ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fake Friend ใครเพื่อนคุณ ? [รีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4 : นางเอก

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 64


    @Aftermoon Cafe

     

    โกโก้เย็นที่สั่งมาสักพักใหญ่ ๆ แห้งเหือดจนเหลือแต่น้ำแข็ง ไม่สิ...น้ำแข็งก็ละลายแล้วด้วย แต่คนที่ฉันเฝ้ารอก็ยังมาไม่ถึง

     

    13:45 น.

     

    กดมองเวลาในโทรศัพท์แล้วอดถอนหายใจไม่ได้ เลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงนึงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่ซีเนียร์จะโผล่มาสักที

     

    ย้อนกลับไปเมื่อวาน

     

    ฉันทักไลน์ซีเนียร์ไปว่ามาเล่นหนังให้ฉันได้มั้ย เขาก็บอกว่าพรุ่งนี้บ่าย ๆ มาเจอกันแล้วค่อยคุย นัดฉันบ่ายจนจะบ่ายสองอยู่แล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงา!

     

    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

     

    เสียงกระดิ่งทางเข้าตรงประตูส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งขึ้น ฉันเงยหน้าจากโทรศัพท์ ก่อนจะเห็นคนที่ฉันเฝ้ารอกำลังเดินเข้ามาด้วยสภาพที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อและมองซ้ายมองขวา ซึ่งก็คงจะมองหาฉัน ฉันเลยยกมือขึ้นแล้วเรียกเขาด้วยเสียงไม่ดังไม่เบานัก

     

    "ซีเนียร์!"

     

    ซีเนียร์หันมามองทางฉันก่อนส่งส่งยิ้มแล้วเดินตรงมา

     

    "รอนานป้ะ อาจารย์ปล่อยเลทอะ แต่ผมก็รีบบิดมาเลยนะ"

     

    เขาเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม แล้วยกมือสะบัด ๆ เสื้อ ขับมอเตอร์ไซค์ตอนเที่ยง ๆ บ่าย ๆ ในเดือนเมษา ก็สมควรหรอกที่เหงื่อจะท่วมตัวแบบนี้

     

    ฉันหยิบทิชชู่มาซับเหงื่อตรงกรอบหน้าเขาให้ แล้วยกมือเรียกพนักงานให้เสิร์ฟเครื่องดื่มที่สั่งเอาไว้ให้ซีเนียร์

     

    "กีวี่ปั่นได้แล้วค่ะ"

     

    "ของผมเหรอ ขอบคุณครับ"

     

    เขาชอบกินกีวี่ เป็นอย่างนี้ไม่เคยเปลี่ยน ไปที่ไหนก็สั่งแต่เครื่องดื่มเดิม ๆ ได้เห็นเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูดกีวี่ปั่นไปกว่าครึ่งแก้วก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย นึกว่าตั้งแต่เรื่องวันนั้นจะทำให้คุยกันยากกว่าเดิมซะอีก

     

    "หิวป้ะ กินไรยัง?"

     

    "ยังเลย คุณกินยัง?"

     

    "ยังอะ ก็รอคุณมากินพร้อมกัน เดี๋ยวขอเมนูเขามาสั่งข้าวละกัน"

     

    พนักงานหยิบเมนูมาให้ ฉันให้เขาเลือกก่อน เพราะฉันมีเมนูในใจอยู่แล้ว เขาเปิดไปเปิดมาหน้าหน้าก่อนจะปิดเมนูลง

     

    "ผมเอากะเพราหมูกรอบไข่ดาว คุณจะกินไร"

     

    "เราเอากะเพราทะเลไข่ดาว"

     

    ฉันแอบขำในใจนิดหน่อย เลือกไปเลือกมาก็จบลงที่เมนูเดิม...กะเพราหมูกรอบ

     

    "เอาตามนั้นเลยครับ แล้วก็...ขอน้ำเปล่าด้วยขวดนึง"

     

    เขาหันไปบอกพนักงาน แล้วก็หันกลับมาจ้องหน้าฉันนิ่ง ๆ

     

    "ไม่ได้เจอกันตั้งนาน"

     

    อยู่ ๆ ก็เปิดประเด็นอะไรเนี่ย...

     

    "ก็ประมาณ...สี่เดือนได้มั้ง"

     

    "อื้ม สี่เดือนกว่า ๆ ไอนิวก็หายหัวเหมือนกัน"

     

    "ช่วงนี้ปั่นโปรเจกต์กันหนักอะ ควิซเยอะ ปฏิบัติเยอะมาก แทบไม่มีเวลาเลยอะดิ"

     

    "ผมก็พอกันเลย จะจบเทอมแล้วอาจารย์ยิ่งสั่งงาน"

     

    เราคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ เรื่องเมาท์เรื่องบ่นเยอะแยะไปหมด ส่วนมากเป็นฉันที่บ่นอาจารย์กับไอนิวตันให้ซีเนียร์ฟัง เขาก็เป็นผู้ฟังที่ดีคอยถามคอยแหย่ให้ได้มีเสียงหัวเราะในบทสนทนา

     

    "กะเพราหมูกรอบไข่ดาว กะเพราทะเลไข่ดาวได้แล้วค่ะ"

     

    เมื่ออาหารมาเสิร์ฟก็เบรกการเมาท์เอาไว้กอน ซีเนียร์ดึงจานไปหาตัวเองทั้งสองจานก่อนจะตัดไข่แดงออกมาไว้จานตัวเองทั้งสองฟอง แล้วเอาไข่ขาวมาให้ฉัน

     

    เขาน่ารักแบบนี้เสมอ...เวลาที่สั่งไข่ดาวเขาก็จะเป็นคนกินไข่แดงให้ฉันเพราะรู้ว่าฉันไม่ชอบ

     

    "อะ...เสร็จละ"

     

    "ขอบคุณนะ" ฉันอมยิ้มขอบคุณเขา ก่อนจะตักไข่ขาวเข้าปากแบบมีความสุข แฮปปี้จัง มีเพื่อนหล่อไม่พอ บริการทุกระดับประทับใจอีก

     

    "เออ แล้วหนังที่คุณจะให้ผมเล่นอะ หนังอะไรเหรอ"

     

    "เป็นโปรเจกต์ของวิชาปี 4 อะ เราเพิ่งจบคลาสเขียนบทไป อาจารย์เลยให้เอาบทมาต่อยอดวิชาต่อไปที่อาจารย์จะสอนเทอมหน้าเลย"

     

    "อ๋อ งั้นก็ยังไม่ได้ถ่ายเร็วๆ นี้ใช่มะ"

     

    "ใช่ คงประมาณอีก 4-5 เดือนอะถึงเริ่มถ่าย แต่ว่าถ้าคุณโอเคก็ต้องมาซ้อมการแสดงนิด ๆ หน่อย ๆ ก่อนนะ เวลาถ่ายจริงจะได้ไม่เสียเวลามาก"

     

    "ผมไม่มีปัญหานะ มาช่วยได้ ถ้าจะซ้อมก็ขอไม่ตรงวันที่ผมมีเรียนพอ"

     

    ฉันยิ้มดีใจที่เขาตกลงมาช่วยง่ายกว่าที่คิด นึกว่าจะต้องหว่านล้อมมากกว่านี้ซะอีก เราคุยเล่นกันอีกนิดหน่อย กินข้าวเสร็จเขาก็พาฉันมาส่งบ้าน

     

    .

     

    .

     

    .

     

    "จะให้มาซ้อมอะไรวันไหนก็ทักมาละกันนะ"

     

    เขาบอกก่อนจะเอื้อมมือมาช่วยปลดล็อคหมวกกันน็อคที่ปลดยากเย็นเหลือเกินให้ฉัน

     

    "อืม...น่าจะยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้อะ เราต้องเตรียมอะไรอีกหลายอย่างเลย แล้วช่วงนี้ใกล้สอบไฟนอลอีก"

     

    "เหมือนกัน เทอมนี้มีแต่วิชายาก ๆ" เขามุ่ยหน้าเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเรื่องการสอบ

     

    "ตั้งใจอ่านหนังสือนะคะ คุณว่าที่พระเอก กลับบ้านดี ๆ นะ…ถึงแล้วบอกด้วยก็ดี" ประโยคหลังพูดด้วยเสียงที่เบาเหมือนกระซิบ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินมั้ย

     

    "รับทราบครับคุณผู้กำกับ" ซีเนียร์โบกมือแล้วยิ้มกว้างมาให้ฉัน ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซค์ออกไป

     

    ฉันจ้องมองแผ่นหลังของซีเนียร์ที่ไกลออกไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเอามือมาแตะที่บริเวณหัวใจ

     

    ตุบ ๆๆๆๆๆ

     

    แย่แล้วสิ แบบนี้ไม่ดีเลย

     

    หัวใจ...มันเต้นแรงเกินไป

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ไลน์! ไลน์!

     

    เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าทำให้ฉันที่กำลังจะอาบน้ำต้องเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลนักมาดู

     

    - Senior : ถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วครับ

     

    - Senior : send the picture 

     

    อ่า…

     

    ได้ยินสินะ

     

    .

     

    .

     

    .

     

    @มหาวิทยาลัย B

     

    “อยากให้นักศึกษาคณะเราแสดงเป็นตัวเอกเหรอคะ?”

     

    “ตัวผมน่ะไม่อยากหรอก...แต่ผู้ใหญ่เขาสั่งผมมาอีกที อุตส่าห์ปล่อยงบมาตั้งเยอะ ผมก็ไม่อยากจะขัดใจ”

     

    ฉันที่โดนอาจารย์โจอี้เรียกมาถามความคืบหน้าของการเตรียมการถ่ายทำ พร้อมกับแจ้งว่าต้องการเปลี่ยนจากนักแสดงคนนอก ให้เป็นนักศึกษาแสดงเอง

     

    “ทั้งพระเอกนางเอกเลยเหรอคะอาจารย์?”

     

    อุตส่าห์ไปดีลให้ซีเนียร์มาเล่นได้แล้ว ฉันไม่อยากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เพราะเขาก็ตรงกับคาแรคเตอร์ที่ฉันวางไว้ด้วย

     

    “ไม่จำเป็นนะ แค่คนเดียวก็ได้ คุณยังหานางเอกไม่ได้หนิ ให้สักคนในกลุ่มเป็นละกัน”

     

    “โอเคค่ะอาจารย์ ถ้างั้นเดี๋ยวหนูขอตัวก่อนนะคะ คงต้องเรียกประชุมกลุ่ม”

     

    “คุณไปเถอะ เดี๋ยวผมมีประชุมกับพวกตาแก่ในคณะเหมือนกัน”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    @Canteen คณะนิเทศศาสตร์

     

    “เอาไงดี คิดว่าใครควรจะแสดง?” ฉันถามคนในกลุ่ม ซึ่งจริง ๆ แล้วทางเลือกก็ไม่ได้มีมากมายอะไร ไม่ยี่หวาก็ใบหม่อน

     

    “มึงเล่นป้ะเม ง่ายสุด เขียนเองเล่นเอง ถึงอารมณ์บทแน่นอน” นิวตันหันมาถามฉัน ฉันเลยหันไปตอบทันทีแบบแทบไม่ต้องคิด

     

    “ไม่ กูให้เลือกระหว่างใบหม่อนกับยี่หวา งานกูท่วมหัวมากยังจะให้กูไปแสดงอีกเหรอ”

     

    “ตอนแรกบทนี้เมวางไว้ให้ยี่หวาเล่น งั้นยี่หวาเล่นให้ก็ได้นะ” ยี่หวาเสนอตัวเองขึ้นมากลางวง

     

    อืม จริง ๆ ยี่หวาก็แสดงประจำอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

     

    “แต่หวาต้องเมคอัพเองนะ เราไม่มีปัญญาไปแต่งหน้าให้หวาหรอก กลัวจากหน้าสวย ๆ จะเละเพราะเรา” ฉันบอกยี่หวาไว้ก่อน เพราะคราวนี้คนเราน้อยมาก ทุกคนต้องได้รับหน้าที่ไปคนละสองสามหน้าที่เป็นอย่างต่ำอยู่แล้ว

     

    “หวาว่าจ้างช่างมั้ย งบเราก็มีอยู่นะ”

     

    “โลเคชั่นที่ถ่ายมี 7 ที่ ออกต่างจังหวัดอาจต้องค้างคืนด้วย แล้วเราจะจ้างผู้ช่วยกล้องเพิ่ม คงต้องเซฟงบหน่อย อีกอย่างบทของหวาคือไม่ต้องแต่งหน้าเลยก็ได้นะ หวาได้อ่านบทดูหรือยัง”

     

    “งั้นแล้วแต่เมเลย ยังไงเมก็เป็นหัวหน้ากลุ่ม”

     

    เสียงยี่หวาติดจะประชดนิด ๆ แต่ฉันไม่สนหรอกนะ ถ้าต้องจ้างช่างเพื่อมาแค่ทาแป้งซับเหงื่อในกองฉันว่าฉันทำเองได้ว่ะ

     

    “เอาเป็นตามนี้ละกัน นักแสดงหลักก็ครบแล้ว เอ็กซ์ตร้าเราก็จ้างน้องในคณะนี่แหละมาเล่น เหลือแต่ไปดูโลกับรอนัดไอซีมาเวิร์กช็อปแค่นั้นเนอะ”

     

    “อืม กูกับไอเบสท์ก็ทำสตอรี่บอร์ดเสร็จแล้ว รับรองงานละเอียด”

     

    “โอเค งั้น...แยกย้ายเพื่อน เตรียมตัวสอบไฟนอลพรุ่งนี้กันดีกว่า”

     

    ฉันเก็บของยัด ๆ ใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่ของตัวเอง ก่อนจะเดินไปหาไอนิวตัน แล้วมันก็วาดแขนพาดคอฉันพร้อมกับทิ้งน้ำหนักมาเต็มที่

     

    “เอ่อ...นิวรีบไปไหนต่อมั้ย?” ยี่หวาเรียกนิวตันและนั่นทำให้ฉันต้องหยุดชะงักลงด้วยเพราะไอนิวตันมันกอดคอฉันอยู่

     

    “ก็ว่าจะกลับไปอ่านชีทอะ หวามีไรเหรอ?”

     

    “หวาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องฌอง (Genre) กับมุมกล้องเท่าไหร่อะ นิวพอจะช่วยหวาติวได้มั้ย?”

     

    หืม...

     

    ฉันหันไปมองหน้ายี่หวาสลับกับมองหน้าไอนิวตัน มันชักจะมีกลิ่นแปลก ๆ ยังไงอยู่นะ

     

    “นิวก็ให้เมติวให้เหมือนกันอะหวา นิวไม่ค่อยแม่นทฤษฎี ถ้ายังไงหวาเอาชีทที่เมสรุปไปอ่านมั้ยอะ มึง...ได้ใช่ป้ะ?” สองประโยคแรกเอ่ยกับยี่หวา ก่อนจะหันมาถามฉันในประโยคสุดท้าย

     

    ไอโง่นี่...เสนอขนาดนั้นถ้าฉันบอกไม่ให้ก็คงจะเป็นนางมารเลยอะดิ

     

    “ไม่ได้ว่ะ กูให้แค่มึงอ่าน ชีทนี่กูอดหลับอดนอนสรุปมาสองวันเต็มเลยนะ”

     

    แต่ฉันก็เป็นนางมารจริง ๆ นั่นแหละ…

     

    “เออว่ะ ตาเป็นแพนด้าละเนี่ย ไป ๆ เดี๋ยวกูเลี้ยงของหวานมึงเอง อุตส่าห์อดหลับอดนอนสรุปชีทให้กู โทษทีนะหวา...ไอเมมันขี้งกอะ ลองถามไอเบสท์ดูนะ มันน่าจะช่วยได้”

     

    พูดจบไอนิวตันก็ไม่รอให้ยี่หวาตอบอะไรแล้วก็ลากคอฉันออกมาเลย

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “กูว่ายี่หวาชอบมึง”

     

    พอขึ้นรถปุ๊บฉันก็เปิดประเด็นทันที ฉันว่าฉันสังเกตมานานละ ยี่หวาดูจะใส่ใจไอนิวตันเป็นพิเศษ

     

    “อือ กูก็ว่างั้นอะ”

     

    “ไม่ถ่อมตัวหน่อยเหรอวะ?”

     

    ถามไอคนที่มั่นหน้ามั่นโหนกในตัวเองมากซะเหลือเกิน ยี่หวาก็จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนนึง ดูเรียบร้อยดูคุณหนูอะ ไม่น่ามาหลงผิดชอบคนอย่างไอนิวตันได้

     

    “คนเราอะ มันจะมีเซนส์สัมผัสได้ว่าคนไหนชอบเราอยู่ แล้วกูอะ เซนส์แรงมากกกกก”

     

    “ไม่นะ กูว่ามึงแค่หลงตัวเอง” อดจะแขวะมันไม่ได้จริง ๆ

     

    “กูมีดีให้หลงอะนะ เออ...แต่นี่กูพูดจริง คนที่โดนชอบอะรู้ตัวทั้งนั้นแหละ อยู่ที่จะแสดงออกมายังไง กูก็กลาง ๆ กับยี่หวาอะ ยังต้องทำงานด้วยกันก็รักษาน้ำใจเขาหน่อย”

     

    “คนโดนชอบรู้ตัวหมดทุกคนเลยเหรอวะ กูไม่เห็นจะรู้เลย” ฉันได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกหวั่น ๆ แล้วถ้าเป็นแค่อาการหวั่นไหวอะ เขาจะรู้สึกป้ะวะ??

     

    “คนที่ไม่รู้ตัวว่าใครชอบมันจะมีอยู่ 2 กรณี”

     

    “อะไรบ้าง?”

     

    “หนึ่งคือพวกความรู้สึกช้ามาก ๆ แบบโตในทุ่งลาเวนเดอร์ คิดว่าที่เขาทำดีด้วยคือเฟรนด์ลี่ปรารถนาดีกับทุกคน”

     

    “แล้วสองอะ”

     

    “คนไม่มีใครเอาอย่างมึงไง!”

     

    ผั๊วะ!

     

    “โอ้ย!!!!”

     

    ฉันไม่ควรจะไปหวังอะไรกับคนอย่างไอนิวตันเลยจริง ๆ!นิวตันไปเต็ม ๆ ตอนเลยจ้ะ ต้องเข้าใจหน่อยนะว่าอีกคนค่าตัวเขาแพงมาก ตอนนี้อาจจะโผล่มาได้แค่ชื่อ แต่เดี๋ยวตอนหน้ารับรองว่ามาแน่นอนนนนน

     

    zixmahalf

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×