คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ลำดับตอนที่ 4
….Ayano ‘Side Story….
“WHY”
ชื่อของฉันคือ อายาโนะ ...ซากุระโยอิ อายาโนะ อืม...มันแปลว่าอะไรนะ ผู้คล้อยตาม...ด้วยความสดใส อืม นั้นแหละ ชื่อของฉัน ฟังดูไม่คล้อยเหมาะยังไงก็ไม่รู้ เรื่องราวของฉันเป็นยังไงงั้นหรอ จะว่ายังไงดีละ ถ้าเป็นเรื่องก่อนหน้าที่ฉันจะเข้าร่วมเกมส์ Rabbit Doubt ละก็...
วันศุกร์ 05.00 อพาร์เมนต์ XXX
ทันทีที่นาฬิกาปลุกในโทรศัทพ์ของฉันดังขึ้นมาเบา ฉันก็ต้องรีบลุกขึ้นจากที่นอนของตนทันที เก็บที่นอนให้เรียบร้อย แล้วออกจากห้องนอนไปเงียบ เพื่อกันไม่ให้น้องๆที่หลับอยู่ในห้องตื่น
นั้นคือกิจวัตรแรกในยาวเช้าของฉัน ซากุระโยอิ อายาโนะ พี่สาวคนโตของบ้านซากุระโยอิไงล่ะ! ฉันตื่นเช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้พวกน้องที่รักยิ่งทั้ง 5 คนของฉัน ฉันมีน้องชาย 3 คนและน้องสาว 2 คน ยูซึกิน้องชายคนแรกของฉันอยู่ม.ต้นปี 2 ในเวลาที่ฉันอยู่ม.ปลายปี 1 ส่วนน้อง ฮานาบิและฮินาตะ เป็นน้องสาวคนถัดมาอยู่ชั้นประถมต้นและปลาย และน้องชายฝาแฝดท้องสุดท้าย ไทโยวและสึกิ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล
คุณพ่อของฉันเสียชื่อวิตไปนานแล้ว ส่วนคุณแม่ก็อยู่ที่โรงพยาบาล หน้าที่ในบ้านเลยตกเป็นของฉัน... แต่ฉันเต็มใจที่จะทำมันนะ!
เอาล่ะ! เช้าวันนี้ทำอะไรนี้นะ เอาเป็น....
ซุปสาหร่ายเต้าหู้ กับไข่หวานก็แล้วกัน
07.00 อพาร์เมนต์ XXX
“พี่อายะจัง ผูกผมให้ฮานะหน่อยๆ”
“พี่อายะ ฮินะจังหาขลุ่ยไม่เจอ!”
“อายะตันๆ ก้าวกล่องอยู่หนายยย~”
จัดได้ว่าเป็นชาวที่วุ่นวายตามแบบฉบับบครอบครัวซากุระโยอิ เริ่มตั้งแต่การที่ฮานาบิขอให้ผูกผมในโดยไม่สนใจว่าผมมันผูกได้หรือเปล่า ฮินาตะหาขลุ่ยไม่เจอทั้งที่ตัวเองเอาใส่ระเป๋าแล้ว และการประสานเสียงของสองแฝดที่เรียกหาข้าวกล่อง... อืม สงบสุขดีจัง~
“จ้าจ้า! เดี๋ยวพี่สาวจัดการให้นะ ฮินาตะขลุ่ยอยู่ในกระเป๋าแล้วอย่าลืมการบ้านละ ส่วนไทจังกับสึกิจังรอพี่สาวแปปนึงน้า”ฉันพูดอย่างร่าเริง แล้วเริ่มจัดการผูกผมให้ฮานาบิ ถ้าพูดให้ถูกคือรวบหน้าเปิดเถิกให้มากกว่า หลังจากนั้นก็เดินไปหยิบข้าวกล่องให้สองแฝด
“งั้นไปโรงเรียนแล้วน้า~~/น้าคร้า~!!!”หลังจากเสร็จทุกอย่างแล้วทั้งสี่คนก็ปิดประตูบ้านออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมบอก อิเตคิมัส กันอย่างร่าเริงสดใส ชนิดที่ว่าปลุกคุณลุงข้างบ้านได้เลย
“อายาโนะ ข้าวกล่องนี่มันอะไรกันนะ...?”เสียงของน้องชายคนโตดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฉันหันกลับไปก็พบกับใบหน้าบูดๆของยูซึกิที่มองข้าวกล่องอย่างเบื่อๆ
อะไรกัน ก็แค่ข้าวกล่องที่เต็มไปด้วยความรักของพี่สาว!
“ก็ข้าวกล่องที่พี่สาวตั้งใจทำแบบสุดฝือยังไงล่ะ! ใส่ใจลงไปเลยนะเนี่ย!”ฉันตอบอย่างสดใส แล้วยัดข้าวกล่องของอีกฝ่ายใส่กระเป๋าถืออย่างรวดเร็ว
“เป็นสาวน้อยแสนหวานหรือไง ทำอย่างกะสาวหวานที่กำลังทำข้าวกล่งไปสารภาพรัก เฮอะ”
“อะไรกันเหล่า! ยูคุงใจร้ายที่สุด”ฉันทุบไหล่อีกฝ่ายเบาๆรั่วๆอย่างหมั้นไส้ในอารมณ์ ชิชะ! ทั้งๆที่เมื่อก่อนเป็นเด็กน้อยร้องไห้หาพี่สาวแท้ๆเลย!!
“เฮอะ... ผมไปดีกว่า ลาก่อน!”
“อ๊ะ ออกไปด้วยกันสิยูคุง ขอหยิบกระเป๋าก่อน (เดินออกไปโดยไม่สนใจ) อ๊ะ! ยูคุง รอด้วยสิ โธ่!!!”
11.30 น. ด่านฟ้าชั้น 5 โรงเรียนมัธยมปลาย XXX
“เฮ้อ วันนี้วิชาคณิตฯก็ยังโหยโท่ยเหมือนเดิมเลยน้า...”ฉันพึมพำออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงเบื่อๆเน่อยๆกับคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ที่ทำร้ายจิตใจกันเหลือเกิน
“ก็ถ้าเธอลองทำตัวเป็นพี่สาวใจร้ายบ้างนะ คะแนนอาจจะดีกว่านี้ก็ได้”คนข้างๆพูดขึ้นมาด้วยความไม่สนใจซักเท่าไหร่ เขาคือเพื่อนสนิทและเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันเองละ
“ฮิเมะก็พูดได้สิ เป็นท็อปของสายชั้นนี่นา!”ชั้นพูดดวยน้ำเสียงไม่พอใจ ถูกแล้วละชั้นไม่งอน! เพราะฉันไม่ใช่ทารก ฉันไม่พอใจต่างหาก ว่าแล้วก็ตั้งข้าวกล่องกินแก้ช้ำใจ...
แต่อย่างที่ฮิเมะพูดก็ถูก... ถ้าฉันไม่สนใจน้องๆแล้วมีเวลาอ่านหนังสือมากกว่านี้ละก็...
บ้า!!! คิดอะไรอยู่เนี่ยอายาโนะ เธอเป็นพี่สาวของน้องๆนะ
“แต่ก็นะ อย่าฝืนตัวเองมากนักละ อายาโนะ”ฮิเมะพูด พร้อมเอามือมาลูบหัวฉันเบาๆ
“อื้ม รู้แล้วละ”
15.00 น.
“อายาโนะ วันนี้กลับด้วยกันนะ จะได้ไปซื้ออของทำโครงงาน”ฮิเมะพูด ในขณะที่ฉันกำลังจะออกจากห้องโรงเรียน... หมอนี่อุสาห์เดินมาจากตึกวิทย์ขึ้นชั้น 4 เลยหรอเนี่ย...
“โครงงานของฮิเมะไม่ใช่หรือไง ทำไมฉันต้องไปด้วยละ?”ฉันตอบด้วยความไม่เข้าใจอีกฝ่าย วันนี้ฉันต้องรีบไปรับไทจังกับสึกิจังด้วยสิ ไม่อยากไปช้า เดี๋ยวจะถูกคนไม่ดีล่อล่วงไป อ๊า! ต้องรีบๆ
“อายะจัง เดี๋ยววันนี้ฉันไปรับสองแฝดทีน่ารักเอง เธอไปกับยามุไรฮะซังเถอะ หุหุ”ซายากะเพื่อนร่วมห้องที่ฉันค่อนข้างสนิทด้วย รีบพลักฉันให้ไปกับฮิเมะ แล้วทำหน้าวี๊ดว้าย แบบที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
เฮ้อ... อะไรกันเนี่ย วันนี้วุ่นวายจัง
...แต่ เรื่องราวมันก็เริ่มขึ้นที่ตรงนี้แหละ...
19.00 น. สวนสาธารณะร้าง
ตอนนี้ก็รวมได้ 2 ชม.แล้วที่ฉันนั่งอยู่ที่ชิงช้าในสวนสาธารณะแห่งนี้... ถูกต้องแล้วล่ะตั้งแต่ 5 โมงฉันยังไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะเมื่อตอนเย็นนี้ฉันได้พบกับเรื่องบ้างเรื่องที่ต้องคิดมาถึงตอนนี้ คิดมานานหลายชั่วโมงเหลือเกิน ทั้งคำพูดของฮิเมะ และคำพูดของชายใส่สูทคนนั้น...
‘อายาโนะ! คนเราน่ะ เห็นแก่ตัวซะบ้างคงไม่ผิดหรอก...โดนเฉพาะเธอน่ะ เสียสละเพื่อคนอื่นมามากพอแล้วนะ! หัดเห็นแก่ตัวซะบ้างสิ’
ฉันก็อยากทำ แต่ว่าฉันไม่ทำ เพราะฉันเป็นพี่สาวของทุกคน ฉันจะเห็นตัวไม่ได้... ฉันต้องดูแลครอบครัว... คุณแม่ก็ต้องการแบบนั้น ฉันจะไม่เห็นแก่ตัว....
ถึงฉันจะโง่ แต่ฉันไม่อยากจะเป็นคนเห็นแก่ตัวเอง... เพราะถ้าเราเห็นตัวก็ต้องมีคนที่ต้องเจ็บปวดจากการเห็นแก่ตัวของเรา และถ้าโลกนี้มีแต่คนเห็นแก่ตัว โลกนี้ไม่น่าสงสารแย่หรือไงกันนะ...
‘ไม่สนใจจะมาเล่นเกมส์นี้หน่อยรอครับ...’
‘มนุษย์เราน่ะ เห็นแก่ตัวซะบ้างก็ดีนะครับ....’
อีกแล้ว... ทำไมจึงต้องเห็นแก่ตัว มนุษย์เรารู้เหตุผลที่แท้จริงที่ตนต้องเห็นแก่ตัวด้วยงั้นหรอ...? ทำไมกัน... ทำไมกันนะ
ทำไมละ ทำไมกัน...
...
“นั้นสิ... ทำไมเราถึงได้คิดไม่ออกล่ะ ทำไม...”แล้วทำไมตัวฉันถึงคิดสิ่งนี้ขึ้นมา ทำไมคำว่าทำไมจึงมีอยู่เต็มไปหมด.. เงื่อนไขหรือไงกันนะ...
“คิดแล้วเชียวว่าเธอต้องไม่กลับบ้านแน่...”
ฮิเมะ...
“อะไรกันฮิเมะ นายตามสโตร์เกอร์ฉันอยู่หรือไง”ฉันหัวเราะออกมาเบา ฮิเมะ... ทั้งทีมีคนอยู่มากมายทำไมถึงมาเป็นเพื่อนกับฉันละ ทั้งทีๆในโลกนี้มีคนอยู่มากมายแท้ๆ
คนที่ดีแต่หลอกตัวเอง ไม่คู่ควรกับนายหรอกนะ...
กึง!
“ทำแบบนี้ทำไม อายาโนะ!!”ฮิเมะกระชากข้อมือฉันไปอย่างแรง เขามองฉันด้วยสายตาโกรธและโมโหเป็นอย่างมาก ไม่สิ... ฮิเมะกำลังร้องไห้ต่างหาก...
คัตเตอร์เปื้อนเลือดตกอยู่บนพื้นดิน... ข้อมือของฉันทีเลือดแห้งซึมไปแล้วตอนนี้กำลังมีเลือดไหลซึมออกมาอีกครั้ง เพราะแรงบีบของอีกฝ่าย...
ฉันเจ็บปวด เขาก็เจ็บปวด... ทำไมละ ความรู้สึกนั้นคืออะไรทำไมฉันถึงไม่เข้าใจ...
“ฮิเมะ...”ฉันเรียกชื่อออกมาอย่างแผ่วเบา
“ยัยบ้าเอ้ย... เธอมันคนผิดสัญญาทั้งทีบอกว่าจะไม่ทำแล้ว... แต่เธอมันโกหก”เขาหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาจากกระเป๋านักเรียนแล้วทำแผลไปเงียบๆ
“ฮิเมะ....”
“....”
“นี่ ฮิเมะ....”
“ฮิ....”
“อะไรเล่า!! ยัยบ้า!”
“นายบีบข้อมือฉันทำบ้าอะไรเล่า!!!”
พอได้ยินแบบนั้น ฮิเมะก็คลายข้อมือฉันออกไปทันที ก่อนจะทำหน้าสลดเชิงขอโทษ ฮิเมะ....
“อุ๊บ...หึหึ ฮะฮะฮะฮะฮ่า!! ฮิเมะนายมัน นายมัน หึ ฮะฮะฮ่า”ฉันระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังและไม่คิดจะเกรงใจใคร ก็ตอนนี้มีแต่เราสองคนนี่นา ไม่เห็นต้องสนใจใครเลย
“บ้าจริง! หยุดหัวเราะนะ อายาโนะ! เฮ้ย~”ฮิเมะหน้าแดง ก่อนจะสั่งให้ฉันหยุดหัวเราะ แต่คงยากละนะ...
“ฮะฮะฮ่า อุ๊บ หึ ฮึก ฮือ...”
“เฮ้ย! อายาโนะเธอร้องไห้ทำไมเนี่ย! อายาโนะ”
“ฮิเมะ... ขอบใจนะ ขอบใจมากจริงๆ”
ฉันยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำตา น้ำตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขล้น
บ้างที... ฉันควรจะ....
วันเสาร์ 06.00 น.
“อายาโนะ จะไปไหนนะ”
ฉันสะดุ้งขึ้นมา ทันทีที่ได้ยินเสียงของเจ้าน้องชายที่เรียกตัวเองขึ้นมา... อะไรกันเนี่ย อุสาห์ย่องเบาแล้วนะเนี่ย นายจะหูดีไปไหนยูซึกิ
“ไปข้างนอกนะ แหะๆ กับข้าวพี่สาวทำไว้ให้แล้วน้า~”หัวเราะกลบเกลื่อนไปเรื่อย..
“กี่วันจะกลับล่ะ...?”
“ไม่รู้สินะ แต่ไม่นานเกินรอนักหรอก”ฉันยิ้มออกมาบางๆ
“งั้นหรอ โชคดีละกัน อย่ากลับดึกเกินไปละ...”ยูซึกิพูดออกมา ด้วยท่าทางไม่สนใจ แต่นั้น! นายหน้าแดงสินะ อะไรกันที่แท้ก็เป็นห่วงอยู่หรอกหรอ?
“ก็พี่มันโง่นี่นา ไปดีมาดีละ ไปนอนต่อแล้ว!!”ยูซึกิพูดพร้อมหันหลังและจะเดินกลับเข้าห้องไป
“ยูจัง...ถ้าพี่สาวไม่อยู่แล้ว ฝากดูแลน้องๆด้วยนะ”
“รักนะ... แล้วจะรีบกลับมา...”
เจ็บจังเลยนะ... ตาพร่าไปหมดเลย
...อา ทำไมอยู่ดีๆถึงนึกขึ้นมานะ เรื่องเมื่อวันวาน...
“อา... ยูจัง ฮานะจัง ฮินะจัง โทจัง สึกิจัง... พี่สาว ขอโทษนะ...”
ขอโทษนะ ที่ไม่ได้กลับบ้าน
ความคิดเห็น