ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Valentine Project: โปรเจ็ครัก วาเลนไทน์

    ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องหนักใจ (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2)

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 49


    - เรื่องหนักใจ -

                    ขณะที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการบ้านทั้งวิชาเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ที่ชวนปวดหัว และ ใบงานประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน ในบ่ายที่อบอ้าวกับพัดลมรุ่นดึกดำบรรพ์ที่ส่งเสียง 'แก่กๆๆๆๆๆๆๆ' ทุกเวลานาทีที่ใช้งานมัน จู่ๆเสียงชวนรำคาญที่กดดันนี้ก็ถูกทำลายด้วยเสียงโทรศัพท์ แป้งร่ำเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยิน

    ตรู๊ด....................(โทรศัพท์ดังนี่ โอย ขี้เกียจรับ)...................

    ตรู๊ด....................(เดี๋ยวเค้าก็วางสายก็ไปเองละม้าง)………………..

    ตรู๊ด....................(โอย ปวดหัวคิดการบ้านไม่ออกแล้วนะ)....................

    ตรู๊ด....................(โธ่เอ๊ย เซ็งเลย ไม่มีใครอยู่บ้าน เลยไม่มีใครมารับล่ะสิเนี่ย)………………..

    ตรู๊ด....................(จ้าๆๆๆๆ ไปรับก็ด้ายยยย).....................

                    ตึกตักๆๆๆๆๆๆ

                    "ใครกันนะโทรมา" แป้งร่ำพูดอย่างหัวเสียพลางลงบันไดมาจากชั้นบน แล้วไปทางโทรศัพท์

                    "สวัสดีค่ะ" เธอพูดอย่างรวดเร็ว

                    "สวัสดีจ้ะ..หนูแป้งเหรอจ๊ะ นี่ป้าเมี้ยนนะจ๊ะ หนูเก็บเสื้อผ้าหรือยังล่ะจ๊ะ เดี๋ยวป้าจะออกไปรับละนะ" เสียงสดใสของป้าเมี้ยนเอ่ยผ่านทางโทรศัพท์

                    "หา !?!?! อะไรนะคะป้า ทำไมหนูต้องเก็บของด้วยล่ะคะ" เธองงเป็นไก่ตาแตก

                    "อ้าว! ก็พ่อกับแม่หนูไปออสเตรเลียไงละจ๊ะ และระหว่างที่ท่านไม่อยู่เนี่ย ได้บอกป้าว่าให้รับหนู ส่วนเรื่องโรงเรียนก็มาอยู่โรงเรียนประจำที่ป้าสอนอยู่ไงล่ะ  ก็โรงเรียนซันไชน์ไฮสคูลที่หนูเคยไปเล่นตอนเด็กๆ จำได้ไหมจ๊ะ แต่ เอ๊ะ!อย่าบอกนะว่าพ่อกับแม่ไม่ได้บอกแป้งน่ะ" ในระหว่างป้าเมี้ยนพล่ามว่ามีที่มาที่ไปยังไง ในสมองของแป้งตอนนั้นก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดี

                    "หนูไม่เข้าใจค่ะป้า หนูงงไปหมดแล้ว ทำไมไม่เห็นมีใครบอกหนูเลย" แป้งพูดอย่างรวดเร็ว หน้าละห้อยเพราะไม่คิดว่าจะต้องไปอยู่ที่อื่น

                    "งั้นเหรอ จ้ะๆป้าจะเล่าให้ฟัง"

                    หลังจากที่ป้าเมี้ยนวางสายไป แป้งร่ำก็รีบกดโทรศัพท์หา อิงค์ หนึ่งในเพื่อนร่วมแก๊งของเธอ

                    '..จะเป็นไรไหม ถ้าฉันจะนั่งตรงนี้ ใกล้ๆเธอ ให้ฉันช่วยเธอเผื่อมีอะไร ก่อนคนนั้นของเธอจะมา ให้ฉันนั่งเป็นเพื่อนไป อย่างน้อยไม่เหงาใจ เมื่อไรเขามา ฉันจะไป.. ' เสียงเพลงรอสายดังขึ้นเป็นเวลานานก่อนที่จะมีคนรับ

                    "ฮัลโหล อิงค์เหรอ เฮ้ย ฉันมีข่าวร้ายจะบอกแก" แป้งพูดอย่างรีบร้อน

                    "ข่าวร้ายอะไรของแกล่ะ" อิงค์ว่า

                    "ก็ฉันต้องย้ายโรงเรียนนะสิ และที่สำคัญฉันต้องไปวันพรุ่งนี้ด้วย" แป้งพูดพลางทำหน้าเศร้า

                    "ห๊า!?!?! เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนแกลองเล่าให้ฉันฟังสิ" อิงค์พูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัยสุดๆ

                    "ก็คือว่า เรื่องมันเป็นงี้นะ พ่อกับแม่ฉันต้องไปทำงานที่ออสเตรเลียเป็นเวลา 3 ปี ไปแบบไม่มีแคนไม่มีซอ เอ้ย! ไม่มีปี่ไม่มีขิม"

                    "ขลุ่ยต่างหากล่ะ" อิงค์แก้ให้

                    "เออ นั่นล่ะช่างมันเหอะ แล้วฉันต้องย้ายไปอยู่โรงเรียนประจำ ซึ่งท่านพ่อและท่านแม่ก็จัดแจง จัดการดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว แถมป้าฉันที่สอนอยู่ก็คงไปช่วยดำเนินการด้วยแหละ มันถึงได้รวดเร็วปานสายฟ้าฟาดอินทรีย์ผงาดฟ้า โรงเรียนอะไรน่ะเหรอ ก็ซันไชน์ไฮสคูลน่ะแก คิดดูสิ พวกนั้นน่ะมีแต่คุณหนู มีแต่คุณชาย รวยๆเนี่ย ซะสาดเลย บ้านนอกอย่างฉันก็เป็นแกะขาวในแกะดำน่ะสิ!!!"

                    "แต่ฉันว่าแกน่ะแกะดำนะ ถ่านขนาดนั้นยังว่าตัวเองเป็นแกะขาวอีก เจียมตัวจังง่ะ" อิงค์หยอกเล่นโดยที่รู้ว่าแป้งซี (เรียส) ขนาดไหน

                    "ไอ้อิงค์ ฉันกำลังซีนะแก ยังจะมาล้อเล่นอีก" แป้งเอ็ดทั้งที่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ตัวก็ดำแต่ทำไมชื่อแป้ง

                    "เออน่า ก็เห็นแกซี เลยอยากหยอกเล่น ฉันก็คงคิดถึงแกน่าดูเลย โอ๊ะ! ฉันขอโทษนะแป้ง ตอนนี้แม่สวดฉันยับแล้ว เรื่องอะไรอ่ะเหรอ ก็ที่ฉันเอาแคนดี้มาเลี้ยงน่ะสิ มันปล่อยของส่วนตัวเรี่ยราดไปทั่วเลย ฉันคงต้องวางก่อนนะ ขอโทษจริงๆ เธอลองโทรไปหายัยมี่สิ" ว่าแล้วอิงค์ก็วางไป

                    แป้งไม่ได้กดโทรศัพท์หามี่อย่างที่อิงค์แนะนำ เพราะเธอมั่นใจว่า ยัยมี่ไม่มีทางรับโทรศัพท์แน่ถ้าตะวันยังไม่ตกดิน จะอะไรอีกล่ะ ก็ยังไม่ตื่นไงล่ะ เล่นนอนเช้าตื่นเย็นอย่างงั้น

                    เธอตัดสินใจไปเก็บเสื้อผ้าตามที่ป้าเมี้ยนบอก เธอโยนๆๆทั้งเสื้อผ้า โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ครีม โทนเนอร์ ยาสระผม ผ้าขนหนู ลงไปในกระเป๋าเดินทางใบเขื่องอย่างส่งๆ และไม่ลืมที่จะเอาของแทนใจอย่างรูปถ่าย วิทยุพกพาไปด้วย

                   

                    "แป้ง แป้ง ป้ามาแล้วนะ มาเปิดบ้านให้ป้าหน่อย" เสียงป้าเมี้ยนตะโกนมาจากข้างนอก

                    แป้งร่ำที่พอจะทำใจได้ถึงแม้จะยังเศร้าอยู่เดินไปเปิดประตู.

                    "ทำอะไรอยู่ล่ะเรา ป้านึกว่าหนูนอนไปแล้วน่ะเนี่ย ดึกป่านนี้" ป้าเมี้ยนว่า

                    "โอย ยังเลยป้า ก็นั่งทำใจน่ะสิคะ ไม่คิดมาก่อนเลยที่จะต้องมาย้ายโรงเรียนกะทันหันอย่างงี้ เฮ้อ...นี่ป้าจะค้างที่นี่คืนหนึ่งใช่ไหมคะ"

                    "อืมจ่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องรีบออกแต่เช้านะ ไปกันเถอะ" ว่าแล้วป้าเมี้ยนก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับแป้งที่รู้สึกว่าคืนนี้มืดมนเกินกว่าคืนอื่น

                    คืนนี้เธอนอนไม่หลับเลย แม้เข็มสั้นของนาฬิกาจะเลื่อนไปชี้ที่เลข 11 เธอมัวคิดแต่ว่าไปที่นั่นจะปรับตัวได้ไหม จะมีเพื่อนหรือเปล่า งานจะเยอะไหม

    เลข 2 เธอก็มัวคิดอยู่นั่นล่ะว่าโรงเรียนประจำเป็นแบบไหน ตึกนอนจะมีผีไหม นอนห้องละกี่คน

    เลข 3 แล้วการบ้านที่นั่นจะเยอะเหมือนที่นี่ไหม จะมีวิชาว่ายน้ำหรือเปล่า เพราะเธอว่ายน้ำไม่เป็น และไม่คิดที่จะใส่ชุดว่ายน้ำด้วย

    แต่แป้งก็ผล็อยหลับไปด้วยความรู้สึกหนักและเหนื่อยใจอย่างแรง

                    "ใกล้ถึงโรงเรียนหรือยังคะ" แป้งถามขณะที่ป้าเมี้ยนกำลังขับรถมาตามทางที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ คงเพราะเธอหลับในมาตลอดทาง ทิ้งให้ป้าเมี้ยนขับรถคนเดียว เลยไม่รู้ว่าป้าขับรถไปทางไหน และแป้งก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ป้าเมี้ยนอึดขนาดนั้น

                    "ก็ใกล้ถึงแล้วล่ะจ้ะ" ป้าเมี้ยนว่า

                    ป้าเมี้ยนขับรถเลี้ยวเข้าไปตามถนนเส้นหนึ่ง ที่จัดว่าสวยมากจนทำให้แป้งทึ่ง พลางคิดว่า 'ทางเข้ายังสวยขนาดนี้ โรงเรียนจะสวยขนาดไหนกันนะ' และการคาดคะเนของเธอก็ไม่ผิดจริงๆ ประตูทางเข้าของโรงเรียนเป็นไม้ที่เคลือบเงา ขอบประตูสีทอง มีตรารูปดวงอาทิตย์อยู่ที่ป้ายโรงเรียนซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เคียงข้างกับประตูซึ่งทุกคนที่ผ่านเข้ามาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม 'แค่ประตูทางเข้าก็กินขาดแล้ว อะไรจะสวยขนาดนั้นนะ' แป้งคิด

                    ประตูเปิดออก และทันทีที่ตัวรถเคลื่อนผ่านประตูเข้าไปแป้งก็ต้องตกตะลึงอึ้งกิมกี่ไปกับความสวยงามของโรงเรียนนี้

                    "โอ้โห! สุดยอดไปเลยค่ะ นี่มันอาคารเรียนหรือคฤหาสน์กันคะ โหย อย่างงี้ต้องมีแต่พวกมีกะตังค์แน่ๆเลย" แป้งโพล่งออกมาทันทีที่เห็นอาคารเรียนสีครีมรูปตัวยู ที่โค้งรอบน้ำพุสีขาวที่มีผู้ชายชุดคลุมยาวมือหนึ่งถือหนังสือ อีกมือหนึ่งชี้ขึ้นฟ้าและปล่อยสายน้ำออกมา

                    "มา เดี๋ยวป้าจะพาแป้งไปหาครูประจำตึกนอน แล้วแป้งจะได้เก็บข้าวของ อาบน้ำแล้วเตรียมตัวลงไปกินข้าวกับเพื่อนๆนะ" ป้าเมี้ยนบอกแป้งหลังจากที่ลงจากรถ แล้วเดินนำแป้ง ตรงดิ่งไปยังอาคารสีเขียวที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตึกนอนซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของอาคารรูปตัวยู

                   

                    ป้าเมี้ยนส่งแป้งร่ำไว้กับอาจารย์หญิงท่านหนึ่งที่หน้าตาใจดีไม่แพ้ป้าเมี้ยน แล้วเธอก็หายไปกับความมืดที่แผ่เข้าปกคลุม

                    "สวัสดีจ๊ะ หนูเปลวตะวัน ต่อไปนี้เธออาจจะไม่ได้เจอป้าเธออีกนะจ๊ะ เพราะป้าของเธอประจำตึกชาย" อาจารย์หญิงท่านนั้นพูดแล้วส่งยิ้มให้แป้งร่ำ

                    "อ่อ เดี๋ยวรอครูที่นี่แปปนึงนะจ๊ะ แล้วจะมีครูอีกท่านมาพาเธอไปพบเพื่อนๆ"

                    หลังจากนั้นไม่นานก็มีอาจารย์หญิงรูปร่างท้วมใส่แว่นหนากรอบสีแดงเรียกเธอไป

    "นี่เป็นห้องทำงานของอาจารย์เวรผู้ดูแลตึกนอนหญิง ส่วนห้องทางนี้คือห้องนั่งเล่นของตึกนอนหญิง ซึ่งเปิดตั้งแต่สองโมงเช้าถึงแค่สามทุ่มครึ่งของวันหยุดเท่านั้น ภายในจะมีโทรทัศน์ ซีดี วีซีดี วิทยุ หนังสืออ่านเล่น ให้พวกเธอใช้กัน ส่วนทางฝั่งตรงข้ามห้องนั่งเล่นนี่จะเป็นห้องสมุด และอินเทอร์เน็ตไว้ให้ใช้ค้นคว้าเรื่องงาน ส่วนนี่ก็ลิฟต์ สำหรับพวกกระแด๊ดกระแด๋ไม่อยากขึ้นบันไดเพราะกลัวกล้ามขาขึ้น......."

                    'โธ่ อาจารย์คะ หนูไม่ได้บ้านนอกขนาดไม่รู้จักลิฟต์นะคะ' แป้งร่ำคิดในใจ ซึ่งขณะนี้เธอกำลังต้องฟังการบรรยายของอาจารย์เวรตึกนอนหญิงของวันนี้ ชื่อว่าอาจารย์ธิติมา ตั้งแต่เดินตามอาจารย์ธิติมามาเธอยังไม่เห็นนักเรียนสักคนเลยจนอดสงสัยไม่ได้ว่านักเรียนคงจะหลบรัศมีของอาจารย์ธิติมาคนนี้เป็นแน่แท้

                    "เปลวตะวัน เธอไปเอากระเป๋าเธอมานะแล้วตามครูไปที่ชั้น 4 นะ" ว่าแล้วอาจารย์ธิติมาก็ไปปล่อยให้แป้งร่ำเดินดุ่มๆไปคนเดียวเพื่อไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่ห้องทำงานของอาจารย์เวรฯ ระหว่างทางก็นึกแช่งอาจารย์ธิติมาไปในใจ 'ทั้งๆที่จะให้เอากระเป๋าขึ้นไป ทำไมไม่ให้เราเอาไปด้วยตั้งแต่แรกนะ'

                    "โอ้ย!" แป้งร่ำโดนชนเข้าอย่างจังจนต้องร้องออกมา เธอเงยหน้าขึ้นเห็นเป็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ มองตอบกลับมา แล้วเธอก็ลุกขึ้นรีบจัดแจงปัดชุดนอนลายหมีพลางพูดด้วยเสียงแหลมเล็กว่า

                    "อุ๊ย!ขอโทษนะยะไม่ทันเห็นน่ะ แต่เธอเนี่ยก็อย่ามองแต่พื้นสิ หัดมองทางข้างหน้าซะบ้าง เดี๋ยวคราวหน้าชนกับ อุ๊บ!ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวเธอก็เจอเอง โฮะๆๆๆๆๆๆ" ว่าแล้วเจ้าของเสียงก็จากไปทิ้งให้แป้งงงงันกับคำพูดของเธอแต่ก็มิวายที่จะว่าเธอ

                    "เฮ้ย!คนอะไร จะช่วยฉุดขึ้นก็ไม่มี ก็รู้อยู่ว่าฉันผิด น้ำใจน่ะมีมั้ย" แป้งตะโกนตามหลังสาวเสียงแหลมคนนั้นไป พลางลุกขึ้นปัดเสื้อผ้า

                    "หวัดดี"

                    "เฮ้ย!" แป้งตกใจเพราะไม่คิดว่ามีคนอยู่ข้างหน้าอีก ผมที่ยาวถึงเอวแต่ปรกหน้าไว้บวกกับผิดซีดๆของเจ้าของเสียงทำให้แป้งคิดว่าเป็นผี

                    "ไม่ต้องตกใจ เธอเป็นนักเรียนใหม่ใช่ไหม เห็นอาจารย์คุยกันอยู่ ฉันชื่อ เนตร นะจ๊ะอยู่ม.4 เธอล่ะชื่ออะไร" เนตรแนะนำตัวกับแป้งพร้อมกับยิ้มทักทาย แต่เป็นเหมือนยิ้มแห้งๆซะมากกว่า

                    "ฉันชื่อ แป้งร่ำ จ้ะ เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง กำลังจะเอากระเป๋าขึ้นไปข้างบน" แป้งร่ำตอบ

                    "อืม พอดีเลยฉันก็กำลังจะขึ้นไป งั้นเดี๋ยวเนตรช่วยแป้งนะ"

                    เมื่อลิฟต์หยุดที่ชั้นสี่ เนตรพาแป้งไปหยุดที่หน้าประตูบานหนึ่งในบรรดาประตูทั้งหมด แต่ก่อนที่จะเปิดประตูเนตรบอกว่า "เพื่อนมักหาว่าฉันสติไม่ดีบ้าง บ้างก็ว่าเหมือนคนไร้วิญญาณบ้างล่ะ เลยไม่ค่อยมีใครกล้าคบสักเท่าไร" เนตรบอกเสียงใสราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา

                    เมื่อได้เข้าไปในห้อง ก็เป็นอย่างที่เนตรเล่าจริงๆ เพราะหลายคนในห้องทำราวกับเธอทั้งสองเป็นอากาศ จะมีบ้างที่รู้สึกว่ามีแป้งและเนตรอยู่ในห้องนี้ด้วยก็จะเป็นพวกที่ปากเสียทั้งนั้น

                    "เฮ้ นักเรียนใหม่ ไปคบกับผีเนี่ยไม่กลัวโดนกินตับไตใส้พุงเหรอ" ผู้หญิงดูท่าทางเหมือนทอมคนหนึ่งกล่าวทำลายความเงียบและตามมาด้วยเสียงแหลมเล็กที่แป้งจำได้ทันทีว่าไม่ใช่ใครที่ไหนต้องเป็นยัยหมีเสียงแหลมที่ชนเธอแน่นอน

                    "อุ๊ยตาย ฉันกะแล้วว่าเธอต้องเจอ โฮะๆๆๆ ระวังนะ เนตรจะกินตับ จับเธอทำหมัน ไม่รู้ด้วยน้า โฮะๆๆๆๆ" แล้วเธอก็หัวเราะด้วยเสียงที่ฟังแล้วขนลุกราวกับเธอจะกินตับคนเสียเอง

                   

                    หลังจากอาบน้ำแล้ว ซึ่งก็เป็นเวลาสามทุ่มสี่สิบ เธอเดินเข้ามาในห้องนอนซึ่งเป็นเตียงสองชั้นเรียงแถวยาว ขณะนี้ทุกคนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มของตัวเอง เว้นแต่เนตรที่นั่งอยู่ที่เตียงริมหน้าต่าง ซึ่งเตียงข้างๆเป็นของแป้ง

                    "ดูดาวเหรอจ๊ะเนตร" แป้งว่า

                    "อ้าว แป้งอาบน้ำเร็วจัง อืม ก็คิดถึงแม่น่ะ แม่เสียตั้งแต่ดาวเล็กๆแล้วล่ะ หึๆ"

                    "เสียใจด้วยนะ" แป้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว

                    "ไม่เป็นไรหรอก อ้อ แป้งรู้เรื่อง โปรเจ็คใหม่ของคณะกรรมการมั้ยจ๊ะ มันเป็นโปรเจ็ค...."

                    ยังไม่ทันที่เนตรจะพูดจบ ประตูห้องนอนก็เปิดผ่างออก ดูท่าเนตรจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยรีบฉุดมือแป้งมาที่เตียงแล้วกระซิบว่า "นอนเถอะ ครูธิติมาจอมโหดมาตรวจแล้ว" แป้งคิดในใจว่า 'ขนาดนี้คงไม่ต้องบอกก็รู้แล้วล่ะมั้ง'

    >>>>> โปรดติดตามตอนต่อไป <<<<<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×