ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พ่ายรักเหยี่ยวทะเลทราย

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 (แก้ไข)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.05K
      10
      26 ส.ค. 59

     

    ณ บ้านบดินทร์บัญชร

    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง  ฮัลโหล น้ำมนต์แกรีบตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะมีนาโทรหาเพื่อนรักเมื่อเจอเข้ากับอะไรบางอย่าง ที่เพื่อนอย่างน้ำมนต์ต้องมาดูด้วยตัวเอง ถ้าไม่มาเห็นกับตาน้ำมนต์คงไม่เชื่อ สู้ให้มาเห็นด้วยตาตัวเองดีกว่า

    "มีไรหรอมีนา ฉันกำลังหลับฝันดี แกโทรมาปลุกฉันทำไมดึกๆดื่นๆ  นี่มันตีไหนแล้วเนี๊ยะ"  น้ำมนต์กรอกเสียงใส่โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดลงไปอย่างสะลืมสะลือ  

    "ตีหนึ่ง” มีนาไม่รอช้ารีบตอบเพื่อนรักออกไปอย่างรวดเร็วเป็นเพื่อนคนไหนก็คงรู้ดีว่าถ้าคุณหนูน้ำมนต์

    ถูกปลุกขึ้นมากลางดึก ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญเพื่อนคนนั้นจะโดนคุณหนูน้ำมนต์เฉ่งสามวันสามคืนยังไม่จบ แต่เพราะมีนามีเรื่องสำคัญจริงๆ จึงได้โทรมาหาตอนกลางดึกอย่างนี้ไม่เช่นนั้นเพื่อนรักของเธออาจเสียใจ

    ไปตลอดชีวิตที่เลือกคบคนผิด
                   "มีไรรีบพูดมาฉันจะนอน" เธอถามออกไป " แกต้องรีบออกมาหาฉันด่วนเลยนะ " มีนาบอกเพื่อนรักไป

                  " มีเรื่องอะไรของแก " ความสงสัยเข้าครอบคลุม มีนามีเรื่องอะไรถึงโทรมาหาตนตอนดึกเช่นนี้

                  "เอ่อนะ มาเถอะ ที่คลับอินเทรนด์นะ ฉันมีอะไรให้แกดู แล้วแกจะได้ตาสว่างสักที กับผู้ชายที่แกเรียกว่าแฟน " คำว่าแฟนทำให้คุณหนูน้ำมนต์ตาสว่างขึ้นทันที มันเกี่ยวอะไรกับนทีแฟนของเธอ ทำไมเพื่อนรักจึงบอกให้ออกไปหา เพื่ออยากรู้ในสิ่งที่สงสัยน้ำมนต์จึงตอบเพื่อนรักออกไป

                  ได้ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วเจอกันนะ " ไม่ถึงสามนาทีในการเปลี่ยนเสื้อผ้า น้ำมนต์เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว และขับรถยนต์คันหรู ยี่ห้อเบ็นซ์ สีดำ ออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว
                   ในขณะที่น้ำมนต์กำลังขับรถไปที่คลับอินเทรนด์นั้น  น้ำมนต์ได้แต่คิดว่าแฟนของตนไปทำอะไรที่นั่น ทั้งที่ก่อนนอน

    ก็ได้โทรมาหาแล้วบอกว่าจะนอนเหมือนกัน  ตั้งแต่น้ำมนต์คบกับนทีมา ประมาณ 2 ปีกว่า นทีเป็นผู้ชายที่ดีมาก เอาอกเอาใจ

    ทุกอย่าง เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยทำให้ผิดใจสักครั้ง  แล้วนี่ยัยมีนาบอกว่าเห็นพี่ที ที่คลับ แล้วนี่มันยังไง ทำไมพี่ทีไปที่คลับ

     แล้วไปกับใครทั้งที่บอกเราว่าจะเข้านอน  เมื่อน้ำมนต์มาถึงคลับอินเทรนด์  ได้โทรหามีนาอีกครั้ง  

                   "มีนาแกอยู่ไหนฉันมาถึงแล้วนะเนี๊ยะ" ใจร้อนรนอยากรู้ความจริงไม่รอฟังคำตอบจากมีนา

    น้ำมนต์เร่งรุดเดินเข้าไปในคลับทันที และเจอมีนายืนรออยู่ก่อนแล้ว            

    “มาซิฉันจะให้แกดูอะไร” มีนาลากแขนน้ำมนต์ไปยังเป้าหมายทันทีซึ่งเป็นชายกับหญิง

    คู่หนึ่งกำลังดื่มด่ำกันอย่างสนุกสนานหัวเราะต่อซิกและกอดกันกลมจนไม่เกรงใจสายตาคนที่อยู่รอบข้างภาพที่เห็น

    ทำให้คุณหนูน้ำมนต์ที่ไม่เคยมีใครมาทำให้หยามหน้ากันอย่างนี้ อารมณ์โกรธวิ่งพรวดจนถึงสุดขีด ใบหน้าบูดบึ้ง

     เส้นเลือดปูดโปน คนรักที่บอกว่ารักเธอหนักรักเธอหนากลับพาผู้หญิงอื่นมาเที่ยวและโกหกเธออย่างหน้าตาย เพื่อนที่คบกันมารู้ดีว่าถ้าเมื่อไหร่ที่น้ำมนต์โกรธใครขึ้นมาคนนั้นต้องเตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะคุณหนูน้ำมนต์จะเอาให้ถึงที่สุด  คนอย่างน้ำมนต์ไม่ยอมใครและไม่ให้ใครหน้าไหนมาหยามหน้ากันได้ง่ายๆ  น้ำมนต์เดินเข้าไปหาเป้าหมายทันที  นทีเมื่อเห็นแฟนของตนมายืนอยู่ตรงหน้า ตกใจทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าซีดเผือด ไม่คิดว่าจะเจอเซอร์ไพร์ เข้าอย่างจัง

                    "พี่ทีค่ะ นี่มันอะไร น้ำมนต์ต้องการคำตอบ แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร"น้ำมนต์ตะคอกถามคนรักของตนออกไปด้วยอารมณ์โกรธ เพราะดูก็รู้ว่าความสนิทสนมนั้นมากเกินกว่าเพื่อน

    "เอ่อ น้ำมนต์พี่ว่าน้ำมนต์ใจเย็นๆก่อนนะ " นทีตะกุกตะกัก รีบอธิบายแก้ตัวว่าผู้หญิงที่มาด้วยแค่เพื่อนเท่านั้น  แต่ดูผู้หญิงที่มากับนทีก็ใช่ย่อยเมื่อไหร่ เมื่อได้ยินคำที่นทีแก้ตัวก็รีบสวนขึ้นมาทันใด

     “เพื่อนได้ยังไงกันคะนทีก่อนออกมาจากที่นี้เรายังนอนนกอดกันอยู่เลย”หล่อนบอกออกมาอย่างหน้าตาย

    แต่คำตอบที่ได้กลับไปกระตุ้นอารมณ์โกรธของน้ำมนต์มากยิ่งขึ้น

     

    “สารเลวกันทั้งคู่” น้ำมนต์สบถออกมา  แล้วขว้าเอาขวดเหล้าที่อยู่ใกล้มือ ฟาดลงไปที่หัวของนทีอย่างแรง

    “โอ้ย” นทีร้องเจ็บ หัวแตกเลือดไหลออกมา เมื่อจัดการกับนทีแล้วจึงไปจัดการกับผู้หญิงที่นทีพามา ซึ่งยืนตกตะลึงอยู่

    “ส่วนเธอฉันแค่ต้องการสั่งสอนว่าอย่ามาถือดีกับฉัน และอย่ามาหยามหน้ากันแบบนี้” น้ำมนต์ใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นฉาดใหญ่ใบหน้าสะบัดไปตามแรงตบใบหน้าขาวมีรอยฝ่ามือเต็มห้านิ้ว

    แสดงออกมาชัดเจน หล่อนโต้ตอบด้วยการตบน้ำมนต์คืน แต่มีนาเข้ามาช่วยไว้ก่อน หล่อนจึงโดนมีนาตบเข้าให้อีก น้ำมนต์หันไปทางนที เห็นนทีกุมแผลของตนเองเอาไว้ เลือดไหลไม่ยอมหยุด และน้ำมนต์ก็พูดในสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมา เหยี่ยวกลางคืนทั้งหลายที่มาท่องเที่ยวที่คลับแห่งนี้ต่างยืนดูด้วยความตกตะลึง

    "น้ำมนต์ไม่น่าเชื่อใจพี่ทีเลย ทั้งทีเราตกลงจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แล้วพี่ทีกลับมีผู้หญิงอื่น หักหลังน้ำมนต์

    ถ้าน้ำมนต์ไม่มาเห็นกลับตาก็คงไม่เชื่อ แท้ที่จริงแล้วผู้ชายอย่างพี่ก็ไม่มีดีอะไรเลย เจ้าชู้ หลอกผู้หญิงเก่ง

    ที่แท้ที่ทำดีกับน้ำมนต์เพราะต้องการให้น้ำมนต์ตายใจ พี่ทีคิดว่าน้ำมนต์โง่นักหรอก ที่จะมาหลอกกันได้ง่ายๆ 

    เราเลิกกันเถอะคะ พอแล้วกับความเชื่อใจที่มีให้กัน แล้วน้ำมนต์จะบอกคุณป๋าให้ยกเลิกงานหมั้นระหว่างเราสองคน " พูดแค่นั้นเธอจึงลากแขนมีนาออกมาจากคลับแห่งนั้นทันที

     "มีนาไปกันเถอะ น้ำมนต์ไปอยากอยู่ที่นี้แล้ว ไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้อีกตลอดไป " แล้วเดินออกไปจากสถานการณ์ตึงเครียดนั้นทันที ปล่อยให้นทีและแฟนสาวคนใหม่จัดการกันเอาเอง  นทีแฟนหนุ่มของน้ำมนต์ข้างนอกดูสุภาพเรียบร้อย เอาอกเอาใจเก่ง แต่นั้นก็แค่เปลือกนอก เพราะที่นทีคบกับน้ำมนต์ก็หวังสมบัติของน้ำมนต์เท่านั้น นทีแอบคบผู้หญิงมาหลายคนแต่น้ำมนต์ไม่รู้ นทีอยากได้ในสิ่งที่ผู้หญิงทั้งหลายให้เขาได้แต่น้ำมนต์ให้เขาไม่ได้ นทีจึงแอบคบคนอื่นเรื่อยมา จนกระทั่งเรื่องมาแดงออกวันนี้

                เมื่อออกมาจากคลับอินเทรนด์ได้สักพัก น้ำมนต์ต้องการระบายอารมณ์จึงได้ขับรถพามีนา  ไปที่คลับอีกย่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคลับของคุณป๋าเธอเอง ซึ่งน้ำมนต์จะแวะมาดูร้านบ้างเป็นบางเวลา ส่วนใหญ่ก็ให้ผู้จัดการดูแลไป น้ำมนต์คือลูกสาวคนเดียวของคุณสมภพ บดินทร์บัญชร นักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จมากมาย มีธุรกิจทั้งโรงแรม อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และคลับอีกมากมาย ส่วนแม่ของน้ำมนต์เสียชีวิตตั้งแต่คลอดน้ำมนต์ออกมา น้ำมนต์จบการศึกษาป.ตรี ด้านการบริหารธุรกิจ จากประเทศอังกฤษ  อายุ 25 ปี หน้าตาสะสวย รูปร่างดี นิสัย ชอบเอาแต่ใจตนเอง  ดื้อรั้น หัวแข็ง ไม่ยอมใครง่ายๆ ซุ่มซ่ามเป็นบางเวลา แต่งตัวทันสมัย  เก่งทันคน  เมื่อมาถึงคลับของตนก็เรียกพนักงานเสริฟ์ให้เอาไวน์ราคาแพงมาให้เธอ  น้ำมนต์และมีนาเลือกนั่งเก้าอี้ที่จัดไว้เป็นส่วนตัว เฉพาะแขก VIP ของร้านเท่านั้น จากนั้นเมื่อพนักงานเสริฟ์นำไวน์ มาให้ น้ำสีอำพันถูกเติมเต็มใส่แก้ว แก้วแล้วแก้วเล่า แต่คนดื่มกลับไม่รู้ถึงรสชาติของน้ำสีอำพันเลย  ฤทธิ์แอลกอฮอลทำให้เธอเมา หน้าแดงก่ำ พร่ำพรรณนาเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเสียใจที่ถูกคนรักหักหลังพร่ำถึงเรื่องราวในอดีตต่างๆนานา ส่วนมีนาก็ได้แต่นั่งปลอบเพื่อน กลัวเพื่อนเมาแล้วจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้  น้ำมนต์ได้แต่พร่ำพูดไม่รู้เรื่องเพราะเมามากแล้ว มีนาห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เพราะเป็นคนที่ดื้อ และเอาแต่ใจตนเอง ใครห้ามก็ไม่ฟัง จึงปล่อยไปเลยตามเลย จนกว่าเธอจะหายเครียดเอง น้ำมนต์นั่งไปสักพัก จึงขอตัวมีนาไปเข้าห้องน้ำ มีนาจะพาเธอไปแต่ถูกปฏิเสธ เธอจึงหอบร่ายกายที่เดินไม่ค่อยเที่ยงตรงไปยังห้องน้ำเอง ส่วนมีนาได้แต่เดินตามหลัง เพื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยได้ทัน

    รุ่งเช้าน้ำมนต์เธอได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณป๋าฟัง และเธอขอไปพักผ่อนที่ต่างประเทศสักพัก
    คุณป๋าก็ไม่ว่าอะไร และจะจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อย ด้วยน้ำมนต์เป็นลูกสาวคนเดียวจึงถูกตามใจจนเคยตัว

     และคุณป๋าก็รักเธอมาก ไม่ว่าน้ำมนต์จะร้องขออะไรก็ต้องได้ทุกอย่าง

                    "คุณป๋าน้ำมนต์จะไปอาหรับสักพักนะคะ จะไปหายัยแก้วตาด้วย " แก้วตาเพื่อนอีกคนของน้ำมนต์

    เมื่อเธอเรียนจบ เธอก็ได้ไปทำงานที่อาหรับเป็นนักข่าวสาวของที่นั่นทันที ฐานะทางบ้านร่ำรวยไม่แพ้กัน แต่เธอเลือกที่จะทำตามความฝันของตนเองจึงปลีกวิเวกไปทำงานไกลถึงอาหรับ กะว่าอยู่ทำงานสักสองสามปีแล้วค่อยกลับมาเปิดบริษัทของตนเอง
                  "ไปสิลูกพร้อมเมื่อไหร่ค่อยกลับมาบริหารงานช่วยคุณป๋า ว่าแต่ตอนนี้ไปพักผ่อนให้สบายไม่ต้องคิดมาก

     เมื่อผู้ชายมันไม่รัก ก็ตัดมันออกจากชีวิตซ่ะ ในโลกนี้ยังมีคนที่เพรียบพร้อมอยู่เสมอเดี๋ยวเรื่องนที ป๋าจะจัดการให้น่ะลูก "

                    "ขอบคุณค่ะคุณป๋า "น้ำมนต์เป็นคนที่ตัดสินใจอะไรรวดเร็ว เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ได้ เมื่อจะไปที่ใดเธอต้องไปให้ได้ และเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งพอสมควร และเมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้วยากที่จะเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ อีกสามวันเธอจะบินไปอาหรับ เธอจึงรีบโทรบอกข่าวล่าสุดแก่เพื่อนรักอย่างมีนา ถ้าไม่มีมีนาเธอก็ต้องโดนคนรักหลอก และต้องมาเสียใจทีหลัง สู้เสียใจเสียแต่วันนี้ และทำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อเริ่มต้นชีวิตที่ดีกว่านี้

    "มีนา ฉันจะไปอาหรับพรุ่งนี้น่ะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี้ ฉันจะไปหายัยแก้วตาด้วย " น้ำมนต์บอกเพื่อนรักออกไป

     "เดี๋ยวฉันไปหาแกที่บ้านน่ะน้ำมนต์ " วางสายปุ๊บ มีนาก็ขับรถยนต์มาน้ำมนต์ที่บ้านทันที เธอเข้าใจเพื่อนรักดี เพื่อนรักของเธอต้องการไปพักทำใจที่ต่างประเทศสักพัก และประเทศอาหรับที่เธอไปยังมีเพื่อนรักอีกคนที่รอคอยปลอบใจเธออยู่
                    เมื่อมีนามาหาน้ำมนต์ที่บ้านและช่วยจัดเตรียมกระเป๋า และด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมานาน   มีนาก็อดที่จะห่วงเพื่อนไม่ได้

     "น้ำมนต์ถ้าแกมีปัญหาอะไรโทรมาปรึกษาฉันได้นะ ตลอดเวลาเลยนะเพื่อน ฝากความคิดถึง ถึงยัยแก้วตาด้วยนะ "
                    " แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกมีนา คนอย่างฉันทำใจได้ง่ายอยู่แล้ว ว่าแต่แกอยู่ทางนี้ก็ดูแลตัวเองด้วย กว่าฉันจะกลับมาอีกนาน "

    "ฉันขอให้แกโชคดี และเจอหนุ่มอาหรับที่ถูกใจสักคน เอาแบบหล่อๆ นะเพื่อน " มีนาแซวน้ำมนต์
    "ฉันคงเข็ดกับผู้ชายไปอีกนานว่ะ  ขออยู่เป็นโสดและไปเที่ยวให้สบายอุราดีกว่า แกไม่อยากไปด้วยกันหรอ"

    “ฉันต้องช่วยคุณพ่อ และคุณแม่ดูแลกิจการ เอาไว้ถ้าฉันว่างฉันจะบินไปหาแกกับแก้วตา โอเคป่ะ”

    “จร้าแม่นักธุรกิจเยอะ”

    สองเพื่อนสาวจึงได้กอดกันกลมด้วยมิตรภาพของคำว่าเพื่อน ไม่มีคำใดมาบรรยายได้  มีนาลูกสาวนักธุรกิจ ชื่อดังของเมืองไทย บิดาและมารดาทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ครอบครัวของน้ำมนต์ ครอบครัวของมีนา และครอบครัวของแก้วตาทั้งสามครอบครัวเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่รุ่นย่ามาถึงรุ่นหลานทั้งสามครอบครัว

    จึงเป็นเพื่อนกันมาตลอด บิดาของน้ำมนต์ บิดา มารดาของมีนา และบิดามารดาของแก้วตาเป็นเพื่อนรักกัน และเป็นนักธุรกิจด้วยกันทั้งหมด แต่ทำธุรกิจแตกต่างกัน  พอมาถึงรุ่นลูก ลูกก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีก ทำให้ทั้งน้ำมนต์

     มีนา แก้วตา และพี่ชายของมีนา สนิทสนมกัน ตอนนี้มีนาเธอช่วยบิดาและมารดาบริหารงานมีนามีพี่ชาย 1 คน ซึ่งตอนนี้กำลังเรียนปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกานานๆ กลับมาบ้านทีแต่ตอนนี้เรียนใกล้จบแล้วและจะกลับมาบริหารงาน

    ช่วยบิดาและมารดา ใจจริงมีนาเธออยากเชียร์ให้น้ำมนต์ชอบพี่ชายมากเธอมากกว่า  แต่ไม่เป็นผลเมื่อน้ำมนต์นั้นรักกับนทีอยู่ แต่เมื่อได้มาเห็นนทีทำกับเพื่อนรักของตน ก็เจ็บใจแทนเพื่อนรักไม่ได้ เธอไม่โทษน้ำมนต์ที่เลือกคนผิดเพราะเรื่องหัวใจมัน

    บังคับกันไม่ได้ไม่แน่อนาคตข้างหน้าน้ำมนต์อาจจะชอบพี่ชายเธอขึ้นมาบ้างก็ได้แต่เธอสงสารพี่ชายเธอมากกว่า

    ที่แอบรักน้ำมนต์ข้างเดียวเมื่อรู้ว่าน้ำมนต์รักกับนทีอยู่ หลังจากเรียนจบปริญญาโท ก็รีบขอร้องบิดาและมารดา ไปเรียนต่อปริญญาเอกทันที           

    วันนี้เป็นวันที่น้ำมนต์เดินทาง โดยมี มีนา และคุณป๋ามาส่ง  ทำให้เธอรู้ว่าโลกนี้ยังมีคุณพ่อที่รัก และเพื่อนที่ห่วงยเสมอ  ระหว่างเดินทางไปสหรัฐอาหรับฟารียะห์ น้ำมนต์ได้แต่นั่งเหม่อ ใจลอย และทุกครั้งที่นึกถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดและขมขื่น

    น้ำตาแห่งความเจ็บปวดหลั่งไหลออกมา ถึงแม้จะห้ามใจตัวเองไม่ให้ร้องไห้ แต่น้ำตากลับไม่ฟังคำสั่งของสมอง เมื่อใจมันร่ำร้อง น้ำตาที่กักกั้นไว้ก็ไหลออกมาโดยห้ามไม่อยู่อีกต่อไป ใครจะไปรู้ว่าคนเราทุกคนเมื่อเจอปัญหาก็ต้องมีอ่อนแอกันบ้าง

    น้ำมนต์เองก็เหมือนกันใจของเธอไม่ได้ทำด้วยหินมันเป็นเพียงก้อนเนื้อเล็กๆที่มีอะไรมากระทบก็ทำให้เจ็บ

    ปวดขึ้นมาเหมือนกัน ถึงแม้ภายนอกจะดูแข็งแกร่ง แต่ใครจะรู้บ้างว่าข้างในนั้นไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เห็นเลย เธอจะร้องไห้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น และจะไม่ร้องไห้ให้กับผู้ชายชั่วๆ แบบนั้นอีก เธอบอกกับตัวเอง

                     เมื่อถึงประเทศสหรัฐอาหรับฟารียะห์  รัฐอาบู สนามบินกว้างใหญ่ ผู้คนเดินกันขวักไขว่  แต่ยังไม่เจอเพื่อนสาวที่จะมารับเลย แต่เดินมาได้สักัพกก็ได้ยินเสียงเพื่อนรัก ท้องทักและวิ่งเข้ามาสวมกอด

     "น้ำมนต์"/ "แก้วตา"  

     "น้ำมนต์แกเป็นไงบ้างเพื่อน ฉันคิดถึงแกมากเลยนะ"กันแก้วตาถามเพื่อนรักที่เจอกันยังไม่ถึงสามนาทีด้วยดีใจและนานๆครั้งได้เจอ เธอดีใจอยากบอกไม่ถูกที่เพื่อนรักตัดสินใจมาหาเธอ สามสาวเพื่อนรัก ไม่ว่ามีปัญหาอะไรพวกเขาก็จะช่วยกันเต็มที่ และช่วยกันแก้ปัญหาให้ได้ ไม่แปลกที่ทั้งสามสาวจะเป็นเพื่อนที่รักกันมากที่สุด เมื่อคนหนึ่งมีทุกข์ อีกสองคนจะเข้ามาช่วยทันที ไม่ว่าจะสุข รึจะทุกข์ พวกเธอก็พร้อมที่จะก้าวผ่านมันไปให้ได้

      “ดูแกซิ สภาพตอนนี้ดูไม่ค่อยได้เลย ไม่เหมือนคุณหนูน้ำมนต์ที่ฉันรู้จัก เอางี้ มาที่นี้ต้องทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ที่นี้และเพื่อนคนนี้จะทำให้แกลืมผู้ชายชั่วๆคนนั้นให้ได้” แก้วตาเห็นสภาพเพื่อนตอนนี้แล้วอดสงสารไม่ได้ ขอบตาบอบช้ำรับรู้ว่าเธอผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ถึงแม้น้ำมนต์จะแข็งแกร่งก็จริง แต่ภายในกลับไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่ใครๆ เห็น

     "ยัยมีนาโทรมาหาฉันและเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังหมดแล้ว ไม่ต้องเสียใจนะน้ำมนต์ ที่นี้จะทำให้เธอลืมผู้ชายคนนั้นได้สนิทใจ"  คุยกันได้สักพัก แก้วตาก็พาน้ำมนต์ไปยังที่พักขอตน แก้วตาขับรถพาน้ำมนต์ไปเรื่อยๆ สองข้างทางที่ขับรถผ่านมาล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่เจริญหูเจริญตา สภาพบ้านเมืองของที่นี้ดูแตกต่างและเจริญมาก ตึกรามบ้านช่อง ตกแต่งทันสมัย  แต่อากาศที่นี้จะร้อนอบอ้าวมาก เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ในตอนที่กำลังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ น้ำมนต์เองเธอก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับประเทศนี้มาบ้าง การพูดภาษาก็พอใช้ได้แต่ได้ไม่มาก ส่วนใหญ่เธอเก่งภาษาอังกฤษมากกว่า

    ตลอดระยะการเดินทางแก้วตาได้เล่ารายละเอียดให้น้ำมนต์ฟังว่า ที่รัฐแห่งนี้เจริญขึ้นมามากขนาดนี้ก็เพราะ มีผู้ปกครองรัฐที่ดี และเก่ง ประชาชนของที่นี้จะเรียกว่าท่านชีค ท่านมีนามว่า ท่านชีคฟาคิน  ท่านชีคคนนี้ยังหนุ่ม อายุไม่มาก แต่ด้วยความสามารถท่านจึงพารัฐแห่งนี้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว และเจริญกว่ารัฐอื่นๆ อีก 7 รัฐ เมื่อมาถึงอพาร์ทเม้นของแก้วตา สองเพื่อนสาวต่างกันช่วยกันขนของยกกระเป๋าขึ้นไปไว้ที่ห้องของแก้วตาซึ่งอยู่ที่ชั้น 3 ของอพาร์ทเม้น ด้วยหน้าที่การงานและตำแหน่งของแก้วตาไม่แปลกใจเลยว่าที่พักของเธอจะหรู และอยู่สบาย

    ย่านที่แก้วตาพักอยู่ ทุกอย่างล้วนสะดวกและครบครัน เมื่อสองเพื่อนสาวจัดการเรื่องที่พักอาศัยเรียบร้อยแล้ว แก้วตาผู้ที่อยู่ที่นี้มานานจึงชวนเพื่อนสาวออกไปกินข้าวข้างนอก  ที่รัฐแห่งนี้มีร้านอาหารไทยมาเปิด อยู่ 1 ร้าน เป็นร้านของคนไทย คนไทยที่อาศัยอยู่ประเทศนี้นิยมมาทานอาหารที่นี้กันเป็นประจำ เพราะรสชาติอร่อย สะอาด และการบริการก็ดีเยี่ยม การตกแต่งก็ดูดี และทันสมัย ซึ่งเป็นร้านของหญิงชาวไทยที่แต่งงานกับผู้ชายประเทศนี้แล้วมาเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักอาศัยของแก้วตานักร้านนี้เป็นร้านประจำของแก้วตาเลยก็ว่าได้ เพราะเธอมักจะมาฝากท้อง

    กับอาหารของที่นี้เป็นประจำ สองเพื่อนสาวเดินเข้าไปที่ร้านอาหารซึ่งมีลูกค้านั่งรับประทานอาหารอยู่ประปราย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยซะส่วนมาก เจ้าของร้านเห็นแก้วตาเดินมากับเพื่อนจึงรีบออกมาต้อนรับด้วยความเป็นกันเอง

     “พี่ลินวันนี้มีเมนูใหม่ๆอะไรแนะนำมั้ยคะ”แก้วตาถามเจ้าของร้านซึ่งดูมีอายุกว่าเธอหลายปี ด้วยความเป็นกันเองเพราะเธอและเจ้าของร้านก็สนิทกันมาหลายปี ตั้งแต่แก้วตามาทำงานที่นี้ใหม่ๆ

     “มีหลายอย่างคะ น้องแก้วตา ยังไงเชิญนั่งที่โต๊ะก่อน แล้วนี้จะไม่แนะนำเพื่อนให้พี่รู้จักเหรอคะ” ลินลนาเจ้าของร้านเห็นแก้วตาพาเพื่อนมาด้วย จึงเอ่ยถาม

      “อุ้ย ขอโทษคะ ลืมไปเลย” จากนั้นแก้วตาก็แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันเมื่อกินข้าวอิ่มแล้วสองสาวจึงพากันไปเดินช้อปปิ้งต่อ ซื้อข้าวของเครื่องใช้ จากนั้นก็พากันกลับที่พัก  แก้วตาเพื่อนของน้ำมนต์เป็นคนอารมณ์ดี อัธยาศัยดี ร่าเริง แจ่มใส ใครอยู่ด้วยก็หายทุกข์ใจ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×