำใจของคุณไว้ไม่ได้ซะแล้ว” เขาบอก พร้อมกับยิ้มเจื้อน “ผมต้องไปแล้วละครับ ไว้ผมกลับมาแล้วจะติดต่อคุณ...”
“ให้ฉันไปด้วยนะคะ” ไอซิสชิงพูดก่อนที่เขาจะได้พูดจนจบ
“ยังไงมือปืนคนนั้นก็เห็นหน้าฉันอยู่แล้ว หากฉันอยู่จะมาฆ่าปิดปากฉันไหมก็ไม่รู้ ให้ฉันไปกับคุณด้วยนะคะ” ทุกคำพูดมันไหลออกมาจากปากของเธอเสียเอง
“ครับ?” แม้แต่นิโคลัสที่ได้ยินยังตกใจ สมองของเขาประมวลผลช้าไปชั่วขณะ เพราะเขาหรือเปล่าที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย
สมองของนิโคลัสกำลังตวงชั่งว่าทางเลือกไหนดีกว่ากัน และอันตรายน้อยที่สุดสำหรับหญิงสาวตรงหน้าของเขา แต่คำถามที่สำคัญยิ่งคือผู้หญิงตรงหน้านี้จะสำคัญพอสำหรับเขาไหมที่จะต้องปกป้องเธอ
แต่ไม่ใช่เขาเองหรอกหรือที่นำพาอันตรายมาสู่ชีวิตของคนๆนี้
ความคิดเห็น