ตอนที่ 6 : น่ารักแปลว่าอุ๋ง
5
น่ารักแปลว่าอุ๋ง
“โห...”
“อะไรวะอุ๋ง”
แทนทะเลที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามองเมื่อเห็นอุ๋งกระแทกโทรศัพท์คว่ำหน้าลงบนโต๊ะอย่างแรง แถมยังแค่นหัวเราะออกเสียง หัวเราะด้วยความไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าโลกแม่งใจร้าย หรือคือเมษากันแน่ที่ใจร้าย
คิดถึงอะไรวะเมษา คิดถึงอะไรเหรอถามจริง
คิดถึงคนโง่ๆ ที่ปล่อยเธอไปรึไง
อะไรวะ ต้องการอะไรอะ...
“มึงดูเพื่อนซ้อมให้แป๊บนึงดิ เดี๋ยวมา”
รวบกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์เอาไว้ในมือแล้วลุกออกจากใต้ถุนคณะ เดินหลบหลีกผู้คนไปยังแถวหลังอาคาร หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจออีกครั้ง ไม่อยากยอมรับว่าหัวใจเต้นแรงจนเจ็บอกไปหมด ทั้งที่สมองบอกว่าไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องไปตอบคนใจร้ายแบบนั้นอีก
Seal : เหมือนกัน
แต่คิดถึงว่ะ...คิดถึงเหมือนกัน
สมองบอกว่าไม่เห็นต้องเอาเรื่องพวกนี้มาคิดให้รก แต่ใจกลับไม่สามารถหยุดคิดถึงเมษาได้สักวินาที ถ้าให้สารภาพตรงๆ ไม่ว่าที่ไหนในมหาลัยนี้ มันก็ล้วนแต่มีความทรงจำของเขากับเมษาอยู่เต็มไปหมด
โต๊ะม้าหินที่เคยนั่งด้วยกัน ใต้ตึกเรียนที่เมษาเคยมารอเขาเรียน รถมอเตอร์ไซค์ที่เธอเคยซ้อนเวลากำลังจะไปเรียนสาย
...กลับมาเลือกเราได้ไหม
สัญญาจะทำอะไรให้ดีกว่านี้
คำพูดพวกนั้นถูกพิมพ์แล้วลบรอบแล้วรอบเล่า สุดท้ายที่ส่งไปก็มีเพียงข้อความสั้นๆ ว่าเหมือนกันก็เท่านั้น อุ๋งไม่ชอบตัวเองเลยที่อ่อนแอแบบนี้ ไม่ชอบที่เสียการควบคุมไปหมด ไม่ชอบกลิ่นนิโคตินที่เขากำลังอัดมันเข้าปอดหนักๆ ด้วย
ทำไมคนเราถึงเครียดแล้วต้องสูบบุหรี่วะ เขาเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย
มองควันสีเทาที่ลอยอ้อยอิ่งออกจากริมฝีปากและจมูกแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าความรู้สึกของเขาก็ไม่ต่างอะไรจากควันบุหรี่ ทั้งโกรธ ทั้งเหงา ทั้งเศร้า ทั้งคิดถึง ปะปนจนแยกไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร
รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รักแล้ว
แต่พอเขาทักมาก็ดีใจจนแทบบ้า
ลึกๆ ก็ภาวนาให้เขากลับมา...
“เดี๋ยวก็หัวแตก”
อุ๋งชะงักความคิดที่จะเอาหัวโขกกับกำแพงอาคารเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆ ดังมา ซึ่งเสียงกวนประสาทเก่งแบบนี้ก็มีคนเดียว ดวงตาหรี่ไปมองดีใจที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มือเรียวโยนบุหรี่ลงพื้นแล้วขยี้ด้วยปลายเท้าดับลง
ไม่ใช่เพราะกลัวจะโดนด่า
แต่เพราะดีใจแพ้กลิ่นบุหรี่
ไม่ได้ห่วงเท่าไหร่ แค่ไม่อยากเป็นคนต้องพามันไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็เท่านั้น
“ยุ่ง”
ตอบพร้อมกับหันไปมองทางอื่น ลังเลว่าจะเดินหนีไปดีไหม แต่ทำไมต้องไปในเมื่อเขาเป็นฝ่ายมาก่อนวะ คือมันเป็นคนเสนอหน้ามาอะ มันควรเป็นคนไปดิ
“เป็นไร”
“ยุ่ง”
ตอบซ้ำอีกครั้งเมื่อดีใจดึงแขนของเขาเบาๆ แล้วมองด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน
จะอยากรู้ทำไมวะ รู้ว่าเขายังรักเมษาอยู่แล้วจะรู้สึกดีรึไง
ไม่เข้าใจเหรอวะว่าทำไมถึงไม่อยากพูด
“เออยุ่ง ก็จะยุ่งเรื่องคนที่ชอบ มึงจะทำไม”
“...”
“ด่ามาเลย กูหน้าด้าน”
เนี่ย ดีใจก็เป็นซะแบบนี้
30%
อุ๋งเม้มปากแน่นเมื่อไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง ไม่เข้าใจที่บางครั้งดีใจก็พูดเหมือนชอบเขามากๆ ทั้งที่เขามองไม่ออกด้วยซ้ำว่าการกระทำไหนของดีใจที่มันแสดงออกว่าชอบ
และไม่เข้าใจตัวเองเลย ว่าทำไมถึงต้องใจหวิวไปกับคำพูดของมันด้วย
“ไหนบอกจะทำตัวเหมือนเดิมไง”
อุ๋งโพล่งออกไปด้วยความอึดอัดใจ ยอมรับตรงๆ เลยว่าอึดอัดใจกับความรู้สึกแบบนี้ เขายังเจ็บร้าวเพราะเมษาแบบเจ็บเหมือนจะตาย แล้วยังต้องมาคิดเรื่องของดีใจไปพร้อมกันอีก
คือไม่ตลกด้วยนะ มันลำบากใจว่ะ
แค่เรื่องเมษาอุ๋งก็รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะตื่นมาคิดอะไรทั้งนั้น อยากนอนโง่ๆ ทั้งวันปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อย่างไร้ค่า แต่ก็ต้องมาคิดถึงดีใจไปด้วย เขาไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปมั้ย แต่อุ๋งก็พยายามที่จะไม่แสดงออกว่าตัวเองเสียใจเรื่องเมษาเพราะรู้ว่าดีใจรู้สึกกับเขายังไง ทั้งที่จริงๆ มันอาจจะไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ
แต่เขาก็แคร์ดีใจ แคร์ความรู้สึกของดีใจมากๆ
“ทำไม่ได้ว่ะ”
“...”
ดีใจเองไม่ใช่ไม่รู้ความรู้สึกของอุ๋ง เขาเองก็พยายามมากเหมือนกันที่จะประคับประคองสถานะเพื่อนที่อีกคนมอบให้ทั้งที่ไม่เคยอยากเป็นมาก่อน พยายามที่จะไม่เอาแต่ใจกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้
แต่เขาก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองรู้สึกไปมาก มากกว่าที่ตัวเองคิด
“พอได้บอกไปครั้งหนึ่ง มันก็อยากบอกอีกเรื่อยๆ”
“...”
“ว่ากูชอบมึง”
“แต่กูยังรักเมษาอยู่เลย”
ถึงปากของดีใจจะเคยบอกว่าไม่แคร์หรอกว่าอุ๋งจะรักใคร มันแค่อยากบอกให้เขารับรู้ ไม่ได้บอกให้รับรัก แต่วินาทีที่ดีใจได้ยินคำว่าอุ๋งรักคนอื่นอยู่ ดวงตาเรียวนั้นก็ฉายแววเจ็บแปลบขึ้นมาวูบหนึ่ง
“...”
“แล้วมึงชอบกู มึงจะให้กูพูดได้ยังไงวะ”
ทำไมอุ๋งจะไม่รู้ ในเมื่อตอนนี้อุ๋งก็เป็นอยู่
ตอนที่เมษาบอกว่ารักคนอื่น อุ๋งเองก็เจ็บเหมือนกัน
เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่งที่อุ๋งพูดแบบนั้นออกไป ถึงเขาจะดูโง่ๆ ไม่รู้ห่าเหวอะไร แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าการพูดถึงคนอื่นต่อหน้าคนที่ชอบเรามันเป็นการกระทำที่ส้นตีนขนาดไหน แล้วกับเพื่อนรักที่เขาห่วงความรู้สึกยิ่งกว่าอะไร จะให้ทำลงไปได้ยังไงวะ
ดีใจมองหน้าอุ๋งนิ่ง เดาะลิ้นสองสามครั้งแล้ววางมือลงบนหัวอุ๋ง
“ห่วงตัวเองไปก่อน”
“...”
“ไม่ต้องห่วงกู”
รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าหมายักษ์ น้ำหนักมือที่ลูบผมของเขาก็เหมือนทำให้ความอึดอัดบางอย่างที่ซุกซ่อนไว้ก่อตัวขึ้นมา
“...”
“กูก็ยังเป็นกูคนเดิม คนที่มึงไว้ใจ คนที่อยากแชร์ทุกความเสียใจจากมึง”
คล้ายจะเป็นรอยน้ำตาที่ปรากฏบนแก้ม
อุ๋งไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็ก ถึงเขาจะสูงน้อยกว่าดีใจเยอะพอสมควร แต่เขาก็สูงในมาตรฐานของชายไทยตามปกติ ไม่เคยต้องให้ใครมาคอยปกป้อง เขามักจะปกป้องตัวเองได้ และทำหน้าที่คอยดูแลคนอื่นอยู่เสมอ
แต่ตอนที่ดีใจดึงเขาไปกอดเอาไว้ เขากลับรู้สึกว่าเขาตัวเล็กเหลือเกิน
เล็กพอที่ดีใจจะกอดเขาให้จมอกได้ เล็กพอที่จะซบหน้าลงบนไหล่กว้างระบายความอึดอัดใจ ปล่อยให้มือหนาลูบผมเบาๆ แล้วกระชับกอดให้แน่นขึ้น
ดีใจแม่ง...เป็นอย่างนี้ทุกที
60%
“สมน้ำหน้า”
“เพราะมึงนั่นแหละ”
“เสือกเองป่ะ ถามจีง”
อุ๋งเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนประสาท พร้อมกับยื่นยาแก้แพ้และแก้วน้ำเปล่าให้ดีใจที่นั่งซึมอยู่ตรงโซฟาหน้าโทรทัศน์ หลังจากที่มันปล่อยให้เขาร้องไห้ฟูมฟายอยู่พักหนึ่ง พี่ดาวเดือนก็โทรมาตามอีกรอบเพราะมันโดดลงมา (อ้างว่าเข้าห้องน้ำแต่หายไปเป็นชาติเหมือนตกส้วมตาย) เขาเองก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
และเมษา หลังจากที่เขาตอบแบบนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ตอบอะไรกลับมาอีก
เหมือนมาทดลองว่าจะสามารถทำร้ายหัวใจกันได้อยู่ไหม แล้วก็จากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนดีใจก็เพราะกอดคนที่มีแต่กลิ่นบุหรี่ สุดท้ายก็ภูมิแพ้ขึ้น นั่งซึมสูดน้ำมูกจนปวดหัว
“ซ่าเชียวนะมึง ทีเมื่อกี้นี่ร้องไห้เป็นตุ๊ดเลย”
กระแนะกระแหนอุ๋งนิดหน่อยพอเป็นมารยาทก่อนรับยากับน้ำมาดื่มอย่างว่าง่าย วางแก้วน้ำที่ดื่มเสร็จแล้วไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา ดีใจไม่ใช่อุ๋งที่มีปัญหาเรื่องกินยายาก ชอบงอแงอิดออดไม่ยอมกิน ทำตัวเป็นเด็กๆ อยู่นั่น
“บางทีกูก็สงสัยนะ นี่มึงชอบกูจริงปะเนี่ย”
อุ๋งขมวดคิ้วพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ดีใจที่นั่งกอดหมอนเปลี่ยนรายการเน็ตฟลิกซ์ไปเรื่อย หลังจากน้ำตาแตกใส่มันไปหลายต่อหลายรอบ เขาก็รู้แล้วว่าเขาไม่สามารถมีฟอร์มห่าเหวอะไรกับดีใจได้อีก
หมดแล้วภาพลง ภาพลักษณ์ ไม่เหลืออะไรทั้งนั้น
“มีอะไรไม่จริงตรงไหนอะ”
ดีใจเหลือบมามองอุ๋งด้วยหางตา หลังจากที่ร้องไห้ไปยก สถานการณ์ที่ดูเจื่อนๆ ระหว่างเราก็ดูเข้าที่เข้าทางกันมากขึ้น
คล้ายจะเหมือนเดิม...แต่ก็ไม่ทั้งหมด
“ดูมึงด่ากูทุกห้านาทีดิ”
“เอ้า ชอบก็ส่วนชอบปะวะ นิสัยน่าด่านี่ก็ต้องด่าปะวะ”
“...”
อุ๋งเม้มปากเมื่อถูกคำว่านิสัยหน้าด่าปาใส่หน้าอย่างจัง เออใช่สิ เขามันนิสัยไม่ดี ทำตัวน่าด่าตลอด
ดวงตากลมถลึงเตรียมจะตอกกลับว่าแล้วไม่ใช่มันเหรอที่มาชอบคนนิสัยน่าด่า หากแต่ดีใจกลับกระเถิบตัวเข้ามาใกล้ก่อนจะยิ้มนิดๆ คล้ายจะปิดความเอ็นดูไว้ไม่มิด
“แต่ด่าแล้วไม่ได้แปลว่าไม่ชอบนี่หว่า ก็ชอบอยู่ดี”
“...”
“จะเป็นยังไง ดีกว่านี้ เหี้ยกว่านี้ ก็มึงทั้งนั้นอยู่ดี”
สัส...เขินเฉย เขินที่มันด่าว่าเหี้ยเหรอวะ
อุ๋งอึกอักเมื่อดีใจพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ พร้อมกับดวงตาเรียวที่หันมามองเขาแล้วยกยิ้มมุมปากตามฉบับของเจ้าตัว แต่เพราะไม่อยากเสียฟอร์ม ขึ้นชื่อว่าอุ๋งอุ๋ง เสือแห่งแดนนิเทศ จะมาตายเพราะรอยยิ้มโง่ๆ เหมือนหมาแบบนี้ได้ยังไง
“นี่มึงชอบกูมากเลยนะเนี่ย”
“อือ โคตรชอบ”
เค ยอมแพ้
“...”
ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ประโยคที่ตัวเองเคยเอาไปใช้จีบคนนั้นคนนี้จะโดนตีกลับเข้าตัว เข้าใจแล้วว่าทำไมสาวๆ ถึงได้ชอบเม้มปากนักเวลาโดนเต๊าะแบบนี้
เพราะจริงๆ คือไม่ได้ชอบทำหรอก แค่ทำอะไรไม่ถูกเลยต่างหาก...
“อ้าวหน้าแดง เขินเหรอ”
“ร้อนมั้งสัส แอร์เปิดยี่สิบองศา”
“อะเกรี้ยวกราด”
“กวนตีนกูเหรอ”
อุ๋งกำมือต่อยไหล่ดีใจแรงๆ สองสามทีจนอีกฝ่ายร้องโอดโอย หากแต่ดวงตาเรียวบนใบหน้าตี๋กลับฉีกยิ้มแทนริมฝีปากราวกับมีความสุขเสียเต็มประดา
จะไม่ให้มีความสุขได้ไง ได้เห็นหน้าใสๆ ของคนที่ชอบขึ้นสีแดงก่ำแถมทำหน้าตาน่ามันเขี้ยวเพราะตัวเองขนาดนี้
ไม่คว้ามาฟัดจนจมอกก็บุญหัวแค่ไหนแล้ว บอกเลย
“น่ารักนะเราอะ”
“น่ารักพ่อง”
“ไม่ พ่อกูไม่น่ารัก มึงอะแหละน่ารัก”
ดีใจแกล้งรวบข้อมือของอุ๋งมาจับเอาไว้แล้วกระชากเข้ามาหาตัวจนตัวโปร่งบางปลิวถลามาใกล้ เขาน่ะ ไม่เคยใช้ความรุนแรงกับอุ๋งสักครั้ง ปกติก็ปล่อยให้มันทุบตีตามใจชอบ
“อ...อะไร”
“ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้นะอุ๋ง”
พูดพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเกลี่ยหลังมืออีกฝ่ายเบาๆ ใช้ดวงตาคมสบเข้ากับดวงตาใสๆ ที่ตัวเองหลงรัก
“...”
ไม่รู้หรอกว่าที่ทำอยู่อะมั่นหน้าเกินไปรึเปล่า มันก็เพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าไม่คิดอะไร แต่การเขินสักนิดสักหน่อยก็แปลว่าต้องรู้สึกดีกันบ้างใช่ไหม
แค่สักนิดก็ยังดี
“ลองมารู้จักกูที่ชอบมึงดู”
“...”
“ว่ากูอะ น่าให้รักกว่าที่มึงรู้”
เกิดความเงียบขึ้นอึดใจหนึ่ง อุ๋งไม่ได้ดึงมือออกจากดีใจ และไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้กว่าที่เป็น แต่แค่นั้นดีใจก็หัวใจพองโต เพราะถือว่าอย่างน้อย เขาก็ยังได้รับโอกาส
รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอุ๋งเมื่อสบตากับดีใจแล้วเห็นแววตาลุ้นๆ ของอีกคน ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถมีอิทธิพลกับคนตรงหน้าได้ถึงขนาดนี้
“ขายเก่ง”
“แล้วได้ผลมั้ย”
“...ไม่รู้”
อุ๋งตอบอ้อมแอ้มด้วยความรู้สึกผิด เขาไม่สามารถตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่ากำลังรู้สึกยังไง
“ก็ยังดีกว่าไม่ได้” ดีใจว่าเรียบๆ
“...”
แต่ก็อย่างที่บอก ไม่รู้ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
“เอาเถอะ ยังไม่ต้องรีบรู้หรอก”
“...”
“รู้แค่ว่ามีคนรู้สึกดีกับมึงมากๆ คนหนึ่งตรงนี้ก็พอ”
เรื่องของเรื่องคือดีใจพยายามแล้วที่จะทำตัวเหมือนเดิม
แต่ทำไม่ได้ว่ะ เพราะชอบมันฉิบหายเลย
100%
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พิใจ๋ ใจนายได้ว่ะ เราชอบ
หวานนนนนนนนนนนนนนน
โอยยยย ดีใจพี่เชียร์นุ รุกเข้าไปลูก รุกคืบเข้าไป๊!
สงสารดีใจ ????????
ดีใจ สู้ๆนะ
ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
อุ๋งคงไม่ใจอ่อนหรอกใ่ช่มั้ย สงสารใจ๋
อย่ากลับมานะเมษา ใจ๋สู้ๆสิ
ส่่่่่่่่่งมาทำไม คนใหม่เค้าจะรักกันเเล้วค่ะ
กกำลังฟิน...เห้อ
จะทำ Ebook ไหมคะ หรือมีแต่รูปเล่ม?
เจิมนร้าาาาา
เจิมนร้าาาาา