ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC FAIRY TAIL ϟ Heart & Soul

    ลำดับตอนที่ #6 : ϟ Heart & Soul 005

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 59


    (c) Chess theme

     

     

     

    Why I got you on my mind?

    But my heart don't understand

        Ellie Goulding

     

     

     

     

     

     

    หะ?

    หลังจบการทดสอบจอมเวทย์ระดับเอสลง แฟรี่เทลก็กลับมาวุ่นวายในระดับปกติได้พักใหญ่ๆ แล้วจู่ๆวันนี้ผู้หญิงประหลาดคนหนึ่งก็เดินดิ่งเข้ามาที่กิลด์แบบไม่มีที่มาที่ไป พร้อมกับคำพูดแสนเอาแต่ใจแต่ไร้เหตุผลสิ้นดี!

    ฉันจะเป็นสมาชิกของแฟรี่เทล เพราะว่าฉันคือเทวภูติ

    พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย!” มิร่าเจนเห็นด้วยกับมาคาโอและวาคาบะที่พูดพร้อมกัน แต่ถึงงั้นผู้หญิงคนนั้นก็ทำเพียงขยับแว่นอย่างเหย่อหยิ่ง ไม่สนใจไม่ว่าใครจะพูดอะไรอยู่ดี

    ไม่สนย่ะ และก็ไม่เกี่ยวกับพวกนายด้วย! ไปเรียกมาสเตอร์มาเดี๋ยวนี้เลย!”

    แปลกจัง อะไรของเธอนะเลวี่ละความสนใจออกจากหนังสือภาษาประหลาดตรงหน้าที่มิร่าเจนนั่งมองอย่างขยาดจนจะอ้วกแทนมาเป็นพักแล้ว

    มีศรัทธาที่ดี แบบนี้สิถึงจะสมเป็นสมาชิกของกิลด์เรา เอลซ่ากอดอกพลางพยักหน้าอย่างยอมรับ ในขณะมิร่าเจนหรี่ตามองทั้งเท้าคาง

    อะไรของเธอ ยัยนั่นยังไม่ทันจะได้เป็นสมาชิกของกิลด์เราเลยนะยะ  

    ตอนนี้ยังแต่ไม่นานก็ใช่เอลซ่าพูดอย่างมั่นใจ

    เหรอ? คิดว่าตัวเองเป็นมาสเตอร์หรือยังไงล่ะ คำพูดแขวะกัดของมิร่าเจนทำให้เอลซ่ามีน้ำโห

    คิดจะหาเรื่องฉันรึไง มิร่าเจน

    มิร่าเจนแสยะยิ้มกว้างก็เออน่ะสิ

     

    โครม!

    ว้ายยย!” เลวี่ร้องกรี๊ดตอนหนังสือของเธอกระเด็นไปพร้อมโต๊ะโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเงยหน้าพบกับปีศาจสาวแห่งแฟรี่เทลกำลังปล่อยพลังอาฆาตใส่กัน

    เอลซ่ากับมิร่าเจนตีกันอีกแล้ว!”

    ไปดูกันเถอะ นัตสึ!”

    พี่ครับ พอเถอะน่า และเสียงหมัดปะทะหมัดก็แลกกันอย่างดุเดือดถูกล้อมรอบไปด้วยคนที่ต่างสนใจการปะทะกันของทั้งสองสาวที่อาจได้ชื่อว่าถูกจับตามองความแข็งแกร่งที่สุดในรุ่นของแฟรี่เทล

    คิดว่าถักผมเปียแล้วจะน่ารักขึ้นหรือไงยะ ยัยผู้หญิงด้านชา!” มิร่าเจนว่าพลางเตรียมจะดึงปลายผมเปียสีแดงของเอลซ่า แต่ไม่ทันที่จะได้เอื้อมถึงมิร่าเจนกลับถูกกดลงกับพื้นเพียงแค่ชั่วพริบตา

    อย่าคิดจะยุ่งกับผมของฉันเชียว มิร่าเจนกัดฟันใต้ร่างของเอลซ่า ถึงจะแปลกใจที่อีกฝ่ายดูโกรธผิดปกติ แต่บางทียัยนี่อาจเป็นคนรักผมมากก็ได้

    ปล่อยฉันนะ!” มิร่าเจนพยายามดิ้นขลุกขลักก่อนจะใช้ขายกสูงมากพอจะกระแทกให้เอลซ่าลุกออกไปได้

    หยุดๆ ทั้งคู่เลย!” ก่อนที่การปะทะหมัดจะได้เริ่มต่อ ก็มีผู้กล้าบางคนที่เข้าจับสองสาวจับแยกจากกันในที่สุด

    เอางี้ เอเวอร์กรีนรอก่อนแล้วกัน มิร่าเจนช่วยไปตามมาสเตอร์ให้ทีนะ

    ทำไมต้องฉันล่ะ!? มิร่าเจนแย้งขึ้นไม่พอใจ เธออยากจะอยู่สู้กับเอลซ่าต่อนี่

    พี่มิร่า เสียงน้อยๆของลิซานน่าทำให้มิร่าเจนหันไปมอง เธอใช้ภาษามือให้พี่สาวย่อตัวเข้ามาฟังใกล้ๆ มิร่าเจนยื่นหูทำตามอย่างว่าง่าย

    บางที ลัคซัสเขาก็อาจจะอยู่ด้วยนะชื่อของลัคซัสทำให้มิร่าเจนคิ้วขมวด เธอมองหน้าลิซานน่าอย่างไม่เข้าใจว่าน้องสาวต้องการจะสื่ออะไร เด็กสาวยิ้มแก้มกลมส่งให้ แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ความสงสัยของมิร่าเจนน้อยลงเลย

    แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นหมอนั่นมาสักระยะแล้วเหมือนกัน

     

    หลังจากการสอบระดับเอส ลัคซัสก็หาตัวจับยากกว่าเดินเป็นเท่าตัว ปกติเองก็เป็นคนที่ไม่ค่อยจะอยู่ที่กิลด์สักเท่าไหร่ ตอนนี้พอมาถึงกิลด์ทีไรก็เอาแต่เก็บตัวเองอยู่บนชั้นสองอย่างเดียว นั่นทำให้มิร่าเจนห่างเหินจากอีกฝ่าย เพราะมันเป็นที่ๆเดียวที่มิร่าเจนเข้าไปไม่ได้

    จู่ๆ ก็ลัคซัสกลายเป็นตัวตนที่ดูไกลออกไปจากเธอ

     

                “ไปตามเถอะนะ พี่มิร่า มิร่าเจนบอกตัวเองว่ามันเป็นเพราะคำขอของน้องสาวทำให้เธอยอมวางมือจากเอลซ่า แต่ก็ไม่หมายหัวไว้กลับมาต่อ

                ไม่ได้หมายความว่าเธออยากเจอลัคซัสเลย

     

                ทางเดินไปยังห้องมาสเตอร์เป็นเส้นทางที่มิร่าเจนค่อนข้างจะชินตา แต่มันก็ชวนให้นึกหวนนึกถึงความทรงจำครั้งล่าสุดที่มีกับมัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะครั้งล่าสุดที่มาที่นี่เธอได้ฟังเรื่องราวของลัคซัส และวันนั้นก็เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์แย่ๆ ที่ทำให้มิร่าเจนได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจ

                ตัวผมน่ะ ถูกมองด้วยสายตาลำเอียงมาตลอดว่าเป็นหลานปู่มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว!” เสียงตวาดลั่นนั้นทำให้มิร่าเจนชะงักฝีเท้า มันดังออกมาจากประตูห้องทำงานของมาสเตอร์ของแฟรี่เทล นี่เป็นอีกครั้งแล้วใช่ไหม ที่เธอบังเอิญได้ยินอะไรที่ไม่สมควรได้ยินเข้า แต่เดี๋ยวก่อน... เสียงแบบนี้มัน...

                “ลัคซัส...มิร่าเจนพึมพำชื่อนั้นแผ่วเบา ฝ่ามือขาวทาบทับอยู่กับบานประตูอย่างแผ่วเบา ลัคซัสอยู่ข้างในจริงๆ

                ทำอะไรก็ถูกมองว่าเป็นหลานของมาคาลอฟ เป็นหลานของมาสเตอร์ เลยไม่เคยถูกยอมรับจริงๆสักที!!!!” ดวงตาสีน้ำเงินกลมโตเบิกกว้าง ภาพของผู้คนที่เคยกล่าวหาลัคซัสในตอนนั้นฉายซ้ำเข้ามาในหัวของเธอ แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกจุกอยู่ในอกไม่ใช่ภาพเหล่านั้นหากแต่เป็นความจริงที่เธอภาวนาไม่ให้มันเกิดขึ้นมาโดยตลอด

                ลัคซัสรู้... เขารู้มาตลอด...

     

                นั่นเป็นปัญหาของตัวเจ้ามากกว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้รับการยอมรับ ตลอดไปได้หรอกเสียงอ่อนๆของมาสเตอร์ราวกับต้องการสอนให้เขาเข้าใจ

                ปู่ไม่มีความรู้สึกเลยหรือยังไง!” เสียงตวาดของลัคซัสแบบที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะขึ้นเสียงกับปู่ตัวเองได้เลย

                ทำไมถึงขับไล่พ่อออกไป!!” เสียงตวาดที่ดังก้องด้วยความโกรธแสนสับสน แต่มิร่าเจนที่ยืนฟังอยู่กลับรู้สึกว่ามันฟังดูเจ็บปวดและสั่นคลอนอยู่นัยน์ที มิร่าเจนเต็มไปด้วยความตกใจ ทุกเรื่องที่เธอเข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่เคยรู้

                แต่ลัคซัสกลับรับรู้ทุกอย่างมาโดยตลอด

     

              พูดอะไรหน่อยสิ!” 

              .

                .

                .

    .

               

                จนกระทั่งผ่านมานานถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็แล้ว มิร่าเจนก็ยังไม่ได้พูดอะไรสักนิดเกี่ยวกับเรื่องที่เธอได้ยินในวันนั้น นอกจากเพราะไม่กล้าถามออกไป อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอไม่อาจพูดถึงเรื่องวันนั้นได้อีก คงเป็นการที่ลัคซัสแทบจะหายตัวไปจากแฟรี่เทลแห่งนี้

                นอกจากที่เจ้าตัวจะปลีกวิเวกตัวเองออกไปนอกกิลด์นานขึ้นและบ่อยขึ้นกว่าเก่า งานภารกิจระดับเอสทำให้ใช้ระยะเวลามากขึ้น แต่ถึงกระนั้นระดับลัคซัสก็จัดว่าไม่ธรรมดา ด้วยความสามารถของเขา มิร่าเจนก็ไม่แปลกใจเลย นับวันลัคซัสยิ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ราวกับคนๆนี้ไม่มีลิมิต สามารถพัฒนาไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด

                นั่นทำให้ตัวตนของลัคซัสไกลออกไปลิบตา

     

                มิร่าเจนพบว่าระยะห่างระหว่างเธอกับเขา ไม่ใช่แค่ระยะแค่ชั้นสองของกิลด์ แต่เป็นระยะห่างทั้งความสามารถ ความสัมพันธ์ ความไว้ใจที่เธอได้รับ ทุกๆอย่างมันห่างกันไปเรื่อยๆ เหลือแต่ระยะห่างที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นและความห่างเหินที่เย็นชาเหลือเกิน

                บอกว่าอย่าเล่นบ้าๆยังไงล่ะยะ!” เสียงโวยวายแปดหลอดของเอเวอร์กรีนทำให้มิร่าเจนกลับสู่ปัจจุบัน ภายในกิลด์ที่ก็ยังวุ่นวาย และชั้นสองที่ยังคงเงียบงัน ผ้าคลุมขนเฟอร์ปกคลุมแผ่นหลังกว้างไว้ไม่ไหวติง เห็นเพียงมือที่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเบาๆเท่านั้น

                อะไรกันเล่า นิดเดียวคงไม่เป็นไรหรอกน่า!” ดูเหมือนบิ๊กสโลวจะพยายามจะถอดแว่นของเอเวอร์กรีนออก ในขณะที่เจ้าตัวขัดขืนสุดกำลังแถมด้วยท่าทางจริงจังไม่มีล้อเล่น

                ก็บอกว่าไม่ได้ไง!!”

                ทั้งสองคนพอสักที เป็นฟรีดที่เข้ามาจับทั้งคู่แยกออกจากกัน เขาต่อว่าบิ๊กสโลว์ด้วยท่าทีสุขรุมตามนิสัย และเอเวอร์กรีนที่กระชับแว่นกรอบสี่เหลี่ยมของตัวเองอย่างระมัดระวัง

                หลังจากเอเวอร์กรีนเข้ามาเป็นสมาชิกของแฟรี่เทลด้วยเหตุผลแค่ว่าเธอชอบชื่อกิลด์ ไปไงมาไงก็ไม่รู้ พอรู้อีกทีเธอก็เข้าไปสนิทกับฟรีดและบิ๊กสโลว์ซะแล้ว กลายเป็นทีมสามคนที่ต้องเห็นใครคนใดคนหนึ่ง ต้องเห็นอีกสองคนพ่วงติดมาด้วยเป็นเรื่องชินตา

                เอาล่ะ ทุกคนฟังทางนี้หน่อย!” เสียงหนึ่งดังเรียกความสนใจของคนในกิลด์ที่แสนวุ่นวายนี้

                อาทิตย์หน้าก็จะเป็นงานประจำปีของพวกเราแฟรี่เทล นั่นก็คือ. ไม่ต้องรอให้คนนำกล่าวจบ ทุกคนก็ต่างพร้อมใจตะโกนเป็นเสียงเดียวกันไม่เว้นกระทั่งมิร่าเจนด้วย

                แฟนตาเซีย!!”

    เสียงร้องแห่งความตื่นเต้นสนั่นลั่นไปทั่วทั้ง งานที่พวกเราจะได้ใช้เวทย์มนต์เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ผู้คน การประกวดแข่งขันแสนพิเศษ และขบวนพาเหรดสุดแสนอลังการของเหล่าจอมเวทย์แห่งแฟรี่เทล เทศกาลเก็บเกี่ยวของเมืองแมคโนเลีย ถูกแต่งแต้มสีสันด้วยเหล่าภูติ

    นั่นแหละ คือ งานแฟนตาเซีย

     

    โดยปีนี้มาสเตอร์อนุญาตให้มิร่าเจนกับเอลซ่าทำขบวนได้แล้ว!!!”

    ขี้โกงนี่หว่าแล้วฉันล่ะ!?เสียงโวยวายขอความยุติธรรมของนัตสึยังคงน่ารำคาญ แต่ใบหน้าที่งอง้ำเหมือนจะน้อยใจอยู่ในดวงตาก็ชวนให้มิร่าเจนอดเอ็นดูไม่ได้

    เพราะนายยังฝึกฝนมาไม่พอยังไงล่ะ เอลซ่ากอดอกด้วยความสง่าภูมิใจ ดวงตาเป็นประกายแวววับซึ่งไม่ซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้เลย ซึ่งก็ช่างชวนมิร่าเจนหมั่นไส้ซะเหลือเกิน

    มั่นใจอะไรยะ คิดว่าเธอจะชนะฉันได้หรอ ยัยผู้หญิงที่ไม่มีความนุ่มนวลอย่างเธอน่ะ

    โฮ่ ถ้าเธอพูดขนาดนี้ ก็ออกไปงัดกับฉันข้างนอกดูสักยกดีไหมล่ะ

    ข้างนอกอะไร ตรงนี้เลยก็ได้ ฉันไม่กลัวอยู่แล้ว

    ลิซานน่าถอดถอนหายใจกับรังสีฟาดฟันของทั้งคู่ มันเป็นภาพที่เธอไม่อยากจะเห็นให้ชินตาเอาซะเลย แต่ก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่บ่นประโยคเดิมๆออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทะเลาะกันอีกละ

    เสียงดังน่ารำคาญชะมัด เสียงทุ้มเยือกเย็นลงมาจากชั้นสองทำให้ทุกอย่างหยุดลง มิร่าเจนละสายตาจากเอลซ่า เพื่อสบเขากับดวงตาคู่เดิมที่เปลี่ยนไปจนเหมือนเธอไม่เคยรู้จักมาก่อน

    ชายหนุ่มสูงใหญ่ทาบทับด้วยผ้าคลุมขนสัตว์ตัวใหญ่ เท้าคางมองลงมาด้วยสายตาที่สุดแสนจะรำคาญเหมือนมองแมลงตีกัน ภายในอกข้างซ้ายของมิร่าเจนบีบแน่นอย่างบอกไม่ถูก

    ลัคซัส...

     

               





     

                ฝากด้วยนะ ฟรีด

    แต่ว่ามาสเตอร์.... ฟรีดพยายามจะปฎิเสธกับคำขอร้องที่ได้รับ แต่ก็กระอั่กกระอ่วนใจด้วยความเคารพที่มีให้กับมาสเตอร์มาคาลอฟ

    เขาถูกขอร้องให้ช่วยเฝ้าดู ลัคซัส เดรเยอร์ หลานชายคนเดียวของอีกฝ่าย ซึ่งเท่าที่คลุกคลีนั้น ฟรีดไม่มั่นใจนักว่าลัคซัสเป็นคนยังไง สำหรับเขาลัคซัสนั้นไม่ใช่คนที่เข้าถึงได้ง่ายเลยๆ เหมือนมีกำแพงหินเหล็กกล้าตีกรอบไว้กับทุกคน

    อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยชอบหมอนั่นสักเท่าไหร่

     

    ถือว่าฉันขอร้องแล้วกัน มาสเตอร์กล่าวด้วยท่าทีสงบแต่น้ำเสียงในประโยคฟรีดกลับสัมผัสได้ถึงความร้อนรนใจที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

    เขาเป็นคนที่ฉันรักมาก แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเข้าไปช่วยได้เพราะจะต้องปล่อยให้เขาเติบโต

    ถ้าจะปล่อยให้เขาเติบโต ผมก็คงไม่จำ—

    เพราะเขายังเป็นเพียงเด็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับโลกใบนี้ มาสเตอร์แทรกขึ้นมาก่อนที่ฟรีดจะได้พูดจบ

    ความแข็งแกร่งของเขาถ้าเดินไปในเส้นทางที่ผิด ความผิดพลาดนั้นจะตราอยู่ในใจเด็กคนนั้น และฆ่าเขาไปตลอดชีวิตที่เหลือ ฉันไม่อยากให้หลานฉันต้องพบเจอกับอะไรแบบนั้น

    ฟรีดเงียบทุกคำที่จะเสนอมาค้าน ไม่ใช่เพราะยอมแพ้แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงสิ่งที่มาสเตอร์ต้องการฝากฝัง ตรงหน้าเขาไม่ใช่มาสเตอร์มาคาลอฟที่ยิ่งใหญ่เลย คำขอตัดพ้อเมื่อครู่

    เหมือนถูกพูดในฐานะของปู่คนหนึ่งที่รักหลานของตัวเองอย่างสุดหัวใจ

     

     

    เข้าใจแล้วครับ มาสเตอร์"


               



     


     

    งานแฟนตาเซียของแฟรี่เทล ยังคงเป็นไฮไลท์ของเทศกาลเก็บเกี่ยวเมืองแม็คโนเลียทุกปี ปีนี้ก็อีกเช่นกัน แสงสีและพลุเวทย์มนต์ยังสร้างสีสันและเสียงหัวเราะจากผู้คนในเมืองจนกึกก้อง ราวกับเสียงโห่ร้องแสนยินดี รูปขบวนเวทย์มนต์จากจอมเวทย์แฟรี่เทลเต็มไปด้วยสีสันและเอกลักษณ์ที่แตกต่าง เหล่าจอมเวทย์ต่างร่ายรำอย่างสนุกสนานเหมือนกับเหล่าภูติ

    พาเหรดที่ได้รับความสนใจที่สุดในปีนี้คงไม่พ้นขบวนที่คนต่างเฝ้ารอตั้งแต่ได้ยินข่าวร่ำลือคงไม่พ้นพาเหรดในธีมปีศาจสาวของจอมเวทย์เด็กสาวที่ถูกจับตามองเรื่องความแข็งแกร่งที่สุดในเจเนอเรชั่นนี้

    เอลซ่าและมิร่าเจน

    สองสาวในชุดพาเหรดธีมปีศาจ ต่างโชว์พลังเวทย์ของตัวเองบนรูปพาเหรดที่เหมือนปราสาทสีทึบแต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกน่ากลัว แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็นเมื่อปีศาจสาวทั้งสองต่างทะเลาะกันอยู่บนพาเหรดจนคนอื่นๆยังยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อนใจ ถึงกระนั้นก็ยังคงเป็นพาเหรดที่ดีและถูกพูดถึงที่สุดเช่นกัน

    หลังจากขบวนเสร็จสิ้น การเฉลิมฉลองที่แท้จริงก็เริ่มต้น ผู้คนต่างดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ แต่คงไมมีที่ไหนจะครื้นเครงเกินหน้าที่กิลด์แห่งนี้ เหล้าถังไวน์ถังยกออกมาสุมดื่มกันจนเหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต เสียงหัวเราะดังลั่นจนน่ารำคาญแต่ไม่มีใครนึกใส่ใจ มีแต่จะร่วมด้วยช่วยกันส่งเสียงเอะอะไปทั่วซะมากกว่า

    ฉันไม่ยอมแพ้ อึก... เธอหรอกน่าาาาา

    เหมือ.. อึก เหมือนกัน!”

    นอกจากขาประจำอย่างพวกคาน่า วันนี้สองสาวปีศาจก็ร่วมกันแข่งดวลเหล้าไปด้วย ท่าทางที่เมาแอ๋ทั้งคู่เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่ในกิลด์ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ทั้งคู่จะสลบน็อคหลับกันไปทั้งคู่ ตื่นมาก็คงถามหาผลแพ้ชนะ ซึ่งนั่นแหละ ถ้าพรุ่งนี้มีคนที่มีสติพอจะจำได้ล่ะนะ

    ลัคซัสเองก็เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว

     

    เขากลับมาจากภารกิจ แน่นอนว่าดึกดื่นเสียจนผู้คนในกิลด์ต่างเมาหลับกันไปหมด จะเหลือก็แต่หน้าเดิมๆอย่างมาคาโอ วาคาบะ และคาน่าที่ดูใกล้จะไม่ไหวแล้ว

    อ่าว ไง ลัคซัสกลับมาแล้วเหรอลัคซัสพยักหน้ารับ พยายามเดินแหวกและเลี่ยงพื้นที่ผู้คนที่เกลื่อนกลาด เดินเข้ามาจนถึงบริเวณบาร์ข้างในที่ทั้งสามอยู่

    ง๊ายยยยย ลัคซ้าดดดดดดด เอิ่ก... แทบล้มลงไปเพราะไม่ทันตั้งตัวตอนที่คาน่าโถมทั้งตัวมาที่เขา ลัคซัสรับเอาไว้ กอดเอวอีกฝ่ายไว้หลวมๆพยุงไม่ให้คนเมาไม่มีสติล่วงลงมาจากเค้าท์เตอร์บาร์  คาน่าดื่มหนักขึ้นทุกวัน หรืออาจจะทุกวินาทีจนจากที่เฉยๆลัคซัสก็ชักเป็นกังวล นี่ถ้าเผลอเมาจนแก้ผ้าไม่เป็นงานตามล้างตามเช็ดหรือไง

    รู้งี้น่าจะแยกกลับบ้านไปเลยอย่างที่ฟรีดแนะนำ

     

    ห้ามๆยัยนี่ซะบ้าง หันไปเอ็ดผู้ใหญ่ที่สุดในที่นี้สองคนที่ยิ้มแห้งไปชั่วครู่ ก่อนจะตบไหล่เขาเบาให้ไม่ต้องจริงจัง

    คาน่า คาน่า ลัคซัสเรียกชื่อคนที่ไม่มีท่าทีจะออกไปจากตัวเขา พอพยายามมองดูถึงได้รู้ว่าหลับไปแล้ว

    ไหนๆก็ไหน นายพายัยนั่นไปที่ห้องพักทีละกัน เอิ่ก... พวกฉันก็เมาจะแย่ ลัคซัสส่ายหน้าให้ แต่ก็พยุงร่างของคาน่าขึ้นพาดบ่า เขาเริ่มรู้สึกคิดผิดที่ย้อนกลับมาที่กิลด์ เหมือนกลับมาตามล้างตามเช็ดยังไงไม่รู้ เขาพาร่างของเธอมายังห้องพักภายในกิลด์ แปลกใจไม่น้อยตอนที่เห็นร่างของเด็กผมสีฟ้าที่คุ้นดี สัปหงกหงึกอยู่บนเก้าอี้ ในมือมีหนังสือที่เปิดอ่านค้างไว้

    งือ... ลัคซัสหรอ ลัคซัสพยักหน้าให้ เลวี่จึงลืมตาตื่นเต็มตา ก่อนจะกระโดดลงมาจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่

    ทำไมไม่ไปนอนที่เตียงดีๆเขาถามในขณะที่วางร่างของคาน่าลงกับเตียง กลัวยัยตัวเล็กจะปวดคอเมื่อยตัวที่ต้องไปนั่งหลับแบบนั้น

    ก็กลัวว่าจะมีคนเมาพับมาอีกน่ะสิ แล้วก็มีเห็นไหม เลวี่บุ้ยปากมองคาน่าที่หลับยิ้มไม่รู้เรื่อง จะว่าไปภายในห้องนี้ก็มีแต่พวกผู้หญิงที่เขาคุ้นหน้าดีนอนกันอยู่ทั้งนั้น หรือพูดอีกอย่างคือมีแต่พวกน้องสาวภายในกิลด์ของเขาทั้งนั้นจะยัยคาน่า เลวี่ หรือว่าจะเป็นมิร่าเจน

    แต่เขาไม่ขอนับยัยตัวแสบเอลซ่าเป็นน้องละกัน

     

    ลัคซัสขยับเข้าไปใกล้เตียงของมิร่าเจน ภาพที่เขาเห็นทำให้รู้สึกประหลาดอยู่ในใจ แต่ลัคซัสค่อนข้างมั่นใจว่ามันเป็นความรู้สึกในแง่ที่ดี

    อย่างน้อยหัวใจเขารู้สึกใกล้เคียงกับคำว่าอบอุ่น

     

    พี่น้องสตาร์อุสสามคนนอนก่ายกอดกันกลมบนเตียงลังไม่กว้าง แต่ใบหน้าก็ยังบ่งบอกถึงความสุขดี น้องชายและสาวกอดร่างของพี่คนโตตรงกลางไว้ ใบหน้าที่เริ่มสวยงามอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆยังมีสีแดงระเรื่อ คงเมาหนักจนลัคซัสคิดสภาพไม่ออก

    ช่วงหลังเขากับมิร่าเจนไม่ค่อยได้พูดคุยกัน ถ้าจะต้องโทษใครก็คงเป็นเพราะเขาที่เลือกจะเก็บตัวอยู่แต่ชั้นสอง แต่ทุกครั้งที่มองลงมาทีชั้นล่าง อารมณ์บางอย่างในดวงตาของเด็กสาวคนนี้ทำให้เขาระคนสงสัย

    ทำไมต้องเจ็บปวด?

    ไมค่อยเข้าใจนัก แต่เขาก็รู้ว่ามิร่าเจนพยายามอย่างหนักที่จะเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่ง อาจจะเพราะอยากเอาชนะเอลซ่าด้วย แต่เขาคิดว่าเหตุผลหลักคงอยากปกป้องสิ่งสำคัญอย่างครอบครัว ภาพที่เขาเห็นตอนนี้บอกชัดเจน

    เช่นเดียวกับเขา ลัคซัสเองก็อยากจะปกป้องแฟรี่เทลที่เป็นเหมือนครอบครัว

    ถึงจะไม่เคยได้รับการยอมรับ ถึงจะถูกมองด้วยสายตาลำเอียงและคำนินทา เขาก็ยังคงอยู่ที่นี่

    มิร่าเจนน่ะเก่งกาจ แค่ยังขาดประสบการณ์  จู่ๆความคิดที่ว่าจะลองพายัยนี่ไปร่วมภารกิจด้วยก็แวบเข้ามาในหัวโดยที่ลัคซัสไม่เข้าใจนัก

    เขาไม่อยากพาครอบครัวไปเสี่ยง แต่กลับอยากให้มิร่าเจนไปร่วมกับภารกิจของจอมเวทย์ระดับเอส

    หึ ขำกับตัวเอง บางทีเขาอาจจะเหนื่อยสะสมมากเกินไป สมองก็เลยทำงานรวนๆนั่นแหละ

    ขำอะไรเหรอ?

    เปล่า ลัคซัสปฎิเสธเลวี่ที่เข้ามาแทรกท่ามกลางความคิดแล้วไม่กลับบ้านหรือไง?

    เลวี่ส่ายหน้า ไม่ล่ะ พวกเจ็ทกับดรอยอยู่ที่นี่เหมือนกัน

    หือ? ลัคซัสเลิกคิ้ว แปลกใจที่จู่ๆทั้งสามก็สนิทกัน บางทีเขาอาจจะทำภารกิจมากไปจนไม่มีเวลาได้ทันสังเกต

    น่าแปลก... ในเมื่อเขาดันจำได้ถึงทุกสายตา ทุกเฉดดวงตาสีฟ้าของพี่สาวสตาร์อุส หม่นหมองอย่างไร สดแล้วเป็นยังไง เขากลับจำมันได้ดีเลย

    เป็นอะไรของแกเนี่ย ลัคซัส!

     

    ลัคซัสไม่น่ากลัวจริงๆด้วย ฮิ”  จู่ๆเสียงหัวเราะใสแบบกลั้นระดับเสียงไม่ให้รบกวนคนที่หลับอยู่ของเลวี่ทำให้ลัคซัสขมวดคิ้ว

    คิดว่าฉันน่ากลัว?

    อืม เลวี่พยักหน้าเบาตอนแรกที่มิร่าเจนบอกว่าลัคซัสไม่ได้น่ากลัวก็ไม่เชื่อหรอกนะ คนอื่นก็เถียงกันจะตาย

    “….”

    แต่ก็พอเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมมิร่าเจนพูดแบบนั้น

    ทำไมล่ะ ลัคซัสทวนคำอย่างสนใจ

    ก็ดูสายตาเวลาที่ลัคซัสมองมิร่าเจนสิ  ถึงจะนิ่งเฉยแต่ไม่แข็งกระด้าง แต่ดูเหมือนกำลังใส่ใจ... จดจำ เก็บรายละเอียด ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก แต่ในฐานะคนที่เป็นคนมองดูก็ยังรู้สึก อืม... ยังไงดีล่ะเลวี่ทำท่าใช้ความคิด พยายามที่จะอธิบายหาคำจำกัดความให้กับสิ่งที่เธอรู้สึก

    เหมือนถูกมองอย่างถูกรัก...ล่ะมั้ง

     

     

     

     

     

    Heart&soul

    มาแล้วนะ มาโครตช้าแต่ก็มา  HEART&SOUlบทที่ห้าแบบเต็ม
    ขอโทษที่หายไปนานมากกกกก โดนชีวิตมหาลัยลากไป หลั่งน้ำตาเลย
    แถมกลับไปติ่งอีกครั้ง ยาวเลยยาวววว เพิ่งจะมีไฟกลับมาน่อย
    ช่วงนี้กลับมาตอนแฟรี่เทลจะจบ ฮาาา แต่ก็ดีค่ะ ฟิคนี้เขียนอิงออริอยู่แล้ว
    ถ้าออริจบเราแบบไหน มีโมเม้นเพิ่มจะเป็นผลให้กับอารมณ์คู่
    อยู่แล้ว
    คงกลับมาเรื่อยๆนะคะ ปิดเทอมอยู่ จะพยายามให้จบเฟสแรกค่ะ


    สำหรับรูปเล่ม ฮาร์ท แอนด์ โซล ตอนนี้
    ภาพประกอบเสร็จแล้วค่ะ ปกกับที่คั่นด้วย
    แม้เนื้อเรื่องจะยังเลยก็ตาม 5555555

    เล่มแรกจะรวม 8 ตอน +2 ตอนพิเศษค่ะ


    ยังไงถ้าใครสนใจ ติดตามได้เรื่อยๆนะคะ

    ขอบคุณที่ให้ความรักมิร่าซัสและฟิคเอื่อยๆเรื่องนี้นะคะ <3


    ติชม คำผิด กรี๊ดกร๊าด ตามสบายเลย
    ฝากคอมเม้นให้เป็นกำลังใจด้วยนะคะ
    ขอขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้นะคะ รักน้าาา 

    #ด้วยรักและมิร่าซัส


     



     








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×