คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : >>Chapter5
href="file:///C:\DOCUME~1\HP\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\DOCUME~1\HP\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_themedata.thmx" /> href="file:///C:\DOCUME~1\HP\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_colorschememapping.xml" />วิวาห์ร้าย...ใต้เงารัก
Chapter 5
ตลอดเวลาที่ทั้งสองสาวและหนึ่งเด็กน้อยไม่ประสา กำลังนั่งเจรจากันอยู่นั้น ร่างสูงใหญ่ในชุดเครื่องแบบอันทรงเกียรติ ที่เจ้าตัวภาคภูมิใจกับมันหนักหนา กำลังนั่งตัวตรงอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเพื่อนสนิทและซื่อสัตย์ที่สุด เพื่อฟังเรื่องราวที่เขาคิดไม่ถึงและไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิตด้วยซ้ำสารวัตรอัศวิน รีบบึ่งรถยนต์ส่วนตัวของเขามาอย่างรวดเร็ว หลังจากรับโทรศัพท์จากนครา เพื่อนสนิทที่เขาไว้ใจ และให้ช่วยสืบหาเรื่องราวของพิมลดา เมื่อเกือบอาทิตย์ก่อน และนคราก็ทำทุกอย่างได้รวดเร็วสมกับเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการธุรกิจ ทั้งไทยและเทศ มีเส้นสายมากมาย ไม่นานก็ได้เรื่อง
‘หมอนี่น่าไปเป็นนักสืบชะมัด’
และไม่รู้ว่าไปได้เรื่องอะไรมา ถึงได้โทรหาเขาในเวลาราชการ แถมยังสั่งให้มาพบโดยด่วนทันทีที่เขาเสร็จภารกิจ เขายังจำได้ว่าน้ำเสียงที่พูดกับเขานั้น เคร่งขรึมอย่างคนที่กำลังมีเรื่องหนักใจ เป็นเพื่อนกันมานานพอที่จะรู้ได้ว่า สิ่งใดที่ทำให้นครา อัครนาคา กลายเป็นคนเงียบขรึมและกังวลได้ สิ่งนั้นต้องหนักหนาสาหัสเชียวล่ะ เพียงแต่ว่าครั้งนี้ คงจะเป็นเรื่องของเขาเอง
‘ติ่ง’ เสียงลิฟต์ดัง แสดงสถานการณ์มาถึงชั้นเป้าหมาย บ้านประตูลิฟต์เปิดออกสู่ภายในห้องทำงานใหญ่ของผู้บริหารโรงแรมซึ่งตรงขึ้นมาจากชั้นจอดรถ ที่ผู้เป็นเจ้าของห้องและบุคคลที่ได้รับการอนุญาตถึงจะมีสิทธิใช้มัน
และสิ่งแรกที่เข้าตาสารวัตรหนุ่มก็คือใบหน้าขรึมที่แฝงแววกังวลและดูเหมือนจะแก่ลงอีกสักสิบปี ในเวลาเพียงช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่ได้พบกัน อัศวินถามตัวเองว่านี่มันอะไรกัน เขาไปทำเรื่องผิดที่ไหนกับใครไว้รึเปล่า เพื่อนรักถึงได้แสดงสีหน้ามึนตึง บอกบุญไม่รับกับเขา
ในวินาทีนั้น อัศวินไม่ได้นึกถึงหญิงสาวที่ชื่อพิมลดาเท่าไรนัก เขาคิดว่าอาจจะมีเรื่องอื่นด้วย
อัศวินยิ้มแหย ก่อนเอ่ยกับเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“เป็นไรวะไอ้เสือ ทำหน้าเหมือนกับไปโดนใครถลกหนังมางั้นแหละ”
นคราไม่แม้แต่จะยิ้ม เพราะอีเมลล์ฉบับหนึ่งจากลูกน้องคนสนิทซึ่งเขาวานให้ช่วยสืบเรื่องราวของผู้หญิงที่ชื่อ พิมลดา ภัคติรกุล ถูกส่งกลับมาให้เขาภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ เรื่องราวของเธอของเธอหาได้ง่ายดาย เธอเป็นสาวสังคมที่ในลอนดอนและแวดวงธุรกิจต่างรู้จักเป็นอย่างดี ผู้หญิงที่เก่งและทำงานแข็ง เป็นหนึ่งในทีมบริหารบริษัทรับจัดงานแต่งงานชื่อดัง
อีเมลล์ที่ถูกส่งมามีทั้งภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ จากอินเตอร์เน็ตและมีแม้แต่ประวัติครอบครัวโดยละเอียด ที่ทำให้เขาแทบจะร้องขอต่อสิ่งศักดิ์ว่าอย่าให้มันแม่นยำนักเลย
อัศวินชักจะทันไม่ไหว ทั้งร้อนร้นอยากรู้เรื่องราวของเธอคนนั้น และเรื่องที่ทำให้เพื่อนรักตีหน้ายักษ์ใส่เขาใจแทบขาด
“โธ่ ไอ้ราม...นายจะเปิดปากพูดได้รึยังวะ นั่งเฉยๆ นิ่งๆแบบนี้ข้าใจคอไม่ดีแล้วนะโว้ย”
นคราเหมือนเพิ่งได้สติ แสยะยิ้มมุมปากมองเพื่อนเหมือนทั้งรัก ทั้งอยากจะส่งปืนให้เพื่อนระเบิดหัวตัวเองทิ้ง จะได้ไม่ต้องมารับรู้เรื่องราวที่เขากำลังก็เล่า
“อย่าเพิ่งขวัญเสียเลยไอ้วิน นี่ยังไม่ได้เริ่มอารัมภบทเลยนะ วันนี้แกยังต้องรู้อีกเยอะ และอาจจะไม่ใช่แค่หัวใจนายเท่านั้นนะ ที่จะวาย ชีวิตนายก็อาจจะพังไปเลยนะงานนี้”
“พูดบ้าของนาย นี่มันเรื่องอะไรกัน นายรีบๆบอกมาเลยได้ไหม”
นคราหลับตาอย่าท้อใจ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี เขาสาปส่งอะไรก็ตามที่ทำให้เขาต้องเป็นคนบอกเล่าเรื่องนี้แก่เพื่อนรัก
“พิมลดา...ผู้หญิงเสเพลใจแตกที่นายว่า เป็นสาวสังคมชื่อดังที่ทั้งเก่งและมีความสามารถ บริหารบริษัทจัดงานแต่งที่มีคิวแน่นแทบทั้งปี...และแม่ของพิมลดายังเป็นสาวไทยไฮโซชื่อดังของที่นั่นนายรู้รึเปล่า”
อัศวินเริ่มหัวเสีย กับท่าทางนิ่งๆของนครา ที่เหมือนจะทำให้ต่อมอยากรู้ของเขาทำงานหนักขึ้นผิดปกติ
“รู้แล้วและข้าก็ไม่แปลกใจด้วย แม่เขาแต่งงานกับคนรวย เป็นเจ้าของบริษัทซอฟแวร์เขาก็ต้องผันสถานะตัวเองเป็นสาวสังคมที่นั่นสิ”อัศวินยอมรับได้ว่าพิมลดาเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถด้านทำงาน เลยไม่แปลกใจอะไร หากก็ยังอดจิกกัดเธอเล็กๆน้อยๆไม่ได้
“นายเรียกข้ามา เพราะจะมาบอกว่าแม่คนนั้นประสบความสำเร็จรึไง ไอ้เสือ”
นครายิ้มเย็น “เปล่า นั่นแค่เกริ่นให้ฟังเพราะนายคงจะไม่รู้ว่าผู้หญิงเก่ง สวย รวยเสน่ห์แบบนั้นเป็น single mom ที่ใช้ชีวิตส่วนตัวดูแลลูกชายสุดที่รัก กับพี่เลี้ยงวัยห้ากว่าสิบ อยู่ในอพาร์ทเมนท์สุดหรูในยานไฮสตรีนของลอนดอนหรอก...ใช่ไหม”
อัศวินตกใจ เข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนจริงๆ ไม่เคยรู้เลยว่าพิมลดาแต่งงานมีลูกแล้ว แต่เดี๋ยวก่อน ไอ้รามมันบอก single mom หมายถึงแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียว สามีเธอตายรึไง... ทำไมน้องสาวเขาไม่เคยบอกเรื่องที่พิมลดาแต่งงานมาก่อน ในหัวชายหนุ่มมีแต่คำถามมากมายที่อับจนด้วยคำตอบ
นคราเข้าใจอาการขอเพื่อนดี แต่เขารู้ว่าอัศวินกำลังเข้าใจไปคนล่ะความหมายกับความจริงที่เขากำลังจะพูด
“ไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอกไอ้วิน เพื่อนน้องสาวแกไม่เคยแต่งงาน เธอเลี้ยงลูกชายคนเดียวโดยไม่มีใครรู้ว่าพ่อของลูกเธอคือใคร เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องนั้นกับสื่อสำนักไหน”
อัศวินหลับตา ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่เขาคิด ลูกชายของเธอ...กับ...
“อายุเท่าไรทราบไหมราม เด็กนั่นอายุเท่าไร” หางเสียงนั้นแหบพร่า เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน อย่างที่น้อยคนนักจะเคยได้ยิน มือหนาที่จับถ้วยกาแฟอยู่ กำรอบ เผลอบีบแรงจนแทบแหลกสลายคามือ
“แกบอกมาสิราม ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด!”
‘เพล้ง’ ถ้วยกาแฟเนื้อดีถูกเหวี่ยงไปกระแทกพนังห้องอย่างแรง ด้วยคนขว้างมันในกำลังฟุ้งซ่านไม่ต่างกับกระทิงบ้า
หากนคราเข้าใจและยังคงนิ่ง พูดแต่เพียงว่า “อย่าพังโรงแรมข้าไอ้วิน และสำหรับคำถามของนาย...เด็กคนนั้น แม่เขาตั้งชื่อให้ว่าอัศฎา ภัคติรกุล ตอนนี้สามขวบแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น อัศวินก็แทบอยากจะหัวเราะและก็สมเพชตัวเองในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มมองสบดวงตาคมเข้มของเพื่อนรัก ที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ราม นายคิดว่าเขาจะเป็นลูกของข้าไหม นายคิดว่าเด็กผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกชายของข้ารึเปล่า”
ปลายประโยคนั้นสั่นเครืออย่างสุดกลั้น เขาไม่เคยร้องไห้ให้กับใคร ไม่ใช่ว่าเป็นลูกผู้ชายแล้วจะเสียน้ำตาไม่ได้ หากลึกลงไป...หัวใจเขาก็ไม่ได้ทำมาจากก้อนหิน
‘เขาเจ็บเป็น’ ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกชายของเขาจริงๆ เขาคงแทบฆ่าแม่ของแกทิ้งได้ด้วยมือเปล่า
พิมลดาคงคิดว่าเขาเป็นไอ้ควายที่ไหนแน่ๆ ถึงได้ปิดเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ควรรับรู้ที่สุดไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขามีสิทธ์ที่จะรับผิดชอบลูกของเขา
นคราคิดและตัดสินใจอย่างรอบคอบกับคำถามของเพื่อน
“วิน...ก่อนที่ข้าจะให้นายดูบางอย่าง ซึ่งมันจะช่วยยืนยันคำตอบของข้า” นคราหยิบรูปใบหนึ่งที่เขาแยกเอาไว้ตั้งแต่แรกออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทของตัวเอง มองมันด้วยสายตาอ่อนโยน
“ขอบอกเลยนะ ว่าถ้าคุณพิมลดาเขาเป็นผู้หญิงใจแตก เสเพลไม่เลือกอย่างที่นายว่า บางที่นายคงจะไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรนัก ถ้านายคิดว่าเธอเป็นแบบนั้น ไม่มีค่า ไม่มีความหมายอะไรจริงๆ...ช่วยยืนยันมันอีกครั้งจะได้ไหม"
นายตำรวจหนุ่มมองเพื่อนด้วยสายตาที่ปกปิดความเจ็บปวดและเคืองแค้นไม่มิด “...ไม่”
“ไม่อะไร...”นคราถามย้ำ สงสารก็สงสาร แต่บางครั้งเพื่อนก็ไม่ใช่คนที่จะช่วยแก้ปัญหาได้เสมอไป เมื่อเกลียด และอยากจะเลิกเกลียดก็ต้องหาคำตอบให้พบความทำไม่ถึงเกลียด เมื่อรักและอยากจะเลิกรัก ก็ต้องย้อนกลับไปคิดว่าทำไมถึงเคยรัก...หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่ง
“ข้าไม่รู้!! เขาอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่ข้าคิด แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้วราม ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกเนื้อผู้หญิงเห็นแก่ตัวคนนี้เป็นชิ้นๆ เขาคิดว่าข้าเป็นไอ้ควาย ไอ้ตัวน่าสมเพช ขนาดไหนกันวะ ถึงได้ปิดเรื่องลูกมาตลอดสี่ปี!!” ดวงตาคมเข้มของอัศวินที่เคยฉายแต่ความมั่นใจหายไปแล้ว... ไม่หลงเหลือให้เห็นเลยด้วยซ้ำ มีแต่แววหม่นหมองและแดงก่ำอย่างน่าตกใจ
นคราเองก็พูดไม่ออก หากเขาก็เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรักดี จึงว่างภาพถ่ายใบไม่ใหญ่หนักที่ดูก็ทราบว่า ถูกสแกนมาจากนิตยสารฉบับใดฉบับหนึ่งไว้บนโต๊ะไม้สักฉลุลายสวยงาม หากไม่มีสิ่งใดในเวลานี้สำคัญมากไปกว่าบุคคลทั้งสองในรูป
ชายหนุ่มพูดแต่เพียงว่า “นี่เป็นคำตอบของข้า”
อัศวินเอื้อมมือที่แสนสั่นเทา เพื่อหยิบภาพใบนั้นขึ้นมองให้เต็มตา น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อคลอรอบดวงตามองดูแวววาว จนนคราถึงกับต้องเบือนหน้าหนี
หัวใจเหมือนกับจะค่อยๆเต้นช้าลง... ช้าลง จะผิดไหมถ้าเขาจะบอกว่า ‘แทบขาดใจ’ เขายังคงจดจำได้ถึงผมยาวสีน้ำตาลไหม้ ที่กลิ่นหอมของมันยังเหมือนกับติดอยู่ที่ปลายจมูก ดวงตาสีน้ำตาลใส ริมฝีปากที่เคยเรียกชื่อเขานับร้อยนับพัน ด้วยความอ่อนโยน ...พิมลดา ในอ้อมแขนของเธอเป็นเด็กชายตัวกลมป้อมในชุดเอี้ยมสีน้ำตาลตัดกับเสื้อเชิตสีขาวสะอาด ใบหน้าเล็กๆเหมือนตุ๊กตา ผมดกดำเต็มศีรษะตัดค่อนข้างยาว แก้มแดงเหมือนลูกพลับ และที่ทำให้หัวใจของคนมองแทบแหลกสลาย ก็คือดวงตาคมโต สีดำสนิทที่จ้องตรงมายังกล้องเหมือนกับกำลังสื่อถึงเขาอยู่... ลูกชายที่เหมือนเขาตอนเด็กๆไม่มีผิด
“วิน...”นคราเรียกเพื่อนเสียงแผ่ว เข้าใจความรู้สึกสะเทือนใจของคนเป็นพ่อที่ได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรกได้ดี ซ้ำยังต้องเจ็บปวดกับความรู้สึกที่มีโอกาสได้เห็นเพียงแค่รูปถ่ายใบเดียวเท่านั้น
“นายจะทำยังไงต่อไป คิดให้ดีและรอบคอบที่สุดนะ ทุกอย่างนายต้องตัดสินใจเอง อย่าเอาอารมณ์หรือความโกรธแค้นมาเป็นที่ตั้ง”
อัศวินยังนิ่ง หากในนาทีต่อมาเขาก็ทำให้นคราต้องร้องเสียงหลง เมื่อลุกพรวดขึ้นจากโซฟาเหมือนมันเป็นถ่านร้อนๆ “เฮ้ย! ...นายเป็นไรวะ”
อัศวินไม่สนใจ เค้นเสียงถามสิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุด “ไอ้ราม เอาที่อยู่พิมลดาที่ลอนดอนมา ข้าจะไปให้เห็นกับตาตัวเอง ข้าอยากจะรู้นักว่าแม่ตัวดีจะทำหน้ายังไง”
“ไม่ต้องไปให้เปลื้องเงินของแกหรอกไอ้วิน”
อัศวินถอนฉุนที่ถูกห้าม “ทำไมวะ นี่อย่าบอกนะว่าแกจะให้ฉันนั่งรอ ผู้หญิงคนนั้นปล่อยให้ลูกมาหาฉัน ...ไม่มีทาง ข้าจะไปลอนดอนคืนนี้เลย นายเอาที่อยู่มาเร็วๆ”
นครามองท่าทางของเพื่อนอย่างระอาใจ “ไม่จำเป็น เพราะมันไม่มีความหมาย ในเมื่อตอนนี้คุณพิมลดากับลูกชายของนายอยู่ในเมืองไทย ความจริง ...ห่างจากบ้านนายไปไม่กี่กิโลเท่านั้นเองด้วยซ้ำไป”
อัศวินพ่นคำสบทออกมาด่าลมด่าแล้ง ก่อนนั่งลงเอามือกุมขมับอย่างอ่อนแรง นี่เป็นเรื่องบ้าที่สุด เธออยู่เพียงแค่ปลายจมูกเขาทำนั้นเอง จะมีอะไรที่เขาไม่รู้อีกไหม...หวังว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว
และเหมือนพระเจ้าจะไม่รับรู้คำขอของเขา เมื่อได้ฟังประโยคต่อมาของนครา
“ข้าลืมบอกนายว่าลูกชายนายมาเมืองไทยได้เดือนกว่าๆแล้ว ที่สำคัญเขาเรียนที่โรงเรียนนานาชาติของบ้านน้องดาวด้วยนะ อะไรมันจะบังเอิญอย่างนี้ก็ไม่รู้นะ” นั้นไม่ใช่การหยอกล้อ เพราะนคราเองก็แปลกใจไม่แพ้กันตอนที่รู้เรื่องนี้
อัศวินเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เพราะตลอดเวลาที่เขาฟังเรื่องราวทั้งหมดนี้ เขาไม่เคยนึกถึงคู่หมั้นสาวเลยแม้แต่นิดเดียว ในหัวมีแต่หน้าลูกชายที่ได้เห็นเพียงภาพถ่าย กับความโกรธที่อยากจะฆ่าพิมลดาให้ตายคามือ เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะทำกับเขาขนาดนี้
นอกจากจะเป็นผู้หญิงเสเพล ใจแตกแล้ว เธอยังเป็นนางมารร้ายที่พรากพ่อ พรากความสุข ความรักที่เขาพร้อมจะให้ลูกชายตัวเอง มาตลอดสี่ปีได้ยังไงนะ
นครามองท่าทางนิ่งๆของเพื่อนด้วยความเป็นกังวล ให้มันร่ำร้องตีอกชกหัว ยังดีกว่าเคร่งขรึมเหมือนคนกำลังคิดอะไรในใจแบบนี้
“ไอ้วิน... นายจะจัดการเรื่องนี้ยังไงวะ”
อัศวินมองสบดวงตาเพื่อน เขาคิดว่าเขาตอบสิ่งที่แน่นอนที่สุด “ข้าจะแต่งงาน”
นคราไม่แปลกใจ นั้นคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น หากที่เขาสงสัยคือ “...เจ้าสาวล่ะ คนไหน”
‘ฮึ...’ มีเพียงรอยแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด และดวงตาคมโตที่เปล่งประกายเรืองไฟเท่านั้นเป็นคำตอบ
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป
******ปล.มุมคุยกับผู้อ่านเจ้าค่ะ( อ่านกันหน่อยนะค่ะ)
อันนาล่ะชอบๆ มุมนี่ค่ะ เพราะเวลาเขียนมัน แปลว่าอันนาพร้อมลงนิยายตอนนั้นๆแล้ว อิอิ อารมณ์จะดีมากๆ มีความสุข นิยายเรื่องนี้หากใครเคยอ่านจะรู้ว่าเนื้อหาเปลี่ยนจากเดิมไปเยอะ เรียกว่าเปลี่ยนทั้งพล็อตเรื่องเลย เพราะอันนาไปเจอนิยายเรื่องหนึ่ง ที่มีเนื้อหาคล้ายๆกัน คือ...พล็อตหลักๆมันใช่ อันนาไม่คิดว่าจะเป็นการก็อปพล็อต ซึ่งถ้ามีคนทำจริงๆ ในนี้อันนาก้ไม่ว่า เพราะถือว่าของแบบนี้ อยู่ที่วิธีการเขียน การเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว ทุกๆคนมีเอกลักณ์
อันนาก็เลยต้องยกเครื่องจากที่เคยเขียนไว้ แถบหมดเลย อันดับแรกเลยคือ อาชีพของนางเอก (สำคัญมาก) และสถานการณ์ที่พระเอก จะกระทำต่อนางเอก อะหุหุ
ขอให้สนุกและติดตามมันด้วยนะค่ะ อ่านดีๆ และให้นิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อยากจะอ่านเสมอๆ อันนาก็จะพยายาม UP บ่อยๆ (นี่ก็บ่อยมากแล้วนะค่ะเนี่ย) เพราะวัน จ - ศ อันนาอาจจะอัฟช้า 2-3 วันอาจจะ อัฟสักที เพราะช่วงนี้อันนาเรียนหนักมากค่ะ งานเยอะมากๆ
และขอบคุณมากๆ สำหรับทุกๆ กำลังใจเลยนะค่ะ เชื่อไหม คอมเมนท์ของพี่ๆหลายคน ทำอันนาตัวจะลอยไม่ติดพื้นเลย... นี่ยังสงสัยอยู่เลยค่ะ ว่าเราฝีมือขนาดนั้นเชียว 5555+ แต่แน่นอนลึกๆอันนาก็คิดว่า พอสุ้ไหวค่ะ
เดียวยกตอบคอมมเนท์ไปไว้ข้างล่างนะค่ะปล.ความคิดเหน ที่ 60 -68 ตอบไปแล้วนะค่ะ
ตอบคอมเมนท์ ที่ 69 - 87 นะค่ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 69 ของคุณ zenith ยินดีตอนรับเจ้าค่ะ
สวัสดีค่ะ ยินดีตอนรับสู่นิยายเรื่องนี้นะค่ะ หวังว่ามันจะสนุกใช่ได้นนะค่ะ และอันนาหวังด้วยนะค่ะ ว่ามันจะน่าติดตามอย่างที่คุณว่ามา แฮะๆ ถ้าเข้ามาอ่านอีก คราวหน้าทิ้งอีเมลล์ไว้ให้อันนา บ้างนะค่ะ เพื่อมีข่าวอะไร เกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้อันนาจะได้แจ้งให้ทราย และขอบคุณมากๆขริงๆ สำหรับกำลังใจ และความรู้สึกดีๆ ค่ะ คุณชอบนิยายเรื่องนี้ ก็เหมือนคนแต่งได้อนิสงค์ตามไปด้วย สุขใจค่ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 70 และ 78 ของ Chirara นะค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะค่ะ ที่เข้ามาติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้และขอบคุณอีกครั้งสำหรับคะแนนโหวด มีปัญหา ข้อสงสัย หรืออะไรที่อยากจะแนะนำอันนาก็ได้เลยนะค่ะ ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ว่างๆ เข้าไปเยี่ยมกันที่ ไอดีบ้างนะจ๊ะ แนะนำตัวกันบ้างค่ะ >>อันนา 19 เจ้าค่ะ<<
ตอบคอมเมนท์ที่ 71 Saison Froide นะค่ะ
อันนาแต่งไปก็หลงรักน้องออกัสเช่นกันค่ะ น่ารักจัง อีกสิบปีขอมีน่ารักๆแบบนี้สักคน555 ในความน่าสงสารของพิมลดาเนี่ยอันนาว่าเธอเข้มแข็งมากนะค่ะ ในตอนต่อๆไปจะได้รู้และเข้าใจในตัวเธอคนนี้มากขึ้นค่ะ ว่าเพราะอะไร ทำไมอันนาถึงบากว่าเธอเข้มแข็ง แต่ก็เห็นๆ กันอยู่ บางครั้งคนเรามักทำอะไรที่ขัดกับสิ่งที่ใจต้องการ เพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคออยู่ ... รออ่านนะค่ะ... อนาคตพี่อาจจะรู้สึกรักพวกเขาทั้งสามคนเลยก็ได้ค่ะ ไม่ใช่รักแค่ พิมลดาและออกัส จริงๆ ...ไม่เชื่ออีกล่ะสิค่ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 72 และ 73 ของ plesy พี่เปิ้ลนะค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่เปิ้ลขอบคุณสำหรับการติดตามนะค่ะ ใช่ค่ะพี่เปิ้ลเดาเก่งนะค่ะเนี่ย อิอิ ใกล้มากแล้ว แต่จะพบจะรู้จักกับแบบไหน เนี่ยเราาต้องดูกันต่อไปค่ะ อันนาไม่อยากแต่งนิยายยาวยืดมีแต่น้ำคำเหมือนกัน จะพยายามๆๆๆๆ ให้มันไปถึงจุดที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าที่อ่านๆมาจะไม่น่าเบื่อใช่ไหมค่ะ 555+ ขอบคุณ สำหรับทั้งกำลังใจ คำชม และคะแนนโหวตนะเจ้าค่ะ พี่เปิ้ล
เรื่องเรียน อันนาก็ไปเรื่อยๆ ค่ะเพียงแต่งานเยอะ เป็นเฟรชชี่ก็แบบนี้ค่ะ มีแต่กิจกรรม เดี่ยวนั้น เดียวนี้ 5555 (โทษนะค่ะ เผลอบ่นอีกแหละ)55555+
ตอบคอมเมนท์ที่ 74 ของทีมนะค่ะ
สวัสดีค่ะ ทีมขอบคุณมากๆ เข้ามาอ่านอยากสม่ำเสมอน่ารักจริงๆ มาคราวหน้าทิ้งอีเมลล์ ไว้บ้างสิค่ะ อันนาจะได้แอด ไว้ เพื่อว่างๆคุยเล่นกัน อิอิ แล้วก็เพื่อมีข่าวสารนิยาย ใหม่ๆ ลงตอนใหม่ อันนาจะได้ ส่งเมลล์ไปบอก แง่ๆ ก็อัันนากลัวเสียผู้อ่านดีๆ ไปนี่ค่ะ อิอิ
ตอบคอมเมนท์ที่ 75 ขอบพี่ chatchanya นะค่ะ
อันนาอ่านคอมเมนท์พี่ไป ยิ้มไปคนเดียวแถบบ้าเลยแหละค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะค่ะ อันนาขอรับคำชมอย่างยินดี แต่อันนาว่ามันจริงประมาณ 80% กันนะค่ะ เพราะอันนาว่า ฝีมือขั้นเทพนี้ มันเกินไปค่ะ อันนาคิดว่าตัวเองค่อนข้างทำมันได้ดีนะค่ะ ลึกๆอันนาว่าทุกคนที่แต่งนิยายนี่ล่ะ ต้องเชื่อมั่นและหลงใหลสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมาทั้งนั้น พี่ชมอันนาขนาดนั้น เดี๋ยวอันนาลอย แต่พูดจริง ถ้าคิดตามอายุและคุณวุฒิ ก็ต้องบอกว่า อันนาเองก็คิดว่า เขียนได้เกินอายุ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเราอ่านสิ่งไหน เราได้สิ่งนั้น อันนาอ่านนิยยมาเยอะมากๆ เช่นกันนะค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นของนักเขียนที่มากประสบการณ์และก็เข้าขั้นชั้นครู ร่ายชื่อไป ต้องร้องอ๋อค่ะ อิอิ... ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น ส่งผลสะท้อนออกมา ในวิธีการเขียนบ้าง นิดหน่อย ไม่ได้ลอกเลียนนะค่ะ 555+ อันนาพยายมคิดว่าคนอ่าน ส่วนใหญ่ต้องการอะไร แน่นอน เขาไม่อยากซื้อหนังสือ ที่มีหน้าเป็นครึ่งพัน แต่มีเนื้อหาแก่นแท้ของเรื่องเพียงย่อมกระจุกหรอกใช่ไหมล่ะค่ะ ก็อยากจะเขียนเนื้อๆ มีมุขบ้าง มีบทพูดที่อ่านดีๆ แล้วจะตลก(ต้องมีอารมณ์ขันหน่อยอิอิ)...55+
ถ้าเขียนจบเรื่องนี้ก็ จะส่งแน่นอนค่ะ ส่วนอีกเรื่อง ต้องรีไรท์ดีๆ น่าจะโอเคเช่นกัน นี่อันนาก็หาข้อมูลเรื่องใหม่ ไว้ด้วยนะค่ะเนี่ย หวังว่าพี่จะคอยติดตามนะค่ะ เป็นแนวโรมาซติก ดราม่าหน่อยๆ (ไม่โศกนะ) เป็นกำลังใจให้อันนา ด้วยนะค่ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 76 ของพีมิงค์ พี่สาวววววที่น่าร๊ากกกก นะค่ะ
อยากจะบอกเลยนะค่ะ พี่มิ้งแรกๆอันนาก็คิดพล็อตไว้ไกล้ๆ แบบที่พี่มิ้งบอก คือสร้างความเจ็บปวดเจียนตายให้ผู้ชายอย่างนายอัศวิน ให้เขาทุกข์ทรมาน แต่อันนาว่ามันขัดกับนิสัยของพิมลดา ที่เธอรักผู้ชายคนนี้ อันนาอยากสื่อให้เห็นตรงนั้น ผู้หญิงตัดสินสิ่งสำคัญด้วยหัวใจ(เป็นส่วนใหญ่) บางคนถึงจะยกเหตุยกผลร้อยแปด ลึกๆ เลือกสิ่งที่ใจรัก โดยเฉพาะเรื่องหัวใจเวลาที่เรารักใคร เรามักเป็นแบบนั้น... อรอินทร์เธอก็สงสารเพื่อนค่ะ แต่เธอก็รู้สึกน้อยใจด้วย(พูดอะไรไปด้วยความน้อยใจเช่นกัน) แต่เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ไม่มีใครรักเพื่อนมากกว่าพี่ชายตัวเองหรอก อย่างน้อยก็ต้องมองเห็นถึงความต้องการของตัวเอง(และพี่ชายก่อน) อันนาไม่อยากเขียนแบบหลับหูหลับตา แหมเพื่อนนางเอก ต้องช่วยนางเอกแบบเต็มใจ ช่วยกันเฉือนเนื้อพี่ชาย พร้อมเอาเกลือโรย มันมีแต่ในนิยาย (น้ำเน่า) อิอิ อันนาชอบจังเลยเวลาพี่ๆ รู้สึกเห็นใจออกัส เพราะอันนาไม่เคยมีลูกนะค่ะ และหลายๆความรู้สึกที่ออกัสรู้สึก อันนาเลยไม่รู้ว่าสื่อออกไปได้ดีแค่ไหน แต่อันนาก็...พอจะเขาใจ เรื่องครวบครัวแตกแยกพอสำควรเลย อยากจะสื่อออกไปให้ดี และให้คนรักเด็กชายตัวน้อยคนนี้ด้วย
ตอบคอมเมนท์ที่ 77 ของพี่ จิ๊บ นะค่ะ
ใช่เลยค่ะ อรอินทร์เธอเข้าใจเพื่อนดีทีเดียว หากความน้อยใจทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเอามากๆ คิดดูสิค่ะ อรอินทร์ยังผิดหวังขนาดนี้ และอัศวินจะเป็นไง อิอิ ขอบคุณพี่จิ๊บมากนะค่ะ สำหรับการให้กำลังใจ ทั้งสองเรื่องของอันนาเลย เดี่ยวตอามไปตอบ ต่อในไอดี เรื่องการสร้างปม อันนาก็อยากทำให้ดีกว่านี้ค่ะ เรื่องนี้อันนาค่อนข้างโอเค แต่กับเรื่องเล่ห์รักเนี่ย อาจจะทำเอาบางคนมึนไปได้เลย นี่ไม่ค่อยได้ไปด้านนู้นเท่าไร แต่ก็ดีใจ ที่มีหลายคนหายสงสารเรื่องปมต่างๆ ไปหลายเปาะ จริงไหมค่ะ?์
ตอบคอมเมนท์ที่ 79 และ 80 ของแก้วใส
สวัสดีค่ะ แก้วใส ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ ขอบคุณมากๆเลยดีใจมากๆที่มีคนอ่านดีๆน่ารักเพิ่มขึ้นมากอีกคนหนึ่ง อิอิ เข้ามาอีกบ่อยนะค่ะ มีอะไรแนะนำอันนาได้เลยค่ะ และตอนที่ 5ที่ลงไปอ่านแล้ว คงหายข้องใจนะค่ะ ว่านายอัศวินจะรู้ได้ ด้วยวิธีไหน อิอิ เป็นกำลังใจและมาร่วมกันสวดภาวนาให้อันนากันดีกว่าค่ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 82 พี่นก nok_ka นะค่ะ
เมื่อคืนรอรึเปล่าจ๊ะ พี่นก ขอโทษจริงค่ะ ดึกมากแล้ว และอันนาก็ รีไรท์ไปได้ ครึ่งเดียวเอง ป๋าก็ดุเสียก่อน เจอไล่ไปอาบน้ำนอน อีก เช้านี้ก็เลยรีบมาอัฟให้ได้อ่านกัน หวังว่าพี่นกคงไม่ผิดหวังนะค่ะ อัฟทุกวันแบบนี้ ไม่รักนิยายเรื่องนี้ไม่ได้แล้วนะค่ะ อิอิ
ตอบคอมเมนท์ที่ 83 ของพี่ออม นะค่ะ
อันนาล่ะกลัวอยู่เชียวว่าถ้า เขียนนิยาย สองเรื่อง ที่ช่วงเวลา ต่างกันมันจะมีปัญหาไหม
แต่หวังว่าพี่ออมจะโอเคและเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว (ใช่ไหมค่ะ) ? ไงไงก็ อันนาบอกไปแล้วที่ไอดีค่ะ คือ พระเอกอัศวิน จบโท ตอน 30 เขากลับเมืองไทยได้เกือบปี ถึงจะมีเรื่องนครากับเกษวดี หลังจากนั้นไม่นาน ประมาณเกือบครึ่งปี เกษวดีก็ท้อง ตอนนี้ลูกเกษวดีก็ ประมาณขวบจวนสองขวบได้ค่ะ ตอนนี้ ทั้งอัศวิน และ นคราก็ ประมาณ 34 ทั้งคู่ ค่ะ แฮะๆ เหนื่อย (ปาดเหงื่อ)5555+ เอาเป็นว่า อ่านให้สนุกๆ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค่ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 84 ของ Dear นะค่ะ
ถ้ามันมีโอกาสได้ตีพิมพ์นะค่ะ (ขอแค่อันนาเขียนให้จบเท่านั้น) มันต้องจบสิน่าาาา อิอิอิ
หวังว่าสักวันนิยาย เรื่องนี้จะไปอยู่บนแผงหนังสือใกล้บ้านเดียร์นะค่ะ อิอิ ใช่เลยเรื่องเริ่มมันส์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะค่ะ อันนาแต่งไป ยังอ่านแล้วลุ้นเลย ตอนใหม่ที่ลงไป คงทำให้ เดียร์ สนุกยิ่งขึ้น และเข้าใจพระเอกของอันนามากขึ้นนะค่ะ เดียร์ มิสๆ จ๊ะ
ตอบคอมเมนท์ที่ 85 - 86 - 87 ของไวน์เลเบิล นะจ๊ะ
เย็ๆ ขอบคุณมากๆ จร้าอุตส่าห์ เมนท์และโหวตให้เขาอ่าาาาา อิอิ นี่ตกลงเชียร์ครูปลาดาวใช่ไหมจ๊ะเนี่ย แหม เห็นคนสงสารเขาเยอะจัง อันนาจะทำไงดีเนี่ย เขียนไป เขียนมา คนอ่านรักคูปลาดาวกันหมดดดดด อิอิ สงสารนางเอกบ้างสิจ๊ะ อิอิ...
ขอจบการตอบคอมเมนท์ไว้เท่านี้นะค่ะ
หวังว่าจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะค่ะ
ขอคอมเมนท์ + โหวตด้วยนะจ๊ะ
อันนา สู้ๆ
ความคิดเห็น