ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Mermaid & Vampire~

    ลำดับตอนที่ #2 : แรกพบสบตาก็เรียกว่ารัก +

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 60



    โคลด์วิ่งไปตามแนวไม้และด้วยความรวดเร็วของเผ่าพันธ์โดนกำเนิดเช่นเขาทำให้เห็นรอบข้างเป็นเพียงภาพพร่าเลือนเท่านั้น

     

    เขาถูกกับดัก  

     

    การรบต่อเนื่องที่เขตซาซิลทำให้ขาทั้งสองข้างเหนื่อยล้า   แล้วเขี้ยวทั้งคู่ปวดระบม   

     

    ระหว่างการเดินทางกลับเข้าอาณาเขตของตนเขาถูกล้อมรอบด้วยแวมไพร์ชั้นสอง   ที่สำคัญคือเขาเห็นตราอาณาเขตตัวเองที่ต้นแขนของพวกมัน   ไม่เพียงเท่านั้นเพวกมันยังมาพร้อมนักล่า

     

    มนุษย์บางครั้งถูกเรียกว่า 'นักล่า' คือสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒไปอีกสายจากต้นกำเนิดเดียวกันกับพวกเขา   พวกมันมีอายุสั้นแต่ออกลูกได้อย่างรวดเร็วจนน่าตระหนก  แพร่พันธ์กระจักกระจายไปทั่วทั้งสี่ทวีป   

         

    ปรกติโคล์ด โดโนแวนไม่ค่อยกลัวนักล่า 

     

    แวมไพร์โดยกำเนิดเช่นเขาไม่กลัวหอม   กระเทียม   แท่นหมุดไม้ลงน้ำมนต์   อัญมณีศักดิ์สิทธิ์  หรือกระทั่งแสงอาทิตย์   อย่างที่พวกนักล่าเข้าใจ    แต่สิ่งที่ทำให้เขาตระหนกคือการที่พวกนักล่าจับมือกับแวมไพร์ชั้นสองและมาพร้อมกับปืนไฟ

     

    แวมไพร์โดยกำเนินนั้นมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง   และความรวดเร็วยิ่งกว่าเผ่าพันธ์ใดๆจะคาดฝันถึง    กระนั้นถ้าเทียบกับลูกกระสุนจากปืนไฟ  บางตนถือว่าด้อยกว่าเล็กน้อยหรือบางตนก็อาจเหนือกว่าไม่มาก    โคลด์นั้นเป็นพวกหลัง ถ้าเพียงแต่เขาไม่ได้เพิ่งจะกลับมาจากแนวหน้าที่เขตซาซิล     

     

    เสียงปืนดังไล่หลังหลายนัดซ้อน  นัดหนึ่งฝังที่ต้นขาด้านซ้ายทำให้ร่างสูงโปร่งแทบจะทรุดลง   

     

    นีลกัดฟันยันเท้าวิ่งต่อไป   เขากำลังจะทิ้งระยะห่างกับพวกมันได้  

     

    ถ้าไปได้ไกลพอพวกมันก็ไม่สามารถตามได้ทันอีก

     

    กระสุนอีกสองนัดกระแทกเข้าที่กลางหลัง เจาะทะลุผ่านเลือดและเนื้อ  นั่นทำให้รู้ว่าเขาคิดผิด

     

    ดวงตาสีโลหิตกวาดมองด้านข้าง   ท่ามกลางเงาพร่าเลือนเขาต้องพยายามตั้งสติ    แวมไพร์ชั้นสองพวกนั้นกลับเป็นผู้ถือปืนไฟ

     

    เขี้ยวขาวเวาวับแสยะออกราวสะใจเมื่อเห็นว่ากระสุนของตัวเองเข้าเป้า

     

    โคลด์คำรามกลับ    แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์เช่นเขากลับถูกพวกชั้นต่ำทำร้ายได้

     

    แนวของต้นไม้สิ้นสุดลง  

     

    ที่ตรงหน้ากลับเป็นชายหาด   

     

    คลื่นกำลังพัดออกจากฝั่ง   

     

    เขาไร้ทางหนีแล้ว

     

    ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย   

     

    เขาตัดสินใจหันกลับไปสู้    ปืนไฟไม่ใช่อาวุธที่หน้ากลัวที่สุดเมื่อต้องเผชิญหน้าเพราะลำกล้องของมันเป็นกระบอกตรงทำให้วิถีการทำลายเป็นเส้นตรงไปด้วย    ถ้าหันกลับไปมองการหลบเป็นเรื่องที่ง่าย   

     

    แต่ไม่ใช่กับคมเขี้ยวและกงเล็บ

     

    โคลด์ถูกรุกให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ   น้ำทะเลเย็นเฉียบสูงเกือบถึงสะโพก  

     

    แวมไพร์โดยกำเนิดยังมีความเจ็บปวด   ต้นขาที่ถูกยิงเริ่มปวดสาหัสเมื่อถูกน้ำทะเลก็ทบทวีความเจ็บนั้นจนตาพร่าพร่าย

     

    หรือว่าเขาจะตายที่นี่    เพียงพริบตาที่คิดอย่างนั้น    กงเล็บคมกริบก็มาถึงตรงหน้า

     

    ดวงหน้ากระหายเลือดสะท้อนในดวงตาสีแดงสดราวทับทิมน้ำเอกของเขา

     

    ฉับพลันโคลด์รู้สึกว่ามีแรงมหาศาสดึงที่ขา    ร่างสูงโปร่งล้มหน้าคว่ำกระแทกน้ำทะเลอย่างแรง    น้ำเค็มๆทะลักเข้ามาทางปากและจมูกทำให้เขาสำลักแต่ก็ทำให้เขารอดจากคมอาวุธหมายชิวิตนั้นมาได้

     

    แรงดึงนั้นลากเขาต่อไป

     

    เขารู้สึกถึงกระแสน้ำที่ไหลผ่านร่างกายไปอย่างรวดเร็ว

     

    ลึกขึ้นและลึกขึ้น

     

    ท่ามกลางสติที่เริ่มพร่าเลือนจากแรงดันของน้ำนีลชายหนุ่มเหลือบมองด้านข้าง

     

    ที่เขาเห็นคือปลายครีบหางสีเงินและเกร็ดสีรุ้งก่อนที่เขาจะหมดสติไป

     



    เวิ้งถ้ำกว้างเพดานสูงจรดยอดหินที่งอกย้อยลงมากคล้ายหยดน้ำ    ตลอดแนวเป็นชั้นหินธรรมชาติที่งอกยื่นออกมาเป็นชั้นวางขวดแก้วบรรจุน้ำยาสีสันต่างๆมากมาก   อัญมณีหน้าตาแปลกๆ   ดอกไม้กิ่งไม้แห้ง   ปะการังที่สีดำสนิท   โครงกระดูกของปลาโบราณ   ตลอดจนสร้อยลูกปัด   แหวนเปลือกหอย    ตำราที่เย็บปกด้วยไหมเก่าๆ 

     

    ถัดเข้าไปด้านในวางด้วยเตียงหินขนาดใหญ่    ที่ของด้านล่างของเตียงประดับด้วยปะการังเรืองแสงอ่อนๆสะท้อนให้เห็นเงาร่างของร่างสูงโปร่งนอนหน้าคว่ำสิ้นสติอยู่    รอบตัวเต็มไปด้วยน้ำขุ่นคลักสีแดงช้ำของเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลสาหัสทั่วร่าง

     

    ขยะของเจ้าจะทำให้บ้านข้าสกปรกริเวียร่า เสียงแหบต่ำเอ่ยอย่างไม่สบอามรมณ์ขณะมองวงของเลือดที่กระจายออกกว้างขึ้นเรื่อยๆขณะที่มือจับไม้พายกวนของเหลวที่กำลังเดือดปุ๊ดๆในหม้อใบเล็ก

     

    หม้อนั้นเป็นสีน้ำเงินเข้ม   และเข้มจัดจนเกือบเป็นสีดำที่ก้นหม้อ   ลอยเอื่อยๆอยู่ภายในฟองอากาศขนาดใหญ่ ภายในบรรจุของเหลวสีเขียวใสที่เดือดเป็นฟองขาว    

     

    ของเหลวที่เดือดและให้ไอร้อนทั้งๆที่ไม่ได้จุดไฟคือยาสมานแผลของแม่มด    ยาราคาแพงที่รับประกันสรรพคุณดีเลิศแต่ใช้กับพวกชาวพิภพได้ไหม   แม้แต่คนปรุงเองก็ยังสงสัยอยู่

     

    ชาวน้ำทุกตนเกลียดไฟ

     

    บ้านเจ้าก็สกปรกตลอดอยู่แล้ว     แค่เพิ่มความสกปรกอีกนิดหน่อยข้าว่าเจ้าคงไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ามันสกปรกขึ้น



    เสียงที่ตอบกลับมานั้นดังมาจากด้านบนของถ้ำให้กังวาลใสเฉพาะตัวดั่งกระดิ่งแก้วระฆังเงิน

     

    ร่างเพรียวแบบบางอ้อนแอ้นของนางเงือกตนหนึ่งหมุนพลิ้วอยู่กลางสายน้ำ   เส้นผมสีเงินยวงราวแสงจันทราลอยคว้างในห้วงน้ำขับเน้นโครงหน้างดงามวิจิตรของหญิงสาวให้ดูประหนึ่งรูปปั้นที่พระเจ้าบรรจงสร้างสรรค์   ลำแขนขาวผ่อนปัดป่ายสายน้ำเล่นอย่างเหม่อลอย   ในขณะที่ปลางหางสีเหลือบรุ้งกลับแน่นิ่ง   กลับลอยคว้าง

     

    ดวงตาสีฟ้าใสราวอัญมณีแห่งท้องทะเลนั้นเหม่อลอย

     

    ริเวียร่า   ที่จริงเธอก็เหม่ออยู่ตลอดเวลา   ไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอะไร 

     

    เวลาเนิ่นนานเป็นร้อยๆปีในชีวิตของเธอแทบจะแน่นิ่งเหมือนเข็มนาฬิกาตายที่ไร้ความหมายด้วยความโดดเดี่ยว

     

    ไม่มีญาติ   ไม่มีเพื่อน   ไม่มี….ใคร




    "เจ้าไม่ควรลากเขาลงมาข้างล่างอย่างนี้" แม่มดเอ่ยระหว่างหันไปค้นหาบางอย่างจากชั้นวางของระเกะระกะที่เอียงโย้ "เจ้าเกือบฆ่าเขาตายรู้ตัวหรือเปล่า"

     
    "ข้าช่วยชีวิตเขาต่างหากล่ะ"
     
     
    แม่มดส่ายหน้าอย่างอ่อนใจการเถียงกับริเวียร่าไม่ต่างกับการเอาสำลีไปทุบก้อนเหล็กหรอก ไม่ใช่ส่าสำลีนิ่มไปหรอกนะเเต่เป็นหัวของเธอต่างหากที่แข็งเกินไป
     
     
    "ว่าแต่..." ครีบหางสีเงินพลิ้วเบาๆหนึ่งครั้งร่างเเบบบางก็มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง "สองขาตัวนี้ประหลาดจังเบรนด้า"
     
     
    "คนไม่ใช่ตัว" แม่มดแก้คำพูดที่ผิดไปนั้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด "ถ้าเขาไม่ประหลาดอย่างเจ้าว่าป่านนี้ตายตั้งแต่พริบตาแรกที่เจ้าลากเขามาลงมาแล้ว"
     
     
    "เขา...มันเรียกว่าอะไรนะ  หายใจใช่มั้ย เขาไม่หายใจเลยเบรนด้า  ข้าเคยได้ยินว่าการไม่หายใจหมายถึงตาย หรือว่าเขาตายแล้ว เบรนด้าท่านกำลังรักษาคนตายหรือ"

     
    แม่มดมไม่ตอบอีกต่อไป การปรุงยาในส่วนนี้ต้องใช้สมาธิสูงสุด  ปลายมีดคมกริบด้ามเล็กสีแดงก่ำด้วยทำจากปะการังจรดที่ปลายนิ้วของแม่มด ก่อนกดลึกเรียกโลหิตสีน้ำเงินของเผ่าพันธ์ุ  นั่นคือความแตกต่าง หยดเลือดของแม่มดค้างนิ่งอยู่ที่รอยแผล ไม่ฟุ้งกระจายในน้ำเหมือนเลือดของสองขา  เหมือนไม่ใช่น้ำ จึงไม่มีวันเข้าได้โดยสิ้นเชิงกับน้ำทะเล

     
    หรือเป็นน้ำแต่เพราะเป็นโลหิตจึงไม่อาจเข้ากันได้
     
     
    คลีบหางสีเงินทิ้งตังลงข้างเตียงศิลาก่อนที่ร่างทั้งร่างของริเวียร่าจะทอดตัวลงนอนข้างๆ มืเรียวสวยลูบไปตามกล้ามอกสีซีดของผู้ที่ไม่ได้สติ สะดุดเล็กน้อยที่บาดแผลลึก  ผิวของริเวียร่าขาวอย่างยิ่งเรื่องนั้นเธอรู้ตัวนานแล้ว ขาวยิ่งกว่าใครเป็นสีขาวเช่นเดียวกับสีของไข่มุกอย่างที่ไม่มีใครเหมือน

     
    "เขาขาวจังเนอะเบรนด้า ขาวยิ่งกว่าข้าเสียอีก"เสียงใสรำพึง
     
     
    แม่มดเงยหน้ามองเพียงหน่อยเดียวเท่านั้นและก็หมดความสนใจโดยสิ้นเชิง  ของเหลวในหม้อกำลังเดือดปุดอย่างรุนแรง แม่มดใช้ปลายมีดช้อนหยดเลือดของตัวเองขึ้นมาก่อนทิ้งมีดทั้งด้ามลงในหม้อนั้น

     
    ของเหลวในหม้อมันวนไปมาจากทวนเข็มเป็นตามเข็มสลับกันตามตำราอย่างรวดเร็วในขณะที่ลักษณะเดือดนั้นค่อยๆสงบลง  ของเหลวสีเขียวใสๆเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อนๆเหลือบแสงเป็นเงาละเลื่อม

     
    "เสร็จแล้วเหรอเบรนด้า"
     
     
    "อืม เสร็จแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่านะ"
     
     
    ของเหลวนั้นเป็นยา  ยาสมานแผลชั้นเลิศเพียงสมผัสบาดแผลบางเบา บาดแผลก็เลือนหายไปราวกับว่าที่ตรงนั้นก่อนหน้านี้ไม่ได้มีแผลยาวพอที่จะคร่าชีวิต
     

    เปลือกตาสีอ่อนของคนที่ไม่ได้สติมาตลอดกระพริบแผ่วเบาราวผีเสื้อกระพือปีก  ดวงตาสีทับทิมพลันลืมขึ้น

     
    วินาทีที่สบตานั้น. ริเวียร่ารู่้ได้ทันที เข็มนาฬิกาได้เดินเสียแล้ว
    ...


    ถ้าถามริเวียร่าว่าแรกพบกันครั้งนั้นเรียกว่าอะไร เธอจะเอื้อนวาจาพร้อมรอยยิ้มหวานราวนำ้ผึ้งรวง
    "มันคือพรหมลิขิต" 
     
    โคลด์ โดโนแวนส่ายหัวด้วยความเอือมระอาสามส่วน เอื้อเอ็นดูเสียสี่ส่วน ที่เหลือคือรอยยิ้มที่ยากจะแย้มของจอมทัพแห่งเผ่าพันธ์รัตติกาล"มันคือชะตากรรม"
     
    ริเวียร่าหัวเราะสุดเสียง"ดีนี่นา ข้าคือสิ่งที่ท่านหนีไม่พ้น"
     
    ความรักคือความงมงายกระนั้นก็ยังงดงาม บางคาบเต็มบางคาบเหว้าแหว่งขาดหายราวจันทรา ผู้กระจ่างแจ้งในสัจธรรมนี้เท่านั้นที่สามารถนั่งรินน้ำชาชมดอกไม้ จิบสุราเลิศรสชมจันทร์ได้ทุกช่วงไป แม้จะเป็นแค่ดอกไม้บางชั่วคราว จันทร์กระจ่างบนผืนน้ำก็ยังงาม
     
    โอ้เอย ความรัก บางคนเรียกพรมลิขิต บางคนเรียกชะตากรรม
     
    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×