ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์ร้าย ใต้เงารัก

    ลำดับตอนที่ #9 : >>Chapter7

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 52


    วิวาห์ร้าย...ใต้เงารัก
    Chapter7

    พิมลดากำลังสอนการบ้านลูกชายอยู่ เมื่อโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น หญิงสาวมองเบอร์ที่โทรเข้ามาด้วยความกังวล อรอินทร์ก่อนจะหันไปบอกกับลูกชายตัวดีที่กำลังมองคุณแม่อย่างสนใจ

    อาอรโทรมา หนูทำการบ้านไปก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่กลับมา...อย่าซนนะ ไม่วายต้องดักคอพ่อลูกชายตัวดี

    หญิงสาว เดินออกไปคุยโทรศัพท์มือถือ แถวๆระเบียงติดสวนดอกไม้ข้างรั้วบ้าน กลิ่นลีลาวดีหอมแตะจมูก หากนั้นไม่ได้ทำให้ความกังวลในใจของเธอคลายตัวลง

    สวัสดีจ๊ะอร ...มีเรื่องอะไรรึเปล่าจ๊ะ

    เรื่องใหญ่เชียวล่ะ... ปลายสายตอบมาด้วยน้ำเสียงที่คนฟังจับไม่ถูก ว่าคนพูดตื่นเต้นหรือตื่นกลัว

    เรื่องอะไรกัน มีอะไรพิมลดาเริ่มอยากรู้ไปด้วย หวังว่าเธอคงไม่ได้บอกพี่วินเรื่องเรากับลูกไปแล้วหรอกนะหญิงสาวระแวง เพราะเธอยังไม่พร้อมจะเผชิญกับเขาแน่ๆ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้

    และพิมลดายินดีอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนรัก

    โอ๊ย...ยัง ยังไม่กล้าบอกหรอกแม่คุณปลายสายแสดงน้ำเสียงให้รู้ว่า หมั่นไส้คนถามเต็มที แต่เรื่องใหญ่พอกัน...อยากลองทายไหม พิม

    พิมลดาไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องอะไร อย่าเล่นเกมยี่สิบคำถามกับเราเลยอร ตอนนี้นึกไม่ออกจริง...ยอมแพ้เลย

    ปลายสายเลิกเล่นเหมือนกัน พิมเธอรู้ไหมว่า พี่บ้านเราตอนนี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ใหญ่มากด้วย เมื่อหัวค่ำพอพี่วินกลับมาถึงบ้านก็เข้าพบคุณพ่อคุณแม่เลย...พี่วินขอเลื่อนการแต่งงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด...เป็นยังไง ใหญ่พอไหมล่ะ

    พิมลดาอึ้ง เธอไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้ และคำถามร้อยพันก็ประดังเขามาในหัวสมองของเธอ แต่คำถามแรกสุดเลยก็คือ...พี่วินเลื่อนงานแต่งงานออกไปทำไม เพราะอะไร

    เป็นไงอึ้งไปเลยใช่ไหมพิม พวกเราก็งงไปเหมือนกัน แต่พี่วินเขาก็ไม่ได้แจกแจงเหตุผลให้เราฟังหรอกนะ บอกเพียงว่า ขอเวลาเขาหน่อยคนปลายสายถอนหายใจอย่างโล่งอก เป็นไง ได้ฟังแล้วใจชื้นขึ้นไหม อรว่าตอนนี้แหละ เวลาสำคัญที่พิมควรจะคุยกับพี่วินให้รู้เรื่อง

    พิมลดาตกใจ คุยอย่างไรล่ะอร เขาจะได้ตอกหน้าเรากลับมาว่า อยากจะแทนที่คู่หมั้นเขาจนตัวสั่นน่ะสิ มันเหมือนฉวยโอกาส เราไม่อยากเอาเรื่องออกัสไปบีบเขา

    คนปลายสายร้องเสียงหลง อย่างปลงๆ โธ่ คิดมากไปได้...พิมสัญญากับอรแล้วนะ ว่าจะคุยกับพี่วินเอง ในเมื่อโอกาสมันมาถึงแล้ว เธอก็ต้องฉวยมันสิหรือจะรอให้ถึงวันที่เขาจะแต่งงาน เธอถึงจะได้กล้าจูงมือออกัสไปบอกว่านี่ลูกเขา

    พิมก็ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น บอกแล้วไงว่าไม่ต้องการทำลายชีวิตใครพิมลดาเถียง หากคำพูดต่อมาของอรอินทร์ก็กระแทกใจเธอเข้าอย่างจัง

    อ๋อ...ไม่ทำลายใคร แต่ยอมทำลายความสุขของลูก ของตัวพิมเองได้ใช่ไหม...ไปคิดดูเอาเองนะ

    เมื่ออรอินทร์ว่างสายไปเรียบร้อยแล้ว หากพิมลดาก็เหมือนกับจะตัวแข็งเป็นหิน เพราะคำพูดสุดท้ายของเพื่อนยังคงดังก้องอยู่ในหัว

    ไม่ทำลายใคร แต่ยอมทำลายความสุขของลูก ของตัวพิมเองได้ใช่ไหม เธอพรากความสุขที่พวกเขาจะได้รู้จักกันมาหลายปี พรากช่วงเวลาที่ออกัสควรจะมีความทรงจำดีๆกับพ่อของแกมานาน...นานเกินไป เพราะความกลัวของเธอเอง เธอเห็นแกตัวหลบตัวเองอยู่ในเกราะกำบังที่หนาแน่น ไม่เผชิญกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะเธอรู้ดีว่าหัวใจยังคงเปราะบางและยังไม่พร้อมจะรับความผิดหวังใดๆอีก

    และคงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...เธอไม่กล้าหวังอะไรเลย

    โธ่...พี่วินขา พิมอยากจะขอโทษพี่สักพันครั้ง ที่หวนเข้ามาในชีวิตของพี่อีก หญิงสาวรำพันมันในใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเพียงใด หัวใจเธอก็ยังคงเป็นของเขา และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขาจะเป็นคนสุดท้ายบนโลกใบนี้ที่เธออยากลืม

    ในสายตาคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่หรือลุงจอร์ช อัศวินเป็นมารร้ายที่ทำลายหัวใจและชีวิตเธออย่างเลือดเย็น หากพิมลดาไม่เคยคิดหรือรู้สึกกับชายหนุ่มแบบนั้น เธอมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา มองเห็นจิตวิญญาณที่อ่อนโยนเป็นของเขา คนอื่นอาจจะตัดสินพี่วินจากเปลือกนอกที่เขาแสดงออก แต่เธอเห็นลึกลงไปกว่านั้น...ภายใต้หน้ากากที่ไร้หัวใจ มีชายหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเหงาและทุกข์ทรมานจากความผิดหวัง...และเธอรู้ดีที่สุดว่าอะไรที่ทำให้เขาผิดหวัง

    พิมลดากลับเข้าไปในบ้านหลังงาม พบลูกน้อยกำลังเล่นหมากรุกอยู่กับมิเชล

    ออกัส หนูทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอลูก

    หนูน้อยยิ้มหน้าเป็น ตอบคนเป็นแม่ เสร็จแล้วฮะ เรียบร้อยโรงเรียนไทย

    พิมลดายิ้มในหน้า เธอเชื่อลูกชายว่าเขาทำการบ้านเสร็จแล้วจริงๆ หากยังไม่วายถามพี่เลี้ยงผู้คุมเข้มจอมซนเป็นเซียนของบ้านระหว่างเธอไม่อยู่ เสร็จแล้วใช่ไหมคะ มิเชล

    พี่เลี้ยงสูงวัยหัวเราะ แกล้งทำหน้านึก ก่อนจะหัวเราะเสียงดังเมื่อพ่อหนูน้อยออกัสหัดแจกค้อนวงใหญ่ให้แก่ทั้งคุณแม่และคุณพี่เลี้ยง โทษฐานไม่ไว้ว่างใจตน

    มิเชลยังคงยิ้มเมื่อช่วยยืนยัน เสร็จแล้วแน่ๆ ค่ะคุณพิม คุณหนูเลยชวนป้ามาเล่นหมากรุกรอคุณแม่อยู่ตรงนี้แหละค่ะ

    พิมลดาจูบปากเปียกๆที่ถูกเม้ม เพื่อตีหน้างอนของหนูน้อยอย่างรักใคร่ ลูกรักของแม่...หนูเก่งมากจ๊ะ วันนี้ใครอยากให้แม่ถูหลังตอนอาบน้ำให้นะ ยกมือขึ้นหน่อยเร็วเธอจำได้ว่า เมื่อตอนเย็นระหว่างทางกลับบ้าน ลูกชายของเธอออดอ้อนเป็นการใหญ่ ขอให้เธอช่วยอาบน้ำเป็นเพื่อนเขา

    พิมลดาอาบน้ำกับลูกบ่อยๆ เพราะอีกหน่อยเมื่อเขาโตเป็นหนุ่มก็คงจะไม่อยากมาอาบน้ำกับแม่ให้แม่ถูกหลังให้แบบนี้หรอก... คงไปให้สาวๆที่ไหนทำแทน เด็กสมัยนี้ยิ่งโตเร็วอยู่ด้วย

    พ่อหนูน้อย มองคุณแม่คนสวยด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนยิ้มแป้นอย่างน่ารัก เลิกทำหน้างอนซึ่งความจริงก็ไม่ได้งอนมากมายอะไรเลย โอบแขนเข้าประจบอย่างที่คนมองก็นึกเอ็นดู ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้าๆ พร้อมใบหน้าที่แดงปลั่ง

    ทั้งสามหัวเราะกันอย่างมีความสุข เพราะสำหรับทุกๆคน เวลาทุกวินาทีมีค่าและมีแต่ความทรงจำที่งดงาม สำหรับคนเป็นแม่ไม่มีอะไรจะน่ามองและทำให้มีความสุขไปได้มากกว่าความสุขของลูก

    อีกนานต่อมา เมื่อทั้งแม่ทั้งลูกอาบน้ำกับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างป้อมๆในชุดนอนสีฟ้าอ่อน ยืนบนที่นอนหลังใหญ่ ซ้อนหลังผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่กับเก้าอี้ข้างเตียง ในมือมีแปรงหวีผมอันใหญ่ แขนเล็กๆยกขึ้นลง แปรงผมยาวสยายของผู้เป็นแม่เหมือนกับมันเป็นสิ่งของเปราะบางที่สุดในโลก เพราะหนูน้อยคิดว่าถ้าแรงไปเส้นผมอาจจะขาด หรือคุณแม่อาจจะเจ็บ

    หนูน้อยเรียนรู้ที่จะปรนนิบัติผู้เป็นแม่ด้วยความอ่อนโยน เหมือนที่คนเป็นแม่ทำให้เขามาโดยตลอด

    แม่ฮะ...ออกัสเรียกผู้เป็นแม่ที่กำลังหลับตา ซึมซับความรักของลูกน้อยอย่างอิ่มเอมใจ

    ว่าอย่างไรจ๊ะ เรียกแม่แล้วทำไมไม่พูด

    วันนี้ไม่ต้องเล่านิทานได้ไหมฮะ...ออกัสอยากฟังเรื่องคุณพ่ออัศวินเสียงใสๆนั่น กรีดลึกเข้าไปถึงหัวใจของพิมลดา หากเธอก็รู้ว่าต้องตอบ เอาสิจ๊ะ...แต่หนูต้องนอนลงก่อนนะคนดี

    ขาดคำหนูน้อยก็ส่งแปรงหวีผมให้ผู้เป็นแม่นำไปวางหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนหญิงสาวจะโถมร่างตามลูกชายลงบนที่นอนหนานุ่ม สองร่างกอดกันแน่นเมื่อต่างฝ่ายต่างมีเพียงกันและกัน ไม่ว่าความหวังดีจากคนรอบข้างจะรายล้อมเข้ามามากแค่ไหน หากมันจะเติมเต็มช่องว่างที่ขาดใครบางใครไปไม่ได้

    แม่ว่าคุณพ่อจะคิดถึงออกัสไหมฮะ นี่คือคำถามประจำของลูกชาย ที่ทำให้ผู้เป็นแม่แทบอย่างจะหยุดหายใจ

    คิดถึงสิจ๊ะ ...คิดถึงที่สุดในโลกเลยแหละเพียงแค่นี้หญิงสาวก็ต้องถึงกำกลั้นน้ำตา กับความจริงที่ว่าเขาคนนั้นไม่เคยรู้อะไรเลย พ่อเขาไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำ ว่ามีหนูอยู่บนโลกใบนี้...

    คุณแม่กับคุณพ่อ พบกันสมัยเรียนใช่ไหมฮะ ออกัสจำได้คนเป็นลูกถามเสียงเจื้อยแจ้ว

    เพราะพิมลดาเคยเล่าถึงเรื่องราวสมัยก่อนให้ลูกชายฟังเสมอ เรื่องราวของความรู้สึกดีๆ ที่พี่วินเคยหยิบยื่นให้เธอ หากคำถามต่อมาของลูกชายนั้นตอบยากที่สุด

    แล้ว...คุณพ่อรักคุณแม่มากด้วยใช่ไหมฮะ... ขนาดออกัสยังรักคุณแม่มากเท่าฟ้าเลย

    พิมลดารู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบคงต้องระเบิดเป็นเสี่ยงๆที่กลางหัวใจเธอแน่ๆ มันถึงได้ปวดร้าวแบบนี้

    จ๊ะ...หนูเกิดมาเพราะความรักรู้ไหมลูก หญิงสาวตอบได้เพียงเท่านั้น เพราะลูกน้อยซุกหน้าลงกับซอกคอ เข้าสู้นิทราอย่ามีความสุข แตกต่างจากคนเป็นแม่ที่ต้องกลั้นเสียงสะอื้นไว้ให้ลึกสุดหัวใจ

    สำหรับพิมลดาค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล พรุ่งนี้เธอจะบอกเขา อย่างน้อยก็จะพยายามหาทางติดต่อเขา

    พิมลดาไม่ได้ติดต่อกับอัศวินเลย ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และทุกๆวันสำคัญ อย่างวันเกิดของเขา วันที่เธอรู้จักกับเขาครั้งแรก หรือแม้แต่วันนั้น.... เธอก็จะมีของเล็กๆน้อย และการ์ดที่เขียนเอาไว้ หากไม่เคยมีสักชิ้นที่เธอส่งถึงเขา ไม่ใช่ไม่กล้า แต่เธอเจียมตัว เจียมหัวใจดีว่าไม่มีค่าพอ ไม่มีสิทธิแม้แต่จะไปเสนอหน้าให้เขาเห็น เป็นเสนียดแก่สายตาหรอก

    เธอรู้ตัวเองดี ไม่มีทางที่เขาจะคิดถึงผู้หญิงเลวๆคนนี้ที่รักเขาหมดทั้งหัวใจ

     

    พิมลดาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดผิด... เพราะเวลานี้ ชายหนุ่มที่เธอคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออกก็กำลังคิดถึงเธอเหมือนกัน ผิดแต่เพียงความคิดของเขา เต็มไปด้วยความโกรธ และชิงชัง...เกินกว่าที่ใครจะทนไหว จนแก้วเหล้าในมือก็ยังไม่สาแก่ใจ เขาอยากให้มันเปลี่ยนเป็นหัวใจของผู้หญิงคนนั้น อยากจะรู้นักว่ามันจะแก้วเหมือนแก้ว หรือจะแข็งดั่งหิน เธอคนนั้นถึงได้ใจร้าย ได้ขนาดนี้

    อัศวินออกจากบ้านแต่เช้า หากเป้าหมายของเขาไม่ใช่ที่ทำงาน กลับเป็นหมู่บ้านจัดสรรไม่ไกลจากบ้านของเขานัก ชายหนุ่มมองที่อยู่ในมือ ค่อยๆหาไปเรื่อยๆ จนพบบ้านสีขาวหลังใหญ่ มีรั้วไม้สนสีน้ำตาลกั้นอยู่ ตรงกับที่อยู่ที่นคราจดให้

    ชายหนุ่มเลือกที่จะจดรถหลบเขามุมอับ เขาไม่คิดจะลงไปกดกริ่งประตูบ้านพิมลดา เขายังไม่อยากทะเลาะกับเธอต่อหน้าลูกชาย เขาอยากจะแน่ใจก่อนว่าลูกชายของเขาจะไปโรงเรียนแล้ว

    และดูเหมือนนายตำรวจหนุ่มจะไม่ต้องรอนานเมื่อ บานประตูเล็กของรั้วบ้านเปิดออก พร้อมผู้หญิงสูงวัยที่เขาจำได้ว่าคือป้ามิเชลผู้ดูแลพิมลดา เขาจำเธอได้ดีเพราะเมื่อเขากับน้องสาวไปหาพิมลดาที่บ้านก็มักจะได้ทานของอร่อยๆฝีมือมิเชลคนนี้เสียทุกครั้ง ที่ตามออกมาติดๆก็คือ พิมลดากับลูกชาย ที่อยู่ในชุดนักเรียนอนุบาลน่ารัก คนเป็นพ่อจ้องมองมันด้วยสายตาแห่งความปราบปลื้มใจ

    เมื่อเห็นหนูน้อยกับหญิงสาวสูงวัยขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว ชายหนุ่มก็ลงจากรถ ความอ่อนโยนไม่มีหลงเหลืออีกแล้วบนใบหน้างามเกินชาย

    วันนี้พิมลดาปวดท้อง เลยไม่ได้ไม่ส่งลูกเอง เธอคิดว่าจะเข้าบริษัทสายๆหน่อย เธออาจจะแวะไปโรงพยาบาลใกล้ๆก่อน วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เพราะตั้งแต่เช้าเธอก็รู้สึกปั่นป่วนภายในช่องท้องอย่างรุนแรงไม่ทราบสาเหตุ

    มือบางจับลูกบิดประตูไม้หนาอย่างอ่อนแรง ไม่ทันรู้ตัวว่ามีใครกำลังยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอ แรงมหาศาลผลักเธอจนไหล่บางกระแทกประตูรั้วเปิดออก หญิงสาวล้มลงไปที่พื้นที่ปูทางไว้ด้วยหินกรวด จนแขนถลอกปอกเปิก เลือดไหลซิบๆ เธอมึนงงไปหมด ยังคงนั่งจับกบอยู่ที่พื้น คิดว่าได้ยินเสียงประตูไม้ด้านหลังถูกลงล็อกเสียงดัง ตึ่ง

    และยังไม่ทันที่เธอจะมีโอกาสได้เอ่ยปากพูดอะไร มือหนาทรงพลังก็กระชากแขนเธอให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับให้ไปประชันหน้ากับผู้บุกรุก ชุดเสื้อคอกลมสีขาวสะอาดมีขอบสีแดงสะดุดตาเธอ จนต้องเหลือกตาขึ้นมองใบหน้างดงามที่เธออยากจะภาวนาให้เป็นความฝัน

    เป็นไง...ยังจำผัวชั่วคืนคนนี้ได้ไหม แม่ตัวดี!”อัศวินคำรามใส่หน้าสวยของพิมลดาอย่างสุดกลั้น

    พิมลดากำลังตกอยู่ในอาการที่เรียกว่า ช็อกหญิงสาวพึมพำเรียกแต่ชื่อของคนตรงหน้าเหมือนละเมอ

    พี่วิน ...พี่วิน ....พี่วิน

    อัศวินแสยะยิ้มอย่างสะใจ เป็นไง ช็อกไปเลยเหรอเมียรัก...ดีนี่ ยังจำผัวชั่วคืนได้! ช่วยบอกผัวที่เธอคิดว่ามันโง่เหมือนควายตัวนี้ทีเถอะว่า ทำไมมันถึงไม่เคยรู้ว่ามีลูกชายมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา!!

    พิมลดาบอกตัวเองว่าเธอยังไม่พร้อม ...ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ เธออยากจะหลับตาและวอนขอต่อพระเจ้า ...เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะไม่อยู่ตรงหน้าเธออีกแล้ว ขอให้เป็นเพียงภาพแห่งความฝันเท่านั้น หากแววตาที่ฉายชัดถึงความเกลียดชังของคนตรงหน้า มันบีบหัวใจเธอจนรวดร้าวไปหมด ดวงตาที่เหมือนกับเมื่อสี่ปีก่อน จากที่พอจะทำใจให้ไม่คิดถึงมันขึ้นมาได้บ้าง ก็กลายเป็นเรื่องยากไปเสียแล้ว

    ปล่อยค่ะ...ปล่อยพิมเถอะหญิงสาวร้องขอเขา พิมเจ็บนะค่ะ....เจ็บเจ็บทั้งตัวและหัวใจ

    เขาตั้งใจจะฆ่าเธอรึยังไงนะเขาจะฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็นเลยใช่ไหม

    หึ ผู้หญิงอย่าเธอมันจะเจ็บ จะปวดอะไรกับใครเขาเป็น เธอมีเลือดมีเนื้อมีหัวใจแน่เหรอ ถึงได้กล้าพรากพ่อ พรากลูกเขาแบบนี้!!...เธอมันไร้หัวใจไม่พอ ยังเห็นแก่ตัวที่สุด

    พี่วิน ฟังพิมก่อนค่ะ...พิมไม่ได้ตั้งใจจะปิดเรื่องลูกนะค่ะ...พิมแค่

    เธอแค่เห็นแก่ตัว!!...ไม่เคยนึกถึงความสุข ความทุกข์ของใครอย่างนั้นใช่ไหมอัศวินตะคอกใส่ไม่ไว้หน้า เขาเริ่มหมดความอดทน อยากจะจับพิมลดาเขย่าเสียให้หัวสั่นหัวคอน อยากจะบริภาษเธอเสียๆหายๆให้สาสมแก่ความโกรธของเขา หากเมื่อมองดวงตาที่สีน้ำตาลอ่อนใส ที่เหมือนกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ เขาก็เริ่มใจหาย...นี่เธอเห็นเขาเป็นผีห่าซาตานหรือไงนะ

    ชายหนุ่มเขย่าร่างที่เหมือนกับจะล้มพับลงกับพื้นอย่างเบามือขึ้นมาหน่อย อย่ามาทำมารยากับฉัน ไม่มีทางได้ผลอีกแน่ เธอคิดว่าไอ้ท่าทางใสซื่อตื่นกลัวของเธอ จะปกปิดความเลวของตัวเองได้รึไง

    แววเสียดสีในน้ำเสียงของอัศวิน บาดลึกลงไปในหัวใจคนฟัง หากครั้งนี้พิมลดากัดฟันกลั้นใจ คิดว่า เป็นไงก็เป็นกันความหวาดกลัว ความเสียใจที่มีมากๆเข้า ก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้นมาได้เหมือนกัน หญิงสาวจึงหยุดดิ้นรนที่จะหลุดพ้นจากเขา ...บางที่ เธอควรจะเลิกขี้ขลาด แล้วเผชิญหน้ากับมันเสียที!!

    ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! คุณจะหยาบคายกับฉันมากไปหน่อยแล้วนะ คุณอัศวิน!ใช่...เขาไม่ใช่พี่วิน คนนั้นอีกแล้ว ตรงหน้าเธอคือผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จัก หาใช่คนที่เธอรักเสียเมื่อไร

    หึ หยาบคาย...ผู้หญิงอย่างเธอชายหนุ่มปล่อยร่างหญิงสาวเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งน่าขยะแขยงสำหรับเขา แค่นี้มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ...

    เพี้ย!!!’เสียงฝ่ามือเรียวสวยของพิมลดากระทบใบหน้า คมคายของชายตรงหน้าเข้าเต็มแรง จนใบหน้าหล่อเหลานั้นสะบัดไปตามแรง และยังไม่ทันทีพิมลดาจะรู้สึกตัวด้วยซ้ำ เมื่อมือแข็งๆของผู้ชายคนที่เธอรักเขาหมดใจ ตวัดแรงเร็วเข้าที่ใบหน้าของเธอบ้าง ก่อนนิ้วมือที่แกร่งไม่ผิดกรงเล็บเหยี่ยวจะกระชากร่างหญิงสาวเข้าประชิด

    เสียงคำรามของอัศวินดังลอดไรฟัน ถ้าฉันไม่ตบเธอ...ฉันคงต้องฆ่าเธอทิ้งแน่ๆ พิมลดา

    หญิงสาวร้องไห้ น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดจาการถูกเขาตบ เพราะเธอรู้ดียิ่งว่าใคร ว่ามันสมควรแล้ว เท่านี้อาจจะยังน้อยเกินไปถ้าเทียบกับความเลวของเธอ ในความคิดของเขา

    อัศวินเริ่มคิดว่าเขาอาจจะรุนแรงกับหญิงสาวเกินไป หากพอคิดถึงเหตุผลที่ทำให้เขาต้องทำมันลงไปก็คิดว่าสาสมดีแล้ว

    เข้าไปคุยกันในบ้าน...พูดจบเขาก็เดินนำเข้าไปก่อน เหมือนกับว่ามันเป็นบ้านของเขาเอง และไม่วายหันกลับมาตวาดใส่พิมลดา จนร่างที่กำลังสั่นเยือกอยู่แล้วถึงกับสะดุ้ง ตามเข้ามาเร็วๆสิ อย่าร่ำไร!!

    พิมลดาสูดหายใจเข้าออกแรงๆ หลายต่อหลายครั้ง พยายามขับไล่ความหวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับเขาออกไป แต่ก็ไม่ได้ผลมากนัก และยิ่งต้องร้นรานวิ่งเข้าบ้านตามหลังเขาไป เพราะเสียงตะโกนเรียกชื่อของเธออีกครั้งดังลั่น

    พิมลดา!!!

    ร่างสูงสง่าสมชาตรีของอัศวิน นั่งหน้าขึงอยู่บนโซฟาหลังใหญ่อย่างน่ากลัว พิมลดาเองที่ตลอดมาก็กลัวเขาอยู่แล้วก็ยิ่งสั่นๆ

    รีบๆนั่งเสียทีสิ แม่ตัวดี! จะยืนค้ำหัวกันอีกนานไหม

    พิมลดารีบทรุดกายลงนั่งที่โซฟาตัวหนึ่งที่คิดว่าห่างจากเขามากที่สุด ก่อนเสียงสั่นปนสะอื้นของเธอจะเริ่มพูด พี่วินค่ะ ฟังพิมหน่อยสิค่ะ...พิมไม่หวังว่าพี่วินจะอภัยให้กับเรื่องลูกที่พิมไม่เคยบอกพี่ แต่พิมก็มีเหตุผลของพิมเหมือนกัน

    หญิงสาวผิดหวังกับตัวเองนิดหน่อย จากที่เคยคิดว่าจะเสียงแข็งใส่เขา เหมือนกับที่เธอทำได้เป็นอย่างดี และไม่เคยคิดกลัวใครตลอดมาไม่ว่าทั้งคนใกล้ชิด และในวงการธุรกิจ หากกับผู้ชายคนนี้มันเหมือนกับว่าเธอเป็นเพียงแค่ไพร่ทาส ที่พอเขาขึ้นเสียงใส่เข้าหน่อย ก็ตัวสั่นเป็นลูกนก

    หากอัศวินไม่คิดจะสนใจท่าทีของหญิงสาว เขาก็เห็นว่าคนผิดก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา ไม่ได้เห็นว่าความกลัวของพิมลดานั้น เกิดขึ้นจากความรักและความภักดีที่เธอมีให้เขาอย่างล้นเหลือ เหตุผลของเธองั้นเหรอ หึ...เหตุผลหรือความเห็นแก่ตัวกันแน่ที่ทำให้เธอกล้าทำเรื่องเลวๆแบบนี้กับฉัน!!

    พิมลดาคิดว่าเขาก็ยังคงโกรธและไม่พยายามจะเข้าใจเธออยู่นั่นเอง หญิงสาวคิดอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่ชอบเลยที่จะต้องมานั่งทะเลาะกับเขา ทั้งที่ไม่ได้พบหน้าค่าตากันมาเลย ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา หญิงสาวจึงพูดอย่างคนที่พยายามจะทำใจให้เย็น

    พี่วินไม่คิดย้อนดูบ้างเหรอคะ ว่าพิมเองก็ลำบากใจไม่อยากเอาเรื่องลูกไปเป็นภาระของพี่ ทั้งๆที่...

    อัศวินฟังอยู่และทนไม่ไหว เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าหมองของหญิงสาว ที่หยุดพูดไปเสียดื้อๆ ว่าไงล่ะ จะแก้ตัวอะไรก็รีบๆพูดมา ขอให้มันฟังขึ้นหน่อยก็แล้วกัน

    ทั้งๆที่ พี่วินก็พูดออกมาเลยว่าพิมมันร่านผู้ชาย ถ้าพี่วินคิดว่าพิมจะยังกล้าแบกหน้าอุ้มลูกไปขอความรัก ความสงสารจากพี่ล่ะก็...พิมก็มีศักดิ์ศรีพอค่ะ

    คราวนี้เป็นฝ่ายอัศวินบ้างที่นิ่ง เขายังคงจดจำได้ว่าตนเองพูดอะไรออกไปบ้างในคืนวันนั้น ยังจดจำมันได้ไม่เคยลืมเลือน ก็แล้วที่ฉันพูดมันจริงไหมล่ะ...ถ้าไม่จริงเธอ จะตบหน้า จะร้องไห้ตบตีฉันก็ยังทำได้ แต่วันนั้นเธอไม่ได้ทำ...ไม่ทำเพราะมันเป็นเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ!

    พิมลดาสะกดกลั้นน้ำตาร้อนๆที่พาลจะหยดอยู่รอมร่อ ไม่ให้มันไหลลงมาให้ได้อายใครเขาอีกแล้ว ยิ่งคนที่จะไม่สนใจมันยิ่งไม่ควร หากคำพูดของเขามันชังบาดใจเธอเหลือเกิน "พี่วินเข้าใจผิดนะ ที่พิมไม่แก้ตัวเพราะพิมไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไร เมื่อพี่คิดกับพิมแบบนั้น พิมก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว มันเกินจะทนค่ะ

    เมื่อเห็นแววตัดพ้อในดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนที่เขายังจดจำมันได้แม่นยำ ว่ามันเหมือนกับดวงตาที่มองเขาก่อนที่จะผลักห่างจากร่างนวลเนียนของเธอมาเมื่อสี่ปีที่แล้วไม่มีผิด ความแข็งกร้าวและกระดากก็พอที่จะลดลงมาบ้างเล็กน้อย...เล็กน้อยจริงๆ

    แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลย ที่เธอจะปิดเรื่องลูกกับฉันจนฉันต้องมารู้เอาเองจากคนอื่น ถามจริงนะ...เธอไม่ละอายใจบ้างเลยรึไง ที่พรากความสุขของลูกชายตัวเองมาตั้งหลายปี ไม่สงสารลูกเลยใช่ไหมที่ปล่อยให้มันไม่มีพ่อ

    พิมลดาสะอึกมองคนพูดตาโต พูดบ้าๆ! ไม่มีพ่อแล้วจะเกิดมาได้ยังไงล่ะ...ลูกพิมรู้ตัวว่าเขามีพ่อ เพียงแต่พ่อไม่เคยว่างมาพบเขาเท่านั้นเอง

    อัศวินโกรธลมแทบออกหู เมื่อตะโกนใส่หน้าพิมลดา นรกน่ะสิ!!...ไม่เคยว่างมาพบงั้นเหรอ เธอบอกลูกแบบนั้นได้ไง...มีหัวใจรึเปล่า คนอย่างเธอน่ะมันไร้หัวใจ!!”

    หลายครั้งแล้วนะที่เขาว่าเธอไม่มีหัวใจ พิมลดาคิด และถ้าหากเธอไม่มีหัวใจล่ะก็ เธอคงเจ็บน้อยกว่าที่เป็นอยู่มากทีเดียว

    เพราะพิมมีหัวใจน่ะสิค่ะ ถึงได้บอกลูกแบบนั้น เพราะพิมคิดว่าวันหนึ่งเขาจะได้พบพ่อของเขา พิมไม่ใช่นางมารใจร้ายขนาดที่พี่วินคิดนะ แต่พิมแค่อยากขอเวลาบ้าง รอวันที่ทุกอย่างพร้อมกว่านี้

    เมื่อไรล่ะ ถ้าฉันไม่มารู้เอง...เมื่อไรเธอจะพร้อม!!ชายหนุ่มตะคอกถาม ไม่กลัวว่าเสียของเขาจะดังไปถึงไหนต่อไหนด้วยซ้ำ

    คราวนี้พิมลดาหมดความอดทนขึ้นมาจริงๆ มันเหมือนกับโดยเข็มแหลมๆ ทิ่มเข้าตรงจุดส่วนเปราะบางในหัวใจที่พร้อมจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

    ก็เมื่อวันที่พิมเลิกรักพี่ ได้ยินไหมค่ะ วันที่พี่จะไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วในหัวใจพิม...วันนั้นแหละที่พิมจะบอกหญิงสาวพูดไป จิกเล็บยาวของตัวเองที่โซฟาแน่น ขอให้มันเป็นหลักยึดที่มั่นคงให้แก่เธอในยามที่ท้อแท้สินหวังสุดกำลัง

    เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะว่าพิมรู้ว่าพี่วินจะไม่มีทางรักพิม เหมือนที่พิมรักพี่ สำหรับพี่วินพิมมันเป็นแค่นังร่านผู้ชาย ใจแตกไร้ค่าเป็นนางเพศยาน่าสมเพช!!พูดจบเธอก็ปิดหน้าร้องไห้โฮอย่างสิ้นอาย เพราะไม่มีอะไรจะน่าอายไปกว่ายอมรับความปราชัยนี้อีกแล้ว

    หมดเวลาแล้วสำหรับการยื้อความคิดที่ว่า เขาคงจะหันกลับมามองเธอใหม่อีกครั้งในสักวัน เพราะวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเห็นชัดประจักษ์แก่ทั้งสายตาและหัวใจของเธออย่างแน่ชัดว่า ฝันของเธอจะเป็นได้เพียงแค่ความฝันนิรันกาล

    พิมลดาลุกขึ้นจากโซฟาเหมือนมันเป็นถ่านร้อนๆ ทั้งที่ในหัวใจเธอตอนนี้ก็ร้อนเพราะไฟรักที่สุมรุมแทบคลั่งอยู่แล้ว เธอไม่คิดจะรอให้คนตรงหน้าตอกย้ำมันอีกแน่ๆ

    พี่วินไปเสียเถอะค่ะ ...พิมขอตัว วันนี้ นาทีนี้พิมรู้ตัวเองดีแล้วว่าเป็นเพียงแค่อากาศธาตุในชีวิตพี่ ไม่ต้องมาซ้ำเติม นังสารเลวคนนี้หรอก...มันรู้ตัวดีค่ะหญิงสาวหันหลังวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของตัวบ้านอย่างรวดเร็ว เหมือนคนที่อยากจะหนีไปให้พ้นจากความจริงอันโหดร้าย

    อัศวินไม่คิดจะตามขึ้นไป เพราะรู้อารมณ์ตัวเองดีว่าในตอนนี้ เขาไม่อยู่ในสภาวะที่จะปลอบโยนหรือแม้แต่จะบอกพิมลดาว่าเขาไม่เคยมองคิดกับเธอถึงขนาดนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่คิดว่าเธอเป็นนางเพศยาน่าสมเพชอย่างที่เจ้าตัวพูดออกมาแน่ๆ เพราะถ้าจะมีใครในที่นี้ น่าสมเพชล่ะก็ คนๆนั้นไม่ใช่พิมลดาแน่ๆ เขารู้ดี

    โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
    ปล.มุมคุยกับผู้อ่าน
           สวัสดีค่ะ ตามมาเขียนมุมคุยกับผู้อ่านที่หลัง รู้สึกว่าจะมาล่าช้าไปสักหน่อย วันเดียวเอง หลายๆ ท่านอ่านตอนนี้กันไปหมดแล้ว ตอนนี้อันนาแต่งไป น้ำตานองหน้าเลยอินจัด อินมากๆ เพราะอันนาสร้างพวกเขาขึ้นมา อันนาไม่รู้ว่าทุกคนจะรู้สึกถึงมันเหมือนอย่างที่คนเขียนคนนี้รู้สึกไหม คือมันสะเทือนใจ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
           ตั้งแต่ความรู้สึกของออกัส ความเศร้าของพิมลดา และท้ายที่สุดความเศร้าของอัศวิน ใช่ค่ะ!!!...อันนาสาบานเลยว่ามันคือความเศร้า หากคนเราโดยเฉพาะผู้ชาย หลายๆคน มักตอบสนองความเศร้าของตัวเองด้วยความโกรธ ความสิ้นคิด ไร้สติ และสุดท้าย ความอ่อนแอ่ไร้เหตุและผล นี่คือสิ่งที่อันนาอยากจะสะท้อนตัวตนของคนๆนี้
           เขาเลว นั้นใช่ เขามันอีโก้สูง ไร้เหตุผล นี่ก็ใช่... แต่อัศวินไร้หัวใจไหม อันนาว่าไม่ใช่!!


    แปะคอมเมนท์ไว้อีกครั้งนะค่ะ
    ขอคอมเมนท์ + โหวดด้วยนะค่ะ
    ขอบคุณมากๆค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×