คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : part 5
...
“เงียบกันหน่อยได้มั้ย” แจจุงพูดเสียงเนือยๆ เขาไม่เห็นประโยชน์ของการตะโกนเพราะห้องนี้ก็ไม่ได้กว้างขนาดนั้น
เสียงคุยยิ่งดังกว่าเดิมเหมือนท้าทายอย่างสนุกสนาน แจจุงถอนใจเริ่มหงุดหงิด เค้าไม่เคยชินกับที่แบบนี้
“โอเค เอาอย่างนี้ก็ได้” แจจุงพูดอย่างคนที่เริ่มจะหมดความอดทนเมื่อเหลือบมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าเวลาที่อาจารย์ให้นั้นใกล้จะหมดแล้วและอาจารย์วิชาถัดไปน่าจะใกล้มาแล้ว “อาจารย์บอกว่าให้แบ่งกลุ่มกันกลุ่มล่ะ 7ในห้องนี้มี 35 คนพอดี แบ่งถามแถวไปเลยแล้วกัน ริมประตูทั้งแถวนั่นกลุ่ม 1 แล้วก็ไล่ไปสุดที่ริมหน้าต่างเป็นกลุ่ม 5 ตกลงตามนี้ช่วยเขียนชื่อพร้อมเลขที่ของพวกนายมาให้ฉันด้วยเดี๋ยวนี้”
เสียงคุยในห้องตอนนี้ดังมาก ถ้ามีครูซักคนเดินผ่านระเบียบพวกเขาคงโดนด่าเละ
หุปปากกันเสียที แจจุงร้องตะโกนในใจ มุ่นหัวคิ้วเรียวอย่างใช้ความคิดอย่างใจเย็นจนแม้แต่ตัวเองยังแปลกใจเพราะถ้าเป็นปรกตินะเหรอ คงตะโกนด่าลั่นๆไปไม่เหลือมาดไปแล้ว
เด็กหนุ่มถอนใจยาว ทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้ายิ้มเยาะของเพื่อนร่วมชั้น ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงหัวเราะสะอกสะใจที่รายล้อม บอกตัวเองซ้ำๆว่าที่ยากกว่านี้ก็เคยผ่านมาแล้ว ที่ลำบากกว่านี้ก็เคยสัมผัสมาแล้ว แค่นี้ทำไมจะทนไม่ได้
ร่างบางสะบัดหน้าหนีอย่างรำคาญใจเดินตัวปลิวออกจากห้องพร้อมด้วยเสียงปิดประตูตามหลังดังโครม
“มันเป็นกินยาผิดมารึเปล่าวะวันนี้” คนที่แจจุงคุยด้วยหน้าชั้นหันไปถามเพื่อนข้างๆโต๊ะและได้รอยยิ้มกว้างพร้อมกับอาการยักไหล่ตอบกลับมา
ยุนโฮเหลียวไปมองหน้าเพื่อนรัก
“นายชนะนิ” ยูชอนพึมพำตอบ ไม่ปิดบังว่าเสียดายการแพ้ครั้งนี้ขนาดไหน
ทำไมต้องเสียดาย ทั้งที่ความรู้สึกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทำไมต้องอยากเป็นคนเดินเข้าไปหาและหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ ทั้งที่คนคนนั้นไม่เคยสำคัญ
ก็แค่ของเล่นแท้ๆ ถ้าเสียเมื่อไหร่หาใหม่ได้ไม่ยาก ถ้าเบื่อเมื่อไหร่ก็โยนทิ้งไป ก็เท่านั้น
เพียงแต่ ดวงตากลมสีดำสนิทคู่นั้น ยามสบลึกกลับทำให้ก้อนเนื้อที่ชื่อว่าหัวใจกระตุกแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ยุนโฮหัวเราะเบาๆ “ไม่ละ ครั้งนี้เหมือนหมอนั่นจะไม่ต้องการ”
นิ้วมือเรียวพลิกกระดาษเคลือบมันของหนังสือไปเรื่อยๆราวเนื้อหาในนั้นน่าสนใจหนักหนา ดวงตาคมหรี่ลงอย่างใช้ความคิด กินยาผิด อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ใบหน้าสวยหวานได้รูปนั้นถึงไม่ได้บิดเบี้ยวเตรียมพังทำนบน้ำตาอย่างทุกทีที่โดยแกล้งให้เป็น
ตัวตลกหน้าชั้น
หรือว่าวันนี้มันเบาไป
ช่วยไม่ได้เพราะไม่คิดว่าคนที่หยุดเรียนไปอาทิตย์กว่าๆ อยู่ๆจะโผล่กลับมาในสภาพที่เหมือนเดิมทุกอย่างน่ะสิ เพื่อนถึงไม่ได้เตรียมการต้องรับไว้
ไม่เป็นไรหรอกคิมแจจิน พวกเรายังมีเวลาร่วมกันอีกนาน กว่าจะจบปีสามก็เหลือเวลาอีกตั้งสองเดือนกว่า
ยุนโฮคิดอย่างรื่นเริง
...
เสียงรอสายดังเพียงครั้งเดียวเสียงใสเป็นเอกลักษณ์ของคิมจุนซูก็ดังขึ้น
“ว่างายย” จุนซูพูดเสียงยาน
“เพิ่งตื่นเหรอไง” แจจุงถามกลับ เพียงคำเดียวคิมจุนซูก็ทำให้แจจุงยิ้มได้
“ถ้าเพิ่งตื่นจะรับสายนายได้เร็วขนาดนี้เหรอ ถามอะไรควายๆ กำลังจะนอนต่างหาก” คิมจุนซูฮัมเพลงหงุงหงิง พอใจที่ได้หลอกด่าเพื่อนรัก
แต่เสียดายผิดคาด นอกจากแจจุงจะไม่ด่ากลับแล้วกลับระเบิดหัวเราะมาตามสายเสียอีก เล่นเอาจุนซูแทบกลิ้งตกเตียง
“ทำไมนายไม่ด่ากลับมาวะ ทำเอาฉันขนลุกเลยนะเนี่ย มาโซคิสเหรอไง” จุนซูลูบแขนตัวเองไปมา พลางห่อตัวเองเพราะ
รู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบตัวจะเย็นลงไปนิดๆ “ตาสว่างเลยเรา” จุนซูบ่น
แจจุงหัวเราะเบาๆ ปลายนิ้วเรียวสวยไร้ไปตามราวเหล็กของดาดฟ้า ก่อนล้วงหาซองบุหรี่ในอกเสื้อ แจจุงใช้ปากคาบบุหรี่ไว้
หลวมๆ ไลท์เตอร์สีเงินถูกยกมาจุด แสงไฟสีส้มวับวาวในเมื่อลมหนาวจากเบื้องล่างพัดย้อนขึ้นมา เส้นผมสีดำสนิทยุ่งเหยิงมีส่วนหนึ่งตกมาระนัยน์ตาแต่เจ้าตัวไม่สนใจ
แสงไฟจากไลท์เตอร์ดับลงเมื่อเจ้าของจงใจทิ้วฝาลงมาปิด
“ถึงจะให้ไว้ก็เถอะนะแต่ก็ไม่คิดว่านายจะโทรมาหาฉันก่อน แล้วนี่ไม่มีเรียนเหรอไงคุณนักเรียนตัวอย่าง”
“นักเรียนตัวอย่างน่ะมันแจจินไม่ใช่ฉัน” แจจุงพูดเรียบๆ แม้จะมองไม่เห็นสีหน้าแต่จุนซูกลับเดาได้ทันทีว่าเพื่อนรักกำลังทำหน้าอย่างไร
แจจุง อย่าสูบเลยมันไม่ดีต่อสุขภาพพี่นะ
เสียงเตือนอ่อนๆดังขึ้นมาในความทรงจำ เขาไม่ยอมเลิกตามที่น้องขอแต่หลีกเลี่ยงไม่สูบต่อหน้าเพื่อความสบายใจของคนที่ได้
ชื่อว่าเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว
เปลวไฟสีส้มสว่างวาบอีกครั้ง และก็เป็นอีกครั้งที่ดับลงก่อนที่จะแตะปลายบุหรี่
“จุนซู นายว่าที่ฉันทำอยู่นี่มันถูกไหม”
“ฉันไม่รู้ เพราะคนที่รู้คำตอบนั้นมีเพียงคนเดียวก็คือนาย” จุนซูพูด ในที่ห่างไกลเขาแย้มรอยยิ้มบาง “นายจำได้รึเปล่าว่าครั้งหนึ่งฉันก็เคยถามนายแบบนี้ ก็เรื่องรถนั่นไงทำงานเป็นบ้าเป็นหลังจนเกือบเรียนไม่จบเพื่อเก็บเงินซื้อให้ได้ มันอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับบางคนที่หมายรวมถึงพ่อฉันด้วยแต่ว่านะ มันก็แล้วแต่แต่ละคนไม่ใช่เหรอ เพราะโลกนี้ไม่มีใครสามารถเลือกอะไรแทนใครได้ เพราะมีแต่ตัวเราเท่านั้นที่สามารถตัดสินได้ว่าสิ่งใดมีสาระ สิ่งใดไร้สาระ สิ่งใดทำลงไปแล้วถูก สิ่งใดทำลงไปแล้วผิด แจจุง...นายไม่เคยทำผิดไม่ใช่เหรอ เพราะว่านายคือคิมแจจุง และคนที่จะบอกว่านายทำผิดได้ก็มีแต่คิมแจจุงเท่านั้น”
ฉันทำเพื่อแจจิน ฉันทำเพราะเพื่อวันที่น้องฉันฟื้นขึ้นมาจะสามารถมั่นใจได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
แจจุงคิดหากปากกลับพูดอีกอย่าง “น้ำเน่า”
จุนซูหัวเราะ “สบายใจแล้วดิ”
ให้ตายแจจุงก็ไม่ยอมรับหรอกว่ามีเรื่องที่ต้องขอบใจจุนซูเพิ่มขึ้นอีกแล้ว คำที่ตัวเองพูดเองแท้ๆแต่กลับลืมไปซะได้
“ถามอะไรอย่างสิคิมจุนซู”
“ว่ามา”
“หัวหน้าชั้นนี่ ต้องทำอะไรบ้างแล้วต้องทำยังไงเหรอ”
เปลวไฟสีส้มสว่างวาบ
แตะปลายมวนสีขาวก่อนลุกเป็นสีส้มอมแดงสว่าง ควันสีเทาถูกพ่นออกมาจากเรียวปากอิ่มพร้อมรอยยิ้มมั่นใจดังเดิม
“ขอบใจนะจุนซู ช่วยได้เยอะเลยว่ะ”
คำตอบของคิมจุนซูก็คือ
“ไม่รู้โว้ย บอกแล้วไงว่าอยากทำอะไรก็ทำ ตามใจนาย”
สรุปแล้ว คิมแจจุงก็โดดเรียนตั้งแต่วันแรกในคราบของคิมแจจินเป็นที่เรียบร้อย
...
ความคิดเห็น