ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Lost into the Legend of Light (L.L.L.) 18+

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 17 : อภัยได้รึไม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      1
      24 พ.ค. 61

    ตอนที่ 17 :  อภัยได้รึไม่

                 นี่เธอพูดจริงหรือพูดเล่น

                 ไลน์รินเหล้าเติมลงในแก้ว แววตาสั่นไหวขณะกะระยะ

             อืม ความจริงก็ตัดสินใจมาได้พักหนึ่งแล้วล่ะเธอใช้นิ้วคนน้ำพลางเล่าถึงเหตุผลที่เป็นอัศวินก็เพื่อล้างแค้นให้ท่านพ่อกับท่านแม่ แต่เราก็ชนะสงครามได้แล้ว

                อัศวินมันเลิกเป็นได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอออกจะตกใจอยู่เพราะที่ผ่านมาเราก็ร่วมสู้ด้วยกันไม่ใช่น้อยครั้ง แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามเธอหรอกนะ ยิ่งหากนั่นเป็นการตัดสินใจที่คิดมาดีแล้วด้วย

                หญิงสาวเบื้องหน้าเหล่มองผมด้วยหางตา แก้มแดงเป่งจนชัด รู้สึกว่าเราต่างเริ่มเมาอย่างกรุ้มกริ่ม

    ไม่ง่ายหรอก แต่ก็ใช่จะไร้วิธี ข้าเองก็เป็นผู้หญิงจริงๆ นี่นะ

                อืม...งั้นเหรอเพราะไลน์เป็นผู้หญิงจึงไม่ใช่ผู้ที่เหมาะกับตำแหน่งอัศวินแต่เดิมอยู่แล้ว บางทีนี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จู่ๆ เธอก็ทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงขึ้นมาเช่นกัน ตำแหน่งก็เป็นเชื้อขุนนางอยู่แล้วถึงเธอจะไม่เป็นอัศวินก็ใช่จะตกต่ำลง

                วิธีนั้นก็คงถอดยศออกเรือนนั่นล่ะอย่างนี้นี่เอง เธอหันมานั่งตามปกติจิบเหล้าต่ออีกอึก ท่านจะช่วยข้าได้ไหมล่ะ ท่านองค์ชาย

                ฮะ!?” เดี๋ยวนะ สงสัยผมเมาแล้วหูฝาดไป เธอว่าอะไรนะ

                ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าล้อเล่นต่างหาก ดูหน้าเจ้าสิแล้วจู่ๆ เธอก็ตบไหล่ผมหัวเราะร่า เหอะๆ อะไรกันล้อเล่นหรอกเหรอ

                เธอนี่นะ เมาแล้วแหงๆผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่จะว่าไปถ้าเราเป็นเจ้าชายหรือราชา จะมีนางสนมบ้างก็ได้นี่นา หืม ฮาเร็มสินะฮาเร็ม เพี๊ยะ! แล้วผมก็ตบหน้าตัวเองเบาๆ  ไม่ได้! เป็นพระเอกต้องรักเดียวใจเดียว

                ข้าไม่ได้เมาหรอกนะไม่รู้ทำไมเธอถึงหลบตาผมไปแบบนั้น แต่เอาเถอะ ขอแค่เธอเป็นตัวเองได้นั่นก็พอล่ะนะแล้วเป็นไง น้องชายของข้าอยู่ที่วังเป็นอย่างไรบ้าง

                เธอไม่เคยไปดูเขาฝึกซ้อมเหรอ

                ถึงจะอยากเห็น แต่ข้าก็ไม่อยากทำให้เขาเสียสมาธิไลน์อธิบายก่อนจะดื่มเป็นแก้วสุดท้ายแล้วคว่ำลงว่าแต่วิชาดาบของเจ้าน่ะ

                หืม

                ทั้งตอนสู้กับบารอนเกาะเกร็ด และเวสโซ ข้าเห็นเจ้าเหวี่ยงดาบสะเปะสะปะใส่แต่พลัง มันทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าฆ่าจอมมารได้ยังไง

                อึก! ไหงจู่ๆ มาเรื่องนี้ล่ะ เอาไงดี เล่าเหมือนตอนที่ให้พวกเด็กๆ กับมากาเร็ตฟังดีไหม แต่ยัยนี่จะเชื่อเรื่องชุ่ยๆ แบบนั้นเหรอ

                ตอนข้าตามเข้าไปในปราสาท ข้าเห็นกองซากศพพวกนั้นนอนเรียงเป็นทาง หนำซ้ำยังมีดาร์กสโตนอยู่ด้วย เจ้าทำมันได้ยังไง

    ถามอยู่ได้ว่ายังไง แล้วจะให้ตอบแบบไหนล่ะ อ๋อ ฉันไม่ได้ทำหรอก งั้นเหรอ มีหวังนอกจากจะไม่ได้กลับบ้านไปจีบเอมร้านสะดวกซื้อแล้ว คงโดนประหารตายอย่างหมาแน่ๆ

                 ไม่ได้การเหงื่อชุ่มไปหมด ถ้าไม่รีบตอบอะไรมีพิรุธแน่ยังไงนะเหรอ

                เธอจ้องหน้าผมเขม็ง ใช่ ยังไง

                ก่อนอื่นต้องเลี่ยงประเด็นจอมมารถ้าเป็นเจ้าขุนนางอะไรนั่นล่ะก็ ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะแต่ผมนึกย้อนไปถึงตอนที่สู้กับอสูรหกแขน ในตอนนั้นเราทำอะไรไปบ้าง มีอยู่สองครั้งที่จู่ๆ พลังมันก็พุ่งพล่านออกมา ครั้งแรกก็มีหมวกอัศวินมาสวมที่หัว

                ไลน์พยักหน้า ถ้าไอ้นั่นก็เห็นตอนเจ้าสู้กับเวสโซแล้วล่ะ มันคืออะไรกันแน่

                เห็นพวกปีศาจเรียกมันว่าสปิริตออฟโฮพ ไม่รู้หรอกนะว่าคืออะไรแต่พอใช้แล้วจู่ๆ ก็จะเคลื่อนไหวเร็วขึ้น แถมครั้งก่อนก็มีเกราะแขนเพิ่มขึ้นมา

                อืม บางทีเราอาจต้องพึ่งท่านมากาเร็ต

     หงะ

                ไม่ไหวหรอกไม่ไหว ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ครั้งก่อนผมไปทำให้เธอโกรธเข้า ไม่รู้จะให้อภัยรึเปล่าด้วยซ้ำ

                แล้วครั้งที่สองล่ะไลน์ดึงกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง ดูสนใจเป็นพิเศษ

                ชุดเกราะที่ชื่อเอ่อ เหมือนจะชื่อแรคนาร็อค ที่มากาเร็ตร่ายให้น่ะ พอฉันถูกทำร้ายจนปางตายมันก็ส่องสว่างขึ้น รู้ตัวอีกทีบาดแผลทั้งหมดก็ถูกรักษา แถมเหมือนจะได้ยินคำบอกใบ้ให้สู้ด้วยผมยิ้มแหยๆ แต่พอใช้เสร็จมันก็สลายไปซะเฉยๆ

                ถ้าเรื่องนั้นฉันพอเข้าใจนะเธอชูนิ้วชี้กับกลางขึ้นแตะมายังอกซ้ายของผม เกราะแรคนาร็อค เป็นเกราะเวทมนตร์ที่ถูกตีขึ้นเมื่อสามร้อยปีก่อนโดยเจ้าแห่งมนตรา บางทีมันอาจตอบสนองต่อหัวใจของเจ้า

                หัวใจของฉันผมเกาศีรษะอย่างงุนงง เธอเก็บนิ้วกลับไปแล้วเริ่มอธิบาย

                ศาสตราวุธเวทมนตร์บางชนิด จะสำแดงพลังที่ซ่อนอยู่เมื่อผู้ใช้ผ่านเงื่อนไขที่จอมเวทย์สลักไว้เธอรินเหล้าลงแก้วส่งให้ผม ก็ไม่รู้หรอกนะว่าคืออะไร แต่เหมือนจะเป็นสิ่งที่เจ้ามี

                ในตอนนั้นมันเป็นครั้งแรกที่ความทรงจำเกี่ยวกับ เธอคนนั้นผุดขึ้นมา มันเหมือนเป็นความฝัน ฝันที่ถูกลืมเลือนเมื่อตื่นจากนิทรา มันต้องเกี่ยวข้องกับทั้งเกราะนั่น และ สปิริตออฟโฮพ แน่ๆ

                เอาเป็นว่าเรื่องนั้นช่างเถอะ ถึงเจ้าจะมีพลังแฝงแบบไหน แต่ตราบใดที่ไม่มีวิชาต่อให้พกดาบไปรบก็ไม่ต่างจากกิ่งเฟิร์น             เธอยืนขึ้นแล้วทุบอกตัวเองดังปักๆ ก่อนจะเลิกเป็นอัศวิน ข้าในฐานะแม่ทัพฝ่ายตะวันออกจะขอมอบวิชาให้แก่เจ้าชายไว้เพื่อปกป้องบ้านเมืองเอง         

                ไม่เอาอะผมปัดมือในทันที

                เอ๋ ทำไมล่ะดูเหมือนเธอจะเหวอพอควร ก็ดันเซเกือบล้มนี่นะ

                ฉันขี้เกียจ

    อีกอย่างผมก็ไม่ได้คิดจะรบอะไรอยู่แล้วด้วย จะเรียนดาบไปทำไม ที่ต้องการมีแค่กลับไปอ่านสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ทันเท่านั้นล่ะ

                เจ้านี่มันเอาล่ะเหวย ยัยนี่กำหมัดแน่นซะแล้ว มากับข้าเดี๋ยวนี้

    จึ๊ก!

                โอ๊ย!!! เจ็บๆ ทำไมต้องดึงหูอีกแล้วเนี่ย

                สุดท้ายก็โดนลากไปกลางลานฝึกของคฤหาสน์จนได้

     


                   เด็กชายก้าวเท้าเข้าประชิดคมดาบที่หญิงสาวตวัดใส่ เขาใช้ส่วนปลายของดาบสั้นสกัดไว้ กัดฟันถ่ายน้ำหนักต้านแรงกระแทกจากนั้นสะบัดหลบเหวี่ยงคมเข้าเฉียดเกราะเธอระยะเผาขน

                เก่งขึ้นนี่ไกลิเกลถอยห่างออกจากเด็กชาย เธอเก็บดาบเข้าฝัก ท่าจะเริ่มชินกับการป้องกันและสวนกลับเบื้องต้นแล้วสินะ

                แม้ไม่ได้ออกอาการดีใจมากสักเท่าไหร่แต่ความภาคภูมิก็ยังหนักอยู่ในอก เขาจึงหลุดยิ้มมุมปากอย่างช่วยไม่ได้  ขอบคุณครับอาจารย์ลิเกล

                ครูฝึกสาวมองเด็กชายอย่างยินดี ปรายตาหาศิษย์คนอื่นๆ ที่ต่างเหนื่อยหอบพักข้างคอกม้า วันนี้พอแค่นี้ก่อน

                หลังสิ้นเสียงครูฝึกสาว สวีฟและอังเดรที่นั่งพิงหลังกันอยู่ก็เอนตัวลงนอนแนบใบหญ้าอย่างพร้อมเพรียง ม...ไม่ไหวแล้ว เด็กชายผมยาวสีเงินเอื้อนเอ่ยเสียงแหบแห้ง  

                เดรกเดินกลับมาพร้อมกับน้ำจากบ่อ เขาแจกจ่ายมันให้เพื่อนๆ แล้วยืนปาดเหงื่อมองไปยังไกที่กำลังมา

                ร้ายกาจเขาชนหมัดเข้ากับเพื่อนที่พัฒนาได้เร็วที่สุดในกลุ่มของวัน

                ยังหรอกไกสบตากับเดรก พวกเขาต่างรู้กันดีว่านี่ยังห่างไกลจากเป้าหมายอยู่มาก อย่างน้อยงานที่เหลือวันนี้ก็คงมีเพียงช่วยขัดล้างชุดเกราะของอาจารย์สาวและบรรดาขุนนาง ซึ่งดูจะเบากว่าการฝึกดาบกลางแดดร้อน

                เจเน็ตลุกขึ้นเดินเข้าหาเด็กชายผู้โชกเหงื่อพร้อมด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ พี่ไกเหนื่อยไหมคะ

                อืม

                เขากระแอมเบาๆ รับผ้ามาพาดต้นคอพลันจดจำความเจ็บปวดที่เวสโซทำไว้ ก่อนหน้านี้เขาพยายามดิ้นรนเพื่อหนีออกจากคฤหาสน์  แต่ช่างดูไร้กำลังเมื่อเทียบกับคนเหล่านั้น แม้จะผ่านมาสักระยะแล้วก็ยังยากลืมเลือนความรู้สึกพ่ายแพ้เต็มประดา 

                ก่อนเริ่มงาน เข้าเมืองกันสักหน่อยไหมเดรกเสนอ

                ฉันเองก็อยากกลับไปดูอาณาจักรของพวกเราเหมือนกันนะ เดลซ่าเห็นด้วย ตลอดหลายวันมานี้เธอได้ทำงานเป็นสไควร์กินนอนอยู่แต่ในวังจนแทบไม่ได้กลับไปยังบ้านเลย

                ว่าไงล่ะไกเดรกถามผู้นำกลุ่มเพื่อขอความเห็น จริงๆ เขาเองก็อยากกลับไปบ้านเช่นกัน

                อืม ถ้าพวกนายไปฉันก็ไปเมื่อร่างกายปรับอุณหภูมิแล้วเขาก็นำผ้าเช็ดเหงื่อออกพาดลงกับถังน้ำ

                เมื่อตกลงกันได้เด็กชายและหญิงทั้งหกคนจึงเดินทางกลับเข้าไปยังเขตตะวันออก ทว่าในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันที่ได้ใช้ชีวิตในรั้ววังก็ทำให้พวกเขามองเห็นบริเวณโดยรอบเล็กลงถนัดตา ถนนที่พวกเขาเคยใช้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานไปกับความฝัน บัดนี้มันเริ่มเป็นฝันที่มีเค้าลางความจริงมิใช่เพียงเลื่อนลอยอีกต่อไป

                ไกกับสองพี่น้องสวีฟและเจเน็ตเดินนำมาจวนจะถึงลานกว้าง ทันใดนั้นเสียงร้องครวญครางบางอย่างก็เพรียกให้หันมองไปยังร้านค้าซ้ายมือ

                ฟั่บ! เพี๊ยะ! เสียงแส้ตวัดลงบนเรือนร่างสีแดงบอบบางที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวน 

                มานี่เลยไอ้สวะ ข้าสั่งให้เจ้าเลียพื้นภาพชายหัวโล้นร่างท้วมฉายในแววตาของเด็กชาย เขากำลังสะบัดหางปลากระเบนฟาดลงกลางหลังเด็กสาวผู้มีกายอมนุษย์ สภาพของเธอคลานอยู่แทบเท้าตะเกียกตะกายจะเคลื่อนตัวไปด้านหน้า คราบน้ำตาเกรอะกรัง ด้วยยากจะฝืนเจ็บก็จำแลบปลายลิ้นสองแฉกเล็กๆ ลงบนพื้นที่มีคราบสกปรก เลียให้สะอาดด้วย

                ภาพของปีศาจที่ถูกจับมาเป็นทาสมีให้เห็นจนชินตา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบอายุน้อยเช่นนี้ บางอย่างในตัวของไกกำลังตีกันไปมา เขาไม่แน่ใจว่าควรจะเมินเฉยดีรึไม่ ทว่าก่อนได้ออกตัวทำอะไรเดรกก็มุ่งเข้าไปเสียแล้ว

                ขอโทษนะครับเด็กชายเดินเข้าขั้นกลางก่อนแส้กระเบนจะถูกหวดอีกครั้ง ชายร่างท้วมพินิจครู่หนึ่งจึงพ่นล่มหายใจออกมาอย่างเสียอารมณ์

                มีธุระอะไร 

                เดรกชี้ไปยังปีศาจเด็กสาว ขมวดคิ้วจ้องใบหน้าที่แสนเหี้ยมโหดทาสตัวนี้ขายยังไง

                ท่ามกลางความตะลึงงันของกลุ่มเพื่อนไกเองเพิ่งสังเกตเห็นว่านี่เป็นร้านค้าทาส เขาเดินตามเข้าไปสมทบอย่างเงียบเชียบ

                ชายพ่อค้ากอดอกแล้วมองกลุ่มเด็กๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตา พวกแกอย่าเข้ามาจุ้นจ้านได้มั้ย ข้ากำลังฝึกทาสอยู่

                ผมถามว่าทาสตัวนี้เท่าไหร่เดรกสู้สายตาอย่างไม่ยอมแพ้ ท่านคงไม่ปฏิเสธลูกค้าหรอกใช่ไหม

                สิ้นประโยคเขากลับหัวเราะอย่างไม่ไยดีเด็กอย่างพวกแกจะมีปัญญาจ่ายเรอะ เหอะ! ก็เอาสิวะ! ห้าโกลด์ สกุลอื่นข้าไม่รับเขาบอกในราคาสูงที่เด็กไม่มีวันจ่ายไหว พลันกลับมาตั้งท่าจะฟาดใส่เธออีกครั้ง

                วันนี้การค้าไม่ดีเท่าไหร่ เพราะทาสเด็กสาวที่เพิ่งขนส่งมาตนนี้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดจนไม่มีลูกค้าคนใดกล้าซื้อ แม้จะนำมาใช้งานในฐานะคนใช้ วันนี้เธอก็ยังพลาดทำชาหกใส่พื้น เขาจึงอยากระบายจนหนำใจให้รู้จักเข็ดหลาบ

                ไก นายมีใช่ไหม

                อ...อืมเขายื่นถุงเงินที่พี่สาวให้ติดตัวมาแก่เพื่อนสนิท ก้นลึกในจิตใจยังมีความเกลียดชัง แต่ความรู้สึกกลับบอกว่าหากไม่ช่วยเธอในวันนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ๆ

                เดรกเทเหรียญกว่าครึ่งถุงลงบนพื้นต่อหน้าชายพ่อค้าดัง เกรงเกร๊ง สร้างความตกใจให้จนเข่าทรุด พ...พวกเจ้ามีเหรียญทองได้ไงเขายังจำได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้เด็กๆ ยังต้องขโมยผักและผลไม้ประทังชีวิต ฉะไหนจึงมีเหรียญทองของชนชั้นสูงได้

                เหตุใดข้าจะไม่มีในเมื่อข้าเป็นคนตระกูลอัลฟราซิสทันทีที่ไกเอ่ยสกุลชายวัยกลางคนแทบจะก้มหัวติดพื้น เด็กหญิงร่างแดงสดเงยขึ้นเผยใบหน้าบอบช้ำมองเดรกและไกสลับกัน

                มา....ช่วยเธอพยายามเปล่งเสียงที่แห้งแหบไร้ซึ่งกำลัง

                เจเน็ตและสวีฟวิ่งเข้าช่วยพยุงเธอขึ้น พลันได้ยินคำพูดที่ไม่ประติดประต่อ

                ข้า...

                หืม เธอว่าอะไรงั้นเหรอเจเน็ตเอียงใบหูเข้าใกล้เพื่อให้ฟังถนัด

                มาช่วยข้าทำไม

             เสียงของปีศาจเด็กสาวเอ่ยอย่างระคนเจ็บแค้น เจ้าพวกมนุษย์ ข้าเกลียดมนุษย์

                เจเน็ตกับสวีฟหันมามองไกเป็นสายตาเดียวกัน ประหนึ่งจะขอคำตอบจากเขา

              เด็กชายมอบเศษเหรียญที่กองอยู่บนพื้นทั้งหมดให้แก่ชายพ่อค้า เขาเดินเข้ามาจับปลายคางเธอขึ้น แววตาว่างเปล่าไร้ความรู้สึกของไกทำให้เด็กสาวสั่นกลัว

                เหรอ ฉันก็เกลียดปีศาจเหมือนกันเขายิ้มมุมปากบางๆ เมื่ออีกฝ่ายคำรามขู่ในลำคอ เกลียดยิ่งกว่าอะไรดี

                เดรกนั่งลงซักพ่อค้าขณะที่เขากำลังโกยเศษเหรียญ นี่ลุงทำไมถึงรับเด็กมาขายล่ะ

    หืม? ไอ้เด็กนั่นน่ะเรอะ รสขนทาสส่งมาเมื่อเช้า จากแรงงานเหมืองที่เพิ่งถูกทำลาย เศษเหรียญทองเหรียญหนึ่งติดอยู่ใต้เท้าเด็กชาย เขาจ้องมองมันอย่างย่ามใจ มันติดมาข้าก็เลยได้ฟรี

    เหมืองงั้นเหรอ

    ชายพ่อค้าพยักหน้า สายตายังจ้องมองเศษเหรียญ กระทั่งเดรกยกเท้าขึ้นเขาก็ตะครุบมันทันที

    เมื่อเสร็จธุระไกและคนอื่นๆ พาทาสเด็กสาวตามเข้ามาในลานกว้าง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เขาเดินพาเธอเข้ามาไว้ในบ้านที่ทำจากลังไม้ เดลซ่าวิ่งไปซื้อยาจากตลาดเพื่อมาบรรเทาบาดแผลจากแส้

    แม้ทีแรกจะออกแรงขัดขืนแต่ด้วยสภาพร่างกายที่บอบช้ำในที่สุดเธอก็สลบไป ทุกคนมารวมตัวกันในบ้านหลังเล็กเฝ้ามองปีศาจร่างบางอย่างใคร่รู้

    เธอมาจากเหมืองแร่เดรกเอ่ยขึ้นท่ามกลางวงประชุม คงเจอมาไม่ใช่น้อยๆ ดูตราสินค้าที่ตัวเธอสิ

    บริเวณเนื้อใต้ไหปลาร้าของเด็กสาวมีอักขระสีดำถูกพิมพ์ไว้เผยจากเสื้อผ้าขาดรุ่ย เหงื่อเธอไหลพราก หายใจถี่ สีหน้าเจ็บปวดตลอดเวลา

    เดรกกอดอกครุ่นคิด ฉันเคยได้ยินพวกผู้ใหญ่คุยกันว่า เหมืองแร่จะมีการใช้ยาและคำสาปในการทรมานนักโทษด้วย

    ยาเหรอครับอังเดรผู้ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเอ่ย

    อา ยานั่นจะต้องได้รับตามเวลาในทุกๆ วัน ไม่เช่นนั้นจะทรมานจนปานตาย เป็นวิธีไม่ให้ทาสหนีไงล่ะเขาเหลือบมองไปยังอักขระบนอกเด็กสาว

     โหดร้ายเจเน็ตกอดแขนสวีฟผู้เป็นน้องชายไว้แน่น แล้วแบบนี้เราจะเอายาให้เธอได้ยังไง

    เดรกส่ายหน้า ฉันเองก็ไม่รู้ บางทีเธออาจได้รับการถอนพิษก่อนนำมาขายแล้ว หรือไม่ก็เขาเงียบไปครู่หนึ่ง มองไกที่เหม่อลอย บางทีเธออาจเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลาจนชินไปแล้วก็ได้

    ฉันขอออกไปสูดอากาศหน่อยนะไกลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกโดยไม่สบตากับใครเลยสักคน

    สำหรับเขาแล้วการมีตัวตนอยู่ของปีศาจสร้างความเจ็บแค้นไม่ต่างกับที่พี่สาวของตนเป็น หนำซ้ำมันยังแย่ยิ่งกว่าเสียอีก เพราะปีศาจไม่ได้พรากไปแค่พ่อและแม่ ทว่ายังรวมรอยยิ้มของพี่สาวไปด้วย ทั้งชะตากรรมที่ต้องหนีจากเวสโซ ต้องแบกรับสมบัติประจำตระกูลไว้ตั้งแต่เด็ก สิ่งเหล่านี้สร้างบาดแผลเหลือคณานับให้กับเด็กชาย

                เดรกเดินตามออกมาอย่างเป็นห่วง สวนกับที่เดลซ่าวิ่งเข้ามาพร้อมขวดยา

                นาย ไม่เป็นไรนะ

                อืม

                ไกยืนกอดอกพิงกำแพงลานกว้าง ในใจสับสนจนไม่รู้ควรทำอย่างไร

                สีหน้านายบอกว่าไม่ใช่นะเดรกหัวเราะเบาๆ กับท่าทางปากไม่ตรงกับใจของเพื่อนสนิท เพราะเป็นปีศาจงั้นเหรอ

                ไกเบนหน้าหนีอย่างเสียอารมณ์ หนวกหูน่า

    งั้นคงไม่ว่าถ้าฉันจะขอเอาเธอเข้าทีม

    และแล้วเขาก็สวนกลับทันที เธอเป็นปีศาจนะ

                เดรกหลุดยิ้มอย่างเสียไม่ได้ เขาเดินเข้ามาต่อยบ่าเด็กชายเบาๆ นั่นไง พูดออกมาจนได้

                ชิ

                นี่...นายจำตอนที่เจอกับฉันครั้งแรกได้ไหมเขาพิงพนังตามอีกฝ่าย สายตากวาดมองทั้งบ้านไม้ และบรรดาถังที่จัดเรียงเป็นแคมป์กลางสนามหญ้า

                “….”

                โบสถ์มีที่จำกัดสำหรับเด็กกำพร้า เพราะแบบนั้นฉันถึงหนีออกมาเดรกสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ไหลผ่านเข้าปอดแล้วหันไปยังไก นายชวนฉันสร้างกลุ่มกับเด็กกำพร้าจากสงคราม เพื่อให้เราได้มีครอบครัว

                ....

                นายบอกกับฉันว่าจะไม่มีเด็กคนไหนตัวคนเดียว ไกเดรกชี้นิ้วไปยังบ้านไม้ตอกย้ำลงในคำพูด ยัยนั่นเป็นเด็กกำพร้า

                ฉันรู้หรอกน่าเด็กชายตบมือลงบนถุงเงินเป็นคำตอบ ประหนึ่งบอกว่าถ้าไม่ช่วยก็คงไม่ซื้อชีวิตเธอมา

                งั้นนายก็ไม่ต้องคิดอะไร เธอจะเป็นครอบครัวของเรา

                ฉันแค่ ไม่รู้สิไกหลับตาถอนหายใจ ฉันเคยอยากเป็นอัศวินเพื่อฆ่าปีศาจ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจออะไรแบบนี้

                จอมมารตายไปแล้วไก

                “….”

                เดรกเห็นท่าทีอีกฝ่ายยังดูหนักใจ จึงจำปล่อยวางแล้วเดินกลับไปยังบ้านไม้หลังเดิม ฉันจะไม่เร่งรัดนายแล้วกัน

     

                โอย ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว

                ผมหอบหายใจไม่หยุดท่ามกลางอากาศระอุ แม้จะบอกว่าเป็นการฝึกดาบขั้นพื้นฐาน แต่ไลน์ก็เล่นสู้ซะไม่ออมมือ ขนาดอยู่ในชุดกระโปรงยาวความเร็วก็มิได้ตกลงเลย

                ย่า!!

                หญิงสาวควงดาบเข้าพันกันสลัดออกจากมือผม แล้วจี้คมเข้าชิดลูกกระเดือกในพริบตา ผมได้แต่มองตาปริบสมองประมวลผลไม่ทัน

                นี่เธอไม่ได้แค้นอะไรฉันใช่ไหม

                ไลน์ถอนหายใจขณะเก็บดาบ ผมรู้ได้ทันทีถึงความผิดหวัง

                เจ้ายังจับดาบหลวมไป เวลาจับนิ้วเจ้าก็ต้องชิดกระบังดาบ

                ง...งั้นเหรอ

                ตลอดเวลาผมเอาแต่จับส่วนปลายของด้าม อาศัยกำลังยึดให้มั่นเอาอย่างเดียว ก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันผิด

                ฐานขาของเจ้าก็ไม่มั่นคง ดาบเจ้ามันถึงไม่นิ่งไง

                อืมๆ

                แล้วเธอก็ถอนหายใจอีกครั้ง แต่อย่างน้อยก็ยังป้องดาบของข้าได้บ้างล่ะนะ ไหวพริบค่อนข้างดีเหมือนกัน

                มันเป็นสัญชาตญาณนั่นแหละ ฮ่าๆ

                ถึงจะเป็นคำชมแบบขอไปที แต่ผมก็ค่อนข้างเขินพอสมควร จะว่าไปแล้วพวกไกเองก็ต้องฝึกแบบนี้สินะ หนักพอตัวเลยแฮะ

                บางทีข้าควรจะให้เจ้าได้เรียนรู้วิธีการใช้เมจิกสโตนบ้างล่ะนะ อย่างน้อยก็คงช่วยได้เธอเดินไปเปิดหีบที่วางทิ้งไว้บนม้านั่งในสวนหยิบอัญมณีออกมาสามเม็ด เม็ดหนึ่งสีทอง เม็ดหนึ่งสีแดง เม็ดหนึ่งสีฟ้า

                ทำไมเอามาตั้งสามเม็ดล่ะ

                ทั้งสามเม็ดนี้คือเฟรมสโตนความบริสุทธิ์ต่างกันเธอชี้นิ้วไปยังเม็ดสีฟ้า ถึงเม็ดนี้จะค่อนข้างต่ำ หากเจ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นวังวนเวทย์ไฟ

                ผมจ้องอยู่สักพักกว่าจะเห็นว่ามีคลื่นอากาศบางอย่างวนเวียนอยู่ภายใน พอเพ่งสมาธิแล้วก็สัมผัสไอร้อนได้บางๆ

                เมจิกสโตนนี่ไม่ได้แยกกันตามสีสินะ

                ไลน์พยักหน้า เราแยกกันตามคลื่นพลังเวทย์ แต่บางครั้งก็พอใช้สีแยกได้

                ยังไงเหรอ

                ส่วนใหญ่แล้วสีฟ้าจะเป็นวอลเตอร์สโตนน้อยนักที่จะเป็นธาตุอื่นเธออธิบายก่อนชี้ไปยังเม็ดสีแดง เฟรมสโตนส่วนใหญ่เป็นสีแดงแต่บางครั้งเอิร์ธสโตนก็สีเดียวกัน

                หรือก็คือมีการปะปนสีกับธาตุอื่นบ้าง แต่ส่วนน้อยสินะ

                ใช่ ทีนี้ข้าจะให้เจ้าดูความต่างของหินแต่ละก้อน

                ครั้งแรกเธอหยิบเฟรมสโตนสีฟ้าขึ้นมาแล้วเรียกฟินิกซ์ เปลวเพลิงขนาดมหึมาบินขึ้นฟ้าไป ทว่าถัดมาไม่นานมันก็แตกสลายไปพร้อมๆ กับอัญมณี

                ครั้งที่สองเธอใช้เม็ดสีแดงซึ่งเสมือนกับทุกครั้งที่เคยเห็น มันโชติช่วงอยู่ได้นาน ทั้งยังขยายร่างได้เกือบเท่าคฤหาสน์

                แต่เมื่อเธอใช้เม็ดสีทองเป็นครั้งสุดท้าย

                เหวอ!! สุดยอด!!!”

                ฟินิกซ์กลายเป็นสัตว์อัญเชิญที่มีลักษณะเด่นชัดขึ้นตั้งแต่ขนนกสีแดงไปจนถึงลูกตาสีดำ ราวกับเป็นนกจริงๆ มากกว่าเปลวไฟ แต่ทันใดนั้นไลน์ก็ทรุดลงกับพื้นทันที สีหน้าเธอซีดลงเหมือนคนป่วยไข้

                ผมพยุงเธอไว้ลงนอนบนม้านั่ง ไม่เป็นไรใช่ไหม

                ข้าไม่สามารถควบคุมเฟรมสโตนความบริสุทธิ์สูงได้นานนักเสียงเหนื่อยหอบเอ่ยผ่านริมฝีปากแดงเรื่อ

                อย่างนี้เอง คุณภาพของเมจิกสโตนมีผลต่อการใช้งานด้วยสินะ ภาพตอนที่เห็นเม็ดสีฟ้าสลายไปมันชวนให้นึกถึงเกราะแรคนาร็อคที่แหลกละเอียดหลังการต่อสู้ แต่กรณีนั้นน่าจะเป็นเพราะความเก่าด้วยล่ะนะ

                ข้าเห็นพลังเวทย์ของเจ้าตอนที่ใช้ต่อสู้แล้วไลน์กุมมือผม สายตาของเราประสานกัน สัมผัสได้ว่าเธอกำลังจริงจัง พลังเวทย์ของเจ้าน่าจะเกือบเรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด บางทีเจ้าอาจใช้งานมันได้       

                จะให้ผมลองงั้นเหรอผมถามกลับอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ เธอเพียงพยักหน้าตอบกลับมา งั้นก็ได้

                ผมเก็บอัญมณีสีทองขึ้นมา ก่อนหน้านี้เคยลองใช้แบบไม่ร่ายคาถาไปแล้ว ครั้งนี้คงต้องลองแบบร่ายดูบ้าง

                จงลุกโชติช่วงผมใช้สองมือกุมแล้วเล็งเป้าหมายขึ้นไปบนฟ้า เฟรมสโตน

                .....

                ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเงียบสนิท

                ทำไมกัน

    ผมทดลองเอาเฟรมสโตนของตนเองที่ได้จากขอทานมาลองใช้อีกครั้ง และมันก็ได้ผลดีเป็นเสาเพลิงขึ้นไปสูงเสียดฟ้า แต่เมื่อกลับมาใช้อีกเม็ดผลกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

    ผมถอนหายใจอย่างผิดหวัง แล้วหันไปพูดกับอาจารย์สาว ดูท่าฉันจะใช้ไม่ได้นะ

    ขณะที่ไลน์พยายามลุกขึ้นนั่งและผมนำดาบที่ใช้ฝึกไปเก็บนั้น เสียงของเด็กชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา

    ท่านพี่

    ไก?”

    เมื่อเขาสังเกตเห็นผมก็ออกอาการชะงักเล็กน้อย แต่คงนึกได้ว่าตัวเองเป็นคนบอกให้มาที่นี่จึงสงบลง

    ผมช่วยพยุงไลน์เดินเข้าหาน้องชาย เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอยิ้มทางแววตา

    มีอะไรงั้นเหรอ สีหน้าซีดเชียว

    เมื่อไกถูกพี่สาวถามเช่นนั้นเขาก็ดูอ้ำอึ้งขึ้นถนัดตา เด็กชายขมวดคิ้วจนแทบติดกัน เงื้อมมือจับแขนเสื้อเธอไว้ ยา…”   น้ำเสียงสั่นเครือแผดดังอย่างตื่นกลัว ช่วยหายาสำหรับทาสเหมืองมาช่วยเพื่อนผมทีครับ

    จบตอน

    โปรดติดตามตอนที่ 18   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×