คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 งานเต้นรำ..หญิงสาว..และความแค้น
บทที่1 งานเต้นรำ..หญิงสาว..และความแค้น
"จุดเริ่มต้นของการแก้แค้นที่ชายหนุ่มรอมานานแสนนาน"
คฤหาสน์นอร์ธเพิร์ล ของท่านลอร์ดซินแคร์ล ดยุคแห่งแองเกลีย ฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ.1788..
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่โบราณรูปทรงศิลปะสไตล์บาร็อค ตามแบบฉบับดั้งเดิมหลังใหญ่หลังนี้คราคร่ำไปด้วยชนชั้นสูงมากมายทั้งชายและหญิง ที่ล้วนแต่มีหน้าตา เงินทองและเกียรติยศทางสังคม..
ผู้คนทั้งหลายมารวมตัวกันเพื่ออวยพรให้กับท่านดยุคผู้สูงวัย...ในงานวันเกิดของตัวท่านดยุคซินแคร์ลแห่งเวลส์ซึ่งถ้านับจริงๆแล้วก็ครบ 60 ปีแล้ว
ทางด้านมุมหนึ่งของงานมีชายหนุ่มสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่ข้างโต๊ะที่ตั้งแก้วไวน์
หญิงสาวเกือบทั้งหมดต่างหันมามองทั้งคู่อย่างสนอกสนใจในรูปร่างและหน้าตาของทั้งคู่ที่หล่อเหลาปานเทพบุตรลงมาจุติบนโลกมนุษย์ก็ไม่ปาน
"เจ้าว่าไหม งานนี้มันดูเหมือนงานหาคู่มากกว่าที่จะเป็นงานอวยพรวันเกิดให้ท่านลอร์ดซินแคร์ล" ชายหนุ่มผมดำพูดขึ้นกับเพื่อนของตนเอง เมื่อมองไปทางไหนก็เห็นหญิงสาวแรกรุ่นที่แต่งตัวกันมาอย่างเต็มที่ และชายหนุ่มที่อยู่ในชุดหรูหราซึ่งมีมากมายกว่าเพื่อนพ้องรุ่นราวคราวเดียวกับดยุคซิลแคร์ลผู้ชรา
ชายหนุ่มผู้เป็นสหายไม่ได้ตอบอะไร ชายหนุ่มหยิบแก้วไวน์เจียระไนหรูจากโต๊ะก่อนจะหมุนก้านแก้วเบาๆ สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่น้ำไวน์สีม่วงแดงในแก้วอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานเต้นรำที่ไร้ซึ่งสาระ อย่างงานเลี้ยงวันเกิดนี้....ผู้คนในสังคมต่างก็รู้ว่าเขาไม่ค่อยออกงานสังคมประเภทนี้...ถ้าหากเจ้าของงานมิใช่ลอร์ดซินแคร์ ผู้เป็นบุคลหนึ่งที่เขาต้องการที่จะใกล้ชิดด้วยแล้ว..ชายหนุ่มไม่มีวันมายืนอยู่ในงานเต้นรำที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาแข่งขันเครื่องเพชรหรือชุดเสื้อผ้าอันหรูหราเป็นแน่แท้....
"อืม..." ชายหนุ่มยกแก้วไวน์ขึ้นจิบทีหนึ่ง..ท่ามกลางของหญิงสาวทั้งหลายมองอยู่
..เพราะทั้งคู่คือชายหนุ่มที่หญิงสาวต่างก็หมายปอง....ทั้งคู่เปรียบเสมือนพระอาทิตย์และดวงจันทรา....คนหนึ่งร้อนแรง อารมณ์ดี ร่าเริง เป็นบุคลิกของชายหนุ่มเจ้าสำราญโดยแท้ เขาคือ....มาร์ควิสรัสเซลล์...ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นเยือกเย็น สุขุม สง่างาม แต่เย็นชา
เขาคือ....ดยุคแคซเซิล...
"อยากรู้จริงๆว่าท่านลอร์ดซินแคร์ลสั่งไวน์จากที่ไหนของฝรั่งเศสมา ช่างเป็นไวน์ที่มีรสชาติกลมกล่อมนุ่มนวลจริงๆ" มาร์ควิสรัสเซลเป็นผู้เอ่ยขึ้น
"ขอบคุณค่ะ" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดกลับมาทันทีที่เขาพูดจบ ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนที่จะหันกลับไปมองหญิงสาว
ใบหน้าของหล่อนบ่งบอกว่าเป็นผู้หญิงที่สวยงามมากแม้นจะมีเครื่องประทินโฉมปกปิดใบหน้าที่แท้จริงอยู่ก็ตาม ผมสีทองยาวเป็นลอนสวยงามตามสมัยนิยม เธออยู่ในชุดสีน้ำเงินเข้มที่เข้ากับสีตาสีม่วงได้เป็นอย่างดี...
"เจ้าคือ...????" ลอร์ดรัสเซลล์มองหน้านางอย่างสงสัยขณะเอ่ยถาม
ส่วนผู้เป็นเพื่อนได้แต่ปรายตามองหล่อนอย่างไม่สนใจ
.
หล่อนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบเขา "สการ์เลต เลเวลตอฟ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะเมอร์ซิเออร์" หล่อนตอบเขาด้วยภาษาอังกฤษของพวกเขาด้วยสำเนียงที่ไม่ผิดเพี้ยน...คำตอบของหล่อนดึงเอาความสนใจจากลอร์ดแคซเซิลได้อย่างดี จากตอนแรกชายหนุ่มมิได้สนใจนาง ตอนนี้เขากลับมองนางอย่างพิจารณา....หญิงสาวเหลือบมองแก้วไวน์ที่อยู่ในมือของรัสเซลล์ก่อนที่จะพูดขึ้นอีกว่า
"ไวน์ที่อยู่ในมือของท่านลอร์ดก็เป็นไวน์ Pinot noirจากเบอร์กันดีในฝรั่งเศสอย่างที่ท่านพูด ทำจากผลองุ่นพันธุ์ Pinot ส่งตรงมาจากไร่ของท่านดุ๊คแห่งเบอร์กันดี ซึ่งก็คือไร่ของท่านพ่อข้าเอง" ก่อนที่จะเดินแยกออกไปจากพวกเขาสองคน
"เลเวลตอฟ
.ดุ๊คแห่งเบอร์กันดีอย่างงั้นรึ" ชายหนุ่มผมดำพึมพำเบาๆ
อำนาจและทรัพย์สินที่มีมากมายของท่านดุ๊คคนนี้ทำใครๆก็อยากใกล้ชิด....
แต่ไม่ใช่กับเขา สิ่งที่ทำให้เขาได้รู้จักท่านดุ๊คแห่งโค้ตดอร์นั้นมิใช่เงินทองหรืออำนาจ....แต่มันคือการแก้แค้น......
/.. สการ์เลต เลเวลตอฟงั้นรึ../ เขาคิดในใจเบาๆ ดวงตาสีน้ำเงินของเขาวาวโรจน์ขึ้นมาด้วยอารมณ์บางอย่างที่คุกรุ่นอยู่ภายใต้จิตสำนึกมาหลายปี.....ชื่อของนางนั้นเขาก็รู้จักเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับชื่อของผู้เป็นบิดาของนาง.....
"หึๆ ได้ยินมานานแล้วว่าเลดี้สการ์เลตบุตรสาวแห่งท่านดุ๊คเลเวลตอฟแห่งเบอร์กันดีนั้นงามนักหนาได้พบวันนี้ถือว่าเป็นบุญตาจริงๆ แต่ข้าว่านางออกจะ....เอ่อ...แตกต่างไปสักนิดหากเทียบกับกุลสตรีชาวฝรั่งเศสโดยทั่วไป เจ้าว่าไหม......" มาร์ควิสแห่งตระกูลรัสเซลล์ผู้เป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้ทันสังเกตอาการที่เปลี่ยนไปของสหายของเขา...
"ข้าก็ว่าเช่นนั้น" ชายหนุ่มตอบโดยสายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวชาวฝรั่งเศสคนนั้น แต่ในจิตใจของชายหนุ่มกำลังคิดถึงแผนการบางอย่างที่เขาวางไว้นานแล้ว..แผนการณ์ที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันจะจบลงด้วยรูปแบบไหน...
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงที่มีการเปิดให้ชาย-หญิงได้มีโอกาสเต้นรำกัน เสียงดนตรีเพราะๆจากเปียโนและไวโอลินดังขึ้นในคฤหาสน์หลังงามของท่านดยุคซินแคร์ล
ชายหนุ่มที่มาในงานเริ่มขอหญิงสาวที่ตนเองมองไว้ตั้งแต่เข้ามาในงานไปเต้นรำบนฟลอร์เต้นรำ หลังจากที่ท่านดยุคชราได้เข้ามาเปิดฟลอร์แล้วกับดัชเชสของท่าน เพียงไม่นานนักบนฟลอร์เต้นรำก็มีชายหญิงเข้าไปเต้นรำกันมากมาย รวมถึงสการ์เลตบุตรสาวของท่านดุ๊คแห่งเบอร์กันดีด้วย
การ์ดเต้นรำที่แขวนอยู่ที่ข้อมือของเธอเต็มไปด้วยรายชื่อของชายหนุ่มที่มาขอเธอเต้นรำ
ขณะที่เธอกำลังเต้นรำอยู่กับลอร์ดซินแคร์ลเจ้าของงานนั้นเอง ท่านดยุคก็ได้พูดคุยกับเธอ
"หลานไปคุยอะไรกับลอร์ดแคซเซิลและลอร์ดรัสเซลล์เหรอ"ท่านลอร์ดซินแคร์ลถามเลดี้สการ์เลต เขาและพ่อของเธอ ท่านดุ๊คแห่งเบอร์กันดีนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงตอนนี้แก่แล้วก็ยังคบหากันอยู่ กับสการ์เลตเองเขาก็เอ็นดูเธอราวกับเธอเป็นบุตรอีกคนของเขาก็ไม่ปาน
และนี่ถ้าหาท่านดุ๊คแห่งเบอร์กันดีไม่ติดงานที่จะต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แล้วละก็งานวันเกิดครบ 5 รอบของเขา เพื่อนรักอย่างท่านดุ๊คต้องมาแน่ๆ ไม่ใช่ให้บุตรสาวคนโตมาเป็นตัวแทนเช่นนี้
"ใครกันคะท่านลุง ลอร์ดแคซเซิลกับลอร์ดรัสเซลล์" หล่อนถามกลับมาอย่างสงสัย
"ก็ชายหนุ่มสองคนนั้นยังไงจ๊ะ ลอร์ดแคซเซิลกับลอร์ดรัสเซลล์" ท่านลอร์ดซินแคร์ลชี้ไปที่ชายหนุ่มทั้งสองคนยืนอยู่ข้างๆฟลอร์เต้นรำ สการ์เลตปรายตาหันไปมองทั้งคู่เล็กน้อย เห็นว่าในมือของทั้งสองมีแก้วไวน์อยู่ด้วย รอบๆพวกเขามีสาวๆห้อมล้อมอยู่
หญิงสาวเหล่านั้นต่างเข้ามารุมขอให้ทั้งคู่ออกไปเต้นรำกับตนอย่างไม่อายใคร...
"นั่นน่ะเหรอคะ ลอร์ดแคซซิลกับลอร์ดรัสเซลล์" เลดี้สการ์เลตถามย้ำ
"ใช่แล้วหลาน ลอร์ดแคซเซิลน่ะมีชื่อเต็มว่า ดยุคมาร์คัส โรเบิร์ต ริชาร์ด เรย์มอน แคซเซิล และมาร์ควิสลูเธอร์ นอร์ตัน รัสเซลล์ ทั้งคู่อยู่ในแองเกลียนี่แหละ และเป็นเพื่อนรักกันมากด้วยคบกันมาตั้งแต่เด็ก เหมือนลุงกับพ่อหนูยังไงล่ะ" ท่านลอร์ดซินแคร์ลพูดเสริม
"แต่ว่าท่านลอร์ดแคซเซิลก็น่าเชื่อหน่อยนะคะว่าเป็นถึงท่านดยุคเหมือนท่านลุงแม้จะดูหนุ่มไปหน่อยแต่ก็ดูแฝงไปด้วยความเป็นผู้ใหญ่ แต่สำหรับท่านลอร์ดรัสเซลล์นี่สิคะดูเด็กมากไปหน่อยนะคะ" สการ์เลตพูดเรียบๆ
/..เทพแห่งสงครามผู้พิทักษ์และผู้ปกครองที่มีชื่อเสียงรึ เข้าใจตั้งชื่อดีเสียงจริง มาร์คัส โรเบิร์ต ริชาร์ด เรย์มอน .../ สการ์เลตคิดในใจ
"อย่างนั้นรึแต่ทั้งคู่ก็อายุเท่ากันนะหลาน แต่ลอร์ดแคซเซิลจะแก่เดือนกว่ามั้ง หลานว่าทั้งคู่ดูต่างกันมากเลยรึ" ท่านลอร์ดถาม
"ค่ะ" เธอตอบ
มันก็เป็นความจริง เพราะว่าลอร์ดแคซเซิลนั้นดูเป็นผู้ใหญ่กว่าลอร์ดรัสเซลล์มาก และลอร์ดแคซเซิลดูเข้มขรึมมากกว่า แววตาของเขาดูเย็นชา
ท่าทางที่ไม่สนใจใครทั้งสิ้นบนโลกใบนี้ยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์....เสน่ห์แบบที่สการ์เลตมักจะเรียกมันว่าเสน่ห์แบบเถื่อนๆ
.
หัวใจเต้นโครมครามของสการ์เลตเมื่อสายตาอันคมเข้มของมาร์คัสเงยขึ้นมามองสบกับเธอพอดีในช่วงจังหวะที่ท่านดยุคซินแคร์ลพาเธอหมุนตัวโฉบไปข้างๆที่มาร์คัสและลูเธอร์ยืนอยู่....
สการ์เลตเดินเลี่ยงออกมานอกคฤหาสน์ เธอเริ่มเบื่อที่จะเต้นรำกับชายหนุ่มหลายๆคนที่มาขอเธอเต้นไม่รู้จักหยุดจักหย่อน จนทำให้เธอรู้สึกล้าข้อเท้าที่เล็กๆของเธอเอาเสียแล้ว
สการ์เลตทรุดตัวลงนั่งบนม้าหินอ่อนแกะสลักสีขาวภายในสวนดอกไม้หน้าคฤหาสน์
พลางหยิบผ้าเช็ดหน้าประดับลูกไม้ขึ้นมาซับเหงื่อบนใบหน้าของหล่อน
"หลบมาอยู่นี่น่ะเอง เลดี้สการ์เลต" เสียงทุ้มลึกที่แฝงไปด้วยอำนาจของชายผู้หนึ่งดังขึ้นข้างๆเธอ ทำให้สการ์เลตตกใจจนทำให้ผ้าเช็ดหน้าของเธอร่วงลงพื้น
"เมอร์ซิเออร์!...ท่านน่ะเอง" หญิงสาวอุทานเมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าคือท่านดยุคแคซเซิล
มาร์คัสก้มลงเก็บผ้าเช็ดหน้าที่หล่นอยู่ที่พื้น ก่อนที่จะยื่นให้กับสการ์เลต
"ขอบคุณค่ะ" เธอตอบกลับมาเป็นภาษาฝรั่งเศส
ทั้งสองจ้องหน้ากันสักพักก่อนที่เลดี้สการ์เลตจะเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน "ข้าว่าท่านพูดภาษาฝรั่งเศสได้ จริงไหมคะ เมอร์ซิเออร์"
" ใช่ ข้าพูดได้" เขาตอบเลี่ยงๆ..สายตาของเขายังคงจับจ้องมองเธออยู่...ด้วยความแสงสว่างเพียงเล็กน้อยภายในสวน...สการ์เลตจึงไม่เห็นแววตาที่เกลียดชังจากดวงตาของมาร์คัส....
การสนทนาหยุดลงเงียบไปอีกสักอึดใจ เสียงเพลงจากงานเต้นรำยังคงได้ยินอย่างแผ่วเบาในสวนแห่งนี้
ทั้งคู่ก็ยังคงมองสบตากันอยู่ก่อนที่คราวนี้มาร์คัสจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนบ้าง
"เรามาเต้นรำกันดีไหม" ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับโค้งลงเล็กน้อยให้แก่สการ์เลต
"ด้วยความยินดีค่ะเมอร์ซิเออร์" สการ์เลตพูดพร้อมกับย่อตัวลงเล็กน้อย
ทั้งคู่เริ่มเต้นรำกันในจังหวะวอล์ซช้าๆ ท่วงทำนองเข้ากับเสียงเพลงที่ดังออกมาจากตัวคฤหาสน์ของท่านลอร์ดซินแคร์ล
"แล้วนี่ทำไมถึงออกมาที่นี่ได้ล่ะคะ พวกสาวๆไม่โกรธแย่รึคะ"สการ์เลตถามหลังจากที่เริ่มเต้นรำกับลอร์ดแคซเซิลได้สักพัก
"ก็เหมือนเจ้านั่นแหละ กว่าจะฝ่าพวกนั้นออกมาได้" ลอร์ดแคซเซิลพูดพร้อมกับยกนิ้วโป้งไปทางข้างหลัง
"ข้าไม่รู้นะว่าเจ้ารู้แล้วรึยังว่า..ข้าคือ..." ไม่ทันที่ท่านดยุคหนุ่มจะพูดจบสการ์เลตก็พูดต่อขึ้นทันที
"ข้ารู้แล้วค่ะ.เมอร์ซิเออร์ ท่านคือท่านดยุคมาร์คัส โรเบิร์ต ริชาร์ด เรย์มอน แคซเซิล ดยุคแห่งแองเกลียใช่ไหมล่ะคะ" เธอพูดชื่อของเขาที่ยาวยืดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
ทำเอาท่านดยุคหนุ่มถึงกับอึ้งเล็กน้อยที่เธอสามารถจำชื่อยาวๆของเขาได้ ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำได้ ส่วนใหญ่จำเพียงแค่ว่าเขาคือ ท่านดยุคมาร์คัส แคซเซิล เท่านั้น
/
ว่าแต่นางรู้จักชื่อของเราได้อย่างไรกัน...รึว่านางจะ...../ มาร์คัสคิด
"เรียกข้าว่ามาร์คัสจะดีกว่านะเลดี้เลเวลตอฟ"สิ่งที่เขาพูดทำให้นางพอใจมากทีเดียว เพราะมันหมายถึงว่าเขาต้องการจะเป็นเพื่อนกับนาง ...หรืออาจจะเป็นยิ่งกว่าเพื่อนก็ไม่แน่เช่นกัน
.
"ถ้าเช่นนั้นท่านก็เรียกข้าว่าสการ์เลตและกันนะคะ....มาร์คัส"
มาร์คัสยืนมือไปเชยคางให้สการ์เลตให้หันมาสบตาเขา
"เจ้าสวยมากทีเดียวเลดี้ที่รัก ข้าไม่เคยเห็นใครมีความงดงามมากเช่นเจ้ามาก่อน" มาร์คัสพูดพร้อมกับเอานิ้วมือของตนไล้ไปบนริมฝีปากอันอวบอิ่มของสการ์เลตอย่างแผ่วเบา
..ใบหน้าของเธอทำให้เขานึกถึงหญิงสาวบางคน...หญิงสาวที่จากโลกนี้ไปแล้ว
เสียงระฆังดังขึ้นเพื่อบ่งบอกถึงเวลาของวันใหม่ ซึ่งเป็นเวลายุติงานรื่นเริงที่น่ายินดีของตระกูลซินแคร์ลแล้ว
"งานเลี้ยงเลิกแล้ว" สการ์เลตเอ่ยขึ้น
"ใช่งานเลี้ยงเลิกแล้ว" มาร์คัสพูดย้ำ ทั้งคู่สบตากันเนิ่นนาน เสียงผู้คนเริ่มทยอยออกมาจากงานเลี้ยงแต่ทว่าจากมุมที่มาร์คัสและสการ์เลตอยู่นี่ คงหามีใครมองเห็นทั้งคู่ไม่
เพราะทั้งคู่อยู่ในร่มเงาของต้นไม้และมีกอดอกไม้กั้นมิให้ผู้ใดมองเห็นอีกทอดหนึ่ง
"แล้วเราจะได้พบกันอีกไหม" มาร์คัสเอ่ยรำพึงรำพันเบาๆ
..
"ต้องได้พบกันแน่ค่ะเมอร์ซิเออร์ แต่ตอนนี้ ข้าคงต้องขอตัวก่อน ประเดี๋ยวคนรถจะไม่เจอ" สการ์เลตพูดพร้อมกับผละจะเดินออกไปจากสถานที่ตรงนั้น
หากแต่ถ้ามาร์คัสไม่ฉวยข้อมือของหล่อนเอาไว้ สการ์เลตคงจะได้เดินกลับไปหาคนรถของเธอแล้ว
"เจ้ายังไม่ได้บอกลาข้าเลยนะสการ์เลต" มาร์คัสทวงคำบอกลาจากเธอ
"แล้วท่านต้องการให้ข้าลาแบบไหนกันล่ะคะเมอร์ซิเออร์" สการ์เลตย้อนถาม
"แบบนี้ไง" มาร์คัสพูด แล้วดึงตัวสการ์เลตเข้าประชิดตนเองก็จะประทับริมฝีปากอุ่นๆของตนลงริมฝีปากอันอวบอิ่มของสการ์เลต
"อืออ..." เสียงของสการ์เลตที่ครางในลำคอ เมื่อดยุคหนุ่มดันลิ้นเข้ามาภายในปากของเธอ มันเป็นรสจูบที่อ่อนหวาน จูบที่โหยหาซึ่งกันและกัน มือของมาร์คัสรั้งเอวของสการ์เลตให้เข้าแนบชิดของตนมากยิ่งขึ้น ในขณะที่มือของหล่อนเองก็ลูบไล้แผ่นหลังของท่านลอร์ดหนุ่ม จนกระทั่งในที่สุดมือของหล่อนก็เลื่อนมาโอบรอบคอของเขา
"สการ์เลต...." มาร์คัสครางออกมาเมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ผละจากกัน
ทั้งคู่มองตากันก่อนที่จะมีเสียงคนร้องเรียกหาเลดี้แห่งเบอร์กันดีผู้งดงามคนนี้
"มีคนเรียกแล้ว ข้าคงจะต้องไปแล้วนะคะเมอร์ซิเออร์ ลาก่อน โอกาสหน้าพบกันใหม่นะคะ" สการ์เลตพูดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเดินไปทางที่มีเสียงคนเรียกหาตนเอง
ทิ้งให้มาร์คัสยืนดูหล่อนขึ้นรถม้ากลับคฤหาสน์ของหล่อนไป..ความกับความเกลียดชัง.....
มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอะไรเช่นนี้...ที่บุตรสาวของผู้ที่เขาเกลียดชัง....กำลังจะหลงใหลในตัวของเขา....แผนการที่เขาวางไว้มันกำลังจะเดินเข้าสู่หนทางแก้แค้นอันแสนหวาน.....
To be continue
อธิบายเพิ่มเติม
1.ในสมัยช่วงปี ค.ต.ที่ 1788 เป็นช่วงสมัยที่มีการแบ่งชนชั้น หนึ่งในชนชั้นต่างๆคือชนชั้นสูงหรือชนชั้นขุนนาง
เรียงลำดับตั้งแต่ ดยุค มาร์ควิส เอิร์ล ไวส์เคานท์ บารอน
ขยายความ :
ตำแหน่งขุนนางตามศักดินาของอังกฤษ บรรดาศักดิ์นี้ได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์ เป็นรางวัลเมื่อสร้าง
ความดีความชอบครั้งใหญ่ๆ มีการสืบต่อทางสายเลือด จากพ่อ ถึง ลูกชาย หลานชาย ลงมาตามลำดับเรื่อยๆ
จนกว่าจะไม่มีผู้สืบสกุล
ฐานะคล้ายกับเชื้อพระวงศ์ของไทยเรา (หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์) ตรงที่จะมีการใช้
คำลงท้ายตามลำดับความสำคัญ แต่ผู้สืบสกุลที่จะได้รับโอนบรรดาศักดิ์ต่อมีเพียงลูกชายคนโตหรือญาติสนิท เท่านั้น และจะได้รับก็ต่อเมื่อเจ้าของบรรดาศักดิ์คนเก่าเสียชีวิตลง
ขุนนางคนหนึ่งๆอาจมีบรรดาศักดิ์ได้หลายตำแหน่ง ภรรยาของขุนนางจะได้รับตำแหน่งในราชสำนักด้วย เช่นกัน เช่น ถ้าสามีเป็นดยุค ภรรยาจะได้รับตำแหน่ง ดัชเชส กรณีที่ขุนนางเสียชีวิต และไม่มีลูกชาย ลูกสาวคนโต จะรักษาตำแหน่งแทน จนกว่าจะมีผู้สืบทอดที่เหมาะสม
บรรดาศักดิ์ของอังกฤษเรียงตามลำดับความสูงต่ำได้ดังนี้
- Duke ดยุค (เทียบได้กับหม่อมเจ้า หรือเจ้าพระยาของไทย แต่หากเป็นในฝรั่งเศสจะเรียกว่าท่านดุ๊ค) เป็นบรรดาศักดิ์สูงสุดในสภาขุนนางซึ่งอาจจะมีหลายคนได้ แต่ดยุคนั้นจะมีไม่มากนักถ้าเทียบกับบรรดาศักดิ์อื่นๆ ตำแหน่งทางฝ่ายหญิง คือ Duchess ดัชเชส
- Marquis มาร์ควิส ตำแหน่งฝ่ายหญิงคือ Marchioness มาร์ชั่นเนส
- Earl เอิร์ล (หรือ Count เคานท์ สำหรับประเทศทางยุโรป เทียบได้กับตำแหน่ง พระยา) ฝ่ายหญิง คือ Countess เคาน์เตส
- Viscount ไวส์เคานท์ ฝ่ายหญิง คือ Viscountess ไวส์เคาน์เตส
- Baron บารอน( ฝ่ายหญิง คือ Baroness บารอนเนส) เป็นตำแหน่งต่ำสุดในสภาขุนนาง
นอกจากนี้ยังสามารถเรียกบรรดาศักดิ์ขุนนางตั้งแต่บารอนขึ้นไปอย่างย่อๆ โดยใช้คำว่า ลอร์ด
บุคคลที่ต่ำกว่าเวลาพูดกับขุนนางตั้งแต่ไวเคาน์ขึ้นไปจะต้องลงท้ายประโยคว่า My lord(มายลอร์ด) (ในดยุคอาจเรียกยัวเกรซหรือมายลอร์ดก็ได้ค่ะ)
ในขณะที่สนทนาด้วย ส่วนบารอนและตำแหน่งที่ต่ำกว่าไม่มีคำลงท้าย
ส่วนชาวฝรั่งเศสนั้นมักจะเรียกสุภาพบุรุษว่า เมอร์ซิเออร์ และสุภาพสตรีที่แต่งงานแล้วว่า มาดาม ส่วนสุภาพสตรีที่ยังไม่แต่งงานว่า มาดมัวแซลล์
2. ขุนนางส่วนใหญ่จะจัดงานขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และในงานจะมีการเต้นรำ ซึ่งเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้รู้จักกัน (เหมือนงานหาคู่อะไรประเภทเนี้ย)
3. โค้ตดอร์ในเบอร์กันดีเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส มีการขนานนามแห่งนี้ว่าเนินเขาสีทอง อยู่ทางตอนใต้ของดีชง
4.การ์ดเต้นรำ เป็นการ์ดอันเล็กๆที่หญิงสาวแขวนไว้ที่ข้อมือในงานเต้นรำ เพื่อให้ชายหนุ่มที่มาเข้าคิวขอเธอเต้นรำ จดชื่อลงไป ยิ่งมีชื่อในการ์ดมากเท่าไหร่หมายความว่าหญิงสาวคนนั้นได้รับความสนใจมาก
5. แองเกลียคือชื่อเรียกอีกชื่อของสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ซึ่งสมัยก่อนนิยมเรียกว่าแองเกลียมากกว่าอังกฤษ
ความคิดเห็น