คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 2 จำเลยรัก [1]
ตอนที่ 2
จำเลยรัก
หน้าประตูห้องพักคนไข้พิเศษมีบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ยืนประจำที่คนละด้าน
และยังรวมไปถึงบริเวณรอบๆอีกด้วย อาจจะดูเยอะแต่ไม่ได้ทำให้ผิดสังเกตเสียจนทำให้คนไข้รายอื่นและพยาบาลตกอกตกใจจนแตกตื่นกันไปหมด
พวกเขาทำหน้าที่เพียงแค่คอยสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆและเตรียมพร้อมทุกเวลาก็เท่านั้น
ส่วนภายในห้องนั้นเหลือแค่ผู้เป็นนายกับลูกน้องคนสนิทแค่สองคนแล้ว
เพราะอัลนัลโด้และมือขวาของเขาขอตัวกลับไปทำธุระก่อน
แล้วจะกลับมาเยี่ยมอีกครั้งอย่างแน่นอน
“เสี่ยแน่ใจแล้วนะครับ ที่จะยอมปล่อยคุณหนูให้ไปอยู่กับคุณพอลตามลำพัง”
เฮดิสถามให้แน่ใจอีกครั้งเพราะแม้จะคอยสนับสนุนแต่ก็มีความกังวลอยู่บ้าง
ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันก็เหมือนน้ำมันกับไฟดีๆนี้เอง
“หึหึ
ฉันไม่มีทางเลือกมากนักหรอกเฮดิส แล้วอีกอย่าง
ฉันเชื่อว่าพอลจะปราบพยศลูกสาวฉันได้” เสี่ยวอลันเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าคาดหวังเป็นอย่างมาก
“พูดแบบนี้
เหมือนเสี่ยจะยอมยกคุณหนูให้เขาเลยนะครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมกับเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าเจ้านายของเขาไม่ได้มีความรู้สึกหวงแหนเฌอเมวีร์เลย
แทบจะยกใส่พานแล้วถวายให้อัลนัลโด้เสียด้วยซ้ำ
“นายคงกำลังคิดว่าฉันตัดสินคนเร็วไปใช่ไหม
ฉันผ่านร้อนผ่านหนาวมากมายเหลือเกินเฮดิส ฉันมองคนได้ทะลุปรุโปร่ง
ฉันรู้ว่าคนแบบไหนที่ฉันสมควรไว้ใจ” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นก่อนที่จะไอออกมาอย่างแรง
จนเฮดิสต้องรีบรินน้ำใส่แก้วแล้วส่งให้ผู้เป็นนายดื่มแก้กระหาย
“ผมเปล่าคิดอย่างนั้น
เพียงแค่ถามเพื่อความแน่ใจ ถ้าเสี่ยไว้ใจเขา ผมก็ไม่มีปัญหา”
หลังจากดูดน้ำเข้าไปหลายอึกจนรู้สึกดีขึ้น คนเจ็บก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เชื่อเถอะว่าพอลจะช่วยฉันดูแลเรนได้”
เสี่ยอลันบอกด้วยความมั่นใจ “พวกเขาเป็นคนดีนะ
นิสัยใจคอของพอลก็คงไม่ผิดไปจากพ่อและแม่ของเขาหรอก...นายก็เห็นกับตาตัวเองแล้วนี่เฮดิส”
เสี่ยอลันหมายถึงเหตุการณ์ที่อัลนัลโด้เข้ามาช่วยพวกเขาไว้ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ครับเสี่ย” เฮดิสตอบรับพร้อมกับรับแก้วน้ำไปวางบนโต๊ะอย่างเดิม
แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องเดินออกไปรับ เป็นสายจากลูกน้องที่เฝ้าอยู่ชั้นล่างอีกกลุ่มหนึ่ง
ร่างใหญ่ตอบรับแค่ไม่กี่คำก็วางสายก่อนจะหันมาบอกคนเจ็บที่นอนหลับพักสายตาอยู่บนเตียง
“คุณหนูกำลังจะขึ้นมาครับ”
“รู้ช้ากว่าที่ฉันคิดซะอีกนะ”
เสี่ยอลันพึมพำเสียงแผ่วทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ไม่ได้นึกแปลกใจที่เฌอเมวีร์รู้เรื่องที่เขาโดนยิงแล้ว
กลับหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวกำลังจะมา
เปลือกตาเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้าก่อนจะจับจ้องไปที่ประตูห้องอย่างรอคอย
เพียงไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกแล้วร่างเพรียวบางของเฌอเมวีร์ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน
“แด๊ดดี้เป็นยังไงบ้างคะ
เจ็บมากหรือเปล่า...มันน่าโกรธจริงๆที่ไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับเรนเลย
ถ้าเรนไม่คาดคั้นถามเอง เรนก็คงไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองกำลังนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล”
เฌอเมวีร์โผเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อด้วยความห่วงใยสุดหัวใจ
ก่อนจะตัดพ้ออย่างเคืองขุ่น
“แด๊ดสั่งทุกคนไว้เองแหละ
ไม่อยากให้ลูกตกใจ อีกอย่างแด๊ดก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก โชคดีที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน”
“จะมากหรือจะน้อยเรนก็มีสิทธิ์รับรู้ค่ะ
แด๊ดดี้อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วเรนจะอยู่ยังไงคะ” หญิงสาวเบ้หน้าเหมือนกับจะร้องไห้ แค่คิดน้ำตายังคลอเต็มเบ้าแล้ว
“แด๊ดขอโทษครับ
อย่าร้องไห้นะคนดีของแด๊ด” เสี่ยอลันปลอบโยนบุตรสาวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยน
มือแกร่งยกขึ้นมาลูบศีรษะทุยสวยอย่างเบามือ
“ใครเป็นคนยิงแด๊ดดี้ของเรนคะ”
คราวนี้ร่างบางหันไปถามเฮดิสเสียงเหี้ยม
ท่าทางถอดแบบออกจากผู้เป็นบิดาอย่างไม่ผิดเพี้ยน
แววตาแสดงความโกรธแค้นออกมาอย่างเปิดเผย เธอสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...” เจ้าของร่างสูงใหญ่ดูจะตัวเล็กลงทันตาเห็นเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนูของเขา
เขาเหลือบสายตาไปมองนายใหญ่อย่างขอความเห็น
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวคาดคั้นเสียงดัง
“ผมเองก็ยังไม่แน่ใจครับคุณเรน แต่เราจะต้องสืบรู้ให้ได้ในเร็วๆนี้แน่นอนครับ”
เมื่อได้รับสัญญาณแล้วว่าควรจะตอบคำถามแค่ระดับไหน
เขาจึงรายงานหญิงสาวเพียงแค่นั้น ทั้งสองคนทราบดีว่าเฌอเมวีร์เป็นคนใจร้อน
ถ้าเผลอบอกความจริงไปทั้งหมด ความตายอาจจะคืบคลานเข้ามาเร็วขึ้นเท่านั้น
“ไม่ได้ดั่งใจเลย” เธอบ่นอย่างหัวเสีย
“เรน แด๊ดมีเรื่องจะคุยด้วย
และจริงจังนะ” เสี่ยอลันย้ำคำหนักแน่น มองสบตาบุตรสาวนิ่ง
หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นบ่งบอกว่าเขาจริงจังแค่ไหน
“มีเรื่องอะไรหรือคะ” ริมฝีปากบางเผยอออกอย่างรอคอยคำตอบ
“สถานการณ์ตอนนี้กำลังไม่ปลอดภัย
ระหว่างที่แด๊ดกำลังตามหาตัวคนร้ายอยู่
แด๊ดอยากให้เรนไปอยู่ที่อื่นก่อน...แค่ชั่วคราวเท่านั้น
พอเรื่องทุกอย่างจบแด๊ดจะไปรับเรนด้วยตัวเอง” คนเป็นพ่อกำลังหว่านล้อมเริ่มต้นโดยการใช้ไม้อ่อนก่อน
และค่อยเพิ่มระดับขึ้นทีละขั้น
“ไม่!
เรนจะอยู่กับแด๊ดดี้” เธอตอบเสียงแข็งอย่างไม่ต้องคิด
“เรน ฟังแด๊ดนะ
ถ้าเรนอยู่แด๊ดจะห่วงหน้าพะวงหลัง”
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรนนะคะ
เรนเอาตัวรอดได้ อีกอย่างเรนอยากช่วยแด๊ดดี้ตามหาคนร้ายด้วย” เธอบอกอย่างกล้าหาญไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด
“แด๊ดไม่ยอมให้เรนมาเสี่ยงเด็ดขาด
อีกอย่างแด๊ดก็ไม่ได้ให้เรนไปอยู่ที่ไหนไกลๆซะหน่อย
แค่ไปหลบที่เกาะของเพื่อนแด๊ดสักพัก เขาสัญญาแล้วว่าจะดูแลเรนเป็นอย่างดี” เสี่ยอลันบอกด้วยน้ำเสียงเข้มและจริงจัง
เป็นการบอกกลายๆว่าไม่ว่าเฌอเมวีร์จะยอมหรือไม่เธอก็ต้องไป
“ทำไมต้องผลักไสไล่ส่งเรนไปอยู่ที่อื่นด้วย
บ้านของเราคนของแด๊ดดี้ก็เยอะแยะ ทำไมไม่ให้พวกเขาดูแลเรนล่ะค่ะ” เมื่อเห็นเค้าลางว่าเธอเลี่ยงไม่ได้แน่ร่างบางจึงออกอาการดื้อดึง
“เรนพูดเหมือนไม่รู้จักนิสัยของตัวเอง
เคยยอมให้พวกเขาดูแลหรือเปล่า...ยอมเชื่อฟังแด๊ดสักครั้งจะได้ไหม แด๊ดขอร้องละ”
ผู้เป็นพ่อถามกลับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงติดจะดุ ก่อนจะอ่อนลงในประโยคท้าย
“แต่เรนก็เป็นห่วงแด๊ดดี้เหมือนกันนี่คะ
เรนไม่อยู่แล้วใครจะดูแล” หญิงสาวเปลี่ยนวิธีด้วยการออดอ้อนเสียงหวาน
“ผมจะดูแลเสี่ยเองครับ” เฮดิสตอบแทนผู้เป็นนาย
“ใช่...อยู่ที่นี่ก็มีเฮดิสคอยดูแลอยู่แล้ว
แต่ถ้าเรนยังอยู่ แด๊ดจะคอยเป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย เรนคือดวงใจของแด๊ด แด๊ดจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมันทำร้ายหัวใจของแด๊ดเป็นอันขาด”
เสี่ยอลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่พร้อมกับกุมมือเล็กนุ่มของลูกสาวไว้แน่น
เป็นการยืนยันคำพูดของเขาด้วย
“ดูแลกันยังไงปล่อยให้ถูกยิงได้”
เธอบ่นใส่ทั้งเจ้านายและลูกน้อง ใบหน้าสวยงอง้ำ
เฮดิสก้มหน้าลงอย่างยอมรับผิด
“ไม่เอาน่า อย่าโทษเฮดิสเลย
เขาทำเต็มที่แล้วแต่แด๊ดประมาทเอง”
“ผมจะไม่ให้เหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นอีกครับคุณหนูเรน
โปรดเชื่อใจผมอีกสักครั้ง” แววตามุ่งมั่นถูกส่งมาให้เฌอเมวีร์
ซึ่งจริงๆหญิงสาวก็เชื่อฝีมือบอดี้การ์ดคนนี้เต็มร้อยอยู่แล้ว
เพียงแต่พูดออกไปด้วยอารมณ์ที่แง่งอนต่อผู้เป็นบิดาเท่านั้น
“แล้วทำไมต้องเป็นเกาะด้วยล่ะค่ะ”
หญิงสาวถามเสียงอ่อนลง ทำให้คนเป็นพ่อใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะถ้าถามแบบนี้แสดงว่าบุตรสาวเริ่มยอมแล้ว
“เพราะมันเป็นเกาะส่วนตัว
ไม่มีใครสามารถเข้าได้จนกว่าจะได้รับอนุญาต ที่นั่นจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับลูก...แด๊ดรับรองได้เลยว่าลูกจะไม่มีทางเบื่อ
เพราะที่นั่นมีทุกสิ่งทุกอย่างครบครันและสะดวกสบายแน่นอน” คนเป็นพ่อรีบอธิบายเหตุผล
พร้อมกับหลอกล่อไปในตัว
“เกาะของใครค่ะ เพื่อนแด๊ดดี้คนไหน
เรนเคยรู้จักหรือเปล่า” หญิงสาวยังคงซักต่อ สีหน้าไม่ได้ยินดียินร้ายกับสิ่งที่บิดาสาธยายมามากมาย
“เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตแด๊ดเอาไว้เอง...เขาเป็นคนดีมากนะเรน
แด๊ดอยากให้เรนทำตัวดีๆกับเขา” คนเป็นพ่อเอ่ยขอร้องแกมบังคับ
“พูดเหมือนเรนชอบทำตัวแย่ๆอย่างนั้นแหละ”
เธอว่าปากยื่น
ความคิดเห็น