คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ดินเนอร์เสี่ยงตาย
ดินเนอร์เสี่ยงตาย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ไอซิสกำลังรับไอติมกะทิมาจากลุงรถเข็น ทำให้รัคดต้องรีบรับไอติมต่อมาจากมือของไอซิส เพื่อที่เธอจะได้มีมือว่างเพื่อค้นหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าผ้าของเธอ
เบอร์โทรที่โชว์อยู่หน้าจอโทรศัพท์ทำเอาหญิงสาวถึงกับต้องตกตะลึง เพราะว่าเธอลืมนัดกับเขาคนนี้ไปเสียสนิท!
“สวัสดีค่ะ” ไอซิสรีบกรอกเสียงไปตามสาย
“...สวัสดีครับ”
“คุณจะโทรมาเรื่องนัดของเราคืนนี้ใช่ไหมค่ะ” หญิงสาวออกตัวเสียก่อน
“ครับ...ผมนึกว่าคุณลืมไปเสียแล้ว” เกิดเดดแอร์ไปชั่วขณะ “...คุณลืมไปแล้วจริงๆด้วยใช่ไหมครับ”
“ขอโทษนะคะ” เธอรับความผิดอย่างไม่มีข้อแก้ตัว ลืมจริงๆ ลืมแบบคิดไม่ถึงเลย
“เฮ้อ!!” เขาถอนหายใจ จงใจให้หญิงสาวรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร”
คำพูดแต่ละคำ แทงใจดำของไอซิสจี้ดๆ แม้จะรู้ว่าเขาพยายามทำให้เธอต้องรู้สึกผิดก็ตาม อีกนัยก็เหมือนจะแอบน้อยใจไปเสียด้วย
“พอดีฉันติดธุระด่วนนะคะ” ไอซิสเสียงอ่อนลง งานนี้เธอผิดเต็มประตูเพราะบอกกับเขาว่าจะติดต่อไปแต่เข้า ข้อมือเล็กบิดนาฬิกาดูก็ล่วงเลยไปกว่าบ่าย 2 แล้ว เธอหันไปมองยังรัคอย่างเป็นกังวล
“ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรก็ได้ครับ” เสียงปลายสายเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
“คืนนี้เราไปเจอกันที่ร้าน...” ไอซิสบอชื่อร้านอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากผับที่ได้เจอกับเขา
“โอเคครับ” ปลายสายตกลง หลังจากคุยกันเรื่องเวลาแล้ว ไอซิสก็รีบกลับมารับไอติมที่ละลายลงไปเกือบครึ่งถ้วยแล้ว
“นี่ฉันทำให้คุณไอต้องทะเลากับแฟนหรือเปล่าค่ะ” คำพูดของรัคทำให้หัวใจของไอซิสเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุมีผล
“ปะ...เปล่าค่ะ” รีบปฏิเสธ
“ขอโทษด้วยนะคะ ทั้งที่วันอาทิตย์คุณต้องใช้เวลาอยู่กับเขาแท้ๆ เรารีบกลับกันเลยดีกว่าค่ะ คุณไอจะได้มีเวลาแต่งตัว
หญิงสาวเจ้าบ้านได้แต่กล้ำกลืนคำพูดลงไป เพราะเธอไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอธิบายตั้งแต่ตรงไหนให้รัคฟังดี จึงได้แต่ส่งยิ้มให้ หลังจากนั้นไอซิสก็พารัคกลับมาที่บ้าน เพื่อที่ตัวเองจะได้อาบน้ำแต่งตัวใหม่ด้วย
“แน่ใจนะคะว่าอยู่ได้ ให้ฉันสั่งอาหารเข้ามาให้ไหมค่ะ” ไอซิสยังคงเป็นกังวล
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลานัด แฟนคุณจะยิ่งโกรธเอานะคะ” รัคปฏิเสธความหวังดี มองเจ้าของบ้านในกางเกงหนังเทียมรัดรูปคลุมข้อสีดำ กับเสื้อเบลาส์ครอปลายลูกไม้สีขาวแขนยาว ทั้งที่สไตล์ต่างกันแต่เมื่อไอซิสใส่กับดูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ทำให้รัคอดชื่นกับหุ่นที่สามารถแต่งตัวสไตล์นี้ออกมาได้
“คุณไอหุ่นดีมากๆเลยค่ะ”
“หุ่นดีอะไรกันค่ะ ผอมเสียขนาดนี้ อย่างเพิ่มน้ำหนักมากกว่านี้อยู่ค่ะ คุณรัคต่างหากหุ่นทรงนาฬิกาทรายแบบนี้อย่าว่าแต่หนุ่มๆพากันมองเลยค่ะ สาวๆเองก้พากันอิจฉาเหมือนกัน”
“ก็เกินไปค่ะ เอาละรีบไปได้แล้ว ไม่ต้องห่วงฉันนะคะ”
“โอเคค่ะ” ไอซิสหันหลังก้าวเดินออกมา ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ “อ้อ! แล้วก็ฉันไม่ได้เป็นแฟนเขานะคะ”
คำอธิบายนั้นทำเอารัคหลุดขำออกมา ดวงหน้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ถึงกับขึ้นสีด้วยความเขินอาย นั่นสิเธอไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้รัครู้เลย เพราะการทำแบบนั้นเหมือนเด้กน้อยที่โดนผู้ใหญ่จับได้ว่าตัวเองแอบมีแฟน ไม่มีผิด!
ไอซิสเลือกเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าสาธารณะ เพื่อที่จะไปให้ทันเวลานัด เธอกังวลว่ากลัวจะไปหาที่จอดรถไม่ได้แล้วการวนหาที่จอดรถในใจกลางกรุงเทพนั้นก็กินเวลาเอามากๆเลยทีเดียว
กระเป๋าผ้าใบใหญ่ถูกหญิงสาวดึงให้กระชับตัวมากขึ้นเพื่อที่จะไม่ได้เหวี่ยงไปมายามที่เธอก้าวเท้าไปตามทางเดินด้วยความรวดเร็วเช่นนี้ แล้วไอซิสก็ต้องรอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเธอมาถึงก่อนเวลาถึง 15 นาที
“ได้จองโต๊ะไว้ไหมค่ะ” บริกรสาวเข้ามาถาม
“ไม่ค่ะ”
“กี่ท่านค่ะ”
“2 ค่ะ”
“รบกวนรอสักครู่นะคะ” บริกรสาวแจ้งอีกครั้ง ก่อนกดป้อนข้อมูลลงบนเครื่องมือของเธอเพื่อเช็คที่นั่งว่างคงเหลือ ในระหว่างรอไอซิสจึงได้โอกาสหันมองไปรอบๆ ดุเหมือนร้านจะตกแต่งใหม่จากครั้งล่าสุดที่เธอมา
“อ่ะ!” หญิงสาวอุทาน เมื่อสะดุดเข้ากับร่างๆหนึ่งที่คุ้นตา เมื่อชายผู้นั้นโบกมือให้เธอ ไอซิสจึงมั่นใจว่าจะต้องเป็นผู้ชายที่เอที่ผับหรูนั้นอย่างแน่นอน
“มีอะไรหรือเปล่าค่ะ” บริกรถาม
“ฉันเจอเพื่อนแล้วนะคะ” ไอซิสตอบ บริกรหญิงยิ้มรับ ก่อนที่จะรีบพาลุกค้าสาวไปยังโต๊ะที่ว่า
“อีกสักครู่เดี๋ยวมีพนักงานมารับออเดอร์นะคะ” ทั้งสองจึงพยักหน้ารับพร้อมกัน
“ฉันนึกว่ามาก่อนเวลาแล้วเชียว” ไอซิสรีบชิงเอ่ยแก้เขิน
“ผมทำธุระอยู่แถวนี้พอดีครับ”
“อ๋อ! ค่ะ คุณจะทานอะไรสั่งได้เลยนะคะ” บอกกับเขา ตัวเองก็สำรวจรายการอาหารที่มีเมนูเพิ่มเข้ามาใหม่ไปด้วย แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้สนใจเมนูที่วางอยู่ด้านหน้าเอาเสียเลย ไอซิสจึงเงยหน้ามองเขา
เป็นจังหวะที่ราวกับว่าโลกรอบข้างของเธอจะหยุดนิ่ง ดวงตาสีสว่างที่เธอคิด คือสีน้ำตาลอ่อน รับกับผมสีช็อคโกแลตของเขา คิ้วหน้าที่เส้นขนเรียงอย่างเป็นระเบียบรับกบใบหน้าที่มีรอยเคราจางๆ จมูกโด่งเป็นสันสูง ดูเข้ากันกับรอยโค้งเหนือริมฝีปากที่มีเส้นขอบปากชัดได้รูป
‘เบ้าหน้าฟ้าประทานชัดๆ’ ไอซิสคิด ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงทำท่าเสียเซลฟ์ซะขนาดนั้น ทั้งชีวิตของเขาคงไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
รอยยิ้มของเขาเหยียดออก เสมองไปด้านข้างพร้อมกัดริมฝีปาก ก่อนจะหันกลับมาสบตาไอซิสอีกครั้ง
“ถ้าคุณยังมองผมต่อแบบนี้ มีหวังผมได้กินคุณแทนข้าวแน่ๆ”
ไอซิสยังคงจับจ้องไปที่เข้า ทั้งใบหน้าของเธอเห่อร้อน แต่ก็ไม่อาจที่จะหันหนีได้ ราวกับโดนใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของเขาสะกดเอาไว้
“คุณนี่น่ารักจริงๆเลย” เสียงเข้าลอยเข้ามาที่หูของหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนที่มือใหญ่จะฉวยโอกาสวางทาบทับมือเล็กๆของเธอที่วางอยู่บนเมนูอาหารจนมิด แล้วภาพก็ตัดเข้าวงโคจรบางอย่าง ร่างเล็กสะดุ้งไปทั้งร่าง
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากศีรษะ ท่อนบนเปลือยเปล่า ดวงตาลอยขึ้นผิดปกติ ผู้หญิงในชุดโค้ทหนังยาวโยนเข็มฉีดยาลงบนพื้น ก่อนที่จะชักปืนจ่อเข้าที่ศีรษะของเขา
“...คุณไอซิส ไอซิส ไอซิส!” เสียงของนิโคเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อดวงตาของเธอจ้องตรงมายังเขา แต่ดูเหมือนว่าจะทะลุไปยังบางอย่าง เหมือนว่าสติเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว
“คะ ค่ะ” ไอซิสเหงื่อแตก สบตามองเขาอย่างได้สติ ดวงตากลมโตกรอกไปมาอย่างไม่รู้ตัว หัวคิ้วหน้าของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันอย่างเป็นกังวล แล้วย้ายตัวเองจากเก้าอี้ตรงข้ามมานั่งอยู่ข้างหญิงสาว
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ รู้สึกไม่สบายรึเปล่า”
ไอซิสสบตาคนที่อยู่ตรงหน้า ถือโอกาสกอบกุมมือของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เธอเอียงคอมองอย่างพยายามค้นหาคำตอบที่แอบซ่อนอยู่ในผู้ชายคนนี้
“คุณทำงานอะไรกัน! คุณกำลังจะได้รับอันตราย...ผู้หญิงผมสั้น ใส่โค้ทหนังยาว เข็มฉีดยา....” เธอพรั่งพรูสิ่งที่เห็นออกมา ไม่สนใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะคิดว่าเธอเป็นบ้าหรือไม่
“หลบ!” เขาดันตัวของหญิงสาวให้ก้มต่ำอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ในขณะที่ร่างใหญ่ของเขาเองเบี่ยงออกจากวิถีกระสุนอัตโนมัติ มือจับเก้าอี้ตัวที่ไอซิสเพิ่งนั่งใส่ผู้ชายในชุดสูทที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านอาหาร
“กรี๊ด!” ไอซิสร้องออกมา เมื่อโต๊ะที่เธอหลบอยู่ล้มลงไปจนแจกันดอกไม้กลิ้งลงมาตกใส่ไหล่ของเธอ จากการต่อสู้ของนิโคและผู้ชายคนนั้น เสียงกรีดร้องโวยวายดังไปทั่วร้านอาหาร ลูกค้าต่างพากันวิ่งออกหนีตาย
“ไปเร็ว!” นิโคลัสเรียกหญิงสาวที่ตัวสั่นด้วยความกลัวให้ลุกขึ้น เขาแทบจะคว้าข้อมือของเธอออกมาแล้วรีบแทรกแซงเข้าไปในฝูงชนที่วิ่งกันอยู่วุ่นวาย เขาหันไปเห็นมือปืนพูดอะไรบางอย่างกับหูฟังสื่อสารที่คล้องหู คงต้องมีใครดักรอเขาอยู่ที่ไหนอีกสักแห่ง มันถึงวางใจไม่ตามเขามาเช่นนี้ เป็นเขาที่ประมาทเอง ทั้งที่ควรจะหลบไปได้แล้ว กลับอยากจะเจอหญิงสาวผู้นี้อีกครั้ง แล้วที่เธอพูดออกมาเมื่อกี้มันอะไรกัน...
ความคิดเห็น