ตอนที่ 6 : Ch.6 วันงงงง
"..งั้นก็นอนคอนโดพี่ดิ จะได้ไม่ต้องขับไปส่งหอ"
"ก็เหี้ยแล้วพี่!" พูดออกมาได้ยังไง ไม่กี่นาทีก่อนยังสอนน้องตัวเองไม่ให้ไปนอนห้องผู้ชายอยู่เลย แล้วนี่พูดอะไรออกมา บัดสบ! อีกอย่างฉันจะไปนอนห้องพี่มันทำซากอะไรวะคะ
"พี่ล้อเล่น ไม่ต้องเกรงใจ เดี่ยวพี่ไปส่งขิงเอง มะยมกับฟายไม่ต้องเป็นห่วง" พี่แฟรงค์ตอบฉันแล้วหันหน้าไปบอกมะยม
"โอเคค่ะงั้นยมกับฟายกลับกันก่อนนะ ปะฟาย"
"หะ เออๆ ไปกลับ ๆ " ฟายเก็บของขึ้นแล้วกำลังจะเดินออกไป แต่มะยมก็หันมาพูดกับพี่แฟรงค์ก่อน
"ยมว่าถ้านอนห้องพี่แฟรงค์เลยก็ได้นะคะ คิๆ" ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ายมมันพูดอะไรกับพี่แฟรงค์แต่พูดจบก็หัวเราะคิคิออกไป อ้าว สรุปฉันโดนเพื่อนเทจริงดิ ฮ่วย! อะไรกันครับเนี่ยย
-- Frank's talk --
น้องผมนี่มัน..ตัวแสบ หลังจากที่มะยมกับฟายเดินออกไปผมก็หันหน้ามาหาเด็กที่ทำหน้าเหวอมองเพื่อนตัวเองเดินออกไปจากร้านอยู่ ทำไมน้องมันทำหน้าอย่างนั้นวะ
"เอ้า เพื่อนไปแล้ว ทำงานต่อได้แล้ว"
"อะไรวะ กูอยู่ในสถานการณ์นี้ได้ไง" ผมเห็นน้องมันบ่นขมุบขมิบแต่ก็ได้ยินไม่ค่อยชัด
"บ่นไร ทำ"
"ค่าา กำลังจะทำตอนนี้เลยค่าา" หลังจากนั้นน้ำขิงก็เริ่มทำงานตัวเองต่อไป ผมก็คอยบอกส่วนที่ผมพอจะช่วยน้องมันได้ แต่เหมือนน้องมันจะเป็นคนความจำสั้นนะ ผมพูดประโยคเดิมมาสามรอบแล้วมึงช่วยจำใส่สมองทีเถอะขิงเอ้ย
"ก็บอกว่าอย่าใส่อย่างนั้น ให้เอาตัวนี้มาช่วย นี่รอบที่สี่แล้วนะจำหน่อยขิง"
"ก็มันชินอะ ปกติหนูก็ใส่แบบนี้ไง"
"ก็บอกไปแล้วว่าถ้าใส่แบบปกติมันไม่ balance ต้องให้อธิบายอีกกี่รอบหะ"
"โอ้ยยอย่าเพิ่งหงุดหงิด โอเค ๆ จะพยายาม" น้ำขิงพูดแล้วหันไปทำต่อ
"เข้าใจยากขนาดนี้ ผ่านมาได้ยังไงจนปี 4" ก็มะยมเคยบอกผมว่าน้ำขิงเรียนเก่งพอตัว แต่ถ้ามันพูดภาษาคนเข้าใจยากขนาดนี้มันเข้าใจอาจารย์สอนได้ยังไง มีพรสวรรค์งี้ กับคนนี้ผมว่าไม่ใช่
"ก็เพื่อนช่วยดันขึ้น นี่ถ้าไม่ได้รุจช่วยนะ โอ้โหห หนูน่าจะล้มลุกคลุกคลานมาหนักอะ" รุจหรอ เพื่อนของน้ำขิงที่ตอนนั้นไปกินข้าวด้วยแล้วทำตัวนิ่ง ๆ อะนะ อืมม
"รุจนี่เก่งขนาดนั้นเลย?"
"มหาเทพ"
"แล้วทำไมไม่ให้รุจช่วยงานนี้"
"ก็ยมมันติดต่อพี่ให้ก่อนไง อีกอย่างรุจมันช่วยหลายงานละเกรงใจมัน" น้องมันตอบผมแต่สายตายังจ้องโน้ตบุ๊คลากเม้าท์ทำงานต่อไปเรื่อย ๆ
"หึ"
"นี่เสร็จละห้องนี้ เป็นไงบ้างพี่" น้ำขิงพูดแล้วหันจอโน้ตบุ๊คมาให้ผมดู ก็เหมือนจะเรียบร้อยแต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ ต้องเก็บรายละเอียดอีกหน่อย
"ไม่เก็บรายละเอียด?"
"ก็เก็บแล้ว ..นิดหน่อย แหะ ๆ" หน้าอย่างนี้คงจะขี้เกียจเก็บชัวร์
"อย่ามาโกหกพี่ เอาไปทำให้เรียบร้อย"
"แค่นี้เอง" น้องมันทำหน้าเหมือนขัดใจแต่ก็ยอมหันโน้ตบุ๊คกลับไปทำอีกรอบ ฮ่าๆ ไอ้เด็กขี้เกียจเอ้ย
"พี่หิวละ เอาแค่นี้ก่อนแล้วเราค่อยส่งไฟล์มาให้พี่ดูดีกว่า"
"หะ?"
"เก็บของ ไปกินข้าวกัน ปะ"
น้ำขิงก็ยังคงเป็นน้ำขิงทำหน้าเอ๋อได้ตลอดเวลา ผมเห็นน้องมันไม่ยอมเก็บของสักทีเลยเก็บเองซะเลย แล้วเหมือนน้ำขิงจะเพิ่งรู้ตัวเลยช่วยผมเก็บแล้วออกจากร้านคาเฟ่ไป
-- NamKing's talk --
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนรถพี่แฟรงค์หลังจากเก็บของออกจากคาเฟ่มาแบบงง ๆ เออวันนี้เป็นวันงงแห่งชาติหรอหรืออะไร เหตุการณ์แต่ละอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก งงไปหมด
"อันนี้คือเรากำลังไปไหนกันพี่แฟรงค์" ฉันหันไปถามพี่แฟรงค์ที่ขับรถอยู่ คือล่าสุดพี่มันบอกว่าหิวข้าวใช่ไหมนะ แล้วคือฉันต้องไปกินข้าวกับพี่มันหรอ หรือยังไงวะ ก็ยังงงอยู่
"ไปกินข้าวไง"
"แล้วหนูต้องไปด้วย? "
"ใช่ พี่หิวเราก็หิว พี่รู้"
"ถามหนูสักคำ? " เออ ถามฉันสักคำหรือยังว่าหิว ถึงมันจะทุ่มกว่า ๆ ได้เวลากินข้าวแล้วก็เถอะ
"เอาน่า ถือซะว่าไปกินเป็นเพื่อนพี่ที่พี่อุตส่าห์ช่วยทำงานไง"
"ทวงบุญคุณชัด ๆ "
"ว่างั้นก็ได้"
จากนั้นพวกเราก็ขับรถมาถึงร้านอาหารร้านนึง ร้านอยู่ใกล้ ๆ กับคาเฟ่นั่นแหละ ร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ๊นญี่ปุ่นก็คือเดินมาแล้วรู้เลยว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น
"ขิงอยากกินไร สั่งเลยเต็มที่"
"พูดเหมือนจะเลี้ยง"
"แน่นอน มากับใครครับ"
"ว้าววว ขอบคุณค่ะป๋า" ฉันพูดล้อ ๆ พี่แฟรงค์ อารมณ์ดีแล้วเพราะมื้อนี้อิ่มจังตังค์อยู่ครบ หลังจากสั่งอาหารแบบหน้ามืดตามัวจนพนักงานเดินออกไป ฉันก็เห็นรุจเดินเข้ามาที่ร้านพอดี
"รุจ!"
"อ้าวขิง มากับใค.. อ่อพี่แฟรงค์ หวัดดีครับ" เหมือนรุจมันจะถามว่าฉันมากับใครแต่เห็นพี่แฟรงค์ก่อน
"สวัสดีครับ"
"มึงมากับใครอะ" ฉันถามมันแล้วพยายามมองหาคนที่จะเดินตามหลังมันมาแต่ไม่มี
"กูมากินข้าวกับเพื่อน นู้นอยู่ทางนู้น" มันตอบฉันแล้วชี้ให้ดูโซนโต๊ะเพื่อนมัน น่าจะเป็นเพื่อนอีกคณะของมันที่ฉันไม่รู้จัก
"อ่อ"
"แล้วนี่ทำไมมาด้วยกันได้วะ"
"กูไปทำงานกับพี่แฟรงค์มา"
"อ่อ โปรเจคจบอะนะ"
"เยส นี่ก็ได้ไปแล้ว 20% ฮ่าๆ "
"วันหลังให้กูช่วยก็ได้ เรื่องนี้กูก็น่าจะพอทำได้อยู่"
"แต่พี่ว่าให้พี่ช่วยดีกว่า พี่ถนัดกว่า" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไรรุจมันกลับ พี่แฟรงค์ก็พูดขึ้นมาก่อน
"ผมเกรงใจพี่หนิครับ อีกอย่างผมก็ช่วยขิงมาตั้งนาน"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ พี่ไม่ถือ" ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าบทสนทนานี้มันทำให้บรรยากาศเริ่มมาคุได้ยังไง เอ่อ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างใช่ไหม
"ใช่มึงใช่ ไม่ต้องเกรงใจ กูยังไม่เกรงใจเลย ฮ่า ๆ"
"..."
"..." เงียบ เงียบกันทำไม ฉันพูดอะไรผิดวะ อย่าเงียบสิโว้ยยย
"เพื่อนกูเรียกล่ะ กูไปก่อนละเจอกัน" รุจพูดจบก็เดินไปหาเพื่อนเลย เห้อ ฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ โล่งอกก็ว่าได้
"เหมือนเพื่อนขิงคนนี้จะห่วงขิงมากเลยนะ"
"คะ?" ฉันมองหน้าพี่แฟรงค์งง ๆ ก็ปกติไหมวะเพื่อนกันก็ห่วงกันดิ
"เปล่าหรอก ไม่มีอะไร" พี่แฟรงค์พูดแล้วยิ้มให้ฉัน อ้าวงง เนี่ยกูงงอีกแล้ว
จากนั้นไม่นานพนักงานก็มาเสิร์ฟอาหาร ฉันขอเตือนนะทุกคนอย่าสั่งอาหารเพียงเพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนจ่ายตังค์ กินสองคนสั่งมาอย่างกับกินสิบคน
"ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ แหะๆ " ฉันหันไปยิ้มแห้งให้พี่แฟรงค์ ขอโทษได้ไหมที่สั่งมาไม่คิดถึงเงินในกระเป๋าตังค์พี่
"กินไปเถอะ แค่นี้เอง"
"ป๋าเหลือเกิน เงินเดือนเยอะขนาดนั้นเลย? " อันนี้คือถามกวนตีนเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการคำตอบหรอก เพราะยังไงพี่มันก็ทำงานแล้วเอาเงินมาเลี้ยงน้องเลี้ยงนุ้งแค่นี้ไม่เป็นไรมั้ง อิอิ
"พูดมาก กินเข้าไปเยอะ ๆ " พี่แฟรงค์พูดแล้วยัดเนื้อแซลมอนเข้ามาในปากฉัน แล้วมันไม่ใช่ชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นเท่าบ้าน โห้ ยัดมาได้
"ไอ้พี่แฟรงค์! คนกำลังจะกิน ยัดเข้ามาได้ถ้าติดคอหนูตายทำไง"
"ก็ยังไม่ตาย กินได้แล้วมัวแต่พูด"
จิ๊ ไม่ขอโทษอีก เออเห็นว่าเลี้ยงนะไม่งั้นกระโดษถีบขาคู่ไปแล้ว แต่อาหารร้านนี้อร่อยมากเลยอะ ฉันเป็นคนที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้วแต่ร้านนี้ให้อยู่อันดับต้น ๆ เลยในลิสต์ร้านอร่อยที่ต้องกินก่อนตาย เวอร์ไหมเออเวอร์ นั่งกินไปเรื่อย ๆ พี่แฟรงค์ก็พูดกวนตีนฉันไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้อิ่มกันแล้ว และจังหวะที่พี่แฟรงค์เรียกพนักงานมาเพื่อเก็บตังค์อยู่ ๆ ไลน์ฉันก็เด้ง มะยมมึงไม่ได้จะไปนอนห้องผัวอีกใช่ไหม..
-Line-
Ruj : มึงจะกลับยังไง
ไม่ใช่มะยมแฮะ แต่เป็นรุจ แล้วกลับยังไงนี่หมายถึงฉันจะกลับหอยังไงหรอ ใช่แหละ มึงก็มีที่ให้กลับแค่ที่หอปะวะขิง
Nam-King : พี่แฟรงค์ไปส่งไง ทำไม
Ruj : เดี่ยวกูไปส่ง
Nam-King : เห้ย ไม่เป็นไร มึงมากับเพื่อนก็อยู่กับเพื่อนดิ
Ruj : พวกกูอิ่มแล้ว เนี่ยกำลังกลับ
อือ เอาไงดีนะ หอรุจมันก็เป็นทางผ่านก่อนไปถึงหอฉันอะ ถ้าฉันไปกับรุจมันก็ต้องวนรถกลับมาหอตัวเองอีก แต่ไปกับรุจมันก็ไม่ต้องเกรงใจพี่แฟรงค์ให้ไปส่ง แต่ฉันมากับพี่แฟรงค์ไงก็ต้องกลับกับพี่แฟรงค์ปะวะ โอ้ยเลือกไม่ได้
"เป็นไรขิง ทำหน้าซีเรียสจัง" พี่แฟรงค์น่าจะเห็นฉันทำหน้าเครียด ก็เลยถามขึ้น
"คอนโดพี่แฟรงค์อยู่ไกลหอขิงปะ" ใช่ ถ้าคอนโดพี่แฟรงค์ห่างกันคนละโยชน์ฉันจะได้กลับกับรุจไง
"ก็อยู่แถวนี้แหละ"
"เชี่ย งั้นก็ห่างกันคนละโยชน์เลยดิ" แถวนี้กับหอฉันมันไกลกันอยู่นะ ขับรถก็ตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง
"งั้นนอนคอนโดพี่ดิ"
"ตลกไหม เดี่ยวหนูกลับกับรุจแล้วกันหอใกล้กันพอดี"
"รุจ? "
"ใช่ มันกินเสร็จพอดี อีกอย่างหอใกล้ ๆ กันเดี่ยวหนูกลับกับมัน"
"ขิง กลับเลยไหม" พูดยังไม่ทันขาดคำ รุจก็เดินเข้ามาหาฉันที่โต๊ะพอดี
"ตามนั่นนะพี่ แล้วเดี่ยวงานคืนนี้หนูส่งให้ดูอีกที และก็ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ"
ฉันขอบคุณพี่แฟรงค์แล้วเดินออกมาจากร้านเลย ไม่ใช่อะไรนะถ้าอยู่ต่อนานกว่านี้ฉันกลัวจะมีบรรยากาศไม่ดีมาอีกรอบ เลี่ยงดีกว่า
-- Frank's talk --
อะไรของน้ำขิงวะ ตอนมาก็มาด้วยกันแล้วนี่พอจะไปก็บอกว่าแค่ตามนั้น ตามนั้นเหี้ยไร แล้วไปกับใครไม่ไปไปกับไอ้เพื่อนรุจของน้องมันอีก ทำไมผมจะมองไม่ออกว่าไอ้รุจอะไรนั้นชอบน้ำขิง แล้วยังไงวะผมก็.. เออ ผมก็อะไรวะ ไม่รู้แม่งแค่ไม่ชอบอารมณ์ตอนนี้มาก x!
-Line-
Qew : มึงแดกเบียร์
ไลน์ผมเด้งขึ้นมาพอดี เหอะ ไอ้คิวชวนกินเบียร์ นึกว่าจะเป็น.. ช่างมันเถอะ
Frank : ที่
Qew : ร้านจารย์ทพ
Frank : เดี่ยวไป
เออ ไหน ๆ ก็หงุดหงิดหาที่ลงไม่ได้ ก็ไปกินเบียร์ให้มันหายแล้วกัน
20 นาทีต่อมา
"เชี่ย ไอ้แฟรงค์มาเว้ย"
ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาที่โต๊ะเสียงไอ้วินก็ดังขึ้น มันเป็นเพื่อนตั้งแต่เรียนมหาลัยด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ ตัวสังสรรค์เลยล่ะไอ้นี่
"กูก็ตกใจตั้งแต่ไลน์ชวนแม่งแหละ ดีลง่ายชิป"
ส่วนนี่ไอ้คิว คบกันมาตั้งแต่มหาลัยเหมือนกัน เดือนคณะรุ่นผมเลยนะตัวนี้
"สัส พูดมาก"
"ก็ตกใจหนิครับ ปกติมึงมาง่ายซะที่ไหน" ตามที่ไอ้วินบอกเลยครับ ปกติผมไม่ค่อยออกมากินเบียร์กับพวกนี้หรอก นาน ๆ ทีถ้าไม่เครียดจริง ๆ ก็ไม่ออกมา
"หรือมึงเป็นไร" ไอ้คิวถามผม จะให้ตอบยังไงวะ
"กูก็ไม่รู้เหมือนกันกูเป็นไร"
"เรื่องหญิงชัวร์" ไอ้วินพูดขึ้น "มึงมีหญิงไม่บอกเพื่อนหรอวะ"
"ไอ้สัส ไม่ใช่"
"อะไรไม่ใช่ มึงเป็นไรก็คุยกับพวกกู" คิวแม่งเป็นแบบนี้ตลอดเลย เวลาผมมีปัญหาอะไรมันมองผมออกตลอด ทรูเฟรนด์มากกูซึ้ง
"กูแค่หงุดหงิด"
"หงุดหงิด?"
"เออ แบบมึงทำดีด้วยกันมาตลอด..ไม่ตลอดหรอกแต่เป็นส่วนใหญ่ แล้วแม่งพอมีคนเข้ามาน้องเขาก็ไปกับคนคนนั้นเลย กูแม่งไม่เข้าใจชิปหาย"
"มึงหวง?"
"หวงเหี้ยไร กูแค่หงุดหงิด"
"ไอ้สัส กูอยากจะเตะมึงจริง ๆ " วินพูดเบา ๆ พอให้ได้ยินแค่ตัวเองกับคิว
"แล้วมึงจะหงุดหงิดทำไม มึงชอบน้องเขารึไง"
"กูไม่.. ไม่รู้วะ" ผมตอบคำถามไอ้คิวไม่ได้ แม่งคำถามนี้ผมถามตัวเองแล้วเหมือนกันแต่ก็ยังตอบไม่ได้สักที แม่งเอ้ย!
"แล้วมึงรู้สึกยังไงเวลาอยู่กับน้องเขา" คำถามนี้ไอ้วินเป็นคนถาม
"ก็ดี ตลกดี สบายใจมาก ๆ ด้วย" ผมคิดถึงความรู้สึกเวลาที่ได้อยู่กับน้ำขิง ผมรู้สึกว่าเวลาผมอยู่กับน้ำขิงผมสบายใจมากเลยนะ มันเป็นตัวของตัวเองดี แล้วน้องมันก็เป็นคนน่าแกล้งด้วยผมเลยแกล้งตั้งแต่วันแรกไง
"มึงยิ้ม"
"น่าจะมีความสุขมาก ๆ " นี่ผมยิ้มอยู่หรอ
"ทำตัวเป็นเด็กมัธยมหัดมีความรักไปได้" ไอ้วินพูด
"กู? จริงหรอวะ"
"เออ / เออ" ทั้งไอ้วินกับไอ้คิวประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน แต่ผมก็ไม่ตกใจเท่าข้อสรุปที่เพื่อนผมบอกมา ผมเนี่ยนะชอบน้ำขิง เด็กแบบนั่นเนี่ยนะที่ผมจะชอบ
"กูไม่รู้นะว่าทำไมมึงไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง แต่มึงลองมองมุมข้างนอกดู ชัดเจนเลยเพื่อน" คิวพูด
"..."
"อีกอย่างมึงจะมาหงุดหงิดไม่ได้ มึงไม่ได้เป็นอะไรกับน้อง น้องมีสิทธิ์ที่จะไปกับใครก็ได้"
"..."
"ถ้าอยากหงุดหงิดก็หาสถานะก่อนไหมครับเพื่อนแฟรงค์"
เชี่ย ทำไมคำพูดไอ้คิวมันถึงทำให้ใจผมกระตุกขนาดนี้วะ ผมหงุดหงิดไม่ได้หรอ เหตุการณ์แบบนี้หงุดหงิดไม่ได้จริง ๆ หรอวะ แล้วแม่งผมชอบน้ำขิงหรอวะ ชอบจริง ๆ หรอวะ แม่งเอ้ย ไม่คิดแล้ว แดกเบียร์!
*************************************************************************************************************************************************
คำเตือน
1.สรุาเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมได้
2.คำหยาบมีเยอะหน่อยเพื่ออรรถรสทั้งนั้น ใช้วิจารณญาณนะฮะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
