ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การเดินทาง และ บ้าน
ฉันเกียจหน้าหนาว ฉันไม่รู้ทำไมฉันถึงเกียจมัน ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ฉันจำได้แค่ว่า ฉันตื่นขึ้นมาเพราะความหนาวเหน็บของหน้าหนาว หิมะกองโตทับฉันจนฉันแทบจะลุกไม่ขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาอยู่ที่หน้าคฤหาสหลังใหญ่ ที่เมือง เรนิเซีย ใช่แล้ว ป้ายมันบอกอย่างนั้น คนใช้ในคฤหาสมาเจอฉันที่ยืนสะบักสะบอมอยู่หน้าประตู หล่อนลากฉันเข้ามาในคฤหาสก่อนจะพาฉันไปให้นายของหล่อน เขาชื่อว่าคุณ ทอมสัน และ คุณ ซีดรีม แองเจอร์รัส พวกเขาเป็นชาย หญิงที่เกือบเข้าใกล้คำว่าชรา พวกเขาไม่มีลูก ฉันจึงสามารถอยู่ที่นี้ในฐานะลูกเลี้ยงได้ และใช้ชื่อว่าเรนิเซียตามชื่อเมืองฉันจำอดีตของฉันไม่ได้เลย นอกจากชื่อของคนๆหนึ่ง เขาชื่อว่า “เอริค”
“คุณหนูเรนิเซียค่ะ นายท่านเรียกนะค่ะ” สิ้นเสียงเคาะประตูไม้โอ๊กสีน้ำตาลเข้ม หญิงสาววัยกลางคนก้าวเข้ามาในห้องใหญ่ที่แสนหรูหราที่ถูกตกแต่งด้วยของและสินค้าในราคาหลายหลากแสนเลยก็ว่าได้ หญิงผมสีทองที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านลวดลายหรูหราที่หาได้ยากค่อยๆหันหน้ามามองสาวใช้ของเธอ
หญิงสาวก้าวเท้าออกมาจากหน้าต่างเล็กน้อยก่อนจะดึงผ้าม่านลง ดวงตาสีเทามนฉายแววเศร้าสร้อยอยู่ตลอดเวลามองที่สาวใช้ของเธอ ก่อนจะนั่งลงที่เตียงหนานุ่มที่สามารถนอนรวมกันได้ทีเดียวเป็นสิบคน
“ท่านพ่อเรียกฉันทำไมหรอ เอล” หญิงสาวพูดก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาพับเก็บไว้ให้เรียบร้อย
“เออ นายท่านไม่ได้บอกดิฉันไว้นะค่ะ ต้องขอประทานโทษจริงๆ” สาวเจ้าบอกเสียงอ่อยก่อนจะรีบก้มหัวขอโทษอย่างไม่ลืมหูลืมตา
“ไม่เป็นไรหรอก เดี่ยวฉันจะไปเจอก็คงจะรู้เรื่องแล้วละ” เรนิเซียยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจับมือเอลแล้วให้หล่อนเดินนำเธอไปหาชายแก่ที่เรียกให้เธอไปพบ
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ คุณพ่อ” เรนิเซียก้าวขาเข้ามาให้ห้องโถงใหญ่ที่มีโต๊ะใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องสีทืบชายแก่ที่นั่งอยู้ตรงเก้าอี้ลุกขึ้นแล้วพายมือเล็กน้อย เรนิเซียก้มหัวลงแล้วนั่งเก้าอี้ในฝั่งตรงข้ามของชายแก่
“ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรให้เธอฟัง เรนิเซีย ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่าพ่อ” ชายแก่ทำเสียงขรึมและท่าทีที่ไม่พอใจอยู่เล็กน้อย ใช้แล้วละ ชีวิตของเรนิเซียเปลี่ยนไป เธอกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ใครไม่ต้องการ เมื่อลูกชายของทอมสัน และ ซีดรีม เกิดขึ้นหลังจากเธอย้ายเข้ามา3ปี เธอไม่ได้รับความรักเหมือนเก่า เธอไม่ได้ทานอาหารที่ห้องอาหารหรู เธอไม่ได้คนใช้ส่วนตัว ไม่มีใครสนใจเมื่อเธอไม่สบาย
“ขอโทษค่ะ คุณทอมสัน”
“ฉันที่เรื่องจะบอกเธอนิดหน่อย” ทอมสันพูดขึ้นก่อนจะหยิบกระดาษที่วางตั้งอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะขึ้นมาดู
ก่อนจะพูดต่อ
“รูเพิร์ต ต้องการห้องนอนส่วนตัว” ทอมสันพูดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเกาคางของตัวเองแล้ววางกระดาษบนมือลง
“และเขาก็ต้องการห้องของเธอ เธอจะต้องย้ายไปอยู่ห้องขึ้นแล้วละ”
“แต่ว่าห้องนี้เป็นห้องที่หนูอยู่มานานแล้วนะค่ะ” เรนิเซียเอยขึ้นก่อนจะหลบตาลงพื้นเมื่อทอมสันจ้องเธอเขม้งด้วยความโกรธ
“เธอก็เป็นแค่ลูกเลี้ยง ไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว ฉันแค่บอกเฉยๆ ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องย้าย!!” ทอมสันตะเบงเสียงขึ้นอย่างโมโห ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงซึ่งก็จากความหงุดหงิด
“เข้าใจแล้วค่ะ” เรนิเซียพูดเสียงแผ่วก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นโดยไม่กล่าวลา วันนี้เธอไม่ได้ลงไปกินข้าวเย็น ไม่มีใครตามขึ้นมาถามว่าทำไมเธอถึงไม่ลงไปกินมัน กลางดึกซึ่งมีเพียงแสงของดวงจันทร์สว่างขึ้นอย่างเด่นชัด
ร่างของหญิงสาวผมทอง เดินย่างก้าวอย่างรีบร้อนออกมาจากประตูรั้วของคฤหาส เธอแบกกระเป๋าหิ้วหนังใบเล็กใบหนึ่งแล้ววิ่งออกไปจากสถานที่ที่เธอเคยเรียกมันว่าบ้าน
‘ลาก่อน’
ท่ามกลางเมืองหลวงที่แสนวุ่นวายที่ห่างไกลจากเมืองเรนิเซียได้3เมือง เสียงพูดคุยดังว่อนไปทั่วตลาด หญิงสาวผมทองเดินทางต่อไปอย่างไร้จุดหมาย เธอไม่มีเงินมากพอที่จะหาห้องเช่าดีๆพัก เธอแถบจะไม่ได้นอนมาตลอดสามถึงสี่วันที่ผ่านมา
“เห!! ว่าไงนะ 3หมื่นเดลเลยหรอ!!ลดหน่อยสิ” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นที่ร้านค้าใหญ่ไม่ไกลนัก ผมสีเงินสยายไปพร้อมกับสายที่พัดผ่านมา หน้าตาที่ใครๆจ้องมองแล้วก็เห็นว่ามันช่างกวนโมโหซะเหลือเกิน เขากำลังเกาะโต๊ะขายของแล้วจ้องมองหน้าพ่อค้าเลือดเย็นที่ในมือถือผลึกแก้วสีม่วงอ่อน
“ไม่ได้หรอกพ่อหนุ่ม ผลึกอันนี้นะน่ะ มันเป็นผลึกที่สามารถขังปีศาจได้ทุกชนิดเลยนะ”
“แต่ผลึกอย่างอื่นนะ ยังไม่ถึง1หมื่อนเดลเลยนะอย่างมากที่สุดก็8พันเดลเท่านั้นเองนะ” ชายหนุ่มโต้แย้ง ก่อนจะปีนขึ้นเคาเตอร์ เล็กๆของร้านนั้นเพื่อแย่งมันมา ก่อนที่จะเกิดการต่อยตีเล็กๆน้อยๆขึ้นระหว่างเจ้าของร้านกับชายหนุ่มผมเทา
“ถ้าไม่มีปันหาอะไรฉันขอเอากระเป๋าใบนี้จ่ายแทนเงินให้เขาได้ไหมค่ะ” เรนิเซียส่งยิ้มเล้กน้อยก่อนจะยื่นกระเป๋าหนังที่ติดตัวเธออยู่ให้พ่อค้าดู
“โอ้!! ได้ครับ ได้แน่นอน ถ้าเธอให้กระเป๋าใบนี้จริงๆ ฉันให้ของที่มากกว่าผลึกอันนี้ก็ได้ ต้องการอะไรก็หยิบไปได้เลย555” พ่อค้าเผยมือกว้างก่อนจะเดินหัวเราะแล้วอุ้มกระเป๋าหนังใบนั้นเข้าหลังร้าน
“นี้เธอ!!!” ชายหนุ่มผมเทาเงยหน้าขึ้นก่อนจะกระโดดลงมาจากเคาเตอร์ เขามองหน้าหญิงสาวอย่างจริงจังก่อนจะก้มมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เธอนี้แต่งตัวดีนะทำไมถึงอยู่ที่นี้ละ เธอไม่ใช่คนแถบนี้ใช่ไหม” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาวเรื่อยๆจนเรนิเซียจะต้องเดินถอยหลังมาเรื่อยๆจนติดผนัง
“อา คือ....คือว่า ฉันเห็นคุณมีปัญหา ฉันก็เลย.......” เธอพูดอย่างไม่เป็นภาษาก่อนจะก้มหัวขอโทษขอโพยอย่างจะเป็นจะตาย
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอบใจมากนะ” ชายหนุ่มเอยขึ้นก่อนจะจับหน้าเรนิเซียให้เงย แล้วเดินไปเลือกของอย่างอื่นต่อ “ฉันกราส” ชายหนุ่มแนะนำตัวก่อนจะยื่นมือออกมาข้างหน้า
“เรนิเซียจ้ะ” เธอยื่นมามาจับชายหนุ่มอย่างยิ้มแย้ม นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้ยิ้มอย่างเต็มที่อย่างนี้มาก่อน
“นี้” กราสทักขึ้นหลังจากที่ทั้ง2คนเดินออกมาจากร้านขายของ เขามองหน้าเรนิเซียเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหยิบถุงใส่ของของเธอไปถือ เรนิเซียถึงกับหัวเราะออกมาเล็กๆจากลักษณะของกราส
“นายเหมือนคนบ้าเลย ฮะ ฮะ” เธอหัวเราะขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะดึงถุงออกมาจากปากของกราสเพื่อที่จะไปถือเอง แต่เขากลับยื้อเอาไว้
“ไอ๋เอาไอ๋เอา เอี๊ยวอั๊นอือใอ้ อ้านเอออู่ไอ” เรนิเซียหัวเราะอีกครั้งกับคำพูดของเขา ก่อนจะเช็ดน้ำตาออกเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า
“ฉันถือเองดีกว่า ไม่งั้นวันีน้เราคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่นอน” เรนิเซียพยายามที่จะดึงถุงนั้นอีกครั้งและคราวนี้กราสก็ยอมปล่อยถุงให้เธอถือ ก่อนจะยิ้มแหยๆ
“บ้านเธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปส่ง” เรนิเซียก้มหน้าลงต่ำเล้กน้อยก่อนที่จะมองเสไปที่พื้น เธอไม่พูดจะให้คำตอบอะไรในเรื่องนี้ เธอไม่มีที่อยู่แล้ว ห้องพักในตอนนี้เธอก็ยังหาไม่ได้
“ฉันไม่มีที่หรอก ฉันกำลังออกเดินทางอยู่” เรนิเซียตอบ เธอคิดว่าคำตอบนี้คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเธอแล้วในตอนนี้ กราสมองเธออย่างสงสัย
“หน้าตาคุณหนูอย่างเธอนี้นะ” เขาก้มลงมองเรนิเซียหัวจรดเท้าอีกครั้งก่อนจะยิ้มกว้างจนเธอกลัวว่าปากของเขาจะฉีก
“งั้นไปพักกับฉันสิ แต่ที่ที่ฉันอยู่ มันค่อนข้างจะย่ำแย่นะ เธอว่าไงละ” กราสไม่ว่าเปล่าเขายิ้มอีกครั้งก่อนที่จะยื่นมือออกมารอให้เธอจับ
เรนิเซียนิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้มแย้มออกมาอีกครั้ง นานมาก นานมากแล้วที่ไม่มีใครต้องการเธอ
“จะ....ดี....หรอ” เรนิเซียพูดเสียงสั่น เธอกลัวที่จะโดนเมินอย่างเย็นชา เธอกลัวที่จะเข้าสังคมกับใครหลายคน
เธอไม่กล้าแม้กระทั่งจะจับมือชายตรงหน้าที่ยิ้มแย้มให้เธออย่างสดใส
“เธอเป็นเพื่อนฉันนะ มันจะไม่ดีได้ยังไงละ” กราสพูดก่อนจะดึงมือของเธอไปจับมือของเขาเอง
“ฉันจะให้เธอได้รู้จักเพื่อนๆทั้งหลายของฉัน แล้วเธอจะต้องอึ้งแน่นอน!!!”
เขาตะโกนลั่นอย่างไม่อายใครพลางจุงมือเรนิเซียวิ่งออกไปทางนอกหมู่บ้าน เธอยิ้มอีกครั้งก่อนจะหัวเราะขึ้นอย่างมีความสุข
‘การเดินทางของฉัน ได้เริ่มต้นแล้ว’
----------------------------------------
สวัสดีทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน รึ กดเข้ามาอ่านผิดเรื่องนะค่ะ อิอิ
ก็ขอบคุณมากนะค่ะที่มาอ่าน นี่เป็นเรื่องแรกที่ยีนส์แต่งเลยนะเนี่ย><
ยังไงก็ช่วยติดตามตอนต่อไปที่นะค่ะ^ ^
ช่วยกันเม้นด้วยนะค่า ขอบคุณจริงๆค้า
----------------------------------------
สวัสดีทุกคนที่หลงเข้ามาอ่าน รึ กดเข้ามาอ่านผิดเรื่องนะค่ะ อิอิ
ก็ขอบคุณมากนะค่ะที่มาอ่าน นี่เป็นเรื่องแรกที่ยีนส์แต่งเลยนะเนี่ย><
ยังไงก็ช่วยติดตามตอนต่อไปที่นะค่ะ^ ^
ช่วยกันเม้นด้วยนะค่า ขอบคุณจริงๆค้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น