ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขยับรัก..ให้ลงล็อค

    ลำดับตอนที่ #1 : แรกพบ

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 51


    วา รอพี่เดี๋ยว   เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้สาวในชุดนักศึกษาชะงักเท้าที่กำลังเดินออกจากตึกวิทยาศาสตร์ หันหลับเข้าไปในอาคารใหม่ พร้อมรอยยิ้มให้หญิงสาวรุ่นพี่ผิวคล้ำ ซึ่งสวมแว่น

    หนาเตอะ ที่กำลังเดินเข้ามาหา

    หวัดดีค่ะ พี่ก้อย วารวียกมือไหว้สาวรุ่นพี่ ซึ่งเป็นพี่รหัสอย่างยิ้มแย้ม กรุณาหรือพี่ก้อยของวารวียิ้มรับ พลางพาน้องรหัสออกเดินออกเดินจากตึก

    วาพอว่างไหม เสาร์-อาทิตย์ กรุณาเอ่ยถามน้องสาวทันทีที่ก้าวเท้าออกเดิน

    มีไรเหรอคะ พี่ วารวีเอียงคอมาถาม

    อยากให้ไปสอนพิเศษ เด็ก ม. 6 เตรียมสอบเข้า มหาลัยน่ะ เป็นหลานพี่เอง แม่เค้าให้ช่วยหาคนติวให้น่ะกรุณาอธิบาย พลางเดินนำเข้าไปนั่งที่ม้านั่ง ใต้ซุ้มการเวกซึ่งอยู่ด้านข้างของคณะ วารวีทรุดนั่งตาม

    ก็ว่างอยู่หรอกค่ะ พี่ แต่ไม่รู้วา จะทำได้ไหมน่ะสิคะ วารวีแสดงท่าทางกังวลใจ กรุณายิ้มอย่างรู้ทัน

    แหม ยัยวา ถ้าแกไม่ไหว ในคณะจะมีใครไหวไหมละ เดี๋ยว พี่บอก รศ. ยึดเอแกคืน ดีมั้ยเนี่ย

    วารวียิ้มแหยๆ ให้พี่รหัส

    พี่ก็ เรียนกะทำงานจริงเหมือนกันที่ไหนล่ะคะ

    เอาน่า เอาเป็นว่า ทำละกัน วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ บ่ายสองถึงสี่โมงเย็น เพราะหลังจากนั้น เจ้ายะ มันก็จะไปเตะบอล อ้อ บ้าน ตริยาวิทย์ ซอยเอื้อกุล 11 นะ วา พี่คงไม่ได้พาไป เพราะอาทิตย์หน้า พี่ออกค่ายน่ะ

    อ้าว แล้วกัน ไม่พาไป แล้ว วา จะไปบอกเค้าไงถูกคะ วารวีค้านเสียงอ่อย

    พี่จะโทรบอก เค้าแล้วกันน่า ว่ามีคนสอนแล้ว ตกลงตามนี้ บ้านสุดซอย ด้านซ้ายมือนะ  พี่ไปล่ะ นัดพี่เอ๋ไว้ ไปสายเดี๋ยวแกด่า  พี่รหัสของวารวีพูดพลางลุกขึ้น

    อ้อ ยังไงจะเริ่มจากเรื่องอะไร ก็ไปคุยกันเองนะ กรุณาเอ่ยทิ้งท้าย

    ค่ะ โชคดีค่ะ พี่ วารวีมองตามพี่รหัส แล้วทำหน้ามุ่ย ในใจคิดถึงวันพักผ่อนที่หายไปวันละสองชั่วโมง แล้วแถมยังต้องมาเตรียมอะไรต่ออะไรอีกนะ ในการสอนพิเศษเนี่ย แล้วนักเรียนเป็นไงก็ไม่รู้ วารวีมองนาฬิกาข้อมือ อีกสิบห้านาทีเรียนวิชาแรกของวันนี้ ป่านนี้เพื่อนคงไปรอกันเต็มห้อง วารวีมาแต่เช้า เพื่อแวะเซ็ตแล็ปของเมื่อวาน แต่ก็ยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจนัก กะว่าเรียนตอนบ่ายเสร็จจะชวนชนะ ซึ่งเป็นคู่หูแล็ปดิจิตอลมาเซ็ตใหม่อีกรอบ

     

    ..................................................................

     

    ตัวนี้มันต่อกับตัวนี้นี่ พี่นะ วารวีชี้วงจรในภาพให้ชนะดู

    อ้าว เหรอ ชนะดึงไอซีที่ต่อผิดออก พลางพิจารณาวงจรใหม่ วารวีเรียกชนะว่าพี่นะ เพราะชนะเป็นพี่ถึงสองปี วารวีเรียนเร็วกว่าอายุหนึ่งปี ในขณะที่ชนะพลาดเอ็นทรานซ์ไปหนึ่งปี

    เฮ้อ แล็ปนี้ ทำไมมันยากจังวะ เดี๋ยวพี่ไปกินน้ำก่อนนะ เอาไรมั้ย วา ชนะวางไอซีและคู่มือแล็ปลง เงยถามวารวีที่ดูวงจรอยู่

    กล้วยหอมปั่น วารวีบอกโดยไม่เงยหน้าจากคู่มือ ชนะอมยิ้ม คิดในใจว่าไม่น่าถามเลย เพราะคำตอบก็เป็นแบบนี้ทุกที ชายหนุ่มเปิดประตูเดินออกจากห้องแล็ป สัมผัสอากาศอบอ้าวข้างนอก คิดถึงคู่หูที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ในห้อง เขาจับคู่วารวีไม่ใช่เพราะหญิงสาวตัวเล็ก เอวบางร่างน้อยคนนี้เป็นสาวเรียนดีที่สุดในคณะ แต่มีอะไรมากกว่านั้น วารวีมีอะไรที่สะดุดตาตั้งแต่วันแรกที่พบกัน หน้าใสๆกับตาสวยๆ ยิ้มได้คู่นั้น ทำให้เขาอยากรู้จักให้มากกว่าที่เป็นเพื่อนในห้องเรียนเดียวกัน แล้วเขาก็เพิ่งมีโอกาสได้ใกล้หญิงสาวที่สุดในปีนี้  ชนะรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น มุ่งหน้าไปยังร้านขายผลไม้ และน้ำสารพันชนิด

     

    .........................................

     

    ฮัลโหล  ว่าไง ก้อย หาครูสอนพิเศษให้เจ้ายะ ได้แล้วเหรอ  ปราณี เอ่ยถามน้องสาวซึ่งโทรเข้ามา

    อื้ม เป็นรุ่นน้องก้อยเองแหละ เสียงปลายสายตอบมา

    เหรอ ผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะ ปราณีวางมือจากเครื่องคิดเงิน  มองลูกค้าที่เดินเลือกสินค้าภายในร้าน ร้านมินิมาร์ทนี้เปิดมานาน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักในละแวกนี้ทั้งนั้น

    ผู้หญิง เก่งที่สุดในคณะแล้วล่ะ คนนี้ กรุณาอวดสรรพคุณ

    เออๆ ดีแล้ว เริ่มงานเสาร์นี้เลยใช่มั้ย ก้อย ปราณีถามคู่สนทนา

    ใช่ ก้อยบอกเค้าแล้วทุกอย่าง คงไม่ต้องกังวล

    จ้ะ ดีแล้ว หวังว่า เจ้ายะ มันจะไม่พยศนะ ปราณีพูดเจือหัวเราะ เพราะรู้ว่าลูกชายเบื่อเรียนพิเศษขนาดไหน

    คงไม่หรอกมั้ง เปลี่ยนบรรยากาศจากโรงเรียนกวดวิชา มาเป็นคนน่ารักๆมั่ง เผลอๆจะยิ่งชอบใจนะสิ ก้อยว่า  

    จ้ะ ขอบใจมากนะ ทีเป็นธุระให้

    ไม่เป็นไรนี่ ยังไงก็ฝากวาด้วยนะ พี่ณี  เป็นน้องรหัสก้อยเอง ชื่อวารวี

    จ้ะ ชื่อเพราะจริงปราณีเอ่ย

    ค่ะ ชื่อก็เพราะ คนก็น่ารักค่ะ  แค่นี้ก่อนนะ พี่ณี ก้อยขอตัวเข้าชมรมก่อนค่ะ

    จ้ะ ปลายสายกดวาง  ปราณีหันไปมองลูกค้าอีกครั้ง พลางมองไปที่เด็กในร้านสองคนที่กำลังจัดชั้นสินค้าอยู่  เห็นว่าเด็กไม่ว่าง จึงเดินไปหาลูกค้าที่ยืนหันซ้ายแลขวา เก้ๆกังๆอยู่เอง

     

    ..............................

     

    เย้ เสร็จซะที วารวีปรบมือ แล้วคว้าถ้วยน้ำปั่นมาดูดอย่างชื่นอกชื่นใจ ชนะอมยิ้ม

    เอ้า เอาไปจัดการต่อซะให้เรียบร้อย ชายหนุ่มวางเปเปอร์ทั้งหมดที่จดไว้ตรงหน้าวารวี

    อ้าว อีกแล้ว พี่นะ วารวีค้อนไม่จริงจัง

    อย่าบ่น พี่เลี้ยงน้ำแล้วนี่ ชนะว่ายิ้มๆ

    รึ จะให้เลี้ยงหนังอีกซักรอบ ก็ยังไหวนะ ชายหนุ่มว่าต่อ

    ฮึ ไปกะแฟนพี่เหอะ ดูหนังน่ะ วาไม่อยากโดนข้อหามือที่สาม วารวีว่า พลางเก็บกวาดเอกสารมาเรียงให้เป็นระเบียบ ในขณะที่ชนะเริ่มเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ

    หือ แฟนใครที่ไหน พูดดีๆ พี่มีใครที่ไหน รอวาอยู่คนเดียว  ชนะยังพูดแหย่วารวีต่อ

    อย่าเลยพี่นะ ทำเป็นซ่อนไว้นะ อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้นะคะ วารวียังไม่ลดละ

    เฮ้ย พี่ไม่มีจริงๆ วาอย่าหาเรื่องสิ ก็บอกว่าพี่รอวาคนเดียว ชนะยกกล่องเครื่องมือขึ้น แล้วมองหน้าวารวียิ้มๆ

    อย่าเลย พี่นะ วารวีค้อนวงใหญ่

    แหม หย่าๆ อยู่นั่นแหละ ยังไม่ได้แต่งกันซะหน่อย แล้วถึงแต่งพี่ก็ไม่ยอมให้หย่าหรอกนะ วา ชนะว่า พลางเอากล่องเครื่องมือเข้าเก็บในตู้

    ฮึ พี่นะ ไม่ต้องมาทำเล่นคำเลย เสร็จแล้วใช่ไหมคะ งั้นไปกันเถอะคะ วาหิว วารวีเดินนำออกจากห้องโดยไม่รอคำตอบ ชนะเอี้ยวคอมองตามร่างบางด้วยรอยยิ้มละไม

     

    .............................

     

    วารวีสูดลมหายใจเข้าปอด เมื่อมายืนอยู่หน้าบ้านที่ต้องมาสอนพิเศษวันแรก เหนื่อยเหมือนกันแฮะ เดินมาถึงนี่ คงกว่ากิโลแน่เลย

    บ้านหลังเบ้อเร้อแฮะ  วารวีคิดในใจ ก็บ้านเศรษฐีนี่นะ คิดถึงเมื่อวานที่หญิงสาวไปพบคุณปราณีที่เป็นมารดาของปิติยะ เด็กที่วารวีต้องมาสอนพิเศษ ที่มินิมาร์ททันสมัยไม่ไกลจากที่นี่นัก คุณปราณีบอกว่า ลูกชายค่อนข้างเอาแต่ใจหน่อย แต่ถ้าจับจุดได้ก็ไม่มีอะไรมาก มีอะไรก็ให้โทรบอก เนื่องจากว่าเธอและสามีต้องไปธุระต่างจังหวัดสามวัน และปิติยะก็เป็นลูกชายคนเดียว มีแค่คนสวนคือลุงชมกับป้าแจ่มแม่ครัวศรีภรรยาและลูกชายที่เรียนนายสิบคนนึงอยู่บ้านด้วยเท่านั้น

    วารวีสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง ก็แค่เด็กนักเรียนคนนึงน่า พลางกดกริ่ง

    นานจังวารวีคิด หญิงสาวยืนชะเง้อมองหาคนมาประตู

    รึไม่มีใครอยู่ วารวีคิด พลางหันหลังให้ประตู

    ตุ้บ!!!

    เสียงเหมือนอะไรกระทบผนังทำให้วารวีหันขวับมาดู  เด็กหนุ่มคนนึงหน้าตาคมสันยืนอยู่ตรงนั้น

    ตัวสูงจัง วารวีคิด พลางยิ้มให้

    คงเป็นลูกลุงชม ป้าแจ่ม วารวีคิด เพราะเห็นตัดผมสั้นเกรียน

    ประตูเลื่อนเปิดออก

    เข้ามาสิ เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงห้าวหนัก ในขณะที่เจ้าตัวเดินไปเก็บลูกฟุตบอลที่ตกอยู่ข้างกำแพงประตู  พลางเดินนำเข้าบ้าน วารวี ยักไหล่ เดินตาม

     ห้องนี้แหละ  หิวน้ำก็นั่น ทางนั้น ครัว เด็กหนุ่มชี้ประตูด้านข้างห้อง

    เดี๋ยวมา ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็เดินออกจากห้องไป วารวีหันมองตาม

    คงไปตามปิติยะ ว่าครูมาแล้ว วารวีคิด พลางมองรอบห้องที่จัดเป็นกึ่งห้องทำงาน มีชั้นหนังสือมากมาย และหนังสือก็ถูกจัดแยกหมวดหมู่เป็นระเบียบเรียบร้อย หญิงสาวมองโต๊ะที่มีหนังสือกองสุมๆอยู่

    ที่ไม่มีเป็นระเบียบก็มีบนโต๊ะ นี่แหละมั้งวารวีเดินไปนั่ง พลางหยิบหนังสือและเอกสารออกจากกระเป๋า

     

    ……………………………

     

    ‘ครูไรวะ หน้ายังกะเด็ก ม. ปลาย จะสอนอะไรได้ไหมวะเนี่ยเด็กหนุ่มคิด ขณะวางลูกฟุตบอลในกล่อง แล้วเดินทะลุเข้าห้องครัว

    ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่  วารวีหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนกอดอกพิงประตูครัวอยู่

    ยิ่งดูยิ่งหน้าตาดีแฮะ มาดนี่เป็นดารา นักร้อง สาวคงติดตรึม วารวียิ้มให้

    วารวีจ้ะ เรียก พี่วาก็ได้ค่ะ

    แล้วอายุเท่าไหร่  เด็กหนุ่มถามคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ

    เอ่อ ยี่สิบจ้ะ วารวีหันมองประตูอีกบาน

    ช้าจริง วารวีคิด

    น้องอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอคะ วารวีถามฆ่าเวลารอคนเรียน

    ก็..สักสิบปีเด็กหนุ่มพูดพลางเดินมานั่งลงตรงข้าม วารวีเริ่มเอะใจ

    เอ่อ น้องปิติยะเหรอคะ  น้ำเสียงไม่ค่อยแน่ใจนัก เด็กหนุ่มอมยิ้ม

    ครับผม ผมปิติยะ ตริยาวิทย์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ... ครูวา ปิติยะทอดน้ำเสียงล้อเลียนในตอนท้าย พลางยื่นมือออกมาข้างหน้า วารวีมองมือเรียวสะอาดแล้วเงยหน้ามอง สบตาคู่คมที่มีแววท้าทายอยู่ในที ก่อนจะเอื้อมมือออกจับมือนั้น

    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ น้องยะ 

                                               ...........................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×