ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic แขนกลคนแปรธาตุ]​ฉันนี่แหล่ะลูกสาวคนที่2ของตระกูลเอลริค [END]​

    ลำดับตอนที่ #6 : 6 นักเล่นแร่ผสานชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 66


    ณ ห้องทำงานผู้พัน

    "มีอะไรจะให้ฉันช่วยสินะ" รอยหันมาถามพวกเรา

    "รู้ทันสมกับเป็นนายนะรอย" เห้อรู้ตัวไวกว่าที่คิด

    "ช่วยแนะนำหอสมุดหรือนักเล่นแร่แปรธาตุที่เชี่ยวชาญเรื่องการหล่อหลอมสิ่งมีชีวิตทีสิ" เอ็ดบอกเป้าหมายของพวกเรา

    "ได้สิ แต่ว่า..."ว่าแล้วว่ามีข้อแม้


    "เอลต้องไปเดตกับฉัน1วัน"... 


    " ว่าไงนะ!!!!!!" ฉันกับเอ็ดอุทานพร้อมกันทันที ให้ฉันไปกับหมอนี่เนี่ยนะ


    "ฉันไม่ไป"ฉันปฏิเสธทันที


    " ตกลงครับ!!! "อัลตอบตกลง


    " เฮ้ อัลฉันไม่ยอมนะ"อัลกระซิบอะไรบางอย่างกับเอ็ดทำให้เอ็ดยอมแต่โดยดี 2คนนี้กระซิบอะไรกัน=_=


    " ฉันตกลง/เห้ย เอ็ด.... ยอมก็ได้ แต่หลังจากที่ทำธุระเสร็จนะ"เถียงไม่ได้สินะ... แต่ว่า งานเสร็จก็ชิ่งเลยสิจพอยู่ทำไม


    "พวกเราอยากกลับเป็นปกติให้เร็วไวนี่" รอยยอมเล่าให้ฟังว่ามีอยู่คนนึงที่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุผสานชีวิตชื่อโช ทัคเกอร์ ได้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการเมื่อ2ปีก่อน เพราะได้ประสบความสำเร็จในการหล่อหลอมคิเมร่าที่พูดภาษามนุษย์ได้ แถมเข้าใจภาษาคนด้วย แต่พูดแค่คำเดียวคำว่า


    'อยากตาย'​แล้วก็ไม่ยอมกินอาหารจนตายไป


    ณ บ้านของโช ทัคเกอร์


    รอยพาพวกเรามาที่บ้านของชัคเกอร์ บ้านของชัคเกอร์นั้นมีขนาดใหญ่


    "จ้ากกก" อยู่ๆก็มีหมาตัวขนาดใหญ่กระโดดทับเอ็ด


    "อย่าทับเอ็ดแบบนั้นสิ ลุกขึันก่อนนะ พวกเรามีธุระกับเจ้าของบ้านนี้" ฉันลูบหัวหมาตัวนั้นเบาๆ


    "โฮ่ง" หมาตัวนั้นยอมลุกแต่โดยดี มีแต่สัตว์นี่แหล่ะ ที่ฉันถึงจะยอมให้จับโดยไม่สวมถุงมือ(ลืมบอกว่าปกติเอลใส่ถุงมือด้วย)​


    "นี่ไม่ได้นะอเล็กซานเดอร์ ว้าว มีแขกมาเยอะแยะเลยค่ะคุณพ่อ"มีเด็กสาวออกมารับกับผู้ชายอีกคนรู้สึกว่าจะเป็นโช ทัคเกอร์


    "นีน่า ไม่ได้นะต้องล่ามหมาเอาไว้สิ" 2คนนี้ต้อนรับพวกเราอย่างดี ถึงแม้ข้างในบ้านจะรกเพราะอยู่กับลูกสาวและหมาอีกตัว


    "ยินดีที่ได้รู้จักนะเอ็ดเวิร์ดคุง เอลิเซ่จัง ฉันชื่อโช ทัคเกอร์เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุผสานชีวิต"


    " พวกเขาสนใจเรื่องการหลอมสิ่งมีชีวิตน่ะครับ บอกว่าอยากมาดูการค้นคว้าของคุณทัคเกอร์ให้ได้"รอยแนะนำพวกเราให้โช ทัคเกอร์รู้จัก


    " อ้อ ไม่รังเกียจหรอกครับ แต่ถ้าอยากรู้ความคิดของคนอื่น พวกเธอต้องเปิดเผยความคิดอ้อ ไม่รังเกียจหรอกครับ แต่ถ้าอยากรู้ความคิดของคนอื่น พวกเธอต้องเปิดเผยความคิดของตัวเองด้วย นั่นแหล่ะผู้ที่เรียกว่านักเล่นแร่แปรธาตุ"เอ็ดถอดเสื้อคลุมของตัวเอง ส่วนฉันก็ถอดผ้าปิดตาของฉัน


    "ที่พวกเรามาที่นี่ เพราะพวกเราต้องการความรู้เพื่อจะเอาร่างกายของตัวเองคืนมาเนื่องจากการพยายามชุบชีวิตให้คุณแม่ค่ะ"ฉันค่อยๆลืมตาข้างที่ใส่ตาเทียมให้ดู ถึงแม้จะใส่ตาเทียม แต่ฉันไม่อยากให้ใครเห็นตาเทียมข้างนี้


    " นั่นดวงตาเทียมสินะ พวกเธองั้นหรอ?" ฉันพยักหน้า


    " ใช่แล้วครับ พวกเราทั้ง3คน"เอ็ดเค่ะชุดเกราะทำให้รู้ว่าอัลไม่มีร่างกาย


    " เอลนั้นโดนช่วงชิงทั้งดวงตาข้างซ้ายและจิตใจทำให้เอลมีร่างกายที่อุณหภูมิต่ำกว่าคนทั่วไป ผมโดนช่วงชิงทั้งแขนขวาและขาซ้าย ส่วนอัลถูกช่วงชิงร่างกายไป" เอ็ดอธิบายต่อแล้วฉันสวมผ้าปิดตาเหมือนเดิม


    " แย่หน่อยนะ"โช ทัคเกอร์เข้าใจและยอมให้ความร่วมมือ


    " ผมเรียนเบื้องบนว่าพวกเขาสูญเสียร่างกายไปจากเหตุจลาจลภาคตะวันออกเมื่อตอนนั้น อย่าเอาเรื่องที่พวกเขาหลอมมนุษย์ไปบอกใครนะครับ"โช ทัคเกอร์พยักหน้าแล้วพาพวกเราไปที่ห้องเก็บข้อมูล ซึ่งตามทางเราจะผ่านคิเมร่ามากมายที่อยู่ในกรง


    "ฉันจะไปห้องวิจัยซะหน่อย เชิญดูตามสบาย"ตอนนี้พวกเราไม่สนใจใครแล้ว พวกเราเข้าสู่สมาธิเพื่อเริ่มการอ่านหนังสือทันที จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง


    จึกๆ


    ฉันรู้สึกถึงแรงสะกิดที่ขา ก็พบกับนีน่าลูกสาวของคุณทัคเกอร์ที่มากับอัลและอเล็กซานเดอร์


    "สวัสดีค่ะพี่เอล" นีน่ามองตาแป๋วทำให้ฉันต้องย่อตัวลงไปให้ระดับเดียวกันกับนีน่า


    "ว่าไงคะสาวน้อย" ฉันไม่ได้เกลียดเด็กหรอกนะ


    "มาเล่นด้วยกันนะคะ อเล็กซานเดอร์ก็อยากเล่นด้วย" นีน่าทำสายตาอ้อนวอน ทำให้ฉันคิดไปแปปนึง 


    'นีน่าคงเหงา คงอยากมีเพื่อนเล่นด้วย'​ฉันมองมือตัวเองมี่ใส่ถุงมือ


    "อื้ม ได้สิชวนเอ็ดด้วยนะ" ฉันลูบหัวนีน่าเบาๆ ถุงมือนี้เป็นถุงมือพิเศษที่อีตารอยนั่นหาซื้อมาให้ ใส่แล้วทำให้อุณภูมิ(มือ)​เหมือนคนปกติ


    " เย้ๆ"หลังจากนั้นพวกเราก็วิ่งไล่จับกันไปทั่ว พรเ้อมกับเอ็ดที่วิ่งเล่นกับอเล็กซานเดอร์จนเหนื่อย แล้วพวกเราก็มาที่นี่บ่อยๆจนเวลาผ่านไป


    " พี่ๆมาเล่นด้วยกันอีกนะคะ" นีน่าออกมาส่งพวกเราเหมือนเคย โดยไม่รู้ว่าครั้งนั้นคือครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะเจอกัน


    "อื้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน พวกพี่ไปก่อนนะ" ฉันมองว่านีน่าเหมือนกับน้องสาวคนนึงไปแล้ว จากความคุ้นชินและคุ้นเคย


    วันต่อมา


    วันนี้ท้องฟ้ามีเมฆครึ้มเหมือนฝนจะตก พวกเรายังคงมาบ้านคุณทัคเกอร์เหมือนเดิม


    "สวัสดีครับคุณทัคเกอร์ วันนี้ก็ขอรบกวนด้วยนะครับ เอ๋? "พอเปิดเข้ามากลับพบว่าบ้านมีแสงสลัวๆ และไม่มีใครออกมารับพวกเราเหมือนทุกที


    "คุณทัคเกอร์คะ นีน่า อยู่ไหมคะ" พวกเราเดินตามหา จนในที่สุดก็เจอในห้องวิจัย


    "อะไรกันก็อยู่นี่นา" พวกเราเดินเข้ามาในห้องที่คุณทัคเกอร์อยู่


    " อ้อ พวกเธอเองหรอ มาดูสิผลงานอันสมบูรณ์แบบ.... คิเมร่าที่เข้าใจภาษามนุษย์ยังไงล่ะ คอยดูแล้วกัน ฟังนะ คนๆนี้ชื่อเอลิเซ่"คุณทัคเกอร์ย่อขาไปคุยกับคิเมร่า


    "เอ... ลิ... เซ่" พูดได้จริงๆด้วย แล้วคุณทัคเกอร์ลูบหัวพร้อมกับชมเชยมัน


    "เห้อ ทันการประเมินพอดี เท่านี้ก็รอดสักที ไม่ต้องห่วงเรื่องงบวิจับอีกแล้ว"


    " เอ... ลิ... เซ่ เอลิเซ่.... พี่เอล... พี่ชาย..."เดี๋ยวนะ!!...ตอนนี้ฉันกับเอ็ดมองหน้าหากันพร้อมเบิกตากว้าง


    "คุณทัคเกอร์ เมื่อไหร่หรอครับที่งานวิจัยคิเมร่าที่เข้าใจภาษาคนของคุณได้รับการยอมรับจนได้สิทธิ์มา"เอ็ดเริ่มถามก่อน


    " เอ... เมื่อ2ปีก่อนล่ะมั้ง" ทัคเกอร์ตอบ


    " แล้วตอนที่ภรรยาคุณหายไปล่ะครับ"เอ็ดถามอีกครั้ง


    "2ปีก่อนน่ะ"


    "ฉันขอถามสักอย่างได้ไหมคะ... นีน่ากับอเล็กซานเดอร์หายไปไหน?" ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย


    "ฉันล่ะเกลียดเด็กเซนส์ดีอย่างพวกเธอะชะมัด" ฉันไปกระชากคอเสื้อทัคเกอร์ทันที


    "พี่เอล!" อัลยังไม่เข้าใจกัขเหตุการณ์


    "2ปีก่อนแกใช้ภรรยา...พอคราวนี้แกยังใช้หมากับลูกสาวทำเป็นคิเมร่าอีก!!!!"

    TBC​

    ไรต์รู้สึกว่าคาร์เอลเริ่มเปลี่ยนเรื่อยๆ ไรต์ถึงไม่อยากตั้งคาร์ไง555


    Bee_Poko​


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×