คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความหวั่นไหว (100%)
หลังจากพายุฝนที่ตกหนักเมื่อคืนทำให้เช้าวันนี้อากาศสดชื่น ต้นไม้ กิ่งไม้มีน้ำเกาะพราว ต้นหญ้าใบหลบลู่นอนราบมีน้ำขังหนองเป็นแอ่งๆ ทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน มีรั้วสีขาวเตี้ยๆเป็นแถวกั้นแบ่งเขตยาวถัดออกไปบนผืนดินว่างขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา ที่กำลังปรับปรุงฟื้นฟูผิวหน้าดิน เตรียมการลงหว่านต้นทานตะวัน ช่วงต้นหน้าหนาวที่ใกล้จะมาถึง ช่วงเวลานั้นที่นี่จะเห็นดอกทานตะวันแข่งกันอวดแก้มบานเต็มท้องทุ่งสลับไปกับทุ่งข้าวฟ่าง สวยงามเหมือนแพรพรมผืนกว้าง ทอดยาวออกไปติดเชิงชายเขาเลยทีเดียว
ชาวบ้านแถบนี้ได้อาศัยเช่าที่ดินของไร่แสงตะวันทำกิน ใครเดือดร้อนไม่มีทุนหรือพื้นที่ทำกิน ก็สามารถมาขอความช่วยเหลือได้ตะวันจะให้ทุกคนเช่าที่ดินในราคาถูก เพราะรู้ว่าไร่แสงตะวันเต็มใจช่วยทุกคนให้มีอาชีพ เมื่อมีอาชีพคุณภาพชีวิตของชาวบ้านก็จะดีตามมาด้วย ถ้ามีโครงการใหม่ๆ เช่น การปลูกผักกางมุ้ง ผักปลอดสารพิษ ตะวันก็จะเปิดอบรมให้ชาวบ้าน ที่สนใจเลือกทำตามความชอบและความถนัดของตนเอง
การเปิดอบรมให้ความรู้กับชาวบ้านเพื่อช่วยตนเองได้ ทำให้สามารถผลิต ควบคุมสินค้าให้ได้มาตรฐานเท่ากัน และเขาจะรับซื้อผลผลิตเหล่านั้นจากชาวบ้านเอง ทำให้ผลผลิตจากไร่แสงตะวันมีคุณภาพดีเป็นที่ต้องการของตลาด และพ่อค้าเป็นจำนวนมาก ชายหนุ่มจะเน้นการเกษตรแนวใหม่ ใช้ความเป็นธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี จึงมีโรงหมักปุ๋ยชีวภาพขนาดใหญ่และยังเปิดให้ความรู้แก่ทางราชการที่เข้ามาดูงานอีกด้วย
วันนี้เขาต้องตื่นแต่ตี 3 ด้วยอาการที่ยังมึนงงเพราะนอนไม่พอ ด้วยที่เขาต้องเข้าไปท้ายไร่เพื่อไปดูและเคลียร์ความเสียหายจากพายุฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันและหนักมากคือเมื่อคืน นายสิงห์หัวหน้าคนงานโทร.มาเมื่อตอนเกือบตี 3 ว่าฝนตกหนักมากทำให้แปลงนาข้าวติดกับท้ายไร่เขื่อนดินทำนบกั้นน้ำแตก น้ำไหลเข้านาที่กำลังหว่านเกรงว่าจะต้นกล้าจะเน่าเสียหาย ต้องให้คนงานช่วยกันรีบปิดเขื่อนโดยเร็วที่สุด
กว่าปัญหาจะเรียบร้อย ตะวันกลับถึงบ้านก็ 6 โมงเช้า เช้านี้เขาคงไม่มีแรงเข้าไปตรวจงานสำนักงานแล้ว ชายหนุ่มเลี้ยว Polaris ATV สมรรถนะเยี่ยมคันโปรดที่เขาใช้ขับตรวจงานในไร่ได้อย่างสมบุกสมบัน ตะวันเลี้ยวรถเข้าเก็บที่โรงจอดรถด้านหลังบ้านในโรงรถยังมีรถคันโปรดอีกหลายคันรวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ 2-3 คันเพื่อใช้ขับท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มยังไม่มีเวลาเอาไปขับท่องเที่ยวแน่ๆ เพราะตอนนี้เขามีอะไรที่น่าสนใจให้ทำมากกว่านั้น
ประตูบ้านไม้สักยังปิดสนิท ‘แม่กวางน้อยคงยังหลับสนิทอยู่สินะ น่าอิจฉาจริงๆจะรู้ไหมว่าเราแทบจะไม่ได้นอนเลย’ ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนออกพาดบ่า เดินถือขวดน้ำเปล่ายกขึ้นดื่มแก้กระหาย สายตามองขึ้นไปยังระเบียงห้องนอนคนที่คิดถึง ก็ต้องกลั้นสำลักน้ำแทบไม่ทัน
ทันใดนั้นประตูระเบียงห้องนอนเปิดออกกว้าง ร่างอวบอิ่มของคนที่นึกถึงก้าวขาเรียวยาวเดินออกมาสูดอากาศหายใจ ด้วยหน้าตาพริ้มสดชื่น จันทร์เจ้าใส่เสื้อกล้ามสีขาวคว้านคอลึก กางเกงขาสั้นเนื้อนิ่มตัวจิ๋วสีชมพูหวาน ยกแขนบิดขี้เกียจไปมาทำให้เสื้อร่นขึ้นเน้นเอวคอดขาวนวล ผ้าแนบตัวเน้นหน้าอกอวบอิ่มชูชันรับอากาศเย็นชื้นหลังฝนตก ด้วยคิดว่าไม่มีใครจึงไม่ทันระวัง
ตากลมโตมองและยิ้มกว้างไปยังทุ่งหญ้ากว้างโดยไม่รู้ว่ามีสายตาคมกริบแอบมองอยู่ ชายหนุ่มตลึงเกร็งแทบลืมหายใจ ‘สวย หวาน เซ็กซี่ พระเจ้า..โนบรา..อีกตั้งหาก’ ขาแกร่งชะงักค้างขณะกำลังจะเดินเข้าไปเปิดประตูบ้าน เขายืนมองชื่นชมสาวเจ้าที่กำลังยืนเผลอตัวอยู่ริมระเบียงห้องนอน คิดแล้วความเจ็บปวดก็แล่นพล่านขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้เต้นระรัวเป็นกลองเพล พยายามเก็บความปรารถนาที่ลุกฮือ แม่กวางน้อยของเขาสวยและยั่วยวนนัก เขาไม่อยากได้อะไรตอนนี้อีกแล้วนอกจากฝังตัวเองลึกๆลงในกายเธอแน่นๆ
(ต่อน๊า)
“นายน้อยคะ นายน้อย” เสียงเรียกเบาๆต้นแขนถูกมืออุ่นแตะเชิงเรียก ทำให้ตะวันตื่นจากภวังค์ในความฝันด้วยความเสียดาย “มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ”
“โธ่! ป้าติ๋มมาตั้งแต่เมื่อไรครับ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย” ชายหนุ่มถามแก้เก้อ
“แหม ถ้าให้ซุ่มให้เสียงก็ไม่เห็นนายน้อย ทำตัวเป็นเด็กหนุ่มแอบมองสาวตาละห้อยแบบนี้หรอกค่ะ” ป้าติ๋มเย้า “ผมไม่ได้แอบมองใครสักหน่อย แต่มองตรงๆ” หน้าแดงซ่านเพราะถูกคนแก่กว่าจับไต๋ได้ถูกทาง
“จะยังไงก็แล้วแต่นะคะ นายน้อยห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาดป้าขอร้อง”
“ป้าคิดว่าผมจะทำอะไร” มือหนาผลักประตูเดินเข้าบ้าน อีกมือประคองร่างท้วมของสาวสูงวัยที่มีศักดิ์เป็นแม่นมเบาๆ คนตัวใหญ่แต่เด็กกว่าโดนป้าติ๋มค้อนเข้าเต็มวง “แหมป้าเลี้ยงนายน้อยมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยนายน้อยทำอะไรป้ารู้หมดแหละ คิดว่าเรื่องแค่นี้จะปิดคนผ่านมาหลายฝนแบบป้าอยู่หรือคะ”
“รอมาได้ตั้งหลายปี ทนรออีกนิดหนึ่งคงจะไม่ลงแดงตายก่อนใช่ไหมคะนายน้อย”
“นี่กลับมาจากท้ายไร่เมื่อเช้าก็เนื้อตัวเปียกซกขนาดนี้ไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายแล้วจะมาร้องหาพยาบาลอีกป้าขี้เกียจเฝ้าไข้” ร่างท้วมหัวเราะอารมณ์ดีพูดดักทางชายหนุ่มด้วยรู้แผนคิดไม่ซื่อ “โห ป้าติ๋มขอบคุณมากเลยครับ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าจะทำยังไงต่อ ฮ่า ฮ่า” ว่าแล้วก็หอมแก้มร่างท้วมสองฟอดใหญ่ “รักป้าติ๋มที่สุดเล้ยยย” แล้ววิ่งกระโดดขึ้นบันไดบ้านเหมือนได้ของถูกใจ
“สงสัยบ้านเราจะมีนายน้อยตัวเล็กๆก็คราวนี้ล่ะนะ นายใหญ่กับนายหญิงรู้คงจะสบายใจเสียทีที่นายน้อยยอมเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว” คนสูงวัยรำพึง
จันทร์เจ้าตื่นตั้งแต่เช้าด้วยความสดชื่น อากาศดีทำให้นอนสบายและหลับเต็มอิ่ม ร่างบางใส่ชุดเสื้อยืดคอกลมสีชมพูลายหวานเข้ารูปแขนสั้น กางเกงผ้านิ่มสีขาวสามส่วนสบายคล่องตัว เตรียมพร้อมทำงานเต็มที่ เดินลงบันไดมาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นมีผู้หญิงวัยสูงอายุเดินไปทางห้องครัว
“สวัสดีค่ะ ป้าติ๋มหรือเปล่าคะหนูชื่อจันทร์เจ้าค่ะ” ร่างบางพนมมือไหว้คนอาวุโสกว่าได้อย่างอ่อนหวานและสวยงาม
“ไหว้พระเถอะลูก” ร่างท้วมรับไหว้ สังเกตกิริยามารยาทอ่อนหวาน เพ่งพิศใบหน้านวลได้รูป ตากลมโตดูบ๊องแบ๊ว ปากอิ่มแดงสวย ยิ้มด้วยความพึงพอใจ ‘สวยหวาน น่ารักแบบนี้นี่เอง นายน้อยของเราถึงได้หลงนักหลงหนา เป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงไม่ยอมปล่อย ช่างถูกใจนางติ๋มจริงๆหึ หึ’
“ป้าติ๋มคะ หนูมาทำงานเป็นแม่บ้านชั่วคราวให้เจ้านาย 3 เดือนค่ะยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง” เสียงหวานเจื้อยแจ้วถามหน้ายิ้มละมุน
“หนูจันทร์ไม่ต้องทำอะไรหรอกจ้ะ ถ้าอยากทำมาช่วยป้าทำข้าวต้มไว้ให้นายน้อยละกัน ดูท่าทางแล้วจะตื่นร่วมบ่ายได้” นางยิ้มด้วยความเอ็นดูมือซาวข้าวในหม้อเพื่อเตรียมทำข้าวต้ม
“ค่ะป้า เอ่อ แล้วงานบ้านล่ะคะหนูต้องทำตรงไหนก่อนบ้างคะ” จันทร์เจ้าถาม
“งานบ้านเดี๋ยวนังเอื้อยกับนังอ้อยก็มาจัดการเอง ถ้าหนูจันทร์อยากทำก็ทำห้องนายน้อยก็พอจ้ะ” พูดตัดบทพลางหันไปหยิบอุปกรณ์มาทำข้าวต้ม ปล่อยให้จันทร์เจ้ายืนงง ซักพักนึกได้ก็กุลีกุจอช่วยเป็นลูกมือป้าติ๋มทันที ท่าทางทุกอย่างอยู่ในสายตาของคนผ่านโลกมานานยิ้มด้วยความพึงใจ
“เมื่อคืนฝนตกหนักมาก นาข้าวตรงท้ายไร่เขื่อนดินที่กั้นน้ำจากอ่างเก็บน้ำแตก คนงานที่เข้าเวรเฝ้าทำอะไรไม่ถูกเพราะฝนตกหนักมาก เลยแจ้งนายสิงห์หัวหน้าคนงานให้มาดู”
“โชคดีมากที่เมื่อคืนนายน้อยกลับมาพอดี คนงานเลยมีกำลังใจช่วยกันเต็มที่ กว่าจะกั้นเขื่อนดินสำเร็จและสูบน้ำออกจากนาข้าว ก็ปาไปเกือบรุ่งเช้า ถ้าไม่ได้นายน้อยงานนี้ความเสียหายคงจะหนักเอาการ ก็เปียกปอนกันพอดูคงจะมีคนป่วยกันบ้างล่ะนะ” พูดแกมรำพึง มืออวบตักกระดูกหมูและหมูสับปรุงรสใส่หม้อ เมื่อน้ำเดือดพล่าน ก่อนมือท้วมจะสาระวนปรุงข้าวต้ม ตาชำเลืองมองสาวหน้าหวานที่ซอยกระเทียมเพื่อเจียวไว้ใส่ข้าวต้มอยู่ใกล้ๆ
มือบางซอยกระเทียมใจคิดว่าที่ได้ยินเสียงรถท่ามกลางฝนตกหนักตอนดึกก็คงจะเป็นเค้านี่เอง ตัวเปียกฝนขนาดนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
“นายน้อยตอนนี้ป้าไล่ขึ้นไปอาบน้ำ ให้นอนพักแล้วล่ะ” เสียงแว่วมาลอยๆเหมือนรู้ความคิด ‘ป้าไม่ได้ชี้โพรงให้นายน้อยนะ แต่ป้าก็อยากได้นายน้อยเล็กๆมาวิ่งเล่นในบ้านเร็วๆเหมือนกัน’ แอบสังเกตคนหน้าหวานที่กำลังหน้าเคร่งเครียดด้วยความเป็นห่วงคนบนห้อง ด้วยงานนี้มีลุ้นถูกใจคนแก่อย่างเราจริงๆป้าติ๋มหัวเราะในใจ
‘
The smile on your face lest me know that your need me. There’s a truth in your eyes saying you’ll never leave me. The touch of your hand says you’ll catch me whenever I fall. You say it best..When you say nothing at all
..’ เสียงเพลงสากลจากมือถือสีชมพูเครื่องโปรดดังขึ้นปลุกให้ร่างบางตื่นจากภวังค์
หลังจากป้าติ๋มดูแลเรื่องอาหารเสร็จกลับไปแล้ว จันทร์เจ้าก็มานั่งที่เก้าอี้ไม้โยก บนระเบียงไม้หน้าบ้านคิดอะไรเพลินๆ อากาศหลังฝนตกช่างแสนสบาย นึกเลยไปถึงป้าติ๋มที่ฝากฝังไว้ว่า ตนเองจะต้องไปดูเรื่องอาหารเที่ยงให้คนงานที่โรงครัวจะไม่ไปคุมก็ไม่ได้ถ้าปล่อยให้เด็กๆทำก็เดี๋ยวจะเสร็จช้าไม่ทันมื้อเที่ยงคนงานจะหิว กำชับเพียงว่าตอนนี้นายน้อยหลับ บ่ายๆรบกวนหนูจันทร์ค่อยช่วยยกข้าวต้มและยาแก้ไข้ ขึ้นไปนายน้อยที่บนห้อง กลัวคนตัวโตจะเป็นไข้เพราะนอนพักผ่อนไม่พอและยังตากฝนแต่ถ้าได้ยาดีอาจจะไข้หายเร็วก็ได้
นิ้วเรียวกดรับสายยิ้มด้วยความดีใจ เมื่อเห็นหน้าคนโทร.มายิ้มเต็มจอ “ว่าไงจ้ะสุดสวยคิดถึงจังเลย” เสียงหวานระรื่น ดีใจที่เพื่อนรักโทร.มาตอนกำลังเหงาพอดี
“โห..กว่าจะรับสายนะจ๊ะยัยมูนไลน์ ไม่รอให้สายตัดก่อนล่ะยะ”
“รับเร็วที่สุดแล้วจ้าข้าวขวัญจ๋า”
“ย่ะ ชั้นคงจะวัยรุ่นใจร้อนเลยรอไม่ไหว” เสียงใสเย้ากลับ ข้าวขวัญมักจะเรียกจันทร์เจ้าด้วยสรรพนามว่ามูน(Moon) ซึ่งแปลว่าพระจันทร์ โดยให้เหตุผลว่าเผื่อจะได้ดูมีเพื่อนเป็นฝรั่งกับเค้าบ้าง
“รุ่นไหนเอ่ย รุ่นลายครามดีไหม ฮ่า ฮ่า” ต้นสายหัวเราะเสียงใสเย้ากลับบ้าง
“หยุดเลยนะ หยุดเลย ยัยมูนอย่ามานอกเรื่อง ชั้นโทร.ไปหาหล่อนที่ห้องทำไมไม่รับสาย มือถือก็โทร.ไม่ติดถ้าไม่อยากใช้ก็โยนให้สิบล้อเหยียบเลยดีกว่า” เสียงปลายสายหยอกเล่นกลับบ้าง
“ขอโทษทีนะข้าว พอดีเมื่อคืนเราชาร์ตแบตน่ะเลยปิดเครื่อง และตอนนี้เราก็ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพ” จันทร์เจ้าแจกแจงเหตุผลให้เพื่อนรักฟังเหตุผล
“ไม่ได้อยู่กรุงเท๊พ!” ปลายสายอุทานเสียงแหลมสูงปรี๊ดอารามตกใจ “ทั้งๆที่เมื่อวานก่อนเธออยู่กรุงเทพกับชั้น นี่เธอพอเพื่อนกลับบ้านมหาชัยแล้ว เธอเลยหนีเที่ยวไม่ชวนเพื่อนฝูงเลยยะ” ข้าวขวัญแกล้งค่อนขอดเพื่อนสาว
“หนีเที่ยวที่ไหนกัน ข้าวจำหนังสือพิมพ์ที่เอามาให้เราเมื่อวันก่อนได้ป่ะล่ะที่มีรับสมัครงานน่ะ” สาวเจ้าเท้าความ เอามือยกมือถือออกห่างหู หลบเสียงแหลมปรี๊ดของเพื่อนสาว
“อืมมมม จำได้สิก็เราเห็นมูนใฝ่ฝันอยากทำงานในไร่ เราเลยเห็นว่านี่ก็งานในไร่เหมือนกันทำแค่ 3 เดือนเอง อยู่ๆไปเดี๋ยวก็อ้อนๆหน่อยขอทำงานที่ไร่ด้วยเค้าคงไม่ว่าไง” ข้าวขวัญพูดเออ ออ”แล้วเจ้านายเป็นยังไงบ้างล่ะใจดีไหม”
“ใจดีสิ ใจดีเกินไปด้วย ใจดีจนเราไม่ต้องทำอะไรเลย ที่นี่คนทำงานบ้านก็มี คนทำอาหารก็มีแล้ว แบบนี้เราพอจะมีแววได้ทำงานที่ไร่แสงตะวันต่อไหมเนี่ยเราชักกลัวๆอ่ะข้าว ” จันทร์เจ้าบ่นปลงๆ
“อ้าวซะงั้น แล้วเค้ารับมูนไปทำตำแหน่งอะไรนะ แม่บ้านใช่ไหม” ข้าวขวัญกรอกตาใช้ความคิด”ก็เค้าไม่ได้บอกว่ารับแม่บ้านทำความสะอาด หรืองานบ้านนิแก เค้ารับไปเป็นแม่บ้านเค้าหรือเปล่า แบบแม่ทูนหัวอ่ะ ฮ่า ฮ่า”
“เฮ้ย! บ้าป่าวแก เจ้านายเราเค้ายังโสดอายุขนาดนี้แล้วยังไม่มีเมีย เราว่าเป็นเกย์แน่เลยว่าแต่ข้าวรู้ได้ยังไงว่าเจ้านายเราเป็นผู้ชายน่ะ”
“อะ เอ่อ เราก็แค่เดาเอาน่ะนะ ก็แหมเจ้าของไร่ก็ต้องเป็นผู้ชายดิแกก็” เสียงปลายสายแก้ตัวทันควัน ’อืม ที่ข้าวพูดมามันก็มีเหตุผล’ จันทร์เจ้าคิด
“แล้วแกแน่ใจว่าเจ้านายเป็นเกย์จริงเหรอ เค้าสำอาง ออกสาวมากเลยเหรอมูน” เสียงปลายสายกระตือรือร้นแบบอยากรู้อยากเห็นมาก
เจ้าของมือถือเริ่มหน้าแดงซ่านเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน”ข้าวแกว่าเกย์เค้าจะจูบผู้หญิงป่าวอ่ะ”
“มูนแกถามแปลกๆ เกย์เค้าจะจูบผู้หญิงได้ยังไงล่ะ ถ้าจูบก็คงจะฝืนน่าดูแบบว่าอี๋ๆอ่ะ นี่หล่อนอย่าบอกนะว่าหล่อนจูบกับเค้าไปแล้วน่ะ ยัยมูนบอกชั้นมาเดี๋ยวนี้นะ”
เมื่อเพื่อนรักรู้ทันขนาดนี้ทำเอาสาวน้อยถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก“อะ เอ่อ มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ” แล้วก็เล่าเหตุการณ์คืนแรกที่เริ่มออกเดินทาง ให้ข้าวขวัญฟังโดยละเอียดเพราะโดนขู่ว่าถ้าไม่เล่าให้ฟังจะตามมาดูหน้าเจ้านายเพื่อนถึงไร่แสงตะวันในวันพรุ่งนี้ทันที
“กรี๊ดดดดดด จูบกันแล้วด้วย ชั้นดีใจกับแกด้วยยัยมูนคงจะเจอเนื้อคู่ กามเทพแผงศรให้เข้าแล้ว ฮ่า ฮ่า” ข้าวขวัญหัวเราะชอบใจ”แล้วความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไงบ้างเหรอ” คนไม่เคยโดนจูบอยากรู้อยากเห็นอีกแล้ว
“ก็จูบแรกอ่ะ ก็เลยรู้สึกแปลกๆใจมันวิวๆเหมือนจะลอยได้ อะ เอ่อ..แต่ก็รู้สึกดีนะ”จันทร์เจ้าหน้าแดงซ่านตอบอายๆคิดว่าถ้ายัยข้าวเห็นหน้าตัวเองตอนนี้คงจะต้องอายจนเอาหน้ามุดดินเป็นเพื่อนนกกระจอกเทศแน่ๆ
“แบบนั้นเค้าเรียกว่าเริ่มหวั่นไหวแล้วล่ะจ้าหนูมูนจ๋า”
“ก็คงงั้นมั้งข้าว แบบนี้เค้าเรียกรักแรกพบหรือเปล่านะ” จันทร์พูดเปรยๆกับตัวเอง
”อ๊ะ..เท่านี้ก่อนนะมูน เรารู้สึกว่าน้านีรจะกลับมาแล้วล่ะค่อยคุยกันใหม่นะเพื่อน..บายจ้า” ข้าวขวัญขอตัวเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ‘งานนี้มีข่าวใหญ่แบบไม่ต้องกรองให้รายงานน้านีรอีกแล้ว อิอิ’
Volvo XC90 D5 รถ SUV ร่างยักษ์ สีดำมันปราบ เลี้ยวเข้าประตูบ้านอย่างสง่างามสมเป็นรถตระกูลVolvo กำลังจะเข้าจอดในโรงรถ ก็ต้องเบรกกึกยางล้อเบียดดังสนั่น แต่ด้วยเป็นรถสมรรถนะเยี่ยมคนในรถจึงไม่รู้สึกสะเทือน แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้นที ใจแป้วพอสมควรเพราะรถคันนี้เป็นลูกรักที่ถนอมมากห้ามใครแตะเด็ดขาด ‘ใครมันมาวิ่งตัดหน้ารถนะ เดี๋ยวเถอะน่าดู พ่อจะตัดเงินเดือนซะให้เข็ด’ นทีหมายมาดในใจ วันนี้เค้าเพิ่งขับรถกลับมาจากไปสอนพิเศษที่มหาวิทยาลัยมาเหนื่อยๆอยากจะนอนพักเต็มทน ต้องมาหงุดหงิดตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าบ้าน
“น้านีรขา น้านีรหนูข้าวคิดถึงจังน้านีรจังเลยค่ะ” ข้าวขวัญวิ่งเข้ามากระโดดกอดน้าชายโน้มคอคนตัวโตลงมาหอมแก้มข้างละฟอดด้วยความดีใจ
นทีเห็นตัวการเป็นหลานสาวสุดแสบแสนรักเลยพูดไม่ออก ‘เอาน่ะคนนี้ยกให้คน’ “เวอร์แล้วยัยตัวแสบ น้าแค่ไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่มหา’ลัยเราแค่ 2 วันเองนะ” นทียิ้มมือขยี้ผมหลานรักหอมแก้มกลับแรงๆ”ทำท่าทางแบบนี้มีอะไรจะอ้อนน้าแน่ๆเลยใช่ไหมคะ”
“หนูข้าวมีอะไรจะเล่าให้น้านีรฟัง มันเป็นข่าวดีบวกเซอร์ไพส์เลยนะคะ มาค่ะ” คนตัวเล็กกว่าดึงแขนน้าชายให้เดินตามมานั่งที่ชุดโต๊ะอัลลอยด์สีขาวริมสระว่ายน้ำใหญ่หลังบ้าน
“น้านีรทายสิคะว่าวันนี้หนูข้าวได้คุยกับใคร?” สาวน้อยเอียงหน้าทำหน้าบ๊องแบ๊วถามได้อย่างน่ารัก “ถามปัญหาไอ้หนูจำไม แบบแปลกๆอีกแล้ว น้าจะรู้ไหมคะ”
“แหม น้านีรก็”
“เมื่อกี้นี้หนูข้าว เพิ่งคุยกับจันทร์เจ้าค่ะมีเรื่องเซอร์ไพส์ด้วยน๊า อิอิ”
“ตอนนี้ยัยมูนไปอยู่ที่ไร่แสงตะวันแล้ว และกะ ก็......” หลานสาวคนสวยเอามือป้องปากกระซิบข้างหูคนเป็นน้าชายแล้วทำเสียงตื่นเต้น
“ได้จูบกับน้าช้างแล้วล่ะค่า”
“ฮ้า เซอร์ไพส์จริงๆไอ้เสือมันไวไฟจริงๆว่ะ ฮ่า ฮ่า” คนเป็นน้าชายหัวเราะด้วยความชอบใจ
“แหม น้านีรขา น้าช้างรอยัยมูนมาเป็นปีๆ ทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงขนาดนั้น พอได้ตัวเป็นๆมาอยู่ด้วยเป็นใครก็ตบะแตกหรอกค่า ยัยมูนเองก็น่ารัก น่ากิน น่าเจี๊ยะ ขาวจั๊วะ ขนาดนั้นหรือน้านีรว่าไม่จริง” หลานสาวตัวแสบขอแรงสนับสนุน นทีพยักหน้าเห็นด้วย
“ยัยหนูจันทร์ก็ช่างไม่รู้ตัวเอาซะเล้ย ว่ามีคนแอบหลงรักตามแอบมองตัวเองมาเป็นปีๆ แล้วเราจะทำยังไงต่อดีสงสัยงานนี้ถ้าเค้าเข้าหอลงโรงกันแล้ว เราสองกามเทพน้าหลานคงตกกระป๋องหมดความหมายแล้วล่ะม้างงง”
“น้านีรขา เรามาพนันกันดีกว่าว่ายัยมูนจะเสร็จน้าช้างเมื่อไร อิอิ”
“ไม่พ้นคืนนี้” นทีฟันธง
“ฮ้า เร็วขนาดนั้นเลยเหรอน้านีร!” สาวเจ้าอุทานด้วยความตกใจแต่ในใจก็แอบลุ้น “แต่มูนบอกว่าน้าช้างตากฝนหนักเมื่อคืนเดาว่าคงจะไข้ขึ้นได้นา”
“โธ่ เสือล่าสวาทอย่างนายช้างต้องมาเป็นฤาษีจำศีลเป็นปีๆเพราะแอบเฝ้าสาวแบบนี้ ต่อให้มันเป็นไข้เจียนตายก็สู้ตายล่ะ.ไข้ฝนแค่นี้จิ๊บ จิ๊บ เชื่อน้าเถอะ..ฮ่า ฮ่า..”
“ทำไม ยังไงคะ อย่าให้หลานอยากรู้อยากเห็นสิคะ”
“มันไม่ใช่เรื่องของเด็กเลยจ้ะหลานรัก” นทีจับใช้มือจับหัวหลานสาวเขย่าเล่นด้วยความเอ็นดู แต่คนฟังหน้างอเพราะอยากรู้
“น้านีร!” ข้าวขวัญขึ้นเสียงงอนคนเป็นน้าจับจิต “หนูข้าวอายุครบยี่สิบเอ็ดปีเต็มแล้วก็เรียนจบแล้ว ไม่เด็กแล้วนะคะ”
“ยังไงก็ยังเด็กในประสบการณ์ทางเพศแสนสวาทล่ะค่ะ โตขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นมีใครมาจีบเลย ฮ่า ฮ่า” นทีหัวเราะร่าด้วยความชอบใจ เล่นเอาสาวน้อยค้อนขวัก “ไม่ใช่ ไม่มีมาจีบค่ะ แต่ไม่ถูกใจตั้งหาก” คนตัวเด็กหน้างออยู่แล้วยิ่งหน้างอเข้าไปใหญ่
“ระวังเถอะยัยตัวแสบเล่นตัวมากๆสักวันจะเจอแบบเจ้าชู้ตัวพ่อเห็นหน้าแล้วลากขึ้นเตียงมาปราบ ฮ่า ฮ่า”
“น้านีรทะลึ่ง หนูข้าวจะฟ้องแม่” เมื่อสู้ไม่ชนะข้าวขวัญเลยจะหาตัวช่วยทันที
“โอ้โห กลัวๆ เถียงไม่ชนะเลยจะวิ่งไปฟ้องแม่ จะทำยังไงดีล่ะให้ตัดเงินเดือนน้านีร หรือจะเอาน้านีรยกใส่พานให้สาวๆ ฮ่า ฮ่า”
“ข้อหลังดีกว่ามั้งตานีร” เสียงดังทรงอำนาจตอบกลับมาจากด้านหลังสองน้าหลาน
“พี่ชลมาข้างหลังเงียบๆไม่ทันรู้ตัว แบบนี้ก็รู้ว่าผมกำลังนินทากันอยู่น่ะสิคร๊าบบบ” นทีอ้อนพี่สาวทำเอาคุณสายชลค้อน
สายชลถึงแม้ว่าจะมีลูกสาวอายุจนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังคงความสวยและสาวไม่เสื่อมคลาย เธอเคยเป็นถึงเทพีนพมาศมาก่อนความสวยของข้าวขวัญจึงหล่นไม่ไกลต้น ทำให้นทีน้องชายคนเดียวของตน ที่มีข้าวขวัญเป็นหลานสาวคนเดียวหวงนัก หวงหนา หนุ่มๆมาจีบได้มีอันกระเจิงเพราะความเฮี้ยบของนที นทีถือคติถ้าไม่อดทนก็ไม่ต้องมาจีบ ถ้าด่านแรกไม่ผ่านคงไม่สามารถดูแลหลานรักคนนี้ได้
“เรากำลังพูดถึงจันทร์เจ้ากันอยู่ค่ะแม่ขา หนูข้าวกับน้านีรเป็นกามเทพสื่อรักให้น้าช้างมาตั้งแต่หนูข้าวกับจันทร์เจ้าเรียนปี 1 ตอนนี้จันทร์เจ้าไปอยู่ที่ไร่แสงจันทร์กับน้าช้างแล้วค่ะ”
“ตายแล้ว! เซี๊ยวกันจริงๆเลยน้าหลานคู่นี้ เดี๋ยวแม่จะตัดเงินเดือนทั้งคู่เลยละกันนะ” คุณสายชลอุทานเสียงดังแกล้งทำเป็นไม่พอใจ
“โธ่ พี่สาวคร๊าบบ “ นทีเข้าไปกอดอ้อนร่างท้วมที่ยังคงความสวยไม่สร่างแม้จะอายุเริ่มมาก”คุณแม่คนสวยขา” ข้าวขวัญก็เข้าไปกอดอ้อนอีกข้างคุณสายชลเลยต้องใจอ่อน พอๆกับอ่อนใจกับลูกสาวและน้องชายตัวเองที่ทำตัวไม่โตกันเสียที
“แต่ก็ดีแล้วตาช้างก็นิสัยดีใช้ได้ อายุก็ขนาดนี้แล้วน่าจะมีครอบครัวเสียที หนูจันทร์เจ้าก็นิสัยดีน่ารัก แม่สนับสนุนถึงมันจะเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องนักก็เถอะนะ” คุณสายชลพูดอย่างเห็นด้วย”แล้วเมื่อไรเราจะมีคู่กับเค้าบ้างตานีร!”
“แฮะ แฮะ ผมอยู่แบบนี้ก็ดีแล้วครับพี่สาวไม่อยากหาห่วง”นทีตอบเสียงอ่อยเมื่อโดนถามวกเข้าตัว
“แต่ก็คอยมากันท่าหลานตัวเอง จะหาพวกล่ะสิ” ข้าวขวัญแย้งค้อนใส่หน้าชายวงโต
“ฮัดเช้ย! สงสัยจะเป็นหวัดมั้งเรา” จันทร์เจ้าจามโดยที่ไม่รู้ว่ามีคนอีกจังหวัดฟากฝั่งติดทะเลกำลังพูดถึงตัวเองอยู่อย่างถึงพริกถึงขิงทีเดียว
ครบ 100% แล้วนะคะ
น้านีรกับข้าวขวัญสองน้าหลานสุดเซี๊ยวจะมีแผนอะไรต่อไป หรือ กวางน้อยจะโดนหมาจิ้งจอกหื่นงาบรอตอนหน้าจ้า =^^=
ความคิดเห็น