ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO THEATRE (KAIHUN / KRISYEOL / LUMIN)

    ลำดับตอนที่ #3 : ◆ kai / sehun : aishiteru

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 56


     

    AISHITERU
    - kaihun -

     

     

     

     

     

     

     

                สวยงามทว่าเศร้าสร้อย

              สดใสทว่าหมองหม่น

     

              นั่นอาจจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวล่ะมั้ง..

     

     

     

     

     

     

     

                “จงอินอ่า”

     

     

                “หืม”

     

     

                เสียงใสของเด็กสาวข้างกายทำให้จงอินละสายตาจากภาพวาดเบื้องหน้าไปมองอีกคน คนเรียกทำหน้างุ้มนิดหน่อยแต่ก็กลับมายิ้มสดใสให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็น คนรัก ได้อย่างรวดเร็ว

     

     

                ใช่... เธอและจงอินคบกันมาได้หกเดือนแล้ว

     

     

                เธอกล้าบอกใครต่อใครได้เลยว่าจงอินของเธอนั้นเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก ภายนอกจงอินอาจจะดูเป็นผู้ชายที่ใครๆเรียกกันว่าแบดบอย แต่จริงๆแล้วจงอินเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก

     

     

                ...มากกว่าที่ใครๆจะเข้าใจ

     

     

                “เห็นจ้องรูปนี้มานานแล้ว มีอะไรหรือเปล่า”

     

     

                ร่างสูงโปร่งยิ้มบางๆก่อนจะหันกลับไปมองรูปที่ว่านั่นอีกครั้ง “เปล่าหรอก...”

     

     

                “ไปกันเถอะ เราหิวแล้วล่ะ”

     

     

                “เพิ่งกินข้าวไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วเองไม่ใช่เหรอ กินมากๆเดี๋ยวก็อ้วนเป็นตุ่มหรอก ฮ่าๆ”

     

     

                “จงอิน!

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

                กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไปมาเมื่อลมพัดผ่านแต่เจ้าของไม่ได้สนใจมันแม้แต่น้อย นัยน์ตาสีดำสนิทเหม่อมองไปไกล ริมฝีปากสีซีดเผยรอยยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงเรื่องบางเรื่องที่ทำให้มีความสุข

     

               

                เขานั่งอยู่บนนี้มานานกว่าสองชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่เบื่อสักที บนหน้าผาสูงที่ทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองนี้

     

     

                ไม่ว่าจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์

                เขาสามารถเห็นมันผ่านที่ตรงนี้ได้อย่างชัดเจน

     

     

                “กำลังมีความสุขอยู่ใช่ไหม..”

     

               

                ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยประโยคแผ่วเบาราวกับต้องการจะสื่อไปถึงคนที่อยากให้ได้ยิน

     

                แต่เขารู้...

     

                ว่าคนคนนั้นจะไม่มีทางได้ยิน...

     

     

                “เราก็มีความสุขนะ..”

     

     

                ลมพัดแผ่วเบารอบตัวราวกับจะปลอบประโลมเขาให้หายจากความเศร้า ราวกับจะบอกเขาว่าให้คิดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านไปนานแสนนานแล้ว

     

     

                “แค่จงอินมีความสุข เราก็มีความสุขแล้วล่ะ”

     

                                                                                             

                “แค่นั้นจริงๆเหรอ”

     

                เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบื้องหลังเรียกให้เขาละสายตาจากภาพเบื้องหน้าหันกลับไปมองอีกคนที่เดินเข้ามานั่งข้างๆกัน ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนมองมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจนัก

     

                “ฉันไม่เข้าใจนายจริงๆ”

     

                “เราเป็นคนที่น่าเข้าใจยากตรงไหนเหรอ”

     

                สิ่งที่ได้ตอบรับมาคือเสียงถอนหายใจหนักๆของอีกคน นั่นทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังกว่าทุกทีของ เพื่อน คนสนิท

     

                “เซฮุน”

     

                “......”

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

                ถ้าใกล้ได้อีกเพียงนิด จะกล้าไหม...

              ถ้าเพียงได้มองรอยยิ้มนั้นอีกสักนิด แม้จะต้องถูกบดบังด้วยน้ำตา

              จะยอมหรือไม่

     

     

     

                “จงอิน!

     

                “หะ..หืม”

     

                “เหม่ออีกแล้วนะ” แก้มของหญิงสาวพองลมอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองไปที่อะไรบางอย่างทั้งๆที่เธอนั่งอยู่ตรงหน้าเขา

     

                “ขอโทษนะ”

     

                “อื้อไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่จงอินว่าอันนี้หรืออันนี้ดีกว่า...”

     

                เสียงเจี้ยวแจ้วของหญิงสาวยังคงมีต่อไปแต่ในใจของชายหนุ่มแล้วกลับไม่ได้สนใจสักนิด นัยน์ตาดำสนิทมองไปที่นอกร้านที่เมื่อกี้เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดที่เห็นใครบางคนยิ้มให้เขาจากตรงนั้น

     

                ถึงแม้จะไกล.. แต่เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นรอยยิ้มที่เศร้ามาก

     

                แต่เมื่อกระพริบตาอีกครั้ง เขากลับพบว่าคนคนนั้นหายไปจากจุดเดิมเหมือนไม่เคยมีอยู่

     

                เขามั่นใจ.. เขาไม่ได้ตาฝาด...

     

     

                “จงอินจะไปไหนน่ะ”

     

                “เดี๋ยวเรามานะ” พูดจบร่างสูงก็ผละออกจากข้างกายของหญิงสาวออกมานอกร้าน

     

                ขายาวก้าวไปตามทางที่เขาคิดว่าคนเมื่อกี้น่าจะอยู่จนมาถึงลานจอดรถที่เงียบสงัด กวาดตามองไปมาจนมั่นใจว่าคนนั้นไม่น่าจะอยู่ที่นี่ เตรียมหันหลังกลับแต่ทว่าเสียงหวานแผ่วเบาจากด้านซ้ายทำให้เขาหันไปมองอย่างรวดเร็ว

     

                “ตามหาเราเหรอ”

     

                คนที่เขากำลังตามหายืนอยู่ห่างจากเขาไปไม่มาก เมื่อมองใกล้ๆเขาถึงได้พบว่าอีกคนนั้นมีผิวขาวมากกว่าคนทั่วไป อีกทั้งใบหน้าหวานและชุดสีขาวที่คนนั้นใส่ก็ยิ่งทำให้ผิวของเจ้าตัวดูขาวมากจนจะโปร่งแสงได้

     

                ลมพัดมาวูบหนึ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน..

     

                จงอินรู้สึกเหมือนมีบางอย่างพุ่งขึ้นมาในความทรงจำอย่างรวดเร็ว

                คุ้นเคยอย่างประหลาด..

     

     

                “ตามหาเราทำไม”

     

     

                ไม่รู้... จงอินไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงตามหาอีกฝ่าย

                รู้สึกแค่ว่าเหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาทำเช่นนี้ ตามหาคนคนนี้

     

               

                “ไปหาร้านชานมกินกันดีไหม”

     

                และไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาพูดออกไปเช่นนั้น

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

                เมื่อชั่วโมงที่แล้วเขาไม่รู้อะไร ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เช่นนั้น

                เมื่อได้ชานมมาคนละแก้ว อีกฝ่ายก็เอาแต่นั่งนิ่งแล้วส่งยิ้มบางๆที่เขาไม่เข้าใจมาให้

     

                “นายเป็นใคร”

     

                เขาถามอีกฝ่าย อีกฝ่ายหยุดยิ้ม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เขารู้สึกผิดได้แล้วที่ทำให้รอยยิ้มนั้นหายไป

     

                “จงอินไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”

     

                “นายรู้จักชื่อฉัน..”

     

                “เรารู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับจงอิน”

     

                ใช่.. เขารู้ รู้ทุกอย่างของผู้ชายตรงหน้านี้

                รู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไรยามเมื่อสายตาคมนั่นมองมาที่เขาอย่างไม่เข้าใจ

               

                แต่ทั้งๆที่รู้ เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย

     

                “อืม”

     

                น่าแปลกที่จงอินในยามนี้ไม่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นพวกโรคจิต อาจจะเป็นเพราะนัยน์ตาใสๆนั่นที่มองตรงมายังเขาไม่ได้ฉายแววเป็นอันตรายหรือคุกคามอะไร

     

                อีกฝ่ายทำแค่เพียงมอง และยิ้ม

                เหมือนมีความสุขที่ได้ทำเพียงเท่านั้น

     

                “เรามีความสุข จงอินไม่ต้องคิดมากหรอก”

     

                คนถูกเรียกชื่อเบิกตากว้างกับคำพูดของคนตรงหน้าที่ราวกับอ่านใจของเขาออก แต่ยังไม่ทันที่จะหายตกใจอีกคนก็พูดอีกประโยค

     

                “เราอ่านใจจงอินได้จริงๆ”

     

                “นะ..นายเป็นใครกันแน่”

     

                “.......”

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

     

                เงาของคนสองคนทอดยาวไปตามพื้นถนนเพราะแสงอาทิตย์ยามเย็น เงาหนึ่งเป็นเจ้าของรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสีเข้มกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย เดินนำอยู่ข้างหน้า ส่วนอีกเงาเป็นเงาของคนที่สูงไม่แพ้กัน สวมชุดสีขาวสว่าง เดินตามอีกคนไม่ห่างมากนัก

     

                ใบหน้าของคนเดินข้างหลังยังคงมีรอยยิ้มบางๆปนเศร้าเหมือนอย่างเคยยามเมื่อมองแผ่นหลังกว้างของคนข้างหน้า

     

                ได้เข้าใกล้ขนาดนี้.. เขาก็มีความสุขมากกว่าผ่านๆมา

                ได้ใกล้ชิดจนห่างเพียงแค่เอื้อมมือแค่นี้

     

                “นี่”

     

                แต่จู่ๆคนตัวสูงกว่าก็หยุดเดิน เอี้ยวใบหน้ากลับมาทำให้เขาเห็นเสี้ยวหน้านั้นชัดเจน

               

                “มาเดินข้างๆกันสิ”

     

                “อื้ม”

     

     

                แล้วก็ได้เดินเคียงข้างกันไปอย่างนี้..

                ก็มากเกินพอแล้วสำหรับเขา

     

     

               

                นี่ก็เย็นแล้วทำไมถึงไม่กลับบ้านของนายล่ะ

              บ้านเหรอ..

              นี่อย่าบอกนะว่าไม่มีบ้าน

              เราแค่เคยมีน่ะ

     

     

     

              “ที่มีน้อยหน่อยนะ นอนได้ใช่ไหม”

     

                “ได้สิ”

     

                “งั้นปิดไฟละนะ”

     

                ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน แต่เขาถือเอาว่าเป็นการบอกกลายๆจากอีกฝ่าย จงอินปิดโคมไฟแล้วซุกตัวกับฟูกทันที ไม่นานร่างสูงก็หลับสนิท

     

                เหลือเพียงแต่อีกคนที่ลืมตาในความมืด เขาเปลี่ยนจากท่านอนกับฟูกบางๆที่อีกฝ่ายมีน้ำใจแบ่งมาให้เป็นนั่งบนฟูกนั้นแทน ใช้สายตามองไปที่อีกคนราวกับจะเก็บเกี่ยวทุกวินาทีไว้ให้ได้มากที่สุด

     

     

                มือขาวเอื้อมไปปัดไรผมที่บดบังหน้าคมนั้นออกไป

                ผิวปากเพียงเบาๆก็ทำให้ห้องทั้งห้องเหมือนมีลมเย็นจากฤดูใบไม้ผลิพัดโชยมา

     

                จากนั้นก็ทำเพียงแค่จ้องมองใบหน้าอีกคนยามหลับใหลจนกระทั่งดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า

     

                แล้วจากไปอีกครั้งหนึ่ง....

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

     

                ณ ตอนนั้นพวกเขาเคยมีกันและกัน

              เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ร่วมทุกข์ ร่วมสุข แบ่งปันรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

     

              แต่วันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน...

     

     

     

              “จงอิน!

     

                “เฮ้ยจงอินสลบไป รีบพาไปโรงพยาบาลเร็ว!

     

                เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นภายในโรงยิมของมหาวิทยาลัย ร่างสูงโปร่งของชายผิวสีเข้มถูกผู้ชายหลายคนช่วยกันพาใส่รถเพื่อไปโรงพยาบาล

     

                ทุกอย่างอยู่ภายในสายตาของร่างในชุดสีขาวสว่างที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูง ลมพัดแรงจนกลุ่มผมสีน้ำตาลพัดไปมา แต่นัยน์ตาสีดำสนิทไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงสิ่งเดียว

     

                คือภาพใบหน้าไร้สีเลือดของคิมจงอิน..

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

     

                ไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วง ที่สลบไปคงเป็นเพราะพักผ่อนน้อย

                คือคำบอกเล่าของหมอที่เป็นเจ้าของไข้

               

     

                ในเวลานี้ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเขาและคนที่นอนหลับไปเพราะฤทธิ์ของยา

                ร่างขาวทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง เอื้อมมือไปหยิบข้อมือข้างขวาของอีกคนมาแล้วใช้นิ้วชี้ของตนเองมาเขียนสัญลักษณ์บางอย่างลงไป จากชัดเจนจนมันค่อยๆซึมลงสู่ผิวของอีกคนแล้วหายไปในที่สุด

     

                แรงกดจากบ่าทำให้เขาหันไปมองอีกฝ่ายที่เข้ามาเงียบๆด้วยรอยยิ้มบางๆ

     

                “เซฮุน...”

     

                “เราไม่เป็นอะไร เราสบายดี”

     

     

                โกหก..

                อีกฝ่ายรู้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะสายตานั่นบอกเขาหมดทุกอย่างแล้ว

     

                สิ่งที่เซฮุนทำกับคนบนเตียงเมื่อกี้คือการรักษาในแบบของ พวกเขา

                แต่ยิ่งทำเช่นนั้น ก็ยิ่งเป็นการผูกทั้งสองคนไว้ด้วยกันมากยิ่งขึ้น

                เขาแค่กลัว...

     

                กลัวว่าสักวันสิ่งนั้นจะมัดทั้งสองคนแน่นจนไม่มีทางหลุดพ้น

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ฉันไม่เข้าใจนายจริงๆ”

     

              “เราเป็นคนที่น่าเข้าใจยากตรงไหนเหรอ”

     

              สิ่งที่ได้ตอบรับมาคือเสียงถอนหายใจหนักๆของอีกคน นั่นทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมา แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังกว่าทุกทีของ เพื่อน คนสนิท

     

              “เซฮุน”

     

              “......”

     

              “ถ้านายได้มีโอกาสไปอยู่ใกล้ๆคนคนนั้นนายจะไปไหม”

     

              “มะ..หมายความว่ายังไง”

     

              เจ้าของเสียงทุ้มยื่นกระดาษแผ่นบางไปให้อีกฝ่าย

     

              “กระดาษนี่คือสิ่งที่จะทำให้นายกับคนคนนั้นอยู่ด้วยกันได้สองวัน”

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

                มืด.....

                ทำไมถึงรอบข้างตัวเขาถึงได้มืดไปหมดแบบนี้

                ยิ่งเดินไปเรื่อยๆยิ่งรู้สึกเหมือนไม่มีทางออก ยิ่งตะโกนร้องเรียกใครเท่าไรยิ่งรู้สึกอ้างว้าง

     

                คิมจงอินกำลังกลัวและกำลังหมดแรง

                แต่ในขณะนั้นเองแสงสว่างจ้าสีขาวก็ทำให้เขาต้องหยีตา เขาไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาแสงสีขาวนั้นทันที

     

     

                จงอิน!’ เสียงเรียกตัวเองจากเด็กชายชั้นอนุบาลผิวขาวสว่าง ทำให้เด็กชายคนถูกเรียกยิ้มกว้างแล้วละจากฟุตบอลตรงหน้าไปหาอีกคนทันที

              เซฮุน! มาแล้วเหรอ

     

     

              จงอินมองภาพตรงหน้านิ่งค้าง เด็กชายสองคนตรงหน้าเขาหนึ่งในนั้นเป็นเขาแน่ไม่ผิดเพี้ยน แต่อีกคนล่ะ

                ใคร.. คนคนนี้เป็นใคร

                ชื่อที่คุ้นเคยเหลือเกินในความรู้สึก ในความทรงจำที่ถูกปิดผนึกมานานแสนนาน

     

     

                ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปอีก

     

              จงอินเป็นอะไรไป ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้เด็กผิวขาวในชุดเด็กประถนต้นเข้ามาหาเขาในตอนนั้นที่แต่งกายชุดเดียวกัน เขาที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวข้างสนามบอล

              เซฮุน... เราเป็นคนไม่มีประโยชน์เหรอ

              ใครบอกจงอิน

              อาจารย์ปาร์คบอกว่าเราเรียนไม่เก่ง สู้เซฮุนไม่ได้ เราไม่มีประโยชน์ ไม่เก่งอะไรเลยสักอย่าง พอเด็กชายผิวเข้มพูดจบประโยค อีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ยิ้มบางๆให้ เด็กผิวขาวจับไหล่ทั้งสองของจงอินไว้มั่น

              ใครว่าจงอินไม่เก่งล่ะ! คนพวกนั้นไม่รู้จักจงอินดีพอหรอกนะ! จงอินน่ะเตะบอลเก่งจะตาย ในขณะที่เราน่ะแค่ให้เตะบอลยังเตะไม่โดนเลย

              ‘……’

              จะไปสนใจคนอื่นทำไมล่ะจงอิน ว่าเขาจะเข้าใจจงอินหรือเปล่า

              ‘……’

              มีแค่เราที่เข้าใจจงอินก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ

              อื้อ!’

     

     

                และอีกครั้ง....

                คราวนี้เป็นภาพที่เขาเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนหนึ่งด้วยน้ำตานองใบหน้า

     

                คุณน้าครับ เซฮุนไปไหน... ทำไมเซฮุนไม่มาหาจงอิน

              เซฮุนน่ะเขาไปสบายแล้วล่ะจ้ะ..

              .......

              ต่อไปเซฮุนจะมาเล่นกับจงอินไม่ได้แล้วนะจ๊ะ... นี่เป็นจดหมายที่เซฮุนฝากไว้ให้จงอินนะ เด็กชายผิวเข้มรับจดหมายจากผู้หญิงที่ชื่อว่าเป็นแม่ของเซฮุนมาอ่าน

     

                จากเซฮุนถึงจงอิน

              เราจะไม่ได้อยู่ข้างๆจงอิน คอยปลอบจงอินอีกต่อไปแล้ว ต่อไปจงอินต้องแข็งแกร่งมากๆนะ

              เรานิสัยไม่ดีเลยใช่ไหมที่ทิ้งจงอินไปอย่างนี้ ขอโทษนะ..

              จงอินน่ะจะต้องได้พบเจอคนดีๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้น......

     

              ลืมเราเถอะนะ

     

     

                ลืมเราเถอะนะ....

                ลืมว่าเราเคยมีตัวตนในชีวิตของจงอิน

                ลืมเราแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นจงอินคนใหม่ที่ไม่มีโอเซฮุนอีกต่อไป

     

     

                “เซฮุน.....”

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

                เขาสลบไปสามวัน...

                หมอบอกว่าเพราะเขาอ่อนเพลียมากจากการอดนอนหลายวันติดต่อกัน

     

                หลังจากออกจากโรงพยาบาลชีวิตของเขาก็หมุนวนไปเหมือนเดิมอย่างที่มันเคยเป็นมาตลอด

     

                คิมจงอินคิดว่าในช่วงที่เขาหลับไปนั้นเป็นเพียงแค่จินตนาการของตัวเขาเอง เด็กชายสองคนนั้นไม่เคยมีตัวตนจริงๆ และเป็นเพราะเขานอนหลับมากเกินไปจึงทำให้มีความฝันแบบนั้นเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าในบางครั้งเขาจะรู้สึกว่ามีใครบางคนมองเขาจากที่ไกลๆ

     

                แต่ก็เท่านั้น....

               

                “จงอิน! คิดอะไรอยู่น่ะ ทำหน้านิ่งเชียว” เสียงใสของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขาทำให้เขาหลุดจากภวังค์ เมื่อมองไปก็เห็น แฟนสาวของตัวเองทำหน้ายู่เหมือนทุกครั้ง

     

                “เปล่าสักหน่อย”

     

                “คนโกหก”

     

                “อะไรๆ นี่เอานี่ไปกินเลย” เขาคีบกุ้งของโปรดของคนตรงหน้าไปจ่อที่ปาก อีกฝ่ายยิ้มกว้างก่อนจะงับกุ้งจากเขาไปเคี้ยวตุ้ยๆ นัยน์ตาสดใสนั่นเปล่งประกายแห่งความสุขออกมาเต็มเปี่ยม

     

                “รักจงอินที่สุดเลย!

     

     

     

     

    ( -----------------)

     

     

     

     

     

     

     

                กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไปมาเมื่อลมพัดผ่านแต่เจ้าของไม่ได้สนใจมันแม้แต่น้อย นัยน์ตาสีดำสนิทเหม่อมองไปไกล ริมฝีปากสีซีดเผยรอยยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงเรื่องบางเรื่องที่ทำให้มีความสุข

     

               

                เขานั่งอยู่บนนี้มานานกว่าสองชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่เบื่อสักที บนหน้าผาสูงที่ทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองนี้

     

     

                ไม่ว่าจะเป็นความสุข หรือ ความทุกข์

                เขาสามารถเห็นมันผ่านที่ตรงนี้ได้อย่างชัดเจน

     

     

                “กำลังมีความสุขอยู่ใช่ไหม..”

     

               

                ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยประโยคแผ่วเบาราวกับต้องการจะสื่อไปถึงคนที่อยากให้ได้ยิน

     

                แต่เขารู้...

     

                ว่าคนคนนั้นจะไม่มีทางได้ยิน...

     

     

                “เราก็มีความสุขนะ..”

     

     

                ลมพัดแผ่วเบารอบตัวราวกับจะปลอบประโลมเขาให้หายจากความเศร้า ราวกับจะบอกเขาว่าให้คิดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านไปนานแสนนานแล้ว

     

     

                “แค่จงอินมีความสุข เราก็มีความสุขแล้วล่ะ”

     

                “........”

     

     

     

     

                สายลมเย็นพัดผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีใครใดจะทำให้เขารู้สึกอ้างว้าง

                ถึงแม้ในความทรงจำของคิมจงอินจะไม่มีโอเซฮุน  ถึงแม้โอเซฮุนจะไม่สามารถสัมผัสคิมจงอินได้อีก

                ไม่สามารถเข้าใกล้คิมจงอินได้อีก

     

                แต่เขาไม่เคยเสียใจเลยกับสิ่งที่ทำลงไป...

                เพราะเพียงแค่คิมจงอินมีความสุข ต่อให้เขาต้องหายไปจากความทรงจำของทุกคน

     

     

                เขาก็จะทำ..

     

     

     

     

     

    愛してる

    END

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×