ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #Heart of Destiny#Destiny of Life#

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ความชิงชังกัดกินหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 49


    บทที่ 2 คำเตือนของโรเชสเตอร์และบัตรเชิญ

                     ไม่ว่าคำเตือนของใครก็มิอาจห้ามชายหนุ่มได้


    เช้าวันรุ่งขึ้นที่คฤหาสน์เวสต์ฟรานซ์


                 ภายในห้องหนังสือ มีชายและหญิงคู่หนึ่งกำลังสนทนากันอย่างเคร่งเครียด 


                 "ว่าไง เหตุการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง" น้ำเสียงของฝ่ายหญิงแสดงให้เห็นว่าหล่อนเป็นคนที่สูงศักดิ์และหยิ่งทะนงในตนเอง


                 "ทางนั้นมีความเคลื่อนไหวมากพอสมควร สายข่าวรายงานมาว่าบิดาและพี่ชายของเจ้าเข้าข้างกับฝ่ายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16" เสียงของผู้ชายคนนั้นตอบกลับมา


                 "เพล้ง.....!" ท่านหญิงปาแก้วไวน์ที่อยู่ในมือของตนเข้ากับฝาผนังที่ห่างออกไปไม่ไกล  แก้วไวน์เจียระไนที่สวยงามแตกออกเป็นเศษแก้วภายในพริบตา  ก่อนที่เศษแก้วนั้นจะค่อยๆร่วงกระจายลงบนพรมราคาแพงจากอินเดีย  


                 "ข้าบอกท่านพ่อแล้วว่าหากอยู่กับฝ่ายนั้น เราไม่มีทางรอดแน่ ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง" นิ้วมือที่เรียวงามของหล่อนกำเข้าจิกอุ้มมือด้วยแรงอารมณ์ 


                 ชายหนุ่มคู่สนทนาของหล่อนละสายตาจากกองแก้วเจียระไนราคาแพงที่อยู่บนพื้นมาจับจ้องใบหน้าที่สะสวยของท่านหญิงซึ่งบัดนี้แดงด้วยอารมณ์โกรธ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นว่า "สการ์เลตใจเย็นก่อน" 


                 "เรื่องนี้ยังมีทางออกแน่เจ้าอย่าเครียดไปเลย"  ชายหนุ่มเดินเข้ามากอดนาง


                 "ท่านคิดว่ายังจะมีทางออกอีกรึไงกัน  ยังไงเหตุการณ์ในครั้งนี้พระเจ้าหลุยส์ไม่มีทางที่จะรอดเป็นแน่แท้ ถึงพระองค์จะเป็นกษัตริย์ก็ตาม" น้ำเสียงของนางค่อนข้างที่จะดูถูกเล็กน้อยถึงแม้ผู้ที่นางกำลังพาดพิงเป็นถึงกษัตริย์ที่กำลังปกครองประเทศของนางก็ตาม


                 "แต่เหตุการณ์คงไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่เราคิดก็เป็นได้" ชายหนุ่มพูดออกมาเพื่อไม่ให้นางคิดมากถึงแม้ตัวเขาจะรู้ดีก็ตามว่าสถานการณ์ตอนนี้ฝรั่งเศสนับวันยิ่งเลวร้ายลงทุกที


                 "ท่านก็คอยดูสิ  เหตุการณ์จะต้องเป็นอย่างที่ข้าคาดคิดเอาไว้" ท่าหญิงยังคงยืนยันความคิดตามเดิม ซึ่งเป็นนิสัยของหล่อนและชายหนุ่มก็รู้ซึ้งดีว่านางเป็นคนเช่นนี้ ใครจะมามีความคิดขัดแย้งกับหล่อนไม่ได้  ไม่เช่นนั้นแล้ว หล่อนคงไม่มีโอกาสมายังที่นี่ ที่แองเกลียแห่งนี้  และเขาเองก็คงไม่มีโอกาสที่จะพบกับหล่อนเป็นแน่


                 "ถึงเหตุการณ์จะเป็นอย่างที่เราคิด เราก็ต้องหาทางช่วยเหลือท่านพ่อของเจ้า"  ชายหนุ่มพูดอย่างครุ่นคิด


                 "จะทำอย่างไรกันเล่า" ท่านหญิงส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ


                 "เขียนจดหมายไปบอกบิดาของท่านให้มาอยู่ซะที่นี่ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปกว่านี้ลงสิ" ชายหนุ่มเสนอความคิด แต่


                 "ท่านคิดเหรอ  ว่าท่านพ่อจะยอมมาอยู่ที่นี่" ท่านหญิงสวนมาอย่างรวดเร็ว " อย่าลืมสิ ท่านก็รู้ว่าท่านพ่อของข้าไม่ชอบที่นี่"  นางเน้นเสียงในประโยคสุดท้าย


                 "ถ้าเจ้าไม่ลองแล้วจะรู้รึสการ์เลต" ชายหนุ่มยังคงพยายามไม่ลดละ และขณะที่เขากำลังจะพูดขึ้นอีกครั้งก็มีเสียงเคาะประตูขึ้นมาเสียงก่อน ..........................


                 " นั่นใคร ?" ชายหนุ่มถามออกไป มือของเขาจับอยู่ที่ลูกบิดประตูแต่ยังไม่ได้เปิดออกไป คอยฟังคำตอบของคนข้างนอก


                 "ข้าเองค่ะ มายลอร์ด" เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ชายหนุ่มทราบว่าคนที่อยู่ด้านนอกประตูคือ หญิงสาวรับใช้นามว่า มาเรีย  สาวใช้คนสนิทของท่านหญิงนั่นเอง


                 " มีอะไรรึ มาเรีย ?" ท่านหญิงเดินมาด้านข้างชายหนุ่มก่อนจะถามสาวใช้ของตนเอง


                 "คือมีคนมาขอพบท่านหญิง" มาเรียตอบ 


                 ชายหนุ่มหันมามองท่านหญิงอีกครั้ง ก่อนที่จะเปิดประตูออกไป  ท่านหญิงเดินออกจากห้องมา หล่อนเอ่ยถามสาวใช้อีกครั้ง


                 "แล้วเจ้ารู้ไหมว่าใครที่กันที่มาขอพบข้า 


                 มาเรียส่ายหน้าเบาๆ "ขอโทษค่ะมาดมัวแซลล์  แต่ข้าไม่ทราบจริงๆ เขาไม่ยอมบอก" 


                 "เอาเถอะ ไม่เป็นไร ข้าลงไปดูเองแล้วกัน" พูดจบ หล่อนก็หันมาหาชายหนุ่ม "ท่านอยู่ข้างบนนี้แล้วกัน อย่าเพิ่งออกไปไหน" แล้วท่านหญิงก็ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็หันกลับมาอีกครั้ง "อ่อ .. แล้วก็ช่วยร่างจดหมายที่จะส่งถึงท่านพ่อให้ด้วยนะคะ" หล่อนฉีกยิ้มให้ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกมา โดยมีมาเรีย สาวใช้คนสนิทเดินตามหลังมาด้วย 


                 เมื่อเดินมาถึงทางเดินที่กำลังจะลงบันได เพื่อเข้าสู่ห้องโถงใหญ่  ท่านหญิงก็หยุดเดิน 


                 "มีอะไรรึคะ มาดมัวแซลล์" มาเรียถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นนายหญิงของตนหยุดเดิน


                 "ข้าแค่จะถามเจ้าว่า เขาคนนั้นมีลักษณะอย่างไร" ท่านหญิงเอ่ยขึ้น


                 "เอ่อ ...ชายหนุ่มคนนั้น... มีลักษณะเป็นผู้ดี ดูแล้วต้องเป็นขุนนางชั้นสูง แน่นอนเลยค่ะมาดมัวแซลล์ แต่ว่าดูเขาเป็นคนค่อนข้างเย็นชาอย่างไรก็ไม่รู้" มาเรียตอบ 


                 แค่นี้ก็พอทำให้ท่านหญิงได้ทราบแล้วว่าคนที่มาพบตนเองนั้นเป็นผู้ใด /..ถ้าข้าไม่เข้าใจผิด ต้องเป็นเขาแน่.../  ท่านหญิงยิ้มน้อยๆที่มุมปาก ก่อนที่จะเดินลงบันไดไป 






                 "สวัสดี ค่ะ มาร์คัส ไม่คิดเลยนะคะว่าจะมาหาข้าถึงที่นี่"  ท่านหญิงทักออกไป เมื่อเห็นชายหนุ่มที่มาหาตนยืนดูภาพปักที่แขวนอยู่ทางฝาผนังทางด้านหนึ่งของห้องโถง มันเป็นภาพอาชาสีขาวที่กำลังทะยานอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใส 


                 เสียงของหญิงสาวทำให้เขาหันกลับมา "สวัสดี สการ์เลต"  


                 /..นั่นไง ว่าแล้วไม่มีผิด คุณนั่นเอง......มาร์คัส แคซเซิล../ เป็นจริงดั่งท่านหญิงคาดไว้ไม่มีผิด หล่อนค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเขามายังคฤหาสน์แห่งนี้ของหล่อน เขารู้ได้อย่างไรว่าหล่อนอยู่ที่นี่


                 แต่คิดอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นถึงดยุค การสืบหาใครสักคนคงไม่ยากนัก


                 ท่านหญิงมองดูเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มอยู่ในชุดผ้าไหมสีดำ เขาผูกผ้าพันคอสีขาวที่ทำจากผ้าซาตินชั้นดีประดับลูกไม้แล้วติดเข็มกลัดทองลงบนผ้าพันคอ  ผมสีดำเงางามที่ยาวของเขาถูกรวบไว้ด้วยริบบิ้นที่ทำจากผ้าไหมเนื้อดีสีน้ำตาลที่เข้ากับสีผมของเขา ที่มือของเขาข้างขวาถือห่อผ้าสีน้ำเงินเข้มแล้วหมวกผ้าไหมสีดำของตนเอาไว้  


                 เมื่อมาร์คัสเห็นว่าเธอมองมาที่ห่อผ้าที่เขาถืออยู่ข้างตัว ท่านลอร์ดหนุ่มก็ยกขึ้นมาและยื่นให้กับเลดี้ชาวฝรั่งเศสที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา 


                 "อะไรรึคะ" ท่านหญิงเอ่ยถาม ขณะยืนมือของตนออกไปรับห่อผ้านั้น


                 "มันคือ ผ้าไหมทอด้วยมือ ปักลายด้วยดิ้นทองจากอิตาลี ข้าซื้อไว้ เห็นว่าเหมาะกับเจ้าจึงนำมาให้" 


                 "ขอบคุณค่ะ" เธอพูดแล้วพลิกห่อผ้าดูเล็กน้อยแล้วจึงยื่นให้กับมาเรีย ...มาร์คัสมองเธออย่างเกลียดชังชั่วเพียงเวลาเล็กน้อยที่นางหันไปส่งห่อผ้าให้กับสาวใช้...แล้วกำชับกับสาวใช้ว่าให้เอาไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงของเธอในห้องนอนชั้นบน แล้วให้จัดน้ำชาสำหรับมาร์คัสและตัวเธอเองที่สวนด้วย


                 "เชิญค่ะ" ท่านหญิงวาดมือไปด้านข้าง ก่อนที่จะพาชายหนุ่มไปยังสวนด้านนอกของคฤหาสน์   





                 "ท่านชอบภาพนั้นเหรอคะ" ท่านหญิงหมายถึงรูปภาพปักที่แขวนอยู่บนฝาผนังของห้องโถงที่มาร์คัสยืนดูเมื่อสักครู่นี้


                 "อืม..ก็ใช่นะ มันเป็นภาพที่งามมาก" มาร์คัสยอมรับ


                 "เหรอคะ ข้าก็ชอบนะ มันดูแล้วเป็นอิสระดี" ท่านหญิงพูดแววตาของเธอออกเศร้าๆ แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น หล่อนก็ปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้ม….แต่ถึงอย่างไรมาร์คัสก็จับสังเกตได้อยู่ดี.... 


                 "ท่านชอบขี่ม้าไหมคะ " หล่อนถามเขาเปลี่ยนเรื่องที่พูดอย่างรวดเร็ว


                 "ชอบสิ เป็นกีฬาที่ข้าชื่นชอบมาก แต่ผู้หญิงอย่างคุณคงไม่นิยมขี่ม้าหรอกจริงไหม" ท่านดยุคหนุ่มยิ้มน้อยๆที่มุมปาก


                 "ใครบอกท่านกันคะ ข้า ชอบมากทีเดียว" พูดแล้วก็นึกถึงเจ้าม้าตัวโปรดที่ฝรั่งเศส ....มาร์คัสเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ...


                 "ถ้าเช่นนั้นไว้ว่างๆ ข้าก็ขอเชิญไปขี่ม้าที่ฟาร์ม ก็แล้วกัน ยินดีไหม" มาร์คัสเอ่ยปากชวน


                 "ยินดีสิคะ"  เธอรับปาก   ขณะเดียวกันมาเรียสาวใช้ของเธอก็เข้ามาพร้อมกับถาดน้ำชาและขนมอาหารว่าง 


                 "ขอโทษค่ะท่านดยุค ท่านหญิง" หล่อนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเดินเข้ามา วางขนมและแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะรินน้ำชาลงในแก้วให้กับทั้งคู่ 


                 "เจ้าอยู่ที่นี่คนเดียวหรือ" มาร์คัสถามเธอ ขณะมองดูมาเรียรินน้ำชาลงในแก้วให้กับตน


                 "ค่ะมายลอร์ด" ท่านหญิงตอบ แต่สายตาของเธอกำลังมองไปยังหน้าต่างบานหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าต่างของห้องสมุดที่เธอคุยกับใครบางคนก่อนที่มาร์คัสจะมา และเห็นว่า ชายหนุ่มคนนั้นกำลังแง้มม่านออกมาแอบมองดูเธอและมาร์คัสในสวน 


                 โชคดีอย่างหนึ่งที่ว่า ตัวเธอเองนั้นเป็นคนนั่งทางด้านที่หันหน้าเข้าหาตัวคฤหาสน์ ไม่ใช่มาร์คัส


                 ส่วนชายหนุ่มที่อยู่บนห้องสมุด เมื่อเห็นท่านหญิงจ้องมองมาที่เขา ชายหนุ่มก็รีบปิดม่านลงทันที แล้ว เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนที่จะหลับตาลงพิงพนักเก้าอี้


                 เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยใจอย่างบอกไม่ถูก  ดยุคมาร์คัสมาทำไมที่นี่  มาร์คัสคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนนี้ รึว่าต้องการเพียงเพื่อจะหาประโยชน์จากหล่อนกันแน่......


                 และนี่ตัวเขาก็ออกไปจากห้องสมุดแห่งนี้ไม่ได้จนกว่ามาร์คัสจะกลับไป เพราะถ้ามาร์คัสมาเจอเขาอยู่ที่นี่แล้ว เรื่องคงจะจบไม่ได้ง่ายมากนัก และตัวเขาเองก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับท่านหญิงมากนัก...


                 คิดแล้วก็เหนื่อยใจ  ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง แล้วค่อยๆร่างจดหมายที่จะถึงบิดาของนาง ท่านดุ๊คเลเวลตอฟแห่งโค้ตดอร์  ให้กับท่านหญิงของเขา....





                 เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับผู้ที่อยู่ในห้องสมุด  กระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่าถูกฉีกทิ้งไม่ก็ขยำทิ้งลง บนพื้น ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาร่างมันได้ไม่ดีเหมือนเช่นเคย.....


                 แต่สำหรับชายและหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ในสวน  เวลาช่วงผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เพียงไม่นาน ก็ถึงเวลาเที่ยงเสียแล้ว 


                 "ข้าคงต้องไปก่อนแล้ว วันนี้มารบกวนเจ้านานเหลือเกิน" ท่านลอร์ดแคซเซิลพูดขึ้น พร้อมกับลุกจากเก้าอี้ทำให้ท่านหญิงต้องลุกขึ้นมาเช่นกัน 


                 "จะกลับแล้วรึคะ  ที่จริงท่านน่าจะทานอาหารกลางวันกับข้าที่นี่ก่อนนะ  แล้วท่านก็ไม่ได้มารบกวนข้าเลยด้วย" เธอบอกกับเขา อันที่จริงการมาของเขาในครั้งนี้ ทำให้ตัวเธอเองนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับชายหนุ่มขึ้นอีกมากทีเดียว  แม้ว่าในสนทนาเธอจะเป็นฝ่ายที่พูดออกมามากกว่ามาร์คัสก็ตาม


                 "ข้าเองก็อยากอยู่ทานกับเจ้า สการ์เลต แต่ข้านัดกับบรอนเต้แล้วว่าจะไปทานอาหารกลางวันด้วย คงจะเสียนัดมิได้" ชายหนุ่มตอบ แล้วก็นึกชิงชังผู้หญิงคนนี้ที่กล้าเอ่ยปากชวนผู้ชายให้อยู่ต่ออย่างไร้ยางอาย..เหมือนผู้หญิงทั่วไปในลอนดอน...ไม่ต่างกันเลย


                "ใครกันคะ  เลดี้บรอนเต้" ท่านหญิงถามเขา แต่ในใจของเธอกำลังคิดว่า หญิงสาวที่ชื่อบรอนเต้นี้ต้องเป็นคู่รักคนหนึ่ง ของมาร์คัส ดยุคหนุ่มผู้นี้แน่ หรืออาจจะเป็นคู่นอน ใครจะไปทราบ


                 "หึๆ .. บรอนเต้ คือ .... หลานสาวของข้าเอง" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ 


                 "หลานสาวของท่าน ?" ท่านหญิงเอ่ยทวนอย่างสงสัย


                 "แกค่อนข้างจะขี้งอนเสียหน่อย หากข้าไม่ไปตามนัดแล้วละก็ เห็นทีกลับไปแกจะอาละวาดเอา ขอตัวก่อนแล้วกัน" มาร์คัส พูดขึ้นพร้อมกับค้อมตัวเบาๆให้เธอ เป็นเชิงกล่าวลา 


                 "ให้ข้าไปส่งนะคะ" ท่านหญิงเอ่ยพร้อมกับเดินไปส่งเขาถึงที่รถม้า 


                 เมื่อมาถึงรถม้าของมาร์คัส ชายหนุ่มหันกับมาอีกครั้ง


                 "ลาก่อน เลดี้ที่รัก  แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า การมาพูดคุยกับเจ้าครั้งนี้ ทำให้ข้ามีความสุขมากทีเดียว" คำพูดนี้ทำให้ท่านหญิงหวั่นไหวเล็กน้อย ….ในขณะที่มาร์คัสหัวเราะเยาะในใจ


                 "เช่นกันค่ะ" ท่านหญิงตอบ 


                 ขณะที่มาร์คัสจะก้าวขึ้นไปยังรถม้าของตนนั่นเอง เขาก็ชะงัก  ก่อนที่จะหันกลับมาอีกหน แล้วยื่นซองจดหมายสีขาวนวก ประทับตราอาร์มสีแดง ให้กับท่านหญิง 


                 "ข้าอยากให้เจ้าไปกับข้า  แต่ข้าจะให้เวลาเจ้าตัดสินใจก็แล้วกัน หากเจ้าตอบรับที่จะไปกับข้าก็ช่วยส่งจดหมายให้คนของเจ้าเอาไปให้ผมที่คฤหาสน์เดลฟินีก็แล้วกัน" มาร์คัสเอ่ยขึ้น ขณะยื่นซองนั้นให้กับ ท่านหญิง แล้วจูบเบาๆ ลงบนหลังมือที่ใส่ถุงมือผ้าไหมสีขาวของเธอ ก่อนที่จะเดินขึ้นรถม้า แล้วบอกให้คนขับรถม้าของตนออกรถม้าไป



                 สการ์เลตยืนมองจนรถม้าแล่นออกไปจากอาณาบริเวณคฤหาสน์ แล้วจึงหันหลังกลับขึ้นไป...


                ในรถม้า...มาร์คัสหัวเราะกับตนเอง.....

         
                "สการ์เลต...ลูกสาวตาเฒ่าเลเวลตอฟ...ไม่แตกต่างอะไรกับพวกหญิงสาวที่จ้องจับผุ้ชายในงานเต้นรำ....เห็นแก่ลาภยศและเงินทอง...ข้าเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด" มาร์คัสพูดออกมา...ทั้งสีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความเกลียดชังสุดหัวใจ......

                                                To be continue


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×