ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์ร้าย ใต้เงารัก

    ลำดับตอนที่ #19 : >>Chapter14

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.32K
      20
      27 ต.ค. 52


    Chapter 14

     

                พิมลดาเหม่อมองตึกรามบ้านช่องผ่านกระจกใสบานใหญ่จากห้องทำงานบนอาคารสูง ฝนที่ตกโปรยปรายไหลเป็นสายน้ำบนกระจก มองดูไม่ต่างจากน้ำตาที่ไหลบ่าลงจากเบื้องบนด้วยความอาดูร ท้องฟ้าที่เคยสดใสยามนี้กลับมืดครึมรถยนต์หลายคันติดยาวเป็นขบวนอยู่บนถนน หญิงสาวถอนใจอีกครั้งก่อนหันหลังให้กับภาพชวนหดหู่หัวใจนั่น...

                เธอมีเรื่องหนักหนาในจิตใจที่ต้องระลึกถึงมากเกินพอแล้ว และไม่ต้องการให้บรรยากาศยามบ่ายที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายนี้เข้ามามีผลกระทบกับจิตใจเธออีก พิมลดาเดินตัดข้ามห้องไปที่พนังด้านหนึ่งซึ่งมีแผงวงจรไฟฟ้าควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างในห้องอยู่ มือเรียวสวยแตะที่ปุ่มควบคุมม่านไฟฟ้ารอจนผ้าม่านสีน้ำเงินผืนใหญ่บดบังภาพชวนเศร้านั้นเสีย

                ร่างเพรียวในชุดสูทสีดำสนิทยังคงเดินวนไปมาในห้องทำงานใหญ่ คิดไม่ตกว่าอะไรที่กวนใจเธอในเมื่อผ้าม่านผืนใหญ่ก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างดียิ่ง หากทำไมหัวใจเธอยังหนักเหมือนแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ...

                สมมุติว่าถ้าเธอลองคิดแบบไม่หลอกตัวเองดูสักครั้ง พิมลดารู้ว่าเธอจะได้คำตอบ... หัวใจเธอไม่ได้แบกโลกเอาไว้ทั้งใบหรอก...แต่หัวใจเธอยังคงอัดแน่นไปด้วยความรักที่มีให้ผู้ชายคนหนึ่งอย่างมากล้น ความรักที่ถูกกักถูกเก็บไว้อยู่ในส่วนลึกของหัวใจมาตลอดเวลาหลายปี ทุกสิ่งที่เพียรพยายามทำใจมาก็ได้สูญเปล่าไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้

                ความพยายามที่พร่ำบอกตอกย้ำกับตัวเองมาเสมอว่าเธอไม่คู่ควรกับเขา ไม่มีทางย้อนกลับไปเป็นผู้หญิงดีๆใสซื่อคนเดิมที่เขาเคยรู้จักได้อีก มันสูญสลายไปเพียงเพราะเขายืนอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมแววตาตัดพ้อ โกรธแค้นและความเสียใจทั้งหมดทั้งมวลที่เขาแสดงออก ทำให้รู้ว่าเธอคิดผิดมาตลอด...

                เพราะคนสำคัญคนนี้ใช่ไหม...ที่ทำให้พิมเพิ่งมานึกถึงพี่เอาตอนนี้

                พิมกลับเขามาในชีวิตพี่ แค่เรื่องลูกใช่ไหม...มีแต่ออกัสสินะ...ที่ต้องการพ่อ

                สองวลีนี้ไหลเวียนอยู่ในสมองของเธอเหมือนกับแผ่นเสียงตกร่อง มับบอกให้เธอรู้ว่าเขาเองก็เจ็บปวดกับความรักและความผิดหวังไม่ต่างไปจากเธอ... พี่วินคนเก่าไม่ได้ตายจากไปแล้วอย่างที่เธอเคยคิด เขาก็ยังคงเป็นพี่วินคนเดิม...เพียงแต่อยู่ลึกลงไปเท่านั้น

                เธอควรจะสะใจใช่ไหม... ควรจะสมเพชเวทนากับความรู้สึกของเขาใช่ไหม เอาให้สาสมกับทุกสิ่งอย่างที่เขาเหยียบย่ำความรักของเธอเมื่อสี่ปีก่อน...

                หึ หึพิมลดาหัวเราะให้กับความคิดนั้น เธอจะทรมานเขาให้ตายทั้งเป็นก็ยังได้ พาลูกหนีไปให้หัวใจเขาสลายเล่นก็ทำได้ ให้เขาคลั่งเป็นบ้าเป็นหลังไม่ต่างจากที่เธอเคยเป็นตอนเขาจากไปในเช้าวันนั้นเมื่อสี่ปีก่อน

                ทำให้ผู้ชายอย่างเขาตายทั้งเป็นมันง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเสียอีก หากเธอมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าคงไม่ใช่เพียงแต่เขาหรอกที่จะตายทั้งเป็น...

                ติ๊ดๆ’!!

                ไหล่บางสะท้านขึ้นทั้งตัว ตื่นจากภวังค์ของตัวเองทันทีเมื่อเสียงจากโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานดังขึ้น พิมลดาเดินตัดข้ามห้องกลับมาที่โต๊ะ มือกดแป้นบนโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว รู้ดีว่าปลายสายนั้นคือเลขาหน้าห้องของเธอเอง

                “ว่าไงคะ คุณเรมิกา”

                คุณพิมคะ คุณอรอินทร์อยากจะขอเรียนสายด้วย ให้ดิฉันโอนเข้าไปเลยไหมคะ

                พิมลดาชะงักเพียงเล็กน้อย ไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะโทรหาเธอ หรือว่าพี่วิน...

                “โอนเข้ามาเลย สายสองนะ”

                ค่ะคุณพิมปลายสายรับคำก่อนตัดไป

                พิมลดารอเพียงไม่นาน สัญญาณไฟกระพริบเริ่มทำงาน บ่งบอกให้รู้ว่าปลายสายจากเพื่อนรักถูกโอนเข้ามาเรียบร้อย หญิงสาวกดรับทันทีก่อนเอ่ยทักพร้อมพยายามทำเสียงให้ฟังดูเป็นปกติที่สุด “สวัสดีจ๊ะอร”

                “เป็นไงบ้างล่ะพิม เงียบหายไปเลยนะเธอ พี่วินเข้าไปหาเธอรึยังล่ะ”เสียงจากปลายสายนั้นดูกระตือรือร้นยิ่งนัก

                พิมลดาแอบถอนใจเบาๆ ไม่ให้ปลายสายได้ยิน เรื่องที่เคยกังวลว่าพี่วินจะเอาเรื่องเธอไปปรึกษากับครอบครัวนั้นคลายใจได้แล้วในตอนนี้ ...อย่างน้อยก็ตอนนี้ล่ะนะ!

                “ก็พบแล้ว เมื่อวาน...อรมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ”

                แล้วพี่วินเขาว่าไงบ้างล่ะ เล่าให้ฟังบ้างสิ

                หญิงสาวขมวดคิ้ว สะดุดหูกับน้ำเสียงที่ดูรุกล้ำอยากรู้จนเกินพอดีของเพื่อนสาวเล็กน้อย หากก็ไม่ได้คิดติดใจอะไร เธอรู้ดีว่านอกจากคนในครอบครัว อรอินทร์เป็นเพื่อนที่ดีและใส่ใจเธอมาตลอด

                “พี่วินก็ได้พบตาหนู คุยกัน ทานข้าว...ก็เท่านั้น” ไม่รู้เพราะอะไร แต่พิมลดารู้สึกว่าตัวเองไม่ควรเป็นฝ่ายมาอธิบายเรื่องนี้ต่อคนในครอบครัวของเขา แม้คนๆนั้นจะเป็นเพื่อนรักของเธอก็ตาม เพราะมองในแง่ของสถานะภาพต่างๆแล้วการพูดให้น้อยน่าจะดีกว่า “พิมว่าอรไปถามพี่วินเองจะดีกว่านะ”

                ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องของเธอกับพี่วิน ที่เธออยากให้มันมีผลกระทบต่อครอบครัวของเขาให้น้อยที่สุด

                โอเค!ไม่ถามก็ได้ฉันรู้ดีว่าเธอน่ะ ลองว่าไม่พูดจะเอาอะไรมาง้างปากก็ไม่เปิดอยู่ดีหญิงสาวรู้ตัวดีว่าถูกเพื่อนรักประชดเข้าให้แล้ว หากประโยคต่อมาของอรอินทร์นี่สิ ที่ทำให้พิมลดาถึงกับอึ้ง

                แล้วนี่พิมจะกลับลอนดอนเมื่อไรจ๊ะ เผื่ออรจะได้ตามกลับไปเที่ยวด้วย

                นี่ถ้าโปรโยคนี้ไม่ได้ออกมาจากปากคนที่เป็นเพื่อนรักกันมานานล่ะก็...เธอคงต้องคิดว่ามันเป็นประโยคบอก ไล่

    ที่ฟังดูเยือกเย็นมากเชียวล่ะ หากเมื่อคนพูดเป็นเพื่อนรักพิมลดาจึงเพียงแต่หัวเราะแห้งๆก่อนตอบกลับไป “อีกสักพักจ๊ะ ตอนนี้พิมกำลังวางแผนจัดกางแต่งงานอยู่”

                งานแต่งใคร พิมกับพี่วินงั้นเหรอ

                แม้คำถามนั้นจะฟังดูห้วนไปหน่อย หากพิมลดาก็ตอบกลับอย่างใจเย็น “จะใช่ได้ยังไงล่ะจ๊ะอร!...พิมช่วยวางแผนงานแต่งให้กับคุณครูของออกัสต่างหากล่ะ เผอิญเขาทราบมาว่าพิมทำงานด้านนี้น่ะ เขาเลยมาปรึกษาพิมก็ถูกชะตากับเขาด้วย เลยตกลงไป”

                อ๋อ...แล้วไป เล่นเอาอรใจหายหมด คิดว่าพี่วินเลือนงานแต่งกับคู่หมั้นเพราะจะไปแต่งกับพิมเสียอีก

                “...คิดมากน่ะอร” พิมลดากล่าว หากในหัวร่วมปวดรุมเหมือนไข้กำลังขึ้น “เดี๋ยวพิมต้องเข้าประชุมช่วงบ่าย เอาไว้วันหลังค่อยไปทานข้าวกันนะอร”

                โอเคๆ แล้วคุยกันนะพิม

                “จ๊ะๆ เท่านี้นะ ...สวัสดี”

                พิมลดาวางหูโทรศัพท์อย่างเหนื่อยอ่อน เธอรู้จักนิสัยของอรอินทร์เป็นอย่างดี คำพูดตรงๆที่บางทีก็พุ่งเข้าใส่เธอแรงๆของอีกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว หากเธอยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าเพื่อนรักเหมือนกับตั้งใจจะกระแทกความคิดที่ว่าเธออาจจะกำลังทำลายผู้หญิงดีๆอีกคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย...

                หญิงสาวถอนใจ เพื่อนรักไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ซ้ำร้ายกลับจะยิ่งทำให้เธอเครียดเข้าไปอีก

    ************************

    ขอคอมเมนท์ + โหวตด้วยนะค่ะ
    ขอบคุณมากๆค่ะ




    ปล.มุมคุยกับผู้อ่าน

    เป็นยังค่ะ เมื่อวานไม่ได้ อัพ เครียดกันเลยสิ อิอิ เมื่อวานอันมั่วแต่ทำหน้านิยาย อยู่ ไม่รู้เด็กดีเป็นอะไร เนื้อหามันถึงได้ หดหายไปเองตามใจชอบ ตอนทนี่ที่บ้านย เปิดถึงแค่รูปออกัสเอง เซ็งมาก ลงกี่ที่ก็เป็นเหมือนเดิม ไม่เข้าใจเลยจริงๆค่ะ ตอนนี้สำคัญนะค่ะ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มีมองที่เดียวค่ะ...

    ขึ้นอยู่กับว่า ทุกคนมองออกไหม ว่าตอนนี้ของเรื่องมันสำคัญยังไงเอ่ย... ติกตอก ติกตอก... อ่อ รู้ไหมเอ่ย อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×