คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ (หลังเลิกเรียน)
ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ (หลังเลิกเรียน)
โดย EARTHMAKER
บทนำ
ท้องฟ้าสีครามกำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นภายในรั้วโรงเรียนใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก
ออด!! เสียงสัญญาณเตือนหลังเลิกเรียนดังขึ้น ภายในอาคารสีขาวหม่นขนาดสูงใหญ่ ขณะนี้เวลา 16.00 น. เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคาย ผิวพรรณขาวเนียน ผมยาวปรกถึงต้นคอ ก้มหน้าก้มตาสะพายเป้สีดำ เดินก้าวออกจากประตูห้องเรียนมัธยมปีที่ 4 คลาส B เขามุ่งไปยังห้องซึ่งอยู่ติดกับบันได เป็นเวลาเดียวกับที่นักเรียนจำนวนมากแห่กรูวิ่งลงเพื่อกลับบ้าน ที่นี่คือห้องพักครู เขาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง ถอนหายใจเข้าออกก่อนจะเเง้มเปิดเข้าไป
แอ้ดปึ้ง! หลังสิ้นเสียงประตูเด็กหนุ่มเดินตรงไปยังโต๊ะของอาจารย์สาวสวยท่านหนึ่ง เธอนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ อายุราว 25 ปี ปล่อยผมสีดำมันวาวยาวถึงกลางหลัง หน้าตาออกญี่ปุ่นลูกครึ่งจีน แลดูเป็นคนใจดี ดวงตาเรียวสีน้ำตาลรับรูปกับโครงหน้าจนดูมีเสน่ห์ยวนใจผู้พบเห็น เชิ้ตสีขาวแขนยาวถูกพับเเขนเสื้อขึ้น กางเกงขายาวสีดำดูรัดรูปเมื่อเธอไขว้ขา สวมรองเท้าส้นสูงสีดำแบบสุภาพ ริมฝีปากถูกแต้มแต่งด้วยสีชมพูราวกลีบซากุระ รูปร่างสมส่วนค่อนข้างไปในทางผอม กลิ่นน้ำหอมโชยมาแต่ไกล
เด็กหนุ่มหยุดยืนเบื้องหน้าของอาจารย์แล้วพนมมือไหว้ทำความเคารพ ก่อนแจ้งจุดประสงค์ของตนเอง “อาจารย์ครับ ผมมาขอใบสมัครเข้าชมรมครับ” เด็กหนุ่มพูดอย่างสุภาพประกอบกับรอยยิ้มเขินอาย
อาจารย์สาวหันมามอง เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย "นี่เธอ ครูแจกให้ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่หรือไง” น้ำเสียงค่อนข้างฉุนเฉียว
“รู้สึกจะใช่นะครับ” เด็กหนุ่มตอบ รู้สึกประหม่ายิ่งขึ้น “พอดีตอนเช้าผมมาสายน่ะครับ เลยมารับไม่ทัน แหะๆ”
อาจารย์สาวมองหน้าเด็กหนุ่ม ครู่หนึ่งเธอก็ทำท่าทางราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ “อ๋อ นี่เธอคงจะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อเช้านี้สินะ รู้สึกว่าจะชื่อ นาย กริยา อุ่นใจ สินะจ๊ะ ตั้งแต่เปิดเทอมก็หลายวันแล้ว จู่ๆ วันแรกที่มาเรียนก็ต้องเลือกชมรมเลย คงลำบากใจน่าดู” อาจารย์สาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูนุ่มนวลขึ้น พลางใช้มือเปิดลิ้นชักหยิบเอกสาร
“ใช่ครับชมรมที่ผมเล็งไว้ก็ดูเหมือนจะโดนแห่กันเข้าหมดแล้วด้วย คงต้องหาชมรมที่ไม่ค่อยมีคนเข้ากันนั่นแหละครับ” เขาตอบอย่างสุภาพเช่นเคย และในขณะเดียวกันมือก็เกาศีรษะแก้อาการเขินอาย
“งั้นก็พยายามเข้าแล้วกัน ส่วนชมรมที่เหลือๆ อยู่ก็มีหลายชมรมที่น่าสนใจนะ ครูแนะนำให้สมัครชมรมทำงานบ้าน เพราะเขาไม่ค่อยมีใครเข้ากันสักเท่าไหร่ น่าจะยังว่าง หรือจะไปดูชมรมที่เหลืออยู่จากในเว็บบอร์ดของโรงเรียนก็ได้นะ” คุณครูสาวยื่นเอกสารใบรับสมัครให้นักเรียนใหม่ “อ่ะนี่จ้ะ”
กริยาชำเลืองมองป้ายชื่อของอาจารย์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ท่องจำชื่อของเธอภายในใจ ('คุณครูนวลจันทร์') หลังจากนั้นจึงรับใบสมัครจากมือของอาจารย์และไหว้หนึ่งครั้ง
"อาจารย์ครับ แล้วชมรมทำงานบ้านนี่อยู่ที่ไหนหรือครับ" เด็กหนุ่มถามด้วยท่าทีสนใจ เขาคิดไว้ว่าจะเป็นชมรมอะไรก็ได้ ขอแค่ให้เขามีชมรมก็เพียงพอ
“ถ้าชมรมละก็ อยู่ที่ห้องวิทยาศาสตร์ชั้น 8 จ้ะ ส่วนห้องสำหรับเรียนวิชางานบ้านจะอยู่ที่ชั้น 2 ของตึกเรียนตรงแถวมุมบันได”
“ขอบคุณครับ” เขาไหว้ลาครูนวลจันทร์อีกครั้งแล้วเดินออกจากห้องพักครูอย่างไม่รอช้า ขึ้นบันไดจากตึกเรียนชั้น 5 รีบมุ่งหน้าไปยังชั้น 8 ตามจุดหมาย บริเวณโดยรอบเงียบสงัดเนื่องจากทุกคนกลับบ้านกันไปจนเกือบหมดแล้ว
ขณะที่เขากำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อไปส่งใบสมัครเข้าชมรมอยู่นั้น ด้วยความเร่งรีบก็เผลอเหยียบกระดาษแผ่นหนึ่งลื่นล้มตกลงไปดังคลุกๆ อยู่หลายขั้น ศีรษะของเขากระทบพื้นอย่างแรง ตุ้บ! สติค่อยๆ ลางเลือนและหมดไป
เวลาผ่านไปนานชั่วครู่ เด็กหนุ่มฟื้นตัวอีกครั้งที่ตีนบันไดชั้น 6 เขาปรับสายตาให้คงที่ ก่อนที่จะยันตัวเองลุกขึ้นนั่งด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด เห็นจะมีเพียงรอยฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น
“อ..อ..โอย” กริยาคราง พลางกุมศีรษะที่ปวดราวกับกะโหลกร้าว เขามองไปรอบตัวจนสังเกตได้ว่าขณะนี้พลบค่ำ พบกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ข้างลำตัว จึงหยิบขึ้นมาพินิจ รู้สึกกังวลใจเมื่อพบว่ามีลวดลายเป็นยันต์ประหลาด ซึ่งเขาไม่เคยพบเห็นจากที่ไหนมาก่อน
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เดินไปวางยันต์บริเวณข้างประตูที่มีป้ายติดอยู่ว่า ‘ห้องพระ’ ตรงหัวบันได อาการปวดหัวของเขายังไม่สร่างดีนัก แม้เด็กหนุ่มจะพอทรงตัวเดินได้บ้าง แต่ก็ยังเอนไปมาในระหว่างขึ้นบันได เขายังมีความหวังว่าจะไปส่งใบสมัครที่ห้องชมรมได้ทันเวลา แม้จะเย็นเสียจนไม่น่ามีคนอยู่แล้วก็ตามที
และแล้วเขาก็พยายามฝืนความเจ็บปวด เดินจนมาถึงหน้าประตูห้องวิทยาศาสตร์ได้สำเร็จ แม้จะอยู่ในสภาพมึนเวียนศีรษะจวนจะล้มลงซะเดี๋ยวนั้น
“นี่อีฟยังหาสมาชิกมาเพิ่มไม่ได้อีกเหรอ” เด็กหนุ่มได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากช่องบานประตู ('เย็นขนาดนี้แล้ว ยังมีคนอยู่ด้วยแฮะ') เขาคิดในใจอย่างสงสัย
เสียงผู้หญิงดังขึ้นโต้กลับ “ก็แล้วคิดว่าฉันจะหาใครได้บ้างล่ะ ฝันไปเถอะไม่มีไอ้งั่งที่ไหนเขาสนใจชมรมชื่อเชยๆ เเบบนี้กันหรอก” ช่างฟังดูเป็นเสียงที่เสียดแทงเข้ามายังกลางใจของเด็กหนุ่ม
เขากุมขมับยอมรับความเป็นไปของสังขารแล้วก้มหน้าพูดกับตัวเอง “งั่งแล้วสินะฉัน” เขาอยากจะเปลี่ยนใจ หากแต่เมื่อนำความพยายามกับความเจ็บปวดมารวมเข้าด้วยกันแล้ว ก็ไม่อาจจะละทิ้งไปเริ่มคิดหาชมรมนับหนึ่งใหม่ได้ จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปข้างในนั้น
ก๊อก! ก๊อก! เด็กหนุ่มเคาะให้เสียงสัญญาณแล้วค่อยๆ เปิดประตูอย่างช้าๆ บานพับประตูส่งเสียงดังแอด
“เอิ่ม...ขอโทษนะครับ พอดีผมมาสมัครเป็นสมาชิกชมรมทำงานบ้านครับ” เด็กหนุ่มพูดอย่างระมัดระวัง น้ำเสียงเกร็งๆ มองไปรอบห้องซึ่งกว้างพอๆ กับห้องโถงขนาดใหญ่ มีหลอดทดลอง และก้อนหินประหลาดวางอยู่บนชั้นไม้เต็มไปหมด ที่มุมห้องมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ลักษณะการจัดตั้งเสมือนบาร์เล็กๆ มีเด็กหนุ่มสาว 5 คนนั่งอยู่ เด็กหนุ่มมองแล้วคิดอย่างฉงนใจ (‘ผู้หญิง 1 คน ผู้ชายตั้ง 4 คน กลุ่มนี้ทำไมยังไม่กลับบ้าน’)
ทุกคนในห้องเหลียวมองตรงมายังเด็กหนุ่มซึ่งเพิ่งย่างเข้ามาเป็นสายตาเดียวกัน ผู้หญิงติดเข็มกลัดระดับ ม.5 หน้าตาน่ารักแต่บุคลิกดูเป็นผู้ใหญ่ ไว้ผมทรงหางม้ายาวปรกหลัง ดวงตากลมโตสีดำมันวาวแฝงความลึกลับหนึ่งคนในกลุ่มเอ่ยขึ้น “นี่นายเอาจริงเหรอ กลุ่มนี้คงไม่ใช่เรื่องที่นายจะรับมือไหวหรอกนะ”
เด็กหนุ่มมองไปที่หญิงสาว ('เฮ้ๆ นี่เขาพูดกับรุ่นน้องที่จะมาสมัครเข้าชมรมกันอย่างนี้เหรอ แถมนอกจากนี้แล้ว มันยังจะมีอะไรแปลกไปกว่าชมรมทำงานบ้านในห้องวิทยาศาสตร์อีกวะ') เขาพยามเผยรอยยิ้มกว้าง “ไหวไม่ไหวก็ต้องเข้าชมรมแล้วครับ เพราะพรุ่งนี้ก็มีวิชาชมรมด้วย ผมเองยังว่างอยู่เลย ถ้าหน่วยกิตไม่พอผมจะแย่เอานะครับ”
“เห็นมั้ยล่ะอีฟ” ชายหนุ่มที่มีเข็มระดับ ม.5 ร่างออกท้วมๆ ทรงผมนักเรียนตัดเกรียน หน้าตาดูเป็นคนมีอารมณ์ขันกระซิบข้างหูหญิงสาว ส่อแววเย้ยหยัน “ฉันบอกแล้วว่าชมรมเรามันต้องมีดีบ้างแหละ”
“เออๆ” หญิงสาวทำมือปัดๆ ใส่ชายหนุ่ม เดินมาพร้อมกับหยิบกระดาษข้อตกลงที่วางอยู่บนโต๊ะประชุมกลางห้องยื่นให้กริยา “อ่ะเซ็นซะ”
“ครับ” เด็กหนุ่มรับกระดาษแผ่นนั้น อ่านคร่าวๆ แล้วลงลายมือชื่อ ('นี่เรามาถูกชมรมแน่แล้วเหรอ') เขาเหงื่อตกขณะครุ่นคิด
ฟึบ! เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเซ็นใบข้อตกลงของชมรมเสร็จ ทันใดนั้นรุ่นพี่ ม.6 คนหนึ่งในกลุ่มก็ลุกจากเก้าอี้วิ่งมาโฉบกระดาษไปอย่างรวดเร็ว เขาถึงกับตกใจอยู่พักใหญ่
“ถ้างั้นก็ได้สมาชิกครบ 5 คนแล้วสินะเป็นชมรมเต็มตัวล่ะ” รุ่นพี่ ม.6 พูดเสียงดังพร้อมกับชูใบข้อตกลงขึ้น แล้วนำมาอ่านให้เด็กหนุ่มฟัง
“ข้อที่ 1 เมื่อมีการเข้าชมรมนี้แล้วจะไม่มีการลาออกใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะเรียนจบ ม.6 ข้อที่ 2 ห้ามมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับข้อตกลง ข้อที่ 3 จะต้องเก็บข้อมูลของกลุ่มเป็นความลับ ข้อที่ 4 หากตายชมรมจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น”
“ข้อแรกๆ ไม่ว่าสักเท่าไหร่ ข้อสุดท้ายมันอะไรวะครับรุ่นพี่ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินี่มีการตายด้วยจริงดิ” เด็กหนุ่มพูดเสียงหลง ('ชมรมบ้าอะไรวะเนี่ย')
“เอาล่ะงั้นมาแนะนำตัวให้รู้จักกันนะ สำหรับสมาชิกใหม่ของเรา ก่อนอื่นพี่อยู่ ม.6 น้องคงจะสังเกตจากเข็มกลัดอยู่แล้วแต่ก็เอาเถอะ พี่ชื่อ โบโต เรียกพี่ว่า โต จะดูเท่กว่านะ พี่เป็นประธานชมรมนี้ ต่อไปก็พี่สาว ม.5 สุดสวยคนนั้นชื่อ อีฟ เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เขาออกเป็นคนแปลกๆ หน่อย ส่วนพี่ชาย ม.5 ตัวท้วมๆ คนนั้นชื่อ โจ และอีกคนสุดท้ายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะบาร์อยู่ ม.1 ชื่อแทงค์เขาออกเงียบๆ หน่อยนะ แล้วนายล่ะ” เมื่อรุ่นพี่ประกาศชื่อสมาชิกในชมรมเสร็จ เขาก็หันหน้ามาถามเด็กหนุ่มสมาชิกใหม่
“ผมอยู่ ม.4 ชื่อ กริยา อุ่นใจ ครับ เพื่อนๆ มักจะเรียกชื่อย่อว่า ยา ส่วนชื่อเล่นผมไม่มี” เด็กหนุ่มเกาศีรษะแก้เขิน
“เดี๋ยวสิ” อีฟเดินมาหาโตด้วยทีท่าไม่พอใจ “ใครแปลกๆ ยะ ที่แปลกๆ มันน่าจะเป็นนายมากกว่าไม่ใช่หรือไง” เธอไม่ค่อยสบอารมณ์กับโตสักเท่าไหร่
“น่าๆ อีฟ นี่ต่อหน้าเด็กใหม่นะ” โตพูดพร้อมกับดันอีฟออกแล้วหันหน้าไปทางเด็กหนุ่ม “ส่วนแกไหนๆ ก็มาทั้งที ไม่มีชื่อเล่นแบบนี้พี่จะช่วยตั้งให้ละกัน ฮิฮิฮิ” รุ่นพี่ยิ้มอย่างสนุกสนาน เกาคางเล็กน้อยทำท่าทางครุ่นคิด
“ครับๆ” เด็กหนุ่มกุมขมับแล้วตอบรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก (‘จะทำอะไรก็เชิญเลยครับรุ่นพี่’)
“งั้นฉันตัดสินใจแล้ว นายใช้ชื่อเล่นว่า เวิร์บ (verb) แล้วกันนะ”
“เอ่อรุ่นพี่ครับ นั่นมันก็แค่เอาชื่อผมไปแปลเป็นภาษาอังกฤษเองนี่ครับ” เด็กหนุ่มตบมุกตลกฝืดๆ ให้ประธาน
“ฮ่าๆ ล้อเล่น ฉันให้นายชื่อ ไค ที่มาจาก โยไค (Yo Kai) ละกัน มันเป็นชื่อที่ใช้เรียกพวกผี ปีศาจของชาวญี่ปุ่นอ่านะ” โตทำท่าเกือบจะหลุดหัวเราะ “ฟังดูเท่ดีใช่มั้ยล่ะ”
“ไอ้เท่มันก็เท่นะ แต่ทำไมต้องเกี่ยวกับผีด้วยล่ะครับ จะว่าไปแล้วผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ น้องแทงค์นี่ เขาชื่ออะไรหรือครับ พี่โตยังไม่ได้แนะนำเลย” โตเงียบไปซักพัก
“เอ่อไค ตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลยนะ จะมาอำพี่หรือไง”
“เอ๊ะ มีจริงๆ นะพี่” ไคยืนยัน
อีฟค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาชายหนุ่มทั้งสองเธอก้มลงสบตาเด็กหนุ่มแล้วหันไปพูดกับโต "เขามองเห็นจริงๆ ค่ะพี่โต"
"อ่านดูแล้วเหรอ" โตถามอีฟ
"เอ่อ...ทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกันอยู่หรือครับ" ไคถามตัดการสนทนาของรุ่นพี่ทั้งสองที่ยากเกินความเข้าใจ
“ถ้างั้นเธอก็คิดถูกแล้วล่ะที่เข้าชมรมนี้” อีฟเอามือแตะไหล่ของเด็กหนุ่มแล้วก้มลงพูด
“ทำไมหรือครับ”
“ชมรมนี้น่ะ ที่จริงแล้วไม่ใช่ชมรมทำงานบ้านธรรมดาๆ หรอกนะ และอีกอย่างก็คือ นายน่ะมองเห็นสิ่งนั้นสินะ”“สิ่งนั้น” ไคสงสัยในคำพูดของพี่อีฟ ('นี่มันมุกรับน้องใหม่สินะ')
และเขาก็ได้เข้าใจทุกอย่างเมื่อมองไปเห็นแทงค์ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินทะลุผ่านแผ่นหลังของชายหนุ่มปริศนาซึ่งยื่นออกมานอกเก้าอี้ แล้วเดินเข้ามาหา “พี่ชายครับ ที่ชมรมนี้เคยมีสมาชิกอยู่อีกคน เขาคือพี่ชายของผมเอง แต่เขาโดนรถชนตายไปแล้วเมื่อสองวันก่อน" แทงค์เงยขึ้นมองหน้าไคก่อนที่จะร้องไห้โฮออกมา
('เราเนี่ยนะมองเห็นผีเป็นไปไม่ได้') ไคสั่นไปทั้งร่าง “ผีมันจะไปมีจริงได้ไงกันเล่า” เขาพยายามส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไค” อีฟใช้มือทั้งสองข้างจับศีรษะเด็กหนุ่มให้เงยขึ้น แล้วจ้องมองลงไปในตาเตือนสติ “ห้ามเอาไปบอกใครนะ พี่น่ะความจริงแล้วสามารถอ่านใจคนได้ พี่รู้ว่าเธอไม่ได้โกหก เธอเห็นจริงๆ ขอแค่ตอบพี่มาตรงๆ ก็พอ เธอมองเห็นผู้ชายอายุราวๆ ม.6 ผมสีดำสั้นปรกคอสูงราวๆ 180 เซ็นต์ รึเปล่า”
ไคจ้องดวงตาอันแหลมคม เขามองเห็นสีม่วงอ่อนเป็นวงเล็กๆ ในแก้วตาของเธอ ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับกบที่โดนงูจ้อง “ครับ” เขาทำได้เพียงแค่พูดความจริงออกไป
“เมื่อตอนเธอเข้ามา พี่คิดว่าชมรมนี้คงไม่เหมาะกับเธอจริงๆ แต่ตอนนี้ มันคงจะเหมาะกับเธอที่สุด เหมือนทุกๆ คนในห้องนี้” อีฟปล่อยมือจากศีรษะไค
เด็กหนุ่มเงียบไปสักพักก่อนจะถามอย่างงุนงง “ชมรมทำงานบ้าน นี่น่ะหรือครับ”
“ที่นี่ในคาบชมรมเราเรียกแบบนั้นก็จริง แต่เมื่อหมดเวลาเรียนทุกคนจะเปลี่ยนเป็นที่ชุมนุมของคนที่สนใจในพลังเหนือธรรมชาติซึ่งก็คือ ชมรมวิจัยเรื่องลึกลับ ยินดีต้อนรับนะ"
โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล.รักนะคนอ่าน ^^
ความคิดเห็น