คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ถล่มศูนย์วิจัย
ถล่มศูนย์วิจัย
มิติเป็นเอกฉันท์เมื่อ 7 พี่น้องจะลงไปด้วยกัน ทุกคนมีอาการอยาก(สอด)รู้เต็มที่ แล้วเหตุการณ์ที่บังเกิด ณ บ่อน้ำก็บังเกิดเมื่อรีบอร์นเผลอทำปืนลั่น มันจะไม่เป็นอะไรเลยถ้ามันไม่ไปกระตุ้นบางอย่างเข้า
“โหมดป้องกันตัวทำงาน” เสียงร้องของนาฬิกาที่ข้อมือเบียคุรันดังขึ้นมือโดยที่ไม่ได้ตั้งใจก็ซัดโครมเข้าให้ ก่อนคนอื่นๆจะรีบเข้าห้าม “ระดับ A” เสียงดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่เบียกจะโบกทุกคนลงไปนอนกับพื้น แต่หารู้ไม่ผู้กระทำจะร้องไห้อยู่แล้ว ก็แหงล่ะถ้าพวกนี้ตื่นมาน่ะ ฆ่าเขาหมกปราสาทแน่
หลังจากที่ทุกคนฟื้นขึ้นมาก็เกิดอาการฉุดขาด (ยกเว้นสึนะที่ร้องไห้ไม่หยุด)ก่อนที่จะเดินอาดๆเข้าไปหาเบียคุรันเตรียมฆ่าหมกปราสาท
“ไอ้สวะ แก” ซันซัสยกมือที่เต็มไปด้วยความโกรธขึ้นมา “ตาย”
“อันตราย อันตราย ระบบป้องกันภัยขั้นสุดยอดทำงาน”
“เหวอ” แล้วเบียคุรันก็เริ่มอาละวาดทั้งน้ำตา ‘ก็มันควบคุมไม่ได้ง่ะ’ ฝ่ามือพิฆาตตบผลัวะเข้าบ่องหูซันซัสอย่างจัง ความบรรลัยก็เกิดขึ้น
“เพลิงพิโรธ” ซันซัสปล่อยเพลิงพิโรธไม่หยุดส่งผลให้ทุกคนวิ่งหลบกันจาละวัน ก่อนที่สวนสวรรค์จะแปลงสภาพไปเป็นสวนนรกในพริบตา
“ซันจังหยุดน่ะลูก” รุ่นที่ 9 ที่วิ่งตาตื่นเข้ามาห้ามทัพ แต่ก็ไม่แคล้ว
“ไปตายซะ ไอ้แก่”
หลังจากที่ซันซัสระบายอารมณ์ไปกับรุ่นที่ 9 แล้ว ก็สบายใจสุดขีดก่อนจะเดินลงไปในบ่อน้ำ
บันไดไม้เก่าๆ ทอดยาวลงไป จนไม่มีแม้แสงสว่างเล็ดลอด บุคคลที่มีประโยชน์ที่สุดก็จุดเพลิงพิโรธเพื่อเป็นแสงให้ทุกคน เสียงบันไดลั่นเอี๊ยดอ๊าดตลอดการก้าวย่างรางกับกำลังต้อนรับผู้บุกรุก
“ศูนย์วิจัยอะไรทางถึงซ่อมซ่อขนาดนี้ฟร่ะ โป๊ก โอ๊ย” โกคุเดระที่เดินอยู่หน้าสุดบ่นก่อนจะชนเข้ากับประตูอย่างจัง “ใครมาสร้างประตูฟร่ะ เห้ย! ประตู” เมื่อได้สติก็พยายามเปิดอย่างเอาตายผลปรากฏว่า “เปิดไม่ได้อ่ะ”
“ถอยไปไอ้สวะ” แล้วบุคคลที่มีประโยชน์ก็เผาประตูเป็นจุล
“เข้าไปเร็วๆสิ” เบียที่เดินรั้งท้ายผลักทุกคนเข้าไป ก่อนที่จะร่วงลงสู่หลุมลึกเบื้องล่าง
“โอ๊ย เจ็บง่ะ” สึนะเริ่มครวญครางเมื่อตนกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง
“นั่นอะไรน่ะ” สึนะที่เห็นทางที่แสงสว่างลอดเข้ามาเอ่ยถาม ก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปสำรวจ มันคือประตูขนาดจิ๋วที่ต้องลอดเข้าไปเท่านั่น ทุกคนจึงลอดเข้าไป สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือห้องสีขาวโพลน
“ระวัง” ทุกคนหันขวับไปตามเสียงทันทีสิ่งที่โผล่ตรงหน้าคือหุ่นยนต์ที่ลอยละลิ่วมาสู่พวกเขาจึงทำให้ซันซัสปล่อยเพลิงพิโรธอย่างแรงส่งผลให้หุนยนต์พังไม่เหลือชิ้นดี
“ออด ออดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงดังสนั่นลั่นไปทั่วทำให้เหล่าผู้โชคร้าย(นักวิจัย)เดินมายังทางออกโดยไม่มีการตกใจ ทั้งยังทำหน้าระอากันมากกว่า
“ขอโทษน่ะทุกคน” เสียงของบุคคลที่อมอมยิ้มไว้ปากไม่ปล่อย “ไม่มีอะไรฉันแค่ทดลองผิดพลาดน่ะ กลับไปทำงานต่อเถอะ” หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายไปแล้ว “พวกคุณเป็นใครเข้ามาในนี้ได้ยังไง กรุณาตอบคำถามผมให้ละเอียดด้วยครับ”
“อิริเอะ โชอิจิอยู่ที่ไหน” เบียคุรันเอ่ยถามทันทีโดยไม่สนใจคำถามของผู้อื่น
“โชอิจิน่ะเหรอ มีอะไรกับเขา”
“ว่าแต่แกเป็นใครฟร่ะ”
“ผมชื่อสปาน่าครับ ถ้าต้องการพบโชอิจิเชิญทางนี้” ก่อนจะเดินนำโดยไม่สนจะมีคนเดินตามมาไหม
“โชอิจิเข้าไปได้ไหม” ตอนนี้พวกเขายืนอยู่น้าประตูสีขาวที่กลมไปกับกำแพง แหงล่ะที่นี่ไม่มีสีอื่นนอกจากสีขาว
“......” ไร้เสียงตอบรับจากด้านในสปาน่าเลยเปิดประตูเข้าสิ่งที่เห็นคือผมสีแดงอมส้มฟลุ่บหลับอยู่กับโต๊ะ โดยที่มือหนึ่งกำปากกาไว้ ส่วนอีกข้างใช้เป็นหมอนหนุน
“โชอิจิ” สปาน่าเลยเข้าไปปลุกใกล้ๆ
“เหวอ! โครม” สะดุ้งตกใจสุดตัวก่อนจะลุกพรวดขึ้นมา โดยมีเก้าอี้ไปนอนแอ่งแม้งที่พื้น
“โชจัง” เรียกซะสนิทก่อนโถมตัวเข้ากอดจนหงายหลัง “โชจังจำฉันได้ไหม”
“ใคร เหวอ! ผีมาสเมชโล่” เมื่อเงยหน้ามองความทรงจำแรกก็เข้ามา
“เรียกซะเสียเลยน่ะโชจัง” เบียคุรันทำหน้าเศร้านิด น้ำตาซึมหน่อยเห็นแล้วอยากถีบ
“พวกคุณเข้ามาในนี้ได้ไงครับ นี่มันสถานที่ต้องห้ามน่ะครับ” โชอิจิเริ่มโวย ความเป็นผู้นำเริ่มสิง
“ก็ นี่ อ่ะน่ะ” เบียชูแขนขึ้นมาก่อนชี้
“นี่มัน Digital c. ที่ผมยังไม่ได้ทดลองนี่ครับ คุณเอาไปได้ยังไง”
“ก็ไอ้แก่ เอ้ย รุ่นที่ 9 น่ะ เอามาใส่ให้ฉันอ่ะ โชจัง” พลางทำท่าออดอ้อนเข้าไปอีก
“รุ่นที่ 9 อีกแล้วเหรอ เฮ้อ” โชอิจิถอนหายใจเบาๆ ก่อนเดินไปที่ชั้นหนังสือด้านหลัง “งั้นไปพบรุ่นที่ 9 กันครับ” โชอิจิหยิบหนังสือออกมา 1 เล่มชั้นหนังสือสั่นนิดๆ ก่อนเลื่อนออก “เชิญครับทุกคน” โชอิจิเอ่ยก่อนเดินออกไปคนแรก
“โชอิจิ ฉันไม่ไปน่ะ” สปาน่าเอ่ยก่อนโบกมือลา
“อือ แล้วเจอกัน” ชั้นหนังสือปิดช้าๆก่อนที่โชอิจิจะยัดหนังสือไว้ที่เดิมด้านในเป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบๆแต่ก็สามารถเข้าไปได้ทุกคนโดยไม่แคบมาก โชอิจิวางมือลงบนแทนเรืองแสงที่ลอดออกมา ห้องนั้นขยับเบาๆก่อนจะให้ความรู้สึกกำลังลอยขึ้น
“ติ้ง” เสียงนี้คุ้นๆแฮะ “ออกมาจากลิฟต์ได้แล้วครับทุกคน” ลิฟต์นี่เอง เฮ้อ!
“มีลิฟต์ แล้วแกพาฉันไปทางนั้นทำไมไอ้สวะปลาหมึก”
“ก็ฉันไม่รู้นี เฟ้ยว่ามันมีลิฟต์”
“ไมรู้ก็ไม่แปลกนอกจากรุ่นที่ 9 แล้วก็มีแค่พวกเราที่รู้ ทางออกของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป อย่างของผมก็จะเป็นห้องสมุดนี่ยังไงล่ะ” ทางที่พวกเขาโผล่มาคือห้องสมุดต้องห้ามของเมืองวองโกเล่ที่ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าออกเนื่องจากมีเอกสารราชการลับตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงปัจจุบันสะสมอยู่ ตามชั้นวางต่างเต็มไปด้วยหยากไย่เพราะไม่มีผู้ใดแตะต้องมานานปี “ผู้ดูแลห้องสมุดคนปัจจุบันคือผมเองก็เลยสร้างลิฟต์เชื่อมต่อกับที่นี่ ว่าแต่เรารีบไปหารุ่นที่ 9 กันเถอะ”
ห้องทำงานของผู้เป็นราชาตั้งห่างจากห้องสมุดไม่ถึง 5 เมตรด้วยซ้ำ
“ขออนุญาต” อิริเอะ เปิดประตูโดยไม่สนใจว่าเขาจะอนุญาตหรือไม่ “ไงครับรุ่นที่ 9 การขโมยของคนอื่นสนุกมากไหมครับ นี่มันเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วครับ” ใส่เป็นชุดโดยไมสนว่าคนตรงหน้าคือใครและไม่สนใจรอบข้างที่ยืนตาค้างอยู่ “พวกเรามีหน้าที่คิดค้นอุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยเหลือประเทศไม่ใช่การประดิษฐ์ของเล่น อย่างนี้พวกเราก็เหนื่อยน่ะ ไหนจะการคิดค้นแล้วยังต้องมาแก้ปัญหาที่คุณก่อขึ้น จากที่ผมคำนวณแล้วคุณผิดเต็มๆ งานนี้พวกเราก็ประท้วงโดยการพักงาน 1 เดือน ไม่สิ 1 ปี อ้อ! โดยพวกเราจะออกนอกประเทศก็ได้ไม่มีกฎและข้อห้ามใดๆทั้งสิ้น”
“โช....จ”
“ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ไม่งั้นผมลาออก” ดักคอคนตรงหน้าอย่างรู้ทันพร้อมเอ่ยประโยคที่คนตรงหน้ากลัวสุดๆ
“ฉันขอโทษอย่าลาออกเลยน่ะนายเป็นความหวังเดียวของประเทศน่ะ” รุ่นที่ 9 กระโดดมากอดขาอิริเอะอ้อดอ้อนแต่ก็โดนสะบัดออก
“ผมไม่สน กรุณาอนุมัติคำสั่งภายใน 3 วัน” ก่อนจะเดินออกไปจากห้องแล้วเหลียวหลังกลับมามอง “อ้อ กรุณาไปซ่อมส่วนที่ลูกขายคุณทำเสียหายด้วย ภายในวันนี้น่ะ” แล้วก็จากไป โดยมีคนที่ยังไม่ได้เอานาฬิกาออกวิ่งตามด้วยความตกใจ
“แกร๊ก แกร๊ก ” อิริเอะที่พยายามทุกวิถีทาง งัด แงะ แกะ แทะ?(เกี่ยว/ไร) กับนาฬิกาที่เบียคุรันสวมอยู่แต่ “แกะไม่ออก ทำไมมันแกะยากงี้เนี่ย” อิริเอะเริ่มหัวเสียเพราะเขาใช้เวลาแทบทั้งวันในการแกะนาฬิกาอยู่ ไหนจะงานเอกสารที่กองพะเนินอีก แถมยังต้องตรวจอุปกรณ์ต่างๆที่ทุกคนเอามาส่งอีก ยิ่งเขาแกะเจ้านี่ไม่ออกสักทีงานมันก็ท่วมหัว ตูจะบ้า “ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาเอาออกใหม่แล้วกัน” ว่าพลางละมือออกจากนาฬิกาตรงหน้า โดยไม่สนคนที่กำลังจะท้วงสักนิด ก่อนลากเอสารมาอ่านและเริ่มเซ็นอนุมัติ
“โชจังเอาออกให้เถอะน๊า” เสียงร่างสูงที่กำลังครางหงิงๆเรียกให้สายตาหันไปมอง
“=_=”
“น๊า~~” พลางทำตาปริบๆใส่เล่นเอาคนมองใจกระตุ๊กวูบ
“พรุ่งนี้”
“น๊า~~”
“ก็ได้” แล้วก็ปฏิเสธน้ำเสียงนั่นไม่ได้ (ทำไมกับพ่อ(สามี)ปฏิเสธได้ฟร่ะ//ไร)
หลังจากนั้นก็ใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์ถึงแกะออกได้ โดยที่ไม่มีคนงอแงแถมยังนั่งยิ้มหน้าระรื่นอีก
‘ใจสั่นเป็นน่ะโว้ย’
Tbn.
ช่วงนี้มีแต่ 10051 แหะ
ว่าแต่รุ่นที่ 9 เป็นราชาแบบไหนกอดขาอ้อนลูกน้องเนี่ย
โธ่! ใจสั่นแล้วโชจังหลงรักเบียกแล้วอ่ะดิ
อุ๊กรี๊ด ^/////^
เม้นให้กำลังใจไรด้วยน่ะไปล่ะ
บายบี
ความคิดเห็น