คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : WONKYU : ERROR
PAIRING : SIWON X KYUHYUN x ZHOUMI(?) - Wonkyu or 2Jo ?
STORY : ERROR
ANOTHER : SIGNSIGNEUN
NOTE : เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน เราขอให้ทุกคนระลึกชาติไปถึงตอนที่คุณพ่อขราบินไปอเมริกานะคะ
** แต่งไว้นานแล้วค่ะ เอาลงไปแค่ที่เอสเอ็มฟิคบอร์ดเก่า นี่ก็ไปขุดมา 5555555555555
-----
เพล้ง!!
เสียงที่เหมือนแก้วหรืออะไรสักอย่างแตกเรียกความสนใจจากทุกคนในหอพักของเอสเจเอ็มให้มาเห็นเหตุการณ์ตรงห้องรับแขก สิ่งที่ทุกคนเห็นคือคยูฮยอนส่งสายตาวาววับไปยังซีวอนที่ยืนห่างออกไปประมาณสามเมตร ใกล้ๆกันมีเศษแก้วที่แตกละเอียด
แตกเหมือนหัวใจของคนที่ปามันออกไป...
เลือดสีแดงไหลอาบมือ แต่ไม่มีใครกล้าขยับตัวหรือทำอะไรเมื่อเห็นน้ำตาบนใบหน้าของคนที่มักจะเข้มแข็งเสมอ คยูฮยอนคือคนที่ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น ยกเว้นวันนี้ที่น้ำใสๆนั้นไหลออกมาอย่างไม่อาย ริมฝีปากที่เคยแดงอยู่เสมอกลับซีดขาวและเม้มแน่นเข้าหากัน
“ไปเลยสิ ไปแล้วไม่ต้องกลับมา!” น้องเล็กของวงพูด “อยากไปอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องกลับมา อุตส่าห์ไปเจอกันถึงที่นั่นแล้วจะกลับมาหาผมทำไม!!”
“คยูฮยอน....”
“ไม่ต้องมาเรียกชื่อผม” พูดจบก็หันหลังเดินเข้าห้องตัวเองไปทันที คนตัวสูงกว่าได้แต่มองตามแผ่นหลังของน้องเล็ก นัยน์ตาคมแสดงความเสียใจออกมากมาย ร่างสูงทรุดลงบนโซฟาใกล้ๆกัน มือใหญ่ลูบหน้าตัวเองไปมาเพื่อบรรเทาอาการเครียด
เรียวอุควิ่งไปในห้องครัวเพื่อจะเอาที่ตักผงกับไม้กวาดมาเก็บเศษแก้วออกไป ฮยอกแจและทงเฮเดินเข้ามาหาซีวอน ทงเฮตบไหล่ร่างสูงเบาๆ ซีวอนหันมายิ้มบางๆให้ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะเอ่ยขึ้น
“ฉันไม่ได้ไปหาใคร นายรู้ไหมทงเฮ ฮยอกแจ ฉันไปที่นั่นไม่ถึงสองวันเลยด้วยซ้ำ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นฉันก็เอาแต่ทำงาน แล้วจะมีเวลาไปเจอใครได้ แต่คยูฮยอนไม่เชื่อฉัน เขาบอกว่าฉันบินไปอเมริกาเพื่อหาใครอีกคน.... และให้ตายเถอะ ทำไมคยูฮยอนถึงไม่เชื่อใจฉันบ้าง”
“คยูฮยอนเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ เขาอยากได้อะไรเขาต้องได้... นั่นทำให้เขาเป็นอย่างนี้ พอมีใครขัดใจ ทำอะไรให้เขาไม่พอใจ เขาก็จะโวยวายพาลโกรธทุกครั้ง” ฮยอกแจพูด “อาจจะเป็นเพราะพวกเราตามใจเขามากเกินไป จนบางครั้งเขาก็เหลิง... แต่เชื่อฉันเถอะ หลังจากนี้เขาจะต้องหายโกรธนายแน่ๆ ถ้านายอธิบายให้เขาเข้าใจ”
ซีวอนยิ้มบางๆ มันดูเป็นรอยยิ้มที่อ่อนแรงเต็มที เพราะเขาเหนื่อย เหนื่อยกับการเอาใจคยูฮยอน เหนื่อยกับอารมณ์ที่แปรปรวนของน้องเล็กคนนั้น
“ฉันก็ได้แต่หวังว่าเขาจะฟังที่ฉันจะอธิบาย”
ปัง!
เสียงประตูห้องที่เพิ่งปิดไปถูกกระชากเปิดอย่างรุนแรง ทำให้ทั้งสามคนหันไปมองโดยพร้อมเพรียง และทุกคนก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
พระเจ้า.... เกิดอะไรขึ้นกับน้องเล็กของพวกเขา
คยูฮยอนที่เมื่อกี้น้ำตานองหน้าและมือเปื้อนเลือดจากเศษแก้ว บัดนี้เปลี่ยนโฉมใหม่ แต่งตัวเหมือนจะออกไปเที่ยว ดวงตาโตๆถูกกรีดอายไลน์เนอร์สีดำเข้มปกปิดรอยช้ำจากการร้องไห้ มือข้างขวาถูกปิดด้วยผ้าพันแผลสีขาวอย่างลวกๆ
คนถูกมองไม่สนใจ ขาเรียวก้าวเท้าเดินออกจากประตูห้องของตัวเอง เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างสูงโปร่งของชเวซีวอนเดินเข้าไปใกล้ คยูฮยอนปรายตามองร่างสูงอย่างเย็นชา ริมฝีปากบางปิดแน่นไม่บ่งบอกอารมณ์ นั่นทำให้ซีวอนยิ่งช้ำใจ
“จะไปไหน คยูฮยอน” ร่างสูงถามด้วยแววตาเป็นห่วง มือหนาจับไหล่บางเบาๆ วูบหนึ่งที่แววตาเย็นชาของคนถูกถามวูบไหว แต่ก็แค่วูบหนึ่ง เพราะแค่พริบตาเดียว ร่างบางก็ส่งสายตาเย็นชามาให้ดังเดิม
“ผมจะออกไปไหนก็เรื่องของผม กรุณาปล่อยและหลีกทางด้วยครับ”
“นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะคยู พรุ่งนี้มีงานตอนสิบโมง นายจะออกไปไหน” ฮยอกแจที่นั่งอยู่ที่โซฟาส่งเสียงถามโดยมีทงเฮคอยพยักหน้าอยู่ใกล้ๆ
“ผมจะกลับมาให้ทัน ไม่ทำให้งานเสียแน่นอน”
ในเมื่อร่างสูงตรงหน้าไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยไหล่เขา คยูฮยอนก็เดินเลี่ยงออกมาอีกทาง สะบัดการเกาะกุมของซีวอนและเดินออกนอกห้องไปทันที
-------
“พี่โจวมี่อยู่ไหน” คยูฮยอนกรอกเสียงเมาๆลงไปตามสาย เสียงที่ติดจะอ้อแอ้ของคยู ทำให้คนปลายสายรู้ทันทีว่าน้องเล็กจอมดื้อคนนี้ออกมาดื่มคนเดียว เพราะปกติคยูฮยอนจะต้องมาดื่มกับซีวอน แล้วรายนั้นก็ไม่ยอมให้น้องเล็กดื่มเยอะแน่นอน เพราะสุขภาพเสียงของคยูฮยอนนั้นสำคัญที่สุด แต่จริงๆแล้วเหตุผลที่ไม่อยากให้น้องดื่มเพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่ ......
ก็สองคนนี้เป็นคนรักกันนี่นะ..........
(พี่ขับรถอยู่ เพิ่งกลับจากทำงาน นี่เราอยู่ที่ไหนเนี่ยคยู)
เสียงตอบจากโจวมี่ทำให้คยูฮยอนยิ้มออกมาเล็กๆ เพราะพี่โจวมี่เป็นห่วงเขาเสมอตั้งแต่มาอยู่จีน รองจากใครอีกคน... ใครอีกคนที่ตั้งแต่เขาออกมาจากหอก็ไม่โทรตามเขาสักนิด
“พี่โจวมี่....”
(เดี๋ยวพี่จะไปรับ บอกพี่มาว่าเราอยู่ที่ไหน)
โจวมี่กดเสียงมากขึ้นเมื่อรู้สึกว่าคนปลายสายกำลังจะไม่ไหวแล้ว
“ที่เดิม....” พูดจบสายก็ตัดไป ร่างสูงที่อยู่ในรถได้แต่กำโทรศัพท์ไว้แน่นแล้วเลี้ยวรถกลับไป ‘ที่เดิม’ ที่สมาชิกในเอสเจเอ็มมักจะไปดื่มด้วยกันบ่อยๆ
ระหว่างทางร่างสูงโปร่งก็คิดถึงสาเหตุของอาการเมาของคยูฮยอนไปต่างๆนานา เขาคิดว่าคนตัวเล็กจอมดื้อนี่จะต้องทะเลาะกับซีวอนแน่ๆ ไม่อย่างนั้นซีวอนคงไม่ยอมปล่อยให้ร่างเล็กยั่วยวนใจคนอื่นมาคนเดียวแบบนี้
เป็นที่ปฏิเสธได้ยากว่ารูปร่างเพรียวของคยูฮยอนนั้นสามารถตกเป็นสายตาของคนรอบข้างได้มากแค่ไหน เจ้าตัวอาจจะไม่รู้สึกตัว (แน่นอนว่าคยูฮยอนนั้นไม่เคยสนใจคนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย)
เพราะฉะนั้นสาเหตุเดียวที่เขานึกออกว่าทำไมมักเน่ของวงจึงออกมาดื่มคนเดียวแบบนี้คือการที่ทะเลาะกับซีวอนแน่ๆ โจวมี่ถอนหายใจอย่างอ่อนใจ เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่ามันจะต้องมาจากการใจร้อนและไม่ฟังใครของคนตัวเล็กแน่
โจวมี่เลี้ยวรถคันหรูเข้าไปในที่จอดรถของผับ จัดการล็อครถและรีบเดินเข้าไปในผับทันที เพราะตอนนี้ก็จะตีหนึ่งเข้าไปแล้ว พรุ่งนี้ก็มีงานตอนสิบโมง ถ้าไม่รีบเอาเจ้าคนเอาแต่ใจออกมาตั้งแต่ตอนนี้ เขาอาจจะโดนผู้จัดการดุเอาได้ และนั่นหมายถึงภัยครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ
เมื่อร่างสูงโปร่งเข้ามาภายในผับก็เป็นจุดสนใจของทุกคนทันที นัยน์ตาเรียวแบบคนจีนมองไปทั่วผับแห่งนี้ เพียงแค่เวลาไม่นานก็เจอร่างเล็กๆฟุบอยู่กับด้านหนึ่งของบาร์ ขายาวก้าวเข้าไปหาอีกคนอย่างรวดเร็ว
“คุ่ยเซี่ยน”
“....”
“คุ่ยเซี่ยน คุ่ยเซี่ยน”
โจวมี่ส่งเสียงเรียกชื่อภาษาจีนของอีกคน มือเรียวจับไหล่บางเขย่าไปมาหลายครั้ง จนในที่สุดหัวทุยๆนั่นก็ผงกขึ้นมาจากขอบบาร์ ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อเช่นเดียวกับแก้มเผยอยิ้มน้อยๆ
“พี่โจวมี่”
คนถูกเรียกส่งสายตาตำหนิไปให้คนตัวเล็กกว่า “คุ่ยเซี่ยน ทำไมเรามาดื่มคนเดียวแบบนี้ แล้วซื่อหยวนไปไหน”
คยูฮยอนร้องหึเบาๆ “ผมจะมาคนเดียวบ้างไม่ได้เหรอไง ชีวิตผมจะต้องมีเขาตลอดไปเลยเหรอไง”
“กลับหอก่อนเถอะ อยู่ในนี้นานๆมันไม่ดีหรอกรู้ไหม” พูดจบก็ไม่รอให้น้องเล็กร้องท้วง พยุงตัวน้องเล็กให้ออกจากผับทันทีท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นที่มองตามพวกเขาไปตลอด
โจวมี่ถอนหายใจเมื่อพยุงร่างเล็กมานั่งเบาะข้างคนขับแล้วเรียบร้อย นิ้วเรียวเกลี่ยผมที่มาบังหน้าหวานใสออกไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ จริงๆแล้วคยูฮยอนน่ะสวยขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อาจจะเป็นเพราะซีวอนที่ทั้งสองคนเพิ่งจะพบว่าพวกเขาใจตรงกันได้ไม่นาน เขาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อคยูฮยอนจับมือเขาแน่นเหมือนกลัวเขาจะทำอะไร
โจวมี่ขับรถมาจนถึงหน้าหอหรืออพาร์ทเม้นต์ที่เอสเจเอ็มอาศัยอยู่ คยูฮยอนก็ลืมตาขึ้นมาพอดี คนตัวเล็กกระพริบตาหลายครั้งไล่ความมึนงงออกไปก่อนจะพบว่าตัวเองนั้นอยู่ที่ไหน นัยน์ตาโตหันมามองอีกคนที่อยู่บนรถ
“ผมไม่อยากขึ้นห้อง”
“คุ่ยเซี่ยน พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเรากับซื่อหยวนมีปัญหาอะไรกัน แต่การทำหนีหน้าอย่างนี้ไม่ใช่วิธีที่ถูกหรอก เราคิดว่าเราจะหนีซื่อหยวนได้ตลอดเหรอ” ร่างสูงตอบ
“ผมแค่ยังไม่พร้อม”
“ไหนลองบอกพี่มาสิ ว่าเราทะเลาะอะไรกัน”
คยูฮยอนมองหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างใช้ความคิด แต่ในที่สุดเขาก็ค่อยๆพูดออกมา
“พี่จำวันที่พี่ซีวอนไปอเมริกาได้ไหม” คยูฮยอนเริ่มพูด “ผม....ผมคิดว่าเขาไปเจอผู้หญิงคนนั้นที่นั่น ผมไม่ระแวง จริงๆนะพี่ มันรู้สึกตื้อไปหมดเมื่อผมตื่นมาก็พบว่าพี่ซีวอนอยู่ที่นั่น สมองผมประมวนความคิดทันทีเลยว่าเขาจะต้องไปเจอกันแน่ๆ แล้ว..แล้ว ไม่กี่วันมานี้พี่ซีวอนก็อัพทวิตเกี่ยวกับรูปที่เขาเคยถ่ายที่อเมริกา แล้วพูดประมาณว่าคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ”
“....”
“ผมรู้ว่าเขาเคยมีช่วงเวลาที่ดีด้วยกันเวลาอยู่ที่อเมริกา... ผมระแวงไปหมด ผมกลัวว่าสักวันพี่ซีวอนจะทิ้งผมไปอยู่กับคนนั้น”
อาจจะเป็นเพราะความที่คยูฮยอนยังไม่สร่างเมาเต็มที่เลยกล้าพูดอะไรเยอะแยะแบบนี้ออกมา ในปกติคยูฮยอนไม่ใช่คนที่จะชอบเล่าเรื่องอะไรให้ใครฟัง โดยเฉพาะเรื่องของตัวเองและซีวอน คยูฮยอนจะนิ่งเฉยจนบางครั้งก็ทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดว่าเขาไม่แคร์คนรัก
คยูฮยอนเป็นแค่คนที่พูดไม่เก่งและอายมากเกินกว่าจะเอาเรื่องแบบนี้มาปรึกษากับใคร....
คยูฮยอนที่ทุกคนมองเห็นว่าเป็นเด็กดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง แต่แท้ที่จริงแล้วเจ้าตัวก็เป็นเพียงคนที่ต้องการให้คนอื่นมาเอาใจใส่มากๆเท่านั้นเอง
โจวมี่ยิ้มนิดๆให้กับความคิดของคนตัวเล็กกว่า
อย่างน้อยคยูฮยอนก็ยังเป็นแค่เด็กเอาแต่ใจคนหนึ่งที่ต้องการความรัก และความรักนั้นก็คือความรักจากซีวอน
มือหนาเอื้อมไปขยี้หัวคนตัวเล็กกว่า แล้วโยกเบาๆ
“คนเราน่ะ ต้องกล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริงรู้ไหม เราได้ฟังซื่อหยวนอธิบายหรือยังหืม? จริงๆแล้วเรื่องบางเรื่องน่ะ เราก็ต้องฟังคนอื่นเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าเห็นแค่ตาแล้วมันจะเป็นจริงตลอดไป”
“ผมกลัว....” คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองคนตัวสูงกว่า มือขาวจับแขนของอีกคนแน่นอย่างต้องการที่พักพิง “ผมกลัวว่าถ้าผมได้ฟังความจริงแล้วมันไม่เป็นอย่างที่ผมหวัง ผมกลัวทำใจไม่ได้”
“ผมกลัวจริงๆ...”
พูดจบคยูฮยอนก็ฟุบลงไปกับแขนของเขาเพราะความเมา โจวมี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะเปิดประตูรถออกไปแบกคนตัวเล็กขึ้นห้อง โดยไม่ลืมจะล็อครถท่ามกลางความมืด
-------
ใบหน้าคมเข้มที่มีริ้วรอยแห่งความเหนื่อยล้าเพราะอดนอนมองน้องเล็กของวงถูกโจวมี่แบกเข้ามาด้วยแววตาเป็นห่วง แม้จะรู้ดีว่าโจวมี่นั้นสนิทกับคนรักแค่ไหน แต่เขาก็ยังอดคิดน้อยใจไม่ได้ว่าทำไมคนที่คยูฮยอนโทรตามนั้นไม่เป็นเขา
เพราะเขาคือคนรักของคยูฮยอน แต่โจวมี่นั้นมีฐานะเป็นแค่รุ่นพี่ร่วมวง
แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากเพราะรู้ว่าตัวเองนั้นยังมีความผิดติดอยู่ที่ทำให้น้องไม่โทรหา ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นความจริง แต่ยังไงก็ต้องอธิบายให้น้องเข้าใจ
ตอนนี้เป็นเวลาตีห้าแล้ว สมาชิกทุกคนโดนไล่ไปนอนกันหมดเพราะต้องตื่นแต่เช้าเพราะมีงาน แต่เขายังไม่ได้นอนเพราะเป็นห่วงคยูฮยอนที่โทรเท่าไหร่ก็ไม่รับสาย จนได้ยินเสียงประตูห้องเปิดและเห็นโจวมี่แบกคยูฮยอนมานั่นแหละเขาถึงได้วางใจว่าคนตัวเล็กสบายดี
โจวมี่วางคนตัวเล็กลงบนเตียงเสร็จก็หันมามองซีวอนที่ยืนอยู่ห่างๆ คนตัวสูงกว่ายิ้มให้กำลังใจ ก่อนพูด
“มีปัญหาอะไรกันก็รีบเคลียร์ให้เสร็จนะซื่อหยวน ฉันไม่อยากเห็นพวกนายเข้าใจผิดกันไปมากกว่านี้”
พูดจบร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป ทั้งห้องเหลือแต่ความเงียบ ซีวอนเดินมานั่งบนเตียงที่คยูฮยอนนอนอยู่ มือหนาลูบแก้มของอีกฝ่ายแผ่วเบา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากอธิบายให้เด็กดื้อนี่ฟัง แต่คยูฮยอนต่างหากที่ไม่เคยยอมฟังอะไรเลย เขากับสเตลล่านั้นจบกันไปนานแล้ว และพวกเขาก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก
ไม่แม้จะกระทั่งติดต่อกันเลยด้วยซ้ำ ........
เขามั่นใจว่าคนที่เขารักตอนนี้คือคยูฮยอนคนเดียว ถึงแม้คยูฮยอนจะดื้อแพ่ง ไม่เคยยอมใคร ไม่เคยอ่อนให้ใคร แต่เขาก็รักที่คยูฮยอนเป็นอย่างนี้ เวลาคยูฮยอนยิ้ม เขาก็จะยิ้มไปด้วย แต่เวลาคยูฮยอนเศร้า เขาก็เศร้าไม่ต่างกัน .....
แต่เพราะคยูฮยอนนั้นเป็นคนเอาแต่ใจ โมโหร้าย และเขาเองก็มั่นใจว่าคยูฮยอนนั้นจะเข้าใจเขา ทำให้เกิดเหตุการณ์แย่ๆอย่างนี้ขึ้นมา
“พี่ขอโทษนะคยูฮยอน..... จริงๆแล้วพี่กับสเตลล่าเราไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว ความสัมพันธ์ของพี่กับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป”
“...”
“ทำไมเราไม่เชื่อใจพี่บ้าง.....”
“ผมขอโทษ.....” คยูฮยอนลืมตาขึ้นมาด้วยน้ำใสๆนองหน้า หัวทุยซุกเข้ากับอกหนาของอีกคนอย่างเอาใจ แขนเรียวกอดเอวของซีวอนไว้แน่น ซีวอนยังตกใจเพราะอยู่ดีๆคยูฮยอนก็ตื่นขึ้นมาแต่ก็กอดตอบน้อง
“ได้ยินด้วยเหรอเรา”
“ตื่นตั้งแต่เข้ามาในห้องแล้ว” คยูฮยอนพูดเสียงอู้อี้ ทำให้คนตัวสูงกว่ายิ้มออกมา
“ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ พี่ไม่โกรธผมนะ ....”
“พี่เคยโกรธเราด้วยเหรอไง หืม”
คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตากลมบ๊อกมองใบหน้าหล่อของอีกคนด้วยความดีใจ ริมฝีปากบางทาบบนริมฝีปากหนาแทนคำขอโทษ ถึงแม้ซีวอนจะแปลกใจกับการจู่โจมของน้อง แต่ก็จูบตอบกลับไป
“นอนดีกว่านะ พรุ่งนี้มีงานอีกอ่ะ” คนตัวเล็กกว่าผละออกมาก่อนจะเลยเถิดกันมากไปกว่านี้ เพราะเขารู้สึกว่ามือหนานั้นเลิกเสื้อเชิ้ตที่เขาใส่อยู่ขึ้นมาถึงแผ่นหลังขาว ซีวอนหนีบจมูกใสเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“ทำให้พี่อยากคิดว่าจะนอนได้ง่ายๆเหรอ หือ”
“โอ้ยๆๆ พี่อ่ะ” คยูฮยอนย่นจมูก “เฮ้ย ไม่เอาาาาาาาาาาาาาาา”
เสียงใสร้องลั่นเมื่อซีวอนจับคนตัวเล็กกว่าทุ่มลงบนเตียงโดยมีคนร่างสูงกว่านอนทับอยู่ข้างบน ริมฝีปากหยักได้รูปจูบลงบนหน้าผากมนก่อนจะล้มลงนอนข้างๆ คยูฮยอนได้แต่ทำตาปริบๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว
ซีวอนเห็นอย่างนั้นก็เลยคว้าร่างเล็กเข้ามาใกล้ๆ
“นอนสิเราน่ะ อีกสองชั่วโมงก็ยังดี”
“ครับบบบบ” คยูฮยอนพูดจบก็นอนหันหน้าเข้ากับอกแกร่งของอีกคน ขอแค่สองชั่วโมงให้ได้พักผ่อนจากทุกเรื่องภายในอ้อมกอดแข็งแกร่งของอีกคน
แค่สองชั่วโมงก็เกินพอจริงๆ
-----
สมาชิกซุปเปอร์จูเนียร์เอ็มทุกคนเดินเข้ามาภายในสถานที่อัดรายการของวันนี้ บรรยากาศทุกอย่างเป็นไปด้วยความสนุกสนานเพราะท่าเต้นแปลกๆและมุขตลกของฮยอกแจที่พกมาจากเกาหลี ทำให้ทีมงานและเมมเบอร์ทุกคนต่างลืมความเครียดในการทำงาน
แต่ยังมีคนคนหนึ่งที่วันนี้ไม่ค่อยจะยิ้มมากนัก ......
เมื่อถึงช่วงพักโจวมี่เดินออกมาเข้าห้องน้ำคนเดียว โดยมีนัยน์ตาโตของอีกคนมองตามไป
“ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับมา” คยูฮยอนบอกทุกคนก่อนจะเดินตามร่างสูงที่เดินเข้าห้องน้ำไปก่อนแล้ว
จริงๆแล้วเขาไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำหรอก แต่เดินตามอีกคนมาต่างหาก..... คยูฮยอนรออยู่ตรงอ่างล้างมือ ไม่นานนักร่างสูงก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเห็นคยูฮยอนก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างจะถามว่ามีอะไรรึเปล่า แต่คนตัวเล็กกว่าเพียงแค่ยิ้มตอบแล้วเดินเข้าไปหา
คยูฮยอนดันตัวคนตัวสูงกว่าเข้าไปติดผนังด้านในสุดของห้องน้ำ โดยโจวมี่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบาง มือซ้ายเกาะไหล่คนสูงกว่า ส่วนมือขวาก็ลูบไล้ไปตามโครงหน้าของอีกคน
“พี่โจวมี่”
“....”
“เมื่อคืน.... ขอบคุณนะ”
ท่าทางที่แปลกออกไปราวกับเป็นคนละคนทำให้โจวมี่เข้าใจทันทีว่าอะไรเป็นอะไร แขนยาวกอดอีกคนให้เข้ามาใกล้ก่อนจะก้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็กกว่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่น้อยคนนักจะได้เห็นเผยออกมาบนริมฝีปาก
“แค่คำขอบคุณน่ะ ไม่พอหรอกนะ.... คุ่ยเซี่ยน”
“แล้วพี่.... อื้อออออ”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ริมฝีปากบางก็ถูกช่วงชิงโดยคนตัวสูงกว่า แขนเรียวโอบรอบคออีกคนให้เข้ามาใกล้เพื่อให้จูบได้ถนัดขึ้น ร่างสูงซุกไซร้จมูกลงแถวๆต้นคอของคนตัวเล็ก ซึ่งคยูฮยอนก็เต็มใจ
เขารู้..........
เขารู้ว่าคยูฮยอนนั้นรักซีวอนคนเดียว กับเขานั้นคยูฮยอนอาจจะเพียงแค่ ‘พอใจ’
แต่ถึงเป็นเพียงแค่ ‘พอใจ’ เขาก็เต็มใจที่จะทำแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาหลงมนตร์เสน่ห์ของคนร่างเล็กนี้โดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่ได้เห็นครั้งแรก ความต้องการก็มีเพิ่มมากขึ้น มากขึ้นจนเกินจะห้ามไหว
และถึงแม้จะรู้สึกผิดต่อซีวอนมากแค่ไหน เขาก็จะต้องกล้ำกลืนความผิดนั้นลงไปให้หมด.......
“ห้ามทำรอย เดี๋ยวพี่ซีวอนเห็น”
โจวมี่ชะงัก ใช่สินะ เพราะสำหรับคยูฮยอน ซีวอนคือคนที่สำคัญที่สุด เขาเลื่อนริมฝีปากมาจูบริมฝีปากบางอีกรอบเบาๆ ก่อนจะผละออกมามองใบหน้าของอีกคนใกล้ๆ เขาเชื่อว่าถ้าไม่ว่าใครมาเห็นคยูฮยอนในสภาพแบบนี้ก็ไม่มีใครทนไหว ริมฝีปากแดงช้ำนิดๆจากการจูบ อกบางกระเพื่อมขึ้นลงเบาๆเพราะเหนื่อยหอบ ไรผมสีน้ำตาลดำมีเหงื่อออกเล็กน้อย
เพราะเขาก็หลงมนตร์เสน่ห์นี้ไปแล้ว........
ก็ยากที่จะถอนตัวออกมา..
“พี่โจวมี่รักษาสัญญากับผมมาตลอด” คยูฮยอนยิ้มบางๆ “ขอบคุณนะครับ”
ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มให้อีกคนเหมือนเคย ในสายตาของทุกคน เขาเป็นพี่ที่ดีของน้องๆ โดยเฉพาะคยูฮยอนซึ่งเป็นน้องเล็ก ไม่มีใครรู้ถึงความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดนี้
ตราบใดที่มันยังคงเป็นความลับ ภายนอกเขาจะเป็นพี่ที่ดีสำหรับคยูฮยอนเสมอ....
‘นี่คือเมมเบอร์ที่จะทำงานร่วมกับพวกนายที่จีน รู้จักกันไว้นะ’
เขายังจำความรู้สึกแรกที่ได้สบตากับนัยน์ตากลมนี่ได้ไม่เคยลืม แววตาใสนั่นมองมาทางเขานิ่งๆไม่ได้มีความรู้สึกอะไร ริมฝีปากบางนั่นยกยิ้มบางๆ ช่างดูห่างเหินสำหรับคนที่รู้จักกันครั้งแรกเช่นเขา นัยน์ตากลมมองผ่านเขาไปอย่างไม่สนใจ
เวลาผ่านมาเรื่อยๆเขาถึงได้รู้ว่าซีวอนกับคยูฮยอนนั้นเป็นคนรักกัน ยอมรับว่าเขาตกหลุมรักนัยน์ตากลมใสนั่นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่เมื่อได้รู้ว่าคนตัวเล็กมีเจ้าของแล้ว แถมยังเป็นคนที่เพียบพร้อมอย่างซีวอน เขาก็ได้แต่เก็บงำความรู้สึกนั้นไว้ แล้วบอกตัวเองว่าต้องตัดใจ
แต่วันหนึ่งคยูฮยอนเดินเข้ามาในห้องของเขา.....
‘ผมชอบพี่’
นั่นคือสิ่งที่คยูฮยอนบอก นัยน์ตากลมนั่นไม่มีแววล้อเล่น เหลือเพียงแต่แววตานิ่งๆแต่มีความเจ้าเล่ห์ร้ายอยู่เต็มเปี่ยม ริมฝีปากบางยิ้มเหมือนพูดเรื่องธรรมดา
และวันนั้นเขาก็ได้ทำผิดต่อซีวอนและคนทั้งโลกอย่างไม่น่าให้อภัย..........
ใช่ เขากับคยูฮยอนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในวันนั้น
‘ผมชอบพี่ แต่ผมก็รักพี่ซีวอน พี่เข้าใจผมใช่ไหม’ คยูฮยอนถามผมราวกับเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่หัวทุยๆนั่นก็ยังนอนหนุนแขนผม
ผมยิ้มบางๆก่อนตอบ ‘เข้าใจสิ’
ใช่ ผมเข้าใจดี เข้าใจว่าคยูฮยอนต้องการอะไร แม้ว่าคำพูดแต่ละประโยคของเขาจะตรงใจผมขนาดไหน จะทำร้ายผมขนาดไหนผมก็ต้องยอม เพราะวินาทีนั้น ผมโดนพิษร้ายของแม่มดเช่นเขาไปแล้ว
‘เรื่องนี้จะให้พี่ซีวอนกับคนอื่นๆรู้ไม่ได้เป็นอันขาด..... พี่โจวมี่เข้าใจใช่ไหม’
‘อืม’
ตั้งแต่วินาทีนั้นมา ผมก็เป็นของคยูฮยอน แต่คยูฮยอนไม่เคยเป็นของผม เขาเป็นของซีวอน .........
------------------
“หายไปไหนมาหือ” ซีวอนถามร่างเล็กกว่าทันทีที่คยูฮยอนเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว เพราะคยูฮยอนนั้นหายไปนาน ส่วนผมที่เดินตามหลังมาได้แต่ทำหน้านิ่งๆเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัยก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็ยังไม่พ้นจะได้ยินเสียงสองคนนั้นคุยกัน
“เป็นห่วงผมอ่ะดิ ฮ่าๆ” คยูฮยอนหัวเราะเสียงดังก่อนจะเดินไปหยิบแล็ปท็อปของตัวเองขึ้นมาเล่นเกมส์ข้างๆซีวอน ซีวอนก็ไม่ได้ทำอะไรเพียงแต่ขยี้หัวทุยอย่างหมั่นเขี้ยวและมองคยูฮยอนเล่นเกมส์
“ก็เรามันเป็นเด็กดื้อ จะไม่ให้พี่เป็นห่วงได้ไง”
“ผมก็เป็นเด็กดื้อของพี่ซีวอนคนเดียวแหละน่า ;p”
“อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ” ซีวอนปราบเสียงดุ แต่คนอย่างคยูฮยอนน่ะหรือจะกลัว กลับแลบลิ้นใส่อีกต่างหาก จนสุดท้ายก็ไม่ได้เปล่งเสียงใดใดออกมาเพราะริมฝีปากบางถูกช่วงชิงโดยอีกคน
“ซื่อหยวนฮยองกับคยูฮยอนฮยองดูรักกันดีนะครับ” เฮนรี่พูดขึ้นมาอย่างอิจฉาพลางมองสองคนที่อยู่ในโลกส่วนตัวไปแล้ว เรียวอุคที่นั่งอยู่ข้างๆกันยิ้มบางๆ
“ก็มากๆเลยแหละ ถึงแม้จะทะเลาะกันบ่อยก็ตาม”
ผมเหลือบมองใบหน้าที่มีความสุขอย่างไม่เสแสร้งของคยูฮยอนอีกครั้งและก็พบว่าเขากำลังมองผมอยู่เช่นกัน ริมฝีปากบางนั่นขยับเบาๆแต่ก็พอจับใจความได้ ผมยิ้มบางๆกับประโยคที่คนตัวเล็กกว่าพูดก่อนจะพยักหน้าเบาๆและทำเป็นเล่นโทรศัพท์ต่อ
ผมรู้ว่าเรากำลังทำ ‘ความผิด’
แต่ความผิดนั้นก็ช่างหอมหวานจนผมไม่สามารถละจากมันไปได้ และผมคิดว่าคยูฮยอนก็เช่นกัน
‘คืนนี้เจอกัน’
#FIN
- คำพูดสุดท้ายที่บอกว่าคืนนี้เจอกันเป็นคำพูดที่น้องคูยอนพูดกับโจวมี่นะคะ
- สนุกหรือมันแย่ มีอะไรที่ต้องแก้ไขปรับปรุงก็บอกได้นะคะ จิ้นโจวมี่เมะไม่ออกกันล่ะสิ 55555555555 อย่ามองโจวมี่ตอนนี้ แต่ให้ลองมองย้อนไปตอน Me อาจจะคิดออกมากขึ้น (มั้ง)
- ความรักสี่ผีก็รอกันสักพักนะคะ TT_________TT วันนี้หยุดเลยได้โอกาสมาคุ้ยฟิคเก่าๆ ภาษาก็แปลกๆไปบ้าง
ความคิดเห็น