ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารยธรรมตะวันออก ; อารยธรรมจีน ✔

    ลำดับตอนที่ #5 : อารยธรรมจีน :: อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์ ; ราชวงศ์โจว

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 54



    ราชวงศ์โจว


    สมัยโจว (ตะวันตกกับตะวันออก)

    ราชวงศ์โจวเป็นราชวงศ์ที่สามหลังจากราชวงศ์เซี่ยและราชวงศ์ซาง สถาปนาขึ้นประมาณปี 1027 ก่อนคริสต์ศักราช และถูกก๊กฉินโค่นในปี 256 ก่อนคริสต์ศักราช กินเวลานานกว่า 770 ปี   แบ่งสมัยโดยยึดการย้ายเมืองหลวงของราชวงศ์โจว  ช่วงแรกเป็น โจวตะวันตก ช่วงหลังเป็น โจวตะวันออก โจวตะวันออกยังแบ่งได้อีกเป็น สมัยชุนชิวและจั้นกั๋ว โจวตะวันตกเริ่มตั้งแต่ประมาณปี 1027 ก่อนคริสต์ศักราช สูญสิ้นลงในปี 771 ก่อนคริสต์ศักราช กินเวลาประมาณ 257 ปี กษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์โจว คือ พระเจ้าโจวอู่หวาง หลังจากได้ย้ายเมืองหลวงไปสู่เมืองเก๋า (อยู่แถบเมืองซีอันในปัจจุบัน) แล้ว ได้พาทหารพันธมิตรไปโจมตีราชวงศ์ชาง และสถาปนาราชวงศ์โจวขึ้น



    พระเจ้าโจวอู่หวาง

    เมื่อกษัตริย์องค์ที่สองโจวเฉิงหวางผู้เป็นโอรสของโจวอู่หวางขึ้นครองราชย์ เนื่องจากยังทรงพระเยาว์จึงไม่สามารถบริหารประเทศ โจวกงผู้เป็นพระปิตุลาของโจวเฉิงหวางจึงเสด็จออกว่าราชการแทน เมื่อปรับปรุงกิจการภายในเสร็จแล้ว โจวกงก็ได้พาทหารไปโจมตีภาคตะวันตกเพื่อปราบการกบฎ หลังจากนั้น โจวกงได้ใช้มาตรการสำคัญเสริมสร้างความมั่นคงต่างๆ ช่วงที่พระเจ้าโจวเฉิงหวางและพระเจ้าโจวคังหวางผู้เป็นโอรสของโจวเฉิงหวางครองราชย์ นักประวัติศาสตร์จีนเรียกกันว่า “ช่วงเจริญรุ่งเรืองยุคเฉิง-คัง

                ระบอบการเมืองของราชวงศ์โจวมีเอกลักษณ์พิเศษของตน สิ่งที่สำคัญมีระบบที่นาสาธารณะ ระบบสืบทอดอำนาจ ระบบตัวเมืองชานเมือง ระบบเซ่นไหว้และดนตรีสำหรับการเซ่นไหว้




    โจวตะวันออกแบ่งเป็น 2 สมัย

     1. สมัยชุนชิว ระหว่างปี 770-476 ก่อนคริสต์ศักราช ในสมัยนี้เมื่อเศรษฐกิจเติบโตและประชาชนมีจำนวนมากขึ้น ก๊กต่างๆ พากันต่อสู้กันอย่างรุนแรงเพื่อช่วงชิงอำนาจครองความเป็นเจ้าของจีน สภาพสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในการผลิตทางการเกษตร ได้ใช้เครื่องมือเหล็ก มีการเผยแพร่ใช้วิธีการใช้ควายไถนา การชลประทานได้รับการพัฒนา ปริมาณการผลิตพืชธัญญาหารเพิ่มพูนมากขึ้น สมัยชุนชิวเป็นช่วงระยะผ่านที่ระเบียบการเมืองในสังคมที่สืบทอดลงมาจากโบราณกาลของโจวตะวันตกเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ  ขงจื๊อ นักคิดและนักการศึกษา ผู้ยิ่งใหญ่คนแรกของจีนก็อยู่ใน ช่วงหลังของสมัยชุนชิว ขงจื๊อภายหลังจากสรุปวัฒนธรรมและความคิดในอดีตเป็นพื้นฐานแล้ว ก็ได้ประสานกับสถานการณ์สังคมที่มีความวุ่นวายในช่วงหลังของสมัยชุนชิว เสนอแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับปัญหาอภิปรัชญา ศีลธรรม สังคมและการเมืองของตนขึ้นทั้งชุด และได้สร้างสำนักขงจื๊อในสมัยโบราณขึ้น


                       ห้านักปราชญ์ในสมัยชุนซิวจั้นกว๋อ ได้แก่ เหงาจื่อ สวินจื่อ จวงจื่อ ม่อจื่อ และขงจื่อตามลำดับ

    2. สมัยจั้นกั๋ว เป็นสมัยที่ก๊กต่างๆ แบ่งแยกประเทศและแย่งชิงอำนาจครองความเป็นใหญ่จีนอีกสมัยหนึ่ง หลังจากสมัยชุนชิว ความจริงสมัยชุนชิวกับสมัยจั้นกั๋วไม่มีขอบเขตที่ชัดแจ้ง แต่ตามความเคยชินในปัจจุบัน ได้ถือเอาการที่สามก๊กแบ่งแยกก๊กจิ้นและสถาปนาเป็นก๊กเจ้า ก๊กหันและก๊กเว่ย ที่เกิดขึ้นในปี 403 ก่อนคริสต์ศักราช เป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นสมัยจั้นกั๋ว ตั้งแต่นั้นไปจนถึงปี 221 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อก๊กฉินรวมจีนเป็นเอกภาพ ระยะเวลาดังกล่าวเรียกว่า สมัยจั้นกั๋ว  ในสมัยจั้นกั๋ว สถานการณ์ของจีนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงก๊กขนาดเล็กต่างๆ ถูกก๊กใหญ่กลืนกิน 7 ก๊กที่เหลือได้แก่ ฉิน ฉู่ เอียน หาน เจ้า เว่ย และฉี กลายเป็นก๊กสำคัญในสมัยจั้นกั๋ว ก๊กต่างๆ พากันปรับปรุงกฎหมาย ในจำนวนนี้การปฏิรูประบบทางการเมืองซางเอียง ได้ดำเนินการอย่างถึงที่สุดและได้ส่งอิทธิพลมากที่สุด

               ใน สมัยจั้นกั๋ว แม้มีการปะทะกันไม่ขาดสาย แต่กไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาวัฒนธรรมสมัยโบราณของจีนนัก สังคมจีนมีชนชั้นปัญญาชนซึ่งเป็นชนชั้นใหม่ปรากฏขึ้น พวกนี้มีความรู้วิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะของชนชั้นนี้ การเคลื่อนไหวของพวกนี้ได้ผลักด้นให้วัฒนธรรมทางวิชาการมีความเจริญ รุ่งเรือง ในสมัยชุนชิว วัฒนธรรมทางความคิดสมัยโบราณของจีน บรรลุจุดสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน ในจำนวนนี้ แนวคิดและทฤษฎีต่างๆ เช่น สำนักขงจื๊อที่มีขงจื๊อและเมิ่งจื่อเป็นตัวแทน ลัทธิเต๋าที่มีเหลาจื๊อ จวงจื๊อและเลี่ยจื่อเป็นตัวแทน วิชากฎหมายที่มีหันเฟยเป็นตัวแทน และสำนักม่อจื๊อที่มีม่อจื๊อเป็นตัวแทน เป็นต้น ต่างได้รับการยกย่องจากคนในยุคหลัง การปรากฏขึ้นของสำนักวิชาเหล่านี้ทำให้วงการความคิดในสมัยจั้นกั๋วเกิดสภาพ “ร้อยสำนักประชันกัน ขึ้น

     

    ม่อจื๊อและขงจื๊อตามลำดับ

              แนวคิดและทฤษฎีเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีบทบาทส่งเสริมต่อการเมืองและเศรษฐกิจในสมัยจั้นกั๋วเท่านั้น หากยังมีอิทธิพลยาวนานและลึกซึ้งจนกระทั่งปัจจุบัน และเป็นผลงานที่ไม่อาจลบล้างได้ในประวัติศาสตร์ความคิดของจีน ปี 230 คริสต์ศักราช เจ้าก๊กฉินอิ๋งเจิ้งได้เริ่มกระบวนการรวมจีนให้เป็นเอกภาพ ในช่วงเวลา 9 ปีหลังจากนี้ ก๊กฉินผนวกเอา 6 ก๊ก อื่นทั้งหมด รวมจีนเป็นเอกภาพได้ในปี 221 ก่อนคริสต์ศักราช สภาพแบ่งแยกเป็นก๊กเป็นเหล่าที่ยืดเยื้อมานานประมาณ 600 ปีของจีนก็ได้สิ้นสุดลง


    อารยธรรมสมัยราชวงศ์โจว

    แนวความคิดด้านการปกครอง เชื่อเรื่องกษัตริย์เป็น โอรสแห่งสวรรค์” สวรรค์มอบอำนาจให้มาปกครองมนุษย์ เรียกว่า “อาณัติแห่งสวรรค์”

    เริ่มเต้นยุคศักดินาของจีน

    เกิดลัทธิขงจื๊อ ที่มีแนวทาง

                            - เป็นแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม

                            - เน้นความสัมพันธ์และการทำหน้าที่ของผู้คนในสังคมระหว่างจักรพรรดิกับราษฎร บิดากับบุตร พี่ชายกับน้องชาย สามีกับภรรยา เพื่อนกับเพื่อน

                            - เน้นความกตัญญู เคารพผู้อาวุโส ให้ความสำคัญกับครอบครัว

                            - เน้นความสำคัญของการศึกษา

    เกิดลัทธิเต๋า โดยเล่าจื๊อ ที่มีแนวทาง

                - เน้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีระเบียบแบบแผนพิธีรีตองใดใด

                - เน้นการปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ

                - ลัทธินี้มีอิทธิพลต่อศิลปิน กวี และจิตกรจีน

    คำสอนทั้งสองลัทธิเป็นที่พึ่งพาทางใจของผู้คน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×