คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : part 1
แจจุงคล้องเน็กไทค์สีฟ้าไว้กับคอก่อนหยิบเอาภาพถ่ายของแจจินที่ใส่กรอบกระดาษทำเองที่ของให้แจจินในวันเกิดตอนเด็กๆ ในกรอบนั้นมีแจจินอยู่คนเดียว ก็แน่ล่ะเพราะเขาเป็นคนถ่ายนี่นา และรูปนี่ก็ถ่ายนานแล้วหลังจากที่พ่อกับแม่เสีย
คนในรูปนั้นหน้าตาเหมือนแจจุงทุกประการที่ไม่รู้ทำไม คนที่รู้จักเด็กหนุ่มทั้งสองคนเป็นอย่างดีมักจะพูดอยู่เสมอว่า นอกจากหน้าตาที่เหมือนกันแล้วก็ไม่สิ่งใดเหมือนกันซักนิดในตัวคู่แฝดคู่นี้
แจจินเรียบร้อย น่ารัก เข้าอกเข้าใจคนอื่น ขี้อาย แต่นายมันเป็นพวกประเภท ใจร้าย ใจดำ เอาแต่ใจตัวเป็นใหญ่ ไม่เคยเห็นหัวใครมาตั้งแต่เกิด กับพ่อแม่นายเองยังเซี้ยวจะจนพวกเขาต้องกินพาราวันล่ะหลายเม็ด คิม จุนซูเพื่อนสนิทคนเดียวของแจจุงเคยค่อนขอดเข้าให้
แจจุงมีเพื่อนสนิทอยู่เพียงคนเดียวเพราะด้วยสถานะตอนนี้ที่ไม่ได้มีอันจะกินเหมือนอย่างเดิมไม่เปิดโอกาสให้เขามีเวลาคบใครจริงจัง คนที่ทำงานที่เดียวกันก็มีบ้างที่ให้ความสนิทสนมด้วยแต่ก็ไม่ได้เป็นไปในแบบเพื่อนที่สามารถแบ่งปันกันได้
เมื่อนึกถึงเพื่อนทำให้แจจุงนึกขึ้นได้ว่าแฝดของตนนั้นไม่เคยเอ่ยถึงเพื่อนคนใดที่โรงเรียนให้ฟังมาก่อนเลย
แจจุงสบตาที่ยิ้มอย่างเขินกล้องของเด็กหนุ่มหน้าใสในภาพถ่าย แจจินในรูปสวมสูทของโรงเรียนไฮสคูลชื่อดังที่ตัวเองสามารถสอบขอทุนได้เป็นผลสำเร็จ เสื้อเชิตขาวทับด้วยสูทสีเทาและไทค์สีฟ้าทำให้คนในรูปยิ่งดูเรียบร้อยมากขึ้น บวกกับแว่นกรอบดำหนาใหญ่ที่บดบังใบหน้าไปกว่าครึ่งก็ทำให้เด็กหนุ่มดูเหมือนเด็กเรียน เส้นผมสีดำสนิทราวฟ้าราตรีซอยสั้นรับโครงหน้าเรียว
แต่ใบหน้านั้นกลับพร่ามัวเมื่อหยดน้ำตาของคนมองตกกระทบ
แจจุงข่มตาลงอย่างปวดร้าว ตอนนี้เขาอยู่ในชุดเดิมของแจจิน ชุดนักเรียนไฮสคูล มือเรียวแกะรูปของแจจินออกจากกรอบก่อนพับอย่างบรรจงเก็บเข้าไว้ในกระเป๋าตังค์หนังสีซีดที่เปื่อยซะใกล้ขาด
แจจุงมองตัวเองในกระจก เขาลูปผมสีดำตัวเองอย่างใช้ความคิด ผมสีดำนี่เมื่อวานเข้าเพิ่มย้อมกลับจากสีทองสว่างของตัวเอง
ผมของแจจิน
คนมากมายเคยทักเขากับแจจินผิดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แม้แต่จุนซูยังเคยบ่น พวกนายหน้าตาเหมือนกันอย่างกะแกะแถมทำผมทรงเดียวกันอีก ถ้าไม่พูดนี่ฉันคงไม่มีวันแยกพวกนายออกจากกันได้แน่ ให้ตายเถอะ ทำอะไรซักอย่างซิแจจุง เวลาฉันเห็น คิม แจจุง มีสองคนมันทำให้ฉันกลัวนะ
ตอนนั้นแจจุงหัวเราะดังลั่น ในขณะที่แจจินแค่ยิ้มเล็กน้อยอย่างขำเพื่อนพี่ แต่วันรุ่งขึ้นแจจินก็ต้องตาโตเมื่อคนที่เป็นเหมือนอีกครึ่งของตัวเองกลับบ้านมาพร้อมผมสีบรอนซ์อ่อนไปทั้งหัว เหมือนหลอดไฟเดินได้ไม่มีผิด
แจจุงขำเบาๆเมื่อนึกถึงรอยยิ้มนั้น ทำไมนะทั้งที่หน้าเหมือนกันมากแต่รอยยิ้มของคิมแจจินกลับน่ามองกว่านัก
เพราะแจจินสะอาดอย่างไรล่ะ และเพราะเขามันสกปรก
แจจุงหยิบเอาแว่นกรอบหนาขึ้นมาสวม ความไม่พอดีของเลนส์แว่นทำเอาเขามึนหัวจนต้องเกาะเตียงไว้นิ่งๆซักพัก อยากเอาออกใจแทบขาด กระดุมนี่ก็เหมือนกันแกะออกซักเม็ดได้มั้ยเนี่ย แจจุงคิดพลางถอนใจ
ร่างบางหมุนตัวรอบกระจกอีกครั้งเพื่อตรวจดูความเรียบร้อง แล้วก็ต้องเสียใจที่ทำอย่างนั้นเพราะมันทำให้เขาเวียนหัวแทบอ๊วก
เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ที่จุนซูให้หลังจากไปเยี่ยมแจจินด้วยกันครั้งหลังสุดดังขึ้น เบอร์ที่โชว์ก็เป็นเบอร์ของคนเดียวที่เมมไว้ คิม จุนซู
“อ่ะฉันให้ ตอนนี้ไม่มีแจจินแล้ว ฉันเป็นห่วงนายอย่างน้อยเวลานายไปบ้าอยู่แถวไหนฉันจะได้ตามไปลากคอนายกลับบ้านได้ถูก” นี่คือคำที่จุนซูพูดตอนยื่นเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กให้ “แล้วนายก็ไม่ต้องทำมาเป็นเกรงใจ นี่มันเครื่องเก่าที่ฉันจะทิ้งพอดี” จุนซูพูดดักคออย่างรู้ทันก่อนที่แจจุงจะอ้าปากเสียอีก
“ว่าไง” แจจุงกรอกเสียงลงไป
“ฉันมารออยู่หน้าอพาร์ทเมนท์นายได้ชาติกว่าแล้วนะ แต่งองค์ยังไม่เสร็จเหรอไง” เสียงจุนซูแหว
“อย่ามาโกหกน่ะจุนซู คนรอใครไม่เป็นอย่างนายน่ะถ้าถึงปั๊ปก็ต้องโทรตามก่อนเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ไม่ต้องโม้ว่ารอนานเลย”
“ชิ เบื่อว่ะคนรู้ทัน”
แม้จะหยอกล้อกันเช่นเคยแต่แจจุงกับสัมผัสได้ว่าเสียงของเพื่อนนั้นอ่อนลงกว่าเดิม ราวกับจะปลอบโยน
“กำลังจะออกไปนี่แหละ รอหน่อยแล้วกัน”
“เร็วๆเลยนะ”
“แล้วใครใช้ให้นายอาสามาเป็นคนไปส่งฉันเล่า แค่ไปโรงเรียนแค่นี้ฉันมีปัญญา” แจจุงว่า รีบคว้าเอากระเป๋าเป้ กับหนังสือสองสามเล่มที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเดินลิ่วๆออกจากห้อง
แต่ก่อนจะปิดประตู ร่างบางกลับชะงักแล้วย้อนกลับเข้าไปหยิบรูปถ่ายคนแปลกหน้าที่สอดอยู่ในไดอารี่ของแจจินติดมือไปด้วย
ฉันจะต้องหาให้เจอ ต้องรู้ให้ได้ เกิดอะไรขึ้นกับนายแล้วทำไมนายถึงต้องทำเหมือนจะทิ้งฉันไป
ไดอารี่นั้นบอกอะไรมากมายแต่กลับไม่กระจ่างพอที่จะไขข้อข้องใจแห่งความปวดร้าวที่ซึมไปทุกกระแสเลือดในตัวได้ อีกทั้งหน้ากระดาษของเดือนที่แล้วจนถึงเดือนนี้นั้นยังว่างเปล่า นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจะเติมเต็มมัน
ภาพของเด็กหนุ่มสองคนในเครื่องแบบเดียวกับแจจินนั้น แจจุงสังหรณ์ใจว่าพวกเขาต้องเกี่ยวข้องด้วยแน่
ร่างบางไขกุญแจล็อคห้องพร้อมกับที่ประตูห้องข้างๆเปิดออก
ร่างของหญิงสาวสวยคนหนึ่งในชุดนอนที่เป็นแพรบางๆออกมาพร้อมกับชายหนุ่มวัยกลางคนที่ทำท่าไม่อยากผละไปจากร่างสวยที่คลอเคลียซักเท่าไหร่ เรียกรอยยิ้มที่มุกปากได้นิดหนึ่งของคนที่ยืนดูอยู่หน้าประตู
“คนนี้ถ้าจะกระเป๋าหนักนะ จับไว้ไห้แน่นๆล่ะฮีวอน” แจจุงพูด
หญิงสาวหันกลับมาขมวดคิ้วใส่ “เมื่อคืนนอนไม่พอรึเปล่าจ๊ะแจจิน อย่าพูดเหมือนพี่ชายนายอย่างนั้นสิ มันทำให้พี่รู้สึกปวดหัว”
แจจุงหัวเราะ ขนาดพี่ฮีวอนยังแยกไม่ออกแล้วใครจะแยกออกกันล่ะทีนี้
“วันนี้พี่ต้องเมาค้างแน่เลยที่รู้สึกว่าเธอทำตัวเหมือนเด็กนิสัยเสียพี่เธอนั่น พี่ขอตัวไปนอนต่อก่อนนะ ไปโรงเรียนดีๆล่ะ ตั้งใจเรียนด้วย” ฮีวอนพูดก่อนปิดประตู
แจจุงพยักหน้ารับเท่านั้น เขาต้องระวังมากกว่านี้ถ้ายังอยากรู้เหตุผลของแจจิน
รถสปอต์สีแดงเพลิงสองที่นั่งจอดรอแจจุงอยู่ที่ด้านหน้าอพาร์ทเมนท์พร้อมเจ้าของที่กำลังออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“ช้า” จุนซูร้อง
“อย่าบ่น รำคาญ” แจจุงว่า
“โห แรงอ่ะ ถ้านายยังไม่เปลี่ยนวิธีพูดนะ ควายมันยังรู้เลยว่านายกับแจจินน่ะคนละคนกัน”
“อยากตายเหรอคิม จุนซู”
“เตือนแค่นี้ทำโมโห ทำตัวเป็นเด็กขาดแคลเซียมไปได้” จุนซูบ่นกระปอดกระแปด
ความคิดเห็น