คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : So Cute![No.10] : จูบ... 100% [[เชล]]
“เอาล่ะค่ะ ต่อไปจะให้นักศึกษาไปค้นข้อมูลในหอสมุดของภาคเรา เพื่อมาทำงานในชิ้นที่ดิฉันสั่ง แต่บอกไว้ก่อนนะค่ะ ว่านักศึกษาต้องไปหาข้อมูลด้วยตนเอง เพราะถ้านักศึกษารอหาในอินเทอร์เน็ต รับรองว่าไม่มีแน่ ต่อให้ถามท่านทวดกูเกิ้ลก็ตาม เลิกคลาสค่ะ!”
ตามนั้น ฉะนั้นไม่ต้องเดาว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน –
ผมกำลังส่องและมองหาหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตกรรมตะวันออก ที่พอจะมีในหอสมุดแห่งนี้ พอได้ก็รีบนำมาค้นคว้าโดยเร็วที่สุด เพราะผมต้องการที่จะ.. ‘ออกจากนี่ให้เร็วๆ ’
พรึ่บ!
มันเป็นเสียงเปิดหนังสืออย่ากังวลกับเสียงมันไปเลย เพราะมีอีกอย่างให้กังวลมากกว่านั้น .... นั้นก็คือ อายุและสภาพของหนังสือเล่มนี้ ที่ผมมองก็รู้ว่าตีพิมพ์ครั้งสุดท้าย พ.ศ. 2528 ชัวร์! ดูสีก็..ซีดแล้วซีดอีก เหลืองแล้วก็เหลืองอีก ถ้าขั้นกว่าของสีเหลืองเป็นสีน้ำตาลมันคงเป็นน้ำตาลไปแล้ว
และสภาพมันก็...ทั้งเก่า และล่าสมัย ราวๆกับว่าถ้าเปิดหนังสือไป คำนำอาจจะเขียนว่า พ่อกูชื่อขุนศรีอินทราทิตย์ แม่กูชื่อนางเสือง พี่กูชื่อบานเมือง... เอ้ย! ฉิบหายแล้วกู ลามไปสถาบันกษัตริย์ในสมัยอดีตกาลอีก
ผมเปิดอ่านมาเรื่อยๆข้อมูลมันเก่าพอๆกับที่ผมคิดจริงๆแหละ อย่างบรรทัดเมื่อกี้เขียนว่า สุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลาในนามีข้าว เจ้าเมืองบ่เอาจังกอบ ลูท่างเพื่อนจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย ...
พอๆ เลิกๆ ผมจะไม่มั่วแล้ว เพราะบรรทัดเมื่อกี้เขียนว่า ไพร่ฟ้าหน้าใสลูกเจ้าลูกขุนผู้ใดแล้ล้มตาย (แล้วก็กระแดะกลับมาเรื่องเดิม)
โอ้ยยยยย.... กูทดไม่ไว้แล้ว หัวสมองจะระเบิด
บรึ่ม! ลงทุ่งข้างสาลีแล้วเกิดเป็น... โกโก้ครั้นซ์!!!!!!!!!!!!!!!!! ยากกกส์!!!!!!!!!
ตุ้บ!
มันไม่ใช่เสียงสมองผมระเบิดบรึ่มแล้วกลายเป็นโกโก้ครั้นซ์นะ แต่เป็นเสียงของหล่น น่าจะเป็นกล่องดินสอ ของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามกับผมทีเขากำลังก้มเงยๆอยู่ พอเขาเก็บเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมา
เฮียแกรมนั่นเอง
“ อ้าวว เฮีย ” << ผมพูดเบาจนต้องจะกลายเป็นเสียงกระซิบเอ่ยทักเฮียแกรมก่อน
“ หา..อะไรไม่ได้ยิน” โด่! คนหล่อหูตึง กูล่ะเครียด
“ เฮียแกรม หวัดดี” ผมใช้เสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม แต่เฮียมันก็ทำไม่ได้ยินต่อ
เฮ้อ....ไอ้เวร!!!
“ เฮียแกรม หวัดดี! ” ผลคือผมลืมตัวแล้วกระแทกเสียงนิดหน่อย จนคนทั้งหอสมุดหันมามองผมและพี่มันเป็นตาเดี๋ยวกัน มันก้มหัวน้อยๆเชิงขอโทษ เหมือนๆกับเฮียมันนั้นแหละ พอคนเริ่มกลับไปสนใจหนังสือต่อผมก็ค้อนให้ไอ้เฮีย(เชี่ย) แล้วก้มอ่านหลักศิลาจารึกด้านที่2ต่อ หลังจากอ่านด้านที่1 จบแล้ว (ไม่น่าใช่...)
แล้วเฮียมันก็ขยับมานั่งใกล้ๆ ผมก็งอนไม่พูดอะไร เอ๊ะ! แต่ผมลืมอะไรไปหรือเปล่า....
ฉิบหายแล้ว .... ลืมหายใจ!
หัวใจมันหยุดเต้นไปสองถึงสามวินาที และพอรู้สึกตัวมันก็เต้นรัว และหอบหายใจแรงเองอย่างอัตโนมัติ
“ อะไรอ่ะ โกรธเหรอ ”เฮียแกรมเขยิบเข้ามาใกล้อีก จนเรานั่งจะติดกันอยู่แล้ว ผมยังคงนั่งนิงไม่ไหวติง ณ ที่เดิมพร้อมการอ่านหนังสือที่เล่มเก่าพอๆกับหลักศิลาจารึกพ่อขุนต่อไป
“ อ่านไรอ่ะ -3- ”
ปัญญาอ่อน =_= แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘น่ารักดี’ พี่มันก็ยังมีความพยายามสูงในการเรียกร้องความสนใจจากผมต่อไป ผมมองหน้าพี่มันนิดนึงก่อนจะก้มไปสนใจหนังสือเล่มเดิมต่อ
“ อะไรอ่า~~ อ่านทำไมเนี่ย หนังสือสมัยกรีกโรมัน ดูดิ เหลืองจนดำแล้วเนี่ย ฮ่าๆๆ” น่าน.. เล่นเองขำเอง – หน้าด้านจริงจัง ความจริงผมไม่ได้โกรธพี่มันนะ แต่ที่ก้มหน้าอยู่เนี่ย แถวบ้านเรียก เขิน เว้ยเฮ้ย!
“ อ่านไปทำงาน”(กระซิบ)
“ ไม่เสิร์ชเอาล่ะ ”(กระซิบ)
“ มันไม่มี” (กระซิบ)
“ ถ่ายรูปดิ”(กระซิบ)
“ หือ ถ่ายได้ไง มีกล้องวงจรปิดอยู่”
หอสมุดที่นี่ห้ามถ่ายภาพครับ
“ ก็ต้องตรงที่ไม่มีกล้องวงจรปิดไง.. ”
---------------------
เดี๋ยวต่อค่ะ ว่าเเต่หายไปนานมีคนลบเเฟนตลับตั้งหนึ่งคนเสียใจมากกกกก ว่าจะอัพตัั้งเเต่สามวันที่เเล้ว เเต่พอเปิดมาเจอเเฟนคลับหายไป1คน งอนไปสามวัน -*-
ขอโทดรี้ดเดอร์ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยนะค่ะ พอดีอีไรท์เรื่องนี้มันบ้า ----
-----
ต่อ
หนังสือหน้าแล้วหน้าเล่า ถูกถ่ายด้วยกล้องของไอโฟน4 ไม่มีs ของผมจากมุมๆหนึ่งในหอสมุด ความจริงมันมีกล้องวงจรปิดนะ แต่แค่มุมเดียว เพราะที่อื่นจะมีกล้องสอง-สามตัว มุมที่โดนกล้องผมก็ให้เฮียแกรมมันยืนบังให้ แต่ด้วยความสูงที่ฟ้าประทานให้ของผม ทำให้เฮียมันต้องเข้ามาบังคับใกล้ๆ หน้าผมกับพี่มันห่างกับแค่คืบ ลมหายใจก็แทบจะใช้อากาศเดียวกัน เหมือนพี่มันหายใจออก แล้วผมก็รีบหายใจเข้า แต่บางครั้งผมก็ลืมหาย.......
“ เสร็จยัง” เสียงทุ้มนุ่มกรอกลงข้างใบหู ความรู้สึกผมเสียวซ่านอย่างไม่ทราบสาเหตุ ใบหน้าที่ร้อนอยู่แล้วก็ทั้งร้อนทั้งแดงจนรู้สึกได้ว่าร้อนถึงหูเพียงแค่เสียงกระซิบเบาๆ ผมก้มหน้างุดกลั้นความอายไว้ เหมือนพี่มันจะแกล้งยังไงไม่รู้ มันเลยเป่าลมใส่หูผมเบาๆ พร้อมหัวเราะคิกคัก
“ อย่างแกล้งกะ..กัน..ซะ...ซิ..” ผมตั้งใจเงยหน้าไปดุมันแต่กลับ เป็นผมที่เสียงสั่นเพียงเพราะหน้าเราอยู่ใกล้กันไป จนปลายจมูกชนแล้ว ตาของผมบังเอิญที่จะประสานตากับคนตรงหน้า..พอดี
ใบหน้าที่ผมกำลังจับจ้องเคลื่อนเข้ามาใกล้หน้าผม ผมรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้นถึงผมไม่หยุด..แต่
ผมไม่ขัดขืน...นี่ซิแปลก
มือสองข้างถูกรวบไว้โดยมือเพียงข้างเดียวของพี่มัน อีกมือของเฮียมันจับที่ต้นแขนผมเบาๆ นัยน์ตาเรามองกันจนผมเห็นประกายตาสีเทานิดๆ ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะไม่เห็น..
เคลิ้มมาก... เคลิ้มจนรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่..
เจ้าของตาสีเขาเข้มนั่น เรื่อยหน้ามาประกบปากผมกับเขาเรียบร้อยแล้ว ..
จูบนั้นไม่รุกล้ำเข้ามาแต่..จูบนั้นเหมือจะสูบวิญญาณของผมออกไปจากร่างกาย เป็นจูบที่ยาวนานราวกับจะให้จูบบอกอะไรสักอย่าง.. แต่แล้วจิตใต้สำนึกก็ปลุกผมออกจากภวังค์
ผมดันไหล่และจะสะบัดมือเฮียออกแต่ ไม่เลย คนมันแรงควาย ไม่หลุดง่ายๆ แถมพี่มันก็ไม่ได้ปล่อยให้ปากมันเป็นอิสระ เพราะตอนนี้มันสอดลิ้นเข้ามาในปากแล้ว แปลกที่พอปลายลิ้นแตะกัน ผมก็หยุดขัดขืนอีกครั้ง ร่างกายราวกับโคลนโทรไม่อยู่ ตัวอ่อนหมดเรี่ยวแรง....
หวาน..หวานว่ะ จูบนี่มันมีรสชาติด้วยเหรอ .. หวาน แบบไม่ใช่น้ำตาล น้ำผึ้ง หรืออะไร แต่หวานในแบบของมัน ผมก็เริ่มจะตอบรับความหวานนั่นจนลืมที่จะหายใจ
“ อื้อ..อึก!”<<เสียงกูทำไมแรดงี้
“ อืม~~~~~~” พี่มันครางต่ำในลำคอแบบพอใจ ... แล้วพี่มันก็ถอนปากออก ผมก็โกยอากาศเข้าไป ยังไม่ทันไรมันก็จูบ อีกแล้ว แต่ครั้งนี้มือไม้ไม่อยู่สุข มันล้วงในเสื้อนักศึกษาของผม แล้วลูบคลำไปทั่วจน..เกือบจะถึงอก
ตุ๊บ!
เสียงหนังสือสมัยพ่อขุนที่มันเคยอยู่ในมือผมตกลงไปที่พื้น เรียกสติผมได้อย่างดี ผมรีบเก็บจากพื้น
“ โทดทีฮะ ผมมีเรียนต่อ”
จากนั้นก็ วิ่งไปเก็บหนังสือและวิ่งอย่างรวดเร็วมาที่หอทันใด(เพราะหอผมเป็นหอในเลยใกล้)
แม้ว่าตอนนี้มันจะผ่านไปหายนาทีแล้ว แต่ใจผมยังเต้นแรงอยู่ พร้อมทั้งหลักฐานว่าผมเพิ่งโดนจูบมา..นั่นคือ
ปากเจ่อๆของผมเองแหละ
“ ไอ้เฮียบ้า!”
คนที่โดนผู้ชาจูบคงถีบกลับไปแล้ว แต่นีผมกำลัง..ยิ้ม
เรามาสานต่อ ชื่อตอน จูบ ให้กลายเป็น จูบ..... จริงๆเเล้วนะ เม้นท์!!!!!!!!!!!
ความคิดเห็น