คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความเป็นไป
ม้านั่งใต้ซุ้มการเวกประกอบด้วยชายหนุ่ม หญิงสาวรวมห้าคน สองในสามคือวารวีกับชนะ และเพื่อนร่วมสาขาวิชาอีกสามคน
“ อีกสองอาทิตย์ก็สอบแล้ว” เอกวัตร ชายหนุ่มหุ่นล่ำ ร่างสันทัด ผิวสองสี ซึ่งนั่งตรงข้ามวารวี เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกังวล
“กังวลอะไร เอก เรียนมาทั้งเทอม แค่สอบไฟนอล” ชนะ ซึ่งบนพนักพิงบนม้านั่งเดียวกับวารวีล้อเพื่อนหนุ่ม
“อ้าว สมองอย่างแก อย่างไอ้วา ไม่มีอะไรต้องกังวลนี่” โกศล หนุ่มร่างแห้ง ซึ่งนั่งข้างเอกวัตรเอ่ยเสียงขึ้นจมูก
“ช่ายๆๆ” เอกวัตรพยักหน้ารับรองคำเพื่อน
“อะไร เกี่ยวอะไรกะ วา ด้วยละ” วารวีทำตาโตค้าน
“ไม่เกี่ยวไม่ได้หรอก เพราะไอ้นะพูดก็เหมือนแกพูดนั่นแหละ วา” เอกวัตรพูดพลางหัวเราะ พลอยให้คนอื่นอมยิ้ม ตามไปด้วย
“เฮ้ย! พูดงี้ได้ไง พี่นะเค้าเป็นผู้ชาย เค้าเสียหายนะ” วารวีส่งมุขตาม
“ไม่เป็นไร วา พี่ไม่ถือ” ชนะว่ายิ้มๆ
“แหม รักกั๊น รักกันนะคะ คู่นี้” จิราภา สาวหุ่นนางแบบซึ่งเงียบฟังอยู่นานเอ่ยขึ้นบ้าง
“ก็แน่ล่ะ สมัยนี้คนไทยต้องรักกัน” วารวีเฉไฉ
“ว่าแต่ เย็นนี้ไปกินข้าวที่ข้างหอข้า ดีไหม นะ โก” เอกวัตรเอ่ยชวนสองเพื่อนชาย
“ขอตัวนะ เอก มีนัดแล้วน่ะ” ชนะออกตัว
“อ้าว เหรอ แล้วแกล่ะ” หันไปถามโกศล
“ไว้คราวหน้าเหอะว่ะ” โกศลพลอยปฏิเสธไปด้วย
“เออๆ งั้นแยกกันตรงนี้แหละ เพื่อน ขอไปหาสาวก่อนแล้วกัน” เอกวัตรลุกขึ้น
“เออ ไปด้วย”โกศลลุกตาม
“ไปธุระ ไม่ได้ไปหาสาวกับแกหรอก” โกศลรีบบอก เมื่อเอกวัตรหันมามองหน้า
“อ้าว งั้นจีไปด้วยสิ โก” จิราภาลุกขึ้นตาม
“อ๊ะ งั้นเจอกัน พรุ่งนี้ นะ วา” โกศลเอ่ย
“อ้าว ไปพร้อมกันหมด” วารวีพ้อ สองหนุ่มหนึ่งสาวเดินห่างออกไป วารวีเงยหน้ามองชนะยิ้มๆ
“มีนัดสาวเหรอคะ พี่นะ”
“อื้ม อยากนัดสาวน้อยหน้าใส ไม่รู้เค้าจะว่างรึเปล่าน้า” ชนะก้มลงมอง ส่งสายตาเป็นนัย วารวีหลบสายตาชายหนุ่ม
“ใครน้อ สาวผู้โชคร้าย”
ชนะหัวเราะ
“นั่นสิ เค้าจะยอมโชคร้าย ไปดูหนังกับพี่สักวันมั้ยนี่ ทั้งที่ชวนมานักต่อนัก คนอะไรใจแข็งชะมัด” ชนะลุกขึ้นเปลี่ยนไปนั่งบนโต๊ะ แขนข้างหนึ่งเท้าโต๊ะ มองวารวีตรงๆ
“นะ วา ไปดูหนังกัน” คราวนี้ชนะเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจัง วารวีเงยหน้ามองชายหนุ่มอีกครั้ง
“คะ ไปก็ไป” หญิงสาวเอ่ยในที่สุด
“ไชโย” ชนะชูสองแขนขึ้น ราวกับเด็กได้รางวัล
“งั้นไปกันเลยครับ คุณผู้หญิง” ชนะลุกขึ้น ผายมือ แล้วสองหนุ่มสาวก็มุ่งหน้าไปยังลานจอดรถของนักศึกษาด้านหลังคณะ
....................................
“ใกล้สอบแล้วสิ ตายะ” นายกริช เงยหน้ามองลูกติดภรรยา ที่เปิดประตูเข้าห้องหนังสือแล้วชะงักเมื่อเห็นบิดาเลี้ยงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน
“ครับ”เด็กหนุ่มตอบ นานๆเขากับบิดาเลี้ยงจะได้มีเวลาสนทนากัน
“เพลาๆเรื่องนั้นลงบ้างสิ พลาดมามันจะลำบากนะ ยังไงก็คิดถึงใจแม่เขาบ้าง ถ้าเขารู้” นายกริชเอ่ยเบาๆ แต่น้ำเสียงจริงจัง ปิติยะ วางกระเป๋าบนชั้น เดินไปทางประตูเข้าสู่ครัว
“ยังไงมันก็เป็นเรื่องผม คุณไม่ต้องยุ่งหรอก” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงกระด้าง พาร่างลับหายจากห้องไป นายกริชถอนใจ เขาไม่อยากมีปัญหากับลูกเลี้ยง แม้เขาจะมีท่าทีกับปิติยะยังไง เด็กหนุ่มก็มีท่าทางต่อต้านเขามาตลอด ไม่ได้มาในแบบก้าวร้าวรุนแรง แต่เหมือนคลื่นใต้น้ำ
.......................................
“แล้ววิชาอื่นๆ ไม่ติวเหรอ” วารวีเอ่ยถามปิติยะ ที่นั่งคิดหาคำตอบโจทย์ที่วารวีให้
“ติวมาพอแล้ว” ปิติยะพูดโดยไม่เงยหน้า
“วิชานี้ ตกเหรอ” วารวีถามยิ้มๆ
“เปล่า ขี้เกียจเรียน” ปิติยะว่า พลางวางดินสอ
“เอ้า เสร็จแล้ว”
วารวีรับมาดู ก็ไม่ได้ผิดสักข้อ เรียนรู้ก็เร็ว สงสัยที่โรงเรียนจะทำตัวขี้เกียจแหงๆ
“อีกเดือนก็สอบแล้วนี่” วารวีวางกระดาษลง
“ใช่” ปิติยะเอนหลังพิงเก้าอี้ จับตามองวารวีนิ่งๆ
“จะลงคณะอะไรล่ะ” วารวีหยิบหนังสือ จัดเก็บ
“คิดว่า อาจเป็นคณะวิทย์ ฮึๆ” หัวเราะอย่างมีเลศนัย
“งั้นเหรอ” วารวีเงยหน้ามองเด็กหนุ่ม พลางอมยิ้ม ปิติยะขึงตาใส่รอยยิ้มนั้น
“แต่..มาคิดอีกที ก็ไม่ดีกว่า ค่อยคิดตอนผลแอดมิชชันออกอีกที” ปิติยะลุกขึ้น ดึงกระเป๋าจากมือวารวี แล้วลากหญิงสาวลุกขึ้น
“ไปซ้อมกันหน่อยดีกว่านะ”
“เอ้ยย ..” วารวีสะบัดมือ
“จะกลับ ชั้นก็สอบแล้วเหมือนกัน” วารวีหมุนตัวกลับไปคว้ากระเป๋า พอดีกับเสียงกริ่งประตูดังขึ้น
.....................................
“อ้าว นึกว่าใคร เข้ามา ไอ้อบ ไอ้สัน” ปิติยะ เอ่ยทักเพื่อนที่พาเหรดเข้ามาในบ้าน
“เออวะ” สองเพื่อนพยักเพยิดกับปิติยะ แต่สายตาจับจ้องที่วารวี พลางส่งสายตาเป็นคำถามมาที่ปิติยะ
“อ้อ วา น่ะ มาติววิทย์ให้ เพื่อนๆผมนะ วา ไอ้เตี้ยหน้าปลาดุกนี่ ไอ้อบ ส่วนไอ้เก้งก้างนั่นนะ ไอ้ส้น เอ้ย สัน” ปิติยะแนะนำทั้งสองฝ่าย ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างมีสีหน้าไม่ค่อยสบายกับคำบรรยายประกอบนัก
“หวัดดีจ้ะ น้องๆ พี่กลับก่อนนะจ๊ะ” วารวียิ้มทักทายตามมารยาท
“ครับ หวัดดีครับ พี่สาวคนสวย” คนที่ปิติยะบอกว่าชื่ออบพูด
“ดี เช่นกันคับ” อีกคนพูดตาม วารวียิ้มส่งทาย เดินเลี่ยงออกมา
“กินอะไรรอไปก่อนนะ” ปิติยะ รีบแจ้นตามวารวี ปล่อยเพื่อนสองคนนั่งอ้าปาก เอ่ยอะไรไม่ทัน
ความคิดเห็น