I am (ฉันเอง) - I am (ฉันเอง) นิยาย I am (ฉันเอง) : Dek-D.com - Writer

I am (ฉันเอง)

เรื่องนี้เอามาให้อ่านเล่นๆ ค่ะ ประมาณว่าเอาเรื่องจริงมาเขียนเล่นๆ อิอิ เรื่องราวของเด็กซนคนหนึ่งค่า ^_^ ต้องติดตามกันเอง

ผู้เข้าชมรวม

220

ผู้เข้าชมเดือนนี้

1

ผู้เข้าชมรวม


220

ความคิดเห็น


6

คนติดตาม


0
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  19 ก.ค. 48 / 00:07 น.


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อไหร่กันนะที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอ่อนแออีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยเข้มแข็งได้ขนาดนั้น นั่นสิ ฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นนี่นา ย่อมรู้สึกร้อน หนาว หรือแม้แต่ความเจ็บปวด

                        เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เติบโตมาท่ามกลางความขัดแย้งในจิตใจ นั่นล่ะ คือฉัน ผู้ที่จนถึงขณะนี้ยังคงสับสนกับบุคลิกของตัวเอง นิล  เพื่อนๆ เรียกฉันอย่างนั้น

    \"นิลโว้ย ไปเล่นน้ำคลองกันมั๊ย\" เสียงของโตน เพื่อนชายในกลุ่มตะโกนเรียกจากหน้าบ้าน
    \" ไปสิ รอเดี๋ยวนะ บอกแม่ก่อน\" ฉันตอบด้วยเสียงตะโกนที่ดังไม่แพ้กัน

    \"แม่ นิล ไปเล่นน้ำคลองกับพวกไอ้โตนนะ\" ฉันบอกแม่
    \" ไปเที่ยวเล่นอีกแล้ว การงานไม่ยอมจับเลยนะแก\"
    \"นิลทำงานเสร็จหมดแล้วนะ บ้านก็กวาดแล้ว จานชามก็ล้างเรียบร้อย ข้าวก็หุงแล้ว กับข้าวก็อยู่ในตู้\"
    \" เออ จะไปไหนก็ไป อย่ากลับค่ำนักล่ะ วันๆ เอาแต่เล่นกับเด็กผู้ชาย อย่าลืมนะว่าแกเป็นผู้หญิง อย่าไปสุงสิงกับไอ้พวกนั้นให้มาก\"

    \"ครับ\" ฉันรับคำแม่ด้วยคำสั้นๆ
    \" เออ เอาเข้าไป ทำไมไม่พูดค่ะ หรือ จ๊ะ ล่ะ พูดครับยังกับเด็กผู้ชาย\"
    ไม่อยากได้ยินเสียงบ่นของแม่ ฉันจึงวิ่งฉิวออกจากบ้าบ ไอ้โตนยืนรออยู่กับพวกเพื่อนๆในกลุ่ม
    \" ไปโว้ย ไอ้โตน ไอ้กาบ บ่าว รอน เอ้า ไอ้ ตึ๋ง ยังยืนทำสวรรค์วิมานอะไรอีกวะ แม่เราออกมาก็บ่นจนหูชาอีกหรอก\"

                                                  *******************

    นั่นคือภาพวันวานที่ผ่านมานานแสนนาน ตั้งแต่รู้เดียงสา ฉันรู้จักกับพวกไอ้โตน เล่นกับพวกมันมาตลอดท่ามกลางชนบทที่น่าอยู่ ไม่ว่าจะไปเล่นซนที่ไหน ฉันก็พ่วงตามไปเป็นผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม แต่พวกมันไม่เคยบ่นว่าถึงเรื่องความแตกต่างนี้ และฉันเองก็ไม่เคยนำมันมาเป็นข้ออ้างเวลาเราเล่นกัน พวกมันเล่นบอล ฉันก็เล่น พวกมันปีนต้นไม้ ฉันก็ปีน มิตรภาพของพวกเราตอนนั้นมันทำให้ฉันคิดว่าโลกนี้ช่างสวยงาม ฉันมีความสุขมาก อยากให้เป็นอย่างนี้ไปตลอด
                                                
                                                   *********************

    แต่แล้ว ฉันต้องผิดหวัง เมื่อตอนที่ฉันเรียนประถมปีที่ 5 แม่พาฉันออกมาจากที่นั่น ไปสู่บ้านใหม่ในเมือง ฉันต้องย้ายโรงเรียน ฉันต้องจากกับพวกเพื่อนๆ ฉันเสียใจยิ่งนัก

                  เริ่มต้นชีวิตในเมือง อะไรๆ ก็แปลกตายิ่งนักสำหรับฉัน

       ไม่มีทุ่งนากว้างให้วิ่งเล่น ไม่มีต้นไม้ให้ปีน ไม่มีคลองให้ไปกระโดด ชีวิตฉันเปลี่ยนแปลงไปมาก
    ฉันโดนบังคับให้พูด \"ค่ะ\" ทำตัวให้เรียบร้อย ไม่กระโดกกระเดก  ฉันเบื่อ

    คิดอยากจะไปเล่นกับเพื่อนๆ

    \" เฮ้ย! นนท์ เราขอเตะบอลด้วยคนสิ\"
    \" ไม่เอาหรอก เธอเป็นผู้หญิงนะนิล มาเตะบอลกับพวกเราได้ไง ไปเล่นกับผู้หญิงเถอะ\"

    \"ทำไมวะ เป็นผู้หญิงแล้วไง ฉันเตะบอลเป็นน่า\"
    \" นิลพูดจาไม่สุภาพ ฉันจะฟ้องครูนะ แล้วเธอใส่กระโปรงจะเตะบอลได้ไงล่ะ\" พูดเสร็จก็เดินหนีไปเฉยๆ
    \" ทีโรงเรียนเก่ายังใส่กระโปรงเล่นได้เลย งกนี่หว่า ไม่เล่นก็ได้วะ\"

    \"นิล ไปเล่นกระโดดยางกันมั๊ย\" กิ่ง เพื่อนผู้หญิงที่ห้องเข้ามาถาม
    \" ไม่ล่ะ เราไม่ชอบ\" แล้วเดินออกไปเฉย
    ฉันเหงาฉันเบื่อ อยากกลับไปอยู่ที่เดิม ฉันเคยพูดกับแม่ แต่มันก็ไม่ได้ผล
    \" อยู่ในเมืองก็ดีแล้วนี่ แกจะได้เรียนสูงๆ แล้วก็มันอาจจะทำให้แกเป็นผู้หญิงมากขึ้น สักวันแกก็จะปรับตัวได้ เชื่อแม่สิ\"

                                                     *****************

                      อย่างที่แม่บอก เมื่อ ฉันเรียนชั้นมัธยมต้น ฉันก็ปรับตัวเข้ากับที่นั่นได้ ทั้งเพื่อน และการเป็นอยู่ ฉันพูด \" ค่ะ \" ได้โดยไม่ต้องฝืน มีเพื่อนมากมายทั้งชายและหญิง ฉันร่าเริงขึ้น แต่ในจำนวนนั้น ก็มีพวกที่ไม่ค่อยจะหวังดีกับฉันนัก

    \" กลับบ้านนอกเหอะนิล หน้าตาขี้เหร่ ตัวดำๆ อย่างเธอไม่สมควรอยู่ที่นี่\" มีคำพูดเหล่านี้ จากคนไม่กี่คน แต่มันก็ทำให้ฉันท้อใจได้ ทั้งๆ ที่ฉันคิดจะสู้ ไม่ยึดติดกับปมด้อยเหล่านั้น

    ทำไม มาจากบ้านนอกแล้วเสียหายเหรอ ขี้เหร่แล้วตำรวจจับหรือไง ฉันนั่งคิดอยู่คนเดียว ฉันรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวเหลือเกิน แล้วเพื่อนที่มากมายของฉันน่ะเหรอ นั่นน่ะ เขาจะเข้ามาหาฉันเฉพาะเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือเวลาที่ฉันมีประโยชน์ต่อเขา ฉันไม่คิดมากหรอก เพราะเวลาเขาเข้ามาฉันก็คลายเหงาไปบ้าง คนที่จริงใจกับฉันก็คงมีไม่น้อย อาจเป็นเพราะฉันไม่เปิดใจรับมากกว่า

    ฉันโตมาด้วยความรู้สึกเหล่านี้ ฉันยังคงอยู่ด้วยความรู้สึกที่ชิงชังโลกไปกว่าเดิม ความคิดด้านลบมีมากยิ่งขึ้น แต่ฉันก็สู้กับความรู้สึกเหล่านั้น จนขึ้นชั้นมัธยมปลาย เวลาแห่งความเลวร้ายได้หมดไป หรือกำลังเริ่มต้นกันแน่

                                                             ********************

    ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าฉันจะมีความรู้สึกอย่างนี้เข้ามา.........
    เมื่อขึ้นมัธยมปลาย ฉันเลือกเรียนแผนกวิทย์-คณิต ด้วยเหตุผลที่ว่าฉันเรียนห้องเก่งมาโดยตลอด และทุกคนที่บ้านคาดหวังให้ฉันเรียนสายนี้ ซึ่งฉันเองไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองชอบสายนี้ หรือมีความสามารถในสายนี้แค่ไหน จนถึงวันที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์สอนฟิสิกส์ จึงทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันไม่เหมาะกับเรื่องพวกนี้เลย แล้วยิ่งได้เจอกับอาจาร์ยสอนเคมี เฮ้อ! ฉันเห็นแค่ความมืดมนรออยู่ข้างหน้า แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ฉันเลือกเดินทางสายนี้แล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือ สู้ต่อไป

    \"นิล เทสต์ฟิสิกส์คราวนี้ได้เท่าไหร่\" หวาน เพื่อนสนิทของฉันถาม
    \" ไม่ได้ไข่ต้มละกันน่า\" ฉันตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายด้วยไม่อยากตอกย้ำในเรื่องแย่ๆของตัวเอง
    \" แล้วได้เท่าไหร่ล่ะ\"
    \" 3 \" ฉันตอบสั้นๆ

    ยัยหวานรู้สถานการณ์ดีจึงไม่ถามอะไรต่อ

    ใช่ว่าฉันจะขี้เกียจเรียนนะ แต่มันไม่เข้าหัวจริงๆ บ่อยไปที่ฉันรู้สึกหมั่นไส้เหล่านักวิทยาศาสตร์เจ้าของทฤษฎีต่างๆ ยังเคยแอบเขียนใต้รูปพวกเขาในแบบเรียนบ่อยไป
    \" รู้ค่ะว่าพวกคุณเก่ง แต่ฉันไม่เก่งอย่างคุณนี่ คิดได้ไงเนี่ย อัจฉริยะจริงๆ \" เฮ้อ! ดูเอาสิฉันนี่แย่จริงๆ พาลแม้กระทั่งผู้มีพระคุณที่คิดค้นทำให้ฉันมีไฟฟ้าใช้ มีวิทยุฟัง

    ชีวิตของฉันตอนนี้ ไม่ได้ทำเรื่องที่เคยทำตอนเด็กๆ ไม่ได้ปีนต้นไม้ ไม่ได้วิ่งเล่นกลางท้องนากับเหล่าทะโมนเพื่อนของฉัน แต่ทุกวันนี้ ฉันเป็นผู้หญิง ที่เป็นผู้หญิงจริงๆ อย่างที่แม่หวังไว้ แต่ฉันก็ยังไว้ลายความเป็นนิลอยู่นะ


                                                                     ****************


                                    ก็เพราะว่าฉันยังเล่นซนอยู่กับเพื่อนผู้ชายเหมือนเดิม อาจน้อยกว่าเดิมหน่อยหนึ่ง ก็บอกแล้วไง ฉันเป็นผู้หญิง


                             ฉันสนิทกับเพื่อนผู้ชายเร็วมาก พวกมันเคยบอกว่าเพราะฉันไม่เรื่องมาก ทำให้คบกันได้ กิจกรรมที่ฉันทำร่วมกับพวกเขาต่างจากที่เคยทำร่วมกับพวกไอ้โตน ก็มีรวมกลุ่มไปเที่ยวกันบ้างบางครั้ง เล่นเกมด้วยกัน อ่านการ์ตูนแนวสืบสวนสอบสวน หรือ แนวต่อสู้เหมือนกัน และที่สำคัญพวกมันชอบให้ฉันเป็นแม่สื่อระหว่างพวกมันกับสาวๆที่มันจีบ

                          แม้แต่ อู เพื่อนที่ฉันคิดว่าสนิทที่สุด เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะทำด้วยกันเสมอ ฉันกับอูอยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เล่นหัวมาด้วยกัน แต่ใช่ว่าความสัมพันธ์ของเราจะดีตลอด ที่ทะเลาะกันก็บ่อยไปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่นายอูจะยอมให้ฉันทุกครั้ง ฉันเคยถามมันว่าทำไม
    \"นี่ อู เรื่องนี้น่ะ เรามาคิดๆดูแล้ว นายไม่ผิดนะ เราต่างหากที่ผิด แล้วนายทำไมไม่เถียงวะ\"

    \"ก็ขี้เกียจเถียงกับผู้หญิงไม่มีเหตุผล\" อูตอบ
    \"หนอย ว่านิลไม่มีเหตุผลเหรอ นายนั่นแหละไม่มีเหตุผลเอาซะเลย คอยดูนะจะไม่ให้ลอกการบ้านวิชาคณิต\" นั่นไงล่ะ คุยกันได้ไม่ถึงสองประโยค เริ่มอีกแล้วฉัน
    \" นั่นไง ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แล้วถ้านิลไม่ให้เราลอกคณิต เราก็ไม่ให้นิลลอกเคมี \"
    \" เฮ้ย ! ได้ไงวะ \"
    \"เราล้อเล่นหรอกนิล ที่เราไม่เถียงนิลน่ะ เพราะเราคิดว่า เรื่องไหนยอมได้ก็ยอมไป เราไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มาทำลายมิตรภาพของเรา \"
    อูพูดจนฉันยิ้มแป้น

    \" แต่บางเรื่องที่มันเกินไปน่ะ อย่าหวังว่าเราจะยอมนะ\"
    อูพูดต่อ \" ขืนเราไม่ยอมนิล แล้วใครจะช่วยเราจีบน้องขิมล่ะ\"
    ฉันรู้สึกเจ็บขึ้นมาเฉยๆ กับคำพูดของอู แต่แกล้งพูดต่อไปว่า
    \" โด่ มาทำดีกับเราเพื่อหวังผลนี่เอง\"
    \"น่า ถือว่าช่วยเพื่อนหน่อย แล้วจะพาไปเลี้ยงนะ\"ฉันพยักหน้าหงึกและส่งยิ้มให้ ทั้งที่ใจไม่ได้ยิ้มด้วยเลย
    \"เออ ! ต้องอย่างนี้สิ\" ว่าพลางเอามือจับศีรษะฉันโยกไปมา อูชอบทำอย่างนี้กับฉันบ่อย มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น และ....มีความรู้สึก .....รู้สึกยังไงนะ โอ๊ย ! บอกไม่ถูกรู้แต่ว่าสุขใจ แต่ฉันก็ต้องไว้ลายในความเป็นนิลสิ
    \" โอ๊ย! มาขยี้ผมเค้า เสียทรงหมดเลย\" ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุ อูยิ่งขยี้ผมฉัน
    \" ไปเล่นบอลก่อนนะ\" แล้วก็วิ่งไปที่สนาม ปล่อยฉันนั่งเก้ออยู่

    \"นั่งใจลอยเชียวนะ \"
    \"หวาน หายไปไหนมา หาอยู่ตั้งนาน\"
    \"แน่ใจนะว่าหาหวานอยู่ไม่ได้กุ๊กกิ๊กอยู่กับใครนะ\"
    \" บ้าเหรอ อูเป็นเพื่อนนิลนะ หวานอย่าพูดอย่างนั้นสิ ใครได้ยินเข้า แย่เลยนะ\"
    \" นี่นิล ขอพูดหน่อยเหอะ แกรักอูทำไมไม่บอกเค้าล่ะ นี่ยังมาเป็นแม่สื่อให้เค้ากับน้องขิมอีก \" หวานพูด

    \" อะไรนะ หวาน นิลนี่นะ รักอู บ้าเหรอ \" ฉันแหวใส่หวาน
    \" นิลไม่ได้รักอูอย่างนั้นสักหน่อย นิลรักอูแบบเพื่อน เข้าใจมั๊ยหวาน เพื่อนน่ะ เหมือนๆกับที่นิลรักหวาน เอก บอล พล\" ฉันสาธยายชื่อเพื่อนรักออกมา
    \" ไม่เหมือนหรอกนิล หวานเห็นนะ นิลมักจะเศร้าเสมอเวลาที่อูอยู่กับขิม นิลไม่รู้เหรอสายตาที่นิลมองอูนะเป็นสายตาผู้หญิงที่กำลังมีความรัก \"
    ...สายตาของผู้หญิงที่กำลังมีความรัก... ฉันน่ะเหรอกำลังมีความรัก เป็นไปได้ยังไง ฉันไม่ได้คิดอะไรกับอูสักหน่อย
    \"นิล ลองไปคิดดูนะ ถ้าอูเป็นแฟนกับขิม นิลจะทนได้มั๊ย ลองทบทวนความรู้สึกของตัวเองดู อย่าโกหกใจตัวเองล่ะ หวานพูดได้แค่นี้ล่ะ\" หวานทำท่าจะลุกออกไป

    \"เดี๋ยวหวาน \" ฉันดึงมือหวานไว้
    \" คนอย่างนิลเนี่ยนะกำลังมีความรัก เป็นไปได้เหรอ หวาน นิลไม่สวย ไม่น่ารักเลย ตัวสูงพอๆ กับผู้ชาย ผิวสีคล้ำ ใครเค้าจะมารัก อูก็คงไม่เหมือนกัน แล้วอย่างนี้นิลจะรักใครได้\"
    \"นั่นไงนิล ไม่ใช่ว่านิลไม่รักอู แต่นิลไม่กล้าคิดต่างหาก ทำไมล่ะนิล นิลเป็นผู้หญิงนะ หวานว่านิลน่ารักออก อย่าคิดมากน่า เรื่องอย่างนี้อยู่ที่ความรู้สึก นี่ถึงเวลาเรียนแล้ว ไปเรียนกันเถอะ\"
    ฉันเดินตามหวานไป แต่ในใจยังคงคิด


    ........ฉันชอบอูมากกว่าเพื่อนเหรอ ฉันแค่ดีใจที่มีอูเป็นเพื่อน สุขใจที่ได้อยู่ข้างอู ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของอู และฉันก็มักจะคิดถึงอูก่อนเพื่อนคนอื่นๆเสมอ รู้สึกเจ็บและไม่ชอบใจเวลาที่อูอยู่กับขิม นั่นเหรอ ..ความรัก.....

                                                             *******************

    ฉันปล่อยความรู้สึกเหล่านั้นไปกับวันเวลา ยังคงเล่นพูดคุยกับอูเหมือนปกติ ฉันยังคงมีความสุข...แต่เวลาแห่งความสุขมักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน
    \" นิล น้องขิมตกลงเป็นแฟนเราแล้วนะ\" อูวิ่งหน้าระรื่นมาหาฉัน
    ความรู้สึกแรกที่ได้ยินคำนั้น มันเจ็บแปลบที่ใจ ฉันไม่อาจมองหน้าอูตรงๆได้ ทุกอย่างมันแน่นอยู่ในอก แต่ฉันก็ฝืนที่จะยินดีออกไป
    \" เหรอ ! ยินดีด้วยนะ\" ฉันฝืนความรู้สึกเต็มที่ที่จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
    \" นิลกลับก่อนนะ \" ฉันจึงคิดที่จะออกไปให้พ้นที่ตรงนั้น
    \" อย่าเพิ่งกลับดิ บอกแล้วไง จะพาไปเลี้ยง\"
    \" ไม่เป็นไรหรอก วันหลังก็ได้ \" ..ขอเป็นวันที่ฉันทำใจได้ก่อนนะอู
    \" นิล ไหนบอกจะไปซื้อของกับหวาน \" ยัยหวานโผล่มาลากฉันไป \" ไปก่อนนะอู วันนี้นิลมีนัดกับหวานก่อน\"
    หวานลากฉันออกมา ฉันปล่อยโฮ
    \" ขอบใจนะหวาน\" หวานพยักหน้าไม่พูดอะไร
    เราเดินกลับบ้านด้วยกัน ระหว่างทางไม่มีเสียงพูดเสียงหัวเราะเหมือนอย่างเคย มีแต่ความเงียบระหว่างเรา แต่ฉันรู้ดี หวานห่วงฉัน มือที่กระชับมั่นตลอดทาง ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ
    เมื่อถึงทางที่ต้องแยก \" นิลจะทำยังไงต่อ \"
    \"เหมือนเดิม เขาเป็นเพื่อนของเรา\"

                                                        *********************

    .................ดึกแล้ว ความรู้สึกฉันยังคงวุ่นวาย ฉันเพิ่งรู้ว่ารักอูมาก ก็เมื่อวันที่เสียอูให้ขิ มไป ถ้าฉันกล้ากว่านี้ บอกอูตั้งแต้วันนั้น คงไม่ต้องมีวันนี้ แต่..ถ้าฉันบอกอูไป จะทำให้อูลำบากใจหรือปล่าว ก็อูชอบขิม แล้วคนที่อูคิดว่าเป็นเพื่อนมาตลอดไปบอกว่าชอบ อูคงลำบากใจพิลึก เฮ้อ ! อย่างนี้ล่ะดีแล้ว สุดท้ายฉันก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองอยู่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจ นั่นคือความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้อู จะยังคงอยู่ตลอดไป
    ..อา..พรุ่งนี้ที่โรงเรียนฉันจะทำอย่างไรดีเมื่อเจอหน้าอู อืม ฉันจะยิ้มให้อู ฉันเป็นนิลเพื่อนของอู มิตรภาพระหว่างเรายิ่งใหญ่นัก ร้องไห้ซะนิล ร้องให้หมดในคืนนี้ พรุ่งนี้อย่าลืมยิ้มให้อูล่ะ


                                                               *************

    วันเวลาช่วยฉันได้จริงๆ ตอนนี้ฉันทำใจเรื่องของอูได้ แต่ยังไม่ทีเดียวนัก เพราะฉํนยังคงรู้สึกเจ็บเวลาที่เห็นอูอยู่กับขิม ฉันจึงพยายามเลี่ยงที่จะเจอกับอู แต่อูไม่เคยรู้ความรู้สึกของฉันเขายังคงทำเหมือนเดิม....หลายครั้งเหลือเกินที่ฉันอยากบอกเขาว่า ฉันเจ็บ อย่ามาทำกับฉันอย่างนี้อีกเลย อยู่ห่างๆกันเผื่ออะไรจะดีขึ้น แต่ใครล่ะจะกล้าบอก ฉันก็ไม่อยากทำลายความผูกพันระหว่างเราหรอก เป็นเพื่อนกัน ...เพื่อน...คำนี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ

    โชคยังเข้าข้างฉัน ขึ้นม.5 ฉันกับอูอยู่คนละห้องกัน
    ชีวิตของฉันช่างอับเฉานักเรื่องความรัก เฮ้อ น่าเบื่อจังหนอ ชีวิตนักเรียนม.5 หาอะไรใหม่ๆทำดีกว่า


    ........และแล้วฉันก็ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆจนได้ ที่ว่านี้คือ ฉันตัดสินใจสมัครเข้าชุมนุมการละครที่มีสมาชิกเป็นเด็กม.3 แทบทั้งสิ้น มี ม.5เพี่ยง 3 คน แต่เหตุผลที่ฉันเลือกเข้าชุมนุมนี้เพราะฉันประทับใจอาจารย์ที่ปรึกษา และฉันคิดว่า ที่นี่คงทำให้ชีวีตฉันไม่น่าเบื่อไปกว่านี้...คงทำให้ฉันกล้าแสดงออกมากกว่านี้ สาธุ ..ขอให้เป็นอย่างนั้นเถิด...เพี้ยง!

    ชีวิตฉันเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ฉันได้รู้จักสนิทสนมกับน้องกลุ้มหนึ่ง ดง ติน กลอย และยิม

    ดง เด็กหนุ่มอารมณ์ดี หน้าตาทะเล้น ....
    ติน นายตัวสูงเกินอายุ ดูมาดแมนจนฉันสะดุดตา กลอย สาวร่างบาง หน้าตาน่ารัก ยิม สาวน้อยเพื่อนสนิทของกลอย ฉันรู้จักและสนิทสนมกับพวกเขาเร็วมาก เนื่องจากมีกิจกรรมเข้ามาตลอดทำให้ฉันไม่มีเวลาเบื่อ ต้องมาซ้อมการแสดง ซึ่งทำให้ฉันสนิทสนมกับดงเป็นพิเศษ ดงเป็นเด็กหนุ่มที่มีความเป็นสุภาพบุรุษมาก เขาเทคแคร์ฉันอย่างดี

    พวกเรารวมตัวกัน เล่นด้วยกันบ่อยมาก จนฉันแอบรู้สึกดีๆกับติน คนที่รู้คนแรกคือ ดง เขาดูออก เขาบอกว่าเขาเองก็ชอบกลอย แต่เมื่อเรามาพูดกันแล้ว ...ต่างคนต่างเงียบ.
    \" พี่ไม่อยากรู้สึกอย่างนี้เลย\"
    \" พี่นิล ใครมันจะห้ามความรู้สึกได้ล่ะ\"
    \"นั่นสิ แต่ว่าถ้าพี่บอกตินไป เค้าจะคิดยังไง พี่อาจจะเข้าหน้าเค้าไม่ติด แล้วอีกอย่างถ้าเค้ามีคนที่ชอบแล้วล่ะ เค้าไม่ยิ่งลำบากใจเหรอ\"
    เป็นอย่างที่ฉันคิด ตินมีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน
    ฉันจะทำอย่างไรกับความรักครั้งนี้ดีนะ อา......คุณคงคาดเอาไว้ ใช่ ฉันปล่อยมันไปโดยไม่บอกติน ความรักครั้งนี้สอนให้ฉันได้รู้จักการเสียสละ.........
                                    ******************

      ฉันเอง ก็ยังคงเป็นฉัน เป็นผู้หญิงที่ขี้ขลาดอยู่วันยังค่ำในเรื่องของความรัก แต่เอาเถอะ  ยังไงฉันก็ยังคงมีมิตรภาพดีๆ กลับมา  ตอนนี้ฉันยังเด็กนัก ฉันเชื่อว่า สักวัน ฉันคงจะมีความกล้า และมั่นใจในตัวเองมากกว่านี้  กว่าจะถึงวันนั้น สู้ๆ นะนิล..  ^_^

                                         *********************  ^_^*****************

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×