ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #~อลวนคน[ ใกล้ ]ใจ ~#

    ลำดับตอนที่ #10 : @_@~~~บาดแผล>>T_T

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 48


    พอกลับถึงบ้าน ป้าแมวก็แทบจะเป็นลม เพราะใบหน้าของคุณหนูปอลที่ป้าแกประคบประหงม ยุงห้ามไต ไรอย่าสะเออะ มาอย่างดี กลับบ้านด้วยใบหน้าที่มีรอยจิกเขียวหลายรอย แถมหัวก็ยุ่งอย่างกับไปฟัดกับหมา



    “คุณปอล ทำไมหน้าเป็นแบบนั้น” ป้าแมวตกใจ



    “เรื่องมันยาวค่ะป้า เดี๋ยวไว้ทำเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คส์ เมื่อไหร่ป้าก็รู้เองแหละ ตอนนี่ขอข้าวซักหม้อให้ปอลหน่อยนะคะ หิวจะตายอยู่แล้ว>-<” ปอลยังทำทะเล้น พลอยรีบลากปอลขึ้นห้องไป



    วันนี้สองสาวของเรา นอนหลับกันตั้งแต่ค้างคาวยังไม่ออกบิน (พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน)



    ยัยพลอยกับปอลกำลังอ่านตำรามหาเสน่ห์ที่ค้นเจอในห้องแม่อยู่



    “ปั่นแตงกวาให้ละเอียดแล้วผสมน้ำหนึ่งถ้วยตวง เสร็จแล้วใส่โยเกิร์ตลงไปคนให้เข้ากัน” ปอลว่า พลอยรีบทำตาม เสร็จแล้วทั้งคู่ก็หน้าขาวเป็นผีก่อนนอน



    “เค้าว่าสูตรนี้แหละ จะลบรอยช้ำบนใบหน้า แม่ชั้นบอกมา” ปอลยืนยันให้พลอยทำตาม “รับรองพรุ่งนี้แกกับชั้นสวยเด้งแน่ๆ ราตรีสวีสดิ์”



    แล้วแสงไฟสุดท้ายก็ดับลง....



    ณ บ้านพี่ต้าร์



    “เล้งถามอะไรหน่อยดิ” พี่ต้าร์ถาม



    “อะไรพี่ ถ้าเรื่องที่ยัยมินท์กะชั้นเงียบไปเลยนะ” เล้งดักคอ



    “เปล่า ไอ้ที่จะถามน่ะจะถามว่าแกรู้จักน้องปอลรึป่าว” พี่ต้าร์ถามเรื่องนู๋ปอล



    “ใช่คนที่เป็นเพื่อนยัยพลอยป่าวอ่ะ” เล้งไม่ใส่ใจ



    “คนนั้นแหละ”พี่ต้าร์ทำท่าสนใจ

    “รู้จัก มีไรอ่ะ” เล้งกินข้าวไม่สนใจ



    “น้องเค้านิสัยดีป่าว” พี่ต้าร์บี้มดเล่น

    “ก็ดี อย่างน้อยก็ดีกว่ายัยพลอยอะไรนั่น ไม่เรื่องมาก ไม่เสียงดัง เรียบร้อย เรียนดี ปะมาณนี้แหละ” เล้งใช่ช้อนกินข้าวทำท่าประกอบ “ชอบยัยนั่นเหรอ...ชั้นไม่เคยเห็นพี่ออกอาการทำร้ายสัตว์ขนาดนี้เลยอ่ะ”



    พี่ต้าร์รีบไกล่เกลี่ย “อะไร ก็ถามดูเฉยๆเห็นอยู่ห้องเดียวกัน”

    “ไม่ได้ถามเฉยๆมั้ง พี่เป็นเอามากนะเนี่ย มดตายเป็นกองแล้ว” เล้งแซว



    “เออๆ..ยอมแพ้ว่ะ ก็แค่สนใจนิดหน่อย เห็นว่าเป็นคนดี” พี่ต้าร์ยกมือยอมแพ้

    “แล้วยัยซันล่ะ พี่ไม่ชอบเค้าแล้วเหรอ” เล้งดูปฏิกิริยาจากพี่ชาย

    “เฮ้ย!เรียกอย่างกับว่าซันเค้าอยู่รุ่นเดียวกับแกงั้นแหละ” พี่ต้าร์งง



    “พี่น่ะดีเกินไปสำหรับยัยนั่นรู้ป่าว ยัยนั่นน่ะ จิ้งจอกเราดีๆนี่เอง” ต้องยอมรับว่านายเล้งเป็นผู้ชายปากเสียคนหนึ่ง



    “ชั้นไม่โง่ขนาดนั้นหรอก ซันน่ะดูง่ายจะตาย”พี่ต้ร์ยิ้ม ในใจก็คิดถึงใครบางคนที่ตอนนี้กำลังหลับใหล



    “น่าน ใจลอยไปหาวารินธรล่ะซิท่า” เล้งกระเซ้า

    “บ้าน่า ชั้นยังไม่รู้จักคนที่แกพูดเลย” พี่ต้าร์ง่ายหัวให้น้องชายตัวป่วน



    “ไหนบอกว่าชอบเค้า แต่ชื่อจริงยังไม่รู้จักเลยเหรอเพ่” เล้งยั่วพี่ชาย

    “แกกลับบ้านได้และ แม่เป็นห่วงแย่” พี่ต้าร์หาทางขับไล่น้องชายสุดป่วน



    “ก็ดีเหมือนกัน” เล้งว่า “ฝากบอกป้าด้วยนะว่าข้าวอร่อย ไปแล้วพี่หวัดดี”

    เล้งรีบวิ่งออกจากห้องไป พี่ต้าร์ตะโกนตาม



    “เออ แล้วจะบอกแม่ให้”

    พอเล้งไป พี่ต้าร์ก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว หยิบสมุดโน้ตข้างตัวมาจดยุกยิก



    “วารินธร เหรอ”

    พี่ต้าร์นั่งใจลอยอยู่ที่หน้าต่าง

    คืนนั้นถ้ายัยปอลรู้ว่ามีคนใจลอยไปหา วันนี้ก็คงไม่เศร้าขนาดนั้น



    ที่โรงเรียน ณ สนามบาส

    วันนี้ยัยปอลรีบมาโรงเรียนแต่เช้า เพื่อมาดูกิจวัตรของพี่ต้าร์ในตอนเช้า พี่ต้าร์เค้าดูดีมากในสายตาของยัยปอล แถมเป็นคนที่ช่วยยัยปอลที่ครั้งนึงเคยมาล้มอยู่แถวนี้



    “แหมเพื่อนเรา รีบมาดูชายในดวงใจซ้อมบาสนี่เอง” พลอยที่อาสาไปเก็บกระเป๋าให้แซวเพื่อนซี้ ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่ม้าหิน

    “เวอร์แล้วพลอย เจอใครมั่งอ่ะ” ปอลรีบเปลี่ยนเรื่อง



    “ก็เจอพวกบีกะอิงค์ อาจารย์เปิ้ลไอ้บอล ไอ้เต้ แล้วก็นายเสาไฟฟ้า” คนสุดท้ายพลอยกลับทำหน้าหยะแหยง

    “เฮ้ย เค้าบอกว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอนะ” ปอลพูดลอยๆ พลอยทำท่าไม่เชื่อเต็มที่



    “ต้าร์จ๋า!!!”



    เสียงผู้หญิงคนนึงตะโกนเรียกพี่ต้าร์ ปอลหันขวับไปตาม เห็นผู้หญิงคนนึงคุยจี๋จ๋ากับพี่ต้าร์ ปอลหน้าซีดไปเยอะพลอยเห็นท่าไม่ดีจึงรีบชวนปอลไปที่ห้องเรียน



    วันนั้นทั้งวันปอลก็ดูซึมไปเยอะในสายตาเพื่อนๆหลายคน แต่ส่วนใหญ่ก็คิดว่าเป็นเพราะเรื่องที่ยัยมินท์มาหาเรื่องเมื่อวาน น้ำใส บี อิงค์ และตาลต่างก็แวะเวียนมาถามาการจากพลอยเป็นระยะ



    “โอปอลๆ”

    เสียงนายเต้เรียก ปอลหันไปมอง นายเต้ชี้มือไปที่ประตู พี่ต้าร์คอยอยู่ ปอลเดินไปหา แต่ครั้งนี้ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเดิม

    “น้องปอล พี่มาชวนไปทานข้าว” พี่ต้าร์ยิ้มให้ ถ้าเป็นวันอื่นยัยปอลอาจดีใจ แต่วันนี้ปอลกลับคิดว่า เค้าก็แค่ทำเป็นมารยาท



    “ขอบคุณค่ะ” ปอลตอบ แต่ยังไม่ได้รับปากอะไร ส่วนพี่ต้ร์ก็คาดหวังให้ปอลตอบตกลง

    แต่... เสียงใครคนนึงดังขึ้นจากข้างหลังพี่ต้าร์ แต่ปอลจำได้แม่น



    “ซันมาทำอะไร” พี่ต้าร์พยายามแกะมือพี่ซันออก

    “ก็มาชวนต้าร์ไปทานข้าวไง.... ขอโทษทีไม่รู้ว่ามีแขก”



    พี่ซันที่พูดกับพี่ต้าร์ หันมาเห็นปอลพอดี พี่เค้าพูดเหมือนปอลมาเป็นก้างขวางคอ ปอลก็เลยเลี่ยงไป

    “คงไม่ดีนะคะ... ขอโทษที่รบกวนค่ะ”



    ปอลพูดกับพี่ต้าร์แต่ประโยคต่อมาพูดกับพี่ซัน แล้วก็คอตกเดินเข้าห้องไป



    ++ ยัยปอลเอ้ย พี่ต้าร์เค้ามีแฟนแล้ว แกจะมาหวังอะไร ลมๆแล้ง ++



    ยัยปอลคิด แล้วพอคิดได้ ก็กลับมาเป็นปอลคนเก่าให้เพื่อนๆเห็น แต่ภายในของปอลกลับพบกับความผิดหวังอย่างรุนแรง



    แต่การกระทำของปอลก็หนีไม่พ้นสายตาของเพื่อนสาวอย่างพลอย ที่หวังว่าเพื่อนรักจะลงเอยแบบ Happy Ending แต่ตอนนี้พี่ต้าร์กลับมีแฟน ถ้าอย่างนั้นปอลเพื่อนรักก็ต้องกินแห้วต้มอ่ะดิ



    ++ไม่แน่พี่คนนั้นอาจจะไม่ใช่แฟนก็ได้ ++ พลอยคิดเข้าข้างเพื่อน



    “หนูปอลของชั้นต้องดีกว่า ยัยพี่หน้าขาวนั่นอยู่แล้ว” พลอยพูดแล้วเดินก้มหน้ากลับไปที่โต๊ะ แต่พอดีเดินไปไม่ถึงโต๊ะ

    “เดินระวังคนมั่งดิ” ซวยสองชั้นดันเดินชนนายเล้ง พลอยคิด



    “ระวังสุดได้แค่นี้ มีปัญหามั๊ย” พลอยกวน



    “โธ่เว้ย!พวกผู้หญิงงี่เง่าเหมือนกันหมดรึไงเนี่ย” เล้งที่ไม่รู้ไปกินรังต่อจากที่ไหนมา ว้ากใส่พลอย แล้วเดินออกจากห้องไป เรื่องอะไรยัยพลอยจะยอมโดนด่าอยู่คนเดียวก็เลยเดินตามนายเล้งไป



    ++ อีตาเสาไฟฟ้า ชั้นไปทำอะไรให้นายยะ ++ พลอยชักเดือด



    พลอยเดินออกไปหยิบรองเท้าที่วางอยู่บนชั้น แล้วด้วยความโกรธพลอยเลยสวมรองเท้าด้วยอาการที่เรียกว่ากระแทกเท้า แล้วเรื่องมันก็เกิด



    “โอ้ย!!”

    เสียงพลอยร้องดังลั่น แต่ปอลที่กำลังอยู่ในอาการซึมกลับไม่ใส่ใจคิดว่าพลอยตีกับเล้งอีกตามเคย ซึ่งเพื่อนๆในห้องก็คิดแบบเดียวกันก็เลยไม่ใครสนใจ เพราะพลอยก็ตีกับเล้งเกือบทุกวันอยู่แล้ว



    แต่นายเล้งกลับไม่คิดแบบนั้น พอหันกลับมาก็เห็นพลอยนิ่งอยู่กับพื้นหน้าที่วางรองเท้าแถมเท้ายังเปื้อนเลือดที่แดงอยู่ที่พื้นอีกกอง ในรองเท้ามีรอยเลือดสะท้อนแดดอยู่เต็ม



    “พลอย เป็นไรป่ะเนี่ย” เล้งที่รีบวิ่งเข้ามาดูพึ่งจะรู้ว่าเลือดที่ที่เห็นว่าสะท้อนแดดความจริงแล้วเป็นเศษแก้วที่เปื้อนเลือด พอเล้งดูในรองเท้าอีกข้างก็เห็นว่ามีเศษแก้วคมๆอยู่เต็ม



    “ดีนะชั้นไม่ใส่พร้อมกันสองข้าง” พลอยทำหน้าเหยเก เล้งช่วยพยุงให้ลุกขึ้น

    “ไปห้องพยาบาลดีกว่า” เล้งออกความเห็น พลอยพยักหน้า ตัวยิ่งซีดกว่าก่อนมาก



    “กลัวเลือดเหรอ” เล้งถามแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่



    “ก็นิดหน่อย” พลอยตอบหน้าชักซีด ความจริงแล้วพลอยน่ะกลัวเลือดเข้าขั้นโคม่าเลยแหละ



    ระหว่างที่เดินไปพลอยก็เกาะนายเล้งแน่น แถมหลับตาไม่ดูทาง จนนายเล้งที่ตอนแรกก็เป็นห่วงชักรำคาญ



    “เดินดูทางมั่งดิ ชนชาวบ้านเค้าไปทั่วแล้ว”  ++ แปลกแฮะวันนี้อีตาเสาไฟฟ้ามันเป็นอะไรของมัน แค่นี้ไม่เห็นจะต้องโมโหเลย คนยิ่งเจ็บๆอยู่ ++



    ณ ห้องพยายม เอ้ย พยาบาล



    “นี่แหละนะ ความซุ่มซ่าม ชั้นนะไม่แปลกใจเลยดูซิ รู้ว่าแก้วมันแตกก็ไปเดินจนเกิดเรื่อง” อาจารย์พิชญ์ประภา อาจารย์ประจำห้องพยาบาล ทำท่าเอือมระอา



    “หนูเปล่าซุ่มซ่ามนะคะอาจารย์” พลอยเถียง



    “แหม ไม่ได้ซุ่มซ่าม นี่คงจะวิ่งไม่ดูทางละซิมันถึงโดนซะเหวอหวะขนาดนี้” อาจารย์ยังคงบ่นๆๆๆๆ ต่อไป ยัยพลอยชักรำคาญในใจก็อาฆาตแค้นคนที่เอาเศษแก้วมาใส่รองเท้า



    เล้งที่ถูกอาจารย์สั่งให้คอยอยู่ข้างนอกตกใจนิดหน่อยที่อาจารย์บอกว่าแผลของพลอยเหวอหวะ แล้วเล้งก็จินตนาการไปไกลว่าพลอยจะต้องเดินไม่ได้ พิการไปตลอดชีวิต เป็นความผิดของตัวเอง ซึ่งนายเล้งก็ออกอาการเลอะเทอะเข้าไปใหญ่เมื่ออาจารย์พิชญ์ประภาบอกว่า



    “ช่วยพาเพื่อนไปส่งที่ห้องหน่อยนะ เพื่อนเดินไม่ได้”



    “ครับอาจารย์” เล้งรับคำ แต่ก็เกิดอาการมือไม้สั่น ++ ยัยพลอยพิการเดินไม่ได้แล้วเหรอเนี่ย ++



    เล้งช่วยประคองพลอยมาจนถึงชั้น 4 ที่เป็นชั้นเรียนของห้อง 441 ยัยพลอยก็พยายามเกร็งตัวเองให้เดินตรงๆ ส่วนนายเล้งก็ประคองไม่ให้ล้ม



    แต่.... สายตาที่คมกริบของยัยพลอยเห็นน้ำใสที่กำลังจะใส่รองเท้าอยู่

    “น้ำใส!อย่าใส่รองเท้า” พลอยรีบถลาไปข้างหน้าเลยหกล้มไม่เป็นท่า



    “เล้งบอกน้ำใสที อย่าใส่รองเท้า”

    เล้งก็พอจะรู้ว่าพลอยคิดอะไรอยู่เลยรีบวิ่งไปหาน้ำใสก่อน ทิ้งให้พลอยที่ล้มอยู่ นั่งอยู่แถวๆนั้นไปก่อน น้ำใสไม่รู้ว่าทำไมเล้งห้ามใส่รองเท้า แต่เล้งก็ตัดบทบอกว่าช่วยไปดูพลอยหน่อย น้ำใสก็เลยเดินตามมา



    น้ำใสตกใจที่เท้าพลอยพันผ้ากอซไว้หนาเตอะ “พลอยโดนอะไรมา”



    “แก้วบาด ชิวๆ” พลอยยกสองนิ้วให้เพื่อน



    “แบบนี่เนี่ยนะ ชิวๆของแกO_O” น้ำใสอึ้ง “แกไปโดนอะไรกันแน่พลอย”



    พลอยหน้าแหยเมื่อเพื่อนทำท่ารู้ทัน “ก็โดนแบบที่แกกำลังจะโดนละมั๊ง ถ้าคิดไม่ผิดอ่ะนะ”

    “โดนอะไรพลอย แกกำลังทำให้ชั้นกลัวนะเฟ้ย” น้ำใสหน้าตื่น



    พลอยก็เลยเล่าให้ฟัง แล้วพอพลอย เล้ง แล้วก็น้ำใสมาดูที่ชั้นวางรองเท้าของก็เห็นว่ามีแก้วในรองเท้าของ ปอล บี ตาล แล้วก็เพื่อนผู้หญิงที่วางรองเท้าในชั้นเดียวกันเป็นเบือ



    “แบบนี้เค้าเรียกว่าแกล้งแล้วนะพลอย” น้ำใสทำหน้าจริงจัง “ใครทำนะ”

    “คนที่ใช้วิธีสิ้นคิดแบบนี้มีอยู่คนเดียวแหละ ยัยมินท์ห้อง 443” พลอยตอบแบบไม่ต้องคิด



    “แบบนี้ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกซะบ้าง” น้ำใสว่า

    “แกล้งกันไปแกล้งกันมา แล้วเมื่อไหร่เรื่องมันจะจบ” เล้งค้านทันที



    พลอยจุนกึก “อ๋อ ใช่ซี่ ก็นั่นมันแฟนนายนี่ นายก็ต้องห่วงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”

    ถึงไม่ใช่แฟนชั้นก็ห่วง กลัวหมาบ้าอย่างเธอจะไปฆ่าใครเข้า” เล้งโมโหลืมตัวผลักพลอยเต็มแรง



    พลอยที่เท้าเจ็บล้มแบบน่ากลัวมาก คือหลายหลังล้มกระแทกพื้น เจ็บตัวก็เจ็บ แต่เจ็บใจยิ่งกว่า ที่คนห้องเดียวกันไปเข้าข้างผู้หญิงห้องอื่น

    เล้งที่ลืมตัว ตกใจที่เห็นพลอยล้มรีบเข้ามาดู



    “ชั้นไม่ได้ตั้งใจ เป็นอะไรมั๊ย”

    เล้งที่ความจริงจะขอโทษกลับเบี่ยงเบนประเด็น ไปถามเรื่องอื่น



    พลอยโกรธที่เล้งชอบใช้กำลัง แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำคนอื่นเจ็บแล้วค่อยมาขอโทษ

    “จะเป็นอะไรล่ะ ชั้นก็เป็นหมาบ้าไง”



    พลอยโกรธ ++ หนอยแน่ะ ทำแล้วค่อยสำนึกเหรอ เรื่องของแกกับชั้นมันไม่จบง่ายๆแน่ ++



    “อย่ามายุ่ง ออกไปห่างชั้น” พลอยสะบัดมือเล้งที่จะช่วยประคอง แล้วหันไปเกาะกำแพงพยุงตัวลุกขึ้นเอง แล้วเดินกะโผลกกะเผลกไปที่โต๊ะ



    “ทางที่ดีเราวานายหาทางพูดดีๆกับพลอยหน่อยแล้วกัน” น้ำใสว่า เล้งพยักหน้านิดนึง “เจ็บทั้งตัวแถมยังเจ็บใจแบบนี้ ยัยพลอยท่าจะอาการหนักแน่ๆ”



    ตอนเย็น



    วันนี้เป็นวันที่ปอลกับพลอยจะต้องทำเวร ปอลพยายามบอกให้พลอยกลับบ้านไปก่อนแต่พลอยไม่ยอม



    “เรื่องอะไรอ่ะปอล ชั้นก็มือมือเหมือนกันนะเว้ย จะใช้แรงงานเพื่อนอย่างเดียวได้ไง”



    พลอยไม่สนใจ รู้อยู่ว่าเพื่อนห่วง พอเห็นพลอยเข้าห้องมาปอลก็ถามเลยว่าเป็นอะไร แถมยังโกรธแทนเพื่อนอีกว่าพวกยัยมินท์ทำรุนแรงเกินไป



    จนเพื่อนคนอื่นๆทำเวรเสร็จแล้ว แต่พลอยยังเช็ดกระดานยังไม่เสร็จเลย ทั้งๆที่เป็นงานง่ายๆ



    “พลอยแกจะเช็ดจนถึงศตวรรษหน้ารึไง” อิงค์ถาม



    “แหมแก ชั้นระบมไปทั้งตัวนะโว้ย เช็ดได้ก็บุญโขแล้ว” พลอยทำท่าเท้าสะเอวก๋ากั่น

    “เท้าเจ็บอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ ดันลื่นล้มหลักกระแทกพื้นช้ำไปทั้งตัว”



    พลอยจงใจให้เล้งที่กำลังจะกลับบ้านได้ยิน เล้งชะงักนิดนึงแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่รู้สึกรู้สม



    วันนี้ทั้งพลอยและปอลต่างนั่งปรับทุกข์ด้วยกันจนดึก อีกคนก็มีแผลที่ตัว คนนึงก็มีแผลที่ใจ วันนี้สองสาวเพื่อนซี้ต่างก็มีบาดแผลด้วยกันทั้งคู่



    ++อารัยจะน่าสงสารขนาดนั้น เรื่องยัยพลอยคงจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ แต่เรื่องของหนูปอลล่ะ เอ..ชมรมดนตรีเค้าจัดงานอะไรกันนะ ตอนหน้ารู้แน่ ++



    ++ขอบคุณที่เข้ามาเม้น++

    ++จะพยายามพิมพ์เร็วๆ จะได้อัพเร็วๆ++

    ++เดี๋ยวนี้ขี้เกียจอ่ะ++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×